อเล็กซ์พลันมองไปยังเบียทริซอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้น เขาก็ยังคงหยิบเนื้อกุ้งล็อบสเตอร์อีกชิ้น เข้าปาก อเล็กซ์ยังคงกินกุ้งล็อบสเตอร์ต่อไปพร้อมกับสีหน้าสุดมีความสุข ราวกับว่าเบียทริซไม่มีตัว ตนอยู่เลยด้วยซ้ำ เบียทริซพลันรู้สึกโมโห เธอครุ่นคิด “หมายความว่ายังไง? หมอนี่เห็นเราเป็นอะไรกัน?” เบียทริซเผยหน้าแดงและเบิกตามกว้าง “ร็อคกี้เฟลเลอร์! ไอ้คนตะกละ! นายหูหนวกหรือยังไง กัน? ฉันกําลังพูดกับนายอยู่นะ! ทําไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ? เข้ามาได้ยังไงกัน?” ในสายตาของเบียทริซ อเล็กซ์ยังคงเป็นผู้ชายไร้ประโยชน์ที่ไม่สามารถทําอะไรเองได้ นอกจากพึ่งพาพี่สาวของเบียทริซ อีกทั้ง เบียทริซก็มักจะหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา โดยเฉพาะความไม่สบอารมณ์จากเหตุการณ์ก่อนหน้าที่อเล็กซ์ทําร้ายเธอ ทว่า อเล็กซ์กล่าวคําพูดอย่างไม่ใส่ใจ เขาไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ ล่ะ? เลิกกวนอารมณ์ฉันสักที" อะไรกัน? เบียทริซรู้สึกโกรธจัดและตกใจกับคําพูดของอเล็กซ์ เธอครุ่นคิด “ไอ้คนไร้ประโยชน์ที่ เอาแต่กดขี่ข่มเหงคนในบ้านเอ๊ย อีกทั้ง ยังชอบมาขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของฉันอีก อีกอย่าง นี่ขนาดเรา
ในตอนนี้ เบียทริซตัดสินใจว่าเธอควรอยู่ให้ห่างจากปัญหานี้ ไม่นานนัก ลุงแดเนียลก็มาถึง “วิลสัน แขกคนนั้นอยู่ที่ไหนกัน?” “นั่นครับลุง” วิลสันพลันชี้นิ้วไปยังอเล็กซ์ แดเนียลพลันมองตาม เขาพลันจ้องมองไปยังอเล็กซ์ ผู้ซึ่งสวมเสื้อผ้าลำลองราคาถูกและกำลังกินปูตัวใหญ่อยู่ “คุณครับ ผมเป็นผู้จัดการสถานที่สำหรับการประมูลในค่ำคืนนี้ แดเนียล จอร์แดน ขอดูคำเชิญของคุณหน่อยสิครับ” อเล็กซ์พลันคายเนื้อปูออกจากปาก ทันทีที่ดึงทิชชูเปียกจากด้านข้างออกมาเช็คปาก เขาก็พลันกล่าวคำพูดขึ้น “ปูตัวนี้น่าจะปรุงนานเกินไปหน่อยนะครับ เสียรสสัมผัสไปหมด ไม่ค่อยอร่อยเลย อีกอย่าง กุ้งล็อบสเตอร์ออสเตรเลียก็น้อยเกินไปด้วย ยังไงก็เถอะ ผมขอกุ้งล็อบสเตอร์อีกจานด้วยก็แล้วกัน แล้วก็อย่าลืมใส่ขิงและน้ำส้มสายชูลงไปด้วยล่ะ” เบียทริซซึ่งยืนอยู่ห่างจากอเล็กซ์ประมาณห้าเมตรแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เธอครุ่นคิด “ผู้ชายคนนี้ไม่รู้ตัวเลยหรือยังไงว่าตัวเองกำลังซวย? เขาคิดว่าตัวเองอยู่ไหนกัน? สวนหลังบ้านหรือไง?” แม้แต่วิลสันก็ยังตกใจ เขาเองก็ไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อน แดเนียลยืนรอคำตอบจากอเล็กซ์ประมาณสามสิบวินาที ถึ
