หยางเสี้ยวเดินตามพี่น้องบ้านหลิวมาจนถึงบ้านของพวกเขา จนแล้วจนรอดสหายสองคนที่ไปด้วยกันนั้นที่ไม่ส่งเสียงพูดจาตั้งแต่ในป่าจนกลับมาบ้าน หยางเสี้ยวคิดว่าพวกเขาสองคนเป็นใบ้ ที่ไหนได้ ทั้งสองคนตกใจจนพูดไม่ออกเลยต่างหาก หลังจากที่เห็นหยางเสี้ยวตบหมูตายด้วยฝ่ามือเดียวเล่นเอาทั้งสองคนตกใจจนแน่นิ่งไปเลย “เจ้
“ลุกขึ้นมากินบะหมี่ก่อนค่อยนอน ข้ากลัวเจ้าจะหิวหรอกนะ เอ้า รีบ ๆ กินเข้า""ขอบคุณท่านลุงขอรับ” หยางเสี้ยวยกชามบะหมี่มาจากหลิวซาน จากนั้นก็รีบยกบะหมี่ขึ้นซด ใช้เวลาเพียงไม่นานบะหมี่ชามใหญ่ก็ลงไปอยู่ในท้องของเขาทันที หยางเสี้ยวส่งชามคืนให้หลิวซานจากนั้นก็ล้มตัวลงนอนอีก บอกว่ามื้อเย็นไม่ต้องเรียกเพราะเ
วันนี้หยางเสี้ยวจะออกเดินทางต่อ ตอนแรกหลิวเอ้อร์ก็ยังเป็นห่วงอยู่มากเพราะเด็กชายออกเดินทางเพียงลำพังเช่นนี้ แต่พอเห็นหยางเสี้ยวโบกมีทีเดียวหมูป่าตายคาที่เขาก็ไม่นึกห่วงอีก แต่กลับเป็นห่วงคนที่มีเรื่องบาดหมางกับเด็กชายเสียมากกว่าก่อนออกจากหมู่บ้าน หยางเสี้ยวได้บอกถึงวิธีนำเผือกไปทำอาหาร การปลูกเผือก
“มีใครอยู่หรือไม่ขอรับ ผู้ใหญ่บ้านอยู่หรือไม่ขอรับ”“อยู่ ๆ ผู้ใดกันมาเอะอะโวยวายเรื่องอันใด หือ เจ้าหนู เจ้ามาหาข้าด้วยเรื่องอันใดรึ เจ้าไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้นี่”“ข้าก็ผ่านทางมาน่ะสิ ก็เลยมาขอพักค้างคืนขอรับ”“เช่นนั้นเจ้าก็พาม้าของเจ้าเข้ามาก่อน”“ขอบคุณมากขอรับ”“ยายเฒ่าเอ้ย บอกลูกสะใภ้หาน้ำมาให
หยางเสี้ยวหิ้วถุงผ้าเข้าไปในห้องครัว โดยมีผู้ใหญ่บ้านหลี่ฉวนตามไปติด ๆ เขาเองก็อยากจะรู้ว่าแมลงน้ำเปลือกแข็งที่เจ้าหนูนี่เรียกว่ากุ้ง หากนำมาทำอาหารแล้วจะหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร จะกินได้และอร่อยเหมือนอย่างที่เด็กคนนี้ว่ามาจริงหรือไม่“ลูกสะใภ้ เจ้าให้เตาเจ้าหนูนี่ทำอาหาร 1 เตา ที่เหลือก็ช่วยเหลือเขาถ
“ข้าชื่อหยางเสี้ยว อายุเท่ากันกับเจ้า ข้าเพียงแค่เดินทางผ่านมาเลยมาขออาศัยพักอยู่บ้านของเจ้าสักสองสามวัน”“เช่นนั้นรึ ดีเลย แล้วเจ้ามาคนเดียวรึ เหตุใดท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าถึงได้ยอมกัน ทีข้านะแค่จะเข้าไปในป่าท่านพ่อกับท่านแม่ยังไม่ยอมเลย อ๊า ข้าอิจฉาเจ้ามากเลย” หลี่ผิงมองหยางเสี้ยวด้วยสายตาอิจฉา“เจ้
หลังจากมื้ออาหารเช้าแสนอร่อย เด็ก ๆ บ้านหลี่ไม่เคยคิดเลยว่ากุ้งจะอร่อยขนาดนี้ ที่สำคัญไม่รู้ว่าหยางเสี้ยวจับปลามาด้วยวิธีใด ปลาทั้งตัวใหญ่เนื้อหวานนุ่มอร่อยมาก ถ้าไม่กลัวว่าอิ่มจนท้องจะแตกพวกเขายังอยากจะกินอีกหลี่เซิ่งเตรียมของใส่ตะกร้าสะพายหลัง หลี่เชี่ยนเรียกให้น้องชายทั้งสองไปเตรียมของเช่นเดียวก
“ฟ่อ ใช่แล้ว ป่าชั้นกลางความจริงแล้วมันคือป่าแห่งความเกียจคร้าน สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในป่าชั้นนี้ นอกจากนอนแล้วก็ไม่อยากทำอันใดอีก พวกมันออกมาหากินในเวลาสั้น ๆ จากนั้นก็กลับไปนอน ข้าเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้” เฮยเช่อ“แบบนี้ก็ได้ด้วยรึ ดี นอนกันไปเลยอย่าให้ข้าหารังของพวกมันเจอนะ จะจับไปยก
“อืม เด็กต้องได้รับการอบรมเลี้ยงดู เราเข้าใจ เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถอะ ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”หลังจากลับมาจากจวนจ้านหยางอ๋อง เจ้ากรมพิธีการก็จัดการขายสาวใช้ที่ยุแยงและคอยให้ท้ายบุตรสาวของเขา ออกไปจนหมด นอกจากนี้แล้วยังตำหนิฮูหยินเอกที่ไม่อบรมบุตรสาวให้ดี ฮูหยินเองก็ไ
