แชร์

บทที่ 30 ขอโทษ

ผู้เขียน: ฮวาฮวาน่งหยวี่
ในชนบทมีคนเลี้ยงวัวอยู่ไม่น้อย ดังนั้นตามถนนข้างทางก็มักจะมีกองขี้วัวอยู่มากเช่นกัน

ถูซินเยว่อาศัยของใกล้ตัว ใช้ขี้วัวในการจัดการหลิวชุนฮวา หลิวชุนฮวาคิดไม่ถึงว่าถูซินเยว่จะกล้าทำกับนางเช่นนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ถูซินเยว่มักจะชอบตามติดนางเพราะชอบกลิ่นน้ำตาลในกระเป๋าเสื้อของนาง ดังนั้นไม่ว่านางจะสั่งให้ทำอะไร หล่อนก็จะไปทำเสมอ แต่การที่นางยังพูดไม่จบก็ลงมือนี่ยังไม่เคยเจอมาก่อน

ถึงแม้กลิ่นขี้วัวจะไม่ได้เหม็นมากนัก แต่มันก็เละๆ น่าขยะแขยง

หน้าของหลิวชุนฮวาจมลงในกองขี้วัวเต็มๆ เธอรู้สึกทนไม่ไหวเต็มที

"อื้อออ..."

ทั้งในปากและจมูกถูกอัดแน่นไปด้วยขี้วัว จนตัวเธอไม่กล้าแม้แต่จะร้องโวยวายเพราะกลัวว่าหากอ้าปากจะเผลอกินขี้วัวลงไปด้วย เลยได้แต่โบกไม้โบกมือทำท่าทางโวยวายเท่านั้น

เห็นแล้วน่าอนาจสุดๆ

ถูซินเยว่ไม่สนใจยังคงกดคอของนางไม่ปล่อย เธอใช้สายตาเย็นเยือกมองไปที่เหล่าผู้หญิงรอบๆ แล้วพูดอย่างหงุดหงิดว่า "หากครั้งหน้า ข้ายังได้ยินพวกเจ้าพูดจาทุเรศๆ กันอีกล่ะก็ พวกเจ้าจะได้มีจุดจบเช่นเดียวกับหลิวชุนฮวาแน่ เข้าใจไหม?"

ถูซินเยว่เป็นถึงทหารหน่วยรบพิเศษ คนที่เคยใช้ชีวิตในค่ายทหาร ล้วนมีออร่าความ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Suchinchada Kaikitjaras
อัพเดทเรื่องเร็วหน่อยจ้า สนุก แต่ลงช้าเหลือเกิน หรือมีปัญหาอะไรคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 31 อารมณ์อึดอัด

    ซูจื่อหังส่ายหน้าไปมาแล้วถามว่า "เจ้ารู้ไหมว่าหลิวชุนฮวาคือใคร"“ก็ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านยังไงล่ะ ข้าไม่ได้หูหนวกซะหน่อย” ถูซินเยว่เบะปากบ่นพึมพำ หลิวชุนฮวาเพิ่งจะตะโกนเสียงดังขนาดนั้นว่านางเป็นภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้าน แล้วเธอจะไม่ได้ยินได้อย่างไร“ในเมื่อรู้แล้ว เจ้ายังกล้าแกล้งนางแบบนี้อีก หากว่า...... ”ก่อนที่ซูจื่อหังจะพูดจบ ถูซินเยว่ก็เงยหน้าขึ้นถลึงตาโตเข้าใส่ มองดูชายหนุ่มตรงหน้า ทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ แล้วหันหน้ากลับไปพูดว่า "ข้าผิดหวังในตัวเจ้ามาก"ซูจื่อหัง “……”“ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านแล้วยังไง? ใช้อำนาจรังแกคนได้ด้วยหรือ? เจ้ากลัวพวกเขา แต่ข้าไม่กลัว วันนี้หลิวชุนฮวาปากเสียเองชัด ๆ แล้วเกี่ยวอะไรกับข้า? หากวันไหนนางกล้าพาใครมาระรานถึงบ้านอีก ข้าจะตบจนกว่าฟันของนางจะล่วงหมดปาก”ถูซินเยว่ชูกำปั้นของเธอ พูดอย่างดุร้ายซูจื่อหังมองดูลักษณะท่าทางของอีกฝ่าย รู้ว่าแม้เขาจะพูดอะไรไป ถูซินเยว่ก็ไม่ฟังอยู่ดี เขาจึงไม่สนใจเธอ หันกลับมาแล้วเดินต่อไปที่บ้านตระกูลถูโดยไม่พูดอะไรสักคำสำหรับเรื่องนี้ถูซินเยว่ไม่ใช่คนผิดแน่นอน แต่หลิวชุนฮวาคนนั้นมักจะแค้นไม่ลืม วันนี้ถูซินเยว่ท

