แม้ว่าเธอจะกลายเป็นคนที่เขาไม่ชอบเลยแม้แต่นิดเดียว แต่เขาก็ไม่สามารถละทิ้งและเดินจากเธอไปได้นี่เป็นความรับผิดชอบของเขาในฐานะสามีและพ่อแต่เขาก็ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ “ผมจำได้ว่าคุณกับเกว็นเป็นเพื่อนข้างโต๊ะเรียนและเป็นเพื่อนสนิทกันตลอดสามปีสมัยเรียมัธยมปลาย ตอนนี้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเธอ ผมคิดว่าคุณน่าจะมีปฏิกิริยาเช่นเดียวกับลูน่านะ”อลิซหยุดชะงักอย่างรุนแรงวินาทีต่อมา เธอก็หันกลับมามองปุ่มต่าง ๆ บนลิฟต์ “เราไม่ใช่เพื่อนกันจริง ๆ สักหน่อย เป็นแค่เพื่อนข้างโต๊ะเรียนค่ะ นอกจากนี้ หลังจบมัธยมปลายเราก็ไม่เคยติดต่อกันเลย สำหรับฉัน เกว็นเป็นเพียงเพื่อนเก่าร่วมชั้นเรียนที่ฉันไม่ได้เจอมาหลายปีแล้วก็เท่านั้น”โจชัวหรี่ตาของเขา “แต่เกว็นถึงกับทะเลาะกับลูน่าเพื่อคุณเลยนะ”“นั่นเป็นเพราะเธอรู้ว่าฉันแต่งงานได้ดิบได้ดี เธอก็เลยต้องการยกระดับตำแหน่งทางสังคมของเธอยังไงล่ะคะ” อลิซพูดเบา ๆ “ต่อมาเธอก็รู้ว่าฉันไม่สนใจมิตรภาพเก่า ๆ ของเรา เธอเลยกลายมาเป็นเพื่อนกับลูน่าทันที เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอทะเลาะกับลูน่าแล้วเรียกเธอว่าเมียน้อย แต่ตอนนี้พวกเธอกลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว แถมยังเต็มใจที่จะตายเพื่
ลูน่าไม่ได้สติอยู่ในโรงแรมจนถึงบ่ายสามโมงเธอได้รับโทรศัพท์จากนีลตอนบ่ายสามโมงพอดีเสียงของชายร่างเล็กดังมาจากปลายสายของโทรศัพท์ เขาฟังดูค่อนข้างตื่นเต้น “คุณแม่อยู่อีกไกลแค่ไหนครับ เนลลี่กับผมคิดถึงคุณแม่มากจริง ๆ !”เมื่อได้ยินเสียงของลูกชาย หัวใจของลูน่าก็อ่อนยวบและละลายลงเธอถือโทรศัพท์ไว้ครู่หนึ่งเงียบ ๆ จากนั้นจึงลดเสียงลงและตอบว่า “แม่…วันนี้กลับไปไม่ได้แล้ว แม่ยังอยู่ที่เมืองซีน่ะ”ที่ปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์ เด็กชายร่างเล็กหยุดชะงัก จากนั้นเสียงของเขาก็สงบลงในทันที “มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”“เพื่อนคนหนึ่งของแม่ประสบอุบัติเหตุ”คนตัวเล็กที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เป็นคนที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นได้ดีมากเขาเม้มริมฝีปาก “ผมเข้าใจครับ ผมจะอธิบายสถานการณ์ให้เนลลี่ฟังอย่างเหมาะสม เธอจะเข้าใจและจะไม่โกรธหรือเอะอะกับเรื่องนี้ คุณแม่สามารถอยู่ที่นั่นและดูแลเพื่อนของคุณแม่ได้ แค่บอกด้วยนะครับว่าคุณแม่จะกลับมาเมื่อไหร่ เนลลี่กับผมจะรอต้อนรับคุณแม่กลับบ้าน ถ้ามีอะไรที่คุณแม่ต้องการให้เราสามคนช่วยเหลือ บอกพวกเรานะครับ เราจะเป็นกองหนุนที่แข็งแกร่งและมั่นคงที่สุดของคุณแม่เสมอ”ด้