หลังจากหยางอันทิ้งระเบิดเอาไว้ก่อนหันหลังจากไป สองนายบ่าวกลับจวนไปด้วยความหวานหวั่นในใจ หวาดกลัวว่าหยางอันจะพาจ้านหยางอ๋องบุกมาที่จวน ตอนนี้คุณหนูห้าผู้ที่เคยหยิ่งผยองกลับร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว สาวใช้ที่ติดตามข้างกายเช่นอิ๋งชุนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่ ทั้งคู่ต่างโทษกันไปมาสุดท้ายแล้วจึงไปขอค
“พี่เจวี๋ยพวกเราไม่ผิด เหตุใดต้องยอมด้วย เจ้ากรมพิธีการแล้ว อย่างไร หน้าใหญ่มากหรือเจ้าคะ พระสนมเอกแล้วอย่างไร ทำอันใดได้เจ้าคะ ผิดคือผิด ถูกคือถูก จะมาเห็นผิดเป็นถูกกลับขาวเป็นดำแบบนี้หรือเจ้าคะ บอกเลยต่อให้สิบเจ้ากรมพิธีการข้าก็ไม่กลัว หึ” หยางอันสะบัดหน้าหยางอันไม่ยอมเดินกลับไปตามที่เมิ่งเจวี๋ย
เมิ่งเจวี๋ยพาหยางอันเดินออกจากโรงเตี๊ยมมุ่งหน้าไปยังพ่อค้าขายถังหูลู่ ทั้งสองคนเพียงแค่อยากรู้ว่ารสชาติของถังหูลู่ที่เมืองหลวงกับรสชาติที่บ้านเกิดของพวกเขาถังหูลู่ที่ไหนจะอร่อยกว่ากันเท่านั้น นอกจากนี้การนั่งอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆไม่ใช่สิ่งที่หยางอันชอบ “พี่เจวี๋ยท่านดูสิถังหูลู่ของเมืองหลวงมีขนาด
“ท่านอ๋องข้าน้อยมีตาหาแววไม่ ขอท่านอ๋องอภัยด้วยพะย่ะค่ะ”“ลุกขึ้นเถอะเจ้าจะทำให้เรื่องใหญ่โตไปทำไม ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีก็พอ”“ขอบพระทัยท่านอ๋องพะย่ะค่ะ ”“ขอบใจเช่นนั้นเราขอตัวก่อน”รถม้าของหยางเสี้ยวเคลื่นที่เข้าไปในเมืองและวิ่งออกไปจนลับสายตา ทหารรักษาประตูเมืองถอนหายใจด้วยความโล่งอก อ๋องทมิฬแม้จ
หลังจากหยางเสี้ยวฝึกจนสำเร็จแล้ว ก่อนที่เขาจะขึ้นไปเที่ยวเล่นที่แดนเทพ จำเป็นต้องสะสางงานก่อน ในระหว่างที่เขาเก็บตัวฝึกเป็นท่านพ่อหยางเทียนกับท่านลุงหยางเทาคอยรับรายงานเรื่องราวต่างๆและคอยแก้ปัญหาเล็กๆน้อยๆแทนเขาอยู่เสมอ โชคดีที่เจ้าเมืองทั้ง 7 หัวเมืองเป็นคนใจซื่อมือสะอาด อีกทั้งยังได้ท่านลุงตู้ป๋อ
“พวกเจ้ามาหาผู้ใดเช่นนั้นรึ”“ท่านพ่อ ข้าเองขอรับ หยางเสี้ยว”“อาเสี้ยวหรือ ใช่อาเสี้ยวจริง ๆ ด้วย เจ้าโตขึ้นมากจนพ่อจำไม่ได้ สามปีแล้วที่เจ้าไม่ได้กลับมาบ้านเลย ตอนนี้ฝึกสำเร็จแล้วหรือไม่ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน สหายของลูกหรือ”“นั่นลวี่เช่อ เฮยเช่อ ปักษา ต้าไป๋ โหวจื่อ ไป๋หู่ เต่าดำ หลันเช่อ ฉีหลิน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หยางเสี้ยวเก็บตัวฝึกอยู่สามปี ในที่สุดก็เลื่อนขั้นมาจนถึงขั้นมหายานได้สำเร็จ ตอนนี้เขาสามารถเดินทางขึ้นไปแดนเทพได้แล้ว อีกทั้งสามารถเปิดใช้งานค่ายกลทางขึ้นลงแดนเทพกับตำหนักหมอกทมิฬได้เช่นเดียวกัน จากเด็กน้อยเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนุ่มน้อยวัย 14 ย่าง 15 ปี หน้า
ลมหนาวสายหนึ่งพัดมา หยางเสี้ยวรู้สึกว่าวันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วยิ่งนัก เขามาอยู่ที่นี่ได้เกือบสามปีแล้ว พอผ่านปีใหม่ครั้งนี้เขาก็จะมีอายุ 11 ปี ในโลกนี้ เวลาเกือบสามปีตระกูลหยางมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้น ตัวเขาเองก็มีภาระแสนหนักอึ้งบนบ่า แต่ตอนนี้ถือว่าทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดีแล้ว ตระกูลหยางจะมี