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 32 ข้าจะซักให้เจ้า

    “ห้ามถอด!” ท่าทีของซูจื่อหังแข็งกร้าว คว้ามือของเธอไว้แน่นถูซินเยว่ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง ก้มลงมองดูมือของตัวเองที่ถูกมือของเขาบีบไว้แน่น จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองซูจื่อหัง พูดด้วยน้ำเสียงวิงวอน "เจ้าก็อย่าทำให้ข้าลำบากใจเลยนะ ถ้าไม่ถอดเสื้อออกแล้วข้าจะซักมันได้อย่างไรล่ะ ข้าอ้วนขนาดนี้ถ้าไม่ถอดข้าซักไม่ได้ เจ้าจงใจอยากจะหัวเราะเยาะข้าอย่างนั้นหรือ?"ขณะที่กำลังพูดอยู่ จู่ ๆ ซูจื่อหังก็ขัดจังหวะขึ้นตรงหน้า กล่าวว่า "เจ้าใส่เสื้อไว้ เดี๋ยวข้าซักให้เอง"“อะไรนะ?” ถูซินเยว่ชะงัก จ้องมองไปที่ซูจื่อหังตรงหน้าเธออย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ดวงตาเล็กคู่นั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจเขาจะซักให้?เมื่อครู่นี้ตอนที่ซูจื่อหังคว้ามือของเธอเอาไว้ ปรากฏว่ามือของเขาก็เปื้อนขี้วัวด้วย แววตารังเกียจขณะที่เขากำลังล้างมือนั้น ก็ใช่ว่าถูซินเยว่จะมองไม่เห็นตอนนี้อีกฝ่ายกลับพูดว่าจะซักขี้วัวที่เปื้อนอยู่บนเสื้อให้ตน เขาออกจะรักความสะอาดขนาดนั้น จะทนไหวหรือ?"เจ้าปล่อยข้าก่อน" ชายหนุ่มเอาแต่จับมือเธอไว้ ถูซินเยว่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย หลังจากที่เธอสะบัดมือของซูจื่อหังออก เธอก็เลิกคิ้วถามว่า "เจ้าจะซักให้ข้าจริง ๆ ห

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 33 น้องชายชื่อเสี่ยวเป้ย

    แม้ว่านางหลินจะตัวเล็ก แต่นางก็แรงเยอะมาก กอดถูซินเยว่แน่นเสียจนเธอเกือบหายใจไม่ออกเธอไอขึ้นมาหนึ่งทีและพูดขึ้นอย่างจนใจ "ท่านแม่ ปล่อยก่อนเถอะ ข้าเกือบจะหายใจไม่ออกตายแล้ว"“ได้ ๆ ๆ แม่ขอโทษเจ้า แม่ปล่อยเดี๋ยวนี้แหละ...." เมื่อเห็นว่าถูซินเยว่อึดอัด นางหลินก็รีบปล่อยมือ แต่น้ำตากลับไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นางมองสำรวจถูซินเยว่ขึ้นลง เมื่อเห็นว่าเสื้อผ้าของถูซินเยว่สะอาดสะอ้าน ที่มือก็ไม่มีบาดแผลใด ๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกดูเหมือนว่าซินเยว่จะไม่ได้ถูกทารุณกรรมที่บ้านตระกูลซูนางทอดทิ้งถูซินเยว่ไว้ที่บ้านตระกูลซูเช่นนั้น จึงกลัวว่าคนที่บ้านตระกูลซูจะไม่พอใจ ทรมานทุบตีหรือด่าทอเธอทุกวันนางหลินอดร้องไห้ขึ้นมาอีกไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับแม่ที่กำลังร้องไห้เสียใจ ถูซินเยว่เองก็ไม่รู้ว่าต้องทำเช่นไร แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไร น้ำเสียงรังเกียจเดียดฉันท์ของแม่เฒ่าตระกูลถูก็ดังลอยมา "ร้อง ๆ ๆ เข้าไปสิ เอาแต่ร้องไห้อยู่ได้ บ้านเจ้ามีคนตายหรือยังไงกัน? วันนี้เป็นวันดีที่หมิงซวนพาสามีกลับมาเยี่ยมบ้าน ถูกเจ้าร้องไห้จนเสียฤกษ์หมดแล้ว"พูดจบ แม่เฒ่าถูก็ส่งสายตาหมดควา

