“เอ่อ... พอดีมีสายจากคุณอเล็กซิสถึงคุณเตยหอมน่ะค่ะ”แล้วพนักงานตรงหน้าก็ยื่นโทรศัพท์ไร้สายมาให้ ตอนแรกหล่อนจะเดินหนี ไม่ยอมรับสาย แต่พอพนักงานย้ำออกมาอีกคำ หล่อนจึงไม่มีทางเลือก“เห็นคุณอเล็กซิสบอกว่าคุณเตยหอมลืมอะไรเอาไว้บนห้องน่ะค่ะ”หล่อนจำใจต้องยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์ไร้สายขึ้นมาแนบกับใบหู พร้อมกับกรอกเสียงลงไป“เตย... ลืมอะไรเอาไว้เหรอคะคุณอเล็ก”“เธอทำต่างหูตกเอาไว้น่ะ”คำตอบของอเล็กซิส ทำให้หล่อนต้องรีบยกมือขึ้นจับติ่งหูของตัวเอง และก็พบว่าข้างหนึ่งไม่มีต่างหูอยู่ ดวงหน้างามซีดเผือด“จริงด้วยค่ะ มันหายไปข้างหนึ่ง”“งั้นรอฉันตรงล็อบบี้นะ ฉันจะเอาไปให้”หล่อนไม่อยากเจอเขาเลย เพราะเห็นหน้าเขาก็อดที่จะนึกถึงท่อนชายของเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะต่างหูอันนั้นมันสำคัญกับหล่อนมากเหลือเกินมันคือของขวัญจากแม่...“ค่ะ”หล่อนตัดสาย และยื่นโทรศัพท์ไร้สายคืนให้กับพนักงานสาว จากนั้นก็เดินไปทรุดตัวนั่งบนโซฟานุ่มที่อยู่ภายในล็อบบี้ และเวลาผ่านไปเพียงห้านาที ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพเจ้าประทานมาให้ก็เดินมาหยุดตรงหน้าหล่อนรีบลุกขึ้นยืน และเอ่ยถามหาต่างหูของตัวเอง “เอ่อ... ไหนต่าง
“ทำไมวันนี้หน้าเศร้าๆ ล่ะเตย เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงแม่บ้านเอ่ยถามขึ้น หลังจากที่เห็นหล่อนยืนเหม่อมองไปยังร่างของอเล็กซิสกับเจนจิรา“เอ่อ... ปะ... เปล่าค่ะ เตยไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”“แต่หน้าทั้งเศร้าทั้งซีดเลยนะ หรือว่าเหนื่อยล่ะ” แม่บ้านยังคงแสดงความเป็นห่วงหล่อน “แต่ป้าว่าเตยคงจะเหนื่อยมากนั่นแหละ เห็นยังไม่ได้นอนเลยใช่ไหมเนี่ย ตั้งแต่เมื่อคืนน่ะ”ป้าแม่บ้านพูดถูกต้องทุกอย่าง หล่อนทั้งเพลีย ทั้งเหนื่อย เพราะช่วยเตรียมงานแต่งตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ แต่อีกความรู้สึกหนึ่งที่มีมากกว่าความเหนื่อยความเพลียก็คือความเศร้าใช่... หล่อนห้ามหัวใจไม่ได้ หล่อนกำลังเศร้าเหลือเกิน หัวใจปวดร้าวทรมาน เมื่อความจริงมันเต้นระริกอยู่ภายในอก ผู้ชายที่ขโมยจูบแรกของหล่อนไปกำลังจะมีเจ้าของแม้จะรู้ตัวดีว่าไม่ควรคิดอะไรแบบนี้ แต่หล่อนก็ห้ามสมองไม่ได้เสียที“น่าจะ... ใช่ค่ะป้า...”“งั้นนั่งพักก่อนเถอะ เดี๋ยวทางนี้ให้คนอื่นทำต่อ”“ไม่เป็นไรค่ะป้า เตยไหวค่ะ”“ไม่เอาน่า เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งกันไปจะยุ่ง นี่ก็เหลืองานอีกไม่เยอะแล้ว”เมื่อคู่สนทนายืนกรานเช่นนั้น หล่อนที่แทบจะไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงเดินจึงตอบรับ“ขอบคุณ
