“โอ้โห นี่เป็นไร่ชาแห่งใหม่เหรอคะ”วราลีมองสถานที่เบื้องหน้าอย่างตกตะลึง หญิงสาวเห็นคนงานผู้ชายหลายกลุ่มกำลังกระจายตัวกันไปยังที่ต่าง ๆ หลายคนเริ่มขุดหลุมเพื่อที่จะนำต้นกล้าที่เตรียมไว้ลงไปปลูก พื้นที่ตรงหน้านี้ถึงแม้จะไม่กว้างขวางเท่าไร่ชาสิงหราช แต่ก็เหมาะสำหรับปลูกชา เพราะอากาศที่เย็นสบาย อุณหภูมิต่ำ ใกล้ๆ มีแหล่งต้นน้ำลำธาร น้ำเย็นใสแจ๋ว เธอไม่คิดว่าพื้นที่ห่างไกลจะมีสถานที่สวยงามแบบนี้“ใช่” สิงหราชมองหญิงสาวตรงหน้าที่หันมองทางโน้นทีทางนี้ทีด้วยความสนใจใคร่รู้“ฉันไม่นึกเลยว่าพื้นที่ห่างไกลกันดาร เดินทางลำบากจะมีสถานที่แบบนี้ด้วย” เขายิ้มมุมปากเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดขึ้นมา ความจริงที่นี้ไม่ใช่พื้นที่กันดารหรอก ก็เป็นพื้นที่ธรรมดาอยู่คนละอำเภอกับไร่ชาสิงหราชเท่านั้น ใกล้ ๆ กันนี้ยังมีหมู่บ้านชาวเขา คนงานเกือบทั้งหมดในไร่ก็เป็นคนจากหมู่บ้านตีนเขานี้ สถานที่นี้เขาซื้อมานานแล้ว และเริ่มทำไร่ชาเมื่อปีก่อน บันไดดินก็ทำเสร็จหมดแล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูฝนเขาจึงเริ่มเกณฑ์คนงานมาปลูกชา เพราะหลังจากปลูกชาแล้วรากของชาจะกระทบกับอากาศที่ค่อนข้างเย็น ซึ่งจะสามารถเจริญเติบโตได้ดีและไม่ประ
สิงหราชขับรถด้วยความรวดเร็ว ไม่นานก็มาถึงบ้านพัก เขาดับเครื่องยนต์แล้วเดินดุ่ม ๆ เข้าบ้านโดยไม่สนใจว่าคนที่นั่งรถกลับมาด้วยจะมีสีหน้าอย่างไร ชายหนุ่มพุ่งตัวเข้าไปในห้องนอน หยิบผ้าขนหนูออกจากตู้แล้วเดินลิ่วเข้าห้องน้ำปัง!เสียงปิดประตูดังสนั่น วราลีที่เดินตามมาได้แต่ถอนหายใจด้วยความระอา ตลอดเวลาที่ผ่านมาอีกฝ่ายมีอาการผีเข้าผีออกกับเธอตลอด เดี๋ยวก็อยากหลีกหนีให้ห่าง เดี๋ยวก็หาเรื่องมาตอแย เดี๋ยวไล่ไปทางโน้น เดี๋ยวเรียกให้ตามมาทางนี้ จนตอนนี้เธอเริ่มสับสน และคิดว่าอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของเขาที่มีต่อเธอมันเกิดจากอะไรหญิงสาวเดินไปยังระเบียงบ้านก่อนนั่งลง เพราะยังไม่อยากเข้าไปรองรับอารมณ์แปรปรวนของผู้ชายด้านใน เธอจึงนั่งเงียบ ๆ ครุ่นคิดอะไรไปพลาง ๆ“อ้าวคุณลี ทำไมมานั่งตากยุงตรงนี้ครับ”เสียงผู้ชายดังขึ้น วราลีได้สติเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นพายัพยืนอยู่ ชายหนุ่มอยู่ในชุดไปรเวทธรรมดา มือซ้ายถือถุงผ้าใบใหญ่ มือขวามีถุงกับข้าวสองสามถุง“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ลีร้อนเลยออกมานั่งเล่น...ว่าแต่ คุณพายัพหิ้วกับข้าวมาแบบนี้ เอามาให้คุณสิงห์เหรอคะ”“ใช่ครับ พ่อเลี้ยงสั่งมา” พายัพชูถุงกับข้าวให้ดู ก่อนเดินมา