เธอไม่กล้าคิดไปไกลกว่านั้น ทั้งหมดที่เธอทำได้คือกัดปากตัวเองแล้วถามนีลอย่างแผ่วเบา “พี่ชายลูกพูดอะไรอีกไหม?”“ไม่ครับ”นีลขมวดคิ้ว “คุณแม่ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”“ไม่จ้ะ ไม่มีอะไร” ลูน่าสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นจึงพูดคุยเรื่องเรื่อยเปื่อยกับเขาอยู่พักหนึ่งแล้วรีบวางสายเมื่อวางโทรศัพท์ไปแล้ว ลูน่าก็ใช้เวลานานในการสงบสติอารมณ์ตัวเอง ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าและกดปุ่มเปิดที่สร้อยคอที่เธอเคยสื่อสารกับไนเจลขึ้นมา“คุณแม่” ทันทีที่สัญญาณเชื่อมต่อ เสียงอันเคร่งขรึมของไนเจลก็ดังมาจากปลายสาย “ผมได้ส่งอีเมลไปหาตำรวจในเมืองซีแล้ว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมผิดกฎหมายต่าง ๆ ที่ตระกูลวอลเตอร์เกี่ยวข้องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ต้องกังวลคนที่ทำร้ายป้าเกว็นจะถูกลงโทษตามนั้น”มือของลูน่าที่ถือสร้อยคอสั่นเล็กน้อย“ไนเจล...”“ผมรู้ทุกอย่างครับ” คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าลึก “สร้อยคอที่ผมให้คุณแม่ได้รับการติดตั้งโปรแกรมที่ทำให้สามารถเปิดใช้งานจากระยะไกลได้ ตอนที่ผมไม่สามารถตรวจจับสัญญาณของคุณแม่ได้เมื่อคืนนี้ ผมก็โจมตีและเจาะเข้าไปในระบบกล้องเฝ้าระวังของเมืองซี หลังจากที่แน่ใจว่าคุณแม่ปลอดภัยและ
ลูน่าเงียบไปสักพักหนึ่ง จากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา“ไนเจล เขาจะทำแบบนี้เพื่อแม่ได้ยังไงกัน สำหรับเขาแล้ว แม่ก็เป็นแค่คนตัวเล็ก ๆ ที่ไม่สำคัญอะไรเลย”อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ ไนเจลยังคงเงียบอยู่ครู่หนึ่งเขาอยากจะบอกเหลือเกิน…จากภาพบันทึกกล้องวงจรปิดที่เขาแฮ็กเมื่อคืนนี้ เขาเห็นสีหน้าของโจชัวที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลและความเจ็บปวดใจในขณะที่อุ้มลูน่าอยู่บ่ายวันนั้น เขาจ้องมองภาพนั้นบนคอมพิวเตอร์อยู่ตลอดทั้งบ่ายเขาได้ติดต่อกับมัลคอล์มในช่วงบ่าย หลังจากหารือกับมัลคอล์ม พวกเขาก็ตัดสินใจหยุดการโจมตีลินช์กรุ๊ปจากภาพหน้าจอที่เขาถ่ายไว้ ในทุกภาพ ความวิตกกังวลและความรู้สึกผิดของโจชัวไม่อาจถือได้ว่าเป็นการแสดงเพราะเขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่า มีลูกชายของเขากำลังเฝ้าดูอยู่จากระยะไกลเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขายังมีลูกชายอีกคนที่ชื่อไนเจลเพราะฉะนั้น ทั้งแววตาของเขาและท่าทีของเขาที่รีบออกจากโรงงานร้างโดยมีลูน่าอยู่ในอ้อมแขนล้วนแล้วแต่เป็นเนื้อแท้จากใจจริงบางครั้ง แม้แต่ไนเจลก็ยังสงสัยว่า...จริง ๆ แล้วโจชัว ลินช์กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่เมื่อหกปีที่แล้ว เขาเป็นคนที่ทำร้ายแม่และบังคับให้เธอต้องตก
