“ฉันมาที่นี่เพื่อนวดและพัดให้คุณ ฉันไม่รังเกียจที่จะดูแลคุณแบบนี้” “การถ่ายแบบนี่เหนื่อยมากเลยเหรอ? ฉันจำได้ว่ามีงานอีกมากมายที่เหนื่อยกว่านี้ แต่ทำไมฉันถึงไม่เห็นจะมีผู้ช่วยคนไหนมานวดให้คุณระหว่างทำงานเลยนี่?” ผู้คนดูงุนงง ขณะที่เธอพูดต่อว่า “การจ้างผู้ช่วยหลายคนสามารถทำให้คนหนึ่งดูเท่ได้ แต่ฉันรู้สึกเหมือนเป็นการอวดเบ่งมากกว่า วัฒนธรรมที่ไม่ดีในวงการบันเทิงควรได้รับการแก้ไขนะ” คนอื่น ๆ ที่เหลือต่างชื่นชมในความจริงใจของเธอ มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนดังที่จะมีผู้ช่วยส่วนตัวอยู่เคียงข้างพวกเขา พวกเขายังอยากจะมีช่างแต่งหน้าส่วนตัว แม้ว่าทีมถ่ายภาพจะมีช่างแต่งหน้าอยู่แล้วก็ตาม คำพูดของเธอทำให้คนอื่น ๆ รู้ว่ายังมีอาชีพอีกมากมายที่อาจเหนื่อยยากกว่าการเป็นคนดัง เช่น ชาวนาที่ทำงานภายใต้แสงแดดที่แผดเผา นักวิจัยที่ทำงานข้ามคืน สถาปนิก และอื่น ๆ “คุณพูดถูก บอสจอร์แดน คุณเป็นคนดังที่ดีที่สุดที่ฉันเคยเห็น” “บอสจอร์แดน เดี๋ยวฉันไปน้ำให้คุณนะคะ! ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อเยินยอคุณ ฉันแค่ชื่นชมคุณเท่านั้น!” “บอกเราได้เสมอถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไร ฉันจะทำให้ดีที่สุด!” ฝู
แสงแดดยามบ่ายทำให้เธอรู้สึกง่วงนอน เธอจึงตัดสินใจงีบหลับหลังจากที่ทีมงานจากไป หลังจากที่เธอเช็คอินในโรงแรมฟีนิกซ์ตอนกลางคืน เธอวางแผนที่จะตามหาเบาะแสเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนั้น เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เธอวางแผนจะจับทิฟฟานี่เข้าคุกโทษฐานที่วางยาและให้ตำรวจจัดการกับเธอต่อ เธอเชื่อว่าทิฟฟานี่จะเลือกพูดความจริงมากกว่าจะยอมสูญเสียจุดยืนและชื่อเสียงทั้งหมดของเธอ ทว่า สิ่งต่าง ๆ กลับไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ เพราะเวโรนิก้าแสดงให้ชาร์มินเห็นถึงความซื่อสัตย์ที่มีต่อทิฟฟานี่ด้วยการยอมรับผิดทั้งหมดแทนเธอ ‘เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะพูดความจริงเพียงเพื่อช่วยชีวิตเวโรนิก้า’ ชาร์มินรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนเดียวที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเธอได้ แต่ทิฟฟานี่ต้องซ่อนเขาไว้ที่ไหนสักแห่ง เธอต้องหาผู้ชายคนนั้นด้วยตัวของเธอเอง! ต้องมีใครสักคนที่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร “น้องสาว...” น้ำเสียงแผ่วเบาดังก้องอยู่ข้างหลังเธอ เป็นทิฟฟานี่ที่อยู่ในชุดสีขาว ขณะที่เธอยังคงพยายามคิดว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อห้าปีก่อน ชาร์มินแสดงท่าทีเมินเฉยต่อเธอ แต่ทิฟฟานี่ยังคงเดินเข้ามาหาชาร์มิน น้ำเสียงของเธอฟังดูรู้สึกผิด “ตอนนั