“ทำหน้าให้มันสเบยหน่อยสิวะเพื่อน คืนนี้งานแต่งนายนะโว้ย” เคลวินอดแซวเพื่อนไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าของอเล็กซิสมีแต่ความเบื่อหน่าย“นั่นสิ เดี๋ยวเจ้าสาวก็น้อยใจแย่หรอก” แม็กซิมัสเสริมขึ้น แต่อเล็กซิสกลับไม่ได้มีทีท่าไยดีอะไรเลย เจ้าบ่าวสุดหล่อไหวไหล่กว้างเล็กน้อย“ก็ฉันไม่ได้ยินดีกับงานแต่งนี้สักหน่อย ถูกบังคับพวกนายก็รู้ไม่ใช่หรือ”“แต่นายก็เลือกที่จะแต่งงานแล้วนี่ ดังนั้นนายก็ควรรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้ดี” แม็กซิมัสเตือนเพื่อนรัก แต่อเล็กซิสก็ยังทำหน้าเบื่อหน่ายเหมือนเดิม“พวกนายดื่มกันไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อน”“ให้ฉันไปส่งไหม นายดื่มไปหลายแก้วแล้วด้วย” เคลวินอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้“นั่นสิให้ไอ้เคนมันพาไปดีกว่า เดี๋ยวล้มพับลงไปจะยุ่ง” แม็กซิมัสก็เป็นห่วงเพื่อนเช่นกัน“ไม่เป็นไร ฉันไม่ใช่คนคออ่อนสักหน่อย เหล้าแค่ไม่กี่แก้วทำให้เมาไม่ได้หรอก” อเล็กซิสปฏิเสธเสียงจริงจัง “เดี๋ยวมาว่ะ” จากนั้นก็เดินมุ่งหน้าตรงไปยังห้องน้ำ ซึ่งเจนจิราก็พาบรรดาเพื่อนๆ ของตัวเองเข้ามาขวางหน้าเอาไว้พอดี“พี่อเล็กกำลังจะไปไหนเหรอคะ”อเล็กซิสฝืนยิ้มให้กับเจนจิรา “พี่กำลังจะไปห้องน้ำน่ะ ขอตัวสักครู่น
“คุณแม่คะ... พี่อเล็กไม่ค่อยจะสนใจเจนเลยค่ะ”เจนจิราในชุดเจ้าสาวแสนสวยหน้าหงิกงอ หลังจากอเล็กซิสเจ้าบ่าวของตนเองเอาแต่คุยอยู่กับเพื่อนพ้อง และดื่มแต่เหล้า ไม่สนใจไยดีหล่อนอย่างที่ควรจะเป็นเลย“อย่าคิดมากเลยน้องเจน เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่อเล็กก็จะสนใจน้องเจนเองนั่นแหละ เชื่อแม่สิ”ปิยนุชปลอบลูกสาว ในขณะที่เจนจิราจ้องมองอเล็กซิสที่อยู่ในกลุ่มของเพื่อนๆ ของเขาด้วยสายตาไม่พอใจตลอดเวลา“แต่พี่อเล็กทำเหมือนไม่อยากแต่งงานกับเจนเลยนะคะคุณแม่”“ก็คุณป้าเจสบอกแล้วไงว่าพี่อเล็กน่ะ เขาหวงความโสดมาก และก็ไม่ได้เต็มใจจะแต่งงานสักเท่าไหร่ ดังนั้นน้องเจนของแม่จะต้องใช้เสน่ห์หญิงมัดใจพี่เขาให้อยู่รู้ไหมลูก”“เรื่องนั่นเจนไม่พลาดหรอกค่ะ เจนเก่งทุกท่าอยู่แล้ว”ปิยนุชฟังคำพูดโอ้อวดของลูกสาวแล้วก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจดี“ส่วนเรื่องคืนนี้ น้องเจนจะต้องรอสัญญาณจากแม่ให้ดีๆ นะลูก เพราะพอนังเตยมันออกมาจากห้อง น้องเจนก็สวมรอยเข้าไปนอนแทนที่เลย แล้วอย่าทำตัวให้มีพิรุธล่ะรู้ไหม”“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ว่าแต่เจนจะต้องรอนังเตยนานแค่ไหนคะ แล้วรอตรงไหน”“แม่ว่าน่าจะไม่เกินชั่วโมงหรอกมั้ง”“เป็นชั่วโมงเลยเหรอคะ