เธอกำเอกสารในมือไว้แน่น “คุณ...ทำไมคุณถึงช่วยเกว็นและตระกูลลาร์สันไว้ล่ะ?”เพราะมีเหตุผลชัดเจนว่าเขาไม่ได้มีความเชื่อมโยงติดต่อกับพวกเขาเลยการเข้าซื้อลาร์สันกรุ๊ปในราคาที่สูงกว่ามูลค่าตลาดถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับลินช์กรุ๊ปอย่างแน่นอนลาร์สันกรุ๊ปเองก็ไม่ได้มีศักยภาพมากนัก เพราะถ้ามีศักยภาพมากเช่นนั้น แอนดี้ ลาร์สันคงจะไม่หลับหูหลับตาเฝ้ามองผู้อาวุโสวอลเตอร์มาตลอดหลายปีและปฏิบัติตามทุกคำสั่งของเขาอย่างนี้โจชัวเงยหน้าขึ้นมองอย่างไร้อารมณ์ “ถ้าฉันไม่ทำอย่างนี้ แล้วเธอจะไปจากเมืองซีพร้อมกับฉันอย่างสบายใจได้ไหม?”หัวใจของลูน่าบีบแน่นจนกลายเป็นก้อนกล้ามเนื้อก้อนหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดของเขาเธอจำสิ่งที่ไนเจลพูดกับเธอจากปลายสายได้เป็นไปได้ไหมที่โจชัวทำทั้งหมดนี้…เพื่อเธอไม่ นั่นเป็นไปไม่ได้เธอกัดริมฝีปากอย่างรุนแรง นั่นเป็นไปไม่ได้เขาคงอ่านใจเธอได้ เขาเหลือบมองเธออย่างแผ่วเบาอีกครั้ง “ถ้าเธอคิดว่านี่ไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอ เหตุผลอื่นก็คือ…”เขาวางถ้วยชาลงบนโต๊ะกาแฟอย่างแผ่วเบา “ฉันต้องการกลุ่มบริษัทเก่าแก่ในเมืองซี ซึ่งต้องเป็นกลุ่มบริษัทที่มีประสบการณ์และเป็นเครื
หลังจากวางสายกับไนเจล ลูน่าก็ลังเลอยู่ในห้องของเธออยู่นาน แต่สุดท้ายเธอก็รวบรวมความกล้าแล้วไปโรงพยาบาลโจชัวพูดถูกลุคปกป้องเกว็นไว้เป็นอย่างดีจริง ๆ แม้ว่าเธอต้องการพบกับเกว็น แต่ลูกน้องของเขาที่เฝ้าประตูก็ต้องรายงานต่อผู้บังคับบัญชาขึ้นไปก่อนที่พวกเขาจะได้รับอนุญาตจากลุค และยอมให้เธอเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยในที่สุดเมื่อลูน่ามาถึงห้องพักของเกว็น เกว็นก็กำลังลงจากห้องมาที่ชั้นล่างของโรงพยาบาลโดยมีพ่อของเธอ แอนดี้คอยช่วยเหลือเมื่อเห็นลูน่ามาถึง รูม่านตาของเกว็นก็หดตัวลงเล็กน้อย จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “เธอมาทันเวลาพอดี”เธอยิ้มและนั่งอยู่บนรถเข็น “ลุค โจนส์บอกว่าฉันจะถูกย้ายไปโรงพยาบาลอื่นในวันพรุ่งนี้ ฉันอยากกลับบ้านเพื่อเก็บข้าวของของฉันแล้วนำไปที่นั่นด้วย”พูดจบเกว็นก็มองดูลูน่าอย่างสงบ “ในเมื่อเธอมาที่นี่แล้วก็ช่วยกลับไปบ้านเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ ฉันไม่ต้องการให้พ่อคอยดูแลในเมื่อฉันเป็นผู้ใหญ่แล้วน่ะ”ลูน่าเม้มริมฝีปาก เธอเดินเข้าหาเกว็นเงียบๆ แล้วจับรถเข็นที่แอนดี้กำลังเป็นคนเข็นอยู่ “ได้สิ”เธอเข็นเกว็นออกจากห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ขึ้นลิฟต์แล้วลงไปช
