"เสด็จแม่อย่าทรงกริ้ว ครั้งนี้ลูกเชื่อว่าแผนการของเราต้องลุล่วง""ทำให้ได้อย่างที่ปากเจ้าพูด"มาถึงตอนนี้แล้วสำหรับจางปิงกุ้ยเฟยจะมีคำว่าพ่ายแพ้มิได้ ทั้งบัลลังก์ทั้งหวังเหลียนจงจะต้องเป็นของนางกับบุตรชายเท่านั้น"เช่นนั้นลูกทูลลา"อี้ซินกล่าวลาพระมารดาพร้อมเร่งรีบเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าองค์ฮ่องเต้ทันที"องค์ชายสาม หม่อมฉันจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณหนูเสร็จแล้วเพคะ"อาถังเดินออกมาจากห้องหลังจากจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดของคุณหนูนางเสร็จเรียบร้อยแล้ว"อืม ยานี่เจ้าจัดการตามที่หมอสั่งด้วย"สมุนไพรหลายห่อที่อี้เฟยได้รับจากหมอที่เพิ่งกลับหลังจากรักษาเฟิงซูเหยาเรียบร้อยแล้วถูกยื่นให้สาวใช้"อาถังจะเร่งจัดการให้เพคะ"อาถังกล่าวลาพร้อมกลับไปทำหน้าที่ของตนเองอี้เฟยยืนมองประตูตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะใช้มือผลักเข้าไปช้า ๆภายในห้องสี่เหลี่ยมจัดวางข้าวของเครื่องใช้เป็นระเบียบเรียบร้อย มีสตรีนางหนึ่งนอนอยู่บนเตียงสี่เสา กลิ่นยาสมุนไพรตลบอบอวลทั่วทั้งห้อง ขายาว ๆ ภายใต้อาภรณ์ไหมเนื้อดีค่อย ๆ ก้าวไปยังเตียงตรงหน้าที่มีร่างผู้มีบุญคุณนอนหลับอยู่"เจ้าจะใช่นางหรือไม่"อี้เฟยเอื้อมมือไปจับเส
"หากมิใช่นางแล้วข้าจะไปที่จวนสกุลฟ่างทำไมเล่า อั่ก!"แส้หวายกระทบเข้าสู่ผิวกายของนักฆ่าผู้นั้นจนกระอั่กเลือดออกมาจากปาก"นี่สำหรับเซียนเอ๋อร์ที่เจ้าลอบทำร้าย""อั่ก!"เสียงหวดแส้อีกครั้งดังหวาดเสียวเข้าสู่โสตประสาทเมื่ออี้เฟยลงแส้อย่างหนักหน่วงจนเกิดแผลปริแตกตามรอยเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น"นี่สำหรับการอุกอาจลงมือทั้ง ๆ ที่ดวงตะวันยังฉายแสง"นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีนักฆ่าชิงลงมือในเวลากลางวันเช่นนี้"ส่วนนี่สำหรับความปากแข็งของเจ้า""อ้าก..!"ครั้งนี้แส้ที่หวดลงบนร่างกายมิใช่แส้ธรรมดา แต่อี้เฟยใช้มันรนบนกองถ่านแสนร้อนระอุก่อนจะฟาดลงไปด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีทำเอานักฆาผู้นี้ส่งเสียงด้วยความปวดร้าวแสนเจ็บปวดออกมาเพียงครั้งเดียวและหมดสติไป"อย่าให้มันชิงฆ่าตัวตายด้วยพิษก่อนที่ข้าจะมาสอบสวนอีกครั้ง"ต้าลู่รับคำสั่งพร้อมมองแผ่นหลังองค์ชายของเขาเดินหายออกไปจากห้องลับแห่งนี้"เจ้าเจอของจริงเข้าให้แล้ว"น้อยครั้งนักที่องค์ชายของเขาจะแสดงความเหี้ยมโหดเช่นนี้ออกมานอกจากอยู่ในสนามรบ ทว่าครั้งนี้แม่นางฟ่างผู้นั้นคงจะเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับองค์ชายของเขา มิเช่นนั้นแล้วคงไม่ลงมือหนักหน่วงเช่นนี้แน่หลังจากออก
"เพราะเหตุนี้เสด็จแม่ถึงกำชับมิให้ข้าเคียดแค้นเสด็จพ่อใช่หรือไม่"ราวกับถามลมถามอากาศ ถ้อยคำตัดพ้อนั้นทำให้ไป๋เจิ้นหยางมองด้วยความสงสารปนห่วงใย"ครั้งนี้ที่ใต้เท้าเหม่าหายตัวไปจะใช่ฝีมือกุ้ยเฟยอีกหรือไม่"อี้เฟยกลับส่ายหน้า เขาทำเพียงทอดมองออกไปไกลสุดสายตาก่อนเอ่ย"ใต้เท้าเหม่าอยู่ในที่ปลอดภัย"ไป๋เจิ้นหยางเพิ่งคลี่พัดออกมาได้ไม่ทันไรก็เก็บกลับเสียงดังฉึบ!"ฝีมือเจ้า"นิ้วเรียวของบุรุษชี้ไปยังใบหน้าเจ้าเล่ห์ของศิษย์น้องที่มิปิดบัง"ร้ายนักนะ ขนาดข้าสหายสนิทเจ้ายังมิแจ้งแผนนี้"พูดเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจ หากแต่คนเจ้าสำราญอย่างไป๋เจิ้นหยางโกรธง่ายหายไวยิ่งกว่ารินน้ำให้เต็มถ้วยชาเสียอีก"ไว้ศิษย์พี่ปิดปากเงียบได้เมื่อไร ข้าจะเล่าทุกแผนการให้ท่านฟังทั้งหมดเอง"คนถูกหลอกด่าได้แต่ชี้หน้าเขาด้วยความสั่นโกรธที่ถูกแหกหน้าหาว่าเป็นคนปากสว่างเก็บความลับไม่อยู่"ข้าขอตัวไปสอบปากคำคนชั่วนั่นต่อก่อน""แล้วคุณหนูสามเล่า"ไป๋เจิ้นหยางรีบรั้งไว้ เขากำลังดูว่าระหว่างสอบสวนนักฆ่าที่ใครก็ทำได้กับการกลับไปดูแลสตรีที่รับลูกธนูแทนเขา อี้เฟยจะเลือกอันใด"ตอนนี้นางคงยังไม่ฟื้น ข้ามีเวลาสอบสวนอีกนาน เสร็จแล้วค่อย
"เชิญแม่นางเข้าไปได้"เมื่อการแลกเปลี่ยนเสร็จสมบูรณ์เฟิงซูเหยาก็เดินเข้าไปในกระท่อมอย่างสง่า ตรงหน้านางมีม่านไม้ไผ่ขวางกั้นเพื่อปกปิดตัวตนผู้ให้ข้อมูล"แม่นางต้องการข่าวอันใด"ไม่พูดพร่ำทำเพลง คนขายข่าวรีบเอ่ยปากถามลูกค้าอย่างนางทันที"ก่อนหน้านี้มีผู้ใดมาซื้ออาวุธนี้ไปจากตลาดนี้หรือไม่"เศษครึ่งหนึ่งของธนูที่ปักอกนางถูกวางไว้บนพื้นตรงหน้า ไม่นานไม้ยาวก็ยื่นออกมาเขี่ยของที่ว่าเพื่อเอาไปดู"หากมองผิวเผินเป็นเพียงลูกศรธรรมดาทั่วไป แต่การเจียรไนเหล็กกล้าที่หัวลูกศรนี้เป็นของที่ทำขึ้นมาจากหินของภูเขาที่ลึกที่สุด ลำก้านของลูกธนูเป็นไม้จากพื้นที่อุดมสมบูรณ์ มีกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าติดอยู่กับแก่นไม้"เรื่องพวกนี้เฟิงซูเหยารู้หมดแล้ว และนางเองก็รู้ด้วยว่าสถานที่ผลิตอาวุธชิ้นนี้มาจากที่ใด หากไม่ใช่ธนูจากกองโจรเฟิงเสี้ยวนั้น"ข้าต้องการเพียงคนที่มาซื้อของชิ้นนั้น ส่วนแหล่งที่มาข้ามิสนใจ""แม่นางใจเย็นก่อน ท่านคงไม่ได้เกรี้ยวกราดเพราะถูกเล่นงานจากมันใช่หรือไม่"ทายถูกราวกับตาเห็น ทว่าเฟิงซูเหยากลับไม่ส่อพิรุธอันใดให้อีกคนคิดว่าเขาเดาถูก"เมื่ออาทิตย์ก่อนมีบุรุษผู้หนึ่งมาซื้อเจ้าสิ่งนี้ไปจริง ๆ เป็
"จับคนร้ายได้หรือไม่เพคะ"นางอยากรู้ว่าคนร้ายที่ลอบเข้าจวนแม่ทัพใหญ่ผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่และอยู่ที่ใด"ต้าลู่ไม่เคยทำให้ข้าผิดหวัง"หมายความว่าพวกเขาจับคนร้ายได้แล้ว แล้วตอนนี้คนร้ายที่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง หากยังหายใจ นางจะเป็นคนไปเยือนด้วยตนเอง"หมายความว่าองค์ชายส่งตัวให้กับทางการแล้ว"เฟิงซูเหยาหยั่งเชิงถาม"เจ้าเพิ่งฟื้นอย่าเพิ่งถามมากเลย ออกไปสูดอากาศด้านนอกดีหรือไม่"ไม่กล้ตอบคำถามนางแปลว่าเขาไม่ได้ส่งคนร้ายให้กับทางการ งั้นเรื่องที่นางเกือบถูกฆ่าคนนอกคงยังไม่มีผู้ใดรู้"โชคดีที่องค์ชายปลอดภัย"นางมาปล่อยโอกาสซักไซ้ให้หลุดมือจึงชวนอี้เฟยคุยเรื่องเดิมต่อ"ข้ามิใช่เป้าหมายในครั้งนี้"เฟิงซูเหยาแสร้งขมวดคิ้วย่น ดวงตาใสซื่อทำเหมือนไม่เข้าใจทั้ง ๆ ที่นางรู้ดีว่าถ้อยคำต่อไปเขาจะพูดอะไรต่อ"คนร้ายมาเพื่อสังหารเจ้า"อี้เฟยไม่รอช้าเมื่อเห็นแววตาใคร่สงสัยของสตรีตรงหน้า"สังหารหม่อมฉัน เหตุใดถึงต้องสังหารหม่อมฉันหรือเพคะ หรือว่าเพราะเรื่องในวังเมื่อคืน"หากไม่ซักถามเลยจะดูมีพิรุธ เฟิงซูเหยาเลยจำต้องแสร้งเป็นคุณหนูผู้ขลาดเขลาที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลยแทน"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับค
หลายวันต่อมา..."องค์ชายทรงลุกขึ้นเถิดเพคะ กุ้ยเฟยให้อภัยพระองค์แล้ว"เสียงอ้ายชุนสาวใช้ข้างกายจางปิงกุ้ยเฟยแจ้แก่องค์ชายห้าอี้ซินที่คุกเข่าสำนักผิดอยู่หน้าตำหนักเป็นเวลาหลายชั่วยาม"เสด็จแม่ให้อภัยข้าแล้วจริงหรือ"เรี่ยวแรงที่ส่วนขาแทบจะไม่เหลือ แต่อี้ซินก็กัดฟันลุกขึ้นยืนแม้ขาสั่นเทาเพราะเลือดไม่หล่อเลี้ยงเป็นเวลานาน"ข้าช่วยประคอง"ฉินเทาที่เฝ้าอยู่ห่าง ๆ รีบวิ่งเข้ามาช่วยพยุงเจ้านายของเขา อี้ซินกัดฟันฝืนก้าวขาเดินเพื่อเข้าเฝ้าพระมารดาที่รออยู่ด้านใน"ซินเอ๋อร์ถวายบังคมเสด็จแม่"พระพักตร์ของจางปิงกุ้ยเฟยช่างเย็นชายิ่งนักตอนที่เลื่อนสายตามองหน้าเขา"ซินเอ๋อร์ที่ชาญฉลาดวางกลยุทธ์เก่งผู้นั้นหายไปไหนเสียแล้ว หรือเพราะว่าดาวของเจ้าถูกองค์ชายสามข่มจนไร้วาสนาจะได้ขึ้นเป็นใหญ่"จางปิงกุ้ยเฟยเอ่ยเหน็บแนมบุตรชายอย่างเย็นชาเรื่องของเรื่องทั้งหมดเกิดจากเมื่อหลายวันก่อน วันที่เหม่าทันหายตัวไปและองค์ชายสามเข้าเฝ้าฮ่องเต้เพื่อใส่ร้ายคนสาปสูญเรื่องควรจะเป็นไปดั่งแผนที่เขาอ้างว่า ใต้เท้าเหม่ารับเงินสินบนเวลาว่าความกลัวทางการจะจับได้จึงหอบเงินทองพวกนั้นหนีออกนอกเมืองครั้นเวลานั้นองค์ชายสามอี้เฟยอ
"หม่อมฉันมาเข้าเฝ้าวันนี้เพราะเป็นห่วงพลานามัยพระองค์จริง ๆ เพคะ ช่วงนี้ไหนเลยจะต้องทรงสอนงานให้กับองค์ชายสามแล้วยังต้องดูฎีกาจากเหล่าขุนนางอีก""เรื่องเฟยเอ๋อร์ไม่มีอะไรให้เราเหนื่อยทั้งสิ้น โอรสเราผู้นี้หัวไวแถมยังเฉลียวฉลาดใช่ย่อย"ได้ยินคนรักของตนเอ่ยชมลูกของศัตรูเช่นนี้ใครจะไปทนได้ จางปิงกุ้ยเฟยถึงกับกัดเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อความคุมอารมณ์โกรธที่สุมในอก"ไม่น่าเชื่อว่าคนหลังเขาอย่างองค์ชายสามจะมีพรสวรรค์มากมายเช่นนี้ สมแล้วที่เป็นโอรสของมังกรผู้ยิ่งใหญ่เช่นฝ่าบาท"แม้จะเป็นการฝืนเชยชมคนที่เกลียดแต่เวลาเช่นนี้นางต้องทำให้แนบเนียนที่สุดเพื่อเอาใจพระสวามี"พูดได้ดี พูดได้ดี"นี่ฝ่าบาททรงหลงใหลพระโอรสพระองค์นี้มากมายเช่นนี้เชียวหรือ ถึงว่าวันนั้นถึงได้ตำหนิซินเอ๋อร์จนอับอายต่อหน้าอี้เฟยเช่นนั้นในใจทีแต่ความเคียดแค้นเพิ่มทวี เสียงแห้ง ๆ จากฝ่าบาทดังขึ้นนางจึงรีบเทน้ำชาถ้วยใหม่ส่งให้คนคอแห้งจิบ"อืม ชานี้เลิศรสจริงหากเฟยเอ๋อร์ได้ดื่มคงผ่อนคลายไม่น้อย"เฟยเอ๋อร์ เฟยเอ๋อร์ เฟยเอ๋อร์! เป็นชื่อนี้อีกแล้ว ช่วงนี้รู้สึกว่าในใจของฝ่าบาทจะมีเพียงแค่ชื่อโอรสที่เกิดจากเขาและอดีตฮองเฮาเท่านั้น"เช
"พี่ห้าดุข้าทำไม"แม้ปีนี้องค์ชายอี้หยังจะถึงวัยสวมกวานได้แล้วแต่นิสัยเขากลับทำตัวไม่โตสักที ทำให้จางปิงกุ้ยเฟยไม่ค่อยใส่ใจโอรสพระองค์นี้นัก"แม่กับพี่ห้ากำลังคุยเรื่องสำคัญ เจ้าออกไปเล่นกับนางกำนัลก่อนไป""ขอรับ ไปกันเจ้ากระต่ายผู้น่าสมเพช ข้าไม่น่าพรากเจ้าออกมาจากครอบครัวเจ้าเลย"องค์ชายสิบอี้หยังเอื้อนเอ่ยเห็นใจและสำนึกผิดต่อกระต่ายที่อยู่ในมือ"เจ้านี่ใจอ่อนเสียจริง สงสารได้แม้กระทั่งสัตว์ที่เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของมนุษย์ งั้นก็เอาไปปล่อยให้มันกลับไปอยู่กับครอบครัวมันไกล ๆ เลยไป"องค์ชายอี้ซินผู้พี่ส่ายหน้าไปมาเมื่อเห็นน้องชายจิตใจอ่อนแอเกินกว่าจะเกิดมาเป็นบุรุษเยี่ยงนี้"เจ้ากระต่ายไม่มีครอบครัวแล้ว ก่อนที่ข้าจะเอาตัวมันมาข้าคิดว่ามันต้องหนีกลับไปหาครอบครัวมันเช่นเดิมจึงจัดการเผาโพรงพวกมันจนมอดไหม้ ตัวอื่น ๆ ล้มตายบ้าง กระจัดกระจายหนีตายกันบ้างจนเหลือมันตัวเดียว"ให้มันได้เช่นนี้สิถึงจะเรียกว่าสายเลือดเดียวกัน"เสด็จแม่ ลูกมีแผนแล้วพ่ะย่ะค่ะ"ได้ยินสิ่งที่ผู้น้องเล่าสมองถึงกับแล่นขึ้นมาทันที"หยังเอ๋อร์กลับตำหนักไปก่อนเถิด เอากระต่ายตัวนั้นไปเลี้ยงให้อ้วนพลี เพราะมันช่วยให้พี่ใหญ่
ภายในฐานทัพของศัตรู เฟิงซูเหยาทำร้ายทหารของข้าศึกเพื่อชิงชุดของฝั่งนั้นมาใส่จะได้เดินไปไหนมาไหนในฐานทัพศัตรูได้ง่าย ๆ"ช้าก่อน!"เสียงนายกองที่เดินลาดตระเวนผ่านมารั้งไว้"พลทหารลาดตระเวนกำลังมุ่งหน้าไปที่ใด"เฟิงซูเหยาได้ยินคำถามคิดครู่หนึ่งจึงดัดเสียงให้ใหญ่ตอบ"ข้าน้อยจะไปเข้าห้องน้ำขอรับ"เฟิงซูเหยาตอบแต่ไม่หันหน้ากลับไป"เจ้าเป็นทหารใหม่หรือถึงไม่รู้ว่าห้องน้ำไปทิศทางใด"คนถูกถามในชุดที่ปลอมตัวอยู่ถึงกับเลิ่กลั่ก หูที่แสนดีได้ยินเสียงทหารด้านหลังชักกระบี่ขึ้นเบา ๆ เป็นสัญญาณเตือนว่าเขาไม่เชื่อใจนางแล้วมือแน่งน้อยค่อย ๆ หยิบเข็มพิษที่ซ่อนไว้ในผ้ารัดข้อมือออกมาเตรียมซัดใส่ศัตรู ทว่า..."อั่ก!"เสียงหล่นตุ้บของร่างกำยำดังขึ้นทำเอานางรีบหันกลับไปดู"อาเฟย"ทันทีที่เห็นว่าเป็นฝีมือผู้ใดเฟิงซูเหยาถึงกับตกใจเล็กน้อย"ท่านมาได้เยี่ยงไร"เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ทักทายกลับจึงรีบวิ่งเข้าไปใกล้แล้วชวนคุย"หากข้ามาช้างานแต่งอีกสามวันข้างหน้าคงไร้เจ้าสาวเคียงข้างไปแล้ว"อี้เฟยพูดตัดพ้อใบหน้าเงียบขรึม"ท่านช่างพูดเกินไปเมื่อครู่ข้าคนเดียวก็เอาอยู่"เฟิงซูเหยาย่นจมูกทำท่าทางแง่งอนใส่อีกคน"เอาอยู่น่
“เช่นนั้นช่วยป้าล้างผักตรงนั้นแล้วกัน”เสิ่นอี้มองตาเด็กน้อยก็รู้แล้วว่านางคงมีความทุกข์ในใจจึงไม่ใส่ใจถามสิ่งที่เฟิงพูดค้างคาเอาไว้ต่อ“วันนี้ท่านป้าจะทำกับข้าวเลี้ยงฉลองหรือเจ้าคะ”เฟิงมาอยู่ที่นี่หลายวันแล้วนางเห็นความเป็นอยู่ของทั้งสองคนว่ากินอยู่เช่นไร พอมาวันนี้เห็นของที่วางเรียงรายอยู่ตรงหน้านางรู้ในทันทีว่าต้องเป็นของที่ทำเพื่อเลี้ยงฉลองแน่นอน“วันนี้วันเกิดเฟยเอ๋อร์”เฟยเอ๋อร์หรืออี้เฟยดรุณที่เป็นคนยื่นมือพาเฟิงน้อยคนนี้ออกมาจากตรอกน่ากลัวแห่งนั้น“ข้ามิรู้ว่าวันนี้วันเกิดเสี่ยวเฟยจึงไม่ได้เตรียมของขวัญไว้”เขาเป็นถึงผู้มีพระคุณสำหรับนาง วันสำคัญเช่นนี้เฟิงยังตอบแทนอี้เฟยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้ช่างไม่สมกับที่เขาให้ชีวิตใหม่นางเอาเสียเลย“ไม่ต้องคิดมาก งั้นวันนี้ป้าจะสอนเฟิงทำอาหารโปรดเฟยเอ๋อร์ดีหรือไม่”เฟิงพยักหน้าอย่างระรื่น นางไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญที่เป็นสิ่งของเสมอไป หากเป็นการทำอาหารแม้รสชาติจะไม่ได้เลิศรสเท่ากับพ่อครัวแม่ครัวที่อื่น แต่นางก็จะตั้งใจเรียนรู้และทำให้เขาเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดในวันนี้“ทานสิ”เฟิงคะยั้นคะยอให้บุรุษเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารลองทานอา
แฮ่ก แฮ่ก แฮ่กเสียงหอบเหนื่อยที่ดังเบาแทบจะไม่ให้ใครได้ยินแม้แต่ตัวเองดังขึ้นเด็กน้อยวัยสักสิบขวบเศษกำลังวิ่งหลบไปตามต้นไม้น้อยใหญ่เพื่อหลีกหนีการตามล่าของกองโจรที่แสนน่ากลัวเฟิงเสี้ยว“รอยเท้ามันมาทางนี้ อย่าให้มันหนีรอดไปไหนได้”เสียงหนึ่งในกลุ่มโจรที่ออกตามล่าเด็กน้อยผู้นี้ดังขึ้นร่างบอบบางคุดคู้อยู่ด้านหลังโขดหินที่มีตะไคร่น้ำเกาะจนเป็นสีเดียวกับต้นไม้เพื่ออำพลางไม่ให้ถูกโจรกลุ่มนั้นตามล่าเข้า“เฟิง ข้ารู้ว่าเจ้าแอบซ่อนอยู่แถวนี้”รองหัวหน้ากองโจรเฟิงเสี้ยวเอ่ยชื่อของนักโทษหลบหนีเสียงเรียบเย็นดรุณีน้อยได้แต่ขดตัวสั่นแทบจะลืมหายใจด้วยซ้ำ“ออกมาเถอะน่า ประมุขเฟิงรอเจ้าอยู่”เสียงอีกคนที่ออกตามล่าเอ่ยเรียกอีกแรง“ไม่ ข้าไม่ออก ข้าไม่อยากกลับไปฆ่าคนอีกแล้ว”เฟิงน้อยเอ่ยอย่างรู้สึกหวาดกลัวตลอดเวลาสิบปีมานี้ แม้คนในกองโจรเฟิงเสี้ยวจะดีกับนาง แต่ก็ทำเพื่อหวังผลประโยชน์ทั้งนั้น เห็นดรุณีน้อยฉลาดหัวไว สอนอะไรก็เก่งกาจไปเสียหมด ไม่ว่าจะเรื่องพิษ เรื่องต่อสู้ เฟิงผู้นี้ไม่เคยทำให้ประมุขแห่งกองโจรนี้ผิดหวังสักเรื่อง เพราะแบบนี้เขาเลยไม่ยอมเสียหมากตัวนี้ให้หนีออกไปจากกองโจรแห่งนี้“ระวังต
"อั่ก! จ...เจ้า"ดวงตาอี้ซินเบิกโพลง เลือดมากมายค่อย ๆ ไหลออกมาจากปากและจมูก เฟิงซูเหยาที่ถูกกระบี่ของเขาแทงไหปลาร้าก็มีสภาพไม่ต่างจากอี้ซินเช่นกัน"รสชาติของมีดเล่มนี้ยามปักที่อกท่านเป็นเช่นไรบ้างเพคะ คุณชาย"เฟิงซูเหยากระซิบออกมาแผ่ว ๆ นางเรียกอี้ซินอย่างที่เคยเรียกตอนเป็นเฟิงซูเหยา ทำเอาคนที่คุ้นชินทั้งเหตุการณ์ทั้งสรรพนามที่เคยถูกเรียกหลุบตามองนางด้วยแววตาสั่นไหว"ตอนที่ข้าปักมันลงบนอกด้วยมือของข้าเองท่านรู้หรือไม่ว่ามันไม่เจ็บปวดเลย เพราะตอนนั้นหัวใจข้าได้ตายลงก่อนที่ข้าจะแทงขั้วหัวใจตัวเองแล้ว"เฟิงซูเหยาพรั่งพรูทุกสิ่งทุกอย่างที่นางอยากเล่าในชาติที่แล้วแต่ไม่มีโอกาสให้เขาฟังด้วยความขมขื่น"เจ้าเป็นใครกันแน่"อี้ซินฝืนรวบรวมแรงทั้งหมดเอื้อมมือที่แสนจะหนักอึ้งขึ้นมากระชากผ้าปิดหน้าของสตรีตรงหน้าออกดวงตาเขาสับสนปนวูบไหวเมื่อใบหน้านี้คือใบหน้าของฟ่างเซียนเซียน แต่ประโยคที่นางเอ่ยกับตนกลับเป็นเหตุการณ์ของอีกคนที่นางผู้นี้ไม่มีวันรู้ว่าวันนั้นเมื่อสองเดือนก่อนเกิดอะไรขึ้นบ้าง"คุณชายคงกำลังสับสนใช่หรือไม่ว่าข้ารู้เรื่องราวของเฟิงซูเหยาได้เช่นไร"รอยยิ้มแห่งชัยชนะผุดพรายขึ้นบนใบหน้าสว
"อย่าคิดหนี อ๊ะ!"เฟิงซูเหยาตั้งใจจะตามสามคนนั้นไปแต่ถูกฉินเทาเข้ามาขวางเอาไว้เสียก่อนเสียงกระบี่ทั้งสองฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตายจวบจนเฉินเทาเพลี่ยงพล้ำเสียท่าถูกเฟิงซูเหยาปลิดชีพ"สุนัขรับใช้ที่แสนซื่อสัตย์ สุดท้ายเจ้าก็ตายอย่างโดดเดี่ยวอย่างน่าเวทนา"นางกล่าวอย่างสมเพชร่างไร้ลมหายใจของฉินเทา จากนั้นจึงเร่งตามสามคนนั้นไปเพื่อไม่ให้เสียเวาไปมากกว่านี้มีดสั้นที่นางเก็บไว้กับตัวถูกขว้างออกไปแต่พลาดเป้า"เจ้านี่มันกัดไม่ปล่อยเสียจริง อยากรู้นักว่พวกนั้นจ้างวานเจ้าเท่าใดถึงยอมเสี่ยงตายขนาดนี้"เมื่อหนีไม่พ้นอี้ซินมีเพียงทางเลือกเดียวคือหันหน้าเผชิญกับนักฆ่าสาวที่ปกปิดใบหน้าเอาไว้"อย่าใช้นิสัยตนเองตัดสินผู้อื่น ไม่มีผู้ใดจ้างวานข้าทั้งนั้น หากแต่วันนี้ข้าจ้องการคิดบัญชีแค้นกับท่านด้วยเหตุผลส่วนตัว""ข้าไม่เคยรู้จักนักฆ่าเช่นเจ้ามาก่อน"หึ! แน่แหละที่เขาไม่รู้จักนางในร่างของผู้อื่นเช่นนี้"ท่านไม่รู้จักข้าแล้วเช่นไร ขอเพียงข้าจดจำความแค้นที่ท่านเคยมอบให้ข้าแต่เพียงผู้เดียวก็เพียงพอแล้ว"เฟิงซูเหยาไม่อยากเปลืองน้ำลายยิ่งกว่านี้ นางตั้งท่ากระบี่วสันหวนคืนทันที อี้ซินเห็นท่วงท่าของเพลงกระ
