หน้าหลัก / โรแมนติก / หนี้รักราชันสีเลือด / บทที่ 34 : แผนร้ายสนมเสิ่น

แชร์

บทที่ 34 : แผนร้ายสนมเสิ่น

ผู้เขียน: Luffy.g
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 00:53:53

บทที่ 34 : แผนร้ายสนมเสิ่น

ชิงอี้หรานเฝ้ารอคอยข่าวคราวจากหลีซานเกี่ยวกับครอบครัวของตนอย่างร้อนรน ในใจของนางเต็มไปด้วยความกังวลและความหวังที่ยังไม่รู้จะเป็นจริงหรือไม่ วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ความหวังที่หลีซานจะนำข่าวดีมาให้นั้นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้นางยังคงมีแรงสู้ต่อไป

จู่ ๆ ขันทีตำหนักสนมเสิ่นก็เข้ามา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุภาพและเคารพ “ฮองเฮา สนมเสิ่นเชิญพระองค์ไปชิมน้ำชาที่ได้รับพระราชทานมาใหม่พ่ะย่ะค่ะ”

หญิงสาวปรายตามองเล็กน้อย ความรู้สึกในใจนางเต็มไปด้วยความแปลกใจระคนไม่พอใจ แต่สุดท้ายนางก็พยักหน้าเพียงเบา ๆ

หลังจากขันทีจากไปแล้ว ซิวเอ๋อเข้ามาพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย “ฮองเฮาเพคะ สนมเสิ่นไว้ใจไม่ได้ พระองค์อย่าไปเลยเพคะ”

แต่ชิงอี้หรานหาได้สนใจไม่ นางอยากรู้ว่าสนมเสิ่นมีจุดประสงค์อะไร นางจึงกล่าว “ข้าจะไปดูสักหน่อยว่านางต้องการอะไรกันแน่” ว่าแล้วก็ให้ซิวเอ๋อแต่งตัวให้นางและเดินไปตำหนักสนมเสิ่น

ตำหนักของเสิ่นเซียวเหยาได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยพรรณไม้และดอกไม้หลากสีสัน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ในอากาศ เสิ่นเซียวเหยากำลังนั่งรอนางอยู่ในห้องรับแขก ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 35 : เจ้าควรรู้ไว้ว่าผู้ใดที่เจ้าไม่อาจล่วงเกิน

    บทที่ 35 : เจ้าควรรู้ไว้ว่าผู้ใดที่เจ้าไม่อาจล่วงเกินการเจ็บป่วยเจียนตายของชิงอี้หรานทำให้หนิงซีโย่วร้อนใจเป็นอันมาก หลังจากชายหนุ่มเห็นนางยังคงหลับสนิท เขาก็เร่งเท้าไปยังตำหนักสนมเสิ่น เมื่อไปถึงก็ขับไล่ทุกคนออกจากห้องบรรทม พระสนมเห็นฮ่องเต้ก็ทำท่าทางป่วยกระเสาะกระแสะ ท่าทางออดอ้อนเพื่อให้ชายหนุ่มเห็นใจ"ฝ่าบาท ฮองเฮามิได้ตั้งใจทำร้ายหม่อมฉัน เป็นหม่อมฉันที่ผิดเองที่ไม่ระมัดระวังตัวเพคะ" พระสนมกล่าวเสียงอ่อนโยน พร้อมแสร้งทำท่าทางเจ็บป่วย แม้นางจะพยายามพูดจาอ้อนวอนว่าไม่ใช่ความผิดของชิงอี้หราน หากแต่ในใจกลับสุมไฟริษยาต้องการให้แผนการนี้ทำให้ฮ่องเต้มีโทสะและสั่งปลดนางจากตำแหน่ง เมื่อตำแหน่งฮองเฮาว่างลง ไฉนเลยตำแหน่งนี้จะไม่ตกเป็นของนางที่เป็นที่โปรดปรานที่สุดเวลานี้หนิงซีโย่วทอดตามองด้วยสายตาเรียบเฉย รอยยิ้มเหยียดแม้เพียงชั่วครู่ ไม่อาจหลุดพ้นสายตาชายหนุ่ม "ข้าไม่เคยเข้าใจอันใดผิด และข้าย่อมเชื่อมั่นในตัวฮองเฮา หากแต่เป็นเจ้าที่คิดหวังการใหญ่เกินตัวไป" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาเสิ่นเซียวเหยาถึงขั้นสะดุ้ง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตระหนก "ฝ่าบาท หม่อมฉัน...หม่อมฉันถูกใส่ร้าย ฝ่าบาทต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 36: ไม่มีอีกแล้ว ชิงอี้หรานคนเดิม

