เซี่ยมู่เม้มริมฝีปากแน่น เงียบไม่พูดอะไรนี่ทำไมถึงไม่ค่อยเหมือนกับคำพูดที่เธอคาดการณ์ไว้เลยล่ะ?ฟู่เซิงเห็นเธอเงียบไป จึงเอนตัวไปด้านหลัง มือใหญ่พาดอยู่บนที่พักแขน ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างมีนัย “ก่อนหน้านี้แผนกเรามีรองผู้จัดการคนหนึ่ง แต่งงานและคลอดลูกไปเมื่อสองปีก่อน ตอนนี้เป็นแม่บ้านเต็มตัวอยู่ที่บ้าน เป็นคนที่ดีมาก ๆ แต่น่าเสียดาย คนเราน่ะ โดยเฉพาะผู้หญิง หลังแต่งงานมีลูก จะถูกครอบครัวบีบ คุณว่าไหมล่ะ?”“ผู้จัดการฟู่พูดถูกค่ะ”เซี่ยมู่ไม่รู้ว่าที่เขาพูดแบบนี้มีเป้าหมายอะไร แต่ก็เห็นด้วยกับคำพูดของเขาเป็นอย่างมากฉะนั้นหลังจากครุ่นคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ เธอถึงได้เก็บเด็กคนนี้เอาไว้ และตัดขั้นตอนแต่งงานนี้ไปเลยฟู่เซิงมองสีหน้าของเธอ เมื่อเห็นว่าเธอฟังจนเก็บไปคิดจริง ๆ ถึงได้เอ่ยขึ้นว่า “เอาละ กลับไปเถอะ”สายตาของฟู่เซิงตกไปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ราวกับกำลังทำงานนอกเวลาอยู่ที่นี่อย่างนั้น“หา?” เซี่ยมู่รีบเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงแค่นี้น่ะเหรอ?“หาเหออะไร? ไม่อยากเลิกงานก็อยู่ทำโอทีที่นี่ซะ”“ไม่ค่ะ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้ แล้วเจอกันค่ะผู้จัดการฟู่”เซี่ยมู่รีบเดินหา
เป็นเวลาเที่ยงแล้ว ฟู่เจิงให้คนขับรถมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งพนักงานเสิร์ฟนำทั้งสองคนมายังห้องรับรองชั้นสอง พร้อมส่งเมนูให้อย่างมีมารยาทก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมาที่นี่สองสามครั้ง คงเป็นเพราะตัวเองไม่ชอบ กระทั่งตอนสั่งอาหารครั้งนี้เขาถึงพบว่าบนเมนูมีอาหารเนื้อแพะอยู่สองสามรายการเวินเหลียงเปิดเมนูและสั่งมาสองสามอย่างฟู่เจิงได้ยินดังนั้น ก็เอ่ยกับพนักงานเสิร์ฟว่า “เพิ่มเนื้อแพะตุ๋นยาจีนกับซี่โครงแพะด้วยครับ”“คุณผู้ชายตาเฉียบแหลมจริง ๆ สองเมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของร้านเราเลยค่ะ” พนักงานจดรายการพร้อมฉีกยิ้ม“จะเยอะเกินไปหรือเปล่า?”“ไม่เป็นไร กินไม่หมดค่อยห่อกลับ”ฟู่เจิงส่งเมนูให้พนักงานเสิร์ฟ “เอาแค่นี้แล้วกันครับ”ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ ทั้งสองคนก็พูดคุยไปเรื่อยเปื่อยฟู่เจิงนับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่บริษัทลูกและสตูดิโอทั้งหมดในเครือฟู่ซื่อกรุ๊ปจะออกวางจำหน่ายในอนาคต และถามเวินเหลียงว่าสนใจตัวไหนขอแค่เวินเหลียงพยักหน้า เขาก็จะจัดเตรียมให้เวินเหลียงไปถ่ายถ้าเธออยากถ่ายนิตยสาร เขาก็ช่วยเธอแนะนำได้เวินเหลียงไม่คิดว่าเขาจะเอาจริง เธอจึงหัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ไม่รีบ รอฉันหางานทำไม