มันเป็นละอองเกสรจากดอกทิวลิป ความทรงจำของเธอย้อนกลับไปในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อน นั่นคือตอนที่เธอตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยดอกทิวลิป ดอกทิวลิปดูสวยงามราวกับฤดูใบไม้ผลิแรกเริ่ม เธอคิดว่าการได้เห็นดอกทิวลิปนั่นเป็นความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ ทว่า ความจริงในวันหมั้นช่วงฤดูหนาวกลับตบหน้าเธอ ตั้งแต่นั้นมาเธอก็แพ้ดอกทิวลิปมาโดยตลอด และทิฟฟานี่ต้องรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ‘เธอจงใจทำแบบนี้เพื่อตั้งใจจะทำให้ฉันมีปัญหาระหว่างการถ่ายภาพ’ ชาร์มินเริ่มปะติดปะต่อสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกันตุบ! เค้กตกลงไปกองกับพื้น ทิฟฟานี่ถอยกลับไปสองสามก้าวเพื่อหลบหลีก แต่เธอกลับสะดุดล้ม เธอจ้องมองชาร์มินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ “อ๊ะ!”เธอกรีดร้องทันทีเมื่อร่างของเธอตกลงไปในสระน้ำ “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” ทิฟฟานี่โบกมือร้องขอความช่วยเหลือ ตอนนี้เองที่ความสนใจของทุกคนถูกเบี่ยงเบนมาอยู่ที่สระน้ำ “ชาร์มิน คราวนี้เธอทำเกินไปแล้วนะ!” เสียงของโจอี้ดังขึ้น“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ ช่วยทิฟฟานี่ด้วย!” โจอี้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ผู้คนต่างวิ่งไปมา บางคนถึงกับช่วยร้องขอความช่วย
ชาร์มินรู้สึกราวกับว่าเธอถูกตัดขาด เธอไม่คู่ควรกับความรักของโจอี้อีกต่อไป“แล้วคุณก็จะไม่ให้โอกาสฉันอธิบายเหมือนเคยและคิดว่าฉันเป็นคนผลักเธอเหรอ? อีกแล้วเหรอ?” เธอคร่ำครวญ ทำให้โจอี้นึกถึงความทรงจำที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเมื่อวานนี้ ซึ่งเธอได้พูดคุยกับชาร์มินเป็นอย่างดี“อธิบายเหรอ? ไม่เอาน่า ชาร์มิน ฉันเห็นมันเกิดขึ้นกับตาของฉันเอง เธอจะอธิบายอะไรอีก?” โจอี้กระอักกระอ่วน“คุณคาดหวังอะไรเมื่อคุณรับรู้ว่าฉันเป็นคนผิด? คุณคิดว่าฉันจะผลักเพียงเพื่อต้องการเอาคืนเธอหรือไง? เมื่อวานนี้ฉันมีหลักฐานที่สามารถส่งเธอเข้าคุกได้อย่างง่ายดาย ฉันจะผลักเธอเพื่อแก้แค้นไปทำไม? เฮอะ! ตลกชะมัด!” ชาร์มินโกรธจัดเธอจ้องมองทิฟฟานี่อย่างเย็นชาขณะรู้สึกโกรธจัด จากนั้นเธอก็ละสายตาและเดินกลับไปใต้ร่มที่เธอพักก่อนหน้านี้ ตอนนี้เธอถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังอีกครั้ง“ฉันไม่คิดว่าชาร์มินจะทำแบบนั้น ต้องมีความเข้าใจผิดอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ” ทีมงานกำลังพูดคุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้“การผลักทิฟฟานี่ลงไปในสระจะทำให้เธอแค่สำลักน้ำเล็กน้อยเท่านั้น และชาร์มินเองก็จะต้องรับผลที่ตามมา ฉันว่ามันไม่คุ้มเสี่ยงเท่าไหร่”“เธอ
