บทที่ 14 ข้อตกลงใหม่ 2/3ช่วงเช้าของวันเจตนิพัทธ์เดินกุมขมับลงมายังชั้นล่างของบ้าน นอกจากหัวจะปวดจากอาการเมาค้างแล้ว ปากและช่วงแก้มยังเจ็บจากการโดนเพื่อนสนิทต่อยเมื่อคืนอีก เขาจำทุกอย่างได้อยู่บ้าง รู้ด้วยว่าตัวเองทำอะไรลงไป ความโกรธบัวบูชาก็ยังเหลืออยู่มาก แต่หากเธอยอมมาขอโทษและอธิบายทุกอย่างเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง เขาอาจจะยอมยกโทษให้เธอก็ได้"ชื่นเตรียมยาให้ตาเจตหน่อยนะ""ค่ะคุณนาย"สองแม่ลูกนั่งกินข้าวเช้ากันเงียบ ๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา เจตนิพัทธ์ยอมให้ป้าชื่นทายาที่หน้าให้ก่อนจะเดินออกมายืนรอใครบางคนที่รถซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน ตั้งใจว่าจะพูดคุยกันระหว่างที่เขาขับรถไปส่งเธอยังสำนักงานของไร่ ทว่ารอแล้วรออีกบัวบูชาก็ไม่ยอมออกมาเสียทีเจ้าของใบหน้าดุจึงเดินตรงดิ่งไปที่ห้องพักของเธอ เคาะห้องอยู่หลายทีก็ยังเงียบ"บัว เปิดประตู ถ้าไม่เปิดฉันจะเข้าไปเดี๋ยวนี้"มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับเจตนิพัทธ์ เขาจับลูกบิดก่อนจะเปิดเข้าไป ซึ่งประตูมันไม่ได้ล็อกเขาจึงเปิดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และก็พบว่าภายในห้องเล็กตรงหน้าของเขาตอนนี้มันไม่ได้แค่เงียบเพียงอย่างเดียวแต่...มันว่างเปล่าด้วยไม่มีของใ
บทที่ 14 ข้อตกลงใหม่ 3/3แพขนตายาวค่อย ๆ เปิดปรือขึ้นอย่างเชื่องช้า แสงสว่างจ้าภายในห้องทำเอาบัวบูชาต้องกะพริบตาปรับการมองเห็นอยู่หลายครั้ง"หนูบัว ฟื้นแล้วเหรอ" คุณนายจิตรลดาซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงรีบเข้ามาดู เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของหญิงสาวก่อนหน้าหลังบัวบูชาเป็นลมไปเธอได้สอบถามเรื่องราวจากเพื่อนสนิทของลูกชายแล้วว่าที่พร้อมพงษ์พูดก่อนหน้าคืออะไร จนได้รู้ว่าบัวบูชากำลังตั้งท้อง จึงได้พาหญิงสาวมาโรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอตรวจร่างกายดูอีกทีว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ รวมถึงแม่กับเด็กแข็งแรงดีรึเปล่า ซึ่งก็ได้รับคำตอบที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่บัวบูชาตั้งท้องจริง และสุขภาพของแม่และเด็กก็แข็งแรงดีเช่นกัน"คุณนายที่นี่ที่ไหนคะ" คนป่วยเอ่ยถามขณะลุกขึ้นมานั่ง แม้จะมึนงงอยู่บ้างแต่ตอนนี้บัวบูชาก็พอจะเดาได้ว่าที่นี่คือโรงพยาบาลอย่างแน่นอน ดูจากเครื่องไม้เครื่องมือรอบตัว และก็ได้รับคำยืนยันอีกครั้งจากคนอายุมากกว่า"โรงพยาบาลน่ะ เมื่อกี้หนูบัวเป็นลมล้มพับไป"คำบอกเล่าของคนคุณนายจิตรลดาทำให้คนบนเตียงถึงกับรีบยกมือขึ้นมาแตะหน้าท้องของตัวเองด้วยความกังวลใจ และมันก็ไม่พ้นสายตาของคนที
