“ฉันกำลังจะเอาเธอ”น้ำเสียงของเขากระเส่าและกระด้าง ขยับตัวจัดเตรียมท่วงท่าจนเหมาะเจาะกับการสอดใส่สองขาเรียวงามถูกดันให้แยกกว้างออก เขาจดจ่อความเป็นชายกับร่องฉ่ำเยิ้ม“อ๊ะ...”แต่ตัวตนของเขาทั้งแข็งทั้งน่าหวาดกลัวทำให้หล่อนพยายามจะกระเถิบสะโพกหนี แต่เขาไม่ยอม ใช่... เขาไม่ยอมให้หล่อนถดถอยห่างอีกแล้ว มือใหญ่สอดใต้บั้นท้ายอวบที่เขาเคยปรามาสว่ามันงอนเกินไปไม่น่ามอง และดันท่อนชายเข้าใส่สุดแรง“อ๊ะ... กรี๊ดดดด...”ความเจ็บปวดแสนสาหัสพุ่งเข้าใส่ร่างของช้องนางจนหล่อนไม่อาจจะเก็บซ่อนมันเอาไว้ได้“ฉัน... เจ็บ...”น้ำหูน้ำตาไหลทะลัก เมื่อกลีบสาวไร้เดียงสาถูกบีบบังคับให้ต้อนรับความแข็งชันที่ใหญ่โตเกินมนุษย์ของคนใจร้าย“ได้โปรด... ปล่อยฉัน... นะคะ... ปล่อยฉัน...”หล่อนวิงวอนอย่างน่าเวทนา และก็คิดว่าเขาจะเห็นใจบ้าง แต่เขากลับส่ายหน้าไปมา ท่าทางของเขาดูดุร้ายกว่าเดิมหลายเท่าตัวนัก ดวงตาของเขาวาวโรจน์ กรามแกร่งขบกันแน่นจนเป็นสันนูนเป่ง ราวกับว่าเขากำลังต่อสู้อยู่กับอะไรบางอย่างที่น่าเกรงขาม“เธอยังบริสุทธิ์จริงๆ นั่นแหละ”“ฉันเจ็บ... คุณชาร์ล... ปล่อยฉันเถอะนะคะ... อย่าทำอะไรฉันอีกเลย...”หล่อนได้ยิ
หล่อนยังมีชีวิตรอด...ช้องนางบอกกับตัวเองทั้งน้ำตา หลังจากพยุงร่างกายบอบช้ำราวกับผ่านสมรภูมิรบในตะวันออกกลางเข้ามาในห้องน้ำได้สำเร็จ หล่อนเลือกที่จะซ่อนตัวในอ่างน้ำสีขาวสะอาด เพราะหวังว่าน้ำอุ่นที่มีฟองครีมอาบน้ำกลิ่นดอกไม้จะทำให้ร่างกายของตนเองผ่อนคลายจากความเมื่อยขบ หลังจากที่เมื่อคืนถูกรุกรานป่าเถื่อนหลายชั่วโมงติดต่อกันน้ำตาไหลรินออกมาอาบแก้ม ความทรงจำเมื่อคืนไหลบ่าเข้าท่วมท้นราวกับน้ำป่าไหลหลาก ชาร์ลีข่มเหงหล่อนอย่างป่าเถื่อน สัมผัสของเขาหยาบคาย ไร้ความปรานี แม้กระทั่งตอนที่รู้ว่าหล่อนยังเป็นสาวพรหมจรรย์ เขาก็ยังไม่ยอมที่จะถอนตัวเองออกไป ยังคงเดินหน้าปลุกเร้าจนหล่อนกลายเป็นอีตัวข้างถนนอย่างที่เขาต้องการคนใจร้าย...ใช่ ชาร์ลีใจร้ายต่างจากหน้าตานักก้อนสะอื้นเล็ดลอดออกมาจากเรียวปากอิ่มบวมเจ่อ ปากที่ถูกเขากัดกินอย่างไม่ปรานีชาร์ลีเกลียดหล่อน...เขาทำทุกอย่างลงไปก็เพราะคิดว่าหล่อนเป็นคนเปิดเผยความลับของเขากับไลลา ซึ่งแม้หล่อนจะพยายามปฏิเสธแค่ไหน แต่เขาก็ไม่ยอมรับฟังเลยเขามอบโทษทัณฑ์ร้ายกาจ ขยี้ศักดิ์ศรีของหล่อนจนแหลกลาญคาฝ่าเท้าใหญ่และตอนนี้เขาหายตัวไป...หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายน้