    บทที่ 36: ไม่มีอีกแล้ว ชิงอี้หรานคนเดิมชิงอี้หรานตื่นขึ้นมาในเวลาเช้า แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องบรรทม สายลมเย็นอ่อนพัดผ่านทำให้ม่านผ้าบางโบกสะบัดเบาๆ หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้น พลันนางรู้สึกถึงไออุ่นที่กอบกุมมือบางของตนไว้แน่นชิงอี้หรานหันหน้ามามองหนิงซีโย่ว ชายหนุ่มตรงหน้ากำลังนั่งฟุบหลับอยู่ข้างเตียงนาง ใบหน้าของเขาที่นางเคยรักปักดวงใจ คนที่นางเคยทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างเขา คนที่นางเคยเอ่ยวาจาว่าจะไม่มีวันเสียใจที่ได้รักเขา หนิงซีโย่วที่ยังคงนอนหลับตาพริ้ม ใบหน้าเคร่งขรึมของเขาดูอ่อนโยนลงยามหลับ มือใหญ่ยังคงกอบกุมมือบางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยชิงอี้หรานแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ พลางนึกขบขันตัวเองในความโง่เขลาที่มี นางเคยคิดมาเสมอว่าหนิงซีโย่วก็รักนางเช่นเดียวกับที่นางรัก แม้ภายหลังชายหนุ่มจะแปรเปลี่ยนไป แต่นางก็ยังคงเชื่อมันมาตลอดว่าความรักของนางจะสามารถทำให้หนิงซีโย่วกลับมารักตนเองอีกครั้ง แต่ความจริงแล้วทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้น ชิงอี้หรานหันกลับมามองเพดานเบื้องบน ดวงตาที่เคยหม่นแสงบัดนี้แปรเปลี่ยนไปเป็นความมาดมั่น ชิงอี้หรานคนเดิมได้ตายไปจากโลกนี้แล้ว ไม่มีหญิงสาว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 37 : สำนึกในรักที่มีให้เจ้า

    บทที่ 37 : สำนึกในรักที่มีให้เจ้าหลังจากเสร็จสิ้นราชกิจที่หนักอึ้ง หนิงซีโย่วไม่แม้จะหยุดพักผ่อน ชายหนุ่มรีบเร่งเดินตรงไปยังตำหนักฮองเฮา ภายในหัวใจเขาเต็มไปด้วยความเศร้าหมองและร้อนรน ท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปของชิงอี้หรานทำให้เขารู้สึกเจ็บแน่นในอก ชายหนุ่มรู้ดีว่าเขารักหญิงสาวมากมายยิ่งนัก ยิ่งเมื่อเขาเกือบต้องสูญเสียนางไปยิ่งทำให้หัวใจเขาเจ็บปวดแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาไม่อาจสูญเสียนางอันเป็นที่รักยิ่งไปได้ แต่เดิมที่ชายหนุ่มทำเย็นชาใส่นางและคอยหลบหน้านางเสมอก็เพราะเขากลัวเหลือเกินว่าตนเองจะใจอ่อนยอมละทิ้งความแค้นในใจเพื่อนาง ที่เขาโปรดปรานสนมเสิ่นก็เพราะยามเมื่อพบครั้งแรกสนมเสิ่นมีส่วนคล้ายชิงอี้หรานอยู่หลายส่วน ทั้งสนมเสิ่นก็เคยได้กล่าววาจาเช่นเดียวกับที่ชิงอี้หรานเคยกล่าวกับตนเอง ความคิดถึงที่ชายหนุ่มมีให้กับชิงอี้หรานจนแทบจะแผดเผาเขาให้ตายทั้งเป็น ทำให้เขาเห็นสนมเสิ่นเป็นเสมือนตัวแทนของนางไปในที่สุดเมื่อมาถึงตำหนักของฮองเฮา หนิงซีโย่วพบว่าตำหนักกลับเงียบสงบราวกับไม่มีชีวิตชีวา ชายหนุ่มก้าวเข้าไปข้างในห้องบรรทมของชิงอี้หราน ภายในห้องตกแต่งด้วยผ้าม่านสีขาวและแดง มีตะเกียงน้ำมันเล็ก ๆ ใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 38 : พบกันอีกครา