วราลีหยิบมุ้งมากางอย่างทะมัดทะแมง เธอโยงเชือกไปสี่มุม เมื่อกางเสร็จเรียบร้อยก็หันหลังจะออกไปจัดการที่นอนตัวเองบ้าง"เดี๋ยว จะไปไหน" สิงหราชที่ยืนมองหญิงสาวกางมุ้งให้ถามขึ้น"ฉันก็จะไปปูที่นอนตัวเองไงคะ" "ไม่ต้องปู""หา?""ฉันบอกว่าไม่ต้องไปปู คืนนี้นอนในห้องนี้นี่แหละ นอนกับฉัน"วราลีเบิกตาโต เธอเผลอถอยหลังไปหนึ่งก้าว ท่าทางตกอกตกใจทำให้สิงหราชหลุดขำ“ตกใจอะไร คิดไปถึงไหนยายหนูผี” เขาเดินไปที่เตียง หยิบผ้านวมขึ้นมาแล้วก้มตัวปูผ้านวมที่พื้นข้างเตียง ปูแล้วก็ล้มตัวลงนั่ง ยืดแขนไปหยิบหมอนมาหนึ่งใบ “ยืนบื้ออยู่อีก ไปอาบน้ำซิ แล้วมานอน ฉันง่วง”“คะ ค่ะ”วราลีรับคำตะกุกตะกัก เธอวิ่งออกไปข้างนอก หยิบกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองกลับเข้าไปด้านใน เปิดกระเป๋าหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาก่อนจะโยนมันไว้มุมหนึ่งของห้องสิงหราชมองท่าทางเลิกลั่กของหญิงสาวก็ยกยิ้มมุกปาก เขามองเธอวิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำ เสียงประตูห้องน้ำดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงน้ำไหล ชายหนุ่มล้มตัวลงนอน เหม่อมองเพดานเห็นว่าทำงานหนักทั้งวัน ปวดหลังปวดเอวหรอก เขาถึงสละเตียงนอนนุ่ม ๆ ให้ชายหนุ่มหลับตาลงช้า ๆ ก่อนเข้าสู่ห้วงนิทรา...เช
บรรยากาศในรถมีแต่ความเงียบ วราลีหันหน้าไปทางกระจก มองวิวนอกรถที่ไม่มีอะไรนอกจากต้นไม้รก ๆ และพงหญ้า ฝ่ายสิงหราชก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถ สองตามองไปข้างหน้าไม่พูดจากวนอารมณ์อีกฝ่ายเหมือนเช่นเคย ทั้งสองต่างคนต่างมีเรื่องในใจให้ขบคิดไม่นานก็มาถึงไร่ชา“สวัสดีครับพ่อเลี้ยง” ขาก้าวลงจากรถไม่ทันไร ก็มีชายหนุ่มหน้ามนเดินมาหา สิงหราชเลิกคิ้ว เขาไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ อีกอย่าง ในไร่ชาใหม่ที่เขายังไม่ได้เปิดให้คนนอกเข้าชม ผู้ชายตรงหน้านี้เข้ามาได้อย่างไรสิงหราชไม่ได้ตอบกลับ เขากลับหันไปถามผู้จัดการไร่ที่กำลังเดินมา“นายให้คนนอกเข้ามาที่ไร่ได้ยังไง ใครอนุญาต?”สายตาเขาเต็มไปด้วยความเข้มงวด และไม่พอใจ ผู้จัดการไร่ที่กำลังเข้ามารีบทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย“คือว่า...เอ่อ คุณนาตยาอนุญาตครับ ท่านบอกว่าจะมีคณะทัวร์ของเพื่อน ๆ เข้ามาชมไร่เป็นกรณีพิเศษ คุณคนนี้เป็นคนดูแลคณะทัวร์ ชื่อ เรวัต ครับ” ผู้จัดการไร่พูดรัวเร็วทีเดียวจบ ก่อนผายมือแนะนำ เรวัตก้มตัวอย่างมีมารยาท“สวัสดีครับ ผมเรวัต”“อืม” สิงหราชมองผู้จัดการไร่ สุดท้ายก็พยักหน้าขรึม ๆ “ถ้าแม่ฉันเป็นคนอนุญาต ก็ไม่มีปัญหา”“แล้วพ่อเลี้ยงจะให้ใครเป็นคนพาคณะทัว