แว่นตาที่แตกเป็นออกเสี่ยง ๆ บาดมือของเธอจนเลือดไหลออกมาจากบาดแผล ความเจ็บปวดแทรกแซงเข้ามาบนแขนของเธอราวกับไฟไหม้ขณะที่เธอหลั่งน้ำตา ทิฟฟานี่หงุดหงิดกับเสียงคร่ำครวญของเธอ เธอรู้สึกผิดหวังเมื่อความพยายามทั้งหมดของเธอสูญเปล่า ถ้าเวโรนิก้าอยู่ที่นี่ เรื่องราวอาจจะไม่เป็นแบบนี้ เธอรู้ว่าเธอไม่สามารถพึ่งพารอนนี่ได้อีกต่อไป เพราะนั่นจะทำให้เธอเดือดร้อน ‘ฉันจะจัดการมันด้วยตัวเอง!’ เธอยิ้มชั่วร้ายเมื่อนึกถึงจุดอ่อนของชาร์มิน [ไปที่โรงแรมฟีนิกซ์กันเถอะ]เธอส่งข้อความหลังจากที่เธอทิ้งรอนนี่ไว้ตามลำพังและเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเธอ ในขณะเดียวกัน รอนนี่ที่ตัวสั่นด้วยความเจ็บปวดกำลังปิดบาดแผลไว้ไม่ให้ใครเห็น ทันใดนั้น เธอก็ชนเข้ากับชาร์มินที่เพิ่งกลับมา ‘เธอเป็นผู้ช่วยของทิฟฟานี่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะ?’ ชาร์มินรู้สึกสงสัย แต่เธอไม่อยากถามอะไรมาก เธอเพียงสนใจแค่เรื่องของตัวเองเท่านั้น … หลังจากที่โจอี้ออกจากสวนกรีนิชไป ชาร์มินก็ถอดหน้ากากอันแสนโดดเดี่ยวที่เธอสวมอยู่ออก ‘ฮึ เธอคิดว่าเธอเป็นคนเดียวที่รู้วิธีแสร้งทำเป็นร้องขอความเห็นอกเห็นใจเหรอ? ฉันอาจจะไม่น่ารังเกียจเหมื
ชาร์มินอดกลั้นความรู้สึกคาดหวังของเธอเอาไว้เมื่อมองเห็นผู้หญิงคนนั้น ขณะที่เธอเดินไปที่โต๊ะพลางนั่งลงบนเก้าอี้ “เข้ามานี่หน่อยสิคะ” เธอกวักมือเรียก ป้าเชอร์รี่เข็นรถเข็นอาหารไปข้างหน้าแล้ววางจานลงบนโต๊ะทีละจาน “ป้าทำงานอยู่ที่นี่นานหรือยังคะ?” ชาร์มินเริ่มการสนทนาอย่างใจเย็น “ป้าดูคุ้นหน้าคุ้นตามากเลยค่ะ”“ทำไมเหรอ ใช่! ดิฉันทำงานอยู่ที่นี่อย่างน้อยก็สิบปีได้ค่ะ กรุณาอย่าตัดสินดิฉันด้วยอายุอานามเลยค่ะ ดิฉันน่ะไว้ใจได้เสียยิ่งกว่าพวกเด็กสาว ๆ ที่ไม่ว่าพวกเธอจะเก่งแค่ไหนก็ตามก็ยังทำอาหารหกเลอะเทอะจากจาน” ป้าเชอร์รี่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจชาร์มินรู้สึกได้ถึงนิสัยที่จริงใจและเป็นมิตรของป้าเชอร์รี่ เธอจึงตามน้ำไปกับป้าเชอร์รี่ ขณะที่เธอเห็นด้วยกับป้าเชอร์รี่ เธอพูดขึ้นว่า “โอ้ ใช่ค่ะ ฉันชอบคนที่ทำงานไว้ใจได้มากกว่า ป้านั่งกับฉันหน่อยได้ไหมคะ? ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากจะถามป้าน่ะค่ะ”“โอ้? ได้สิคะ ถามมาได้เลยค่ะ” เธอตอบด้วยความประหลาดใจแกมยินดีและรู้สึกพอใจกับคำเยินยอป้าเชอร์รี่ทราบดีว่าชาร์มินเป็นบอสไดมอนด์ อีกทั้งเธอยังเป็นซูเปอร์สตาร์ที่มาถ่ายโฆษณาที่นี่อีกด้วย เธอไม่กล้ามีเรื่องบาดหมางก
จูเลียนกับทิฟฟานี่พาเธอมาที่โรงแรมนี้ได้อย่างไรกัน?จูเลียนต้องอยู่กับทิฟฟานี่ แต่ถ้าตอนนั้นเขาอยู่ด้วย เขาปล่อยให้ทิฟฟานี่ทำพลาดได้อย่างไร?