“ไม่ได้ ฉันต้องการเธอ” น้ำเสียงเขาจริงจังหนักแน่น “และก็ต้องการเดี๋ยวนี้ด้วย”หล่อนยังไม่ทันได้ปฏิเสธ เขาก็กระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนกายสาวเปลือยเปล่าแทบจะหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันกับแผงอกกว้างแข็งแกร่ง ปากอิ่มที่กำลังเผยอทัดทานถูกครอบครอง“อื้อ... อุ๊บบบ...”มือเล็กผลักไส ขัดขืน ไม่ให้ความร่วมมือกับจุมพิตหิวกระหายของคนใจร้าย แต่ทันทีที่ลิ้นร้อนบุกรุกเข้ามาในโพรงปาก สติของหล่อนก็ถูกกวาดต้อนหายไป เหลือเอาไว้แต่เพียงความรุ่มร้อนทางเพศที่แสนบ้าคลั่ง“อืมมม...”ชาร์ลีครางออกมาด้วยความพึงพอใจ เมื่อสาวน้อยจูบตอบอย่างไร้เดียงสา รสจูบของเขาทั้งตะกละทั้งตะกรุมตะกราม บดขยี้บดคลึงดูดเคล้าจนปากสาวบวมเจ่อมากยิ่งขึ้น ลิ้นใหญ่ปลุกเร้าหิวกระหาย ฝ่ามือกระด้างลูบไล้บี้คลึงไปทั่วเรือนกายสลักเสลา แสดงความเป็นเจ้าของในทุกสัมผัสสวาทสาวน้อยโอนอ่อนผ่อนตามด้วยความลุ่มหลง มนตร์สวาทที่ชาร์ลีร่ายเข้าใส่ช่างทรงอานุภาพร้อนแรงเหลือเกิน“อา... อ๊า...”ปลายจมูกโด่งซุกไซ้กับซอกคอระหง ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาคลุกเคล้าที่กลางหว่างอกอวบอัดที่มือใหญ่ขยำขยี้โหมโรงอยู่ก่อนหน้านานแล้ว“ใหญ่... ฉันชอบ... อืมมม...”เขาทั้งบีบทั้งเคล
บั้นเอวของชาร์ลีทรงพลังเหลือเกิน มันทั้งกระหน่ำ ทั้งสอดส่ายซอยกระชั้น จังหวะสวาทดุดันรัวระทึก เสียงเนื้อปะทะกันดังกังวานประสานกับเสียงครางสวาท“อืมมม แน่นมาก... ช้องนาง... เธอแน่นเหลือเกิน... อืมมม โอ้ววววว...”จังหวะสอดเสียบของเขารุนแรงรัวระทึกผลักดันให้หล่อนก้าวเท้าไปหยุดที่ริมหน้าผาสูง และทันทีที่เขากระแทกเข้าใส่อีกครั้ง ร่างสาวก็ร่วงหล่นลงไปในเหวที่เต็มไปด้วยความเสียวสุขหล่อนเกร็งสะท้านยะเยือก ปีกของผีเสื้อมากมายกระพือพลิ้วอยู่ในช่องท้อง โลกสีหม่นตอนนี้กลายเป็นสีชมพูหวาน มือเล็กกำขอบอ่างน้ำเอาไว้แน่นบั้นท้ายอวบที่สั่นสะท้านบอกให้ชาร์ลีรู้ว่าช้องนางวิ่งเข้าเส้นชัยสวาทนำหน้าไปแล้ว เขาครางลั่น และก็เดินหน้าซัดความหื่นกระหายบ้าคลั่งเข้าใส่ระลอกแล้วระลอกเล่า อัดกระทุ้งเต็มแรง ต่อสู้กับความคับแน่นตอดขมิบของกลีบเนื้ออ่อนอย่างสุดกำลังเขาอยากจะยื้อเวลาแห่งความสุขออกไปให้นานกว่านี้... เขายังไม่ต้องการหลั่งน้ำกามออกมาตอนนี้ แต่กลีบสาวที่โอบกระชับรัดรึงท่อนแก่นชายในทุกทิศทางมันช่างมีอานุภาพทำลายล้างสูงเหลือเกิน เพราะเพียงแค่เขาเคลื่อนไหวความเป็นชายในความคับแน่นอีกเพียงไม่กี่ครั้ง สวรรค์ชั้