“มะ ไม่ใช่จ้ะ ฉันไม่ได้เป็นแฟนพ่อเลี้ยง ฉันก็เป็นคนงานคนหนึ่งถึงได้มานั่งปลูกชาอยู่นี่ไงจ๊ะ”“เอ๋ ไม่ใช่แฟนเหรอคะ แต่พวกป้า ๆ เขายังบอกว่า คุณลีกับพ่อเลี้ยงพักที่เดียวกัน บ้านเดียวกันด้วยนะคะ ลูกจ้างพักกับพ่อเลี้ยงได้หรือคะ”“เอ่อ...” วราลีพูดไม่ออก นี่เธอกลายเป็นหัวข้อสนทนาของเหล่าคนงานตั้งแต่เมื่อไร แล้วพวกเขารู้ได้ยังไงว่าเธอพักที่เดียวกับสิงหราช “เอ๊ะ ฉันยังมีงานที่พ่อเลี้ยงใช้ให้ทำอีก ต้องขอตัวก่อนนะจ๊ะ”วราลีรีบลุกขึ้น ปัดก้นตัวเอง ก่อนจะหมุนตัวเดินไปทันที ปล่อยให้เด็กสาวที่ตั้งคำถามนั่งมองพลางยกมือขึ้นเกาหัว“ปากคุณลีบอกว่าไม่ใช่...แต่ทำไมหน้าแด๊งแดง” วราลีเดินหนีออกมาจากตรงนั้นได้ก็ถอนหายใจยาวเหยียด หญิงสาวเดินตามทางเรื่อย ๆ พื้นที่ที่เธอเพิ่งปลูกชาเสร็จ ดูเหมือนจะเป็นพื้นที่พิเศษที่ไว้ปลูกชาพันธุ์ใหม่ ส่วนชาของไร่ที่ปลูกไว้ขายและส่งออกนั้นโตหมดแล้วเรื่องเมื่อเช้าทำให้เธอรู้สึกอึดอัด ส่วนเขาก็คงไม่ต่างจากเธอ ระหว่างเดินทางมาที่ไร่ ในรถจึงมีแต่ความเงียบ ตอนนี้หญิงสาวกำลังสับสน ใจหนึ่งเธอก็อยากจะกลับกรุงเทพ การที่ได้กลับมาอยู่ใกล้ชิด กับผ
“คะ คุณ ป่วยหรือเปล่า” เธอมองเขาอย่างตกใจ รีบสะบัดมือออกจากเขา รู้สึกเหมือนผู้ชายตรงหน้าไม่ใช่คนที่เธอรู้จัก“ใครป่วย” สิงหราชได้สติ เขาทำเสียงขึงขัง “เธอไปยืนคุยกับผู้ชายแปลกหน้าได้ยังไง แล้วนี่มันเวลางานยังไม่ถึงห้าโมง กลับมาเดินเตร็ดเตร่”“ฉันปลูกชาเสร็จแล้ว...” พอได้ยินเขาตำหนิก็ทำหน้าบึ้ง “ไม่ให้ฉันพักบ้างเลยเหรอคะ แล้วผู้ชายที่ฉันคุยด้วยก็เป็นแขกของไร่เราไม่ใช่เหรอคะ ฉันก็ช่วยต้อนรับ มีอะไรที่คุณไม่พอใจ”“มะ ไม่มี!”“เอ๊ะ ไม่มีแล้วคุณมาตะคอกฉันทำไม” วราลีมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ “งั้นฉันจะไปทำงานต่อ พอใจหรือยังคะ”หญิงสาวพูดจบก็ตั้งท่าจะเดินหนี แต่กลับถูกรั้งข้อมือไว้อีกครั้ง“เดี๋ยว”“มีอะไรอีกคะ ฉันจะรีบไปทำงานเดี๋ยวหาว่าอู้อีก”“มะ ไม่ต้องไปแล้ว นั่งลง”“หา”“ฉันบอกให้นั่งลง” ชายหนุ่มพูดพลางฉุดหญิงสาวลงนั่ง “อยากพักไม่ใช่เหรอ...”วราลีหันมองใบหน้าด้านข้างของเขา ก่อนจะหันไปมองวิวตรงหน้าเงียบ ๆ ทั้งสองปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปช้า ๆ บรรยากาศรอบ ๆ เงียบสงบครืด...ครืดเสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของสิงหราชสั่น ชายหนุ่มหยิบขึ้นมาแล้วกดรับ“ฮัลโหล...อืม นายจัดการดูแลต่อเลย ฉันไม่ว่
เป็นครั้งแรกที่วราลีได้ยินชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอมองเขา เห็นสายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรักก็รู้สึกมึนงง ชายหนุ่มปากร้าย นิสัยไม่ดีที่เธอพบเจอมาตลอดหนึ่งเดือนหายไปไหน“เอ่อ...คือ”“ตอบพี่มาสิครับ”วราลีดันอกเขา แล้วลุกขึ้น มองเขาที่นอนตะแคงมองเธอยิ้ม ๆ ก็กัดริมฝีปาก“มะ ไม่รู้ ฉะ ฉันไปทำงานก่อนนะคะ” วราลีตอบอย่างตะกุกตะกัก พอพูดจบหญิงสาวก็หันหลังวิ่งไป ท่าทางเหมือนวิ่งหนีอะไรสักอย่างชายหนุ่มมองแผ่นหลังบอบบางที่ห่างไปไกล สุดท้ายก็ยกมือขึ้นลูบริมฝีปากตัวเองเบา ๆตะวันใกล้ตกดิน วราลีเดินไปยังที่จอดรถช้า ๆ นึกภาพตอนประจันหน้ากับสิงหราชไม่ถูก