ลูน่าเมินโจชัวไปเสียเฉย ๆคนที่เธอไม่อยากเห็นหน้าที่สุดในตอนนี้ก็คือโจชัวเธอเดินผ่านโซฟา มุ่งหน้าไปที่ห้องครัวเพื่อรินน้ำใส่แก้วให้ตัวเอง“รินให้ฉันด้วยแก้วหนึ่งสิ” น้ำเสียงทุ้มต่ำของโจชัวดังแว่วมาจากห้องนั่งเล่นลูน่ากลอกตามองบนและแอบก่นด่าเขาอยู่ในใจ แต่เธอก็ยังรินน้ำใส่แก้วให้เขาก่อนนำมาวางที่โต๊ะกาแฟเธอไม่ลืมว่าตัวเองในตอนนี้เป็นแค่แม่บ้าน ส่วนเขาเป็นคุณผู้ชายการที่คนรับใช้ถือน้ำมาให้เจ้านายก็เป็นเรื่องปกติที่เขาทำกันทั้งโลก“เธอร้องไห้ทำไม?”เมื่อหญิงสาวนำแก้วน้ำมาวางบนโต๊ะกาแฟ โจชัวก็เคาะขี้เถ้าบุหรี่ลงบนที่เขี่ยอย่างนิ่มนวลนัยน์ตาลุ่มลึกของเขาจับจ้องที่ใบหน้าของเธอไม่วางตาคล้ายพยายามอ่านใจลูน่าสูดลมหายใจเข้า เมื่อวางแก้วลงแล้ว เธอก็ลุกขึ้นยืนทันที “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันก็แค่อยากจะร้องไห้เฉย ๆ”เธอมองโจชัวด้วยความยำเกรง “คุณลินช์คะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวขึ้นข้างบนก่อนนะคะ”จากนั้น เธอก็หันหลังเตรียมเดินจากไปแต่ในจังหวะที่กำลังจะเดินผ่านโจชัว เขากลับยื่นแขนออกมาดึงเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขากลิ่นแอลกอฮอล์ของโจชัวลอยเข้ามาในจมูก“นี่เธอเสียใจเพราะเรื่องออร่าเหรอ
โจชัวที่เมาไม่ได้สติปริปากเล่าเรื่องราวที่พวกเขาทั้งสองพบกัน ถ้อยคำจากใจจริงของเขานั้นกลับกลายเป็นเพียงคำพูดหลอกลวงสำหรับลูน่าเขาไม่รู้หรอกว่าครั้งแรกที่เธอกับเขาพบกันไม่ใช่ที่ใต้ต้นซากุระ แต่เป็นตอนที่เขาประสบอุบัติเหตุต่างหากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน โจชัวประสบอุบัติเหตุอย่างแสนสาหัส ตอนที่เขาถูกรถชนและถูกปล่อยทิ้งไว้ข้างถนน ลูน่าเองที่เป็นคนช่วยชีวิตเขาและนำตัวส่งโรงพยาบาล เธอดูแลชายหนุ่มตลอดทั้งเดือนในช่วงที่เขายังอยู่ในอาการโคม่าเธอชอบโจชัว แต่ไม่กล้าถึงขั้นตกหลุมรัก หญิงสาวรู้ดีว่าเธอธรรมดาเกินไป และไม่ได้มีค่าสำหรับผู้ชายระดับเขา ดังนั้น เมื่อโจชัวกลับมารู้สึกตัว เธอจึงจากไปแต่โดยดีเริ่มแรก เธอคิดว่าทั้งคู่จะต่างคนต่างลืมกันไปเสียอีก เธอไม่คิดเลยว่าเธอและเขาจะกลับมาเจอกันอีกครั้งในภายหลังวินาทีที่ได้กลับมาพบกัน เธอเชื่อมั่นว่าผู้ชายคนนี้คือส่วนหนึ่งของชีวิต เธอจึงเริ่มตามจีบอีกฝ่ายเหมือนคนเสียสติ ลูน่ารักโจชัวทั้งหมดของหัวใจ จนในที่สุดทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกันในวันวิวาห์ เขาบอกเธออย่างตรงไปตรงมาว่าเขาไม่ได้รักเธอและเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าในอนาคต เขาจะสามารถชอบลูน่าได้หรือไ