บทที่ 15 รู้ตัวเมื่อสาย 1/2รถกระบะคู่ใจของพ่อเลี้ยงไร่จิตรลดาขับเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ฝุ่นที่ตลบรอบด้านบ่งบอกได้ดีว่ารถคันดังกล่าวพุ่งมาด้วยความเร็วแค่ไหน เจตนิพัทธ์รีบก้าวลงจากรถแล้วตรงไปยังหน้าประตูบ้านหลังเล็กตรงหน้า"บัว อยู่รึเปล่า บัว"เขาทั้งเคาะประตู ทั้งเรียกอยู่หลายครั้งก็ไม่มีเสียงใดตอบกลับมา ร่างสูงโปร่งจึงเดินดูรอบบ้านซึ่งไม่ได้กว้างขวางอะไรมาก และมันก็ดูเงียบราวกับร้างคนอยู่มานานแล้ว"มาหาใครล่ะคุณ"อรรถพลเห็นว่ามีคนมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ก็อดไม่ได้ที่จะเข้ามาถาม และเมื่ออีกฝ่ายหันมาชายวัยกลางคนก็จำได้ทันทีว่าคนตรงหน้าคือลูกชายของคุณนายจิตรลดา เห็นอย่างนั้นก็คิดจะหนีเพราะเกรงว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะมาทวงหนี้"เดี๋ยวก่อนครับลุง คือ...ผมมาหาบัว ลุงเห็นเธอกลับมาที่บ้านบ้างไหมครับ" เจตนิพัทธ์ถามไปโดยไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้า คือพ่อของหญิงสาวที่เขากำลังตามหาตัวอยู่ในตอนนี้"บัวมันไม่ได้ไปอยู่กับพวกคุณเหรอครับ อย่าบอกนะว่ามันหนีไปแล้ว นะ...นี่คุณจะมาทวงหนี้ใช่ไหม" คนมีชนักติดหลังออกอาการร้อนรนใจ กลัวไปหมดว่าจะถูกซ้อมเพื่อทวงหนี้อีก "ลุงรู้เรื่องบัวได้ยังไง แล้วรู้เห
บทที่ 15 รู้ตัวเมื่อสาย 2/2รถกระบะสีดำคู่ใจของพ่อเลี้ยงเจตขับเข้ามาจอดสนิทยังหน้าบ้านของตัวเองในช่วงหัวค่ำเช่นเคย ทว่าเมื่อก้าวลงมาจากรถสายตากลับสะดุดเข้ากับแปลงดอกไม้สีขาวน่ารักบริเวณหน้าบ้าน ก่อนจะหวนนึกถึงคำพูดของใครบางคนขึ้นมา"คือ...บัวกำลังจะปลูกดอกเดซี่ค่ะ คุณนายบอกว่าคุณเจตชอบดอกไม้สีขาว พอดีว่าตรงตู้เก็บเมล็ดดอกไม้ มีแต่ดอกเดซี่ที่เป็นสีขาว"เธอรู้ว่าเขาชอบถึงแม้ตัวเขาจะไม่เคยยอมรับออกมาก็ตามที และบัวบูชาก็มักจะตัดดอกไม้ที่ตัวเองปลูกไปใส่แจกันเล็ก ๆ วางไว้ในห้องนอนของเขาทุกเช้าในวันเสาร์และอาทิตย์ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้แปลงดอกไม้ก่อนจะนั่งทับส้นเท้าข้างหนึ่งของตัวเอง มือเอื้อมไปสัมผัสเจ้าดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ตรงหน้า มันสวยและน่ารักมากจริง ๆ แต่ก็มีบางส่วนที่เริ่มเหี่ยวเฉาใกล้ตายเมื่อได้คิดกับตัวเองมาทั้งวันเจตนิพัทธ์ถึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเขามีสิ่งที่ชอบอยู่ใกล้ตัว ใกล้มากจริง ๆ แต่กลับไม่เคยสังเกต ไม่เคยดูแลให้ดี ไม่เคยชื่นชม ไม่ว่าจะกับแปลงดอกเดซี่ตรงหน้านี้ หรือกับคนที่ปลูกมันก็ตามเขาละเลยที่จะใส่ใจ และให้ความสำคัญกับสิ่งใกล้ตัว เป็นเขาเองสินะที่ทำ 'ผิดพลาด'เริ่มแรกเจตน