สุ้มเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขของผู้คนหลายคนด้านนอกดังเล็ดลอดมาเข้าหูคนที่แอบซุกตัวอยู่ในห้องน้ำเช่นหล่อนเตยหอมรอคอยด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ตอนแรกหล่อนตกใจมาก ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว แต่พอได้ยินเสียงของเจนจิรา จึงรู้ว่านี่คือสัญญาณที่บอกให้รู้ว่างานน่าอดสูกำลังจะเริ่มต้นขึ้น“เปิดสินังเตย...”เตยหอมรีบปลดล็อกประตูห้องน้ำ และเจนจิราก็ก้าวเข้ามาข้างในด้วยกัน“เดี๋ยวฉันจะแอบออกไป ส่วนแกก็ทำหน้าที่ให้เสร็จ และก็ลงไปเปลี่ยนตัวกับฉันที่ข้างล่าง เข้าใจไหม”“เอ่อ... ค่ะ...”“แล้วอย่าให้ฉันรู้นะว่าแกทำเกินกว่าหน้าที่ นังเตย” เจนจิราเอานิ้วจิ้มหน้าผากของเตยหอมแรงๆเตยหอมก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองทั้งน้ำตา“ฉันจะรอแกอยู่ตรงพุ่มไม้ข้างบ้าน รีบลงมาล่ะ”“ค่ะ”“แล้วนี่แกเอาชุดมาเปลี่ยนหรือเปล่า เพราะแกคงไม่คิดจะใส่ชุดนอนของฉันออกไปจากที่นี่หรอกนะ”“เอ่อ... เตยเตรียมมาแล้วค่ะ”“ดีมาก แล้วอย่าให้พลาดล่ะ”“ค่ะ”เจนจิรากำลังจะดันบานประตูห้องน้ำให้เปิดออก แต่เตยหอมถามเสียงสั่นเทาเสียก่อน“คุณ... อเล็กเมาไม่รู้เรื่องใช่ไหมคะ”“ใช่ เมาแอ๋เลย แต่ยังไงซะแกก็ต้องทำให้พ
สติสัมปชัญญะที่ถูกปากถูกลิ้นถูกฝ่ามือเชี่ยวชาญของคนเมาปัดเป่าหายไปจนแทบหมด ตอนนี้ยิ่งสลายหายยิ่งขึ้น เมื่อคนตัวโตพรมจูบมายังบ่าเปลือย พร้อมกับเอามือกอบกุมเต้านมอวบใหญ่เอาไว้เสียงคำรามของคนเมาดังกระหึ่มมาเข้าหู แต่มันกลับไม่สามารถฉุดรั้งให้หล่อนคลายความตื่นตกใจได้ กายสาวขยับหนีเล็กน้อย เมื่อถูกบีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่ม แต่เขาไม่ยอมปล่อยมือจากเต้านม แถมยังปลุกเร้าต่อด้วยการเอานิ้วยาวมาเสียดสียอดถัน“อ๊ะ... อื้อ...อ๊า...”ยอดถันของหล่อนชูชันขึ้นทันตา มันเคร่งครัด แข็งเป็นไตคล้ายกับกำลังรอคอยอะไรบางอย่างความรู้สึกเสียวซ่านยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อยอดถันถูกจู่โจมจากปลายนิ้วยาวทั้งสองข้าง ในขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาของอเล็กซิสก็ก้มลงซุกไซ้กับร่องอกอวบหล่อนกำลังจะตาย... ใช่... ต้องตายแน่ๆ หากเขายังคงซุกไซ้และบี้คลึงยอดทรวงแบบนี้“อ๊า... อา... อ๊า...”หล่อนเกลียดตัวเองที่ครางแบบนั้น เกลียดร่างกายที่ดิ้นเร่าๆ คล้ายกับกำลังถูกใจกับสัมผัสของอเล็กซิส“อ๊า... อา... อา...”แต่สาวอ่อนเดียงสาเช่นหล่อนจะไปต่อสู้อะไรกับคนเมาผู้ช่ำชองได้ เพราะทันทีที่เขาแลบลิ้นสีแดงสดออกมาจากปาก และไล้ไปมากับยอดถันข้
ความร้อนฉ่าที่เต้นระริกอยู่ในโพรงสาวค่อยๆ จางหายไป เมื่อความหวาดหวั่นเข้ามาแทนที่เขาใหญ่โต และเขาก็เมามาก ถ้าเขาทำแรง... หล่อนคงต้องขาดวิ่นแน่ๆ“อ๊ะ...”เขากระโจนขึ้นมาบนเตียง และกระชากร่างเปลือยขาวเนียนให้ไปอยู่ใต้ร่างอีกครั้ง ใบหน้าหล่อจัดคลุกเคล้าลงมาหา เต้านมถูกบีบขยำ ยอดถันถูกโลมเลีย และที่ร่องสาวก็ถูกนิ้วยาวค่อยๆ สอดใส่เข้ามาทีละนิดจนกระทั่งเข้ามาได้สำเร็จ“อ๊ะ...”