เธอหลบหน้าเขามาครึ่งวันแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องกลับพร้อมกัน ทำตัวไม่ถูกจริง ๆคิดถึงตอนถูกเขาปล้นจูบก็อดหน้าร้อนไม่ได้ หญิงสาวยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองเบา ๆ แตะแล้วก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า พอเดินไปถึงรถ ก็เห็นชายหนุ่มยืนกอดอกรออยู่ เธอก้มหน้างุด เดินผ่านเขา แล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเงียบ ๆ สิงหราชก้าวขาขึ้นรถบ้าง เขาสตาร์ทรถแล้วขับออกจากไร่ มุ่งหน้ากลับที่พัก ตลอดทางมีแต่ความเงียบหมับ!ฝ่ามืออุ่นร้อนทาบทับมือของวราลีที่วางไว้บนต้นขาตัว
วราลีสะบัดหน้า ก่อนเอื้อมมือไปปิดฝักบัวหลังอาบน้ำเสร็จ หญิงสาวคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันตัว แล้วเปิดประตูห้องน้ำ เปิดมาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นสิงหราชยืนรออยู่"ว๊าย!" เธอยกมือขึ้นกอดอกตัวเอง "คะ คุณเข้ามาได้ยังไง ฉะ ฉันล็อกประตูห้องแล้วนะ!"ชายหนุ่มไม่ตอบ กลับชูมือที่ถือพวงกุญแจไว้หน้าระรื่นวราลีถลึงตามองเขา เขากล้าทำถึงขนาดนี้ ตั้งใจทำให้เธออับอายหรือยังไง!"เป็นอะไรหืม โกรธอะไรพี่..." เขายื่นใบหน้ามาใกล้"อย่าเพิ่งมาตอแยตอนนี้ได้ไหมคะ ฉันขอเปลี่ยนชุดก่อน" เธอรีบตัดบทเขา ทั้งอายทั้งโกรธสิงหราชมองหญิงสาวที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูพันอยู่ ก็หน้าแดงถึงใบหู เขารีบหันหลังให้"คุณสิงห์ทำอะไร""ก็รอหนูลีเปลี่ยนชุดไง เร็วสิ"วราลีอยากจะกรี๊ดใส่หน้าเขา หญิงสาวผลักแผ่นหลังชายหนุ่มแล้วไล่"บ้าเหรอไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!"ปัง!เมื่อผลักผู้ชายหน้ามึนออกไปจากห้องได้แล้ว วราลีก็ยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองไม่ดีเลย แบบนี้เธอแย่แน่ ๆ ไหนว่าจะไม่หวั่นไหวไง วราลี!เมื่อหญิงสาวเปิดประตูห้องออกมา ก็พบว่าชายหนุ่มยังคงนั่งรอเธออยู่ โดยที่ยังไม่ได้กินข้าว หญิงสาวถอนหายใจ เดินเข้าไปนั่งโต๊ะ แล้วเริ่มตักข้าวเข้าปาก
สิงหราชมองเด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนจ้องหน้าอยู่"สิงห์ นี่หนูลี น้องมาเที่ยวที่ไร่เราสองอาทิตย์ สิงห์ดูแลน้องให้แม่หน่อยนะ"เสียงมารดาดังขึ้นข้างหู เขาขมวดคิ้ว ก่อนที่ยายเด็กตัวกลม แก้มป่องจะเดินเข้ามาใกล้แล้วกอดหมับเข้าที่แขนของเขา"พี่สิงห์หล่อจัง หนูลีชอบพี่สิงห์"เด็กแก่แดด...เขาคิดอย่างไม่ชอบใจ นึกอยากสะบัดแขนที่ยายเด็กอวบกอดเกี่ยวไว้แน่น แต่เพราะตอนนี้มีผู้ใหญ่สองคนกำลังยืนมองอยู่ จึงได้แต่หางคิ้วกระตุก"หนูลีอย่าไปเกาะพี่เขาแบบนั้นซี" เสียงมารดาของวราลีปรามขึ้นบ้าง แต่ลูกสาวตัวน้อยหาฟังไม่ ดูเหมือนวราลีจะชอบพี่ชายคนนี้มาก เพียงแค่เจอหน้ากันครั้งแรก อีกฝ่ายก็ตามเกาะแขน เกาะติดสิงหราชแจ"ปล่อยเด็ก ๆ เล่นกันเถอะวรรณา เราไปดื่มชากันทางโน้นดีกว่า" มารดาสิงหราชเอ่ยขึ้น ก่อนหันมาบอกลูกชายของตน "สิงห์พาน้องไปเดินเล่นนะ ทำตัวดีกับน้องด้วยล่ะ""ครับ"หลังจากลับสายตาของผู้ใหญ่ สิงหราชสะบัดแขนที่ถูกเกาะไว้ทันที ส่งผลให้วราลีล้มไปกองที่พื้น"โอ๊ะ!"