ฝูงชนพลันจ้องมองมาตามทิศทางของเสียง มันเป็นเสียงที่มาจากเด็กสาวหน้าอกสะบึมในคราบชุดนักเรียนสีม่วง เธอรีบเดินเข้ามาหาอเล็กซ์อย่างรวดเร็ว ผู้หญิงคนนั้นคือมิเชลล์ โยเวล สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร พวกเขาต่างก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง พวกเขาคิดว่ามันน่าตลกไม่น้อยที่อเล็กซ์มีเพื่อนนักเรียนสาวมาหนุนหลัง ในระหว่างนั้น พวกช่างพูดบางคนก็เผลอหลุดสิ่งที่คิดออกมา “เด็กคนนี้มาจากไหนกัน? เธอต้องเหมือนพวกหนอนหนังสือ และมาที่นี่เพื่ออวดดีแน่เลย” “ทุกคนที่นี่ต่างก็เป็นแขกผู้มีเกียรติชนชั้นสูงทั้งนั้น แม่หญิงสาวคนนี้ต้องโผล่มาที่นี่เพื่อโอ้อวดอิทธิพลของตัวเองแน่เลย” ถึงกระนั้น คนที่กำลังพูดอยู่ก็ถูกเพื่อนข้างกายปิดปาก และกระซิบเตือนข้างหู "นายพูดบ้าอะไรออกมาน่ะ? เธอคนนี้คือปีศาจตัวน้อยของตระกูลโยเวลไง แค่เห็นสายตาของเธอที่จ้องมองมาทางนี้ ก็เสียวสันหลังแล้ว" ว่ายังไงนะ? ชายคนนั้นตัวสั่นและรู้สึกกลัวไม่น้อย ก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งพูดออกไปว่าผู้หญิงตรงหน้าโผล่มาเพื่อโอ้อวดอิทธิพลของตัวเอง แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขานี่แหละที่กำลังพยายามพูดจาโอ้อวดอยู่! ชายคนนั้นไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีกและรีบถอยกลั
“แต่ว่าเขา...” ก่อนที่ดาเนียลจะได้เปิดปากพูดจนจบ มิเชลล์ที่กำลังหัวร้อนก็พลันเตะเขาอีกครั้งและกล่าวคำพูด “ไปให้พ้นเลยนะ นายถูกไล่ออก!” “อ๊าก!” แดเนียลพแน่นิ่งไป ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวซีดราวกับผ้าผืนหนึ่ง แดเนียลใช้เวลามาตั้งหลายปี และพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้จัดการของศูนย์การค้าแห่งนี้ แต่ทว่า ความเข้าใจผิดเล็กน้อยกลับทำให้เขาต้องสูญเสียงานที่ตัวเองทุ่มเทมาทั้งหมดไป ในตอนนี้ แดเนียลจ้องไปยังวิลสันด้วยแรงอาฆาตอันแรงกล้า และอยากที่จะบีบคอหลานชายตัวเองไม่น้อย วิลสันรู้สึกตกใจไม่น้อย ไม่เพียงแค่นั้น ทั้งโมนา แซม และคนอื่นๆ ต่างก็ตะลึงเช่นกัน เบียทริซเองก็ไม่เชื่อสายตาตัวเองเช่นกัน ไอ้คนไร้ค่าอย่างอเล็กซ์เข้ามาเกี่ยวพันกับมิเชลล์และกลายเป็นแขก VIP ของเธอไปได้อย่างไรกัน? มันเป็นไปไม่ได้! “เป็นไปได้ไหมที่ชายคนนี้จะนอกใจพี่สาวของเราและไปมีอะไรกับมิเชลล์?” ทั้งนี้ นั่นอาจจะเป็นคำอธิบายที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดเพียงหนึ่งเดียว ไม่ช้า แดเนียลถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยลากออกไปตามคำสั่งของมิเชลล์ หลังจากนั้น เธอก็เหลือบมองไปยังวิลสันและเดินเข้าไปตบห
“ให้ตายเถอะ นี่มันบ้าอะไรกัน? เธอพาฉันมาที่นี่เพื่อที่ตัวเองจะได้ล้มตัวใส่ฉันงั้นเหรอ?” ในระหว่างที่อเล็กซ์กำลังหมกหมุ่นกับกุ้งล็อบสเตอร์ออสเตรเลียจนไม่ได้สังเกตเห็นใบหน้าอันเจ็บปวดของมิเชลล์เลย แต่ทว่า อเล็กซ์ก็ต้องตกใจทันทีที่สัมผัสได้ถึงร่างกายอันอ่อนนุ่มและอบอุ่นของมิเชลล์อยู่ในอ้อมแขน และที่สำคัญ อเล็กซ์ควรทำอย่างไรกับผู้หญิงที่ล้มตัวใส่เขาดีล่ะ? “เจ้าเล่ห์นักนะ คีธ โยเวล! ที่ทำกันแบบนี้!” อเล็กซ์กัดฟัน พร้อมกับคิดว่าเขาน่าจะ... ในเวลานี้ มิเชลล์ก็ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง พร้อมกับจับหน้าอก เธอไอกระอักออกมาอย่างกระทันหัน อะไรกัน? อเล็กซ์พลันตกใจทันทีที่อ้วกแทบจะถูกถ่มใส่หน้าของเขา! “นี่ มิเชลล์! มิเชลล์!” ในตอนนั้นเอง อเล็กซ์ก็พลันตระหนักได้ว่าเขาคิดผิด มิเชลล์ไม่ได้อ่อยเขา แต่เธอทรุดตัวลงในอ้อมแขนเพราะอาการบาดเจ็บ เธอในตอนนี้ยืนไม่ไหวเลยด้วยซ้ำ “ให้ตายเถอะ เธอน่าจะบอกฉันก่อนหน้านี้หน่อยสิ! เธอกำลังทำให้ฉันกังวลนะเนี่ย!" อเล็กซ์บ่นพึมพำระหว่างที่กำลังหายใจ เขารีบจับไปที่ชีพจรของมิเชลล์ทันที ด้วยเหตุนี้ อเล็กซ์จึงเข้าใจอาการของเธอได้อย่างรวดเร็ว มิเช
ทว่า เสียงของมิเชลล์ก็พลันดังขึ้นมาขัดสมาธิของอเล็กซ์ “อเล็กซ์ นายต้องการสมุนไพรห่อสิ่วโอวไหม?” นั่นเพราะสมุนไพรห่อสิ่วโอวเป็นสินค้าประมูลที่กำลังแสดงอยู่บนหน้าจอในห้อง VIP อเล็กซ์เหลือบมองหน้าจอและฮัมเพลงออกมาแสดงถึงการตอบตกลง ในตอนนี้ ราคาปัจจุบันของสมุนไพรห่อสิ่วโอวนั้นสูงถึงเจ็ดล้านดอลลาร์ และผู้เสนอราคาก็คือเป็ปเปอร์ เธอดูเหมือนมั่นใจในการประมูลราคาไม่น้อย แต่ทว่า มิเชลล์ก็เสนอราคาสิบล้านดอลลาร์ต่อทันที ผู้ประมูลประกาศขึ้น “ห้อง VIP หมายเลขหนึ่งประมูลให้ราคาสูงถึงสิบล้านเหรียญแล้วครับ ตอนนี้มีใครให้ราคาสูงกว่าสิบล้านดอลลาร์ไหมครับ?” ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ก็รู้ดีว่าปีศาจตัวน้อยจากตระกูลโยเวลและหนุ่มกุ้งล็อบสเตอร์เป็นแขกของห้องVIP หมายเลขหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะมีคนต้องการเสนอราคาที่สูงกว่า แต่พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ทำเช่นนั้น เพราะทุกคนต่างก็ไม่อยากยั่วโมโหตระกูลโยเวล เป็ปเปอร์พลันขมวดคิ้วและตะโกนขึ้นอีกครั้ง “สิบเอ็ดล้านดอลลาร์!” “สิบห้าล้านดอลลาร์!” มิเชลล์กล่าวเสริม “สิบหกล้านดอลลาร์!” “ยี่สิบล้านดอลลาร์!” อเล็กซ์สังเกตเห็นชายหัวล้านเป็ปเปอร์โน้มตัวม
“สองคนนั้นจะออกไปก่อนเวลา!” ดวงตาของอเล็กซ์เป็นประกาย เขายืนขึ้นและต้องการจะไล่ตามทั้งสองไปตามสัญชาตญาณ แต่ทว่า มิเชลล์ก็ดึงอเล็กซ์กลับไป "นายกำลังจะไปไหนน่ะ? สินค้าประมูลจะกำลังจะถูกจัดส่งแล้ว ฉันอยากให้นายช่วยตรวจดูให้หน่อย" “เธอตรวจดูเองไม่ได้หรือยังไงกัน?” “ก็ฉันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรนี่ แถมพวกตาแก่ที่คอยเก็บประมูลครั้งนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เลยด้วย ใครจะไปรู้ล่ะว่าพวกเขาจะโกงหรือส่งของปลอมมาให้หรือเปล่า? สมุนไพรพวกนี้จำเป็นต่อการช่วยชีวิตคุณปู่ของฉันมากเลยนะ เพราะแบบนั้น เราต้องรอบคอบเป็นพิเศษ” อเล็กซ์คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า ด้วยความที่เป็ปเปอร์มากับยอดฝีมือชาวญี่ปุ่นหัวล้านคนนั้น