นี่เขาเข้าใจช้องนางผิดไปคนละทิศละทางเลยหรือนี่...ชาร์ลีเดินมาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำ ดวงตาสีอำพันตอนนี้เต็มไปด้วยความละอายใจเขาน่าจะคิดทบทวนให้รอบคอบ ไม่น่าจะปรักปรำช้องนางแบบเมื่อคืนเลย แถมไม่ได้แค่ปรักปรำอย่างเดียว แต่เขายังปลุกปล้ำหล่อนอีกด้วย“บ้าฉิบ!”มือใหญ่สีขาวสะอาดยกขึ้นลูบหน้าแรงๆ หลายครั้งด้วยความเคร่งเครียดแล้วนี่เขาควรจะทำยังไงต่อไปดี...ชายหนุ่มถอนใจออกมาแรงๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะตัดสินใจว่าควรจะบอกความจริงกับช้องนาง และขอโทษหญิงสาวซะ จากนั้นก็เริ่มต้นชีวิตใหม่กับหล่อนแม้หัวใจจะยังไม่ลืมรักของไลลา แต่อีกความรู้สึกโหยหาบ้าคลั่งที่เกิดขึ้นจากผู้หญิงอีกคนก็รุนแรงเหลือเกิน รุนแรงจนยากจะต้านทานความรู้สึกยามที่มียอดอกของหล่อนอยู่ในอุ้งปาก ยามที่เม็ดเต่งมันแข็งชันสู้ลิ้นสู้ฟัน มันทำให้เขาร้อนฉ่าราวกับถูกไฟสุม ยิ่งกว่าที่ถูกบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก เขาก็ยิ่งอับจนหนทางที่จะต่อกรลมหายใจถูกเป่าออกจากริมฝีปากหยักสวยราวกับอิสตรีของชาร์ลีแรงๆ อีกสามครั้งติด ก่อนที่เขาจะหยัดกายลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะไปหาช้องนาง แต่เจ้าหล่อนดันเดินมาทางนี้พอดีเมื่อดวงตาสบประสานกัน แววต
“นี่คุณ... มองฉันเป็นทรัพย์สินอย่างนั้นเหรอคะ”“หรือว่าไม่ใช่กันล่ะ” เขายิ้มเยาะช้องนางหน้าแดงก่ำเมื่อถูกเขาขยี้ศักดิ์ศรีจนแทบสลายคาอุ้งมือ“คุณมันคนร้ายกาจ!”“เรียกฉันว่าพ่อมดก็ได้นะ เพราะฉันเป็นอย่างนั้นจริงๆ”ดูสิ เขาหัวเราะชอบอกชอบใจ ไม่สะทกสะท้านกับคำต่อว่าของหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว“กี่ครั้งคะ ฉันถึงได้จะอิสระ”หล่อนต้องใช้ความพยายามมากมายกว่าจะสามารถเค้นเสียงถามออกไปได้เขาไหวไหล่กว้างน้อยๆ ท่าทางน่าฟาดปากด้วยฝ่ามือให้เลือดกบเป็นที่สุด“ก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะทำงานบ่อยแค่ไหน ยิ่งบ่อยก็ยิ่งหมดหนี้หมดสินเร็ว”หล่อนกำมือแน่นด้วยความโมโห น้ำตาแห่งความขุ่นเคืองไหลรินอาบแก้ม“ฉัน... เกลียดคุณ คนไม่มีหัวใจ”“จ้ะ ตามสบายนะ”เขาไหวไหล่กว้างอีกครั้ง ก่อนจะยกร่างของหล่อนด้วยมือข้างเดียวขึ้นมานั่งบนตัก“ปล่อยนะ อย่าทำแบบนี้นะคะ ปล่อย!”เขาไม่ปล่อย แถมยังรวบเอวของหล่อนแน่น “ตอนนี้อยากทำงานบนบกหรือว่าในน้ำ ช้องนาง...”“คะ?”เขาสบประสานสายตากับหล่อน และบอกความต้องการออกมาอย่างเปิดเผยหล่อนทำได้แค่ส่ายหน้าไปมา และเมื่อหล่อนไม่เลือก เขาก็เป็นคนเลือกเอง“งั้นในน้ำ ฉันอยากรู้ว่าเธอจะเร่าร้อนได้แค่ไ