คืนนั้นลูน่านอนหลับไม่สนิท เธอเอาแต่ฝันถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เคยเผชิญร่วมกับโจชัว ทั้งเสียงหัวใจสั่นระรัวตอนพบเขาครั้งแรก ทั้งความรู้สึกยินดีเมื่อถ่ายรูปแต่งงานด้วยกัน ทั้งความเร่งรีบฉุกละหุกในวันมงคลสมรส...เธอเฝ้าถามโจชัวในความฝันว่าทำไมทำไม? ทำไมความรักของเธอถึงถูกทำลายลงอย่างไม่มีชิ้นดีเช่นนี้ด้วย?เมื่อตื่นขึ้นมา หมอนของเธอก็ชุ่มไปด้วยคราบน้ำตา กลายเป็นว่า ความเจ็บปวดจากความรักที่คนคนหนึ่งต้องทนทุกข์ทรมานนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำใจ แม้มันจะผ่านไปนานหลายปีแล้วก็ตาม“คุณแม่คะ” เนลลี่ยืนอยู่ข้างเตียงพร้อมกับทิชชู่ในมือ เธอบรรจงเช็ดน้ำตาให้ผู้เป็นแม่ “คุณพ่อทำคุณแม่โกรธอีกแล้วเหรอคะ?”ลูน่าหลับตาลงและสวมกอดเนลลี่ เมื่อได้สัมผัสไออุ่นจากกายของลูกสาว เธอก็รู้สึกมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาทันทีหกปีที่ผ่านมา ลูก ๆ ทั้งสามคือแรงใจที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่มีวันทอดทิ้งลูก ๆ เป็นอันขาด“คุณแม่คะ หยุดร้องเถอะนะ”เนลลี่ลูบเบา ๆ ที่หลังของลูน่าและปลอบโยนว่า “ไม่ว่าจะเป็นยังไง ไนเจล นีล และหนูจะคอยอยู่ข้าง ๆ แม่เองค่ะ อย่าเศร้าเลยนะคะ”ถ้อยคำปลอบประโลมของเนลล
หกปีที่แล้วเธอคือคุณผู้หญิงของบ้าน แต่ก็ไม่เห็นมีใครหน้าไหนเคารพเธออย่างที่ควรจะเป็นลูคัสลังเลไปครู่หนึ่ง “ถูกต้อง”“นั่นมันความคิดของคุณ”ลูน่าหยิบช้อนกับถาดรองจานออกจากตู้กับข้าวก่อนล้างทำความสะอาด“ตลอดทั้งชีวิต ฉันเจอเรื่องเศร้ามากพอแล้ว ฉันไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีก”จากนั้นเธอก็ถือถาดรองเดินผ่านหน้าลูคัสและขึ้นไปที่ชั้นบนลูคัสยืนค้างอยู่ตรงจุดเดิม เมื่อมองร่างเพรียวบางของหญิงสาว แววตาของเขาพลันหม่นหมองถ้าเลือกได้ใครบ้างจะอยากเสียใจ? ถึงอย่างนั้นถ้าตอนนี้เธอเอาชนะออร่าไม่ได้ มันก็จะสายเกินไปหากออร่าได้แต่งงานเข้ามาในตระกูลนี้แล้ว…ที่ห้องนอนใหญ่ลูน่าถือถ้วยเดินเข้ามา ในตอนที่โจชัวกำลังเอนหลังพิงหัวเตียง ขณะที่สายตาจดจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์เขายังมีอาการเมาค้างจากเมื่อคืนอยู่ ชายหนุ่มปวดหัวมากจนไม่อาจลุกออกจากเตียงได้ความคิดของเขาเลือนราง ไม่อาจจดจำได้ว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อลูน่าเข้ามาในห้อง โจชัวก็ขมวดคิ้วพร้อมกับวางมือถือลง เมื่อคิดถึงการกระทำของเขาเมื่อคืนนี้ สีหน้าของหญิงสาวก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาเธอเดินเข้ามาข้างในด้วยท่าทีหมางเมินก่อนยื่นถ้วยซุ
