공유

บทที่ 811

작가: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
วันรุ่งขึ้น ฉีหลิงซีไปที่สำนักแม่ชีหลี่ซุยเพื่อรับฉีหยงโน่

ซ่งซีซีอยู่ด้วย ดังนั้นเขาจึงขอคุยกับซ่งซีซีตามลำพัง "ใต้เท้าซ่งวางใจได้ ท่านแม่ของข้าจะปฏิบัติต่อนางอย่างดีแน่นอน และจะไม่ทำให้นางลำบากใจ ข้ามีน้องต่างแม่ด้วย ท่านแม่ใจดีกับพวกเขาตลอด"

ซ่งซีซีพูดตรงๆ "ข้าได้พูดคุยกับแม่ของเจ้ามา ไม่ได้กังวลว่าแม่ของเจ้าจะปฏิบัติต่อเด็กไม่ดี มีเพียงสิ่งเดียวที่ข้าอยากจะบอกเจ้าให้ชัดเจน เมื่อวาน แม่ของเจ้าถามข้าว่าเด็กคนนี้ชื่ออะไร ข้าบอกนางว่าเด็กคนนี้ชื่อเสี่ยวเฉา ส่วนจะให้เด็กชื่ออะไร หลังกลับไปพวกเจ้าจะใช้ชื่อฉีหยงโน่อีกหรือไม่ก็ตัดสินใจเองแล้วกัน"

ฉีหลิงซีถอนหายใจเล็กน้อย "ขอบคุณใต้เท้าซ่ง"

"ถึงยังไงพวกเจ้าจะพาเด็กกลับไป จะให้นางพบกับกู้ชิงเมี่ยวสักครั้งหรือไม่"

ฉีหลิงซีพยักหน้า "ได้ จริงๆ แล้วเมื่อวานนี้ท่านแม่ก็พูดด้วยว่าถ้าท่านพ่อต้องการนำนางกลับบ้าง ท่านแม่ก็ยินยอม"

ซ่งซีซีมองเขาด้วยความประหลาดใจ "ใต้เท้าฉีไม่ใช่คนเรียบง่ายขนาดนั้น นั่นคือแม่ของเจ้า โปรดเห็นใจนางบ้างเถอะ คำนึงถึงความรู้สึกของนางด้วย"

ฉีหลิงซีรีบอธิบายขึ้นมา "ใต้เท้าซ่งอย่าเข้าใจข้าผิด ท่านแม่ของข้ามิได้ตระหนี่ขนา
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 812

    กู้ชิงเมี่ยวส่ายหัว "ไม่ยินยอม ข้าอยากอยู่ที่นี่""ลูกสาวของเจ้าอยู่ในจวนตระกูลฉี" ซ่งซีซีกล่าวกู้ชิงเมี่ยวเอียงศีรษะ ผมยาวของนางหลวม "ข้ารู้ นางจะมีชีวิตที่ดี นางจะเติบโตเหมือนเด็กทั่วไปทุกคน"ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความปรารถนา นั่นคือสิ่งที่นางต้องการแต่ไม่ได้มา แต่ลูกสาวของนางได้มันแล้ว นางก็มีความสุขด้วยน้ำเสียงของซ่งซีซีอบอุ่น "ได้ ถ้าเจ้าไม่อยากกลับไป ไม่มีใครบังคับเจ้าได้ เจ้าไม่ได้มีสถานะใดๆ ในตระกูลฉี ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถบังคับให้เจ้ากลับไปได้"กู้ชิงเมี่ยวลุกจากเตียงด้วยเท้าเปล่า คุกเข่าคำนับให้ซ่งซีซี เสียงของนางสะอื้น "ขอบคุณ ท่านไม่รู้ว่าสิ่งนี้มีความหมายกับเราอย่างไร มีดคมๆ ที่ห้อยอยู่บนหัวของเราหายไปแล้ว ในฝันของข้าจะไม่ใช่มีแต่ฝันร้ายอีกเลย"ซ่งซีซีช่วยพยุงนางให้ลุกขึ้น "เมื่อคดีจบลง เจ้าสามารถไปได้ทุกที่ที่เจ้าต้องการ ตอนนี้ยังไม่นับว่าได้อิสระอย่างแท้จริง""ตอนนี้ข้าสบายดี จะไม่มีใครทำร้ายข้าอีก" นางนั่งลงบนเตียงแล้วยิ้มอย่างเศร้าๆ น้ำตาไหลอาบหน้า "ข้าไม่ชอบเจ้ากรมฉี ทุกครั้งที่เขามาข้าก็กลัวมาก ข้าไม่ขอเขาจะสงสารข้า เขาชอบใช้กำลัง"นางปลดกระดุมเสื้อผ้าเผ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 813