ป้าเชอร์รี่สังเกตว่าชาร์มินไม่เชื่อเธอ ดังนั้นเธอจึงพูดต่อ “เอาอย่างนี้ ให้ดิฉันพาผู้จัดการห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทมาพบคุณที่นี่ ผู้จัดการบราวน์ดูแลชั้นนี้มาหลายปีแล้วค่ะ แล้วเขาก็รู้จักทุกคนที่เข้าออกได้”“ดิฉันแค่ส่งอาหารเท่านั้นค่ะ แต่ผู้จัดการบราวน์จัดเตรียมบริการพิเศษให้กับแขก ดังนั้นเขาต้องทราบเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดีกว่าดิฉัน คุณไปถามเขาก็ก็ได้ว่าดิฉันโกหกคุณหรือเปล่า”“แบบนั้นก็ได้ ถ้าเรื่องถูกตรวจสอบแล้ว ฉันจะให้เงินป้า” ชาร์มินเก็บบัตรเครดิตของเธออย่างรวดเร็ว“ดีค่ะ ดี ถึงอย่างนั้นคุณก็ไม่ควรเปิดเผยเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้จัดการบราวน์ทราบนะ เขาเข้มงวดมาก แล้วดิฉันก็กลัวว่าเขาจะไล่ดิฉันออกถ้าเขารู้เข้า” จากนั้นป้าเชอรรี่ก็ยืนขึ้นแล้วออกจากห้องชาร์มินพยักหน้ารับขณะที่ป้าเชอร์รี่กำลังออกไป เธอก็ได้บอกกับชาร์มินขึ้นว่า “จำเอาไว้ว่าเขามาเมื่อไร เปิดประตูให้เขาด้วยนะคะ”เมื่อประตูถูกเปิดลง ภายในห้องก็ตกอยู่ในความเงียบชาร์มินจ้องมอ
ผู้ชายที่ถูกชี้มานั้นสวมชุดสูทที่ดูภูมิฐาน เขาเป็นผู้จัดการของโรงแรงรอยัล แบงเควต ชื่อไมเคิลเมื่อไมเคิลเห็นว่าพนักงานเสิร์ฟชี้มาที่เขา เขาก็ถึงกับเข่าอ่อน “อย่าพูดอะไรไร้สาระ!” เขาโพล่งออกมา “เมื่อห้าปีก่อนฉันเป็นแค่คนกวาดพื้นชั้นต่ำ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่ามีใครเข้าออกห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทบ้าง?”“นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำไมคุณถึงต้องรู้ วันวาเลนไทน์เมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นแฟนของฉันชวนฉันออกไปเที่ยว ซึ่งฉันควรจะทำหน้าที่จนถึงตีห้า แต่ฉันอยากอยู่กับเขาในวันวาเลนไทน์ ฉันเลยแลกกะกับคุณ” “คุณไม่ใช่แค่ทำงานกะกลางคืนในคืนนั้น แต่คุณยังต้องรับผิดชอบชั้นนั้น คุณต้องเห็นคนเข้า ๆ ออก ๆ ทั้งชั้นแน่!” เธอตะโกนออกมาไมเคิลรู้สึกงงเป็นไก่ตาแตกกับความจำที่ไร้ที่ติของพนักงานเสิร์ฟ แล้วใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดด้วยความกลัวสายตาของแอนโทนี่เข้มขึ้นเมื่อเขากวาดสายตามองมาที่ไมเคิล“ดูเหมือนนายอยากจะเจอกับจระเข้ของฉัน ไนอัล พาเขาไป”“ได้ครับ” ไนอัลเอื้อมมือออกไปดึงเขาไมเคิลตกใจมากจนเขาทรุดตัวลงกองกับพื้น เขาคุกเข่าลงเสียงดังตุบ “คุณเบลีย์ครับ ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วย!” เขาอ้อนวอน “ผมไม่ทราบจริง ๆ ว่าผู้หญิงค
“ชาร์มิน ได้โปรดใจเย็น ๆ ก่อนนะ แม่จะทำให้ทุกอย่างถูกต้องเพื่อหนูเอง แม่จะลงโทษเด็กคนนั้นอย่างรุนแรงเพื่อหนูและบอกให้เขาขอโทษหนูต่อหน้าสาธารณชน!” “นี่เป็นความผิดของทิฟฟานี่ หนูต้องให้โอกาสจูเลียนของเรานะ!” ชาร์มินกำลังจะกลายเป็นลูกสะใภ้ของเธอ เหมืองเพชรจำนวนมหาศาลกำลังจะตกเป็นของตระกูลเคเบล เธอจะปล่อยให้มันหลุดมือไปอย่างง่ายดายได้อย่างไร? ดังนั้นคนที่เธอต้องปลอบโยนมากที่สุดในตอนนี้ก็คือชาร์มิน ชาร์มินยังคงมึนงง สายตาของเธอยังคงจ้องอยู่บนหน้าจอสีดำสนิท ‘ทำไมมันถึงดับไปเร็วจัง? อ๊าก! ฉันลืมสร้างโปรแกรมม้าโทรจันเพื่อให้มันสามารถถ่ายทอดสดได้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง!’ แน่นอนว่ามาดามคาเบลไม่รู้ว่าชาร์มินกำลังคิดอะไรอยู่ เธอสันนิษฐานว่าชาร์มินกำลังรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลายเมื่อเห็นเหตุการณ์พลิกผัน “ชาร์มิน หนูโตมากับจูเลียน หนูรู้ดีว่าเขารักหนู เมื่อไม่นานมานี้ทั้งสองคนก็เข้ากันได้ดีมาก! ได้โปรดอย่าเศร้าไปเลย ไม่มีแมวตัวใดในโลกนี้ที่ไม่เคยขโมยปลามาก่อน แม่จะช่วยหนูจับตาดูเขาตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” มาดามคาเบลพูดเกลี้ยกล่อมขณะเอื้อมมือไปลูบหลังมือของชาร์มินเบา ๆ “ฮึ!” ชาร์มินเย้ยหยันอย่างเ
ทุกคนมองไปที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่กำลังถ่ายทอดสดสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องจัดงานแต่งงานที่โรงแรมจัดเตรียมไว้ หน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นร่างสองร่างบนเตียงสีแดงสด ทิฟฟานี่และจูเลียนกำลังแสดงความรักกันด้วยท่าทางสุดแสนเกินบรรยาย! ห้องโถงเริ่มเต็มไปด้วยความโกลาหล ทุกคนต่างเบิกตากว้างกับเหตุการณ์บนหน้าจอและรู้ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่พวกเขาเห็น! “ทิฟฟานี่กำลังหลับนอนกับจูเลียน!” “ว้าย! ทิฟฟานี่ดูยั่วยวนมากบนเตียง!” “เดี๋ยวก่อน เธอพูดว่าอะไรนะ? เธอขอให้จูเลียนแต่งงานกับชาร์มินเพื่อที่พวกเขาจะได้ทรัพย์สินของเธออย่างนั้นเหรอ?” “ฉันตกใจมาก! บ้าไปแล้ว! ทิฟฟานี่กำลังนอนกับน้องเขย!” “เธออวยพรต่อหน้าทุกคนและลับหลังกลับไปนอนกับน้องเขย!” “สรุปว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบนี้สินะ! เธอทำตัวน่าขยะแขยงมากขึ้นทุกครั้งที่ฉันเห็นเธอ!” “ทุกคนมาดู ‘สาวน้อยชนบท’ ของพวกคุณสิ เปิดตาดูใกล้ ๆ!” ทุกคนเริ่มแสดงความคิดเห็นกับเหตุการณ์ที่ปรากฏตรงหน้า การแสดงสดบนหน้าจอยังคงดำเนินต่อไปในขณะที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวว่าพวกเขากำลังถูกถ่ายทอดสดอยู่ พวกเขาหลงระเริงไปกับความหลงใหล แม้ว่าทิฟฟานี่จะไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจ แต่เธอก็พย
เธอเอาแต่ใจตัวเองเกินไป! การตัดสินใจครั้งนี้ก็เช่นกัน… โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ และสปอนเซอร์ผลิตภัณฑ์จำนวนมากต่างรายล้อมชาร์มินด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเองได้ยิน “คุณจอร์แดน คุณกำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหม? คุณยังมีเวลาเหลือเฟือหลังแต่งงาน! ทำไมคุณต้องออกจากวงการบันเทิงด้วย?” “ฉันกำลังวางแผนที่จะเชิญคุณมาถ่ายแบบนิตยสารสำหรับปกของซีซันหน้า!” “ฉันกำลังสร้างละครประวัติศาสตร์ และฉันคิดว่าคุณเหมาะกับบทนักแสดงหลัก! ฉันชื่นชมความสามารถและมุมมองของคุณมาก และมันเป็นเรื่องน่าเสียดายจริง ๆ ถ้าคุณจะยุติบทบาทจากวงการบันเทิง” ทุกคนถอนหายใจเมื่อได้ยินการตัดสินใจของเธอ ชาร์มินยังคงตามน้ำต่อไปขณะที่เธอพูดกับพวกเขาด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้หญิงจะดูงี่เง่าได้นะคะ ถ้าเธอไม่สามารถเสียสละเพื่อสามีของเธอได้” เธอโต้ตอบพวกเขาด้วยความสงบและอ่อนโยน โดยที่ยังคงสวมชุดแต่งงานอยู่ เธอให้กลิ่นอายของแม่บ้านที่สมบูรณ์แบบและแม่ที่รอบรู้ ทุกคนรู้สึกอิจฉาความรักที่เธอมีต่อจูเลียน แม้แต่การถ่ายสดออนไลน์ก็ทำให้แฟนคลับหลายคนต้องหลั่งน้ำตา [อ๊าก!!!! ฉันคิดว่าฉันรู้จักความรักแล้ว! ในที่สุดฉันก็สามารถเชื่อได้ว่
ชาร์มินเดินลงมาจากบันไดแล้วเหลือบเห็นแอนโทนี่ที่กำลังเดินเข้ามาในล็อบบี้ แม้ว่าแอนโทนี่จะสวมเพียงชุดสูทเหมือนบรรดาแขกทั่วไปในงานเลี้ยง แต่ชุดสูทของเขากลับดูเป็นทางการมากกว่าชุดที่เขาใส่อยู่เป็นประจำ เพียงการเหลือบแค่แวบเดียวก็ทำให้หัวใจของชาร์มินเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ทำไมเขาถึงมาเข้าร่วมงานแต่งในวันนี้? หากใครรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับแอนโทนี่... แอนโทนี่เหลือบมองมาที่เธอเช่นกัน เธอดูราวกับเจ้าหญิงแสนสวยที่ยืนอยู่บนบันไดวนสไตล์ยุโรป น่าทึ่งและสง่างาม ส่วนเว้าโค้งของเธอที่อยู่ภายใต้ชุดแต่งงานทำให้เขาอยากดึงเธอมากอดไว้ในอ้อมแขน ทว่า มันเป็นเพียงความคิดของเขาเท่านั้น เขาละสายตาจากเธอและเดินต่อไปอย่างสง่างาม สมาชิกในตระกูลจอร์แดนและตระกูลคาเบลรีบลุกขึ้นและเดินเข้ามาหาเขาด้วยความปีติยินดี “ยินดีต้อนรับครับ คุณเบลีย์ พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบคุณ” “คุณเบลีย์น่าจะบอกเราก่อนหน้านี้ พวกเราจะได้จัดการสถานที่รับรองให้กว้างขวางกว่านี้” “เชิญทางนี้ครับ คุณเบลีย์ นี่คือห้องรับรองวีไอพีที่ไม่มีคนพลุกพล่าน” “ไม่ทราบว่าคุณเบลีย์ชอบชาหรือกาแฟมากกว่ากันคะ?” ทุกคนพยายามเอาอกเอาใจต
รองเท้าลูกไม้ดูหลวมจนสามารถทำให้เธอสะดุดล้มระหว่างทางเดินได้ จูเลียนจ้องมองรองเท้าและก้มลงโดยสัญชาติญาณ ชาร์มินหันไปยิ้มเยาะให้กับทิฟฟานี่ที่มองมาทางนี้ ทิฟฟานี่ตกใจมากกับเหตุการณ์ตรงหน้า ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความอิจฉาริษยาที่ไม่สามารถระงับได้อีกต่อไป เธอเห็นสีหน้าของจูเลียนขณะจ้องมองชาร์มิน และเธอรับรู้ได้ว่าเขาแสดงท่าทีอ่อนโยนกับชาร์มินมากแค่ไหน นอกจากนี้ เขายังคุกเข่าลงเพื่อผูกเชือกรองเท้าของชาร์มินอีกด้วย! นี่ไม่ใช่จูเลียนที่เธอเคยรู้จัก ไม่ใช่จูเลียนที่เคยรักเธอและมีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้น! วันนี้จูเลียนไม่ได้มองเธอในชุดเพื่อนเจ้าสาวด้วยซ้ำ! แน่นอนว่า จูเลียนไม่ได้ตระหนักถึงเหตุการณ์ตรงหน้านี้เลย เขาลุกขึ้นยืนหลังจากผูกเชือกรองเท้าให้ชาร์มินเรียบร้อยแล้ว “ชุดราตรีของคุณยาวเกินไป มันจะทำให้คุณสะดุดล้มระหว่างเดินได้ วันนี้คุณต้องระมัดระวังให้ดีเพราะแขกทรงเกียรติจำนวนมากมาเข้าร่วมงานแต่งของเรา และเราจะปล่อยให้มีอะไรผิดพลาดอะไรไม่ได้” “ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันจะคอยระมัดระวัง” ชาร์มินพูดขณะยกชายกระโปรงของเธอขึ้น และเดินลงบันไดไปอย่างสง่างาม เหลือทิ้งไว้เพียงเงาที่ไร้ตัว