“ฟิตจัง”เขาครางเสียงแหบพร่า ชักนิ้วเข้าออกถี่ระรัว ในขณะที่อุ้งปากชายก็ยังดูดเลียยอดถันไม่ว่างเว้นหล่อนดิ้นเร่าๆ ร่างกายตื่นเร้าด้วยแรงปรารถนาอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ไม่อาจจะรั้งรอได้อีกต่อไป“ได้โปรด... อ๊า... ได้โปรดเถอะค่ะ คุณอเล็ก... อ๊า...”คำวิงวอนของหล่อนหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างของอเล็กซิสได้ทั้งหมด เขาเงยหน้าขึ้นจากเต้านม และดึงนิ้วยาวออกมาจากกลีบสาวในเวลาเดียวกันดวงตาสีฟ้ากระจ่างที่จับจ้องมองมานั้นเต็มไปด้วยความหื่นกระหายน่ากลัวหล่อนตัวสั่น หวาดกลัวต่อประสบการณ์แปลกใหม่ แต่กระนั้นก็ยินยอมที่จะตกเป็นของเขา“ได้โปรด... เถอะนะคะ... อา...”และก็เป็นหล่อนที่เบียดกระแซะกายสาวขึ้นหาวิงวอน จนกระทั่งเขาหมดความอดทน
“ทำไมช้านักวะ นังเตย!” เจนจิราตวาดเสียงไม่พอใจ เมื่อเตยหอมกลับลงมาเกือบตีสอง “รู้ไหมว่ายุงมันกัดฉันจนตัวลายไปหมดแล้วเนี่ย”“คือเตย... เอ่อ...”“ไสหัวไปได้แล้ว ไอ้หนุ่มมันรออยู่นอกรั้ว นู้น!”“ค่ะคุณเจน”เจนจิราอยากจะตบเตยหอมสักฉาดสองฉาด แต่พอคิดได้ว่าต้องรีบกลับเข้าไปในห้องหอเพราะหากอเล็กซิสตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบเจ้าสาวจะสงสัยเอาได้จึงทำได้แค่ด่าจิกหัว“แล้วอย่าสะเออะมาให้พี่อเล็กเห็นหน้าอีก จำเอาไว้ด้วย”“ค่ะ”เตยหอมมองร่างของเจนจิราที่ย่องหายกลับเข้าไปในบ้านหรูผ่านม่านน้ำตา หัวใจของหล่อนปวดร้าวทรมานเหลือเกิน“ลาก่อนค่ะคุณอเล็ก...”หล่อนกับเขา ไม่มีทางจะได้พบเจอกันอีก แต่มันก็ดีสำหรับหล่อนไม่ใช่เหรอที่จะได้ไม่ต้องเจ็บปวด กับการที่ต้องเห็นเขามีความสุขกับเจนจิราหลังมือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตานับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะเดินโซซัดโซเซออกไปเงียบๆอเล็กซิสขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะพลิกตะแคงกอดร่างนุ่มนิ่มเอาไว้แนบอก เมื่อคืนไม่ต่างจากสวรรค์บนดินแม้แต่น้อย เพศสัมพันธ์ที่แสนมหัศจรรย์มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังเนียนเบาๆ สมองยังคงดื่มด่ำอยู่กับความหวานฉ่ำที่ได้รับเมื่อคืนแน่นอก รสกำซ่านของบทพิศวาสเร่าร้อนยังคงแจ่มช
หลายปีต่อมา... สี่หนุ่มเพื่อนซี้ก็สามารถหาเวลาว่างตรงกันและนัดมาสังสรรค์กันได้ในที่สุดอเล็กซิสยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ขณะทอดสายตามองไปยังทุ่งกว้างที่บรรดาเด็กน้อยวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยมีสาวๆ ซึ่งเป็นภรรยาของพวกเขาทั้งสี่คนปูเสื่อนั่งคุยกันอยู่ไม่ห่างจากจุดที่เด็กๆ วิ่งเล่นอยู่เขาไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย การมีครอบครัวคือสิ่งที่เขาไม่เคยปรารถนามาก่อน แต่หลังจากที่เตยหอมเข้ามาในชีวิต เขาก็ได้รู้จักกับความสุขที่แท้จริง...ความสุขที่เงินมากเท่าไรก็ซื้อหาไม่ได้...“ในท้องเมียนายกี่คนวะ เห็นท้องใหญ่ๆ” แม็กซิมัสเอ่ยถามอเล็กซิส ซึ่งเป็นหนุ่มหล่อคนสุดท้ายที่เพิ่งได้แต่งเมีย“แฝดสามว่ะ” อเล็กซิสยืดอกตอบอย่างภาคภูมิใจ “น้ำยาฉันมันแรง เห็นไหมล่ะ”เสียงหัวเราะของอีกสามหนุ่มดังกระหึ่ม ก่อนจะรีบเกทับกันยกใหญ่“แค่แฝดสามทำมาคุยไอ้อเล็ก ฉันนี่ลูกหกคนแล้วโว้ย ยังไม่เห็นคุยเลย ถึงจะไม่ใช่แฝดก็ตาม” เคลวินยืดอกบ้างด้วยความภูมิใจในเชื้อพันธุ์ของตนเองไม่ต่างกัน“ให้มันน้อยๆ หน่อยน่ะพวกแก” ชาร์ลีแย้งขึ้นพร้อมกับจิบเหล้า แต่ก็ทำให้เพื่อนอีกสามคนหันมาทับถมกันใหญ่โต“นายน่ะอ่อนสุดเลยรู้ไหมไอ้ชาร์ล พวกเร
Mackenzie, New Zealandสถานที่ตรงหน้ามันสวยเหลือเกิน สวยงามน่าอัศจรรย์จนหล่อนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลย รู้แต่ว่ามันคือแดนสวรรค์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงบนโลกรอยยิ้มละไมเปื้อนดวงหน้างามตลอดเวลา เมื่อนึกถึงภาพของทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่อยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูงใหญ่ และรอบๆ ก็มีดอกไม้สีสันสดใสประดับประดาอย่างลงตัวคล้ายกับดินแดนในเทพนิยายที่เคยหยิบยืมของเจนจิรามาอ่านตอนเด็กไม่มีผิด“ชอบไหมทูนหัว...”คนที่นอนหลับตาอยู่ก่อนหน้าขยับเปลือกตาลืมขึ้น และมองหน้าหล่อน ดวงตาของเขาระยิบระยับสวยแข่งกับดวงดาวบนท้องฟ้ากว้างเหลือเกินมือเล็กยกลูบแก้มสากที่มีตอหนวดขึ้นประปรายแผ่วเบา “ชอบมากค่ะ มันสวยเหลือเกิน...”คนตัวโตยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวสะอาดสะท้อนกับแสงของดวงดารานับหมื่นบนท้องฟ้า“ผมดีใจนะที่คุณชอบ...”“ขอบคุณมากนะคะที่พาเตยมาที่นี่ มันสวยมาก สวยเหมือนสวรรค์เลยค่ะ”คนที่นอนพักอยู่ลุกขึ้นนั่ง ยกมือใหญ่ขึ้นโอบประคองแก้มนวลของภรรยาเอาไว้ ก่อนจะจุมพิตกลีบปากอวบอิ่มนุ่มนวล จากนั้นก็กระซิบแผ่วเบา“แล้วที่นี่คุณชอบอะไรที่สุดล่ะ ทะเลสาบ ดอกลูพิน หรือว่าดวงดาวบนฟ้าในตอนนี้”หล่อนฉีกยิ้มกว้าง
และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความสุขคือสิ่งที่เตยหอมพบเจอเป็นประจำจนเคยชิน หล่อนไม่เคยพบประสบกับความทุกข์ใจใดๆ อีกเลย เมื่อมีอุ้งมือของอเล็กซิสคอยโอบประคอง จนหล่อนอดคิดไม่ได้ว่าตนเองคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก“อุ้ยยย...” หล่อนสะดุ้งตกใจเมื่อถูกสวมกอดจากทางด้านหลัง แต่สัมผัสและกลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้อมยิ้มกว้างในเวลาต่อมา อ้อมแขนที่แสนอบอุ่นนี้จะเป็นของใครไปได้ล่ะ นอกจาก...อเล็กซิส โอคอนเนอร์ สามีดีเด่นของหล่อนนั่นเอง...