“ท่านพี่ เหตุใดท่านถึงสงสัยมากมายนักล่ะเจ้าคะ” เฉินเหยียนหรันกล่าวอย่างสงสัยเฉินเถี่ยซินปกปิดความร้อนรนของตัวเองและพูดด้วยรอยยิ้ม "ข้าก็แค่อยากรู้ว่าเขาชอบดอกไม้และต้นไม้มากแค่ไหน เพราะไม่เคยเห็นผู้ชายที่โตแล้วชื่นชอบดอกไม้เลย"เฉินเหยียนหรันยิ้มโดยไม่สงสัย เพราะสำหรับนางแล้ว เฉินเถี่ยซินเป็นพี่ชายที่ดีที่สุด และนางก็ไว้วางใจเฉินเถี่ยซินเต็มร้อย“เขาจริงจังและโกรธมากเจ้าค่ะ เขาบอกข้าว่าอย่าแตะต้องมันอีก ไม่อย่างนั้นเขาจะไล่ข้าออกมา” เฉินเหยียนหรันกล่าวเฉินเถี่ยซินคิดว่าอาจมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ตรงนั้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขามีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้แค่เพียงดอกไม้และต้นไม้มันคุ้มค่ากับความโกรธของเขาด้วยหรือ?ในมุมมองของเฉินเถี่ยซิน สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนแล้วมีอะไรอยู่ในพื้นดินกันนะ?เหตุใดราชสำนักจึงส่งผู้คนมาเมืองหลงหยุนอีกครั้ง และสอบถามเกี่ยวกับสามคนที่แล้ว เห็นได้ชัดว่าทั้งสามคนอาจประสบอุบัติเหตุ หรืออาจจะเสียชีวิตแล้วด้วยซ้ำ ในพื้นดิน!หรือว่าหานซานเฉียนจะสังหารทั้งสามคนจากราชสำนักแล้วฝังพวกเขาไว้ในสวนหากเป็นเช่นนี้ เฉินเถี่ยซินก็ได้พบโอกาสในการโค่นล้ม
หลังจากที่เฉินเถี่ยซินปรากฏตัว บรรยากาศในลานบ้านอื่นก็เปลี่ยนไปทันทีทั้งหานซานเฉียนและฮวงเซียวหย่งรู้ว่าผู้ชายคนนี้มาด้วยเจตนาไม่ดี แต่หานซานเฉียนและฮวงเซียวหย่งไม่สามารถเดาได้ว่าเขามาทำไมเฉินเหยียนหรันเดินไปหาเฉินเถี่ยซิน และถามขึ้นทันที “ท่านพี่ มาที่นี่ทำไมเจ้าคะ”เฉินเถี่ยซินมองไปที่หานซานเฉียนอย่างยาะเย้ยและพูดว่า “ข้ามาที่นี่เพื่อเปิดเผยสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำ”หานซานเฉียนเฉยเมย แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเฉินเถี่ยซินกำลังพูดถึงอะไร และแม้ว่าเขาจะรู้เกี่ยวกับการเสียชีวิตของคนสามจากราชสำนักแล้ว หานซานเฉียนก็ไม่กลัวผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็แค่ไปราชสำนักไม่ใช่หรือ? นี่ไม่ใช่สิ่งที่หานซานเฉียนไม่สามารถทนได้แต่ฮวงเซียวหย่งเริ่มกลัวเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ และใบหน้าของเขาก็ซีดลงทันทีเขาเกิดในราชสำนัก และเขาก็รู้ดีว่าราชสำนักทรงพลังเพียงใด เมื่อข่าวที่หานซานเฉียนสังหารคนของราชสำนักแพร่กระจายออกไป ราชสำนักจะไม่มีวันปล่อยหานซานเฉียนไปและปรมาจารย์ของราชสำนักทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา ก็เพียงพอที่จะจัดการหานซานเฉียนได้“ท่านพี่ ท่านกำลังทำอะไร อย่าก่อเรื่องนะเจ้าคะ” เฉินเหยียนหรันพูดอ
คำเตือนของปี่ยางบังคับให้ฝูซานและโหยวไห่ต้องควบคุมอารมณ์ ท้ายที่สุด เพราะปี่ยางกล่าวว่าแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ไม่สนใจเรื่องนี้ แล้วพวกเขามีสิทธิ์อะไรที่จะโกรธ?แม้ว่าหานซานเฉียนจะมีความกล้าที่จะเพิกเฉยต่อราชสำนัก แต่นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถแทรกแซงได้“ท่านหาน สิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่” ปี่ยางถามหานซานเฉียนหานซานเฉียนเผชิญกับทางเลือก หากเขาโกหกก็อาจอยู่รอดได้อย่างปลอดภัยในวันนี้ แต่ปี่ยางและอีกสองคนจะไม่มีวันยอมแพ้ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งคือยอมรับความจริง หากจำเป็นก็ฆ่าทั้งสามคนนี้พร้อมกันแล้วออกจากราชสำนัก“จริง”คำตอบเดียว ทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน!ฮวงเซียวหย่งมองไปที่หานซานเฉียนด้วยความกลัว เขาไม่คิดว่าเจ้านายจะยอมรับมันง่าย ๆ นี่มันคือการมองหาความตายไม่ใช่หรือ?เฉินเหยียนหรันเองก็ตกใจเช่นกัน!นางไม่คิดว่าหานซานเฉียนจะกล้าหาญและกล้าสังหารคนของราชสำนักเช่นนี้ เขาจะยังมีทางเอาชีวิตรอดในราชสำนักได้อีกหรือไม่?หลังจากที่เฉินเถี่ยซินตกตะลึงเล็กน้อย รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ในความเห็นของเขาการยอมรับของหานซานเฉียน ไม่ใช่การกระทำที่กล้าหาญ เพราะเมื่อปี่ยางตรวจสอบเรื่อ
“ท่านปี่ยาง เขาฆ่าคนของราชสำนัก แล้วเหตุใดท่านถึงบอกว่าพวกเขาสมควรถูกฆ่าล่ะขอรับ?” เฉินเถี่ยซินวิตกกังวลเพราะสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่เขาจินตนาการไว้ ดังนั้นเขาจึงรีบเตือนสติปี่ยางว่าหานซานเฉียนฆ่าคนของราชสำนักปี่ยางเหลือบมองเฉินเถี่ยซินอย่างเฉยเมย เขารู้ว่าเฉินเถี่ยซินต้องการทำอะไร แต่น่าเสียดายที่ความปรารถนาของผู้ชายคนนี้จะต้องพังทลายลง เขาไม่เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าราชสำนักจะมีทัศนคติอย่างไรต่อเรื่องนี้ และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าจักรพรรดิให้ความสำคัญกับหานซานเฉียนมากเพียงใดตราบใดที่สามารถทำให้หานซานเฉียนพอใจได้ ชีวิตของทั้งสามคนนี้จะมีความสำคัญอย่างไร?“ก่อนที่ฉันจะมาเมืองหลงหยุน จักรพรรดิซุนขอให้ข้าสืบสวนหาเรื่องนี้ หากพวกเขาทำให้ท่านหานขุ่นเคืองก็ให้ข้าประหารชีวิตพวกเขาทันที และตอนนี้พวกเขาได้ชดใช้เรื่องนี้แล้ว” ปี่ยางกล่าวจักรพรรดิซุน!ทำให้หานซานเฉียนขุ่นเคืองประหารชีวิตทันที!คำเหล่านี้ทำให้เฉินเถี่ยซินหวาดกลัวเขาไม่เคยคาดคิดว่าหานซานเฉียนสังหารคนจากราชสำนัก แล้วจักรพรรดิซุนจะยังมีทัศนคติเช่นนี้ เขาไม่ได้ตำหนิหรือตัดสินโทษหานซานเฉียน แถมยังชมเชยเขาอีกด้วย?“ท่านปี่ยาง นี่
“ท่านเป็นอะไรไป?”"เกิดอะไรขึ้น!"การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของโหยวไห่ทำให้ปี่ยางและฝูซานสับสน เพราะพวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลย“ข้า...ข้าไม่รู้” เหงื่อเย็นหยดลงมาราวกับหยดลงมาราวกับเม็ดฝนบนหน้าผากของโหยวไห่ แรงกดเมื่อครู่นี้แทบจะทำให้เขาระเบิดตาย“เมื่อครู่...เมื่อครู่ ข้ารู้สึกถึงแรงกดอย่างรุนแรงจนเกือบจะบดขยี้ข้าได้” โหยวไห่อธิบายให้ทั้งสองคนฟังหลังจากสูดลมหายใจเข้าแรงกด?ทันใดนั้นสีหน้างุนงงของปี่ยางก็แปลเปลี่ยนเป็นความตื่นตระหนก ก่อนจะพูดกับทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”เมื่อเผชิญกับความตื่นตระหนกของปี่ยาง แม้ว่าฝูซานและโหยวไห่จะสับสนเล็กน้อย แต่ก็ไม่อยู่ที่นี่นานลานบ้านของหานซานเฉียนเฉินเถี่ยซินยังคงตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นเขาไม่เคยคิดฝันว่าแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาจะจบลงเช่นนี้แม้ว่าศพจะถูกพบแล้ว แต่ปี่ยางก็ยังไม่ตัดสินโทษ แถมยังเป็นความเห็นชอบจากจักรพรรดิซุนอีกด้วย นี่แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าหานซานเฉียนจะยังไม่ได้ไปที่ราชสำนัก แต่เขาก็ได้รับความสนใจจากจักรพรรดิซุนเป็นอย่างมากแล้วและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะไปต่อกรกับบุคคลดังกล่าวตอนนี้เมื่อเขาทำให้หานซานเฉ
หานซานเฉียนยิ้มและไม่พูดอะไร ทำไมเขาต้องจำเฉินเหยียนหรันด้วยล่ะ? ผู้หญิงคนนี้ไม่คู่ควรที่จะมาครอบครองพื้นที่ใดในใจของเขาเลย“ไม่กล้าตอบข้ามาตรง ๆ ท่านกลัวงั้นหรือ” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ถามอย่างไม่เต็มใจ“อย่าว่าแต่นางเลย แม้แต่เจ้า ข้าก็จะลืมไปในไม่ช้า คำตอบนี้พอใจแล้วหรือไม่” หานซานเฉียนหัวเราะเบา ๆจู่ ๆ ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ก็โกรธ นางถามเกี่ยวกับความคิดของหานซานเฉียนที่มีต่อเฉินเหยียนหรัน แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับนาง แถมยังพูดจาทำร้ายจิตใจคนฟังเช่นนี้อีก“ข้าจะทำให้มันเป็นที่น่าจดจำสำหรับท่านอย่างแน่นอน