เอพริลเป็นผู้ช่วยที่แอนโทนี่จัดหามาให้ชาร์มินเพราะเธอมีความรอบคอบ มีทักษะดี และเป็นผู้ช่วยที่ดีมาก ทว่า เอพริลกลับรู้สึกสับสนว่าทำไมแอนโทนี่ถึงชอบผู้หญิงที่เย็นชาและนิ่งเงียบอย่างชาร์มิน เนื่องจากชาร์มินตอบว่า “ไม่” เอพริลจึงไม่ยืนกรานในเรื่องนี้และออกไปทำหน้าที่อย่างอื่นให้เสร็จ เมื่อทิฟฟานี่เดินเข้ามาในห้องแต่งหน้า เธอเห็นชาร์มินนั่งอยู่หน้าโต๊ะแต่งหน้าขณะที่ช่างทำผมกำลังทำผมให้ชาร์มิน ชุดราตรีของเธอลากยาวและมีเนื้อสัมผัสนุ่มซึ่งทำจากเส้นไหม ขณะที่แขนเสื้อถูกตัดสั้นและทำให้พองคล้ายชุดตุ๊กตา เธอดูเหมือนเจ้าหญิงในเทพนิยายที่รู้จักกันดีว่าสโนว์ไวท์ ชุดแต่งงานนี้เป็น ‘คอลเลคชั่นครบรอบของซัน สโนว์’ แบรนด์ดีไซเนอร์ชื่อดัง และเป็นดีไซน์ที่ทิฟฟานี่ชื่นชอบ! ทิฟฟานี่เคยบอกจูเลียนว่าเธอต้องสวมชุดแต่งงานชุดนี้ในวันแต่งงานของเธอ แต่ชาร์มินกลับสวมชุดเดียวกันนี้เพื่อเยาะเย้ยเธอ นอกจากนี้ การวางแผนและจัดพิธีแต่งงานทั้งหมดนี้ยังทำให้จูเลียนเสียค่าใช้จ่ายอย่างน้อยหนึ่งพันล้านเหรียญ เขาฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพื่อชาร์มิน แต่ทำไมเขาถึงไม่นึกถึงความรู้สึกของเธอบ้าง?! ทันทีที่ชาร์มินเห็นทิฟฟานี่เข้า
ทิฟฟานี่ถูกรายล้อมไปด้วยนักข่าว เธอสนุกสนานกับการได้เป็นจุดเด่นอย่างที่เธอเคยเป็น เธอตอบคำถามด้วยท่าทีสง่างามว่า “เรื่องราวในคลิปวิดีโอเป็นความจริงทั้งหมดค่ะ ถ้าคุณยังไม่เชื่อฉัน ได้โปรดดูบาดแผลบนมือของฉัน” เธอพูดขณะแสดงแผลบนฝ่ามือให้กล้องดู และพูดต่อว่า “คนเราย่อมเคยทำสิ่งที่น่าผิดหวังในอดีตมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้จัดการของฉัน หรือแม้แต่ตัวฉันเอง ฉันเดินทางไปที่หมู่บ้านเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตที่แท้จริงของผู้คน โดยหวังว่าจะได้ชำระจิตวิญญาณของฉันให้บริสุทธิ์ และฉันก็หวังว่าฉันจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้น” “สำหรับผู้ติดตามบนบัญชีอินสตาแกรมของฉัน มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันสนใจมากนัก ทั้งหมดที่ฉันใส่ใจคือน้องสาวของฉันและแฟนคลับทุกคนที่ยอมยกโทษให้ฉัน ในอนาคตฉันจะทำงานให้หนักขึ้นและเป็นแบบอย่างที่ดีให้ทุกคนได้ติดตามค่ะ” คำพูดของทิฟฟานี่สง่างามและน่าเกรงขาม นักข่าวบางคนกำลังถ่ายทอดสดเธอ ขณะที่ชาวเน็ตต่างส่งคอมเม้นท์สรรเสริญเธอ สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือทิฟฟานี่มีใบหน้าที่ไร้เดียงสาและดูไม่มีพิษภัยอะไร นัยน์ตาของเธอใสราวกับน้ำแร่ที่ไร้สิ่งเจือปน ผู้หญิงประเภทนี้สามารถได้รับความเข้าอกเข้าใจและคว