เด็กหญิงวราลีร้องอย่างตกใจ มองพี่ชายคนใหม่อย่างตกตะลึง"อย่ามาเกาะกันได้ไหม รำคาญ" พูดจบก็เดินจากไปทันที"พี่สิงห์! รอหนูลีด้วย" วราลีรีบลุกขึ้น ยก
หญิงสาวที่กำลังกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวสิงหราชไม่รู้เลยว่ามีคนพุ่งเป้าทำร้าย และก็ปลอดภัยในคราวเดียว วันนี้สิงหราชจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ภายในครอบครัว เป็นการเปิดตัวว่าเขากำลังคบกับวราลีอยู่ ชายหนุ่มกุมมือหญิงสาวไว้ตลอดการแนะนำตัว คนในครอบครัวชายหนุ่ม มี สองสามีภรรยา กิตติคุณ และเรวดี ที่สิงหราชแนะนำว่าเป็น น้า และ อา ทั้งคู่มีลูกชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติผู้น้องของสิงหราช ชื่อชานนท์ ชายหนุ่มวัยสามสิบปีที่เป็นผู้บริหารโรงแรมแกรนด์ไทเกอร์ เชียงราย“แฟนสวยนะสิงห์ จะแต่งกันเมื่อไรล่ะ” กิตติคุณถามหลานชายยิ้ม ๆ“คุณแม่กำลังดูฤกษ์ให้ครับ ก็คงจะเร็วที่สุด เพราะผมรอไม่ไหวแล้ว...” เขาพูดจบก็หันไปมองหญิงสาวที่ก้มหน้างุด สายตาเต็มไปด้วยความรักใคร่“คนนี้ฉันถูกใจมาก ๆ เลยล่ะกิตติ” นาตยาบอกยิ้ม ๆ “ความฝันที่ฉันจะได้อุ้มหลานใกล้จะเป็นจริงเสียที”“ยินดีด้วยนะครับพี่นิตย์ ยินดีด้วยนะหลานชาย หลานสะใภ้”“ถ้าได้วันแล้ว บอกตานนท์เนิ่น ๆ นะจ๊ะ จะได้เตรียมห้องจัดเลี้ยงที่โรงแรมของเรา” เรวดีพูดบ้าง สายตามองวราลีด้วยความเอ็นดู “หลานชายคนโตก็เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว แต่ลูกชายเรานี่สิ ไม่รู้เมื่อไรจะมีแฟนเป็นตัวเ
โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเกี่ยวกระหวัดกัน ทั้งคู่เปลือยกายล่อนจ้อน ฝ่ายหญิงพลิกตัวขึ้นอยู่ด้านบนและกำลังขับเคลื่อนอารมณ์ปรารถนาอย่างเมามัน“อ่า คุณยังเด็ดไม่เปลี่ยนเลยดีดี้...” เสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความสุขสมดังขึ้น ฝ่ามือสองข้างจับบั้นเอวหญิงสาวที่กำลังขับเคลื่อนบนลำตัวอย่างแนบแน่น“คุณก็ยังแข็งแรงเหมือนเดิม...” ดลฤดีบอกเสียงแหบเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังติดต่อกันยาวนานหลายชั่วโมง ผสานเสียงครวญครางเต็มไปด้วยความสุขสม ชายหญิงสองคนเสพสมกามารมณ์ถึงพริกถึงขิงสมกับที่โหยหากันมานาน...เมื่อพายุพิศวาสโหมกระหน่ำและพัดผ่านไป ดลฤดีนอนคว่ำหน้า เปิดเปลือยแผ่นหลัง มีเพียงผ้าห่มผืนบางที่คลุมบั้นเอวไว้ ทรวดทรงองค์เอวไร้ที่ติ ทำให้ประสิทธ์ที่กำลังนั่งบนขอบเตียง มือข้างหนึ่งคีบบุหรี่ อีกข้างอดใจไม่ไหว เขายื่นมือลูบไล้แผ่นหลังหญิงสาวเบา ๆ เป็นเชิงหยอกล้อ“ดูอะไรอยู่ หือ...” เขายื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ เห็นรูปในจอโทรศัพท์ของดลฤดี เป็นรูปชายหญิงคู่หนึ่ง “อ๋อ รูปผัวเก่า โอ้ กำลังควงผู้หญิงด้วย แฟนใหม่ล่ะสิ”“ไม่รู้สิ...แต่ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกจ้างสิงห์” หล่อนพึมพำ พลางขบคิดรูปที่ส่งมาให้ทางไลน์
วรรณามองชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งสงบเสงี่ยมตรงหน้า ลูกสาวคนเดียวที่รักมากมีหนุ่มมาขอถึงบ้าน หนุ่มคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ลูกชายเพื่อนสนิทที่คบกันมาหลายสิบปี แม้ในใจจะยินดี แต่ก็ต้องทำท่าขรึมข่มขู่ว่าที่ลูกเขยกันหน่อย“นี่คบกันมานานเท่าไรแล้ว?”วราลีเงยหน้าขึ้น หญิงสาวหันไปสบตากับชายหนุ่มที่นั่งเคียงข้างกัน“ผมถูกใจหนูลีตั้งแต่มาทำงานในไร่ครับ!” สิงหราชเป็นฝ่ายตอบ เมื่อเห็นหญิงสาวมีท่าทางอ้ำอึ้ง “เราดูใจกันมาสักระยะหนึ่งแล้ว วันนี้จึงมั่นใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ให้ผมได้ดูแลหนูลี คุณแม่...ยกหนูลีให้ผมเถอะนะครับ”“คนหนุ่มสมัยนี้ใจร้อนจริงเชียว” วรรณายิ้มมุมปาก “นี่คงหุนหันพลันแล่นกันมาโดยไม่ได้ปรึกษาผู้ใหญ่สินะตาสิงห์ แม่เรารู้เรื่องนี้หรือเปล่า หืม”“คุณแม่ยังไม่ทราบครับ แต่ผมจะกลับไปคุยกับแม่แล้วจะมาสู่ขออย่างเป็นทางการอีกครั้ง” สิงหราชพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ผมขอโทษที่จู่ ๆ ก็มาโดยไม่บอก แต่ผมต้องการเรียนให้คุณแม่ทราบว่าเราคบกัน และมีความตั้งใจจะแต่งงานกัน”“เอาเถอะ ฉันจะรับรู้เรื่องพวกเธอสองคนคบหากัน แต่เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าจริงใจกับหนูลีจริง ๆ ก็พาผู้ใหญ่มาสู่ขอให้เป็นเรื่อ
สิ้นเสียงเลขาหนุ่ม สิงหราชรีบสาวเท้าตามสาวเจ้าทันที เขาวิ่งไปจนไล่ทันวราลีที่กำลังจะถึงหน้าออฟฟิศ มือขวาเรียวแขนบอบบางที่กำลังเปิดประตูได้ทัน“ปล่อยค่ะ” วราลีหันมาบอกเสียงเรียบ“โกรธพี่เหรอคะ ที่ให้พายัพแอบตามไป”“ค่ะ โกรธ” วราลีตอบตามตรง สร้างความแปลกใจให้สิงหราช ชายหนุ่มไม่คิดว่าหญิงสาวจะตอบง่าย ๆ นึกว่าจะสะบัดมือหรือยกมืออีกข้างตบเขาเหมือนในละคร“พี่ขอโทษ...พี่เป็นห่วง เลยให้พายัพตามไป”“เป็นห่วงหรือไม่ไว้ใจกันคะ” หญิงสาวถามกลับเสียงเข้ม “วราลีไม่ใช่เด็ก ๆ ที่ต้องมาให้ใครคอยตาม และลีก็บอกไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับคุณเรวัต ที่ไป ก็เพราะจะคุยกันให้มันชัดเจน แต่ที่พี่สิงห์ทำแบบนี้ มันเหมือนไม่เชื่อใจลี ถึงได้ให้คนไปแอบตาม”“...”“ลีโกรธ และน้อยใจค่ะ อย่าเพิ่งมายุ่งกับลีตอนนี้เลยค่ะ”“พี่ขอโทษ”“ค่ะ ลีจะรับคำขอโทษ แต่คำพูดที่ลีจะบอกพี่สิงห์หลังจากกลับมาคงไม่บอกตอนนี้ ลีขอคิดให้ดี ๆ อีกครั้งก็แล้วกัน ระหว่างนี้พี่สิงห์ก็ทำตัวดี ๆ เพราะมันมีผลกับคำพูดของลีที่จะบอกค่ะ”พอพูดจบวราลีก็สะบัดมือออกแล้วผลักประตูเข้าไปด้านใน ทิ้งให้สิงหราชยืนหน้าตาเหงาหงอยไว้เบื้องหลัง13นาตยามองหนุ่มสาวที่ก้มห