หล่อนหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับสามีสุดหล่อที่ตัวสูงใหญ่ มองจ้องตาสีฟ้าสวยของเขาด้วยความรักหมดหัวใจ“น้องปิ่นหลับแล้วเหรอคะ”“หลับแล้วครับทูนหัว...” คุณพ่อคนเก่งก้มลงจูบแก้มภรรยาอย่างแสนรัก จากนั้นก็เลยมาอ้อยอิ่งที่กลีบปากหวานราวกับหยาดน้ำผึ้งป่าของภรรยา “กว่าจะหลับได้ ผมหมดนิทานในสต็อกไปเกือบห้าเรื่องแน่ะ” เขาพูดและก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ดวงตากวาดมองหน้าหวานของเตยหอมตลอดเวลา“ตอนเด็ก คุณจ้อเก่งแบบน้องปิ่นหรือเปล่าเนี่ย”หล่อนหัวเราะร่วน “เปล่านะคะ ตอนเล็กๆ เตยไม่ค่อยจะพูดด้วยซ้ำไปค่ะ”“อ้าว งั้นก็คงเหมือนผมน่ะสิ” เขาหัวเราะก๊าก ซึ่งหล่อนเองก็อดที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้
“ที่แท้ก็อยากมีลูกเพิ่มใช่ไหมคะเนี่ย”เขาผงกศีรษะตอบรับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์น้อยๆ “ก็ฉันกลัวน้องปิ่นจะเหงา ก็เลยอยากมีน้องๆ ให้มาเป็นเพื่อนวิ่งเล่น ว่าแต่ตกลงไหมทูนหัว”เตยหอมยิ้มเอียงอาย ก่อนจะซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้างอย่างแสนรัก“ค่ะ”“น่ารักจังทูนหัว”เสียงหัวเราะพึงพอใจของอเล็กซิสดังกระหึ่มขึ้น ก่อนที่มือใหญ่จะเริ่มต้นซุกซน“อุ้ยยย... จะทำอะไรเหรอคะ”“ก็เร่งมือทำน้องให้น้องปิ่นไงจ๊ะทูนหัว”“ตะ... ตอนนี้เลยเหรอคะ” มือของเขาซุกซนมาก สัมผัสลูบไล้ไปทั้งบั้นท้ายทำเอาหล่อนสยิวเสียวซ่าน“ไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหนล่ะทูนหัว...”“ก็... ตอนค่ำไงคะ” หล่อนอ้อมแอ้มตอบด้วยความขัดเขิน“รอไม่ไหวจ๊ะที่รัก... ได้โปรดขอตอนนี้เลย... นะ...”น้ำเสียงของอเล็กซิสทั้งกระเส่าทั้งแปร่งพร่า ทำเอาหล่อนไม่กล้าที่จะขัดใจเลย“ก็... ได้ค่ะ”กายสาวร้อนผะผ่าว เลือดในกายก็เดือดพล่าน ยิ่งอเล็กซิสมือไม่อยู่สุขแบบนี้ หล่อนก็ยิ่งร้อนฉ่าราวกับจับไข้สูง“ทูนหัว... อวบใหญ่ไปทั้งตัวเลย... อืมมม”มือใหญ่ทั้งขยำทั้งบีบเต้านมอย่างเมามัน ก่อนจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าที่หล่อนสวมอยู่จนกระเด็นหวือลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้นห้อง ส่วนกายสาวก็ล่อนจ้อน
ในที่สุดช่วงเวลาที่น่าหวาดหวั่นก็เดินทางมาถึงจนได้ อเล็กซิสพาหล่อนกับปิ่นงามกลับมายังบ้านของเขา เพื่อที่จะได้พบเจอกับเจสสิก้ามารดาของเขานั่นเองเขาบอกกับหล่อนว่าได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้มารดาและบิดาฟังหมดแล้ว ซึ่งตอนนี้มารดาของเขาก็ต้องการที่จะพบหล่อนกับปิ่นงาม“มือเย็นเชียว ไม่มีอะไรหรอก เชื่อฉันสิ” คนตัวโตเอื้อมมือมากุมมือเล็กเอาไว้ และก็บีบให้กำลังใจ“ค่ะ... เตย... เชื่อคุณอเล็กค่ะ”อเล็กซิสระบายยิ้มหวาน เขาย่อตัวลงวางปิ่นงามให้ลงยืนกับพื้นห้อง เมื่อพาหล่อนกับลูกสาวเข้ามาในห้องรับแขกหรูแล้ว หล่อนเห็นเจสสิก้านั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว จับจ้องมองมาที่หล่อนและปิ่นงามไม่วางตาสมัยตอนที่หล่อนอยู่ที่บ้านของปิยนุช ก็มีโอกาสได้เจอะเจอกับเจสสิก้าหลายครั้ง