มือของลูน่าจับที่จับของรถเข็นไว้แน่นเกว็นเงยหน้าขึ้นและจับจ้องเบ็นราวกับว่าเธอไม่ได้ยินคำพูดของผู้หญิงคนนั้น เสียงของเธอเย็นชาและห่างเหินโดยไม่มีความอบอุ่นแม้แต่น้อย “เธอเป็นใคร?”เบ็นขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไรเกว็นขึ้นเสียง แต่น้ำเสียงของเธอยังคงเย็นชาอยู่ “เบ็น เซลเลอร์ เธอเป็นใคร!”“ฉันเป็นแฟนของเบ็นย่ะ” ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะเบา ๆ เอนตัวซบไปบนตัวเขา “แต่อย่าเข้าใจผิดนะ เขาไม่ได้นอกใจคุณหรอก เราเพิ่งยืนยันความสัมพันธ์ของเรากันวันนี้เอง นั่นเป็นเพราะคุ…”เกว็นหลับตาลง “เบ็น เซลเลอร์ แกเป็นใบ้เหรอ?”จากนั้นเบ็นก็ขมวดคิ้ว น้ำเสียงของเขาแสดงความไม่พอใจ “มันก็เหมือนกันนั่นแหละ ไม่ว่าฉันจะเป็นคนพูดเองหรือโคลเวอร์พูดก็ตาม โคลเวอร์เป็นแฟนของฉัน เราเพิ่งตัดสินใจจะคบกันบ่ายนี้เอง เราหย่ากันแล้วเมื่อเช้านี้ เธอไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของฉันอีก”เกว็นเริ่มหัวเราะอย่างเย็นชา แต่ขณะที่หัวเราะ น้ำตาของเธอก็เริ่มไหลมือของลูน่ากำหมัดแน่นเบ็นเม้มริมฝีปาก ลากผู้หญิงที่ชื่อโคลเวอร์ไปยืนอยู่ข้างหลังเขาแล้วเดินเข้าไปในวิลล่า เมื่อเขาเดินผ่าน เกว็นก็เอื้อมมือออกไปโดยไม่รู้ตัวแ
เมื่อได้ยินของชายคนนั้น ลูน่าที่เตรียมตัวโดนต่อยก็ชะงักไปเล็กน้อยโจชัวเหรอ?เมื่อเธอเอามือออกและมองไปตามทิศทางของเสียง...ชายร่างสูงตระหง่านยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เขาจับข้อมือของเบ็นไว้เป็นคนแรกเส้นเลือดดำบนหน้าผากของเบ็นปูดออกมาอย่างรุนแรง เห็นได้ชัดว่าเขาใช้กำลังทั้งหมดของตัวเองและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะพุ่งกำปั้นไปบนใบหน้าของลูน่าแต่โจชัวควบคุมเขาอย่างมั่นคงด้วยมือข้างเดียว ราวกับไร้ความพยายามลูน่าตกตะลึงไปครู่หนึ่ง“ลูน่า! มานี่สิ!” เสียงของเกวนดังขึ้นข้างหลังเธอ เธอชะงักและรีบก้าวกลับไปยืนข้างเกว็นเกว็นจับมือเธอแล้วนวดให้พลางพูดอย่างสับสนว่า “โจชัวมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เขาตามเรามาตั้งแต่เราออกจากโรงพยาบาลแล้ว” ข้าง ๆ พวกเขา ลุคยังคงเอาแขนกอดอกขณะที่เขาพิงกำแพง สายตาของเขาจ้องมองไปที่ลูน่า “เขาคงกังวลว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ”เขายืดตัวอย่างเกียจคร้าน “ถ้าฉันไม่รู้ว่าโจชัวแต่งงานแล้ว ฉันคงคิดว่าเขากำลังตามจีบเธออยู่ เมื่อคืนที่เราเข้าไปช่วยเธอ เขาไม่แม้แต่จะพูดคุยต่อรองหรือเจรจาอะไรกับฉันด้วยซ้ำ ทุกอย่างตามใจฉันหมดตราบใดที่ฉันช่วยเธอ”ขณะที่พูด ชายคนนั้นก็หัวเราะเบา ๆ
“งั้นคุณพ่อก็ควรรู้นะครับว่าลูน่าเลี้ยงพวกเขามาหกปี ผมแนะนำว่าคุณพ่อควรดีกับลูน่าให้มากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ อาจจะไม่ยอมรับคุณเป็นคุณปู่ของพวกเขาอีกต่อไปได้”ใบหน้าของเอเดรียนเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากมุมนี้ ลูน่าเหลือบมองสีหน้าของเขาด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างามแต่ไร้อารมณ์ พร้อมกับยกยิ้มไม่ใส่ใจบนริมฝีปากของเธอ “คุณท่านลินช์ คุณบอกว่าฉันฆ่าเฮลีย์ คุณมีหลักฐานไหม? การตัดสินใจว่ามีคนฆ่าคนอื่นหรือไม่ คุณไม่จำเป็นต้องพูดตามหลักฐานที่มีอยู่หรอกเหรอคะ?” เธอวางข้อเท้าบนเข่า น้ำเสียงของเธอเย็นชาและห่างไกล “เฮลีย์ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงมาจากตึก ฉันไปชี้มีดใส่เธอแล้วบังคับให้เธอกระโดดหรือว่าฉันผลักเธอเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด ตอนที่เฮลีย์ฆ่าตัวตาย ฉันไปเยี่ยมสามีเก่าของเพื่อนที่โรงพยาบาลกับเพื่อนนะ มีกล้องวงจรปิดที่โถงทางเดินและลิฟต์ในโรงพยาบาลอยู่ ฉันมีหลักฐานชัดเจนสมบูรณ์”เอเดรียนเปล่งเสียงในจมูก “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ ก่อนที่เฮลีย์จะกระโดดก็เป็นเพราะเธอ เฮลีย์ถูกบังคับให้ออกจากเมืองซีและย้ายไปอยู่ต่างประเทศ! เฮลีย์เติบโตมากับความมั่งคั่งและความฟุ่มเฟือยด้วยความกรุณาของพระเจ้า และเพราะผู้หญิงเช่นเธอ
“เพียะ!”ก่อนที่ทุกคนจะทันได้โต้ตอบ เสียงตบก็ดังก้องไปทั่วห้องนั่งเล่นศีรษะของลูน่าหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก รสหวานราวกับเหล็กของเลือดเต็มปาก และเลือดก็หยดลงมาตามมุมปากของเธอ“คุณแม่!”“คุณแม่…!”เด็กสองคนที่นั่งอยู่ทั้งสองด้านของหญิงชรา กระโดดขึ้นจากโซฟาตามสัญชาตญาณแล้วพุ่งไปหาลูน่าทันทีหนึ่งในนั้นจับมือเธออย่างระมัดระวัง เขาก้าวไปข้างหน้าพยายามปกป้องเธอ ในขณะที่อีกคนหยิบกระดาษทิชชูจากโต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็น แล้วยื่นให้ลูน่าการเห็นเด็กสองคนปกป้องเธอทำให้โจชัวขมวดคิ้ว ข้าง ๆ เขา อลิซส่งเสียงเย้ยหยันอยู่ในอก แต่ภายนอกนั้นเธอกำลังทำสีหน้ากังวล “นีล รีบพาน้องสาวของหนูมานี่เร็วเข้า” จากนั้นเธอก็ชำเลืองมองสุภาพบุรุษตัวน้อยที่กำลังยื่นทิชชู่ให้ลูน่า“นี่เป็นเรื่องระหว่างคุณปู่ของหนูกับน้าลูน่านะ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ อย่ายื่นจมูกเข้าไปในที่ที่ไม่เกี่ยวกับเราสิ”นีลจ้องมองเธออย่างเย็นชา จากนั้นก็หันกลับมาดูแลแม่ของพวกเขาพร้อมกับเนลลี่ในทันทีจากนั้น อลิซก็แสดงท่าทีสงบนิ่งอย่างคนมีอารมณ์มั่นคงและพูดว่า “เอเดรียน คุณกำลังทำอะไรอยู่คะ คุณกำลังทำให้เด็ก ๆ กลัวนะ”เอเดรียนส่งเสียงเย
ในขณะเดียวกัน เขาก็คิดถึงพวกเขามาก ผ่านไปนานแล้วเหมือนกันหลังจากที่พวกเขาได้เจอกันครั้งสุดท้าย จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงเสนอให้พาทุกคนมารวมตัวกันที่บลูเบย์วิลล่าแต่ดูเหมือนว่า...เขาทำให้ทั้งเด็ก ๆ และลูน่าโกรธเขาได้สำเร็จเท่านั้นหรอกเหรอ?รถขับต่อไปไม่นานรถก็มาจอดหน้าบลูเบย์วิลล่า เมื่อลูน่าก้าวลงจากรถที่ยูริและแซคขนสัมภาระมา อลิซก็ก้าวลงมาเช่นกันขณะยืนอยู่นอกรถของโจชัว รอยยิ้มปลอม ๆ ก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอ “ เนลลี่มานี่เร็ว แม่จะอุ้มหนูเข้าบ้าน!”