    บทที่ 38 : พบกันอีกครา บ่ายวันหนึ่งในสวนอุทยานอันเงียบสงบ ชิงอี้หรานเดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอก หญิงสาวนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาเย็นสบาย รอบข้างมีดอกไม้หลากสีสันส่งกลิ่นหอมอบอวล สายลมเย็นพัดผ่านใบไม้เสียงดังสวบสาบ เสียงนกน้อยร้องเพลงสร้างบรรยากาศให้รู้สึกผ่อนคลาย ซิวเอ๋อยังคงอยู่ข้างกายหญิงสาวไม่ห่าง นางคอยดูแลปรนนิบัติหญิงสาวด้วยความเอาใจใส่เป็นอันมาก “ฮองเฮาสวมเสื้อคลุมสักหน่อยเถิด อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว ร่างกายพระองค์เพิ่งจะหายดี” ซิวเอ๋อหยิบเสื้อคลุมสวมทับให้หญิงสาวอย่างแผ่วเบา “ฮองเฮา จิบชาเสียหน่อย ร่างกายจะได้อุ่นขึ้นเพคะ” ซิวเอ๋อยกกาน้ำชาค่อย ๆ รินให้หญิงสาวอย่างระวังชิงอี้หรานมองหน้าซิวเอ๋ออย่างนึกเอ็นดู นางช่างโชคดียิ่งนักที่มีสาวใช้ที่ดีเยี่ยมเช่นนี้อยู่ข้างกายชิงอี้หรานนั่งจิบชาอย่างใช้ความคิด ดวงตาคู่งามจ้องมองออกไปยังสระน้ำที่กว้างใหญ่ ความสงบเงียบนี้ช่วยให้นางรู้สึกปลอดโปร่ง หญิงสาวเริ่มคิดหาหนทางในการช่วยเหลือครอบครัวตนเองอย่างจริงจัง ทันใดนั้นชิงอี้หรานก็เห็นร่างของชายผู้หนึ่งกำลังเดินตรงมายังตน เป็นหลีซานนั่นเอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 39: ความรู้สึกที่ปะทุ

    บทที่ 39: ความรู้สึกที่ปะทุช่วงบ่ายคล้อยเข้ายามเย็น ชิงอี้หรานและหลีซานยังคงกำลังสนทนากันอย่างสนิทสนม เสียงหัวเราะและการพูดคุยอย่างเบิกบานใจทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย แต่ทันใดนั้น ซิวเอ๋อวิ่งเข้ามาอย่างกระหืดกระหอบ“ฮองเฮา ฝ่าบาทเสด็จเพคะ” ซิวเอ๋อรีบบอกทั้งสองด้วยสีหน้าเป็นกังวลหลีซานมีสีหน้าเคร่งเครียดในทันที ชายหนุ่มพลันลุกขึ้นยืนก่อนจะถอยหลังออกไปหลายต่อหลายก้าว ในขณะนั้นชิงอี้หรานกลับยังคงนั่งเฉย สีหน้ายังคงราบเรียบเช่นเดิมหนิงซีโย่วที่กำลังเดินมายังจุดที่ทั้งสองคนอยู่ เมื่อชายหนุ่มเห็นภาพด้านหน้า เขาเพ่งสายตามองคนทั้งสองอย่างระแวง ภาพหลีซานที่ดูลุกลี้ลุกลน ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด ความหึงหวงในใจของเขาปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและโมโหเมื่อเห็นชิงอี้หรานอยู่กับชายอื่น หนิงซีโย่วเดินเข้ามาขัดจังหวะด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด“หลีซาน” หนิงซีโย่วตะโกนออกมาพร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยโทสะ “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”หลีซานหันมามองหนิงซีโย่ว และคารวะอย่างนอบน้อม “คารวะฝ่าบาท หม่อมฉันเพียงบังเอิญพบฮองเฮา จึงได้อยู่สนทนาเพียงชั่วครู่พ่ะย่ะค่ะ” ชายหนุ่มพยายามสะกดกั้นความรู้สึก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 40 : เจ้ามิอาจมิต้องการข้า

    บทที่ 40 : เจ้ามิอาจมิต้องการข้า ในยามดึก ท้องฟ้าคลุ้มคลั่งด้วยเมฆหมอกไร้แสงจันทร์และดารา สายลมเย็นพัดผ่านหน้าต่างที่เปิดออกเล็กน้อย นำความเย็นมาสู่ตำหนักที่เงียบสงบ แสงเทียนที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับชิงอี้หราน หญิงสาวนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งกำลังใช้แปรงไม้แปรงผมยาวสลวยอย่างแผ่วเบา เส้นผมเงางามร่วงโรยผ่านไหล่ผอมบางของนางเส้นแล้วเส้นเล่า สายตาของชิงอี้หรานมองเงาที่สะท้อนในกระจก ใบหน้าที่เคยงดงามสดใสบัดนี้กลับดูซูบผอมและหม่นหมองลงไปหลายส่วนทันใดนั้นเสียงประตูเปิดออกเบา ๆ หนิงซีโย่วเดินเข้ามาภายในห้องด้วยท่าทีแจ่มใส รอยยิ้มแย้มปรากฏบนใบหน้าอย่างชื่นบาน ชายหนุ่มมองดูหญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความโหยหา หนิงซีโย่วไม่รอช้า เขาเดินตรงเข้าไปหานาง พลางสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง ไออุ่นจากร่างแกร่งของเขาส่งผ่านมาถึงร่างบางของหญิงสาว แต่ทว่ากลับมิได้ทำให้หัวใจอบอุ่นเช่นเคย ชิงอี้หรานรับรู้เพียงความรู้สึกเย็นเยียบในใจ"อี้หราน เจ้าคงหายดีแล้วใช่หรือไม่" หนิงซีโย่วกระซิบถามข้างหู พลางก้มหน้าซุกไซร้ไปตามลำคอของชิงอี้หรานอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 41 : ท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไป

    บทที่ 41 : ท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไป หลังเหตุการณ์ในสวนอุทยาน หลีซานก็ได้แต่กลัดกลุ้ม ด้วยตัวเขาไม่อาจพบชิงอี้หรานได้ เขาได้แต่รอฟังข่าวคราวของหญิงสาว ซิวเอ๋อแอบให้คนสนิทส่งข่าวมาให้ว่านางยังคงปลอดภัยดี หลีซานจึงค่อยวางใจในขณะเดียวกันนับตั้งแต่วันนั้นมา ชิงอี้หรานก็มีท่าทีหมางเมินกับหนิงซีโย่ว แม้เขาจะพยายามเอาใจนาง ทั้งสิ่งของ อาหาร แต่ก็มิอาจเปลี่ยนแปลงท่าทีใดๆ ทุกครั้งที่หนิงซีโย่วไปพบชิงอี้หราน หากนางไม่ทำท่าทีเมินเฉยไม่พูดไม่จา ก็เพียงกล่าววาจาถากถางให้เจ็บช้ำ หนิงซีโย่วได้แต่จนใจไม่อาจทำอะไรนางได้ชายหนุ่มได้แต่นึกแค้นเคืองหลีซานที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ในท้องพระโรง บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ขุนนางทั้งหลายต่างยืนเรียงรายในตำแหน่งของตน หนิงซีโย่วประทับอยู่บนบัลลังก์ ท่ามกลางความเงียบงันที่หนักอึ้ง หลีซานก็รู้สึกไม่สบายใจนักกับการที่ต้องเผชิญหน้ากับหนิงซีโย่ว เขายังคงรู้สึกถึงสายตาขุ่นเคืองของหนิงซีโย่วที่มองมายังตนอยู่เป็นระยะขณะที่ขุนนางต่างถกเถียงกันถึงเรื่องราวต่าง ๆ หนิงซีโย่วก็นั่งฟังด้วยความหงุดหงิด ในใจเขายังคงมีภาพของหลีซานกับชิงอี้หรานที่วนเวียนอย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28
  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 42 : การเคลื่อนไหวครั้งใหม่

    บทที่ 42 : การเคลื่อนไหวครั้งใหม่ หลังจากที่หนิงซีโย่วสั่งเรียกตัวหลีซานกลับเข้าว่าราชการตามเดิม ชิงอี้หรานก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นนางจึงเรียกตัวซิวเอ๋อให้ไปแจ้งข่าวให้หลีซานในทันที"ซิวเอ๋อ เจ้าไปส่งข่าวให้ใต้เท้าหลียุติการเคลื่อนไหวออกไปก่อน และรอคำสั่งข้าภายหลัง เข้าใจไหม" ชิงอี้หรานกำชับซิวเอ๋ออย่างร้อนรน"เพคะ ฮองเฮา หม่อมฉันจะรีบจัดการให้เรียบร้อยเพคะ" ซิวเอ๋อรับคำก่อนจะก้าวออกไปตามคำสั่งอย่างไม่รอช้าหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ชิงอี้หรานก็เปลี่ยนท่าทีอย่างสิ้นเชิง หญิงสาวเริ่มปรนนิบัติเอาใจหนิงซีโย่วไม่ขาดตกบกพร่อง ยามกลางวันนางจะไปหาชายหนุ่มถวายซุปตุ๋นบำรุงให้เขาอย่างสม่ำเสมอ"ฝ่าบาท ซุปถ้วยนี้หม่อมฉันเคี่ยวเองกับมือ หวังว่าจะช่วยบำรุงร่างกายพระองค์ให้สดชื่นขึ้นนะเพคะ" ชิงอี้หรานกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มประจบเอาใจหนิงซีโย่วรับซุปจากนางด้วยความปลื้มใจ "อี้หราน เหนื่อยเจ้าแล้ว"ยามกลางคืน ชิงอี้หรานก็ปรนนิบัติหนิงซีโย่วทั้งในเตียงนอกเตียงไม่ขาดตกบกพร่อง นางออดอ้อนเอาใจชายหนุ่มทุกวิถีทาง"ฝ่าบาท ทรงรังแกหม่อมฉันแล้ว" ชิงอี้หรานกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงหวานละมุน หญ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-28