บทที่ 16 คืนไร้คุณ 1/2"คำก็เมีย สองคำก็เมีย กูถามมึงจริง ๆ เถอะไอ้เจต มึงเคยทำอะไรให้สมกับคำว่าเมียที่มึงเรียกเขาไหม ให้น้องนอนห้องคนใช้ พูดจาดูถูกเหยียดหยาม ไม่เคยให้เกียรติ ไม่เคยเชื่อใจ ไม่เคยพาออกหน้าออกตาให้ใครรู้จัก เก็บเขาไว้เป็นแค่ของเล่นในมุมมืดของมึงก็เท่านั้น ถามจริง แบบนี้มึงยังกล้าเรียกน้องบัวว่าเมียอีกเหรอวะ"เจตนิพัทธ์สะอึกไปกับคำต่อว่าของเพื่อนสนิท เขาเหมือนคนน้ำท่วมปากพูดอะไรไม่ออก จะเถียงก็หาคำใดมาแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้เลยสักคำ เขาทำแบบนั้นจริง ๆ ใจร้ายกับบัวบูชาหลายอย่าง มิหนำซ้ำยังใช้ถ้อยคำรุนแรงทำร้ายจิตใจเธอไปอย่างไม่น่าให้อภัย อีกทั้งเรื่องวันนั้นเจตนิพัทธ์ก็ได้ฟังจากทั้งแม่และลุงกรแล้วว่า พร้อมพงษ์เข้าไปในห้องของบัวบูชาเพื่อที่จะช่วยเปลี่ยนหลอดไฟให้ก็เท่านั้น ทั้งคู่ไม่ได้นัดกันไปทำเรื่องไม่ดีอย่างที่เขาคิด มีแค่เขาที่บ้าหึงหวงจนหน้ามืดตามัว และไม่เคยคิดจะเชื่อใจในตัวผู้หญิงที่หลับนอนด้วยกันแทบทุกคืนเป็นเขาเองที่ผิด เขาแค่คนเดียวสีหน้าที่ดูซึมลงไปและไม่เกรี้ยวกราดเหมือนเดิมของคนที่เป็นทั้งเพื่อนและเจ้านาย ทำเอาอารมณ์ของพร้อมพงษ์อ่อนลงไปด้วย อย่างน้อยเจตนิพั
บทที่ 16 คืนไร้คุณ 2/2"แม่ไม่รู้จริง ๆ เหรอครับว่าบัวไปที่ไหน" เสียงของคนเป็นลูกถามขึ้นระหว่างมื้ออาหารเย็น"ถามหาทุกวัน แม่ก็บอกว่าไม่รู้ไง ได้ข่าวว่าช่วงนี้แกหนีงานไปตามหาหนูบัวเขาด้วยนี่ ไม่เจอเลยรึไง""ไม่เลยครับ ถึงได้มาถามแม่นี่ไง"คนเป็นแม่แอบลอบยิ้มกับตัวเอง จะเจอได้อย่างไร ในเมื่อตนดักทุกช่องทางของลูกชายไว้หมดแล้ว นักสืบเอกชนที่เจตนิพัทธ์จ้างงานก็เป็นคนที่คุณนายจิตรลดารู้จักและสนิทสนมด้วยไม่น้อย ขอให้ช่วยทำอะไรทางนั้นก็ยอมช่วยหมด"ทำตัวอย่างกับคนเมียหาย""ก็หายจริง ๆ น่ะสิครับ"เสียงที่ฟังดูเศร้ากว่าเคยของลูกชายเกือบทำให้คนเป็นแม่ใจอ่อน แต่แค่นี้มันยังไม่พอให้หลาบจำหรอก"แม่เตือนแกแล้วว่าให้ทำตัวดี ๆ กับหนูบัว ยังไงเขาก็เป็นคนคนหนึ่งเหมือนกับเรา แถมยังน่าสงสารอีกต่างหาก ถูกพ่อขอร้องให้มาใช้หนี้แทน ทั้งที่เงินก็ไม่ได้ใช้ด้วยสักบาท แถมยังมาถูกทำร้ายจิตใจด้วยคำพูดจากปากแกอีก น่าสงสารจริง ๆ"เจตนิพัทธ์นิ่งไปกับคำต่อว่าของแม่ และเขาก็เลือกที่จะเงียบเพราะไม่มีข้อโต้แย้งอะไร ทุกความผิดที่แม่ว่ามาเขาน้อมรับมันไว้ทั้งหมดอย่างไม่คิดปฏิเสธหลังจบมื้ออาหารเจ้าของร่างสูงโปร่งก็เดินกลับขึ
บทที่ 17 อาการเหม็นผัว 1/2เจตนิพัทธ์รอฟังคำตอบจากเพื่อนสนิทอย่างตั้งใจ แม้ทางปลายสายจะมีเสียงดนตรีดังแทรกรบกวนจนแทบฟังไม่ออกก็ตาม"อยากรู้มากก็ไปถามแม่มึงสิ"คนฟังเกือบหลุดด่าเพื่อนตำรวจของตัวเองแล้ว ถ้าอีกฝ่ายไม่รีบพูดสวนขึ้นมาก่อน"อันนี้กูไม่ได้ด่านะ มึงอย่าเพิ่งด่ากูกลับ กูหมายถึงให้มึงลองไปถามแม่มึงดู ดูเหมือนคุณป้าจะรู้ว่าเมียมึงอยู่ที่ไหนกันแน่"ได้ยินแบบนั้นพ่อเลี้ยงเจตนิพัทธ์ก็กดวางสายแล้วลงมายังชั้นล่างของบ้าน สายตารีบสอดส่องมองหาผู้เป็นแม่ และก็เห็นว่าท่านกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องนั่งเล่น"แม่!""