“ไอ้งก!” เขาด่า เสียงในสายหัวเราะลั่น แล้วก็วางไป“หงุดหงิดจริง ตามไปดีไหมนะ” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ รู้สึกไม่ไว้วางใจ ถึงจะให้พายัพแอบตามดูอยู่ห่าง ๆ แต่คิดไปคิดมา หากเขาตามไปแล้ววราลีโกรธ ไม่อยากจะคิดว่าจะง้อยากแค่ไหน แบบนั้นก็ไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ดีเขายกมือขึ้นขยุ้มผมตัวเองแล้วสบถ“โว๊ย!”หลังจากไหว้พระและซื้อของที่ระลึกเสร็จ โปรแกรมต่อไปของทั้งสองคือการล่องเรือ เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ฝ่ายวราลีกับเรวัตกำลังดื่มด่ำกับวิวธรรมชาติ ถัดไปไม่ไกลกลับมีผู้ชายตัวโตคนหนึ่งกำลังโก่งคออาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงโอ้กอ้ากดึงดูดความสนใจให้วราลีหันไปมอง“เอ๊ะ...”“มีอะไรครับ” เรวัตเอียงศีรษะมองหญิงสาว เมื่อได้ยินเสียงอุทาน“เหมือนลีจะเห็น...คุณพายัพ”พายัพที่เกาะขอบเรือแล้วอาเจียนจนหน้าดำหน้าแดง จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีเงามาทาบทับ พอรู้สึกดีขึ้นก็เงยหน้าพลางยกมือขึ้นปาดริมฝีปาก เห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนกอดอกมองอยู่ก็เบิกตาค้าง“คะ...คุณลี”“ค่ะ ลีเอง ว่าแต่มาโผล่ที่นี่ได้ยังไงคะ” หญิงสาวถาม พลางยื่นขวดน้ำให้ “จิบสักนิด สีหน้าคุณดูแย่มาก ๆ เมาเรือเหรอคะ”“ครับ...” เขาตอบได้แค่นั้น ก่อนรับน้ำจากอีกฝ่ายแล้วย
สามเหลี่ยมทองคำเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างสามประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ลาว และพม่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของภาคเหนือ ที่มีทิวทัศน์สวยงดงาม โดนเฉพาะยามเช้า เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางสายหมอก สามเหลี่ยมทองคำยังเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจของภูมิภาค เป็นแหล่งขนถ่ายสินค้าที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของไทย มีท่าเรือขนส่งสินค้าไปยังประเทศจีนและลาว มีกิจกรรมนั่งเรือไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ อาทิ คาสิโน คิงห์โรมัน หรือนั่งเรือไปเที่ยวทางตอนใต้ของจีน อย่าง สิบสองปันนา หรือ คุนหมิง ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอดทั้งปี ยิ่งเข้าฤดูหนาวนักท่องเที่ยวยิ่งมากวราลีเหลียวมองทิวทัศน์รอบตัวอย่างสนอกสนใจ เช้าวันเสาร์เรวัตมารับเธอแล้วก็ออกเดินทางมาที่สามเหลี่ยมทองคำ ระยะทางเกือบสี่สิบกิโลเมตร แต่เมื่อได้มาถึง ได้เห็นแหล่งสำคัญทางเศรษฐกิจแห่งหนึ่งของประเทศไทย หญิงสาวก็คิดว่าช่างคุ้มค่า“เสียดายที่เราไม่ได้มาแต่เช้า ที่นี่พระอาทิตย์ขึ้นสวยมากเลยนะครับ” เรวัตเห็นหญิงสาวมีท่าทางตื่นตาตื่นใจก็รู้สึกดีใจ เขาบอกเล่า แนะนำสถานที่กับวราลีอย่างมืออาชีพ “ก่อนอื่นเราไปถ่ายรูปด้วยกันกับป้าย สามเหลี่ยมทองคำ กันก่อน ดีไหมครับ”วรา