เนลลี่กลอกตา เดินผ่านเธอ และมุ่งหน้าไปที่ประตูด้วยขาที่สั้นและแข็งแรงของเธอในทางกลับกัน นีลกลับรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเนลลี่ไม่ต้องการให้คุณอุ้ม ก็อุ้มผมแทนสิครับ! ผมก็ไม่ได้หนักมากเหมือนกัน แค่หนักกว่าเนลลี่นิดหน่อยเอง”อลิซอุ้มเขาไว้ในอ้อมแขนของเธอ สีหน้าของเธอดูน่าเกลียด และก้าวไปข้างหน้าด้วยความพยายามสุด ๆ นีลเอาแขนของเขาคล้องคอเธอตามสะดวก “คุณอลิซ เร็วสิครับ ผมเป็นเด็กน้อยสุดที่รักของคุณไงครับ มันคงจะแย่ถ้าเราล้มกันทั้งคู่แล้วได้รับบาดเจ็บนะ!”สีหน้าของอลิซดูน่าเกลียดและยิ่งน่าเกลียดมากขึ้น
โจชัวเลิกคิ้วเขาไม่คาดคิดเลยว่านี่จะเป็นคำถามแรกที่ลูกชายของเขาถามหลังจากที่แยกจากกันหลายวันเขามองลูกชายของเขาจากหางตา “นายดูไม่เต็มใจที่จะเห็นแม่นายกับฉันคืนดีกันนะ”นีลหยุดนิ่งไป เขาหันไปมองโจชัวอย่างเคร่งขรึมแล้วยกสองนิ้ว“อย่างแรกนะครับ ผมไม่เคยยอมรับคุณอลิซ กิบสันเลย สำหรับผมแล้ว เธอไม่เคยเป็นแม่ของผมเลย แม่ของผมคือลูน่า อย่างที่สอง ความชอบหรือไม่ชอบของผม มันสำคัญสำหรับคุณหรือเปล่าครับ คุณลินช์ ถ้าคุณพิจารณาถึงความคิดและความรู้สึกของเราจริง ๆ คุณก็คงไม่บังคับน้องสาวของผมและผมให้ทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ เช่น การพาเรากลับไปที่บลูเบย์วิลล่าตอนนี้ สุดท้ายนะครับ ผมไม่สนใจคุณและอลิซเลย ผมแค่อยากจะรู้ว่าทำไมท่าทีของคุณที่มีต่อเธอถึงเปลี่ยนไปแบบ 180 องศา หลังจากกลับมาจากเมืองซีก็เท่านั้น”ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาก็ได้แยกทางกันไปแล้ว และยังประกาศว่าพวกเขาจะกำหนดวันเซ็นใบหย่าด้วยซ้ำ แต่ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึงเมืองซี พวกเขาก็กลับมาคืนดีและรักกันเหมือนเดิม และเมื่อดูจากภายนอกแล้ว พวกเขาดูยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นกว่าเดิมด้วยโจชัวหรี่ตาลงเล็กน้อย อะไรทำให้ท่าทีของเขาที่มีต่ออลิซเปลี
“คุณแม่คะ! หนูคิดถึงคุณแม่มากเลย!” เนลลี่กล่าวเธอหยิบกุญแจออกมาและทันทีที่เธอเปิดประตูอพาร์ตเมนต์ เด็กทั้งสองก็รีบวิ่งออกมาราวกับพายุทอร์นาโดลูกเล็กสองลูกนีลและเนลลี่ต่างกอดขาข้างหนึ่งของเธอไว้ และพูดด้วยความตื่นเต้น“คุณแม่ หนูรู้ว่าคุณแม่จะกลับมาในเวลานี้ แต่นีลเอาแต่ยืนกรานว่าแม่จะกลับมาทีหลัง!”“คุณแม่ครับ เมื่อหลายวันที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ผมขอให้ลิลลี่สอนวิธีชงกาแฟด้วยล่ะ! ผมทำกาแฟอาราบิก้าแก้วโปรดของคุณแม่ด้วย!”“คุณแม่คะ หนูวางแผนไว้หมดแล้ว บ่ายวันนี้คุณแม่จะไปไหนไม่ได้เลยนะ คุณแม่ต้องอยู่บ้าน อ่านนิทานให้หนูฟังและต่อเลโก้กับนีลด้วย!”