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 34 ทำไมขโมยของอีกแล้ว

    ภูมิหลังของครอบครัวตระกูลถูนั้นจัดว่ามีหน้ามีตาในหมู่บ้านต้าเย่อยู่พอสมควร ในบ้านก็มักจะมีขนมหรือของกินติดบ้านอยู่เสมอ เช่นขนมถ้วยฟูหรือลูกกวาดแข็ง แต่แม่เฒ่าตระกูลถูจงเกลียดจงชังนางหลินมาโดยตลอด พลอยทำให้ไม่ชอบหลานชายคนนี้ไปด้วย จึงมักจะแจกขนมให้กับหลาน ๆ บ้านอื่นในวันธรรมดา เสี่ยวเป่ยทำได้แค่มองดูเด็กคนอื่นกินตาปริบ ๆ“พี่ซินเยว่ ข้าอยากกิน" เสี่ยวเป้ยตื่นเต้นยกใหญ่เมื่อเห็นลูกกวาดเด็กน้อยเรียกตนว่าพี่ด้วยท่าทีออดอ้อนเช่นนี้ มีหรือถูซินเยว่จะไม่ใจอ่อน เธอกำลังจะยื่นลูกอมในมือให้เสี่ยวเป้ย แต่นางหลินกลับถามขึ้นอย่างจนใจ "ซินเยว่ เจ้าไปขโมยของคนอื่นมาอีกแล้วใช่ไหม?"ไม่โทษที่นางหลินถามขึ้นเช่นนี้ เพราะขนมทุกชิ้นที่เจ้าของร่างเดิมนำกลับมาให้เสี่ยวเป้ยนั้นล้วนถูกฉกหรือขโมยมาจากเด็กคนอื่น ๆ ทั้งสิ้นนางหลินอดชิงถามขึ้นมาก่อน ก็สมควรแล้วเมื่อเสี่ยวเป้ยได้ยินว่าลูกกวาดนั้นถูกขโมยมา ก็รีบหดมือกลับทันที ส่ายหัวอย่างรู้จักประสากล่าวว่า"พี่ซินเยว่ ท่านพ่อท่านแม่บอกว่าไม่ควรขโมยของ พี่ซินเยว่ เสี่ยวเป้ยไม่เอาลูกกวาดแล้ว พี่รีบเอามันไปคืนเจ้าของเถอะ ไม่เช่นนั้นพี่จะถูกคนในหมู่บ้านด่าเอาน

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 35 กินข้าวด้วยกัน

    ใบหน้าอ้วนฉุของหญิงสาวฉายแววประจบประแจง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหลายวันมานี้ได้ออกแรงในมิติหรือเปล่า ฝีหนองบนหน้าของถูซินเยว่จางหายไปไม่น้อย ตอนนี้ดูสบายตาขึ้นมาเป็นพิเศษซูจื่อหังกำมือขึ้นมาทำท่าไอ เพื่อกลั้นเสียงหัวเราะที่กำลังจะออกมาจากลำคอ แล้วแสร้งทำท่าจริงจัง "ครั้งหน้าห้ามทำแบบนี้อีกนะ""อืม" ถูซินเยว่พยักหน้าและพูดอย่างจริงใจ "ครั้งหน้าไม่ทำแบบนี้อีกแน่นอน ต่อไปหากข้าเจอหลิวชุนฮวาก็จะเลี่ยงเดินไปทางอื่น ดีไหม?""อืม"อีกฝ่ายจริงจังขึ้นมา ซูจื่อหังก็รู้สึกไม่คุ้นชินไปเล็กน้อยถูซินเยว่กลับส่ายลูกกวาดในมือไปมา ถามอย่างจริงจังว่า "แล้วลูกกวาดนี่ไม่เอาจริง ๆ หรอ?" "ไม่" ซูจื่อหังส่ายหน้า เขาไม่ใช่เด็กน้อยเสียหน่อย ไม่พิศวาสลูกกวาดพวกนี้หรอกเมื่อการติดสินบนล้มเหลว ถูซินเยว่จึงทำได้เพียงนำลูกกวาดใส่กลับเข้าไปในแขนเสื้อ ซูจื่อหังดูเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง จึงพูดขึ้นอย่างเคอะเขินว่า "เมื่อครู่ระหว่างทาง ข้าไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิเจ้า แค่คิดว่าเจ้าทำไม่ถูก ดังนั้นข้าจึง...."พูดไปได้แค่ครึ่งทาง นึกไม่ถึงว่าถูซินเยว่ที่เมื่อครู่ยังเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายได้ยินประโยคนี้เข้าไปเท่านั้นก็ทำท่า