“วราลี!” สิงหราชที่นั่งฟังหญิงสาวตัดสินใจ แทบจะคำรามออกมา กล้าไปกับชายอื่นสองต่อสองได้อย่างไร ทั้งที่เขานั่งอยู่ทนโท่ชายหนุ่มคิดอย่างหงุดหงิด อยากลุกขึ้นแล้วล้มโต๊ะขึ้นมาทันทีพอได้ยินว่าหญิงสาวตอบตกลงจะไปเที่ยวกับเขาสองต่อสอง เรวัตก็ยิ้มกว้าง เขาลุกขึ้น ปรายตามองสิงหราชอย่างผู้ชนะ ก่อนบอกลาวราลี“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ แล้ววันเสาร์จะมารับคุณลี”“ค่ะ แล้วเจอกันค่ะ”“ไปนะครับ พ่อเลี้ยง”สิงหราชถลึงตามองศัตรูความรัก ที่เดินกระหยิ่มยิ้มย่องจากไป ก็แทบอยากจะลุกตามไปเตะก้น เมื่อไม่มีคนนอก เขาก็หันไปมองค้อนหญิงสาว ปากก็พูดจาตัดพ้อ“หนูลีไม่แคร์พี่เลยเหรอ ไหนว่าชอบพี่ แล้วจะไปเดตกับมันทำไม...”“คิดไปถึงไหนคะ” วราลีบอกเสียงอ่อน “ลีไปเพราะมีเรื่องที่ต้องเคลียร์กับคุณเรวัต ลีไม่ได้คิดอะไรกับเขานอกจากเพื่อนร่วมงาน”ได้ยินหญิงสาวบอกอย่างนั้น สิงหราชตาเป็นประกาย ท่าทางเบิกบานผิดกับเมื่อครู่ลิบลับ“จริงเหรอ แล้วทำไมไม่ปฏิเสธมันตั้งแต่เมื่อกี้เลยล่ะ” “พี่สิงห์คะ...” วราลีบอกน้ำเสียงอ่อนใจ “ปฏิเสธตอนนี้จะไม่เป็นการหักหน้าเขาเหรอคะ เขายังเป็นลูกค้าของไร่เรา แถมยังพาลูกทัวร์มาเที่ยวตลอด ลีถึง
“อ้าว! คุณลี” เสียงชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นจากด้านหน้า วราลีเห็นเรวัตกำลังเดินตรงมา มือข้างหนึ่งของเขาหิ้วถุงใบใหญ่อยู่“คุณเรวัต พาลูกทัวร์มาเที่ยวไร่เหรอคะ” วราลีหยุดเดินแล้วถาม“เปล่าครับ วันนี้ผมตั้งใจมาหาคุณลี...” เขามองหญิงสาวยิ้ม ๆ พลางยื่นถุงที่ถือไว้ให้ “ผมไปสวนเมลอนมา เลยซื้อเมลอนมาฝาก เป็นสวนเมลอนชื่อดังที่แกะสลักบนผลได้น่ะครับ ผมเห็นว่าน่าสนใจดี เลยซื้อมาฝากคุณลี”“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวยื่นมือไปรับ เห็นอีกฝ่ายมีน้ำใจจึงเอ่ยชวน “ไหน ๆ ก็มาแล้ว ไปดื่มชาด้วยกันไหมคะ”“ครับ ไปครับ”วราลีและเรวัตเดินคุยกันไป ฝ่ายสิงหราชที่เดินตามมาเห็นหญิงสาวเดินไปกับใครก็หยุดมอง ใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้ง เขากอดอก พ่นลมหายใจทางจมูก รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านเหมือนกระทิงหนุ่มที่เจอผ้าแดงทำยังไงถึงจะไล่ไอ้หน้าอ่อนนี่กระเด็นไปได้นะ!“อ้าว พ่อเลี้ยง ผมอุตส่าห์เปิดทางให้ ทำไมปล่อยให้คุณลีเดินไปกับหนุ่มคนอื่นล่ะครับ” พายัพที่เห็นเจ้านายตนยืนเตะฝุ่นอยู่ไม่ไกล เดินเข้ามาใกล้ ปากก็พึมพำ “หรือว่าคุณเรวัตตามจีบคุณลีอยู่เหมือนกัน?”“เออสิ ท่าทางหูตั้ง หางกระดิกขนาดนั้น แกดูไม่ออกเรอะ!” สิงหราชหันมาตวาด แล้วรีบสาวเท้าเด