    วันรุ่งขึ้น ฝู้หม่ากู้ถูกประหารชีวิต เซี่ยหลูโม่เป็นเจ้าหน้าที่กำกับดูแล และกองกำลังเมืองหลวงมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดตั้งขอบเขตทำงานเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยแต่เดิมเซี่ยหลูโม่ไม่ต้องการให้นางไป แม้ว่า ฝู้หม่ากู้จะน่าเกลียดชัง แต่เขาไม่ใช่ผู้บงการ นอกจากนี้ เซี่ยหลูโม่ก็ไม่อยากให้ซ่งซีซีเห็นฉากนองเลือดของการตัดศีรษะแต่สถานการณ์ที่โหดร้ายแบบไหนที่ซ่งซีซีไม่เคยเห็นบ้าง? แม้ว่าฝู้หม่ากู้จะไม่ใช่ผู้บงการ แต่เขาก็ช่วยผู้บงการทำสิ่งชั่วร้ายเพื่อลัทธิเอาประโยชน์และทำร้ายผู้คนมากมายเพราะความอ่อนแอของเขา เขามีความผิดร้ายแรงอย่างแท้จริงดังนั้นนางจะไปในตอนเช้า บริเวณด้านนอกของพื้นที่ประหารชีวิตเต็มไปด้วยผู้คน เนื่องจากมีการประหารชีวิตตอนเที่ยง กองกำลังเมืองหลวง จึงไม่ได้มาแต่เช้าเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งทำให้บริเวณรอบๆ สถานที่ประหารชีวิตก่อความวุ่นวาย ถึงขนาดมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายของริมถนนภายนอกด้วยคนที่ขี้กลัวจะไม่มาดูและไม่อนุญาตให้เด็กเข้ามา แต่ถึงแม้จะไม่ห้าม ผู้ปกครองก็ไม่ยอมให้เด็กมาอยู่แล้วแต่โลกนี้ก็ไม่เคยขาดแคลนผู้ชม โดยเฉพาะตัวตนของฝู้หม่าที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 814

    เขาเริ่มพูดพล่าม "ทุกสิ่งไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการจะทำ หากให้ข้ามีโอกาสได้เลือกอีกครั้ง ข้าจะไม่แต่งงานกับองค์หญิงเลย แม้ว่าจวนโหวกู้จะตกอับ แต่ก็ยังคงเป็นจวนโหวกู้ รากฐานยังคงอยู่ มันจะตกอับมากขนาดไหนกัน?""ข้าผู้สอบผ่านขุนนาง ได้คุณวุฒิ "จวี่เหริน" ข้าสามารถสอบต่อได้อีก ข้าไม่ใช่มีทางเดียวนี่เอง ทำไมตอนแรกๆ ข้าถึงโง่เช่นนั้น ข้าโง่จริงๆ ควรจะมีอนาคตที่สดใส และแต่งงานกับผู้หญิงที่ดีๆ คนหนึ่งเป็นภรรยาเอก รับอนุภรรยาสักสองสามคน มีลูกชายสามสีคนและลูกสาวหลายๆ คน แค่เกี่ยวดองกับตระกูลที่แข็งแกร่งกว่าจะทำให้ครอบครัวเจริญรุ่งเรือง ข้าคิดว่ามันเป็นทางลัด แต่กลับไม่รู้ว่ามันเป็นทางตัน"ตะเกียบในมือของเขาร่วงลงอีกครั้ง และไหล่ก็สั่นในขณะที่เขาร้องไห้สวีผิงอันช่วยเขาหยิบมันขึ้นมาแล้วพูดว่า "แค่นึกเสียใจก็ไร้ประโยชน์ การกระทำนั้นมีประโยชน์มากที่สุด เจ้าสามารถบอกสิ่งที่เจ้ารู้ แล้วทุกอย่างก็มีโอกาสได้พลิกผัน ถ้าไม่บอกงั้นก็มีทางตายเท่านั้น"ฝู้หม่ากู้ปิดหน้าร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นปล่อยมือออก เช็ดน้ำตาและน้ำมูกด้วยแขนเสื้อ หลังจากถูกทรมาน การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงและงุ่มง่าม หลังของเขาก็โค้ง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 815