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 36 สงสารภรรยา

    ถูซานถูกสั่งสอนเช่นนี้ต่อหน้าลูกหลาน สีหน้าก็ฉายแววไม่พอใจ อดไม่ได้ที่จะพูดแทนนางหลินว่า "ชุนเหนียงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อครอบครัวนี้มาโดยตลอด นางทำงานทุกอย่างในบ้าน อีกอย่างนางเป็นภรรยาของลูก ให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาวแก่ลูก หากลูกจะรักใคร่สงสารนางก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกจากปาก แม่เฒ่าถูก็ยิ้มเยาะทันที "ให้กำเนิดบุตรชายบุตรสาว ให้กำเนิดคนโง่สติไม่ดีอย่างนั้นน่ะหรือ?"อะไรอีก?ถูซินเยว่ที่กำลังคีบหมูสามชั้นอยู่ก็ชะงักกึกทันที อยู่ดี ๆ ทำไมถึงลากเธอเข้ามาเป็นคนโง่สติไม่ดีได้อีก หรือว่าตอนนี้แม้ว่าเธอจะหายแล้ว ก็ยังดูสติไม่ดีอยู่งั้นหรือ?นอกจากนี้ คำพูดของแม่เฒ่าถูก็น่าเกลียดจนเกินไป นางหลินรับใช้ครอบครัวเยี่ยงวัวเยี่ยงควาย แม้แต่นั่งร่วมโต๊ะอาหารยังทำไม่ได้ ได้กินของดี ๆ ก็ยังไม่ได้อีก?เป็นผู้หญิงด้วยกันทำไมถึงข่มเหงรังแกกันเช่นนี้?แม่เฒ่าถูเองก่อนจะเข้ามาบ้านนี้ก็เคยแต่งงานมาก่อน จงใจจะดูถูกกันให้ตายกันไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหมถูซินเยว่กำลังจะโยนตะเกียบในมือของเธอทิ้ง แต่ทันใดนั้นข้อมือของเธอก็ถูกคว้าเอาไว้ เมื่อหันไปก็เห็นซูจื่อหังกำลังส่ายหน้าที่ถ้าไม่สั

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 37 เล่นงานเสียจนฟันร่วงหมดปาก

    หากไม่ใช่เกิดเรื่องตลกแต่งงานผิดฝาผิดตัวขึ้นในวันนั้น วันนี้ถูซินเยว่คงต้องกลายเป็นภรรยาของเหลียงปินไปแล้วเหลียงปินยืนอยู่ตรงกลางห้องโถง มองสำรวจอีกฝ่ายขึ้น ๆ ลง ๆ ร่างกายอ้วนฉุบวกกับฝีหนองที่อยู่เต็มหน้า เมื่อยืนเทียบกับถูหมิงซวนแล้ว นางก็เหมือนกองขี้วัวดี ๆ นี่เองในเวลานี้ เขารู้สึกโชคดีเป็นที่สุดที่ได้พูดคุยกับถูหมิงซวนก่อนการแต่งงาน จึงคิดหาวิธีสับเปลี่ยนตัวเจ้าสาวอย่างแยบยล มิเช่นนั้นหากต้องมาอยู่กับหญิงอ้วนอัปลักษณ์นี่ เกรงว่าเขาคงจะอาเจียนเช้าเย็นจนตายไปในที่สุดหญิงอ้วนอัปลักษณ์เช่นนี้ ก็คงจะมีแต่เด็กหนุ่มยากจนจากครอบครัวตระกูลถูเท่านั้น ถึงจะยอมรับได้อย่างไม่ปฏิเสธดวงตาของเหลียงปินเป็นประกายอย่างดูถูกเหยียดหยามถูซินเยว่ซึ่งยืนอยู่ตรงข้ามเขาก็เห็นแววตาที่ดูถูกเหยียดหยามนั้นอย่างชัดเจน"ซินเยว่ เจ้าจะแสดงท่าทางที่ซูจื่อหังสู้กับหมูป่า? ข้าว่าอย่าดีกว่า จะได้ไม่ต้องมาขายหน้าที่นี่" ถูชิวหลานยืนอยู่ด้านบนทำท่ากลั้นเสียงหัวเราะ น้ำเสียงฉายแววถากถาง พูดต่อว่า "ดูร่างอ้วน ๆ ของเจ้าซิ เดี๋ยวจะหกล้มเอา เนื้อหมูป่านี่ข้าเดาว่าคงใช้เงินเก่าเงินเก็บซื้อมาล่ะสิ ทุกคนต่างก็รู้ดี ไ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 38 ถึงจะอ้วนอัปลักษณ์แต่ก็เป็นภรรยาของข้า