แต่ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดมาก่อน“สวัสดีค่ะคุณเจสสิก้า”หล่อนยกมือไหว้สตรีสูงวัยที่ยังสวยไม่สร่างตรงหน้าด้วยความนอบน้อม ก่อนจะหันไปบอกลูกสาวให้ยกมือไหว้เช่นกัน ซึ่งปิ่นงามก็ทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย เรียกรอยยิ้มเอ็นดูของเจสสิก้าได้อย่างมากมายเลยทีเดียว“หลานย่า... มาให้ย่ากอดหน่อยลูก”ปิ่นงามมองหน้าหล่อนเล็กน้อยราวกับขอความเห็น และเมื่อหล่อนพยักหน้าอน
หลังจากที่หล่อนบอกความจริงกับยายฟองจันทร์และตาคำสาย ทั้งสองตายายก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นตกใจ ก่อนที่ยายฟองจันทร์จะพูดออกมา“ยายว่าแล้วเชียวว่ามันต้องมีอะไรในกอไผ่”“ทำไมแกพูดอย่างนั้นล่ะยายฟองจันทร์ หรือว่าแกเดาออกว่าคุณอเล็กกับหนูเตยเป็น...” ตาคำสายเอ่ยถามภรรยายังไม่ทันจบก็ถูกแทรกขึ้นเสียก่อน “ก็แกไม่เห็นสายตาที่คุณอเล็กมองหนูเตยในงานศพคุณเจนหรือไงล่ะ มองตาเชื่อมจนมดกัดแบบนั้น แล้วยังที่บุกมาถามวันเดือนปีเกิดของน้องปิ่นอีก”ตาคำสายผงกศีรษะรับหงึกๆ ก่อนจะหันไปถามอเล็กซิสที่ยืนอุ้มปิ่นงามเอาไว้ในอ้อมแขน“นี่ถ้าผมเป็นคุณอเล็กนะ ผมคงไม่ยอมปล่อยให้เมียหนีไปนานถึงสี่ปีหรอกครับ แค่สี่วันผมก็อกจะแตกตายอยู่แล้ว”อเล็กซิสอมยิ้ม ทอดสายตามองเตยหอมที่ยืนหน้าแดงระเรื่ออยู่ข้างกาย“ใครว่าผมยอมปล่อยกันล่ะครับ หนูเตยของคุณตาคุณยายหนีไปต่างหาก ผมตามหาแทบพลิกแผ่นดินก็ไม่เจอ จนเกือบถอดใจอยู่แล้วล่ะครับ”“ที่เตยหนีไปก็เพราะเตยจำเป็น คุณอเล็กก็รู้นี่คะ ยังมาว่าเตยอีก” สาวน้อยอ้อมแอ้มตัดพ้อสามีเสียงอ่อยอเล็กซิสมองภรรยาด้วยความเอ็นดูก่อนจะก้มหน้าลงมาจูบแก้มแดงๆ โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย สองตายายเห็นเข้าก็อมยิ้มฟิ
“ใครว่าล่ะ เธอทั้งสวยทั้งหวานต่างหาก”“เตย...”“ฉันก็บอกเธอตลอดนี่ว่าเธอน่ะหอมหวานแค่ไหน ตอนที่เรา...”อเล็กซิสอมยิ้มและเว้นวรรคเอาไว้ แต่หล่อนก็เข้าใจความหมายได้เป็นอย่างดีหล่อนเสหลบสายตาด้วยความเอียงอาย โดยมีคนตัวโตพรมจูบไปทั่วทั้งใบหน้า“ความจริง ฉันไม่ได้คิดจะบอกความในใจกับเธอตรงนี้หรอกนะ”“คะ?”“ฉันเตรียมสถานที่เอาไว้แล้ว แต่ก็พลาด บอกเธอออกมาเสียก่อน”มือเล็กไต่ไปมาอยู่บนหน้าอกกว้าง หัวใจของหล่อนพองฟูจนคับทรวงอก“เอาไว้บอกอีกครั้งก็ได้ค่ะ เตย... ชอบฟัง...”“ขี้โกงนี่นา”“ทำไมว่าเตยขี้โกงล่ะคะ” หล่อนช้อนตามองอเล็กซิส และก็อมยิ้มหวานฉ่ำ“ก็เธอให้ฉันบอกความในใจอยู่เดียว ส่วนเธอไม่พูดอะไรออกมาเลย”“เตย...”“ถึงแม้ว่าฉันจะรู้อยู่แล้วว่ายังไงซะ เธอก็ต้องรักฉัน แต่ฉันก็อยากฟังเป็นคำพูดเหมือนกันนะ”หล่อนหัวเราะออกมา สองแก้มนวลร้อนผ่าวด้วยความขัดเขินเอียงอาย“ใครว่าเตยรักคุณอเล็กกันล่ะคะ” หล่อนแสร้งดิ้นขลุกขลัก จะหนีออกจากอ้อมแขนกำยำ แต่อเล็กซิสไม่ยอมปล่อย“ก็ฉันหล่อขนาดนี้ เธอไม่รักก็บ้าไปแล้วล่ะ”“แหวะ คนหลงตัวเอง อุ๊ยยย...” หล่อนย่นจมูกใส่เขา และก็ถูกจูบปากเป็นการลงโทษทันควัน“แล้วสร