บทล่าสุด

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 64 : จบบริบูรณ์

    บทที่ 64 : จบบริบูรณ์ หลังจากการต่อสู้และความวุ่นวายในราชสำนักได้สงบลง หนิงซีโย่วได้สร้างความประหลาดใจให้กับเหล่าขุนนางในราชสำนักด้วยการประกาศเรียกตัวครอบครัวสกุลชิงเข้าวัง ในท้องพระโรงที่ประดับประดาด้วยผ้าไหมสีทองและภาพจิตรกรรมที่งดงามบัดนี้เสียงดังเซ็งแซ่อย่างต่อเนื่อง เหล่าขุนนางต่างเฝ้ารอดูเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างสงสัยใคร่รู้ พวกเขาต่างพากันคาดเดาเหตุการณ์ต่าง ๆ บ้างมีสีหน้าดีใจ บ้างมีสีหน้าหนักใจปะปนกันไปเมื่อทุกคนพร้อมหน้าในท้องพระโรง ขันทีก็ออกประกาศราชโองการ “ด้วยฝ่าบาทมีพระกรุณาแต่งตั้งใต้เท้าชิงหยวนเปากลับคืนสู่ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี บุตรชายทั้งสามล้วนมากความสามารถ แต่งตั้งชิงหยางบุตรชายคนโตเป็นแม่ทัพบูรพา และชิงเฟยบุตรชายคนเล็กเป็นรองแม่ทัพดูแลกองทัพรักษาดินแดน แต่งตั้งชิงหลงบุตรชายคนรองเป็นที่ปรึกษาราชกิจ จบราชโองการ”เมื่อสิ้นเสียงราชโองการ ขุนนางทั้งหลายล้วนจับต้นชนปลายไม่ถูกเมื่อเรื่องราวกลับพลิกผันเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ หลายคนพยายามเหลือบมองหนิงซีโย่วด้วยไม่อาจคาดเดาความคิดของฮ่องเต้ผู้เอาแต่ใจคนนี้ได้ คงมีเพียงหลีซานที่ยังคงรักษาท่าทีสุขุม ชาย

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 63 : ข้ายินดีให้เจ้าลงโทษข้าทุกค่ำคืน

    บทที่ 63 : ข้ายินดีให้เจ้าลงโทษข้าทุกค่ำคืนในตำหนักบรรทมที่เงียบสงบ แสงจันทร์ส่องแสงอ่อนๆ ผ่านหน้าต่างทำให้ห้องดูมีมนต์ขลัง หนิงซีโย่วและชิงอี้หรานนั่งหันหน้าเข้าหากันบนเตียงผ้าไหมเนื้อนุ่ม สายลมยามค่ำคืนพัดเข้ามาทำให้ผ้าม่านปลิวไหว เสียงหอบหายใจของทั้งสองดังชัดในความเงียบ สายตาทั้งคู่ประสานกันด้วยความโหยหา ความตึงเครียดต่าง ๆ ค่อย ๆ บรรเทาลงหนิงซีโย่วมองชิงอี้หรานด้วยความรู้สึกผสมผสานทั้งความรักและความรู้สึกผิด ในขณะที่เขากำลังคิดจะพูดอะไรบางอย่างออกมา พลันทหารองครักษ์สามสี่นายก็ก้าวเข้ามาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ชิงอี้หรานทำหน้าตื่นตระหนก เธอสะดุ้งขึ้นอย่างแรง เบี่ยงตัวไปข้างหนึ่งและปกป้องหนิงซีโย่วไว้ข้างหลัง มือบางล้วงกริชสั้นชูขึ้นมา ดวงตาของเธอกวาดมองทหารเหล่านั้นด้วยความแข็งกร้าว ความหวาดระแวงทำให้หญิงสาวพลันกล่าวออกไปด้วยเสียงอันดัง "พวกเจ้าบังอาจนัก"องครักษ์คุกเข่าลง "หม่อมฉันได้ยินเสียงจากภายนอกจึงเข้ามาตรวจสอบพ่ะย่ะค่ะ"หนิงซีโย่วทำหน้าเคร่งครึม พลันตวาดไล่ทหารทั้งหมดให้ออกไป "พวกเจ้าถอยออกไปเสีย ไม่มีคำสั่งข้า ห้ามใครเข้ามารบกวนอีก" เหล่าองครักษ์รีบเร่งเดินจากไปอย่างหวาด

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 62 : เป็นเจ้าที่คิดถึงข้าหรือเป็นเพราะข้าคิดถึงเจ้ากันแน่