พนักงานกำลังจะออกไป ทว่าฟู่เจิงกลับเรียกให้เธอหยุดอีกครั้ง “เดี๋ยวก่อน ขอโจ๊กรสอ่อนหนึ่งถ้วยด้วย รีบมาเสิร์ฟให้เร็วที่สุดนะ”“ค่ะ”ผ่านไปสองสามนาที ผู้จัดการก็เคาะประตูและเดินเข้ามาพร้อมกับถือเหล้าขาวที่ยังไม่ได้เปิดผนึกขวดหนึ่งและแก้วเหล้าอยู่ในมือ เขาเอ่ยขึ้นพร้อมฉีกยิ้ม “คุณฟู่ คุณนายน้อยฟู่ครับ ผมทราบเรื่องแล้วนะครับ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ครับ อาจจะเพราะคนในครัวทำอาหารไม่ใส่ใจ ผมจะลงโทษตัวเองสามแก้ว และเพิ่มอาหารให้คุณอีกสองจาน อาหารมื้อนี้คุณไม่ต้องจ่าย คุณคิดเห็นว่ายังไงบ้างครับ?”ก่อนหน้านี้ตอนที่ฟู่เจิงมาคุยธุรกิจที่นี่ ผู้จัดการเคยจงใจมาเผยหน้าและเพิ่มเหล้า นับว่าพูดง่ายทีเดียว“สามแก้วเกรงว่าจะไม่พอ”“งั้นก็สิบแก้ว?”ฟู่เจิงเห็นท่าทางเขามีเหตุผลพูดคุยด้วยง่าย สีหน้าก็ดีขึ้นเล็กน้อย เขามองไปทางเวินเหลียง “อาเหลียง เธอว่ายังไง?”เวินเหลียงหวนนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ เนื้อแพะแทบจะไม่เหมือนว่าเน่า เพียงแต่กลิ่นสาบฉุนมาก ๆ เหมือนกับไม่ได้จัดการอย่างเหมาะสมจริง ๆ จึงเอ่ยว่า “ได้ค่ะ”ฟู่เจิงมองผู้จัดการทีหนึ่งผู้จัดการเอ่ยขึ้นทั้งยิ้มแย้ม “ขอบคุณครับคุณนายน้อยฟู่ที่เมตตา”
ฟู่ซือฝานไม่ได้เจอกับเวินเหลียงสองเดือนแล้ว เธอคิดถึงเวินเหลียงมากตอนบ่ายเลิกเรียน ฟู่ซือฝานเข้าแถวออกจากโรงเรียนอนุบาลพร้อมกับเพื่อนร่วมโต๊ะตามปกติ กำลังมองไปรอบ ๆ ก็ได้ยินเสียงเตือนแสนไร้เดียงสาของเพื่อนร่วมโต๊ะ “ฝานฝาน พ่อกับแม่ของเธอมารับเธอด้วยกันแล้ว!”ฟู่ซือฝานกวาดสายตามองไปตามสายตาของเพื่อนร่วมชั้น จากนั้นก็เห็นผู้ชายและผู้หญิงยืนอยู่ข้างรถเคียงคู่กัน สายตากำลังควานหาอยู่ในกลุ่มนักเรียนโรงเรียนอนุบาลตัวน้อยชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีดำ พับแขนเสื้อทั้งสองข้างขึ้น เผยให้เห็นแขนน้อย ๆ ที่แสนแข็งแกร่ง ตัวท่อนล่างสวมกางเกงสูทสีดำ เข็มขัดหนังแท้ดูเรียบโก้ เข้ากับขาแสนเรียวยาวทั้งสองข้างของเขา ช่างเหมือนไม้แขวนเสื้อที่มีชีวิตจริง ๆท่อนตัวด้านบนของหญิงสาวสวมเสื้อตัวน้อยลายลูกไม้สีขาวพอดีตัว บนกระดูกไหปลาร้าที่ขาวผ่องและแสนประณีตสวมสร้อยคอสีขาวเส้นหนึ่ง แขนเล็ก ๆ ที่เผยอยู่ด้านนอกขาวเนียนเล็กเรียว ขาวดุจกลั่นเกล็ดดอกหิมะ ท่อนตัวด้านล่างสวมกระโปรงสั้นปิดก้นสีน้ำเงิน ขาทั้งสองก็ทั้งขาวผ่องและเรียวเล็ก ช่างเป็นอย่างที่ว่าสีผิวเหมือนครีมข้นหนุ่มหล่อสาวสวยดึงดูดสายตาของผู้ปกครองเด็กนักเ