อเล็กซ์จึงไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ว่าจะจับตัวเธอได้ไหม แต่ทว่า วอลทซ์เองก็ได้จัดกลุ่มคนเพื่อเฝ้าระวังเป็ปเปอร์เอาไว้แล้ว เพราะเหตุนั้น ในอนาคตอเล็กซ์ก็ยังสามารถที่จะจับตัวเธอได้อีกแน่ ทันทีทีไฟถูกดับลง มิเชลล์ก็รู้สึกกังวลไม่น้อย แต่ท้ายที่สุดแล้ว นั่นเป็นก็เป็นโรงแรมที่ตระกูลโยเวลเป็นเจ้าของ แต่ทว่า ใครจะไปกล้าโกงมิเชลล์ ซึ่งเป็นผู้ประมูลสมุนไพรเหล่านั้นในราคาสูงได้กัน?
"นี่นาย!" มิเชลล์รู้สึกโกรธจนพูดอะไรไม่ออก แต่ทว่า ในตอนนั้นเอง ท้ายรถก็ถูกกระแทกอย่างแรง "เกิดบ้าอะไรขึ้นกัน? นี่นายขับไปชนใครหรือเปล่าเนี่ย? บอกแล้วไงว่าให้ขับดี ๆ! ให้ตายเถอะโว้ย!” มิเชลล์ตะโกน ทว่า ก่อนจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น รถคันใหญ่อีกคันก็ขับฝ่าไฟจราจร พร้อมกับมุ่งหน้ามายังรถของทั้งสองด้วยความเร็วเต็มที่ ไฟหน้ารถสว่างมาก มากเสียจนทั้งสองแทบจะลืมตาไม่ขึ้น "อ๊าย!" มิเชลล์พลันกรีดร้องตามสัญชาตญาณ หากถูกรถชนโดยตรง แม้แต่บีเอ็มดับเบิลยูเอ็มแปดก็ไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกได้ อีกทั้ง อาจจะถูกบีบจนเละเลยด้วย ในตอนนี้ อเล็กซ์ก็เหยียบคันเร่ง พร้อมกับหลบรถคันใหญ่ที่พุ่งเข้ามาด้วยการหักเลี้ยวซ้าย รถคันใหญ่เฉียดท้ายบีเอ็มดับเบิลยูเอ็มแปดไปก่อนที่จะพุ่งชนฮอนด้าสีดำซึ่งตามมาข้างหลัง ตู้ม! สถานการณ์ในตอนนี้น่าเป็นห่วงไม่น้อย อเล็กซ์เหยียบคันเร่งอีกครั้งและขับออกไปโดยไม่ลังเล มิเชลล์เองได้สติอีกครั้ง “มันเป็นอุบัติเหตุนะ เมื่อกี้รถนายเพิ่งจะถูกชน แล้วนายจะหนีทำไมกัน? หรือว่ากลัวเป็นฝ่ายถูกจับข้อหาชนคนอื่นแล้วหนี?” อเล็กซ์กล่าวคำพูดด้วยสายตาสุดเย็นชา “พวกมันตามเรามา” อเล็กซ
“คุณคิดว่าผมอยากรอจริง ๆ เหรอ? ค่าผ่าตัดอย่างน้อยก็ต้องหมดเกือบครึ่งล้าน อีกทั้ง ความเสี่ยงต่อการผ่าตัดก็สูงไม่น้อยเลยด้วย โอกาสรอดคือห้าสิบห้าต่อห้าสิบ ผมอาจจะตายระหว่างผ่าตัดก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะ? อีกอย่าง คุณเองก็รู้ว่าสภาพครอบครัวของผมเป็นยังไง ถ้ามีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นกับผม ทั้งแม่แล้วก็น้องสาวผมจะอยู่กันยังไง? แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความแล้ว ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ผมมีพัสดุอีกเยอะต้องส่งตอนเที่ยงด้วย” เจ้าของร้านพลันถอนหายใจ พร้อมกับดวงตาเต็มซึ่งไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง “เดี๋ยวก่อน!” อเล็กซ์พูดขึ้น "นายเชื่อใจฉันไหมล่ะ?" ชายหนุ่มพลันนิ่งไปเกือบสามวินาที ทันใดนั้น เขาก็พลันเผยยิ้มและพยักหน้า "ฉันเชื่อ ในฐานะเพื่อนของคุณโยเวล คุณคงไม่มีเวลาว่างมาหลอกลวงคนต่ำต้อยอย่างผมหรอก” อเล็กซ์ยืนขึ้น “งั้นก็เชื่อใจฉัน แล้วฉันจะช่วยนายเอง” อเล็กซ์เดินเข้าไปและกางนิ้ว พร้อมกับวางนิ้วหนึ่งไว้เหนือขมับของชายหนุ่ม ตรงนั้นคือตำแหน่งของเนื้องอกซึ่งอยู่ใต้กะโหลกศีรษะของลุค ทันใดนั้น นิ้วของอเล็กซ์ก็ส่องประกายราวกับสีของหยก รา