จนเวลาผ่านมาสามวันสามคืนแล้ว หลังจากเกิดเรื่องในค่ำคืนนั้น ช้องนางก็ยังไม่เข้าใจเลยว่า ชาร์ลีทำแบบนี้กับหล่อนทำไม แล้วทำไมเขายังไม่หยุดเสียทีหล่อนเดินใจลอยเพราะสมองกำลังครุ่นคิดหาคำตอบกับการกระทำที่ผิดแผกไปของชาร์ลี จนกระทั่งเจอคนที่วนเวียนอยู่ในสมองตลอดเวลากระโดดมาหยุดตรงหน้า“เอ่อ...”หล่อนชะงักเท้า และก็ตั้งท่าจะเดินหนี แต่ก็ถูกพ่อคนเอวสปริงรวบเข้าไปกอดรัด“ลุกหนีฉันมาทำไม”“ก็... ฉันตื่นแล้วนี่คะ”“แทนตัวเองว่า ‘นาง’ กับฉันเถอะ น่ารักดี”“อย่าเลยค่ะ”เมื่อได้ยินคำปฏิเสธของหล่อน เขาก็เลิกคิ้วสูง และทำหน้ายู่ไม่สบอารมณ์“ทำไมล่ะ”“ก็... เราไม่ได้สนิทกันมากนี่คะ”มือใหญ่ยกขึ้นโอบประคองดวงหน้างามเอาไว้ ก่อนที่เขาจะย่นจมูกใส่“เราเอากันเกือบทุกท่าอยู่แล้ว ยังไม่เรียกว่าสนิทกันอีกหรือ”พวงแก้มนวลแดงจัดขึ้นมาทันตา และก็พยายามจะหนี แต่เขาตรึงเอาไว้ทุกทาง“ไหนบอกมาสิว่าฉันต้องทำยังไง เธอถึงจะยอมรับว่าเราสนิทสนมกัน หรือว่าฉันต้องเอาเธอตรงนี้ก่อน”“มะ... ไม่ใช่นะคะ” หล่อนรีบละล่ำละลักปฏิเสธ “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย”“เอาอีกแล้ว บอกให้แทนตัวเองว่า ‘นาง’ ไงล่ะ ดื้อแบบนี้ สงสัยจะต้
หลังจากที่ชาร์ลีแย่งหน้าที่ของคนขับรถสูงวัยมาแล้วก็พาหล่อนออกไปช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าหรูหรา พร้อมกับแปลงกายเป็นพ่อบุญทุ่มพร้อมเปย์เสื้อผ้านับสิบชุด เครื่องประดับอีกหลายชิ้น ล้วนแต่เป็นสิ่งของที่เขายัดเยียดมาให้ทั้งหมด พอหล่อนปฏิเสธเขาก็ชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมจนหล่อนจำใจยอม“ทางนี้ไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่คะ”หล่อนเอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ เมื่อทางกลับบ้านมันแตกต่างไปจากตอนขามาชาร์ลีหันมาโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ให้กับหล่อน“ก็ไม่ใช่น่ะสิ”“เอ่อ... แล้วคุณจะพา... ฉันไปไหนเหรอคะ หรือว่าคุณมีธุระอื่น ถ้าใช่... ให้ฉันลงข้างทางก็ได้นะคะ เดี๋ยวฉันหาทางกลับบ้านเองค่ะ”ดวงตาสีอำพันของเขาละจากถนนกว้างอีกครั้ง มองหล่อนด้วยความขบขัน“โง่ๆ อย่างเธอกลับบ้านเองถูกหรือ อย่าอวดเก่งนักเลย”“ก็ฉันไม่อยากเป็นภาระหรือตัวถ่วงของคุณนี่คะ”ช้องนางรู้สึกไม่สบายใจนัก และก็ไม่ได้โกรธเลยที่เขาบอกว่าโง่ เพราะหากเทียบกับเขาแล้ว หล่อนโง่จริงๆ นั่นแหละ“ฉันจะพาเธอไปธนาคารด้วย”“เอ่อ... อย่าเลยค่ะ”“ทำไมล่ะ หรือว่ากลัวเห็นเงินเยอะแล้วใจจะสั่น”ดูเขาเถอะ ยังจะมีคิดแบบนี้กับหล่อนอีก“ที่ธนาคารคนเยอะ ฉันไม่อยากทำอะไรให้คุณ
