พ่อครัวจางรีบเร่งฝีเท้าไปที่บ้านใหญ่ เขารีบเข้าไปเตรียมอาหารในห้องครัว เพราะวันนี้คุณชายใหญ่กลับมาแล้วพ่อครัวจางจึงอารมณ์ดีมีรอยยิ้มประดับหน้าอยู่เสมอ สาวใช้ที่ทำหน้าที่ดูเสิ่นซื่อมาเอาน้ำอุ่นในห้องครัวก็เห็นพ่อครัวจางทำอาหารไปยิ้มไป ที่สำคัญวันนี้เขายังทำอาหารมากกว่าทุกวันอีกด้วย “พ่อครัวจาง เหตุ
“ขอรับ”หยางเสี้ยวรีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปกินมื้อเช้าที่พ่อครัวหวังเตรียมเอาไว้ให้ หลังจากกินอิ่มแล้ว หยางเสี้ยวช่วยหยางเทียนต้อนม้าทั้ง 50 ตัวไปที่ทุ่งเลี้ยงม้าที่หยางเทียนได้ทำเอาไว้รอตามที่ได้คุยกับหยางเสี้ยวเอาไว้ก่อนเด็กชายจะออกเดินทาง“ม้าพวกนี้ล้วนเป็นม้าศึกทั้งนั้นขอรับท่านพ่อ พวกเราเพีย
หยางเชวียนบังคับเกวียนลากลับมาถึงหมู่บ้าน หลังจากเอาเกวียนลาไปเก็บเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบกลับมาที่แปลงสมุนไพรทันที หยางเสี้ยวแบ่งเงินออกเป็น 7 ส่วนเท่า ๆ กัน แต่ละคนได้ไปคนละ 800 ตำลึง หยวนเป่าถึงกับยิ้มกว้าง รีบหยิบจอบไปพลิกหน้าดินต่อทันที เหวินข่ายเก็บเงิน 800 ตำลึงเอาไว้ในอกเสื้อเรียบร้อยแล้วก็รี
“พวกข้าว่าท่านคิดมากเกินไปแล้ว ต่างคนต่างอยู่ไปเถอะ ตอนนี้ตระกูลหยางอยู่ในมือท่าน อย่าทำมันพังก็พอ ส่วนลูกหลานสายหลักนั้น ข้ามั่นใจว่าพวกเขาไม่สนใจตระกูลหยางและไม่ได้รับรู้ว่ายังมีตระกูลของบรรพบุรุษอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ” ผู้อาวุโสสี่ “นี่พวกท่านคัดค้านรึ หรือว่าพวกท่านคิดคดทรยศต่อข้า”“ข้าว่าท่านผู้นำต
เรื่องอาหารทะเลยังวนเวียนอยู่ในหัวของหยางเสี้ยว อีกอย่างเด็กชายต้องการไปที่เมืองไห่เหอ เพราะอยากจะรู้ว่าทะเลที่เมืองไห่เหอเป็นแบบไหน มีที่ทางเหมาะให้ทำนาเกลือหรือไม่ ที่แคว้นต้าโจวมีทะเล แต่กลับต้องซื้อเกลือจากต่างแคว้น มันช่างเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองมาก ถ้าหากสามารถทำนาเกลือได้ ประชาชนจะมีงานทำเพิ่ม
“เช่นนั้นก็เหลือแค่หยวนเป่าแล้วล่ะ ส่วนอาชิงกับอาเชวียน ท่านลุงเจ้าไม่ขัดข้องแน่นอน”“ขอรับท่านพ่อ ข้าอยากไปลองดูเสียหน่อยว่าจะสามารถทำเกลือมาใช้เองได้หรือไม่”“นี่ลูกพูดจริงหรือ ลูกรู้วิธีทำเกลือได้เยี่ยงไร"“ลูกยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ แต่ขอลองดูก่อนขอรับ เหมือนเคยเห็นในหนังสือบันทึกการเดินทางสักเล่มเข
เช้าวันต่อมาหยางเสี้ยวออกเดินทางไปอ้ายโจว เพื่อไปหาตู้ป๋อ ไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่านลุงบุญธรรมหรือไม่ โดยปกติแล้วท่านลุงจะนำเงินค่าเช่าร้านมาให้เองถือโอกาสมาเยี่ยมน้องสาวกับหลาน ๆ ด้วย แต่ระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมานี้เขากลับไม่ได้ไปด้วยตัวเอง กลับให้คนอื่นไปแทน เสิ่นซื่อเองไม่วางใจกลัวว่าจะเกิดเรื่อ
“ท่านลุง ข้าว่าท่านต้องไปเชิญพระที่วัดมาหรือไม่ก็ไปเชิญนักพรตมาแล้วล่ะขอรับ”“เชิญมาทำไมรึอาเสี้ยว”“ก็บ้านท่าน ขนาดกลางวันแสก ๆ ยังมีผีเปรตออกมากรีดร้องเสียขนาดนี้ ท่านยังจะอยู่ไหวอีกหรือขอรับ แบบนี้ต้องให้นักพรตมาปัดเป่าแล้วขอรับ เผื่อว่าอะไร ๆ มันจะดีขึ้น จะได้เลิกถูกรังควานเสียที คนในบ้านเองก็จะ
“อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ
หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค
“พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย
เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด
“ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ
หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ
“พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า
ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี