บทที่ 11 อ้อมกอด 2/2เมื่อเจ้านายเดินลงมารับประทานอาหารเช้า ป้าชื่นจึงให้แม่บ้านคนอื่น ๆ ไปทำงานด้านนอกเพื่อที่จะได้คุยกับคุณนายได้สะดวก“เมื่อคืนคุณเจตไปนอนห้องหนูบัวมาค่ะ”"มีทะเลาะกันอีกไหมตอนเช้า""เท่าที่ชื่นเห็นก็ยังตึง ๆ ใส่กันอยู่นะคะ""ทำตัวอย่างกับผัวเมียงอนกันเลยนะว่าไหม""ชื่นก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะคุณนาย"“ฉันก็ได้แต่ภาวนาให้ลูกชายฉันหลงผู้หญิงคนนี้เข้าสักวันหนึ่ง บอกตามตรงนิสัยของหนูบัวฉันชอบจริง ๆ ทั้งน่ารัก ทั้งเจียมเนื้อเจียมตัว อีกอย่างใช้ให้ทำงานหนักงานเบาก็ไม่เคยเกี่ยง แตกต่างจากผู้หญิงคนนั้นอย่างสิ้นเชิง”คุณนายจิตรลดายังจำอดีตคนรักของลูกชายได้แม่น เจตนิพัทธ์เคยพาอีกฝ่ายมาที่บ้าน วันทั้งวันก็เอาแต่นอนเล่น ดีแต่ชี้นิ้วสั่งคนงานในบ้าน พอเจตนิพัทธ์ชวนออกไปดูไร่ดูสวนก็ไม่ยอมไปบ่นแต่ร้อน ผิวจะเสียบ้างล่ะ ชอบออดอ้อนให้ลูกชายของเธอพาไปซื้อของแพง ๆ ความจริงคุณนายจิตรลดาไม่ได้มีปัญหาหรอกหากลูกชายนั้นจะใช้เงินซื้อของดี ๆ แพง ๆ ให้ตัวเองบ้าง แต่นี่ลูกเธอใช้ของถูก ส่วนผู้หญิงคนนั้นได้ใส่แบรนด์เนม ดูยังไงก็รู้ว่าเด็กคนนั้นรักที่เงินทองมากกว่าตัวตนที่แท้จริงของลูกชายเธอและคุณ
บทที่ 12 ตัวแทน 1/3เจตนิพัทธ์พาบัวบูชามายังคาเฟ่ของไร่จิตรลดาเร็วกว่ากำหนด เพราะเมื่อครู่ตอนที่จอดรถหน้าฟาร์มโคนมเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทอย่างพร้อมพงษ์รีบวิ่งออกมา หมายจะทักทายคนที่เขาพาไปด้วย เจตนิพัทธ์จึงเปลี่ยนใจขับรถออกมาทั้งอย่างนั้น ปล่อยให้สัตวแพทย์หนุ่มยืนงงอยู่หน้าที่ทำงานของตัวเองเล่นบัวบูชาเองก็สงสัยว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เปลี่ยนแพลนกะทันหัน ทว่าเมื่อถามออกไปกลับได้คำตอบชวนงงกลับมาว่า"ที่ฟาร์มไม่มีอะไรน่าดูหรอก" เมื่อเขาพูดมาอย่างนั้นมีหรือที่เธอจะกล้าเอ่ยบอกว่า 'ต่อให้ไม่มีอะไรน่าดู บัวก็อยากเข้าไปดูค่ะ' สุดท้ายบัวบูชาก็ยอมนั่งรถมาเงียบ ๆ และเมื่อถึงคาเฟ่ของไร่ ดวงตาคู่สวยก็กลับมามีประกายตื่นเต้นอีกครั้ง ทุกมุมในคาเฟ่แห่งนี้ตกแต่งสวยมากจนเธออยากยกโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บรูปไว้ แถมด้านนอกยังมีที่นั่งกลางลำธารสำหรับลูกค้าที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติอีกด้วย"คาเฟ่นี้คุณเจตออกแบบด้วยรึเปล่าคะ" บัวบูชาถามอย่างอยากรู้ และแอบคิดไปแล้วด้วยว่าก็น่าจะเป็นเจตนิพัทธ์ที่ออกแบบ เพราะที่นี่ดูมีกลิ่นอายที่ความคล้ายคลึงกับรีสอร์ตเมื่อเช้า เน้นใช้ไม้เป็นโครงสร้างส่วนใหญ่ และใช้สีที่ดูกลมกลืนกับธรรมชาติใ
บทที่ 12 ตัวแทน 2/3ทันทีที่ร่างสูงโปร่งเปิดประตูห้องออกมา คนที่มานั่งเฝ้าตั้งแต่เห็นเขาเข้าคาเฟ่มาก็รีบเอ่ยเรียกเสียงหวาน ก่อนพลอยภัชชาในชุดเดรสสีอ่อนจะก้าวเดินเข้าไปใกล้อดีตคนรัก วันนี้เธอแต่งหน้าและแต่งตัวเน้นอ่อนหวานอย่างที่คิดว่าเจตนิพัทธ์จะต้องชอบ"บังเอิญจังเลยนะคะ เจอกันอีกแล้ว""บังเอิญเหรอ ผมนึกว่าคุณตั้งใจซะอีก"ดวงตาคมที่กดมองอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความรู้ทัน และดูจะไม่หลงเคลิ้มไปกับพลอยภัชชาเลยสักนิด แต่คนถูกจับได้กลับฉีกยิ้มหวานหยดสู้"อาจจะไม่ใช่ทั้งสองอย่างก็ได้ค่ะ พลอยคิดว่ามันน่าจะเป็นพรหมลิขิตมากกว่า"“ถ้ามาใช้บริการก็เชิญตามสบายครับ”เขาว่าอย่างตัดรำคาญก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของบัวบูชาตั้งใจจะพาออกไปจากจุดนี้ให้เร็วที่สุด เพราะไม่อยากสนทนากับพลอยภัชชาไปมากกว่านี้ ทว่าเสียงของอดีตคนรักกลับยังเอ่ยรั้งไว้"เดี๋ยวสิคะ นี่ใครเหรอคะ จะไม่แนะนำให้คนรักเก่ารู้จักหน่อยเหรอคะ” พลอยภัชชาตั้งใจเน้นย้ำว่า 'คนรักเก่า' ขณะหันไปสบสายตากับสาวหน้าจืดที่เจตนิพัทธ์จับมือถือแขนอยู่ในตอนนี้ก่อนหน้าบัวบูชาคิดว่าสาวสวยตรงหน้าอาจเป็นคนที่ชื่นชอบเจตนิพัทธ์ แต่เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายคือคนรักเก่าของ
บทที่ 12 ตัวแทน 3/3บรรยากาศภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยความเงียบ และความอึดอัดใจ ไม่รู้ทำไมพอเห็นท่าทางหงุดหงิดของเขายิ่งทำให้บัวบูชาคิดว่า เจตนิพัทธ์ยังเหลือเยื่อใยกับผู้หญิงคนนั้นอยู่จริง ๆ เขาดูเหมือนคนที่ทั้งรักทั้งแค้นไม่มีผิด เหมือนคนที่ยังรักแต่ก็อยากประชดประชันด้วยการทำตัวร้าย ๆ ใส่ดวงตาคู่สวยแอบเหลือบมองซีกหน้าคมเข้มด้านข้าง เขามองว่าเธอเป็นตัวแทนของคนรักเก่าจริงรึเปล่า ทุกครั้งที่ดีกับเธอก็เพราะเธอเหมือนผู้หญิงคนนั้นจริงไหม ก็หลงรักเขาไปแล้วนี่นายิ่งปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งไปกับความคิดเกี่ยวกับเจตนิพัทธ์และอดีตคนรักของเขา บัวบูชาก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้“วันนี้เธอไม่ต้องเข้าสำนักงานแล้ว” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นหลังขับรถเข้ามาจอดสนิทยังหน้าบ้านของตัวเอง“ทำไมล่ะคะ”“แค่ทำตามคำสั่ง แล้วไม่ต้องถามมากมันจะเป็นอะไรนักหนาบัว” พอหงุดหงิดจากอีกคน เจตนิพัทธ์ก็พาลเอาอารมณ์เหล่านั้นมาสาดใส่คนตัวเล็กอย่างไม่รู้ตัว พอรู้ตัวก็สายไปเสียแล้วดวงตาคู่สวยที่จ้องมองเขามันฉายชัดถึงความเสียใจอยู่ในนั้น และมันช่างแตกต่างจากคำตอบที่เธอตอบกลับกันเหลือเกิน"ค่ะ บัวเข้าใจแล้ว" ตอบเขาเสร
บทที่ 13 ท้อง 1/2ดวงตากลมจ้องมองที่ตรวจครรภ์ในมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งเห็นว่ามันแสดงผลสองขีดไม่เปลี่ยนมือของเธอก็ยิ่งสั่นไหว ก่อนที่หยดน้ำตาจะเริ่มไหลอาบแก้มเนียน“จะทำยังไงดี แม่ควรจะทำยังไงดี” น้ำเสียงสั่นเครือของบัวบูชาดังขึ้นขณะใช้ฝ่ามือลูบบริเวณหน้าท้องของตัวเอง ทั้งประจำเดือนที่ขาดหาย และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลจากที่ตรวจในมือเธอยิ่งมั่นใจว่าตอนนี้ ภายใต้หน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นมาจากปกติของตัวเอง มันมีเด็กคนหนึ่งอยู่ในนั้นอย่างแน่นอนเธอป้องกันตัวเองมาตลอด กินยาคุมสม่ำเสมอ หากจะพลาดก็คงมีแค่โอกาสเดียวนั่นคือครั้งแรกที่มีอะไรกับเจตนิพัทธ์ เพราะหลังจากวันนั้นเธอก็เป็นไข้ไปสองวันติดและไม่ได้กินยาป้องกันตามไปสักอย่าง บัวบูชาคิดน้อยไปว่าครั้งแรกคงไม่ถึงกับท้องได้ และสุดท้ายความประมาทของเธอในวันนั้นก็นำพาปัญหาใหญ่เข้ามาในชีวิตจนได้ตอนนี้ภายในจิตใจของหญิงสาวเต็มไปด้วยความกลัว บัวบูชายังเหลือสัญญาที่ต้องอยู่บ้านหลังนี้อีกตั้งสามเดือน แล้วเธอจะปิดเรื่องนี้ไว้ได้ยังไง สักวันท้องก็ต้องโตขึ้น ถ้าทุกคนรู้เธอจะถูกพรากลูกไปรึเปล่า ในหัวเกิดคำถามมากมาย ก่อนจะหวนนึกถึงข้อตกลงของคุณนายจิตร
บทที่ 13 ท้อง 2/2ก๊อก ก๊อก"หนูบัว ลุงมาเปลี่ยนหลอดไฟให้"เมื่อได้ยินเสียงคนด้านนอกบัวบูชาก็รีบล้างหน้าล้างตา ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องให้ และเพราะความรีบร้อนจึงลืมเก็บที่ตรวจครรภ์ซึ่งเผลอวางไว้ข้างอ่างล้างหน้าไปซะสนิทใบหน้าหวานออกอาการสงสัยไม่น้อย เมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่หน้าห้องของเธอไม่ใช่ลุงกรแต่เป็นพร้อมพงษ์"คุณพงษ์ เอ่อ มีอะไรรึเปล่าคะ""คือพี่ยกบันไดมาให้ลุงกรน่ะ แต่เมื่อกี้ป้าชื่นโทรมาตามบอกว่าก๊อกน้ำรั่วแกเลยรีบไปดูให้ ได้ยินว่าจะเปลี่ยนหลอดไฟที่ห้องใช่ไหมครับ มา เดี๋ยวพี่เปลี่ยนให้""ไม่เป็นไรค่ะคุณพงษ์ เดี๋ยวบัวเปลี่ยนเองก็ได้""เพดานบ้านไอ้เจตสูงจะตาย พี่ช่วยเปลี่ยนแหละดีแล้วครับ" เขายังตอบหญิงสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มใจดีเช่นเคย"แต่""ถ้าน้องบัวกลัว ก็เปิดประตูห้องตั้งไว้ก็ได้ครับ แต่รับรองพี่ไม่ทำอะไรหรอก พี่เป็นสุภาพบุรุษพอ""คือบัวไม่ได้มองคุณพงษ์แบบนั้นค่ะ""งั้นก็ดีครับ รีบเปลี่ยนกันเถอะ"บัวบูชายอมหลีกทางให้สัตวแพทย์หนุ่มได้ยกบันไดเข้ามาด้านในห้อง ก่อนจะบอกว่าหลอดไฟที่เปลี่ยนคือด้านในห้องน้ำ ซึ่งพร้อมพงษ์ก็จัดการยกบันไดเข้าไปตั้งให้มั่นก่อนจะปีนขึ้นไปเพื่อเปลี่ยนหลอ
บทที่ 14 ข้อตกลงใหม่ 1/3"ติดปัญหาอะไรรึเปล่า""ติดที่ผัวอยู่ที่บ้านหลังนี้ไง""คุณเจต" เสียงหวานหลุดเรียกชื่อคนที่เปิดประตูเข้ามาอย่างตกใจดวงตาคมฉายแววไม่พอใจอย่างหนักอยู่ในนั้น ยิ่งเห็นว่าบัวบูชาและเพื่อนสนิทของตัวเองอยู่ในห้องด้วยกันสองต่อสอง ด้วยท่าทางดูใกล้ชิดสนิทสนมคนอารมณ์ร้อนก็ยิ่งโมโหหนัก เขาเดินเข้าไปกระชากแขนบัวบูชาออกมาจากจุดที่เธอนั่งอยู่อย่างแรง "อยากไปอยู่กับไอ้พงษ์มันจนตัวสั่นเลยสิท่า" เสียงเข้มถามลอดไรฟันอย่างเหลืออด"มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะคุณเจต บัวเจ็บ ปล่อยบัวนะคะ" คนถูกจับพยายามจะฉุดยื้อข้อมือของตัวเองออกจากการพันธนาการ แต่กลับไม่ได้ผลเลยสักนิด มิหนำซ้ำเจตนิพัทธ์ยังบีบข้อมือเธอแรงขึ้นกว่าเดิมเสียอีก"ทีแบบนี้ทำมาตีหน้าเศร้า คิดว่าฉันจะเชื่อเธอรึไงบัว""เฮ้ย ไอ้เจต ใจเย็นดิวะ ปล่อยน้องบัวนะเว้ย" พร้อมพงษ์ที่เพิ่งจะได้สติจากการจับต้นชนปลายเรื่องทั้งหมด จนตอนนี้ได้รู้แล้วว่าความสงสัยก่อนหน้าของเขาเป็นเรื่องจริง เจตนิพัทธ์และบัวบูชาคงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริง แต่ถึงอย่างนั้นการใช้กำลังและคำพูดรุนแรงคุยกันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกที่ควรเลย"มึงไม่ต้องมายุ่ง นี่มันเรื่องข
บทที่ 14 ข้อตกลงใหม่ 2/3ช่วงเช้าของวันเจตนิพัทธ์เดินกุมขมับลงมายังชั้นล่างของบ้าน นอกจากหัวจะปวดจากอาการเมาค้างแล้ว ปากและช่วงแก้มยังเจ็บจากการโดนเพื่อนสนิทต่อยเมื่อคืนอีก เขาจำทุกอย่างได้อยู่บ้าง รู้ด้วยว่าตัวเองทำอะไรลงไป ความโกรธบัวบูชาก็ยังเหลืออยู่มาก แต่หากเธอยอมมาขอโทษและอธิบายทุกอย่างเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง เขาอาจจะยอมยกโทษให้เธอก็ได้"ชื่นเตรียมยาให้ตาเจตหน่อยนะ""ค่ะคุณนาย"สองแม่ลูกนั่งกินข้าวเช้ากันเงียบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เจตนิพัทธ์ยอมให้ป้าชื่นทายาที่หน้าให้ก่อนจะเดินออกมายืนรอใครบางคนที่รถซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน ตั้งใจว่าจะพูดคุยกันระหว่างที่เขาขับรถไปส่งเธอยังสำนักงานของไร่ ทว่ารอแล้วรออีกบัวบูชาก็ไม่ยอมออกมาเสียทีเจ้าของใบหน้าดุจึงเดินตรงดิ่งไปที่ห้องพักของเธอ เคาะห้องอยู่หลายทีก็ยังเงียบ"บัว เปิดประตู ถ้าไม่เปิดฉันจะเข้าไปเดี๋ยวนี้"มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับเจตนิพัทธ์ เขาจับลูกบิดก่อนจะเปิดเข้าไป ซึ่งประตูมันไม่ได้ล็อกเขาจึงเปิดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และก็พบว่าภายในห้องเล็กตรงหน้าของเขาตอนนี้มันไม่ได้แค่เงียบเพียงอย่างเดียวแต่...มันว่างเปล่าด้วยไม่มีของใ
บทที่ 20 ผู้หญิงเนรคุณ 2/2"พี่เจต" บัวบูชาเรียกชื่ออีกฝ่ายทั้งน้ำตา หัวใจยังสั่นไหวรุนแรงด้วยความกลัว"เป็นอะไรรึเปล่าบัว เจ็บตรงไหนไหม""เจ็บท้องค่ะ" เธอบอกเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวดจากแรงบีบรัดที่เกิดขึ้นตรงช่วงหน้าท้อง เม็ดเหงื่อเริ่มผุดพรายตามกรอบหน้าหวานมากขึ้นเรื่อย ๆอรรถพลไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าลูกสาวและหลานของตนจะเป็นอย่างไรบ้าง เขารีบก้มเก็บกระเป๋าเงินและถุงกำมะหยี่สีแดงคล้ายถุงใส่ทองขึ้นมาจากพื้นก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไป ทว่ายังไม่ทันได้วิ่งหนีไปไกลเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลก็เข้ามารวบตัวอีกฝ่ายไว้ได้ทันท่วงทีเจตนิพัทธ์ไม่ได้สนใจความวุ่นวายรอบข้าง สิ่งเดียวที่เขาสนใจตอนนี้คือความปลอดภัยของลูกและเมียเท่านั้น เจ้าของร่างสูงโปร่งรีบอุ้มคนท้องกลับเข้าไปด้านในโรงพยาบาลและตามหมอให้มาดูอาการอย่างร้อนใจเขากลัวจนแทบบ้าว่าบัวบูชาและลูกจะเป็นอะไรรึเปล่า และเอาแต่โทษตัวเองซ้ำ ๆ ที่ทิ้งเธอไว้เพียงลำพังจนเรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นแบบนี้ถ้าหากเขามาไม่ทัน บัวบูชากับลูกจะเป็นอย่างไรบ้าง หากเป็นแบบนั้นเขาคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองแน่"ทั้งแม่และเด็กปลอดภัยดีค่ะ น่าจะเกิดจากอาการวิตกกังวลขอ
บทที่ 20 ผู้หญิงเนรคุณ 1/2ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งเจตนิพัทธ์ก็ยังรู้สึกตื่นเต้น และตื้นตันใจทุกครั้งที่ได้เห็นภาพอัลตราซาวด์ของเจ้าลูกชาย ในขณะที่มือยังกอบกุมมือแม่ของลูกไว้ ทว่าดวงตาคู่คมกลับเอาแต่จ้องหน้าจอแสดงผลของคุณหมอแทบไม่กระพริบ เสียงเต้นของหัวใจลูกดังชัดเจนในสองหูคนเป็นพ่อ อีกแค่ไม่กี่สัปดาห์เด็กที่เขาเห็นผ่านจอตรงหน้านี้ก็จะลืมตาดูโลกแล้ว ยิ่งคิดหัวใจคนเป็นพ่อยิ่งโลดแล่นอย่างดีใจเขาพาบัวบูชามาพบคุณหมอด้วยตัวเองทุกครั้ง แม้ช่วงไตรมาสสุดท้ายหมอจะนัดว่าที่คุณแม่บ่อยแทบทุกสัปดาห์แต่คนที่ยุ่งมากอย่างพ่อเลี้ยงเจตก็ไม่เคยให้บัวบูชาต้องมาเพียงลำพังเลยแม้แต่ครั้งเดียว"เจ้าตัวเล็กแข็งแรงดีมากค่ะคุณพ่อคุณแม่ แต่ว่าช่วงนี้ต้องควบคุมเรื่องน้ำตาลหน่อยนะคะ"ว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ตั้งใจฟังสิ่งที่คุณหมอแนะนำกันอย่างดี พูดคุยกับคุณหมอเสร็จก็พากันออกมารอรับยาบำรุงด้านนอก"เหนื่อยไหม" เขาถามหลังประคองคนท้องโตมานั่งยังที่นั่งรอรับยา"นิดหน่อยค่ะ""ดื่มน้ำก่อน" เจตนิพัทธ์ยื่นขวดน้ำเย็น ๆ ที่เสียบหลอดให้เรียบร้อยไปให้คุณแม่ที่ตอนนี้ดูอวบอิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่ถึงอย่างนั้นในสายตาของเขาบัวบู
บทที่ 19 วันแรกของการดูแลคนท้อง 4/4เดิมทีบัวบูชาก็เล่านิทานให้ลูกในท้องฟังอยู่บ่อยครั้ง เพราะศึกษามาว่าการเล่านิทานให้ลูกฟังตั้งแต่อยู่ในท้องมันช่วยกระตุ้นพัฒนาการสมองของลูก และยังทำให้ลูกจดจำเสียงของพ่อและแม่ได้ด้วย แต่ไม่คิดเลยว่าเจตนิพัทธ์เองก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย ตอนที่เขาชวนเธอไปซื้อหนังสือเมื่อช่วงบ่ายก็เอาแต่พูดไม่หยุดว่าอยากอ่านเรื่องอะไรให้ลูกฟังบ้าง แถมยังซื้อกลับมาจนแทบทำเป็นชั้นหนังสือได้เลยเสียงเล่านิทานยังติด ๆ ขัด ๆ เพราะเพิ่งจะเคยเล่าเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นเจตนิพัทธ์ก็ยังตั้งใจเล่าต่อไปและบอกตัวเองตลอดว่าพรุ่งนี้เขาจะต้องเล่าให้ดีกว่านี้ให้ได้ และเมื่อนิทานจบลงว่าที่คุณพ่อถึงได้รู้ว่าคนบนเตียงนอนหลับสนิทไปแล้ว"ไม่ใช่ว่าน่าเบื่อจนหลับหรอกใช่ไหม" เสียงทุ้มพึมพำแผ่วเบากับตัวเอง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้คนบนเตียง วันนี้เขายังจับจองพื้นข้างเตียงของบัวบูชาเป็นที่หลับนอนเช่นเคยเจตนิพัทธ์นั่งมองหน้าคนหลับสลับกับหน้าท้องที่มีลูกของเราอยู่ในนั้นนานจนเริ่มง่วง แต่ก่อนจะนอนเขาก็อยากจะสัมผัสเนื้อตัวแม่ของลูกนิด ๆ หน่อย ๆ ให้พอชุ่มชื่นหัวใจบ้าง ใบห
บทที่ 19 วันแรกของการดูแลคนท้อง 3/4"แล้วต่อจากนี้บัวมีสิทธิ์ไหมคะ สิทธิ์ที่จะอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคุณเจตให้มากขึ้น"ใบหน้าคมเข้มระบายยิ้มกว้าง ดวงตาคล้ายมีประกายระยิบระยับอยู่ด้านในนั้น เขาก้าวเข้าไปใกล้คนท้องขึ้นอีกหน่อยก่อนจะเอื้อมไปจับมือของเธอไว้"ได้สิ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับพี่บัวถามได้เลยนะ ถามได้ตลอดเวลา อยากรู้ตอนไหนก็ถามออกมาได้เลยพี่พร้อมจะบอกทุกเรื่อง" เขาไม่รู้ว่ารอยยิ้มของตัวเองตอนนี้เรียกว่ายิ้มจนแก้มแทบปริได้ไหม รู้แค่เพียงดีใจเหลือเกินที่คนตรงหน้าอยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาให้มากขึ้นบัวบูชาไม่รู้ว่าเธอคิดผิดหรือถูกที่พูดออกไปแบบนั้น เพราะมันทำให้เจตนิพัทธ์ยิ้มกว้างอย่างที่เธอชอบ เธอชอบมองเขายิ้มและหัวเราะที่สุด และตอนนี้รอยยิ้มของเขาก็ทำเอาหัวใจเธอสั่นไหวรุนแรงเหลือเกิน"คือ...เอ่อ" อยู่ ๆ เธอก็คล้ายคนสมองเบลอไปชั่วขณะคิดอะไรไม่ออกเพียงเพราะรอยยิ้มของผู้ชายคนหนึ่ง "บัวว่าบัวหิวแล้วค่ะ""กับข้าวเสร็จหมดแล้ว บัวไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลย เดี๋ยวพี่ยกไปให้"เธอเพียงพยักหน้ารับก่อนจะเดินหน้าร้อนออกมาจากจุดที่ยืนอยู่ และไม่รู้เลยว่าตอนนี้บนใบหน้ากำลังมีรอยยิ้มแห่งความดีใจประด
บทที่ 19 วันแรกของการดูแลคนท้อง 2/4คนท้องรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งในช่วงสายของวัน อาการแพ้ท้องดีขึ้นมากกว่าช่วงเช้า ว่าที่คุณแม่ที่หน้าท้องเริ่มนูนเด่นค่อย ๆ ขยับตัวลุกจากเตียง ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอน และเพราะมีเสียงดังมาจากในห้องครัวเธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดู ซึ่งก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นคนที่อยู่ในครัวไม่ใช่ป้าชื่น แต่เป็นเจ้าของร่างสูงโปร่ง อีกทั้งเจตนิพัทธ์ตอนนี้ยังอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนอีกด้วย"คุณเจตทำอะไรอยู่คะ""ตื่นแล้วเหรอ" เขาหันมายิ้มกว้างให้คนท้อง ก่อนจะรีบล้างไม้ล้างมือแล้วก้าวเดินเข้าไปหาเธอ ทว่าคราวนี้ไม่เหมือนเมื่อเช้า เพราะบัวบูชาเริ่มเหม็นกลิ่นตัวพ่อของลูกอีกแล้ว"อย่าเข้ามาใกล้เกินค่ะ" เธอรีบยกมือขึ้นห้ามเขาไว้ ซึ่งเจตนิพัทธ์ก็ยอมถอยห่างแต่โดยดี"ยังคลื่นไส้อยากอ้วกอยู่อีกไหม""ห่างเท่านี้ก็ไม่ค่อยได้กลิ่นแล้วค่ะ ว่าแต่ป้าชื่นล่ะคะ" ดวงตาคู่สวยมองหาคนที่อยู่ดูแลเธอมาเกือบจะสองเดือน ปกติทุกเช้าหลังตื่นนอนบัวบูชามักจะเห็นป้าขื่นคลุกตัวอยู่แต่ในห้องครัวนี่นา"พี่ให้แกกลับไปแล้ว เพราะต่อจากนี้พี่จะเป็นคนดูแลเธอกับลูกเอง อีกอย่าง...ก็ถือเป็นการซ้อมอยู่ด้วยกันแบบพ่อแม
บทที่ 19 วันแรกของการดูแลคนท้อง 1/4คนที่เพิ่งจะได้นอนช่วงเช้ามืดเพราะมัวแต่หาข้อมูลในการดูแลคนท้องสะดุ้งตัวตื่นทันที เมื่อได้ยินเสียงคนอ้วกดังมาจากในห้องน้ำ เจตนิพัทธ์รีบลุกทั้งในสภาพที่ใบหน้ายังงัวเงียและผมเผ้าไม่ได้จัดทรง เขาเดินตรงไปหน้าห้องน้ำโดยไม่ลืมหยิบขวดน้ำเปล่าไปให้คนท้องใช้ล้างคอว่าที่คุณแม่อ้วกจนแทบไม่มีอะไรให้อ้วกออกมาอีกแล้ว บัวบูชาไม่มีแรงพอจะยืนด้วยซ้ำจึงต้องนั่งนิ่งอยู่ที่พื้นห้องน้ำก่อน ทว่าก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ ๆ ร่างกายก็ถูกช้อนอุ้มขึ้น"จะทำอะไรคะ""พาไปนอนที่เตียง เป็นแบบนี้ทุกเช้าเลยเหรอ" ร่างสูงถามขณะอุ้มว่าที่คุณแม่กลับมานอนพักยังเตียงนอน เขาวางเธอลงอย่างเบามือ ก่อนจะจัดการนำหมอนมารองแผ่นหลังเพื่อให้คนท้องนั่งได้อย่างสบายขึ้น"บัวแพ้ท้องช้า เพิ่งจะมาแพ้หนักก็ตอนที่เข้าเดือนที่สี่ค่ะ ช่วงเช้าก็จะแพ้ท้องหนักกว่าช่วงอื่น ๆ สาย ๆ หน่อยอาการก็จะดีขึ้นเองค่ะ""รอแป๊บนะ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำขิงกับขนมมาให้ เห็นเขาบอกว่ามันช่วยแก้อาการคลื่นไส้ได้""ใครบอกคะ" บัวบูชาเอียงคอสงสัย และก็ได้รับเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนกลับมาจากใบหน้าคมเข้ม"ในเน็ตน่ะ"เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้อง
บทที่ 18 ขอโอกาส 3/3"ไหนว่าให้โอกาสเรื่องลูกไง ในท้องก็ลูกพี่นะ พี่ก็อยากจะดูแลเหมือนกัน"บัวบูชาถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้ สุดท้ายเธอก็ยอมใจอ่อนให้เขาตามเคย"งั้นก็แล้วแต่คุณเจตค่ะ เดี๋ยวบัวไปหาผ้าปูกับหมอนมาให้""ไม่เป็นไร ๆ" ร่างสูงโปร่งรีบมาขวางคนท้องไว้ เขาจะไปใช้งานคนท้องลงได้อย่างไรกัน "เดี๋ยวพี่ไปหาเอง แต่อย่าล็อกห้องนะ ถ้าเธอล็อกห้องคืนนี้พี่จะพังประตูเข้ามาจริง ๆ ด้วย""เอาแต่ใจที่สุด"เธอบ่นเขาอย่างไม่จริงจังนัก และมันก็เรียกเสียงหัวเราะของเจตนิพัทธ์ได้ ปกติเธอเคยบ่นเขาที่ไหนกัน พอได้มาฟังและเห็นกับตาก็เป็นภาพที่แปลกไม่น้อย แต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"เพราะเป็นห่วงต่างหาก""อยากทำอะไรก็เชิญค่ะ บัวไม่สนใจคุณแล้ว บัวง่วง" คนท้องที่ตาแทบปิดพูดตัดบท ก่อนจะหมุนปลายเท้าไปทางเตียงนอน"โอเค ๆ ป่ะ ไปนอนกัน" คนฉวยโอกาสเก่งรีบเข้าไปประคองเอวของบัวบูชาและพาเดินกลับไปที่เตียง เมื่อเธอล้มตัวนอนก็ช่วยดึงผ้าห่มมาห่มให้ทว่าเขายังไม่ยอมออกไปหาผ้าและหมอนอย่างที่พูดไว้ก่อนหน้า ร่างสูงโปร่งนั่งลงข้าง ๆ เตียงคนท้อง คราแรกสายตาก็จ้องมองใบหน้าหวานอยู่อย่างนั้นจนบัวบูชาต้อ