ในระหว่างนั้น ชายหนุ่มที่สำลักบะหมี่ก่อนหน้าก็หันกลับลงไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง "คุณหนูโยเวล... นักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย? จริงเหรอ?” ทันใดนั้นเอง ใครสักคนก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาและค้นหาชื่อของนักร้องสาวแห่งแคลิฟอร์เนีย ทว่า ทั้งรูปภาพและผลลัพธ์มากมายต่างก็ปรากฏขึ้นมา อันที่จริง มิเชลล์มักจะทำตัวเป็นเป้าสายตาของสาธารณะชน และไม่ได้พวกใจพวกปาปารัสซี่เท่าไหร่นัก อีกทั้ง คนในตระกูลโนเวลเองก็ไม่ได้สนใจในตัวมิเชลล์ด้วยเช่นกัน เธออยากจะเป็นอะไรก็เป็นไป ด้วยเหตุนั้น มันจึงเป็นเรื่องง่ายไม่น้อยเลยที่จะมองหาคนอย่างเธอ ไม่นานนัก ใครสักคนก็ตะโกนขึ้นมา... "มันเป็นความจริง! ทั้งหมดคือเรื่องจริง! เธอคนนี้คือคุณหนูโยเวลตัวจริงเสียงจริง คุณมิเชลล์ โยเวลยังไงล่ะ!” “ใช่แล้ว! ยังไงก็เถอะ คุณหนูโยเวลอุตส่าห์มากินสตูว์ถึงที่ร้านทั้งที ฉัน... ฉันชักอยากจะขอเธอถ่ายรูปหน่อยแล้วสิ” “นายตาบอดหรือยังไงกัน? ดูเธอสิ เธอกำลังโกรธอยู่นะ ทำไมถึงอยากเข้าไปขอเธอถ่ายรูปตอนนี้กันล่ะ?” หลังจากที่ชายคนนั้นตบตัวเองไปมากกว่าสิบครั้ง แจ็คก็พูดขึ้น "รู้จักผมด้วยงั้นเหรอ?" ชายคนนั้นพยักหน้า แจ็คถามขึ้นอีก
อันที่จริง อเล็กซ์ต้องการที่จะรักษาแจ็คก็เพราะเขาช่วยตนในเรื่องเอกสาร ทันใดนั้น อเล็กซ์เผยยิ้มและกล่าวคำพูดออกมา “คุณเทรนต์ครับ การช่วยชีวิตใครสักคนอาจต้องใช้โชคชะตา แต่ถ้ามีกำลังสงสัยอะไรอยู่ ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสามารถไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลได้ตลอดเวลาเลย แต่ยังไงเสีย คุณคงต้องรีบหน่อยแล้วแหละ เพราะนิ่วในไตของคุณตอนนี้อยู่ในตำแหน่งที่แย่มาก คุณอาจะติดเชื้อได้เลยล่ะ" ทว่า ทุกคนก็พลันหัวเราะออกมาอีกครั้ง 'นายไม่ได้ใช้เครื่องอัลตราซาวนด์หรือเครื่องเอ็กซ์เรย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้ง ชีพจรก็ไม่ได้ตรวจ นายจะรู้ได้ยังไงกันว่านิ่วในไตนั้นอยู่ในตำแหน่งดีหรือร้าย? นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์หรือยังไงกัน?' สำหรับคราวนี้ มิเชลล์เองก็พลันเบิกตากว้างเช่นกัน เธอเอาแขนพาดหน้าอกด้วยความสงสัย “อเล็กซ์ นายมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ด้วยงั้นเหรอ?” อเล็กซ์ไม่สนใจเธอเลย ทว่า ไม่นานนัก แจ็คก็พูดขึ้น "คุณร็อคกี้เฟลเลอร์ครับ ผมเชื่อใจคุณ” ยังไงเสีย อเล็กซ์เองก็ไม่ได้จะใช้มีดผ่าตัดอยู่แล้ว ดังนั้น แจ็คจึงรู้สึกว่ามันก็คุ้มที่จะลอง อเล็กซ์ไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานนัก เขาก็วางมือเอาไว้บนแผล พร้อมกับสอดพลังฉีเข้าไปในร่างกายของ