นี่มันผิดปกติ! ซุปถ้วยนี้มีรสชาติเดียวกับที่ลูน่า กิบสันเคยทำ!ย้อนกลับไปตอนที่พวกเขายังอยู่ด้วยกัน ด้วยหน้าที่การงานทำให้เขาต้องออกไปพบปะสังสรรค์เป็นประจำ ทำให้โจชัวมักกลับบ้านมาในสภาพเมาหัวราน้ำอยู่เสมอ และทุกครั้งที่เขาเมาค้าง ลูน่า กิบสันก็จะคอยทำซุปรสชาตินี้ให้เขาทานแก้แฮงค์เธอชอบใส่เครื่องเทศชนิดพิเศษลงไปในน้ำซุปเพื่อให้รสชาติมีเอกลักษณ์ โจชัวไม่ได้ลิ้มรสซุปฝีมือเธอมานานถึงหกปีแล้วทว่า ตอนนี้ซุปของลูน่าคนนั้นกลับมีรสชาติเดียวกับของลูน่า กิบสันไม่มีผิดเพี้ยน!โจชัวไม่คิดถึงเรื่องอะไรอื่นอีก เขาก้าวลงจากเตียงและรีบวิ่งลงไปชั้นล่างทันทีภายในห้องครัว ลูน่ากำลังทำข้าวโอ๊ตให้เนลลี่อยู่พอดี เธอมัวยุ่งอยู่กับงานตรงหน้าจนไม่ทันได้ยินเสียงฝีเท้าอันร้อนรนจากทางด้านหลังกว่าจะรู้ตัวว่าโจชัวเดินเข้ามา เขาก็ยืนอยู่ข้างหลังแล้วโจชัวพลิกตัวเธอให้หันมาก่อนใช้ฝ่ามือหนาจับที่กรามของหญิงสาวเอาไว้ ดวงตาคมประดุจนัยน์ตาเหยี่ยวจับจ้องมาที่ลูน่าอย่างดุร้าย “ใครสอนเธอทำซุปนี้?”ลูน่าตกใจกับการจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว เธอดิ้นรนขัดขืนโดยสัญชาตญาณ แต่เขากลับบีบกรามของเธอแน่นขึ้นไปอีกสุดท้าย เธอจึ
ลูน่าหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นและส่ายหัวขณะที่เธอเลิกใส่ใจความคิดบ้า ๆ พวกนั้นอย่างโจชัวน่ะหรือจะโดดเดี่ยว เธอต่างหากที่โดดเดี่ยวตลอดหลายปีมานี้หญิงสาวหันกลับไปทำข้าวโอ๊ตให้เนลลี่ต่อในเวลานั้น เธอบังเอิญเห็นภาพของตัวเองที่สะท้อนอยู่หน้าเตา ในเสี้ยววินาทีนั้น เธอมองเห็นใบหน้าที่ดูงดงามไม่เหมือนใครของเธอ มันสวยจนแทบมองไม่เห็นข้อบกพร่องใด ๆ แต่เธอก็ไม่อาจเข้าถึงความสุขได้อยู่ดี…สองวันถัดมา ลูน่าตั้งใจหลีกเลี่ยงที่จะปรากฏตัวต่อหน้าโจชัว อย่างแรกเป็นเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นที่ทำให้เธอหมดแรงแสร้งทำตัวเป็นมิตรกับเขา อีกอย่างก็คือ โจชัวเริ่มสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับลูน่า กิบสันแล้ว หญิงสาวจึงพยายามสุดฤทธิ์เพื่อทำตัวเป็นคนไร้ตัวตนเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องสนใจเธอทว่าทุกคนในบลูเบย์วิลล่าต่างพากันสังเกตเห็นว่าลูน่าจงใจตีตัวออกห่างจากโจชัวแม่บ้านผู้มากด้วยวัยวุฒิบางคนถึงกับต่อว่าเธอ “ลูน่า หัดเจียมกะลาหัวซะบ้าง เธอเป็นขี้ข้าและมีหน้าที่รับใช้คุณลินช์ เลิกทำหน้าตาก้าวร้าวแบบนั้นสักที”“เธอจะถูกไล่ออกง่าย ๆ ถ้าขืนยังทำตัวแบบนี้ ฉันทำงานที่บลูเบย์วิลล่ามาตั้งนมนาน ไม่ยักเจอคนใช้ที่ไห