ช้องนางที่ยืนทอดสายตามองออกไปยังสวนสวยผ่านระเบียงห้องนอนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อถูกอ้อมแขนอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยสวมกอดเข้ามาทางด้านหลัง“อุ้ยยย คุณชาร์ล...”คนตัวโตที่เพิ่งกลับจากทำงานระดมจูบซอกคอระหง “คิดถึงจังเลยครับที่รัก...”“แหม เราเพิ่งห่างกันแค่แปดชั่วโมงเองนะคะ”“แค่ชั่วโมงเดียว ผมก็จะขาดใจตายอยู่แล้วล่ะ”ร่างของหล่อนถูกจับให้หมุนกลับมาเผชิญหน้ากับสามีสุดหล่อ เขาโน้มหน้าลงมาจูบหน้าผากแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนเลยลงมาจูบปากอิ่ม สาวน้อยเผยอปากรับจูบตอบ“แอบไปกินน้ำผึ้งมาหรือเปล่าเนี่ย ทำไมปากหวานจัง”“คุณชาร์ลน่ะ...”หล่อนระบายยิ้มเอียงอาย สองพวงแก้มแดงระเรื่อ หัวใจพองฟูคับแน่นอก ตั้งแต่กลับมาเลแวนต้าอีกครั้ง ชีวิตของหล่อนก็เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียวชาร์ลีรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้เอาไว้กับหล่อนตอนที่ตามไปง้อที่เมืองไทยเป็นอย่างดี เขาปฎิบัติตัวกับหล่อนด้วยความรัก เอาใจใส่ และทำหน้าที่ของสามีที่ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แถมคำว่ารักจากปากของเขาก็ยังกระซิบพร่ำบอกข้างหูทุกค่ำคืนหล่อนมีความสุข... จนไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่กำลังได้รับอยู่มันคือความจริง“คิดถึงผมไหม...” เขาก้มหน้าหล่อๆ ล
บนเตียงนอนของหล่อนยุ่งเหยิงยับเยิน เมื่อสองร่างเปลือยเปล่ากำลังคลุกเคล้าโรมรันกันอย่างดุเดือด กายสาวบิดเร่าๆ เมื่อถูกชาร์ลีปลุกเร้าจนร้อนราวกับเปลวเพลิงเขาจูบ เขาดูดปาก ล้วงลิ้นร้อนๆ เข้ามาหา รัดรึงลิ้นเล็กอย่างหื่นกระหาย ส่วนฝ่ามือก็ลูบไล้บีบเคล้นเต้านมหนักหน่วง กายสาวดิ้นเร่าๆ ด้วยความเสียดเสียวทรมาน เสี้ยวสติหนึ่งพยายามจะต่อต้าน แต่ก็ถูกปัดเป่าจนจางหาย ตอนนี้ในหัวของหล่อนมีแต่ความว่างเปล่า“อา... อ๊า...”หล่อนหยัดหน้าอกอวบขึ้นสูงตอบรับนิ้วยาวที่กำลังบี้บดอยู่กับปลายถัน เขาเอาทั้งสองมือดึงยอดทรวงเอาไว้ สนุกสนานกับการเห็นมันค่อยๆ แข็งเป็นไตสู้นิ้วมือ“อา... อา... คุณชาร์ลขา... อ๊า...”รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าหล่อเหลา ยิ่งเห็นหล่อนดิ้นพล่านด้วยความกระสัน เขาก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักนิ้วและฝ่ามือที่คุกคามเต้าอวบยิ่งขึ้น“ได้โปรด... คุณชาร์ลขา... อา...” หล่อนวิงวอนเขาทั้งทางร่างกายและสายตา“รู้ไหม... เธอเป็นผู้หญิงที่น่าเสพสุขด้วยเหลือเกิน ช้องนาง...”หล่อนไม่เข้าใจความหมายของเขานัก เพราะตอนนี้สมองว่างเปล่า สิ่งเดียวที่รับรู้ได้ก็คือสัมผัสสวาทจากผู้ชายบนร่างเท่านั้น“ได้โปรด... นางร้อน..