    "อ๊าาาาาาา! ช่วยข้าด้วย ข้ายังไม่อยากตาย! ในขณะที่คมมีดพุ่งลงมานั้น เหลียงปินก็หวาดกลัวจนร้องลั่น ลูกตาถลน น้ำหูน้ำตาไหล กลั้นปัสสาวะอุจจาระเอาไว้ไม่อยู่ดวงตาของถูซินเยว่ฉายแววดูถูกเหยียดหยาม แต่เธอไม่คาดคิดว่าเหลียงปินจะหวาดกลัวถึงเพียงนี้ เธอขยับข้อมือ มีดเล่มน้อยนั้นก็เฉียดลำคอของเหลียงปินไปแทงเข้าที่พื้นดินข้าง ๆเหลียงปินตกใจมากจนแทบสิ้นสติ ร่างกระตุก พูดไม่ออก สติสัมปชัญญะของเขาหลุดออกจากร่างไปแล้ว ไม่รู้เลยว่าถูกคมมีดของถูซินเยว่แทงเข้ามาที่ตัวเองหรือไม่กันแน่ในเวลานี้ ถูหมิงซวนกลอกตาเป็นลมล้มพับเข้าใส่อ้อมแขนของถูชิวหลานไปแล้วถูซานรีบเดินเข้าไปดูเหลียงปิน หลังจากพบว่าเหลียงปินไม่ได้ถูกแทง ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเงยหน้าขึ้นและมองถูซินเยว่อย่างตำหนิ กัดฟันถามขึ้นว่า "ซินเยว่ ทำไมเจ้าถึงทำตัวไร้สาระเช่นนี้? นี่มันชีวิตคน หากเหลียงปินเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าต้องไปกินข้าวคุกเชียวนะ!"ถูซินเยว่เลิกคิ้ว ก่อนที่จะได้พูดอะไร ถูชิวหลานก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา เมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของเหลียงปิน ก็ชี้หน้าถูซินเยว่และสาปแช่งด้วยความโกรธ "นังอ้วนอัปลักษณ์ เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง? นี่มันพี่เ

บทล่าสุด

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 381 ช่างคล้ายคลึงนัก

    ทั้งคู่เดินถึงหน้าประตู ปะเหมาะเวลานี้ จวนแม่ทัพหลิ่วก็มีคนเดินออกมาเช่นกัน"คนนี้ก็คือใต้เท้าซูที่เจ้าชอบอย่างงั้นหรือ" ฮูหยินหลิ่วเหลียวมองบุตรีซึ่งอยู่ข้างกาย สื่อเป็นนัยให้อีกฝ่ายอย่าได้วู่วามทุกวันนี้คราใดที่หลิ่วโหรวโหรวเห็นถูซินเยว่กับซูจื่อหังเดินมาด้วยกัน ด้วยท่าทีรักใคร่ปรองดอง นางจะรู้สึกเดือดดาลในใจ ราวกับภูเขาไฟที่ใกล้ระเบิดกระนั้นนางทำเสียงฮึดฮัด "ถูซินเยว่มีวันนี้ได้ ก็เพราะอาศัยบารมีซูจื่อหัง แต่คอยดูไปเถิด หญิงบ้านนอกเช่นนาง ใหม่ ๆ ยังพอทำให้ซูจื่อหังพอใจได้บ้าง แต่พอนานวันเข้า ได้เห็นสาวงามในเมืองหลวงมากมาย ความรักของพวกเขายังมั่นคงเหมือนแต่ก่อนได้อีก ก็แสดงว่าผิดมนุษย์แล้ว"ฮูหยินหลิ่วแสดงท่าทีนิ่งเฉยแต่บุตรีพูดก็มีเหตุผล ผู้ชายในโลกนี้น้อยนักที่จะไม่คิดได้ใหม่ลืมเก่า ยกตัวอย่างเช่นสามีของนาง ในอดีตก็เคยให้คำมั่นสัญญา ว่าแม้เป็นหรือตายก็จะขอรักอดีตคนรักเพียงผู้เดียว แต่พอบ้านเขาประสบภาวะเดือดร้อน สุดท้ายก็มาเลือกแต่งงานกับตน จนบัดนี้ลืมหน้านังคนแพศยานั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วแสดงว่าความจริงใจของผู้ชายคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ปกติเสแสร้งทำเป็นรักมั่นจริงใจ แต่พอเอ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 380 ลูกสาวจอมโง่เขลา

    หากซูจื่อหังไม่รังเกียจถูซินเยว่แล้วล่ะก็ งั้นต่อให้หลิ่วโหรวโหรววทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนก็ตาม เกรงว่าก็คงไม่สามารถเข้าไปในจวนสกุลซูได้ดั่งใจปรารถนาหรอกแต่น่าขําที่ลูกสาวคนนี้ของนางกลับไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้เลย รู้แต่ไปเหยียดหยามถูซินเยว่อย่างโง่เขลาเท่านั้นนี่ถ้าทําให้ถูซินเยว่อับอายต่อหน้าทุกคนก็ว่าไปอย่าง แต่นี่กลับยังโดนถูซินเย่วตอบโต้กลับมาจนขายหน้า นี่ไม่ใช่เป็นการตบหน้าตัวเองหรือไง?เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฮูหยินหลิ่วก็ไม่อยากเห็นหน้าลูกสาวคนนี้แม้แต่นิดนางขมวดคิ้ว จู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "ใช่แล้ว เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้บอกพ่อเจ้า ถ้าพ่อเจ้ารู้ ดูสิว่าเขาจะสั่งสอนเจ้ายังไง เจ้าระวังตัวหน่อย"ภายใต้การเกลี้ยกล่อมและคําเตือนของฮูหยินหลิ่ว ในที่สุดหลิ่วโหรวโหรวก็หลับตาลง นางนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเซ็ง ๆ ทั้งหน้ามีแค่อารมณ์เดียวนั่นก็คือ นางไม่มีความสุขฮูหยินหลิ่วถอนหายใจอย่างจนใจ แล้วเงยหน้ามองฝั่งตรงข้าม ตําแหน่งของนาง มีเพิงดอกไม้อยู่ตรงกลางบดบังร่างของถูซินเยว่พอดี ดังนั้นนางจึงเห็นเพียงโครงร่างผ่านเถาวัลย์อย่างคลุมเครือเท่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 379 จางเยียนหรัน

    วันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงเชิญตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ก่อนมาซูจื่อหังเคยพูดกับนางว่า เขากับตระกูลจางเข้ากันได้ดีในราชสํานัก ดังนั้นวันนี้ ถูซินเยว่ก็ไม่อยากสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลจาง เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีมารยาทเห็นเหล่าฮูหยินกับหลิ่วโหรวโหรวเพิ่งเยาะเย้ยเธอเมื่อครู่ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ถูซินเยว่ก็สบายใจไม่น้อย ก้มหน้าก้มตากินอาหารด้วยตัวเองไม่สนใจใครทั้งนั้นในขณะที่เธอกําลังกินอย่างมีความสุข จู่ ๆ ก็มีคนผลักแขนของเธอเบา ๆถูซินเยว่นิ่งงันไปพักหนึ่ง หันหน้ากลับไปอย่างสงสัยใคร่รู้ เห็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองคนหนึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กําลังใช้ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างอยากรู้อยากเห็นดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและไร้เดียงสา แต่กลับไม่มีเจตนาร้ายเลยแม้แต่น้อยถูซินเยว่เคยเห็นคนมามากมาย เรื่องเหล่านี้เธอยังพอสามารถมองออกได้ตั้งแต่แรกเห็นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีเจตนาร้าย ท่าทีของเธอก็อ่อนโยนลงมาก"ไม่ทราบว่าแม่นางมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?"ถ้าเธอจําไม่ผิด คนที่นั่งข้างเธอเมื่อกี้น่าจะเป็นผู้หญิงที่เยาะเย้ยเธ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 378 หน้าแตก

    ถูซินเยว่ชะงัก และรู้สึกตลก เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก็รู้สึกประหลาดใจ ตอนที่ออกจากมาตอนเช้า เธอได้สวมใส่เครื่องประดับมาหลายชิ้นจริงๆแต่ระหว่างทาง ถูซินเยว่รู้สึกว่าต่างหูระเกะระกะเกินไป จึงแอบถอดมันออกและวางไว้บนรถม้าคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าในงานเลี้ยงจะมีคนไม่กินไม่ดื่ม แต่หันมาจับจ้องที่เครื่องหัวของตนเองแทนถูซินเยว่ยื่นมือไปจับที่ผมของตนเองอัตโนมัติ จากนั้นก็พูดเสียงราบเรียบว่า "ในเมื่อวันนี้ตระกูลจางเป็นเจ้าภาพ แขกสำคัญจึงเป็นตระกูลจาง แล้วเหตุใดข้าจักต้องแต่งตัวให้ดูดีขนาดนั้น""จนก็ยอมรับว่าจนเถอะ จะหาเหตุผลอะไรมาอ้างมากมายไปทำไม ในที่นี้ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเจ้ามาจากบ้านนอก ข้าเองก็แค่รู้สึกเสียดายแทนใตเท้าซูเท่านั้น ทั้งที่มีมีอนาคตอันดี หากแต่งงานกับบุตรสาวขุนนางสักคน ก็คงยิ่งช่วยส่งเสริมให้เจริญก้าวหน้า แต่กลับเลือกจะเฝ้าอยู่แค่หญิงชาวบ้านเฉกเช่นเจ้า..."ประโยคหลังแม้ว่าจะไม่ได้พูดต่อจนจบ แต่ก็สามารถเข้าใจได้ถึงแม้บนใบหน้าของถูซินเยว่จะแสดงสีหน้าใดๆ แต่สาวรับใช้ที่อยู่ข้างๆ สีหน้าย่ำแย่มากแล้วนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลซูมานาน ก็พอจะรู้ว่าถูซินเยว่ไม่ได้ไม่มีเงิน และเงินส่วนใ