“แม่…”ลูน่าลดสายตาลงมองดูหัวเล็ก ๆ สีดำสองหัวที่อยู่ตรงหน้าเธอ คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้นของเธอ แต่เธอก็ไม่สามารถคายมันออกมาได้ข้างหลังเธอ ลิลลี่ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น มองเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณ ลูน่า พวกเขาตั้งใจหยุดเรียนหนึ่งวันเพื่อรอคุณเลยนะคะ ตั้งแต่เช้านี้พวกเขาตื่นเต้นเป็นพิเศษแล้วก็ตกแต่งบ้านราวกับว่าเป็นช่วงเทศกาลวันหยุดด้วย”ตอนนั้นเองที่ลูน่าสังเกตเห็นของประดับตกแต่งที่แขวนอยู่ในห้องนั่งเล่น ป้ายหลากสีสันแขวนอยู่ตามผนัง ความค
บรรยากาศในรถเปลี่ยนเป็นเงียบเชียบร่างกายของลูน่าแข็งทื่อไปหมดเธอไม่ได้เจอทั้งนีลและเนลลี่มาหลายวันแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดที่เธอเคยห่างจากพวกเขานับตั้งแต่ที่เธอให้กำเนิดพวกเขามาเมื่อหกปีที่แล้วเธอคิดถึงพวกเขาอย่างสุดซึ้งจากการโทรหาและคุยกับพวกเขาเมื่อเช้านี้และเมื่อวานตอนบ่าย เธอก็รู้ว่าเด็ก ๆ เองก็คิดถึงเธออย่างสุดซึ้งเช่นกันไฟในใจเธอที่ลุกโชนด้วยความตื่นเต้นเมื่อนึกถึงการพบปะกับลูก ๆ ของเธอถูกดับลงอย่างโหดร้ายด้วยคำพูดเย็นชาของอลิซ และได้กลับกลายเป็นความหนาวเย็นจนจับไปถึงขั้วหัวใจอลิซจงใจทำแบบนี้ เธอไม่ได้มีความรู้สึกใด ๆ ต่อนีลและเนลลี่ เธอแค่พยายามจะก่อกวนเธอและลูก ๆ ให้อารมณ์เสีย“โจชัวคะ” เมื่อสังเกตเห็นความเงียบอย่างต่อเนื่องของโจชัว อลิซถึงกับร้องเรียกเขาเบา ๆจากนั้นเขาก็กะพริบตาและฟื้นคืนสติของตัวเอง เขากระแอมไอเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูน่าจากด้านหลังขณะที่เธอนั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร “เราจะทำตามที่อลิซบอก”ไม่ว่ายังไงก็ตาม อลิซยังคงเป็นแม่ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ได้อาศัยอยู่กับเด็กๆ ตลอดหกปีของชีวิต แต่ท้ายที่สุดแล้วเลือดก็ข้นกว่าน้ำ นอกจากนี้ อล
วิทยุยังคงเล่นซ้ำข่าวเรื่องที่เกิดกับตระกูลวอลเตอร์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “ก่อนที่การกล่าวหาคุณเดนนิส วอลเตอร์จะถูกหยิบยกมาพูดถึง ทายาทคนเดียวของวอลเตอร์กรุ๊ป เฮลีย์ วอลเตอร์ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไปแล้ว ตอนนี้วอลเตอร์กรุ๊ปกลายเป็นอาณาจักรที่กำลังขาดกษัตริย์และกำลังจะล่มสลาย...”ลูน่าหลับตาลง เธอสงสัยว่าเกว็นจะได้ยินข่าวนี้หรือยัง ถ้าเธอได้ยิน อย่างน้อยเธอก็จะรู้สึกสบายใจเล็กน้อยใช่ไหม?เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจะตรวจสอบว่าเกว็นส่งข้อความใหม่ให้เธอหรือไม่ แต่กลับเห็นการอัปเดตสถานะใหม่ที่โพสต์โดยเบ็นแทน'ตรวจสอบอาการบาดเจ็บของฉันที่สถานีตำรวจ ตระกูลลาร์สัน ระวังตัวไว้! ฉันจะเรียกร้องค่าเสียหาย!'รูปภาพประกอบเป็นแขนที่ได้รับบาดเจ็บและแก้มบวมฉึ่งอันเป็นผลมาจากการทะเลาะกันเมื่อวันก่อนลูน่ารู้ว่าอาการบาดเจ็บของเขาต้องเป็นฝีมือของแซคและยูริ เธอจ้องโทรศัพท์อยู่นาน ในที่สุดเธอก็กดไลค์สองภาพที่เบ็นโพสต์“ลูคัส ปิดวิทยุที” ทันใดนั้นเสียงอันแผ่วเบาอ่อนแอของอลิซก็ดังมาจากเบาะหลัง “ฉันอยากนอนพัก”จากนั้น โจชัวก็มีสีหน้ากังวลขณะพูดว่า “ทำไมหน้าคุณดูซีดจัง ไม่สบายเหรอ?”ลูน