“พ่อรอนางนานไหม...” หางเสียงของหล่อนจางหายวับไปทันตา เมื่อสายตามองเห็นว่าบิดาไม่ได้อยู่ตามลำพัง แต่กำลังนั่งคุยอยู่กับชาร์ลีอย่างออกรสออกชาติหล่อนหน้าซีดเผือด รู้สึกเหมือนกับว่าพื้นดินใต้ฝ่าเท้ากำลังจะเคลื่อนตัวออกจากกัน“พ่อคะ อย่าไปคุยกับเขาค่ะ”“อ้าว ทำไมพูดถึงสามีตัวเองแบบนี้ล่ะนาง”คำถามของบิดา ทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง หล่อนจ้องมองชาร์ลีที่นั่งกอดอกยิ้มร่าด้วยความไม่พอใจเขาไม่ควรดึงพ่อของหล่อนเข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญ เขาควรจะกลับไปเลแวนต้าได้แล้ว“คุณชาร์ลไม่ใช่สามีของนางหรอกค่ะพ่อ เราเป็นแค่...”ชาร์ลีไม่คิดจะรอให้หล่อนพูดจบ เขาลุกขึ้น และเดินเข้ามารั้งร่างสาวเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเกิดขึ้นเร็วมากจนหล่อนต่อต้านไม่ทันร่างสาวถลาเข้าสู่อ้อมแขนอบอุ่นไม่ต่างจากลูกนกโผเข้าสู่อ้อมอกของมารดาเลย“ฉันรู้หรอกว่าทำให้เธอเข้าใจผิด แต่ก็อธิบายไปแล้วนี่ว่าฉันมีแต่เธอคนเดียว ไม่มีใครทั้งนั้น ทำไมยังไม่เลิกงอนอีกล่ะ”แล้วเขาก็ก้มลงจูบกระหม่อมของหล่อน โดยที่หล่อนทำได้แค่ยืนตัวแข็งทื่อ“ก็อย่างที่ผมเล่าให้คุณพ่อฟังนั่นแหละครับ ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะรักลูกสาวของคุณพ่อหรอกครับ แต่พ
“อ้าว คุณชาร์ลี มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย”เกสราได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็ออกมาดู แล้วก็เห็นชาร์ลียืนอยู่กลางห้องโถงของบ้าน สีหน้ากำลังบูดบึ้งได้ทีเลยทีเดียว“สักพักแล้วล่ะครับ”“แล้วนี่ช้องนางไปไหนล่ะคะ หรือว่าไปยกน้ำมาให้คะ”ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะต้องวิ่งตามหลังผู้หญิงคนไหน แต่ช้องนางทำให้เขาเป็นบ้า“วิ่งหนีผมไปแล้วครับ”“ตายจริง ปกติช้องนางเป็นเด็กมีเหตุผลนี่นา ไม่น่าทำตัวงี่เง่าแบบนี้นะคะ”“เธอทำครับ ทำทุกอย่างที่ผู้หญิงงี่เง่าเจ้าน้ำตาคนหนึ่งจะทำได้เลยทีเดียว และผมก็บ้ามากที่อดทนง้อได้นานถึงขนาดนี้”เกสราอมยิ้ม ก่อนจะเชื้อเชิญให้ชาร์ลีนั่งลงบนโซฟา “ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะคะ ช้องนางน่ะ เป็นเด็กจิตใจดี และมีเหตุผลเสมอค่ะ ถ้าบอกให้เธอเข้าใจ ฉันว่าเธอจะอ่อนลงค่ะ”“แต่ผมก็บอกไปแล้วว่าผมมาตามกลับเลแวนต้า แต่เธอก็ยังงี่เง่าไม่ยอมท่าเดียว”“งั้นคุณชาร์ลีก็ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรช้องนางแล้วล่ะค่ะ ก็หย่าๆ กันไปเลยตามที่เธอต้องการเถอะค่ะ”“ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะครับ”เกสราจ้องหน้าของชายหนุ่มสูงศักดิ์ มองอย่างรอคอยคำตอบ และก็เ
หลังจากร้องไห้มาตลอดทางจนคนขับรถแท็กซี่ต้องหยิบกระดาษทิชชูยื่นมาให้ซับน้ำตา หล่อนก็ก้าวลงจากรถด้วยความอ่อนแรงหลังจากจ่ายค่าโดยสารเสร็จแล้ว“คุณชาร์ลยังต้องการอะไรจากนางอีก... แค่นี้นางยังเจ็บไม่พอหรือไง...”หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายน้ำตาออกจากแก้มนวลหลายครั้งเพราะต้องการให้มันแห้งเหือด หล่อนไม่ต้องการให้คนในบ้านเห็นความอ่อนแอของตนเองช้องนางกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน แต่แล้วเสียงแตรรถยนต์ก็แผดเสียงดังลั่น หล่อนสะดุ้งตกใจจนต้องหันกลับไปมอง และก็เห็นชาร์ลีก้าวลงมาจากรถคนนั้นหล่อนช็อกค้าง สองขาอ่อนเปลี้ยจนก้าวหนีไปไหนไม่ได้ หล่อนเห็นเขาหยิบเงินหลายใบยื่นให้กับมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขับนำหน้ามา ก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาหล่อนหนีสิ...หล่อนสั่งตัวเอง แต่ขาไม่ยอมขยับ จนกระทั่งเขาก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้า กลิ่นอายอันตรายของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก หน้างามซีดเผือดไร้สีเลือด“คุณชาร์ล...”เขาโน้มหน้าต่ำลงมาหา และกระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่ข้างใบหูของหล่อน“เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก ช้องนาง”หล่อนตัวสั่นเทา หัวใจก็สั่นสะท้าน ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนใจร้าย มองอย่างอยากรู้ว่าเขาจะทำร้ายกันไม่พอหรือไง ถึงไม่สนใจตอบค
“พอนางมีรายได้แล้ว นางจะ... ผ่อนใช้หนี้คุณชาร์ลค่ะ”“ฉันไม่ได้ต้องการเงินขี้ปะติ๋วของเธอหรอก เพราะกว่าเธอจะใช้หนี้สินที่อาของเธอเอาจากท่านแม่ของฉันครบ ฉันก็ขึ้นไปนอนเล่นบนสวรรค์ไม่รู้กี่ปีแล้วมั้ง” เขาประชดประชันด้วยน้ำเสียงดุกระด้างน่าหวาดกลัว“งั้นนางจะหัดซื้อลอตเตอรี่ก็แล้วกันค่ะ”คนที่ขับรถอยู่หันขวับมามองด้วยความแปลกใจ “ทำไมต้องซื้อลอตเตอรี่ด้วย ชอบเสี่ยงโชคด้วยหรือเธอน่ะ”“เปล่าค่ะ นางไม่ได้ชอบเสี่ยงโชค แต่นางต้องการถูกรางวัลที่หนึ่ง เพื่อที่จะได้มีเงินไปใช้หนี้คุณชาร์ลไงคะ”นี่เขาหัวเราะทำไมกันนะ หล่อนพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอหล่อนช้อนตาขึ้นมองเขา ก็พบว่าเขาหัวเราะจนหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว ก่อนจะละสายตาจากท้องถนนมามองหล่อน“ทำไมเธอละโมบแบบนี้ล่ะ เธอถูกรางวัลที่หนึ่งมาแล้วครั้งหนึ่ง ควรจะให้คนอื่นเขาบ้าง อย่าใจแคบนักเลย”“นางไม่เคยซื้อลอตเตอรี่มาก่อนเลยในชีวิต แล้วนางจะถูกรางวัลที่หนึ่งได้ยังไงกันคะ”“ก็ฉันไงล่ะ ลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งของเธอ”เขาอมยิ้มแพรวพราว และเมื่อเห็นเครื่องหมายคำถามบนใบหน้าของหล่อนจึงอธิบายต่อ“การที่เธอได้ฉันเป็นสามีก็ไม่ต่างจากการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หน
“ได้สิ แต่ว่ารอพี่กอล์ฟก่อนดีไหม”“รายนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก ถ้าได้ไปเดินคนเดียวน่ะ เดินเพลินไม่เรียกไม่กลับน่ะ”“งั้นก็ได้จ้ะ”ฟ้าใสอมยิ้ม ก่อนจะเดินนำหน้าไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตนเองโปรดปราน“ร้านนี้นะ ฉันเคยกินแล้วอร่อยมาก”“ได้สิ”ช้องนางเดินตามร่างของฟ้าใสเข้าไปในร้านอาหารญี่ปุ่น ความรู้สึกของหล่อนยังคงมึนอึน และไม่สดใส“เฮ้ยนั่นมัน...”