    เมื่อเขามาถึงลานประหาร เขาถูกลากออกไปและให้คุกเข่าลงกลางลานประหาร เพชฌฆาตร่างสูงกำยำยืนอยู่ข้างเขาถือมีดอยู่ มันส่องประกายทำเอาเขาตกใจมากจนไม่สามารถคุกเข่าให้มั่นคงได้ มองขอร้องให้ประชาชนที่รับชมช่วยเหลือเขาสถานที่นั้นเสียงดังวุ่นวายมาก แต่เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้นเลย เขาได้ยินเพียงเสียงหัวใจของตัวเองเท่านั้น เหมือนเสียงตีกลอง มันจะเต้นออกมาจากหน้าอกอยู่แล้วเขาไม่เห็นเซี่ยหลูโม่ ผู้ดูแลกำกับที่อยู่ข้างหลังเขา แต่ได้ยินเสียงของเขาอย่างคลุมเครือ เขาอยากจะมองย้อนกลับไป แต่มีป้ายแผ่นหนึ่งผูกอยู่ข้างหลังเขา และเขาไม่สามารถหันหน้าออกไปได้ มองเห็นเพียงเพชฌฆาตกำลังปิดจมูกด้วยสีหน้ารังเกียจเท่านั้นทันใดนั้นเขาถึงตระหนักว่าเขามีอึอยู่ในกางเกง เขาฉี่ราดโดยไม่รู้ตัว ความกลัวก็เหมือนกับงูพิษที่กัดเซาะไปตามผิวหนังของเขา เขากลัวแล้ว กลัวมากในที่สุดเขาก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยในฝูงชน เขาดีใจมากและส่งเสียงแหบแห้งจากลำคอออกมา "หยิงเอ๋อร์ หยิงเอ๋อร์..."ท่านอ๋องฮุยยืนอยู่นอกแถวกับกู้ชิงหยิงผู้อ้วนท้วน มองเขาด้วยดวงตาที่เหมือนองุ่นสีดำ แต่กู้ชิงหยิงดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงความกลัวหรือความสุขของบิด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 816

    ซ่งซีซีรู้สึกว่านางเป็นผู้หญิงที่พิเศษมากจริงๆ เมื่อเติบโตมาในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ สิ่งที่นางอยากทำคือใช้ชีวิตให้ดีทุกวัน และพยายามไม่ทำให้ตัวเองคับข้องใจเท่าที่จะทำได้สำหรับพ่อคนนี้ นางไม่ได้รักหรือแค้นใจ นางแค่ไม่ชอบเขานางถามซ่งซีซี ว่า "ใต้เท้าซ่ง ถ้าไม่มีใครช่วยเก็บศพหลังจากการตัดศีรษะ ศพจะถูกทิ้งที่ไหน หรือจะถูกแขวนไว้แสดงต่อสาธารณะไหม?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "หากไม่มีสมาชิกในครอบครัวมาเก็บ จะถูกฝังอย่างส่งๆ เว้นแต่เขาเป็นผู้บงการกบฏ ถึงถูกแขวนคอเพื่อแสดงต่อสาธารณะ"นางตอบว่าโอ้แล้วหยุดถามอีกเลย เมื่อกลับไปหาท่านอ๋องฮุย นางพูดว่า "ตอนที่ออกมา ข้ายังมีขนมพุทราที่ยังไม่ได้กิน รีบกลับไปกินกันเถอะ ถ้าปล่อยไว้นานๆ คงไม่อร่อยเลย""ไม่ดูแล้วเหรอ?" ท่านอ๋องฮุยถาม"ข้ากลัวเลือด ดังนั้นอย่าดูจะดีกว่า" กู้ชิงหยิงกล่าวท่านอ๋องฮุยยังคงจ้องมองนาง และพูดว่า "ไปกันเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวทะเลสาบ"นางคลุมตัวเองด้วยเสื้อคลุม "ทำไมไปเที่ยวทะเลสาบทั้งๆ ที่อากาศหนาวขนาดนี้ ต้มชาข้างเตาไฟที่บ้านและย่างเนื้อแกะสักสองสามชิ้นได้ไม่ดีกว่าหรือ?""ข้าอยากพาเจ้าไปเดินเล่น เจ้าตัวแสบกลับไม่รู้จะขอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 817

    กู้ชิงหลานไม่ได้ตั้งแผงขายหมูตุ๋น แต่นางเลือกไปอยู่สำนักแม่ชีหลี่ซุย รับผิดชอบในการจัดซื้อของสำนักแม่ชีหลี่ซุยเนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ในสำนักแม่ชีหลี่ซุยอ่อนแอและไม่สามารถกินเจไปตลอด ดังนั้นจึงสร้างบ้านพักหลังใหม่ให้แยกออกจากสำนักแม่ชีหลี่ซุย ซึ่งสามารถต้มแกงต่างๆ ให้บำรุงสุขภาพของพวกนางได้สรุปคือใครอยากกินเนื้อก็ไปที่นั่นเลยอย่างไรก็ตาม เจ้าอาวาสได้กำหนดว่าไม่ว่าจะอยู่สำนักแม่ชีหลี่ซุยหรือบ้านพักหลังใหม่นั้นล้วนห้ามไม่ให้ฆ่าสัตว์โดยตรงังนั้นกู้ชิงหลานจะต้องลงจากภูเขาเพื่อซื้อเนื้อสัตว์แล้วขนมันขึ้นไปบนภูเขาทุกวันหลังจากซื้อมันมาได้เพียงสองสามวันก็ไม่มีใครกินเนื้อสัตว์อีกเลย บางทีอาจเป็นเพราะสำนักแม่ชีทำให้พวกเขาสงบจิตใจ พวกนางมีความเชื่อในใจก็จะทำตามโดยยินยอม ไม่ต้องให้ใครมาโน้มน้าว ยอมหยุดกินเนื้อสัตว์โดยสมัครใจโชคดีที่มีอาหารจากภูเขามากมายในสำนักแม่ชีหลี่ซุย และสามารถเก็บวัตถุดิบมีคุณค่าทางโภชนาการมาทำแกงให้พวกนางด้วย และมีสมาชิกจากตระกูลขุนนางได้ส่งวัสดุยาพวกโสมเหล่านั้นมาให้ แม้ว่าจะไม่ใช่แบบราคาแพงมากแต่มีประโยชน์ในการบำรุงร่างกายทุกคนในจวนองค์หญิง ได้รับการจัดการตามควา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 818