เมื่อลูน่าเคาะประตูและเดินเข้ามาพร้อมชาร้อน โจชัวก็กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่เมื่อเห็นลูน่าเข้ามา โจชัวก็กวาดสายตามองเธออย่างเย็นชาพร้อมกับตำหนิพนักงานของเขาต่อไปด้วย “นี่คุณทำงานมาตั้งกี่ปี? ยังต้องให้สอนเรื่องการเคารพผู้บังคับบัญชาขั้นพื้นฐานอีกเหรอ? คุณอารมณ์ไม่ดีแล้วยังไง? ในฐานะเจ้านาย ผมต้องแคร์ความรู้สึกคุณด้วยไหม? ถ้ามีครั้งหน้าอีกละก็ เตรียมโดนไล่ออกได้เลย!”ลูน่ายิ้มบาง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นที่มองเผิน ๆ อาจดูเหมือนโจชัวกำลังต่อว่าพนักงานของเขา แต่แท้จริงแล้วเขากำลังบอกเธอทางอ้อมต่างหากนี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เขาสั่งเธอให้นำเครื่องดื่มมาให้ ตั้งแต่กาแฟจนถึงน้ำชา ลูน่ารู้ดีว่าเขาไม่จำเป็นต้องดื่มอะไรมากขนาดนั้นระหว่างทำงานตอนดึก เหตุผลเดียวที่เป็นไปได้ก็คือ เขารู้สึกรำคาญใจที่ถูกเธอมองข้ามและทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนโจชัวอยู่ในตำแหน่งสูงส่งและยิ่งใหญ่มาโดยตลอด เขาคือชายที่ใคร ๆ ก็ต้องให้ความเคารพยำเกรงชายหนุ่มคงรู้สึกแย่น่าดูเมื่ออยู่ดี ๆ ก็ถูกเธอเมินใส่ นี่ไม่ใช่เพราะโจชัวใส่ใจอะไรเธอหรอก แต่เป็นเพราะอีโก้ของเขากำลังตอบสนองต่างหากลูน่าวางแก้วชาลง หันหลังกลับ และเดิ
“ไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งนาน ก็ต้องคิดถึงสิ คิดถึงมาก ๆ เลยด้วย”“รักอยู่แล้ว คิดอะไรอยู่จ๊ะ?”“ก็ได้ ก็ได้ หยุดงอแงได้แล้วนะ เดี๋ยวเจอกันคราวหน้า จะทำคุกกี้สูตรพิเศษให้ โอเคไหม?”“อื้ม จะทำให้กินคนเดียวเลย ไม่แบ่งให้ใครได้กินหรอก”…โจชัวขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจจนหน้าเหยเก น้ำเสียงกระหนุงกระหนิงของเธอดังลอยมาตามอากาศ อีกทั้งคำพูดคำจาที่ใช้ก็ฟังดูสนิทสนมคุ้นเคยเธอคุยโทรศัพท์กับใคร? กับผู้ชายคนอื่นเหรอ?ไม่แปลกใจเลยที่เธอเย็นชาใส่เขา แถมไม่อยากคุยด้วยสักคำดูเหมือนว่าเธอจะเปลี่ยนเป้าหมายไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้ที่เคยคิดไม่ซื่อกับเขาเปลี่ยนเป้าหมายใหม่แล้ว เขาควรดีใจสิแต่โจชัวกลับงงว่าเพราะเหตุใดเขาถึงไม่พอใจ ไม่ใช่แค่นั้น เขายังแอบโกรธนิด ๆ ด้วยซ้ำผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดลูน่าก็วางสาย เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกนีลจอมกะล่อนอาศัยอยู่ที่บ้านของแอนน์อย่างสุขสบาย บางครั้งหนุ่มน้อยดูแลแอนน์รวมถึงทำอาหารให้เธอด้วย แต่เขาก็ยังยืนกรานจะโทรบอกผู้เป็นแม่ว่าตัวเองรู้สึกเหงาหงอยและคิดถึงลูน่ามากเพียงใด เขายังขอให้เธอสัญญาว่าจะทำคุกกี้ให้ทานอีกด้วย เพราะอย่างนั้นลูน่าจึงต้องปลอบลูกชายอยู่นานทีเดียวท
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