ฟู่ซือฝานหวนนึกถึงที่ตัวเองเคยโอ้อวดกับเพื่อนร่วมโต๊ะแถวหน้าว่าเวินเหลียงได้รางวัลที่หนึ่งในการแข่งขันถ่ายภาพ เธอก็กะพริบตาอย่างกระวนกระวาย ยกนิ้วน้อย ๆ ที่หนาเพียงกระดาษหนึ่งแผ่นขึ้นมา “เคยพูดไปนิดเดียวค่ะ”“หลังจากนี้ห้ามเปรียบเทียบอีกนะรู้ไหม?”“อืม ๆ!”ฟู่ซือฝานพยักหน้าราวกับไก่จิกข้าว ก่อนจะมุดเข้าไปในอ้อมอกของเวินเหลียง ในใจเกิดความรู้สึกอยากพึ่งพาอาศัยเธอขึ้นเรื่อย ๆเธอชอบป้าสะใภ้มากจริง ๆถ้าป้าสะใภ้เป็นแม่ของเธอจริง ๆ ก็ดีสิ!“คุณป้าคะ คืนนี้หนูอยากนอนกับคุณป้าค่ะ” เจ้าเด็กน้อยเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนไม่รอให้เวินเหลียงตอบ ฟู่เจิงก็เอ่ยขึ้นว่า “ไม่ได้”“หนูถามคุณลุงเหรอ?”ฟู่ซือฝานชะโงกศีรษะออกมาจากอ้อมอกของเวินเหลียง พร้อมมองไปที่ฟู่เจิงโดยไม่นัด“...”เพื่อเช็กสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของเวินเหลียงในคืนนี้ หลังกินข้าวเย็นเสร็จ ฟู่ซือฝานก็ยังแอบเปิดศึกโต้วาทีกับฟู่เจิงศึกหนึ่ง“เธอออายุห้าขวบแล้ว เดี๋ยวเดือนกันยายนนี้ก็ขึ้นอนุบาลสามแล้ว ทำไมยังต้องให้คุณป้าของเธอไปนอนเป็นเพื่อนอีก?” ฟู่เจิงนั่งอยู่บนโซฟา เขาขมวดคิ้วมองฟู่ซือฝานที่ยืนเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้าเขา“คุณลุงอายุสามส
เธอพูดไปก็พลางหันหน้าไปมองข้าง ๆ ทีหนึ่ง ฟู่ซือฝานกำลังหลับตานอนหลับปุ๋ยแต่อยู่ใกล้กันขนาดนี้ ไม่แน่ว่ายังไงก็อาจทำให้เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาได้เวินเหลียงไม่อยากถูกเธอเห็นฉากอีโรติกฟู่เจิงไม่ตอบ ริมฝีปากพ่นลมอุ่นร้อนออกมา ลมนั่นเข้าไปที่ซอกคอของเวินเหลียง ทำเอาเธอขนลุกไปทั้งตัวเขาซุกไซ้ไปจนถึงติ่งหูขิงเธอ ก่อนจะดูดแรง ๆ ทีหนึ่งมือเท้าไม่มีกำลังและชาราวกับถูกสายฟ้าฟาด เวินเหลียงสั่นระรัวไปทั้งตัว หัวแม่โป้งเท้าขดตัว พร้อมกับหดคอทันใดนั้นเวินเหลียงก็ตกตะลึง เธอได้สติขึ้นมา รีบกดมือใหญ่ของฟู่เจิงเอาไว้ “คุณ...คุณทำอะไรน่ะ?”ฟู่เจิงเข้าไปใกล้ข้างหูของเธอ ลมอุ่นร้อนที่หายใจออกมาสาดเข้าไปที่ใบหูของเธอ “ทำให้เธอผ่อนคลายสักหน่อย”“อย่า...”“ทำให้เธอสบายตัวเสร็จ ฉันก็จะนอนแล้ว”“...”เวินเหลียงกัดริมฝีปาก “ไม่ได้ ฟู่เจิง...คุณอย่า...อืม ฝานฝานอยู่ข้าง ๆ...อย่า...”แสงสีขาวสายหนึ่งวาบขึ้นในหัวของเธอ ร่างกายของเวินเหลียงพลันแข็งทื่อ นัยน์ตาทั้งสองจ้องมองเพดานอย่างเหม่อลอย ลมหายใจหนักอึ้งฟู่เจิงจูบแก้มของเธอ ก่อนจะหยิบทิชชู่เปียกมาช่วยเช็ดให้เธอ และลงมาจากบนตัวเธออย่างระมัดระวัง ก่