    หลังจากที่จ้านเป่ยว่างหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว เขาก็เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเช่นกันเขาขอบพระทัยพระองค์ก่อน จักรพรรดิ์ซูชิงก็ให้เขาอยู่ต่อไปอีกครึ่งชั่วยามเพื่อพูดคุยอะไรกัน นอกเหนือจากการตักเตือนเขาแล้ว ยังแสดงความไว้วางใจในตัวเขา สุดท้ายเมื่อจ้านเป่ยว่างออกมาจากห้องหนังสือหลวงด้วยดวงตาสีแดงพระราชวังได้จัดตั้งสำนักองครักษ์ไว้ และบัดนี้ซ่งซีซีเป็นผู้บัญชาการของสำนักองครักษ์ นางมีความเป็นไปได้สูงจะไปที่สำนักองครักษ์ ดังนั้นจ้านเป่ยว่างจึงไปพบหัวหน้าด้วยพวกเขาเคยเป็นสามีภรรยากัน และตอนนี้ จ้านเป่ยว่างคุกเข่าข้างหนึ่งลงเพื่อแสดงความเคารพปี้หมิง รองหัวหน้ากองกำลังเมืองหลวง ลู่เจินจากค่ายลาดตระเวน หวังเจิง รองหัวหน้าทหารรักษาพระราชวัง และจ้านเป่ยว่าง หัวหน้าองครักษ์รักษาพระองค์ ตอนนี้ถือว่าอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วจ้านเป่ยว่างรู้สึกซับซ้อนมาก เขาคิดว่าซ่งซีซีจะทำหาเรื่องกับเขาสักหน่อย ใครจะไปรู้ว่าหลังจากทำการไหว้ให้ซ่งซีซีแล้ว นางเพียงพูดว่า "ลุกขึ้นเถอะ และตั้งใจทำงาน"เขายืนขึ้น ลดตาลงแล้วพูดว่า "ขอบคุณใต้เท้าซ่งขอรับ"ปี้หมิงเดินเข้าไปและตบไหล่เขา "ยินดีด้วย ใต้เท้าจ้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 819

    ปี้หมิงพูดด้วยเสียงเย็นชา "ข้าไม่สนหรอกว่านางจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง? ตราบใดที่มีความสามารถมากกว่าข้า ข้าก็ไม่มีอะไรไม่ยอมหรอก อีกอย่างนางได้รับการแต่งตั้งจากฝ่าบาท เจ้าต่อต้านนาง เจ้าต้องการฝ่าฝืนพระราชกฤษฎีกาของฝ่าบาทหรือไง เป็นทหารรักษาพระราชวังมาหลายปี กลับทำให้เจ้าหยิ่งผยองขึ้นมา และดูถูกผู้หญิงงั้นเหรอ? เจ้าเป็นผู้ชายและเจ้ามีความสามารถในการเอาชนะนาง และทำให้นางไม่สามารถลืมตาอ้าปากต่อหน้าเจ้าได้ นี่ไม่ดีกว่าที่เจ้าจะพูดอะไรมากมายหรือ"หวังเจิงกล่าวว่า "ดูเหมือนว่าเจ้าจะโกรธข้าจริงๆ""มิใช่ว่ามีแต่เจ้าอารมณ์ร้อน ข้าก็ไม่ยอมให้ใครมารังแกด้วย" ปี้หมิงสะบัดเขาออกแล้วหันหลังออกไปหวังเจิงกลับมาที่ห้องโถงด้านในของสำนักองครักษ์อย่างหมดความรู้สึก เมื่อเห็นว่าลู่เจินและจ้านเป่ยว่างยังอยู่ที่นั่น เขาจึงนั่งลงบนเก้าอี้แล้วถามพวกเขาทั้งสองว่า "พวกเจ้าก็เชื่อฟังนางด้วยเหรอ ลู่เจิน ข้ารู้ว่าเจ้าทำตามที่นางสั่ง แต่จ้านเป่ยว่างเจ้าเองก็ยอมให้เช่นกันหรือ นางเคยหย่ากับเจ้ามาก่อน นางเป็นคนทิ้งเจ้าไปนะ"ลู่เจินส่ายหัวใส่เขา "หวังเจิง ถ้าเจ้าไม่พูดอะไรน่าแย่ๆ จากปากเจ้า เจ้าจะตายได้หรือไง""ข้าเ