มือของโจชัวที่กำช้อนและส้อมไว้หยุดชะงักไปเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็หัวเราะเบา ๆ “เพราะว่าเธอเคยหย่าและสามีเก่าเธอมันนิสัยไม่ดี เธอก็เลยแอบลักพาตัวนีลกับเนลลี่ไปแล้วเลี้ยงเหมือนเป็นลูกตัวเองเหรอ?”ลูน่ายกแก้วขึ้นแล้วกลืนน้ำอุ่นในปากลงคออย่างแรง จากนั้นเธอจึงมองไปทางโจชัว “คุณจะพูดแบบนั้นก็ได้”โจชัวยกแก้วของเขาขึ้นเช่นกัน “ทำไมเธอถึงไม่มีลูกกับสามีเก่าล่ะ?”“เขาไม่สมควรมีลูก” ลูน่าวางแก้วลงแล้วยกช้อนส้อมเพื่อกินต่อ “เขามีชู้ในตอนที่ฉันต้องการเขามากที่สุด และถึงกับอยากจะฆ่าฉันเพื่อเอาใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าเขาสมควรมีลูกไหม?”ถ้าตอนนั้นเธอยังไม่ท้อง เธอก็ไม่อยากมีลูกของเขาจริง ๆเขาไม่สมควรได้รับพวกเขาแม้ว่าเธอจะให้กำเนิดพวกเขาแล้ว แต่ลูน่าก็ยังเชื่อเช่นเดิมว่าเด็กทั้งสามคนเป็นของเธอและเป็นของเธอเพียงคนเดียวพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโจชัวเมื่อพูดคำเหล่านี้ ดวงตาของเธอก็จับจ้องไปที่โจชัวการจ้องมองของเธอทำให้เขารู้สึกสับสน ราวกับว่าเขาเป็นคนที่ทิ้งและทำร้ายเธอเองเขาขมวดคิ้วและหันหน้าหนีจากเธอ “แล้ว เธอก็ปล่อยเขาไปทั้งอย่างนั้นเหรอ?”ลูน่าคลี่ยิ้มเย็นชา “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะปล่อ
“คุณหย่ากับฉันเมื่อเช้านี้ พอตอนบ่าย คุณก็หาแฟนได้ แล้วตอนนี้พอตกกลางคืนคุณก็พาแฟนใหม่ของคุณมาบ้านเก่าของคุณ เบ็น เซลเลอร์ คุณมันไม่คู่ควรกับเวลาที่ฉันตกหลุมรักไปเลย”จากนั้นเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก และหันกลับไปมองลุคที่กำลังถือไฟแช็กไว้สำหรับเตรียมจุดบุหรี่ให้ตัวเองขณะดูการแสดง “ฉันขอยืมไฟแช็กหน่อยได้ไหม?”ลุคยักไหล่ เขาเดินเข้ามาและก้มลงขณะถือไฟแช็คของเขา เขาฉีกภาพเดี่ยวที่สวยที่สุดของเกว็นออกมา จากนั้นก็จุดไฟเผาภาพถ่ายที่เหลือไปสุดท้ายเขาก็ส่งรูปถ่ายที่เขาฉีกออกมาให้เกว็น “เอาไว้นึกถึง”เกว็นส่ายหน้า “เผาไปเถอะค่ะ”เธอไม่จำเป็นต้องนึกถึงอะไรแบบนี้ลุคยกยิ้มจาง ๆ เขามองไปที่เกว็นด้วยความสนใจเล็กน้อยที่ปรากฏในดวงตาแล้วสอดรูปถ่ายใบนั้นใส่กระเป๋าเสื้อของตัวเองภาพถ่ายทั้งหมดถูกจุดไฟเผาท่ามกลางแสงไฟโหมกระหน่ำ เบ็นหัวเราะอย่างเย็นชา “ถึงคุณจะไม่เผามัน ผมก็จะเป็นคนเผาอยู่ดี”เกว็นหลับตาแน่น แต่ยังคงเงียบเมื่อรูปถ่ายไม่เหลืออะไรนอกจากกลายเป็นกองขี้เถ้า เธอก็จับมือของลูน่าไว้ “ไปกันเถอะ”ลูน่าพยักหน้าและช่วยพยุงเธอนั่งบนที่นั่งโดยมีลุคช่วยอีกแรง ส่วนข้าง ๆ พวกเขา เบ็นพ่นเสียงฮึ เ