    บทที่ 62 : เป็นเจ้าที่คิดถึงข้าหรือเป็นเพราะข้าคิดถึงเจ้ากันแน่ท่ามกลางเงามืดและแสงจันทร์ที่สาดส่อง ชิงหยางและชิงเฟยใช้ประสบการณ์และความชำนาญในการหลบเลี่ยงการสังเกตของผู้คน ทั้งคู่พาชิงอี้หรานเคลื่อนที่ผ่านเงามืดและตรอกที่เล็กแคบและมืดมิดของพระราชวังอย่างเงียบกริบ ท้องฟ้ามืดมิดแสงจันทร์ที่แทรกซึมผ่านยอดไม้ใหญ่สร้างแสงสลัวบนทางเดินที่พวกเขาเคลื่อนที่ไปช่วยให้พวกเขาเห็นทางไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้ชัดเจนขึ้น เส้นทางที่พวกเขาเดินผ่านนั้นเงียบสงบอย่างน่าประหลาด ชิงอี้หรานไม่อาจห้ามใจได้ที่จะรู้สึกแปลกใจกับความเงียบงันนี้ ไม่มีเสียงของทหารยาม ไม่มีเสียงขององค์รักษ์ ราวกับทุกอย่างถูกระงับเวลาไว้ท่ามกลางความมืดและความเงียบ ชิงหยางกระซิบถามชิงอี้หรานด้วยความเป็นห่วงที่แฝงไว้ในน้ำเสียงที่เบาและอ่อนโยน "อี้หราน เจ้ารู้สึกยังไงบ้าง พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขาแล้วใช่ไหม" เสียงของเขาเบาและอ่อนโยน พยายามลดความกังวลใจที่นางมีชิงอี้หรานเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าช้าๆ คำตอบของนางแทบจะไม่มีเสียง "ข้าพร้อม ข้าต้องเห็นเขา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม" คำพูดของหญิงสาวดูมั่นคงแต่ก็ประหนึ่งมีอะไรบางอย่างที

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 61 : ข้าจะห่วงหาเขาทำไมกัน

    บทที่ 61 : ข้าจะห่วงหาเขาทำไมกันหนึ่งวันก่อนการเดินทาง ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมจนสิ้น ชิงอี้หรานนั่งเหม่อลอยอยู่ที่สวนภายในบ้าน สวนที่เคยเต็มไปด้วยความสดใสและความงดงามของดอกไม้บัดนี้กลับดูเศร้าหมองตามความรู้สึกของนาง ใบหน้าของนางดูหม่นหมอง แววตาเศร้าสร้อยยิ่งนัก เสียงนกร้องขับกล่อม ลมที่พัดผ่านเบาๆ ทำให้บรรยากาศยิ่งเหงาหงอยชิงหยาง ชิงหลง ชิงเฟยต่างมองหน้ากันไปมา พวกเขารับรู้เรื่องจากหลีซานเกี่ยวกับการที่หญิงสาวปฏิเสธชายหนุ่ม ทำให้พวกเขาต่างเข้าใจดีว่าภายในใจหญิงสาวมีใครที่แอบซ่อนไว้ ทั้งสามจึงได้แต่อดเป็นห่วงน้องสาวของตนชิงหลงมีสีหน้าเคร่งขรึมอย่างรู้สึกเป็นห่วงน้องสาว เขาหยุดมองชิงอี้หรานอยู่พักใหญ่ ก่อนจะหันไปถามทั้งสองด้วยเสียงเคร่งเครียด "พวกเราปล่อยให้เป็นเช่นนี้จะดีหรือ"ชิงหยางได้แต่ส่ายหน้า เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกังวล "อี้หรานแม้ภายนอกจะดูเรียบร้อยอ่อนโยน แต่พวกเจ้าก็รู้ดีว่านางดื้อรั้นมากเพียงใด"ชิงเฟยรีบถามกลับ "หรือเราควร...เอ่อ...ควรช่วยพวกเขากันดี"ชิงหยางได้ยินคำถามนี้ก็หันมองหน้าน้องชายด้วยสายตาโกรธขึ้ง "ชิงเฟย เจ้านี่นะ" เขาตำหนิด้วยเสียงเข้มชิงเฟยยกมือขึ้นลูบลำคอไปมา

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 60 : ไม่ว่าจะรักหรือแค้น ข้าก็มิอาจตอบรับผู้ใดได้อีก

    บทที่ 60 : ไม่ว่าจะรักหรือแค้น ข้าก็มิอาจตอบรับผู้ใดได้อีก ในระหว่างที่ครอบครัวสกุลชิงเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไกล แขกประจำบ้านสกุลชิงคงไม่พ้นหลีซาน ชายหนุ่มที่คอยแวะเวียนมาพูดคุย ถามไถ่ รวมถึงช่วยตระเตรียมข้าวของอยู่เสมอแรกเริ่มเมื่อหลีซานถูกกักตัวอยู่ที่จวนของเขา ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวสกุลชิงอย่างมาก แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักนอกจากสืบถามข่าวคราวจากคนใกล้ชิด แต่ข่าวที่ได้รับมามักน้อยนิดและไร้ประโยชน์จนทำให้เขาเครียดและวิตกกังวลกระทั่งราชโองการประกาศเรื่องการปลดชิงอี้หรานออกจากตำแหน่งฮองเฮา ในช่วงแรกที่ได้รับข่าวดังกล่าวหลีซานรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก ภาพความเป็นไปได้ที่ชิงอี้หรานอาจถูกทำร้ายหรือถูกกักขังวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ความห่วงใยที่มีต่อหญิงสาวทำให้เขาไม่อาจนอนหลับได้อย่างสงบ ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบรัด แม้ภายหลังจวนของเขาเองจะไม่ถูกทหารควบคุมเช่นเดิม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความกังวลในใจของเขาลดน้อยลงเลย เขาหวังว่าจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับชิงอี้หรานที่ปลอดภัย แต่ความเงียบงันอย่างผิดปกติยิ่งทำให้เขาอยู่ไม่เป็นสุขจนกระทั่งวันหนึ่ง ข่าวดีที่เขารอคอย

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 59 : เรื่องราวระหว่างท่านและข้าขอให้เป็นเพียงฝันชั่วข้ามคืนหนึ่งเถิด

    บทที่ 59 : เรื่องราวระหว่างท่านและข้าขอให้เป็นเพียงฝันชั่วข้ามคืนหนึ่งเถิด ภายในตำหนักที่เงียบสงบ ชิงอี้หรานพักฟื้นอยู่เกือบเดือน ตั้งแต่คืนนั้นหนิงซีโย่วก็ไม่เคยมาหาหญิงสาวอีกเลย ข่าวคราวเรื่องการกบฏถูกปิดเงียบไม่ปรากฏให้ผู้ใดได้รู้ เฉกเช่นไม่เคยเกิดเรื่องราวใดมาก่อน หลังจากนั้นไม่นานหนิงซีโย่วมีราชโองการปลดชิงอี้หรานออกจากตำแหน่งฮองเฮาชิงอี้หรานนั่งอยู่ที่หน้าต่างทอดสายตามองออกไปภายนอก รู้สึกเหมือนดวงตาของนางได้มองทะลุผ่านทุกสิ่ง หัวใจของนางเหมือนถูกดึงออกไปจากร่างกาย มีเพียงความเมินเฉยและความว่างเปล่าเพียงเท่านั้นซิวเอ๋อเดินเข้ามาหานายหญิงของตนด้วยความห่วงใย "คุณหนู ฝ่าบาทมิได้มาหาท่านตั้งแต่คืนนั้นอีกเลย ท่านยังคิดถึงฝ่าบาทอยู่หรือไม่"ชิงอี้หรานยังคงมองออกไปด้านนอกอย่างเหม่อลอย "ความคิดถึงนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความแค้น ข้ารู้ว่าทั้งตัวข้าและซีโย่ว ไม่ว่าจะรักหรือแค้นก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันอีก จากกันวันนี้ก็คงดีกว่าต้องประหัตประหารกันจนใครคนใดคนหนึ่งต้องตายจาก"ซิวเอ๋อมองหญิงสาวด้วยความสงสาร "คุณหนู โปรดทบทวนอีกสักคราเถิด บางทีท่านและฝ่าบาทอาจจะสามารถหาทางแก้ไขแล

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 58 : หนี้ระหว่างท่านและข้า ปล่อยให้มันพัวพันเช่นนี้ไปเถิด

    บทที่ 58 : หนี้ระหว่างท่านและข้า ปล่อยให้มันพัวพันเช่นนี้ไปเถิด ชิงอี้หรานยังคงหลับใหลไม่ได้สติ เสียงลมหายใจเบา ๆ ของนางเป็นเพียงเสียงเดียวที่ทำให้รู้ว่านางยังคงมีชีวิต หนิงซีโย่วที่ยังนั่งเฝ้าอาการหญิงสาวไม่ห่าง เขาไม่อาจละสายตาจากใบหน้าที่บัดนี้ยังคงซีดเซียว ใบหน้าที่เคยงดงามและเปล่งปลั่งกลับกลายเป็นภาพที่ทำให้เขารู้สึกปวดใจยิ่งนักตลอดชีวิตชายหนุ่มทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับมารดาของเขา ความแค้นที่ก่อตัวอยู่ในใจเขามาตลอด ทำให้เขามุ่งมั่นสู่เป้าหมายไม่ยอมถอย แต่ทว่าเวลานี้ที่เขาได้แก้แค้นสำเร็จ ใจเขากลับมิได้รู้สึกยินดีหรือโล่งใจ สิ่งที่เหลืออยู่ในใจของเขาก็มีเพียงความรู้สึกผิดและความสูญเสียที่ไม่มีวันหวนกลับ เขาต้องสูญเสียลูก เขาต้องสูญเสียหัวใจรักของชิงอี้หราน ความคิดมากมายวกวนในหัวจนหัวใจเขาปวดหนึบ หากเขามีโอกาสอีกสักครั้ง ขอเพียงอีกสักครั้งหนึ่ง ผลลัพธ์จะเป็นเฉกเช่นนี้หรือไม่น้ำตาของหนิงซีโย่วไหลรินอย่างเงียบงัน เขาหวังว่าชิงอี้หรานจะตื่นขึ้นมา สบตากับเขาและรับรู้ถึงความรักที่เขามีให้เธอ ถึงแม้จะเป็นไปไม่ได้ เขายังคงหวังว่าเสียงของเขา เสียงที