"ดาบนี้ตอบแทนที่ท่านพ่อชุบเลี้ยงข้ามาด้วยความเลือดเย็น"เฟิงซูเหยากระซิบแผ่วเบาข้างหูเฟิงเสี้ยวที่ถามว่านางเป็นใครเพียงแค่ได้ยินถ้อยคำนั้นดวงตาเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ"จ...เจ้า เจ้ายังไม่ตาย"น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเบาจนเฟิงซูเหยาเองก็แทบจะไม่ได้ยิน"ข้าจะตายก่อนได้แก้แค้นคนชั่วช้าเช่นพวกท่านได้เยี่ยงไร"น้ำเสียงที่ส่งออกมามีแต่ความเคียดแค้น"จ...เจ้า ..เฮือก!"มีคำพูดมากมายที่เฟิงเสี้ยวอยากเอ่ยแต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเฟิงซูเหยาแทงกระบี่เข้าไปจนสุดด้ามปลิดลมหายใจเขาจนสิ้นในครั้งเดียว"แม่นางระวัง!"เฟิงซูเหยาที่ไม่ทันระวังตัวเกือบถูกมีดจากฉินเทาปลิดชีพไปแล้ว โชคดีที่ได้ฟ่างเสวียนสวี่ร้องเตือน"ยานี้ช่วยถอนพิษได้"นางรีบยื่นขวดยาถอนพิษที่พกติดตัวมาเผื่อให้ฟ่างเสวียนสวี่ก่อนจะรีบปลีกตัวหนีไปปิดบัญชีแค้นในครั้งนี้หมับ!ทว่าข้อมือเล็กกลับถูกคว้าเอาไว้เสียก่อนด้วยฝ่ามือแกร่งของฟ่างเสวียนสวี่เอง"เซียนเอ๋อร์ นั่นเจ้าใช่หรือไม่"บิดาที่ไหนกันจะจำเพียงแววตาของบุตรสาวตนเองไม่ได้ครั้งแรกที่เขาลืมตาขึ้นมาเห็นเพียงแววตาของฟ่างเซียนเซียนที่อยู่ด้านหลังประมุขเฟิงเขาก็จับได้ในทันทีเฟิงซูเหยาไม่มีเ
"ซินเอ๋อร์แม่เปลี่ยนแผนแล้ว"คราแรกนางก็หวังจะไว้ชีวิตพระสวามีผู้นี้ให้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขจนแก่ตายอยู่หรอก แต่เพราะในใจเขายังไม่เคยลืมเกาเสิ่นอี้ผู้นั้นนางจะสงสารเขาไปไย"เสด็จแม่หมายความเช่นไร""ปล่อยเสือเข้าป่าสักวันมันต้องแว้งมากัดเรา มิสู้ตัดไฟเสียแต่ต้นลมเพื่อวันข้างหน้าที่นอนหลับสบายตา"ได้ยินมารดาพูดเช่นนั้นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมก็ผุดพรายขึ้น"จริงของท่านแม่ ปล่อยเสือบาดเจ็บหนีตายเข้าป่าสักวันแผลมันก็หายและตามมาเอาคืนพวกเรา""ศิษย์น้องระวังตัวด้วย"ไป๋เจิ้นหยางเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเตือนสติอี้เฟยที่อยู่ใกล้องค์ชายห้าที่สุด"มาปิดบัญชีแค้นกันเถอะ พี่สาม"เสียงชักกระบี่ดังขึ้นอย่างพร้อมเพียงเมื่อทหารของฝ่ายฝ่าบาทและคนของกองโจรเฟิงเสี้ยวต่างเตรียมพร้อมเข้าห่ำหั่นกันเฟิงซูเหยาที่ปลอมตัวปะปนอยู่ในกลุ่มกองโจรลอบหาโอกาสเข้าไปแก้แค้นคนที่ผลักไสให้นางถึงแก่ความตายหากแต่โจรก็คือโจร คนพวกนั้นเล่นสกปรกเมื่อควันสีเทาลอยคละคลุ้งทั่วตำหนักหอมหมื่นบุปผาอย่างไม่ให้ฝ่ายอี้เฟยได้ป้องกันตัว"ระวังควันพิษ"เฟิงซูเหยารีบตะโกนบอกก่อนจะลงกระบี่ปลิดชีพคนของกองโจรที่หันไปเล่นงานนางเมื่อรู้ว่าเป็นไ