และทำให้ท่านไม่มีวันลืมข้าไปตลอดชีวิต” ไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์พูดผ่านไรฟันหานซานเฉียนขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับไป๋หลิงหว่านเอ๋อร์ จึงกลับไปที่ห้องของเขาตอนนี้ราชสำนักตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขา และแม้แต่จักรพรรดิซุนก็ยังต้องการเอาใจเขา ในสายตาของคนอื่น ๆ นี่เป็นสิ่งที่ดี แต่หานซานเฉียนคิดว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังพัฒนาเร็วเกินไป และกำลังจะอยู่เหนือการควบคุมของเขา ราชสำนักเป็นหนึ่งในสามแกนหลักของโลกเชวียนหยวน หานซานเฉียนยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับ โลกเชวียนหยวนมากนัก การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องระด
ในการรับรู้ของทุกคน หานซานเฉียนเป็นคนไร้ค่าที่ถูกไล่ออกจากตระกูลเฉิน ตอนนั้นเขาถูกคนนับไม่ถ้วนหัวเราะเยาะแต่ตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนไป และกลายเป็นอาจารย์ของฮวงเซียวหย่ง!ความสามารถในการทำให้ฮวงเซียวหย่งเลื่อนจากระดับโคมสองทะลวงไปสู่ระดับโคมห้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ปรมาจารย์คนนี้จะต้องทรงพลังมากเพียงใดแล้วชายที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะกลายเป็นคนไร้ค่าในตระกูลเฉินได้อย่างไร?“คุณ...คุณชายฮวง ล้อเล่นหรือไม่?”“หานซานเฉียน คุณชายกำลังพูดถึงหานซานเฉียนที่เรารู้จักหรือเปล่าขอรับ”“ถ้าเขาเป็นคนที่ทรงพลัง เหตุใด...เขาถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่ออกไปล่ะขอรับ?”ทุกคนถามฮวงเซียวหย่งด้วยความไม่เชื่อ เพราะเรื่องนี้อยู่นอกเหนือขอบเขตที่คนธรรมดาจะเข้าใจได้โดยสิ้นเชิงเขาเป็นคนทรงพลัง แต่ถูกเฉินเถี่ยซินที่อยู่เพียงระดับโคมสองรังแก มันช่างไม่มีเหตุผลเอาซะเลย“พวกเจ้าได้ยินไม่ผิด และข้าก็ไม่ได้ล้อเล่น อาจารย์ของข้าคือหานซานเฉียนจริง ๆ สำหรับสาเหตุที่เขาอยู่ในตระกูลเฉิน และเหตุใดถึงถูกเฉินเถี่ยซินขับไล่นั้น เป็นเพราะว่าอาจารย์ของข้าขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงด้วย” ฮวงเซียวหย่งกล่าวเมื่อเห็นว่าทุกคนยังค
ตระกูลเฉินเคยรุ่งโรจน์อย่างยิ่งในเมืองหลงหยุน และเฉินเถี่ยซินซึ่งเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลเฉินก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา แต่ตอนนี้เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากจุดจบเช่นนี้ แม้ว่ามันจะเป็นความผิดของเขาเอง แต่ก็ยังทำให้หลายคนถอนหายใจด้วยความเสียดาย“แค่มีเงินก็เปล่าประโยชน์ โลกเชวียนหยวนความแข็งแกร่งคือการรับประกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”“เฉินเถี่ยซิน โอ้อวดมากเกินไป ถึงกับบอกว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ราชสำนักได้อย่างแน่นอน แต่กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดตั้งแต่ยังเยาว์วัย”“เขาเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งเพื่อตามหาอาจารย์ แต่อาจารย์ที่แท้จริงก็อยู่ข้าง ๆ เขา แต่เขากลับทำลายโอกาสนี้เสียเอง ไม่มีที่สำหรับความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ”“ใครจะคิดว่าคนไร้ค่าที่ถูกตระกูลเฉินขับไล่ออกไปจะเป็นคนที่มีอำนาจได้ขนาดนี้ ฮวงเซียวหย่งเลื่อนขึ้นสู่ระดับโคมห้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องอยู่ในสามลำดับหลังอย่างแน่นอน”ประโยคนี้ได้รับการยอมรับจากหลาย ๆ คน ไม่มีใครคาดคิดถึงความแข็งแกร่งของหานซานเฉียนจริง ๆ เพราะการแสดงของเขาในตระกูลเฉินนั้นดูไร้ค่าโดยไม่มีความเชี่ยวชาญใด ๆ เลยแต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้