ผู้หญิงที่พูดขึ้นนั้นนั่งอยู่ข้างหลังอเล็กซ์ ดูเหมือนว่าเธอจะอายุราวสามสิบปีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นได้ยินการสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เข้ามานั่งใกล้ ๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นนั่งฟังพวกเขาตั้งแต่ตอนที่มิเชลล์บอกว่าเธอจะจับพริสซิลล่ามาอยู่บนเตียงของอเล็กซ์ ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกดูถูกเหยียดหยามทั้งสองอย่างถึงที่สุด อันที่จริง เธออยากจะเรียกตำรวจมาจับพวกเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่า เธอก็รู้สึกโล่งใจที่อเล็กซ์ปฏิเสธข้อเสนอไป ต่อมา เธอก็ได้ยินทั้งสองพูดถึงบริษัทเธาซันด์ลีฟ เธอได้ยินมิเชลล์พูดว่าตัวเองนั้นสามารถขอใบอนุญาตได้เลยเพียงแค่เอ่ยวาจา และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นก็แทบจะพ่นสตูว์เนื้อรสเผ็ดออกมาทางปาก อันที่จริง เธอเองก็เพิ่งรู้เรื่องเกี่ยวกับบริษัทเธาซันด์ลีฟ สามีของเธอขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงตัวแทนจำหน่ายรายย่อยที่ทำงานภายใต้แฟรนไชส์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย แต่เธอก็รู้ดีว่าเจ้าของบริษัทเธาซันด์ลีฟก็คือตระกูลโยเวล ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย อีกทั้ง บริษัทยังได้รับการโฆษณาเป็นอย่างดีอีกด้วย ทว่า สามีของเธอก็ได้แจกจ่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ตั้งหลายร
อันที่จริง เบียทริซเองก็กลัวว่าตัวเองจะไม่สามารถเอาชีวิตรอดในมหาวิทยาลัยได้หากจะต้องเปิดโปงพวกเขาทั้งสอง ทันทีที่ทั้งคู่มาถึงลานจอดรถ อเล็กซ์ก็ตระหนักได้ว่ามิเชลล์นั้นซื้อรถสปอร์ตสุดหรูแอสตันมาร์ตินสีแดงให้กับตน โครงสร้างสุดเท่ของรถสปอร์ตคนนี้ค่อนข้างทันสมัย แต่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ขับผ่านถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่ออย่างแน่นอน “โทษทีนะ พอดีฉันหารุ่น M8 ที่นายต้องการไม่ได้เลยน่ะ ตอนนี้ไม่มีรุ่นนั้นเหลืออยู่ในแคลิฟอร์เนียเลยด้วย ยังไงก็เถอะ นายก็ใช้คันนี้พลาง ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวถ้าของเข้าแล้ว ฉันจะไปซื้อรุ่น M8 มาคืนให้” 'ดูเธอสิ ช่างมีน้ำใจเหลือเกิน' เธอสามารถซื้อรถหรูราคาหลายแสนได้ราวกับว่าซื้อลูกโป่ง “ก็ได้!” อเล็กซ์ไม่เรื่องมากกับเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทั้งสองเดินทางไปยังร้านอาหารสตูว์รสจัดจ้าน มิเชลล์นึกประหลาดใจ “นายอยากทำกับฉันแบบนี้จริง ๆ เหรอ?” อเล็กซ์ตอบกลับ “ตอนแรกฉันจะรักษาพริสซิลล่า แต่เธอดันกลับบ้านไปก่อน ยังไงเสีย ตอนนี้เรามาสั่งอะไรง่ายๆ กินกันดีกว่า” “นี่นายกำลังพยายามตามจีบพริสซิลล่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ฉันช่วยนายได้นะรู้ไหม? ฉันทำให้เธ