บ้าจริง เมื่อคืนหล่อนยอมให้อเล็กซิสทำแบบนั้นที่ผนังห้องได้ยังไงกันนะ!เตยหอมเต็มไปด้วยความรู้สึกอับอาย เมื่อมองไปยังผนังห้องพักที่เมื่อคืนตนเองกับอเล็กซิสใช้เป็นที่ระเบิดความใคร่ใส่กัน พวงแก้มนวลแดงระเรื่อ กายสาวก็ร้อนวูบวาบจนน่าอับอายหญิงสาวรูดซิปกระเป๋าเดินทางจนสุด เมื่อเก็บเสื้อผ้าของตัวเองกับลูกสาวเข้าไปภายในนั้นครบทั้งหมดแล้วช่างมันเถอะ อย่างน้อยๆ หล่อนก็จะได้จดจำความสุขยามที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของอเล็กซิสเอาไว้หล่อเลี้ยงหัวใจ หล่อนคงมีความสุขมาก เวลาคิดถึงสัมผัสของเขาแม้จะพยายามฝืนยิ้มออกมา แต่หัวใจก็ยังคงเจ็บปวดทรมานจนเลือดทะลักเตยหอมกัดฟันลุกขึ้นจากพื้น มองร่างของลูกสาวที่ยังคงนอนหลับปุ๋ยบนเตียงด้วยความรัก ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูห้อง แต่ยังไม่ทันถึงเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน หล่อนคิดว่าเป็นยายฟองจันทร์ หรือไม่ก็ตาคำสาย จึงรีบเปิดออกโดยไม่ทันได้เอ่ยถาม“คุณ... อเล็ก...”แต่พอเปิดประตูออกแล้วก็ต้องตกใจระคนแปลกใจ เมื่อเห็นอเล็กซิสผู้ชายเจ้าของบั้นเอวคลั่งยืนกอดอกอยู่ตรงหน้า พวงแก้มนวลแดงก่ำ เลือดสาวร้อนฉ่า เมื่อสบตากับดวงตาสีฟ้าสดสวย"เอ่อ... คุณมีธุระอะไรกับเตยเหรอคะ”“ฉัน
ความอึดอัดจนน่าคลุ้มคลั่งบนรถสปอร์ตหรูจบสิ้นลงเมื่ออเล็กซิสวางร่างหลับปุ๋ยของปิ่นงามลงบนเตียง ทุกกิริยาของเขาที่ปฏิบัติกับปิ่นงามช่างอ่อนโยนจนหล่อนแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่“ขะ... ขอบคุณมากค่ะที่อุตส่าห์สละเวลามาส่งเราสองแม่ลูก”หล่อนพูดขึ้น เมื่อเขาเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อนที่ยืนขาสั่นอยู่กลางห้องพักใบหน้าของอเล็กซิสหล่อเหลา และก็มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ หล่อนก้มหน้างุดลงมองพื้น พร้อมกับภาวนาให้ตัวเองสามารถข่มความโหยหาเอาไว้ได้จวบจนกระทั่งเขาจากไป“ด้วยความยินดี”“เอ่อ... เตย... ออกไปส่งที่รถค่ะ อ๊ะ...”หล่อนกำลังจะหมุนตัวเดินไปที่ประตูห้อง แต่เอวคอดถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้ พร้อมกับรั้งร่างอวบอัดเข้าไปปะทะแผ่นอกกว้าง“ปะ... ปล่อยเตยค่ะ”“ชูว์... อย่าส่งเสียงดังเชียวนะ เพราะจะรบกวนเวลานอนของลูก เข้าใจไหม”หล่อนหน้าซีดเผือดสลับแดงก่ำ เลื่อนสายตาไปมองลูกสาวที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงแล้ว ก็จำต้องกัดปากแน่นเพื่อไม่ให้เสียงใดเล็ดลอดออกมา“เก่งมากเด็กดี...”“อื้อ... อย่าค่ะ”มือใหญ่ยกขึ้นลูบใบหน้านวล หล่อนพยายามเอียงหน้าหนีแต่เขาก็ยอมให้ทำได้ สุดท้ายมือของอเล็กซิสก็สอดรองเอาไว้ใต้ท้ายทอย นิ้วแกร่ง