최신 챕터

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1522

    ในตำหนักฮุ่ยอี๋ องค์ชายสามนั่งอยู่บนเก้าอี้ องค์หญิงสามช่วยเช็ดเส้นผมที่เปียกชื้นของเขา นางกล่าวด้วยความขุ่นเคืองว่า “เพิ่งสระผมไปเมื่อวันก่อนแท้ๆ เจ้าต้องเล่นกับเจ้าแมวป่าตัวนั้นให้ได้ ทำให้เส้นผมและใบหน้าของเจ้ามีแต่ขนแมว ถ้ามีคราวหน้าอีก พี่จะตีเจ้าที่ก้น”เด็กชายตัวน้อยที่งดงามราวกับแกะสลักจากหยก ดวงตาดำขลับทอประกายราวดวงดาว ยิ้มแย้มขณะที่พิงตัวอยู่ในอ้อมกอดพี่สาว “ท่านพี่ เจ้าแมวป่าสนุกและน่ารักมาก มันใช้เท้าเล็กๆ เหยียบข้า รู้สึกสบายจริงๆ แถมเวลากอดมันก็อบอุ่นด้วย”องค์หญิงสามกล่าวว่า “เสด็จแม่บอกแล้วว่าเสด็จพ่อไม่ชอบเจ้าแมวป่า แต่เจ้ากลับเอาแต่นำเรื่องของมันไปพูดกับเสด็จพ่อ ไม่แปลกใจเลยที่ช่วงนี้เสด็จพ่อไม่มาหาเจ้าเลย”องค์ชายสามนั่งตัวตรง ปล่อยให้พี่สาวช่วยเช็ดผม แต่ปากยังไม่วายโต้กลับ “ข้ากับเสด็จพ่อเป็นคนละคน ย่อมมีสิ่งที่ชอบและไม่ชอบแตกต่างกัน เสด็จพ่อไม่ชอบ แต่ข้าชอบ ข้ารักมัน ต่อให้เสด็จพ่อไม่พอใจ ก็ใช่ว่าจะบังคับให้ข้าทิ้งมันได้”องค์หญิงสามเอานิ้วแตะจมูกเขาเบาๆ “ปากคมเสียจริง”องค์ชายสามยิ้มกว้าง “ท่านพี่เถียงข้าไม่ชนะ เพราะพี่ไม่มีเหตุผล เสด็จอาบอกว่าหากพี่มีเหตุผล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1521

    ฝูเจาอี๋มิได้สังเกตเห็นรอยเย้ยหยันที่มุมปากของชุนถังชุนถังเป็นนางกำนัลที่คอยรับใช้ข้างกายนาง ตั้งแต่นางได้รับการเลื่อนขั้นเป็นเจี๋ยหยู นางเฉลียวฉลาดและสุขุม ยามที่ฝูเจาอี๋ต้องการคำแนะนำ นางก็มักเป็นผู้วางแผนให้อยู่เสมอ ครั้งนั้น ฮองเฮามีใจต้องการดึงนางเข้าสังกัด ทว่าชุนถังกลับเตือนว่าสถานะของฮองเฮาเริ่มสั่นคลอนแล้ว ถูกกักบริเวณอยู่บ่อยครั้ง ฝ่าบาททรงไม่โปรดอีกต่อไป อีกทั้งยังไม่มีอำนาจดูแลวังหลัง สู้ทำทีเป็นให้ความร่วมมือไปก่อน แล้วค่อยเบนเข้าหาเต๋อเฟยและซูเฟยจะดีกว่าและชุนถังก็คิดถูก เต๋อเฟยเมตตานางยิ่งนัก ทั้งอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และข้าวของล้วนจัดหาให้อย่างดี ไม่มีใครกล้าดูแคลนนางอีกทว่า ในอดีต เต๋อเฟยเคยดีกับนางก็จริง แต่ตอนนี้กลับใช้ประโยชน์จากครรภ์ของนางเพื่อเข้าหาฝ่าบาท สิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก“เจาอี๋มิทรงยินดีให้พระนางเต๋อเฟยเสด็จมาหรือเพคะ?” ชุนถังช่วยประคองศีรษะและเอวของนางให้สูงขึ้นอีกเล็กน้อย การต้องนอนติดเตียงเป็นเวลานานเช่นนี้ ทำให้นางมักบ่นว่าปวดหลังฝูเจาอี๋วางใจชุนถังมาโดยตลอด ดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะเอ่ยความในใจ “ตอนที่ครรภ์ของข้ายังมั่นคงอยู่ พระน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1520