ในกล่องเผยให้เห็นชุดเพื่อนเจ้าสาวซึ่งทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเธอ มันคือชุดราตรีเกาะอกซึ่งทำจากผ้าไหม วัสดุเบามากจนสามารถลอยล่องไปในอากาศได้ สีของชุดราตรีเป็นสีน้ำตาลกาแฟอ่อน ๆ และนั่นเป็นสีที่ทิฟฟานี่โปรดปรานน้อยที่สุด! นอกจากนี้ สีน้ำตาลโทนนี้จะทำให้สีผิวของคนที่ใส่ดูเป็นสีเหลือง คนที่ใส่ชุดราตรีสีนี้จะดูไม่เปล่งประกายและน่าเบื่ออย่างแน่นอน! ทิฟฟานี่เข้าใจได้ว่าทำไมชาร์มินถึงทำดีกับเธอเป็นพิเศษ ชาร์มินเพียงต้องการให้เธอเป็นเพื่อนเจ้าสาวเพราะต้องการให้เธอสวมชุดที่น่าเกลียดนี้ ทว่า ทิฟฟานี่จะพลาดโอกาสที่จะได้ขึ้นภาพหน้าปกได้อย่างไร? เธอแสร้งทำเป็นพูดขอบคุณและประทับใจ “ขอบคุณนะชาร์มิน! เธอมีน้ำใจมาก พรุ่งนี้ฉันจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวของเธอ และฉันจะอวยพรให้เธอ” “ฮื้ม ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พรุ่งนี้เจอกันที่โรงแรมฮิลตัน เก้าโมงเช้านะ” ชาร์มินพูด เหตุผลที่โจอี้ขอให้ชาร์มินแวะมาที่คฤหาสน์ตระกูลจอร์แดนก็เพราะเธอต้องการบอกทิฟฟานี่ว่าชาร์มินให้อภัยทิฟฟานี่แล้ว เพื่อที่ทิฟฟานี่จะได้ไม่ไปที่แบบนั้นอีก โจอี้รู้สึกพอใจเมื่อได้ยินคำพูดของชาร์มิน โจอี้พูดกับชาร์มีนว่า “เธอทั้งสองเป็นพี่น้องกัน เธอคว
ทิฟฟานี่ก้มหน้าก้มตาลงต่ำ “หนูขอโทษคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ และทุกคนนะคะ หนูขอโทษที่ทำให้พวกคุณเป็นห่วง หนูแค่ต้องการสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป” “ถึงแม้ลูกจะอยากสำนึกผิด แต่ลูกก็ไม่จำเป็นต้องไปที่นั่น ใครไม่เคยทำผิดพลาดมาก่อนบ้าง? แม่ให้อภัยลูกมานานแล้ว” โจอี้พึมพำขณะที่เธอทายาบนรอยแผลเป็นของลูกสาว ทุกคนถอนหายใจขณะพูดชื่นชมการกระทำของทิฟฟานี่ และนั่นรวมถึงคุณท่านจอร์แดนเช่นกัน เพราะดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกยินดีที่เห็นทิฟฟานี่กลับมาบ้าน ในบรรดาทุกคนในตระกูล ทิฟฟานี่เป็นคนเดียวที่ใช้ชีวิตอย่างถ่อมตนตามลำพังในพื้นที่ห่างไกลในชนบท นอกจากนี้ การกระทำของเธอยังได้รับความเคารพและชื่นชมจากหลาย ๆ คนจนส่งผลให้หุ้นของตระกูลมีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วย ทิฟฟานี่มีความสุขกับการตอบรับและความห่วงใยของทุกคน เธอรู้สึกพึงพอใจจนกระทั่งสาวรับใช้ประกาศว่า “เชิญคุณจอร์แดน คุณคาเบลค่ะ” ทุกคนหันไปมองจูเลียนและชาร์มินเดินเข้ามาเคียงข้างกัน แขนของชาร์มินโอบรอบแขนของจูเลียนขณะที่เขาจับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน คู่รักหน้าตาดีที่ดูเหมือนถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน ออร่าของพวกเขาเปล่งประกายเจิดจ้าจนแม้แต่ดวงดาวที่ส่องแสงบนท้องฟ้าก็