หล่อนกับฟ้าใสเดินเกือบจะถึงโต๊ะว่างอยู่แล้ว แต่ฟ้าใสก็หยุดเดินเสียก่อน พร้อมกับหันมากระซิบกระซาบเบาๆ“ผู้ชายคนนั้นไง... นั่นน่ะ โต๊ะนั่นน่ะ”หล่อนมองไปตามสายตาพยักพเยิดของฟ้าใส แต่ก็ไม่เห็นใครน่าสนใจเลย“ใครเหรอฟ้า”“ก็ผู้ชายที่ฉันบอกว่าหล่อวัวตายควายล้มไงล่ะ”หล่อนยังคงมองไม่เห็น และไม่รู้ว่าคนไหน“คนนั้นน่ะ ที่ยกเมนูขึ้นดูอยู่น่ะ”“เอาเมนูบังหน้าไว้ขนาดนั้น เธอยังจำได้อีกเหรอฟ้า” ช้องนางอดที่จะแซวเพื่อนไม่ได้“ก็ตอนที่ฉันเห็น เขาไม่ได้เอาเมนูปิดหน้านี่นา นี่ๆ ไปนั่งโต๊ะว่างข้างๆ เขากัน”“อย่าเลยฟ้า... นางว่า...”ฟ้าใสไม่สนใจคำทัดทานของหล่อน เพราะเดินเข้าไปนั่งโต๊ะติดกับผู้ชายคนนั้นทันที หล่อนจำต้องเดินตามไปอย่างไม่มีทางเลือก“นั่งๆ”ฟ้าใสเจ
สามวันต่อมา... ชีวิตของช้องนางก็ไม่ต่างจากหุ่นยนต์ เมื่อร่างกายของหล่อนไร้หัวใจเสียแล้ว ทุกๆ นาที ในหัวของหล่อนจะคิดถึงชาร์ลี และมันก็วน มันก็เวียนอยู่แบบนี้ จนหล่อนรู้สึกปวดร้าวราวจนแทบอยากจะหยุดหายใจหล่อนรู้ดีว่าการลืมรักมันยากเย็นแค่ไหน หากพยายามเวลาจะช่วยเยียวยารักษาแผลใจให้เอง แต่สำหรับหล่อนแล้ว เวลาก็ช่วยอะไรไม่ได้หลังมือเล็กยกขึ้นป้ายหยาดน้ำตาทิ้ง เมื่อเห็นเกสราเดินเข้ามาหา“สวัสดีค่ะอาเกส”“จะออกไปไหนแต่เช้าเลยล่ะช้องนาง”“นาง... จะออกไปซื้ออาหารสดที่ห้างแถวนี้น่ะค่ะ” หล่อนพยายามปั้นเสียงตอบให้ปกติที่สุด“ทำไมไม่ให้แม่บ้านไปซื้อล่ะ ไม่เห็นต้องลำบากเลย”“นางอยากมีอะไรทำน่ะค่ะ อยู่เฉยๆ นางรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์เอามากๆ”เกสรายกมือขึ้นแตะท่อนแขนกลมกลึงของหลานสาวอย่างเข้าใจความรู้สึกที่เจ้าตัวกำลังพยายามเก็บซ่อนเอาไว้“งั้นก็ไปเถอะ จะได้ไม่ต้องคิดมาก”หล่อนฝืนยิ้มให้กับเกสรา ก่อนจะก้าวขึ้นรถ และขับออกไปในที่สุดเกสรามองตามท้ายรถของหลานสาวไปด้วยความเป็นกังวลไม่น้อย ก่อนจะสะดุ้ง เมื่อเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือกรีดร้องขึ้นเบอร์ที่โชว์หน้าจอโทรศัพท์ไม่คุ้นตาเลย ทำให้เกสราอดที่
ช้องนางจ่ายเงินค่าโดยสารให้กับรถแท็กซี่ ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาภายในบ้านหล่อนยิ้มออกมาทั้งน้ำตาด้วยความคิดถึง ที่นี่ยังเหมือนเดิม ยังเป็นบ้านของหล่อนเหมือนเดิมหล่อนยืนอยู่กลางห้องโถง มองดูความสะอาดสะอ้านของข้าวของเครื่องใช้ด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นด้านหลัง“นาง...”เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นบิดา...บิดาที่เคยติดเหล้างอมแงมจนขาดสติ แต่ตอนนี้กลับเดินเหินได้ และใบหน้าสดชื่นขึ้นหล่อนปล่อยกระเป๋าเดินทางออกจากมือ และวิ่งเข้าไปสวมกอดบิดา กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เป็นเอกลักษณ์ติดตัวของท่านไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว“นางคิดถึงพ่อจังค่ะ”“พ่อก็คิดถึงลูกเหมือนกัน”หล่อนเดินกอดแขนบิดาไปนั่งบนโซฟา มองท่านซ้ำไปซ้ำมาด้วยความดีใจ“พ่อเปลี่ยนไปมากเลยค่ะ นางดีใจจัง”“ก็ได้อาเกสของลูกนั่นแหละที่ช่วยเหลือพาพ่อไปบำบัด นี่คุณหมอก็เพิ่งให้พ่อกลับมาพักฟื้นต่อที่บ้านเมื่อวานเองนะ ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอลูก”เกสราทำตามที่รับปากกับหล่อนเอาไว้จริงๆ ช้องนางน้ำตาไหลด้วยความดีใจ“ว่าแต่ลูกเถอะนาง... เป็นยังไงบ้าง พ่อขอโทษนะที่ป่วยจนไม่สามารถเดินทางไปร่วมงานแต่งงานของลูกได้”“พ่อ