    ครรภ์ของฝูเจาอี๋ เดิมทีก็มั่นคงดี หมอหลวงเองก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาใหญ่อันใด แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอเข้าสู่เดือนเหมันต์ ครรภ์นี้กลับเริ่มไม่มั่นคง อีกทั้งยังมีเลือดออกถึงสองครั้งหมอหลวงจินทุ่มเทสรรพวิธีเพื่อรักษาครรภ์ของนางไว้ ทำให้พอประคองสถานการณ์ได้ แต่นางก็ต้องนอนพักอยู่บนเตียง ยังไม่อาจลุกเดินไปไหนได้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด หมอหลวงย่อมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตรวจสอบทั้งอาหารการกินและข้าวของที่ใช้ในวังอย่างละเอียด ทว่ากลับไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากการที่ฝ่าบาทเสวยโอสถมาเป็นเวลานาน จึงทำให้ครรภ์นี้ไม่มั่นคงจักรพรรดิ์ซูชิงทรงเป็นกังวลอย่างยิ่งกับครรภ์นี้ นับตั้งแต่นางต้องนอนพักรักษาครรภ์ ฝ่าบาทก็ทรงเสด็จมาเยี่ยมเกือบวันเว้นวัน บางคราก็ทรงประทับร่วมเสวยพระกระยาหารเมื่อเอาใจใส่สิ่งหนึ่ง ก็ย่อมละเลยอีกสิ่งหนึ่งไป ทำให้ช่วงนี้ฝ่าบาทแทบไม่ได้เสด็จไปยังตำหนักของซูเฟย อีกทั้งยังมิได้ทรงเรียกองค์ชายสามเข้าพบที่ห้องพระอักษรเลยส่วนเต๋อเฟยนั้น เนื่องจากต้องดูแลกิจการในวังหลัง เมื่อพอมีเวลาว่างก็มักจะพาองค์ชายรองมาเยี่ยมฝูเจาอี๋ด้วย ดังนั้นจึงได้มีโอกา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1519

    ในวังหลัง เดิมทีมีผู้คาดเดาเกี่ยวกับพระอาการของฝ่าบาทไม่น้อย แม้ยามนี้ฝูเจาอี๋จะตั้งครรภ์ ทว่าหมอมหัศจรรย์กลับพำนักอยู่ในวัง เป็นหลักฐานว่าพระวรกายของฝ่าบาทหาใช่เพียงต้องบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นดังนั้น การที่ฝ่าบาทโปรดปรานเช่นนี้ ทำให้บางคนเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้โดยเฉพาะฮองเฮา นางรับรู้เรื่องพระอาการของฝ่าบาทอยู่บ้าง ตอนนี้หมอมหัศจรรย์กลับเข้าวังเพื่อถวายการรักษา ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไรนางไม่อาจคาดเดา เพียงแต่รู้สึกว่าฝ่าบาทอาจอยู่ในช่วงที่พละกำลังถดถอยเต็มที่แล้วครรภ์ของฝูเจาอี๋ นางไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าบุตรในครรภ์จะเป็นชายหรือหญิงก็ยังไม่อาจทราบได้ ต่อให้เป็นองค์ชาย ก็ยังไม่ถึงคราวของเขาแต่การที่ฝ่าบาททรงเอ็นดูองค์ชายสามถึงเพียงนี้ กลับทำให้นางรู้สึกถึงภัยคุกคามเดิมทีฝ่าบาทให้ทางเลือกแก่นาง นางเลือกตำแหน่งฮองเฮา เลือกมีชีวิตรอด ทว่าหลังจากนิ่งเฉยมาพักหนึ่ง นางก็เข้าใจว่าฝ่าบาทจะไม่ทรงละทิ้งองค์ชายใหญ่ได้รวดเร็วเพียงนั้น ยิ่งตอนนี้องค์ชายใหญ่ขยันขันแข็งศึกษาหาความรู้ แม้แต่ไท่ฝู่และเสด็จอายังเอ่ยปากชม นางยังสืบมาว่าฝ่าบาททรงพอพระทัยองค์ชายใหญ่อยู่ไม่น้อยองค์ชายรองและองค์ชายสามล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1518