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 377 ดูถูก

    ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ หรือเพราะผลประโยชน์อันน้อยนิด แม้เป็นครอบครัวเดียวกัน ก็ยังสามารถโกรธแค้นกันจนตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ในตระกูลถู เพียงเพื่อสินสอดของตระกูลเหลียง ถูชิวหลานก็ดันทุรังจะสับเปลี่ยนตัวเธอกับลูกสาว ภายหลังยังไม่ยอมรับด้วย แถมยังผลักไสความผิดทุกอย่างไปที่เจ้าของร่างหากเธอไม่ได้ข้ามิติมาอยู่ในร่างของเจ้าของร่างซื่อบื้อคนนั้น นางจะใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลซูอย่างไร เกรงว่าคงเหลือแต่เสี้ยววิญญาณแล้วอย่างด้านซูเฟิ่งอี๋ในตระกูลซู ตอนนั้นพวกเขาเองก็หวงแหนเงินเล็กๆ น้อยๆ เห็นชีวิตนางหยูกำลังตกอยู่ในอันตรายก็ยังไม่ยอมรักษาให้นางเรื่องราวของญาติสนิทมิตรสหายที่ทำร้ายคนใกล้ตัวเพียงเพื่อผลประโยชน์และเงินทองมีมากมายเกินกว่าจะพูด ขนาดบ้านเธอยังเป็นเช่นนี้ แล้วต้าฉีที่มีบ้านสกุลมากมายขนาดนี้ล่ะชาวบ้านธรรมดาทั่วไป อาจทำไปเพื่อเงินทอง แต่องค์ชายสามกับองค์ชายใหญ่ กลับทำเพื่อแก่งแย่งแผ่นดิน ขนาดที่เป็นการต่อสู้เพื่อความเป็นความตาย และไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้ใคร ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้"ชีวิตคนเรามีหลายเรื่องที่มักไม่เป็นดังที่หวัง ข

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 376 อิจฉา

    "วันนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูลจาง ข้าก็นึกว่าเจ้าจะพูดคุยเรื่องอะไรกับข้า คาดไม่ถึงว่าจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ข้าในที่ๆ ไม่มีคนเช่นนี้?"ชายผู้นั้นหัวคิ้วกระตุก รีบก้มศรีษะลงแล้วพูดว่า "กระหม่อมมิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่กระหม่อมทราบว่าองค์ชายสามเป็นคนเฉลียวฉลาด แต่ไหนแต่ไรมา การที่บุตรสายตรงรับสืบราชบัลลลังก์ต่อก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แล้วไฉนองค์ชายสามจึงมิตั้งใจเป็นข้าราชบริพานบริสุทธิ์ คอยค้ำจุนเสด็จพี่ของพระองค์เล่าพ่ะย่ะค่ะ?"ฉีหวานหัวดราะเสียงดัง น้ำเสียงเย็นเยือกลงฉับพลัน เขาสะบัดแขนเสื้อ พร้อมสีหน้าเย็นชา "แม่ทัพหลิ่วพูดเช่นนี้ ช่างไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ตอนที่ข้าพบกับมือสังหารไล่เอาชีวิตตอนที่รีบเดินทางกลับมาจากเป่ยเจียงอันไกล แม้วันนี้ข้าไม่พูด เชื่อว่าท่านแม่ทัพเองก็คงทราบดีว่าเป็นฝีมือของใคร?"ถูซินเยว่ที่นั่งอยู่ในศาลาชะงักงัน ที่แท้คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับฉีหวานก็คือแม่ทัพหลิ่วนี่เอง หากนางจำไม่ผิดละก็ ก่อนหน้านี้ที่หน้าประตูตระกูลจาง ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวก็คือแม่ทัพหลิ่วผู้นี้สินะ?เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถูซินเยว่ก็รู้สึกเซ็งขึ้นมา ถ้ารู้แต่แรกว่าพวกเขาจะคุยกันเรื่

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 375 แอบฟัง

    หลิ่วโหรวโหรวก็มองเห็นพวกเขาเช่นกัน และเมื่อนึกถึงความสนิทสนมของถูซินเยว่และซููจื่อหังวันนั้นในจวนซู นางก็กำหมัดแน่นแม่ทัพหลิ่ว หลิ่วถิง เมื่อเห็นว่าบุตรสาวของตนเองอยู่ๆ ก็หน้าตาไม่สดใส ทั้งที่เมื่อสักครู่ยังดีอกดีใจ ก็ขมวดคิ้วถามว่า "เป็นอะไรไป? มีคนรู้จักรึ?""เจ้าค่ะ..." หลิ่วโหรวโหรวกำลังจะอ้าปากพูด ฮูหยินหลิ่วที่อยู่ข้างๆ ก็ผลักนาง และส่งสายตาให้กับอีกฝ่ายหลิ่วโหรวโหรวจึงได้แต่หุบปากเงียบอย่างไม่พอใจนักฮูหยินหลิ่วเดินไปข้างๆ หลิ่วโหรวโหรวอย่างเงียบๆ กระตุกแขนเสื้อของบุตรสาวและพูดเตือนเสียงเบาว่า "เจ้าอย่าได้พูดถึงเรื่องของตระกูลซูอีก หากเจ้าพูดถึงอีกข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า! เมื่อกี้เจ้าไม่เห็นฮูหยินตระกูลซูหรือย่างไร? นางท้องโตขนาดนั้นแล้ว! เจ้าคิดจะไปเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นหรือ? พูดออกไปรังแต่จะกลายเป็นเรื่องตลก!"หลิ่วโหรวโหรวสีหน้าย่ำแย่ทันทีแม้ว่าซูจื่อหังมีภรรยาหลวงอยู่แล้ว แต่ในใจนางนั่นก็เป็นเพียงหญิงบ้านนอกที่เทียบกับตนเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นางซึ่งเป็นบุตรีสายตรงของจวนแม่ทัพ จะตกเป็นรองอยู่เป็นภรรยาน้อยของซูจื่อหังหรืออย่างไร?ลำพังแค่คิด นางก็ไม่ต้องการหลิ่วโหรวโหร