“ดาวมหาลัยชนชั้นกลาง... เบียทริซ แอสเส็กซ์งั้นเหรอ?” “เธอคือ...” ทั้งแอนนาลิสและพริสซิลล่าต่างก็จ้องไปที่เบียทริซอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้น พวกเขาก็หันไปหาอเล็กซ์ จากท่าทีของทั้งสอง พวกเขาต่างก็รับรู้มาว่าอเล็กซ์เป็นแฟนของมิเชลล์ ไม่อย่างนั้น ทั้งสองจะรู้จักและจูบกันได้ยังไงล่ะ? ในตอนนี้ พวกเขาต่างก็คิดว่ามิเชลล์คงจะต้องตะคอกและทุบตีอเล็กซ์อย่างแน่นอน แม้แต่เบียทริซเองก็คิดเช่นนั้น เบียทริซเรียกอเล็กซ์ว่าพี่เขยก็เพื่อเปิดเผยตัวตนของเขาเอง อีกทั้ง เบียทริซเองก็ต้องการบอกกล่าวให้มิเชลล์รับรู้ว่าว่าอเล็กซ์เป็นชายที่แต่งงานแล้ว และแน่นอน เบียทริซในตอนนี้กำลังเล่นกับความรู้สึกของมิเชลล์อยู่ จากที่เบียทริซรู้เรื่องราวของมิเชลล์มา มิเชลล์จะต้องโมโหและทำร้ายอเล็กซ์อย่างแน่นอน แต่ทว่า กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย มิเชลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่นานนัก เธอก็กล่าวคำพูดขึ้น “เบียทริซ แอสเซ็กซ์ เธอเป็นน้องสะใภ้ของอเล็กซ์หรือยังไงกัน? เธอน่าจะบอกให้เร็วกว่านี้นะ! ยังไงก็เถอะ ถ้ามีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ ก็เอ่ยชื่อของฉันออกไปได้เลย แล้วฉันจะมาปกป้องเธอเอง!” "อะไรก
สตีเวนเผยยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับคำรามออกมา เขาปลุกพละกำลังภายในที่น่ากลัวและชั่วร้ายออกมาอย่างฉับพลัน พร้อมกับแสงสีแดงที่กะพริบระยิบระยับในดวงตา ระหว่างที่มิเชลล์กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไปที่สตีเวน เขาก็พลันตอบโต้การโจมตีด้วยฝ่ามือของตัวเองเช่นกัน ตู้ม! เสียงระเบิดดังก้องกังวานไปทั่วห้องโถง สตีเวนเองก็ได้เก็บซ่อนพลังพิเศษไว้ที่ในฝ่ามือของตัวเอง พลังนั้นพุ่งทะลุผ่านฝ่ามือของมิเชลล์ไป มันเป็นทักษะอันทรงพลังในฐานะจ้าวแห่งเงามรณะเลยก็ว่าได้ หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะแห่งการล่อลวง เพราะเหตุนั้น สตีเวนจึงไม่สนใจการโจมตีมิเชลล์มากนัก เพราะเขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วตนจะต้องชนะอย่างแน่นอน ในตอนนั้นเอง เขาพลันดีดนิ้วและกล่าวคำพูดขึ้นมา “หยุด!” ทว่า ทักษะแห่งชัยชนะทั้งหมดของสตีเวนกลับไม่มีผลอะไรเลยในวันนี้ มิเชลล์พุ่งเข้าใส่สตีเวนด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรงและเฉียบแหลม เธอยกขาขึ้นแล้วกระแทกไปยังศีรษะของสตีเวนอย่างแรง "อะไรกัน?" อึก! สตีเวนล้มลงไปนอนกับพื้น เขาพลันกลอกตาไปมาและรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ทันทีที่สติเริ่มจางหาย ความคิดสุดท้ายของสตีเวนก็พลันปรากฏขึ้นมาในหัว “มันจะเป็นไปได้ยังไง