    จักรพรรดิ์ซูชิงทรงประชุมหารือกับขุนนางในห้องทรงอักษรยาวนานจนถึงดึกดื่น สุดท้ายเป็นหมอมหัศจรรย์ดันที่ต้องเข้าไปขัดจังหวะ แจ้งว่าดึกมากแล้ว พระองค์ถึงกับเหยียดพระกรพลางแย้มพระสรวล “ถึงกับดึกเพียงนี้แล้วรึ? เช่นนั้นก็เลิกประชุมเถิด ประตูวังใกล้จะปิดแล้ว”แม้จะเป็นช่วงเวลาดึกมากแล้ว แต่พระองค์กลับยังดูสดชื่น โดยเฉพาะบนพระพักตร์ที่มีเลือดฝาดขึ้น ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนผู้ที่ประชวรเลยซ่งซีซีรอให้เซี่ยหลูโม่ประชุมเสร็จ ก่อนจะออกจากวังกลับจวนพร้อมกันนางอ่อนล้ามาก พิงไหล่ของเซี่ยหลูโม่แล้วเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัวเมื่อรถม้ามาถึงหน้าจวน เซี่ยหลูโม่อุ้มนางขึ้นมา ซ่งซีซีรับรู้ได้รางๆ แต่ก็ขี้เกียจจะตื่น เลยปล่อยให้เขาอุ้มเข้าไป อ้อมแขนอบอุ่นแข็งแกร่งช่างสบายเหลือเกินตลอดสามเดือนที่ผ่านมา นอกจากตอนอยู่ที่ด่านเฉิงหลิง นางแทบไม่มีคืนไหนที่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ แต่เมื่อกลับถึงจวน ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างสมบูรณ์ ดำดิ่งสู่ห้วงนิทราลึกทว่า…นอนหลับไปก็ยังรู้สึกว่ามีมือร้อนจัดคู่หนึ่งลูบไล้ไปทั่วร่างนางยังคงหลับตา เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “ลืมที่ท่านลุงดันบอกไปแล้วหรือ?”เสียงร้อนผ่าวกระซิบข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1517

    วันที่ 15 เดือนสิบ คณะทูตจึงเดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงในที่สุดกองทัพซวนเจียได้รับคำสั่งให้แยกย้ายไปพักก่อน ขณะที่หลี่เต๋อฮวยและขุนนางจากสำนักหงหลู่ต้องเข้าเฝ้าพระองค์เพื่อถวายรายงาน ส่วนฉินอ๋องที่ตลอดทางอ่อนแอราวกับช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ตอนนี้กลับกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที กล่าวว่าจะเข้าเฝ้าพร้อมกับพวกเขาด้วยส่วนซ่งซีซีนั้น ถูกเซี่ยหลูโม่ที่เฝ้ารออยู่ที่ประตูเมืองรับตัวกลับจวนไปก่อนแล้วช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาสั่งให้คนคอยเฝ้ารอที่ประตูเมืองทุกวัน บางครั้งตอนพักกลางวันก็ยังมารอด้วยตนเอง และวันนี้ก็บังเอิญได้พบกันจริงๆขณะที่หลี่เต๋อฮวยและคนอื่นๆเข้าเฝ้าในวัง ซ่งซีซีก็ได้เข้าไปคารวะฮุ่ยไท่เฟยก่อนแล้วเมื่อฮุ่ยไท่เฟยรู้ว่านางเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ก็ให้รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซ่งซีซีและเซี่ยหลูโม่ถวายคำนับก่อนออกไป และกลับไปยังเรือนเหมยฮวาหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากของนางกลับดูบวมขึ้นเล็กน้อย รุ่ยจูที่เห็นถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบมองไปทางท่านอ๋อง พระชายาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ท่านอ๋องยืนกรานจะปรนนิบัติด้วยตัวเอง แต่ดูเหมือนจะปรนนิบัติได้ไม่ดีเท่าไรน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1516

    เมื่อได้พักฟื้นอยู่ห้าวันที่ด่านเฉิงหลิง ฉินอ๋องก็ฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้วเมื่อฉินอ๋องหายดี ก็ถึงเวลาต้องออกเดินทางกลับเมืองหลวงแม้จะอาลัยเพียงใด ซ่งซีซีก็ทำได้เพียงกลั้นน้ำตากล่าวคำอำลา นางคุกเข่าคารวะต่อหน้าแม่ทัพใหญ่เซียวอยู่หลายครั้ง จนแทบจะทำให้ท่านน้ำตาคลอหลี่เต๋อฮวยเป็นผู้ที่เคารพนับถือแม่ทัพใหญ่เซียวที่สุด เมื่อซ่งซีซีเพียงแค่น้ำตาคลอ แต่เขากลับปิดหน้าและร้องไห้ออกมาเต็มที่ เพราะเขารู้ว่า บางทีตลอดชีวิตนี้ อาจไม่มีโอกาสได้พบกับท่านแม่ทัพผู้เฝ้ารักษาด่านเฉิงหลิงมาเป็นสิบๆ ปีอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวเข้าสู่วัยชราโดยสมบูรณ์ เมื่อมองดูอีกครั้งก็ดูแก่ชรากว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าฮ่องเต้จะพระราชทานอนุญาตให้ท่านกลับเมืองหลวงได้ แต่ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอันยากลำบาก ทายาทตระกูลเซียวก็คงไม่ยอมให้ท่านเดินทางกลับอีกแล้วแม่ทัพใหญ่เซียวสนทนากับหลี่เต๋อฮวยอยู่ครู่หนึ่ง ทว่าแทนที่จะบรรเทาความรู้สึกของเขา กลับทำให้เขาร้องไห้หนักกว่าเดิมเสียอีกด้านนางหนานผู้เป็นป้าใหญ่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยถามถึงเรื่องของ พระชายาอ๋องฮวยเลย จนกระทั่งถึงเวลาต้องอำลากัน นางจึงดึงซ่งซีซีไปค