"เหม่าทัน เจ้าคนชั่ว เจ้าจับหยังเอ๋อร์ลูกข้าไป"ทันทีที่จางปิงเห็นโอรสองค์เล็กที่ตามหาไม่พบเดินเข้ามาพร้อมเหม่าทันนางร้อนใจทันที"ใต้เท้าเหม่าทันจะทำการใด"ไป๋เจิ้นหยางถามขึ้นเพราะสิ่งที่เหม่าทันทำอยู่มิได้อยู่ในแผนการในครั้งนี้ แผนของพวกเขาคือให้เหม่าทันเฝ้าองค์ชายอี้หยังเอาไว้ หากพวกเขาพลาดพลั้งเสียท่าค่อยนำตัวองค์ชายสิบมาแลก"กุ้ยเฟย ท่านอยากได้องค์ชายสิบกลับไปหรือไม่"เหม่าทันไม่สนใจคำถามไป๋เจิ้นหยางสักนิด เขาตะโกนถามจางปิงที่ยืนตัวสั่นเทาเมื่อแผนทุกอย่างที่นางวางไว้ดิบดีถูกศัตรูทั้งหลายขัดขวาง"อยากฆ่าก็ฆ่า เจ้าจะพูดพล่ามเพื่ออันใด""เสด็จพี่"อี้หยังได้ยินเช่นนั้นรู้สึกปวดร้าวไปทั้งใจแม้ตลอดมาพวกเขาจะไม่เคยเห็นตนในสายตา แต่อี้หยังยังเชื่อว่าครอบครัวต้องไม่ทิ้งเขา แต่นี่กระไร ถ้อยคำที่พี่ชายเอ่ยบอกแก่ศัตรูมิได้มีความเป็นห่วงเขาสักนิด"เอาสิใต้เท้าเหม่า ท่านกล้าฆ่าคนจริงหรือ"กระบี่ในมือเหม่าทันสั่นเล็กน้อย ตั้งแต่เกิดมาเขาตัดสินโทษประหารผู้คนมาก็เยอะแต่ไม่เคยลงมือเชือดคอผู้อื่นด้วยตัวเองสักครั้งเดียว พอถูกองค์ชายอี้ซินท้าทายเช่นนี้เขายิ่งประหม่าและกลัวการฆ่าคนขึ้นมาจับใจ"โอ๊ย!
"เจ้าคือ..."ตั้งแต่ออกปราบกองโจรนี้ ไม่เคยมีผู้ใดเคยพบหน้าประมุขของกองโจรเฟิงเสี้ยวสักคน เลยไม่แปลกที่เสวียนสวี่จะไม่รู้จักเขา"ข้าคือสามีของฮูหยินรองเจ้าอีกคนอย่างไรเล่า"น้ำเสียงที่แสนหยามเกียรติดังขึ้นฟ่างเสวียนสวี่เกือบจะชักกระบี่ออกมาหากไม่ถูกต้าลู่ที่ยืนเคียงข้างห้ามเอาไว้ก่อน"แค้นข้าหรือว่าเสียหน้าที่ต้องทนเลี้ยงเลือดเนื้อผู้อื่นจนวันที่นางตายเช่นนี้""เจ้าคนชั่วช้า!""ท่านแม่ทัพใหญ่ใจเย็น ๆ ก่อนขอรับ"ต้าลู่รีบห้ามฟ่างเสวียนสวี่ที่ตอนนี้โกรธจนแทบจะควบคุมอารมณ์ตนเองไม่อยู่"นี่แค่เรื่องเดียวที่แม่ทัพใหญ่รับรู้ยังรับแทบไม่ได้ หากท่านรู้ความจริงเรื่องบุตรสาวคนโตจะไม่กระอักเลือดตายก่อนเลยหรือ""บุตรสาวคนโต เจ้ารู้จักฟ่างเฉียนเฉียนลูกข้าได้เช่นไร"ฟ่างเสวียนสวี่ถึงกับควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เขาตกใจไม่น้อยที่โจรชั่วช้ารู้จักบุตรสาวคนโตของเขาที่เกิดได้ไม่กี่วันก็หายตัวไป"นอกจากรู้จัก ข้ายังเปรียบเสมือนพ่อของนางอีกด้วย""เจ้าหมายความเช่นไร"หว่างคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน จ้องหน้าประมุขเฟิงเสี้ยวอย่างกดดันให้เขารีบพูดต่อ"เจ้าคิดว่าเด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกจะหายออกจากจวนใหญ่โตมีข้ารับใช้เ