บทที่ 18 ขอโอกาส 2/3กลายเป็นบัวบูชาเสียเองที่ต้องหลบสายตาไปก่อน บางทีที่คนพูดไว้ว่าคนที่รู้สึกมากกว่ามักจะแพ้ในเรื่องความรักเสมอ อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ เพราะเพียงแค่เขาพูดถ้อยคำที่ดูหวานซึ้งและจริงใจออกมา หัวใจของบัวบูชาก็คล้ายจะโอนอ่อนตามไปได้ง่าย ๆ"ตอนนี้บัวคงให้โอกาสคุณได้แค่เรื่องลูกค่ะ เพราะยังไงคุณเจตก็เป็นพ่อของแก ส่วนเรื่องของเรา บัว คือ บัวยังไม่แน่ใจ และต้องบอกตามตรงว่าบัวยังไม่เชื่อใจคุณเจตค่ะ"เธอรู้ว่าคนเราเปลี่ยนกันได้ แต่ก็ยากจะเชื่อได้อย่างสนิทใจในตอนนี้ว่าคนตรงหน้าจะยอมเปลี่ยนตัวเองจริง ๆ เกิดเขาแค่ดีกับเธอแค่วันนี้พรุ่งนี้ วันมะรืนกลับไปเป็นคนใจร้ายเช่นเดิมล่ะใบหน้าหล่อระบายยิ้มอ่อนโยนออกมา เขาเข้าใจดีเรื่องที่บัวบูชาบอกว่ายังไม่เชื่อใจ ก็เขาเคยใจร้ายกับเธอตั้งมากมายขนาดนั้น ใครจะไปยอมเชื่อได้ง่าย ๆ ล่ะ แต่อย่างน้อยการที่เธอไม่ปฏิเสธเสียงแข็งกลับมาก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว ไม่สิ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากต่างหาก เพราะบัวบูชาให้โอกาสเขาเรื่องลูกแล้ว"ในเมื่อเธอยังไม่แน่ใจ ก็ขอโอกาสให้ฉันได้พิสูจน์ความจริงใจให้เห็นนะ" เขายังไม่ยอมปล่อยมือนุ่มไป ยังใช้นิ้วหัวแม
บทที่ 18 ขอโอกาส 1/3เจตนิพัทธ์อาบน้ำใหม่อีกรอบ หรือจะเรียกให้ถูกคงเป็นสามรอบมากกว่า รอบแรกเขาขัดตัวแล้วล้างออก จากนั้นก็ดมเช็กดูแม้จะหอมกลิ่นสบู่แล้วก็ตาม แต่ก็กลัวคนท้องจะยังเหม็นอีกจึงได้อาบซ้ำไปอีกสองรอบ อาบน้ำเสร็จจนคิดว่าตัวหอมก็รีบเดินออกมาตามหาคนที่เขาอยากพูดคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้ เมื่อเห็นว่าบัวบูชากำลังยืนดื่มนมอยู่ในห้องครัวก็รีบก้าวไปหา ทว่าดูเหมือนไอ้อาการแปลก ๆ ที่เรียกว่า 'เหม็นผัว' มันจะร้องเตือนคนท้องก่อนเจตนิพัทธ์จะได้เข้าใกล้เสียอีก ใบหน้าหวานจึงดูเหมือนพะอืดพะอมขึ้นมา ซึ่งอาการเหล่านั้นมันก็อยู่ในสายตาคู่คมตลอด เขาจึงต้องถอยออกมายืนในระยะที่ไม่ใกล้บัวบูชามากจนเกินไป"ยังเหม็นอยู่เหรอ""ก็ถ้าอยู่ห่าง ๆ ก็ไม่ได้กลิ่นแล้วค่ะ" "แต่ฉันอาบน้ำใหม่แล้วนะ""บัวไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าทำไมถึงยังเหม็นอยู่ แต่บัวไม่ได้แกล้งคุณนะคะ" คนท้องเริ่มมีสีหน้าคล้ายหงุดหงิดขึ้นมาดื้อ ๆ ทั้งที่เขายังไม่ได้พูดหรือกล่าวหาว่าเธอแกล้งเลยสักคำตอนนี้บัวบูชาเริ่มรู้สึกแล้วว่าการพูดคุยกับเจตนิพัทธ์ทำให้เธออารมณ์ไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก อาการไม่ต่างจากที่ป้าชื่นว่าไว้เลย ยิ่งใกล้ยิ่งเหม็นและยิ่งอาร