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 374 งานเลี้ยงตระกูลจาง

    ขณะที่ถูซินเยว่กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดร้านขายเครื่องประดับ และนางหยูกำลังกังวลเรื่องลูกค้าอยู่นั้น เทียบเชิญฉบับหนึ่งก็ได้ส่งมาถึงที่บ้าน"เป็นงานฉลองวันเกิดของมารดาเฒ่าตระกูลจางจากเสนาบีดีกระทรวงการคลัง"ถูซินเยว่ถือเทียบเชิญไว้ในมือและยิ้มอย่างประหลาดใจ "ในเมืองหลวงแห่งนี้ข้านั้นไม่ได้รู้จักใครเลยสักคนหนึ่ง แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลจางจะส่งเทียบเชิญมาให้ข้า"สามีของตนเองก็เป็นข้าราชการขั้นเจ็ดเล็กๆ คนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลจากจะไม่ใช่ข้าราชการชั้นสูง แต่ก็เป็นข้าราชการขั้นห้า และบรรพบุรุษก็ล้วนเป็นข้าราชการทั้งนั้น ซึ่งก็นับว่าเป็นตระกูลที่มีคุณธรรมสูงส่งการที่ส่งเทียบเชิญมาให้พวกเขาในงานเลี้ยงวันเกิดเช่นนี้ ก็เรียกได้ว่าไม่ได้ดูถูกพวกเขาเพียงแต่ คนในยุคโบราณส่วนมากจะดูแคลนคนทำธุรกิจ หากตนเองไปร่วมงานละก็ จะทำให้พวกเขารู้ว่าภรรยาของซูจื่อหังเป็นหญิงทำมาค้าขาย ก็ยากที่จะไม่ดูแคลนเดิมทีถูซินเยว่ไม่อยากไป แต่คาดไม่ถึงว่าซูจื่อหังจะหันมากุมมือเธอไว้ ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจนักว่า "บุตรชายของใต้เท้าจางสนิทกับข้า ภรรยาของข้าเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์มากที่สุดในใต้หล้า ไม่ว่าทำอะไรก็ดีทั้งนั้น แล

  • หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง   บทที่ 373 ฮ่องเต้หมดสติ

    สำหรับถูซินเยว่แล้ว จะเป็นลูกผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไม่เป็นไร สิ่งสำคัญคือ การที่ลูกน้อยสามารถคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยเพราะในยุคโบราณการที่ผู้หญิงคลอดลูกนั้นเปรียบเสมือนการเดินไปขอบประตูนรก ดังนั้นการที่สามารถให้กำเนิดลูกได้อย่างปลอดภัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เธอจึงไม่คาดหวังอย่างอื่นอีกแต่ว่าช่วงนี้เธอมักจะถูกนางหยูล้างสมองอยู่บ่อยๆ จนถูซินเยว่เองก็คิดว่าท้องนี้อาจจะเป็นลูกผู้ชายก็ได้เป็นผู้ชายก็ดี เพราะความคิดปิดกั้นในยุคโบราณนั้นสร้างความลำบากให้กับหญิงสาวอย่างมาก หากเป็นเด็กผู้ชาย ก็สามารถลดความลำบากหลายๆ อย่างให้เธอได้ไม่น้อยเดิมทีถูซินเยว่อยากจะถามฉงเป่าว่าในท้องตนเองนั้นเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิงกันแน่ ซึ่งตามปกติแล้วขอเพียงเอาของกินมาล่อนิดล่อหน่อย ฉงเป่าก็ยอมพูดทุกอย่าง มีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ไม้ว่าถูซินเยว่ถามอย่างไร อีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก"อย่างไรเสียลูกก็อยู่ในท้องของข้า เจ้าจะบอกหน่อยมิได้หรือว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ถึงเจ้าพูดมา ด้วยเงื่อนไขการรักษาแบบนี้ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้มิใช่หรือไง?"อีกอย่าง ถูซินเยว่เองก็ไม่มีความคิดการให้ความสำคัญชายมากกว่าหญิงด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status