ตุ๊บ! ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของฝูงชน มิเชลล์ก็กระโดดข้ามราวขึ้นไปบนเวทีประลอง ระหว่างที่มิเชลล์ขึ้นไปยืนบนเวทีประลอง หน้าอกขนาดมหึมาของเธอก็พลันกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ทุกคนต่างตกตะลึงและเบิกตากว้าง โดยเฉพาะเหล่านักเรียนชาย พวกเขาต่างก็ยิ่งอิจฉาอเล็กซ์มากกว่าเดิมทันทีที่เห็นเช่นนั้น มิเชลล์รีบคว้าตัวพริสซิลล่าและลากเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง มิเชลล์จ้องไปยังชายวัยกลางคนจอมหยิ่งผยองและกล่าวคำพูดขึ้น “ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้ของนายเอง!” พริสซิลล่าในตอนนี้ไม่กล้าที่จะอยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากลานประลอง พร้อมกับกุมมือตัวเองด้วยความหวาดกลัว อเล็กซ์ตบไหล่ของพริสซิลล่าและเผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น “เธอทำดีมาก ฉันบอกแล้วว่าเธอต้องชนะ” “ฉัน... ฉันชนะการประลองจริง ๆ เหรอ?” “...” หลายต่อหลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มจ้องมองไปที่พริสซิลล่าและกลอกตา แอนนาลิสเองก็ขมวดคิ้วและจ้องไปยังพริสซิลล่าเช่นกัน เธอไม่เข้าใจความสามารถที่ระเบิดออกมาอย่างกะทันหันของพริสซิลล่าเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้น เธอก็คิดเองเออเองว่าเทรเวอร์น่าจะใช้พลังของตัวเองมากเกินไป แอนนาลิสคิดหาวิธีอื่
“พูดบ้าอะไรของเธอกัน?!” ระหว่างกำลังคิดว่านี่คงเป็นแผนของชมรมซาตานที่ต้องการส่งใครสักคนขึ้นมาบนเวทีประลอง เทรเวอร์ก็รู้สึกโกรธไม่น้อย ทันใดนั้น เทรเวอร์ก็พุ่งเข้าไปหาพริสซิลล่าและฟาดฝ่ามือใส่เธอ เทรเวอร์ต้องการสยบพริสซิลล่าด้วยฝ่ามือ นั่นก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงพละกำลังและความยิ่งใหญ่ในฐานะประธานชมรมมังกรหยก "อ๊าย!" พริสซิลล่าพลันกรีดร้องและยกมือขึ้นมาตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ทันใดนั้น กระแสพลังฉีพลันพุ่งออกมาจากร่างกายของเธอ ตุบ! เทรเวอร์พลันฟาดลงไปยังข้อมือพริสซิลล่า ทว่า เขากลับสัมผัสได้ถึงกระแสพลังจำนวนมหาศาลพุ่งตรงเข้ามา ฟิ้ว! ทันใดนั้น ร่างกายของเทรเวอร์ก็ลอยละล่องขึ้นไปกลางอากาศเหนือเวทีประลองและล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง พร้อมกับผมที่ตั้งชูอยู่เหนือศีรษะ ร่างกายของเทรเวอร์สั่นเทา เขาอ้าปากค้างราวกับมีหมอกพิษทมิฬลอยออกมาจากปาก ทุกคนในห้องโถงต่างก็เงียบไปด้วยความตกใจ พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยด้วยซ้ำ มิเชลล์เองก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองดูสถานการณ์ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ดวงตาของแอนนาลิสพลันเบิกกว้าง เธออ้าปากค้างทันใด เธอแทบจะไม่อยากเชื่อเหตุการณ์ท