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1515

    การเดินทางกลับเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนเก้าอากาศไม่ร้อนจัดอีกต่อไป เริ่มมีความเย็นสบายแผ่วเบาซูลันจีนำทัพออกมาส่งด้วยตัวเอง พาพวกเขาไปจนถึงเมืองลู่เปินเอ่อร์ตลอดเส้นทางขากลับ ไม่มีการลอบสังหารเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อข้ามภูเขาสลับซับซ้อนมาได้ ก็เข้าสู่เขตแดนของแคว้นซางเดิมทีพวกเขาไม่ได้แจ้งแม่ทัพใหญ่เซียวล่วงหน้า คิดว่าคงไม่มีใครมารับ แต่ทันทีที่เข้าสู่ชายแดนแคว้นซาง ก็พบว่าจ้านเป่ยว่างนำทัพเซียวเจียจวินรออยู่ที่นั่นเมื่อเห็นว่าพวกเขากลับมาโดยปลอดภัย จ้านเป่ยว่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างเห็นได้ชัด เขากระตุ้นม้าเข้ามาใกล้ ก่อนลงจากหลังม้าแล้วทำความเคารพฉินอ๋อง หลี่เต๋อฮวยและขุนนางท่านอื่นๆ “ท่านอ๋อง เสนาบดีหลี่ ท่านขุนนางทั้งหลาย แม่ทัพใหญ่เซียวสั่งให้ข้านำทัพมาคอยเฝ้ารอที่นี่ทุกวัน เพื่อคุ้มกันพวกท่านกลับไปยังเฉิงหลิงกวน”หลี่เต๋อฮวยเอ่ยถามด้วยความสงสัย “แม่ทัพใหญ่รู้ได้อย่างไรว่าพวกเราจะกลับมาวันนี้?”จ้านเป่ยว่างตอบว่า “แม่ทัพใหญ่ไม่ทราบ เพียงแต่สั่งให้ข้าและกองทัพมาเฝ้าอยู่ที่นี่ทุกวัน”“ที่แท้เป็นเช่นนี้” หลี่เต๋อฮวยรู้สึกว่าแม่ทัพใหญ่เซียวเป็นคนรอบคอบย

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1514

    อันเฟิงชินอ๋องกล่าวว่า “การเดินทางครั้งนี้ มิใช่เพียงเพื่อซีจิงและแคว้นซาง แต่ก็เพื่อเป่ยถังของเราด้วย มิจำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ ระหว่างแคว้นต่อแคว้น สิ่งที่มาก่อนคือผลประโยชน์ มีเพียงความสัมพันธ์ส่วนตัวเท่านั้น ที่จะสามารถปฏิบัติต่อกันด้วยใจจริง”ซ่งซีซีรับคำสอน แต่ก็นึกสงสัย จึงเอ่ยถามว่า “ท่านเคยรู้จักอาจารย์เหรินหยางอวิ๋นของข้าหรือไม่?”อันเฟิงชินอ๋องหัวเราะเบาๆ “รู้จัก เขาเคยมาเยือนเป่ยถัง และเคยพำนักอยู่ที่ไจ้ซิงโหลวอยู่ช่วงหนึ่ง แม่ทัพองครักษ์เงาของข้า ‘เฮยอิ่ง’ สนิทสนมกับอาจารย์ของเจ้ามาก พวกเขามักดื่มสุราด้วยกันเป็นประจำ”“เช่นนี้เองหรือ” ซ่งซีซีนึกถึงบรรดาผู้สวมชุดดำพวกนั้น ไม่รู้ว่าคนไหนคือเฮยอิ่ง หากไม่ได้พบหน้าสักครั้ง คงเป็นเรื่องน่าเสียดายอันเฟิงชินอ๋องคล้ายจะมองออกถึงความคิดของนาง ยิ้มพลางกล่าวว่า “อีกสามปี หรืออาจห้าปี พวกเราจะไปเยือนแคว้นซาง ถึงตอนนั้น ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักกับเฮยอิ่ง”ซ่งซีซีกำลังจะกล่าวขอบคุณ ทว่าเสิ่นว่านจือก็ถามขึ้นก่อน “เหตุใดต้องเป็นสามปีหรือห้าปี? ไปเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือ? พวกเราตั้งตารอให้ท่านกับพระชายามาเยือน”อันเฟิงชินอ๋องเพียงยิ้ม แต่

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status