ตกใจหมดเลย ลูกคนนี้จะให้แม่หัวใจวายตายให้ได้ใช่ไหม ทำไมต้องเสียงดังขนาดนั้น" คนเป็นแม่ถึงกับยกมือขึ้นมาตบอกตัวเองเพราะตกใจเสียงเรียกของลูกชาย"แม่เอาบัวไปซ่อนใช่ไหมครับ" เจตนิพัทธ์เริ่มเชื่อแบบนั้นแล้วจริง ๆ หากเป็นฝีมือแม่เขาก็คงไม่แปลกที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเข้าจะไม่ได้ข้อมูลเรื่องบัวบูชาเลย เพราะคนที่เขาติดต่อไปให้ช่วยตามหาล้วนรู้จักกับแม่ทั้งสิ้น"ถ้าจะมาคุยกันด้วยอารมณ์ร้อน ๆ แม่ไม่คุยนะ"คนเป็นลูกได้ยินแบบนั้นท่าทีไม่พอใจก็ดูอ่อนลงมาก เขาเดินไปนั่งยังโซฟาเดี่ยวซึ่งอยู่ไม่ไ
บทที่ 17 อาการเหม็นผัว 2/2คุณนายจิตลดายอมบอกที่อยู่ของบัวบูชาให้ลูกชายได้รู้ อีกฝ่ายถึงกับกราบตักแม่ที่ยอมบอกความจริง ก่อนจะรีบเร่งออกจากบ้านไปทั้งที่ตอนนี้ฟ้าก็มืดแล้วคนเป็นแม่ไม่ได้พาบัวบูชาไปซ่อนไว้ที่ไหนไกลเลย เธออยู่ที่บ้านของตากับยายของเจตนิพัทธ์นี่เอง บ้านหลังนี้แม่รักและดูแลไว้อย่างดีแม้จะไม่ได้เข้าไปอยู่เป็นประจำก็ตามทันทีที่รถกระบะจอดนิ่งดวงตาคู่คมก็เห็นคนที่เขาได้แต่เฝ้าคิดถึงมาเกือบสองเดือน บัวบูชากำลังนั่งถักผ้าพันคออยู่บริเวณหน้าบ้าน ร่างสูงโปร่งรีบก้าวลงจากรถก่อนจะเดินไว ๆ เข้าไปหาหญิงสาวอย่างสุดแสนคิดถึงบัวบูชาตกใจไม่น้อยที่เห็นเจตนิพัทธ์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า คนตัวเล็กเผลอลุกยืนจนอุปกรณ์ถักผ้าพันคอบนตักหล่นร่วงลงพื้น"คุณเจต""บัว" เขาเรียกชื่อเธอแผ่วเบาก่อนจะดึงรั้งคนตรงหน้าเข้าสู่อ้อมกอด เขาคิดถึงเธอเหลือเกิน เดิมคิดว่าคิดถึงเธอมากแล้ว แต่พอได้สัมผัสอีกครั้งยิ่งรู้ตัวว่าเขาคิดถึงเธอมากเกินกว่าจะบรรยายได้ คิดถึงจนไม่อยากจะปล่อยออกจากอ้อมกอดอีกเลยและดูเหมือนกอดแค่ไม่กี่วินาทีจะไม่พอให้ความคิดถึงในใจเขาบรรเทาลงได้เลย เจตนิพัทธ์จึงกอดเธอแน่นขึ้นและคิดว่าอีกสักพักถึง
บทที่ 20 ผู้หญิงเนรคุณ 2/2"พี่เจต" บัวบูชาเรียกชื่ออีกฝ่ายทั้งน้ำตา หัวใจยังสั่นไหวรุนแรงด้วยความกลัว"เป็นอะไรรึเปล่าบัว เจ็บตรงไหนไหม""เจ็บท้องค่ะ" เธอบอกเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวดจากแรงบีบรัดที่เกิดขึ้นตรงช่วงหน้าท้อง เม็ดเหงื่อเริ่มผุดพรายตามกรอบหน้าหวานมากขึ้นเรื่อย ๆอรรถพลไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าลูกสาวและหลานของตนจะเป็นอย่างไรบ้าง เขารีบก้มเก็บกระเป๋าเงินและถุงกำมะหยี่สีแดงคล้ายถุงใส่ทองขึ้นมาจากพื้นก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไป ทว่ายังไม่ทันได้วิ่งหนีไปไกลเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลก็เข้ามารวบตัวอีกฝ่ายไว้ได้ทันท่วงทีเจตนิพัทธ์ไม่ได้สนใจความวุ่นวายรอบข้าง สิ่งเดียวที่เขาสนใจตอนนี้คือความปลอดภัยของลูกและเมียเท่านั้น เจ้าของร่างสูงโปร่งรีบอุ้มคนท้องกลับเข้าไปด้านในโรงพยาบาลและตามหมอให้มาดูอาการอย่างร้อนใจเขากลัวจนแทบบ้าว่าบัวบูชาและลูกจะเป็นอะไรรึเปล่า และเอาแต่โทษตัวเองซ้ำ ๆ ที่ทิ้งเธอไว้เพียงลำพังจนเรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นแบบนี้ถ้าหากเขามาไม่ทัน บัวบูชากับลูกจะเป็นอย่างไรบ้าง หากเป็นแบบนั้นเขาคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองแน่"ทั้งแม่และเด็กปลอดภัยดีค่ะ น่าจะเกิดจากอาการวิตกกังวลขอ
บทที่ 20 ผู้หญิงเนรคุณ 1/2ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งเจตนิพัทธ์ก็ยังรู้สึกตื่นเต้น และตื้นตันใจทุกครั้งที่ได้เห็นภาพอัลตราซาวด์ของเจ้าลูกชาย ในขณะที่มือยังกอบกุมมือแม่ของลูกไว้ ทว่าดวงตาคู่คมกลับเอาแต่จ้องหน้าจอแสดงผลของคุณหมอแทบไม่กระพริบ เสียงเต้นของหัวใจลูกดังชัดเจนในสองหูคนเป็นพ่อ อีกแค่ไม่กี่สัปดาห์เด็กที่เขาเห็นผ่านจอตรงหน้านี้ก็จะลืมตาดูโลกแล้ว ยิ่งคิดหัวใจคนเป็นพ่อยิ่งโลดแล่นอย่างดีใจเขาพาบัวบูชามาพบคุณหมอด้วยตัวเองทุกครั้ง แม้ช่วงไตรมาสสุดท้ายหมอจะนัดว่าที่คุณแม่บ่อยแทบทุกสัปดาห์แต่คนที่ยุ่งมากอย่างพ่อเลี้ยงเจตก็ไม่เคยให้บัวบูชาต้องมาเพียงลำพังเลยแม้แต่ครั้งเดียว"เจ้าตัวเล็กแข็งแรงดีมากค่ะคุณพ่อคุณแม่ แต่ว่าช่วงนี้ต้องควบคุมเรื่องน้ำตาลหน่อยนะคะ"ว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ตั้งใจฟังสิ่งที่คุณหมอแนะนำกันอย่างดี พูดคุยกับคุณหมอเสร็จก็พากันออกมารอรับยาบำรุงด้านนอก"เหนื่อยไหม" เขาถามหลังประคองคนท้องโตมานั่งยังที่นั่งรอรับยา"นิดหน่อยค่ะ""ดื่มน้ำก่อน" เจตนิพัทธ์ยื่นขวดน้ำเย็น ๆ ที่เสียบหลอดให้เรียบร้อยไปให้คุณแม่ที่ตอนนี้ดูอวบอิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่ถึงอย่างนั้นในสายตาของเขาบัวบู
บทที่ 19 วันแรกของการดูแลคนท้อง 4/4เดิมทีบัวบูชาก็เล่านิทานให้ลูกในท้องฟังอยู่บ่อยครั้ง เพราะศึกษามาว่าการเล่านิทานให้ลูกฟังตั้งแต่อยู่ในท้องมันช่วยกระตุ้นพัฒนาการสมองของลูก และยังทำให้ลูกจดจำเสียงของพ่อและแม่ได้ด้วย แต่ไม่คิดเลยว่าเจตนิพัทธ์เองก็จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วย ตอนที่เขาชวนเธอไปซื้อหนังสือเมื่อช่วงบ่ายก็เอาแต่พูดไม่หยุดว่าอยากอ่านเรื่องอะไรให้ลูกฟังบ้าง แถมยังซื้อกลับมาจนแทบทำเป็นชั้นหนังสือได้เลยเสียงเล่านิทานยังติด ๆ ขัด ๆ เพราะเพิ่งจะเคยเล่าเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ แต่ถึงอย่างนั้นเจตนิพัทธ์ก็ยังตั้งใจเล่าต่อไปและบอกตัวเองตลอดว่าพรุ่งนี้เขาจะต้องเล่าให้ดีกว่านี้ให้ได้ และเมื่อนิทานจบลงว่าที่คุณพ่อถึงได้รู้ว่าคนบนเตียงนอนหลับสนิทไปแล้ว"ไม่ใช่ว่าน่าเบื่อจนหลับหรอกใช่ไหม" เสียงทุ้มพึมพำแผ่วเบากับตัวเอง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มให้คนบนเตียง วันนี้เขายังจับจองพื้นข้างเตียงของบัวบูชาเป็นที่หลับนอนเช่นเคยเจตนิพัทธ์นั่งมองหน้าคนหลับสลับกับหน้าท้องที่มีลูกของเราอยู่ในนั้นนานจนเริ่มง่วง แต่ก่อนจะนอนเขาก็อยากจะสัมผัสเนื้อตัวแม่ของลูกนิด ๆ หน่อย ๆ ให้พอชุ่มชื่นหัวใจบ้าง ใบห
บทที่ 19 วันแรกของการดูแลคนท้อง 3/4"แล้วต่อจากนี้บัวมีสิทธิ์ไหมคะ สิทธิ์ที่จะอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคุณเจตให้มากขึ้น"ใบหน้าคมเข้มระบายยิ้มกว้าง ดวงตาคล้ายมีประกายระยิบระยับอยู่ด้านในนั้น เขาก้าวเข้าไปใกล้คนท้องขึ้นอีกหน่อยก่อนจะเอื้อมไปจับมือของเธอไว้"ได้สิ อยากรู้อะไรเกี่ยวกับพี่บัวถามได้เลยนะ ถามได้ตลอดเวลา อยากรู้ตอนไหนก็ถามออกมาได้เลยพี่พร้อมจะบอกทุกเรื่อง" เขาไม่รู้ว่ารอยยิ้มของตัวเองตอนนี้เรียกว่ายิ้มจนแก้มแทบปริได้ไหม รู้แค่เพียงดีใจเหลือเกินที่คนตรงหน้าอยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาให้มากขึ้นบัวบูชาไม่รู้ว่าเธอคิดผิดหรือถูกที่พูดออกไปแบบนั้น เพราะมันทำให้เจตนิพัทธ์ยิ้มกว้างอย่างที่เธอชอบ เธอชอบมองเขายิ้มและหัวเราะที่สุด และตอนนี้รอยยิ้มของเขาก็ทำเอาหัวใจเธอสั่นไหวรุนแรงเหลือเกิน"คือ...เอ่อ" อยู่ ๆ เธอก็คล้ายคนสมองเบลอไปชั่วขณะคิดอะไรไม่ออกเพียงเพราะรอยยิ้มของผู้ชายคนหนึ่ง "บัวว่าบัวหิวแล้วค่ะ""กับข้าวเสร็จหมดแล้ว บัวไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลย เดี๋ยวพี่ยกไปให้"เธอเพียงพยักหน้ารับก่อนจะเดินหน้าร้อนออกมาจากจุดที่ยืนอยู่ และไม่รู้เลยว่าตอนนี้บนใบหน้ากำลังมีรอยยิ้มแห่งความดีใจประด
บทที่ 19 วันแรกของการดูแลคนท้อง 2/4คนท้องรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งในช่วงสายของวัน อาการแพ้ท้องดีขึ้นมากกว่าช่วงเช้า ว่าที่คุณแม่ที่หน้าท้องเริ่มนูนเด่นค่อย ๆ ขยับตัวลุกจากเตียง ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอน และเพราะมีเสียงดังมาจากในห้องครัวเธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดู ซึ่งก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นคนที่อยู่ในครัวไม่ใช่ป้าชื่น แต่เป็นเจ้าของร่างสูงโปร่ง อีกทั้งเจตนิพัทธ์ตอนนี้ยังอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนอีกด้วย"คุณเจตทำอะไรอยู่คะ""ตื่นแล้วเหรอ" เขาหันมายิ้มกว้างให้คนท้อง ก่อนจะรีบล้างไม้ล้างมือแล้วก้าวเดินเข้าไปหาเธอ ทว่าคราวนี้ไม่เหมือนเมื่อเช้า เพราะบัวบูชาเริ่มเหม็นกลิ่นตัวพ่อของลูกอีกแล้ว"อย่าเข้ามาใกล้เกินค่ะ" เธอรีบยกมือขึ้นห้ามเขาไว้ ซึ่งเจตนิพัทธ์ก็ยอมถอยห่างแต่โดยดี"ยังคลื่นไส้อยากอ้วกอยู่อีกไหม""ห่างเท่านี้ก็ไม่ค่อยได้กลิ่นแล้วค่ะ ว่าแต่ป้าชื่นล่ะคะ" ดวงตาคู่สวยมองหาคนที่อยู่ดูแลเธอมาเกือบจะสองเดือน ปกติทุกเช้าหลังตื่นนอนบัวบูชามักจะเห็นป้าขื่นคลุกตัวอยู่แต่ในห้องครัวนี่นา"พี่ให้แกกลับไปแล้ว เพราะต่อจากนี้พี่จะเป็นคนดูแลเธอกับลูกเอง อีกอย่าง...ก็ถือเป็นการซ้อมอยู่ด้วยกันแบบพ่อแม
บทที่ 19 วันแรกของการดูแลคนท้อง 1/4คนที่เพิ่งจะได้นอนช่วงเช้ามืดเพราะมัวแต่หาข้อมูลในการดูแลคนท้องสะดุ้งตัวตื่นทันที เมื่อได้ยินเสียงคนอ้วกดังมาจากในห้องน้ำ เจตนิพัทธ์รีบลุกทั้งในสภาพที่ใบหน้ายังงัวเงียและผมเผ้าไม่ได้จัดทรง เขาเดินตรงไปหน้าห้องน้ำโดยไม่ลืมหยิบขวดน้ำเปล่าไปให้คนท้องใช้ล้างคอว่าที่คุณแม่อ้วกจนแทบไม่มีอะไรให้อ้วกออกมาอีกแล้ว บัวบูชาไม่มีแรงพอจะยืนด้วยซ้ำจึงต้องนั่งนิ่งอยู่ที่พื้นห้องน้ำก่อน ทว่าก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ ๆ ร่างกายก็ถูกช้อนอุ้มขึ้น"จะทำอะไรคะ""พาไปนอนที่เตียง เป็นแบบนี้ทุกเช้าเลยเหรอ" ร่างสูงถามขณะอุ้มว่าที่คุณแม่กลับมานอนพักยังเตียงนอน เขาวางเธอลงอย่างเบามือ ก่อนจะจัดการนำหมอนมารองแผ่นหลังเพื่อให้คนท้องนั่งได้อย่างสบายขึ้น"บัวแพ้ท้องช้า เพิ่งจะมาแพ้หนักก็ตอนที่เข้าเดือนที่สี่ค่ะ ช่วงเช้าก็จะแพ้ท้องหนักกว่าช่วงอื่น ๆ สาย ๆ หน่อยอาการก็จะดีขึ้นเองค่ะ""รอแป๊บนะ เดี๋ยวพี่ไปเอาน้ำขิงกับขนมมาให้ เห็นเขาบอกว่ามันช่วยแก้อาการคลื่นไส้ได้""ใครบอกคะ" บัวบูชาเอียงคอสงสัย และก็ได้รับเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนกลับมาจากใบหน้าคมเข้ม"ในเน็ตน่ะ"เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินออกจากห้อง
บทที่ 18 ขอโอกาส 3/3"ไหนว่าให้โอกาสเรื่องลูกไง ในท้องก็ลูกพี่นะ พี่ก็อยากจะดูแลเหมือนกัน"บัวบูชาถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้ สุดท้ายเธอก็ยอมใจอ่อนให้เขาตามเคย"งั้นก็แล้วแต่คุณเจตค่ะ เดี๋ยวบัวไปหาผ้าปูกับหมอนมาให้""ไม่เป็นไร ๆ" ร่างสูงโปร่งรีบมาขวางคนท้องไว้ เขาจะไปใช้งานคนท้องลงได้อย่างไรกัน "เดี๋ยวพี่ไปหาเอง แต่อย่าล็อกห้องนะ ถ้าเธอล็อกห้องคืนนี้พี่จะพังประตูเข้ามาจริง ๆ ด้วย""เอาแต่ใจที่สุด"เธอบ่นเขาอย่างไม่จริงจังนัก และมันก็เรียกเสียงหัวเราะของเจตนิพัทธ์ได้ ปกติเธอเคยบ่นเขาที่ไหนกัน พอได้มาฟังและเห็นกับตาก็เป็นภาพที่แปลกไม่น้อย แต่ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก"เพราะเป็นห่วงต่างหาก""อยากทำอะไรก็เชิญค่ะ บัวไม่สนใจคุณแล้ว บัวง่วง" คนท้องที่ตาแทบปิดพูดตัดบท ก่อนจะหมุนปลายเท้าไปทางเตียงนอน"โอเค ๆ ป่ะ ไปนอนกัน" คนฉวยโอกาสเก่งรีบเข้าไปประคองเอวของบัวบูชาและพาเดินกลับไปที่เตียง เมื่อเธอล้มตัวนอนก็ช่วยดึงผ้าห่มมาห่มให้ทว่าเขายังไม่ยอมออกไปหาผ้าและหมอนอย่างที่พูดไว้ก่อนหน้า ร่างสูงโปร่งนั่งลงข้าง ๆ เตียงคนท้อง คราแรกสายตาก็จ้องมองใบหน้าหวานอยู่อย่างนั้นจนบัวบูชาต้อ
บทที่ 18 ขอโอกาส 2/3กลายเป็นบัวบูชาเสียเองที่ต้องหลบสายตาไปก่อน บางทีที่คนพูดไว้ว่าคนที่รู้สึกมากกว่ามักจะแพ้ในเรื่องความรักเสมอ อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ เพราะเพียงแค่เขาพูดถ้อยคำที่ดูหวานซึ้งและจริงใจออกมา หัวใจของบัวบูชาก็คล้ายจะโอนอ่อนตามไปได้ง่าย ๆ"ตอนนี้บัวคงให้โอกาสคุณได้แค่เรื่องลูกค่ะ เพราะยังไงคุณเจตก็เป็นพ่อของแก ส่วนเรื่องของเรา บัว คือ บัวยังไม่แน่ใจ และต้องบอกตามตรงว่าบัวยังไม่เชื่อใจคุณเจตค่ะ"เธอรู้ว่าคนเราเปลี่ยนกันได้ แต่ก็ยากจะเชื่อได้อย่างสนิทใจในตอนนี้ว่าคนตรงหน้าจะยอมเปลี่ยนตัวเองจริง ๆ เกิดเขาแค่ดีกับเธอแค่วันนี้พรุ่งนี้ วันมะรืนกลับไปเป็นคนใจร้ายเช่นเดิมล่ะใบหน้าหล่อระบายยิ้มอ่อนโยนออกมา เขาเข้าใจดีเรื่องที่บัวบูชาบอกว่ายังไม่เชื่อใจ ก็เขาเคยใจร้ายกับเธอตั้งมากมายขนาดนั้น ใครจะไปยอมเชื่อได้ง่าย ๆ ล่ะ แต่อย่างน้อยการที่เธอไม่ปฏิเสธเสียงแข็งกลับมาก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้ว ไม่สิ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากต่างหาก เพราะบัวบูชาให้โอกาสเขาเรื่องลูกแล้ว"ในเมื่อเธอยังไม่แน่ใจ ก็ขอโอกาสให้ฉันได้พิสูจน์ความจริงใจให้เห็นนะ" เขายังไม่ยอมปล่อยมือนุ่มไป ยังใช้นิ้วหัวแม
บทที่ 18 ขอโอกาส 1/3เจตนิพัทธ์อาบน้ำใหม่อีกรอบ หรือจะเรียกให้ถูกคงเป็นสามรอบมากกว่า รอบแรกเขาขัดตัวแล้วล้างออก จากนั้นก็ดมเช็กดูแม้จะหอมกลิ่นสบู่แล้วก็ตาม แต่ก็กลัวคนท้องจะยังเหม็นอีกจึงได้อาบซ้ำไปอีกสองรอบ อาบน้ำเสร็จจนคิดว่าตัวหอมก็รีบเดินออกมาตามหาคนที่เขาอยากพูดคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้ เมื่อเห็นว่าบัวบูชากำลังยืนดื่มนมอยู่ในห้องครัวก็รีบก้าวไปหา ทว่าดูเหมือนไอ้อาการแปลก ๆ ที่เรียกว่า 'เหม็นผัว' มันจะร้องเตือนคนท้องก่อนเจตนิพัทธ์จะได้เข้าใกล้เสียอีก ใบหน้าหวานจึงดูเหมือนพะอืดพะอมขึ้นมา ซึ่งอาการเหล่านั้นมันก็อยู่ในสายตาคู่คมตลอด เขาจึงต้องถอยออกมายืนในระยะที่ไม่ใกล้บัวบูชามากจนเกินไป"ยังเหม็นอยู่เหรอ""ก็ถ้าอยู่ห่าง ๆ ก็ไม่ได้กลิ่นแล้วค่ะ" "แต่ฉันอาบน้ำใหม่แล้วนะ""บัวไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าทำไมถึงยังเหม็นอยู่ แต่บัวไม่ได้แกล้งคุณนะคะ" คนท้องเริ่มมีสีหน้าคล้ายหงุดหงิดขึ้นมาดื้อ ๆ ทั้งที่เขายังไม่ได้พูดหรือกล่าวหาว่าเธอแกล้งเลยสักคำตอนนี้บัวบูชาเริ่มรู้สึกแล้วว่าการพูดคุยกับเจตนิพัทธ์ทำให้เธออารมณ์ไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก อาการไม่ต่างจากที่ป้าชื่นว่าไว้เลย ยิ่งใกล้ยิ่งเหม็นและยิ่งอาร