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 57 : ความสูญเสีย

    บทที่ 57 : ความสูญเสียในระหว่างที่กำลังชุลมุนอยู่นั้น ชิงหยวนเปาก็ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยมีชิงหลงประคองร่างที่แทบจะไร้เรี่ยวแรงของเขา ชายชราเห็นภาพตรงหน้าเขาเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ในทันที ชิงหยวนเปารีบปรี่เข้ามาคุกเข่าต่อหน้าหนิงซีโย่ว “ฝ่าบาท โปรดไว้ชีวิตบุตรชายของข้าด้วย ทั้งหมดเป็นข้าที่ผิดเอง ทั้งหมดเป็นหนี้ที่ข้าต้องชดใช้”หนิงซีโย่วมองหน้าชิงหยวนเปาด้วยสายตาเคียดแค้น ชายหนุ่มกำหมัดแน่น ความโกรธแค้นพลุ่งพล่านในใจเขา“ท่านพ่อ ท่านจะไปขอร้องคนอย่างมันทำไมกันเล่า ข้ายอมตายดีกว่าจะต้องทนอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้” ชิงหยางร้องออกมา“หุบปากของเจ้าซะ” ชิงหยวนเปาหันมาตวาดใส่ลูกชายคนโต เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง“ฝ่าบาท เป็นเพราะหม่อมฉันเอง เป็นหม่อมฉันที่ปิดบังความผิดของตน บุตรชายบุตรสาวของข้าจึงได้กระทำเรื่องราวที่โง่เขลาเช่นนี้ออกไป ฝ่าบาท หม่อมฉันขอร้องสักครั้งเถิด ได้โปรดละเว้นบุตรชายของข้าด้วย” ชิงหยวนเปากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาคุกเข่าลงต่ำกว่าที่เคย โขกศีรษะครั้งแล้วครั้งเล่า ยอมทิ้งศักดิ์ศรีและความมีเกียรติทั้งหมดเพื่อขอความเมตตาหนิงซีโย่วมองด้วยแวว

  • หนี้รักราชันสีเลือด   บทที่ 56 : จุดพลิกผันของแผนการ

    บทที่ 56 : จุดพลิกผันของแผนการ ขณะเดียวกันในวังหลวง ชิงหยางและชิงเฟยนำกำลังทหารมุ่งตรงไปยังตำหนักของหนิงซีโย่ว เสียงฝีเท้าของทหารดังก้องไปทั่วบริเวณ บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความกังวล องครักษ์ต่างมองหน้ากันพากันรู้สึกหวาดระแวง แต่เมื่อชิงหยางชูป้ายคำสั่งของชิงอี้หรานขึ้นแสดง องครักษ์ต่างพากันนิ่งงัน ไม่มีใครกล้าแตะต้องหรือขัดขืนพวกเขา“พวกเรามาที่นี่ตามคำสั่งของฮองเฮาเพื่อปกป้องฝ่าบาท” ชิงหยางกล่าวเสียงแข็ง พยายามสร้างความน่าเชื่อถือในคำพูดของตนองครักษ์หลายคนลังเล แต่ด้วยป้ายคำสั่งที่พวกเขาชูอยู่นั้น ทำให้พวกเขาจึงเลือกเปิดทางให้ชิงหยางและชิงเฟยนำทหารเข้าไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้สำเร็จ ทั้งสองบุกเข้าไปยังตำหนักของหนิงซีโย่วได้สำเร็จ ทหารฝั่งสกุลชิงบางส่วนต่างกรูกันเข้ามาในห้องนอนของหนิงซีโย่ว บางส่วนปิดล้อมตำหนักของหนิงซีโย่วไว้จากด้านนอกเมื่อเข้าไปในห้องนอนของหนิงซีโย่ว ชิงหยางและชิงเฟยมองเห็นหนิงซีโย่วนอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดเซียวและมีผ้าพันแผลที่หน้าอก พวกเขายิ้มเยาะกันในใจ คิดว่าวันนี้จะเป็นวันที่พวกเขาสามารถล้างแค้นและทวงศักดิ์ศรีของสกุลชิงกลับมา

DMCA.com Protection Status