เพียงแต่ฟู่ชิงเยว่เตือนเธอว่า ยังเตรียมของสำคัญบางอย่างไม่เสร็จ บอกเธออย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น“ว้าว มาเซราติ อิเลีย ลุงของเธอรักและเอ็นดูเธอจริง ๆ!” อลิซอุทานออกมาอิเลียฉีกยิ้ม ทว่าไม่ได้ตอบอะไรแม้ระหว่างเธอคุณลุงจะเหินห่างกันเล็กน้อย แต่สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ คุณลุงก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอต้องลำบากบนรถยนต์ อลิซมองวิวถนนที่กลับหลัง พลางอุทานขึ้นว่า “นี่ก็คือเจียงเฉิงสินะ ไม่เหมือนที่ฉันจินตนาการไว้เลย”อลิซอพยพไปเมืองฟิลาเดลเฟียกับพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก บ้านเดิมอยู่ทางเหนือ แม้โตแล้วจะเคยกลับมาสองสามครั้ง ทว่าก็ไม่เคยมาเจียงเฉิงเลย จึงรู้สึกแปลกตากับที่นี่เป็นอย่างมากอิเลียเอ่ยขึ้นพร้อมฉีกยิ้ม “เจียงเฉิงไม่เลวเลยจริง ๆ พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอออกมาช็อปปิงดี ๆ จากนั้นตอนบ่ายค่อยไปรับพี่ชายฉัน”“โอเค”เมื่อพูดถึงเยี่ยนหวย นัยน์ตาอลิซก็เปล่งประกายขึ้นมาสองวันก่อน อิเลียติดตามเธอมา บอกว่าซีซาร์จะกลับมาเจียงเฉิง บางทีอาจจะอยู่ที่เจียงเฉิงไปยาว ๆ สักระยะ ถามว่าเธออยากมาหรือเปล่าอลิซคิดไปคิดมาหลายตลบ หลังบอกกับพ่อแม่ ก็ขึ้นเครื่องบินที่บินมาเจียงเฉิงเลยเมื่อนึกถึงตรงนี้ นัยน์ตาของอลิซก็
พวกเฟย์คือตัวซวยของพวกเธอชัด ๆ!อิเลียจ้องเวินเหลียงและถังซือซือด้วยความเคียดแค้น ตัดสินใจแล้วเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้ฉันจะต้องสั่งสอนพวกมันสองคนให้ได้ เพื่อระบายความโกรธในใจฉัน!”อลิซเอ่ยโน้มน้าวว่า “อิเลีย คงไม่ดีมั้ง? ที่นี่คือประเทศจีนนะ...”“มีคุณลุงของฉันอยู่ จะกลัวอะไร?” อิเลียไม่แยแส “ตามฉันมา”เวินเหลียงกับถังซือซือพูดคุยกันไปพลางเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งภายในร้านเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นตามกระแสนิยมเวินเหลียงเลือกเดรสยาวเปิดไหล่มาตัวหนึ่ง จากนั้นเข้าไปยังห้องลองเสื้อผ้าถังซือซืออยู่นอกห้องลองเสื้อผ้า เธอเอ่ยขึ้นทั้งตกตะลึงว่า “...พระเจ้า ที่แท้ผู้หญิงที่อยู่กับอีตามืดบอดฟู่หน้าห้องน้ำหญิงวันนั้นก็คืออิเลีย?”ตอนอยู่เมืองฟิลาเดลเฟียเวินเหลียงมักจะวิดีโอคอลกับถังซือซือบ่อยครั้ง และเล่าสถานการณ์ของตัวเองในตอนนั้น ๆ ให้เธอฟังถังซือซือรู้ว่าเวินเหลียงเจอกับคนโง่ที่คิดเองเออเองบนเครื่องบินนั่นอีกครั้ง และยังเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลไฮโซของเมืองฟิลาเดลเฟียอีกด้วย“เป็นเขานั่นแหละ” เวินเหลียงเปลี่ยนชุดไปด้วยพลางเอ่ยไปด้วย“ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาเจียงเฉิงแล้ว?”“เธอยังจำบุคคลสำคัญ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง