"สวัสดีค่ะ คุณใช่ผู้พันคะน้าไหมคะ""ใช่ค่ะ สวัสดีค่ะ คุณคือผู้พันมุกงามใช่ไหมคะ""ใช่ค่ะ" มุกงามยิ้มบางๆ ให้กับผู้พันคะน้า ที่ทั้งสองรู้จักชื่อกันเพราะรู้แล้วว่าต้องมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกับคนชื่อนี้"สวัสดีค่ะทัศ" พอทักทายกับรูมเมทเสร็จ ผู้พันคะน้าก็หันมาทักทายกับอีกคน"สบายดีไหม" ทศนพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะถามกลับพวกเขารู้จักกันมาก่อนจริงๆด้วย ทำไมคำว่าสบายดีไหมที่เขาถามผู้หญิงอีกคนมันถึงทิ่มแทงใจเธอจัง"เชิญพวกคุณคุยกันนะคะ ฉันขอเข้าห้องก่อน" พอพูดจบเธอก็เข้าห้องไปโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาอธิบายเลย"สบายดี ไม่ตามเธอเข้าไปเหรอ" คะน้าไม่ได้ประจำอยู่กองนี้ ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องของที่นี่มากนัก แต่แค่มองก็รู้แล้วว่าผู้พันมุกงามคงเป็นคนรักของเขา"ไม่หรอก เรากลับก่อนนะ" เสียงล็อกดังขนาดนั้น รู้แล้วว่าถ้าเคาะประตูเธอคงไม่เปิดให้แน่คะน้ามองตามหลังผู้ชายที่เกือบจะเป็นแฟนกัน แต่คงเพราะทั้งสองไม่ใช่คู่กัน ก็เลยมีเหตุต้องได้แยกกันไปคนบ้า ไม่คิดจะอธิบายอะไรเลยเหรอ พอได้ยินเสียงรถเขาขับออกไปก็เริ่มตำหนิ แค่เขาเคาะประตูเธอก็จะเปิดให้แล้ว แต่นี่หนีกลับเลยเหรอ เขากับผู้พันคนสวยนั่นเป็นอะไรกันกันแน่วัน
"รู้ได้ไงครับว่าผมกำลังอยากกินผัดคะน้าอยู่""ผัดคะน้าที่ไหนคะ นั่นผัดกระเพราค่ะ" มุกงามเห็นว่าพายุตักลงไปที่ผัดกระเพรา"อ้าวเหรอครับ ทำไมผมถึงมองเป็นผัดคะน้าไปได้เนี่ย""ไม่ขำ" ตกลงที่ชวนมันมาทานข้าวด้วย จะทำให้กดดันมากกว่าเดิมหรือเปล่าเนี่ย"อุ๊ย"พอทานข้าวอิ่มผู้หญิงก็เก็บถ้วยชามเข้าไปล้าง"คะน้าขอตัวก่อนนะคะ""ค่ะ" แค่นี้มุกงามก็ดูออกแล้วว่าสองคนนี้ต้องเป็นมากกว่าเพื่อนแน่ เพราะยิ่งพยายามกลบเกลื่อนมันก็ยิ่งทำให้เห็นชัดคะน้าออกมาจากในครัวก็เดินเข้าห้องของตัวเอง คิดว่าถ้าพวกเขาออกไปแล้วค่อยมาอาบน้ำแล้วกันมุกงามออกมาจากในครัวจะไล่พวกเขากลับก็คงดูไม่ดี เธอก็เลยเดินไปนั่งด้วย"กูไปล่ะ" พอเธอเดินมานั่งพายุก็ลุกขึ้น เพราะตอนนี้เพื่อนคงไม่ต้องใช้ตัวช่วยแล้ว"ทำไมรีบกลับนักล่ะคะ""วันจันทร์ก็ออกเรือแล้ว เผื่อพวกคุณมีอะไรคุยกัน""วันจันทร์?" วันนี้ก็วันเสาร์แล้วพอพายุออกไปทศนก็ชวนเธอออกมานั่งคุยหน้าบ้าน เพราะถ้าคุยอยู่ในบ้านกลัวว่าคะน้าจะไม่เป็นส่วนตัว"ครั้งนี้ผมไม่รู้ว่าจะลงเรือกี่เดือน"มุกงามทำได้แค่นั่งเงียบ เพราะเธอรู้สึกใจหวิวๆ"คุณจะคิดถึงผมไหม"ดวงตาที่เศร้าหมองมองไปดูคนที่ถาม เธ
เอวาลงจากรถรีบเดินเข้าไปหาคนรักของลูกชาย ความทุกข์ใจของการรอใครสักคนเธอเคยผ่านมาหมดแล้ว ตอนนั้นสามีไปออกรบช่วยประเทศพันธมิตรไม่รู้ว่าสามีเป็นตายร้ายดียังไงความทรมานนั้นมากกว่านี้หลายเท่าตัวนัก"หนู"มุกงามได้ยินเสียงคนเรียกก็เลยหันกลับไปมอง"คุณแม่คะ" เธอไม่รู้ตัวว่าเผลอเรียกท่านว่าแม่ด้วยซ้ำ"พี่เขาไม่ได้ยินหรอกเสียงเครื่องยนต์มันดัง" เอวาก็มาส่งลูกชายเช่นกัน ตอนที่กำลังจะกลับเห็นแฟนของลูกชายวิ่งมาพอดี"เมื่อคืนนี้เขานัดไว้ว่าจะพามาทานข้าวกับคุณแม่ แต่เขาไม่ไปรับ ออกเรือยังไม่รออีก" น้ำตาที่คลออยู่เมื่อสักครู่ค่อยๆ ไหลออกมาเอวาก็ไม่รู้จะปลอบยังไง เพราะเธอก็เป็นห่วงลูกชายเหมือนกันหลายวันต่อมา.."ผู้พันมุกงาม มีสายมาจากบนเรือครับ"มุกงามรีบวิ่งไปที่ห้องการสื่อสาร บนเรือไม่ใช่ว่าใครจะเอาโทรศัพท์ไปใช้ก็ได้ ต้องมีเหตุจำเป็นจริงๆ ถึงขอติดต่อมาหาคนบนฝั่ง>>{"งามเองค่ะ"} หญิงสาวยกสายนั้นแนบหู และรีบบอกเขาว่าเธอมาแล้ว {"คุณเป็นยังไงบ้าง"}>>{"สบายดีค่ะ คุณล่ะคะ"} {"คิดถึงคุณอยากกระโดดน้ำว่ายกลับฝั่งตอนนี้เลย"}>>{"ฉันก็คิดถึง"} {"อะไรนะ"} ทศนไม่คิดว่าจะได้ยินเธอบอกว่าคิดถึงเขา>>{"
"ผู้พันมุกงามครับ""คะ" มุกงามรีบลุกขึ้นคิดว่ามีคนมาตามให้ไปรับสาย"งานเมื่อเช้านี้เสร็จหรือยังครับ""งาน?" ทำไมเราเบลอได้ขนาดนี้ ไม่เป็นอันทำงานเลยเหรอ "ขอเวลาอีกชั่วโมงหนึ่งค่ะเดี๋ยวไปส่งที่ห้อง" เธอย้ายมาทำงานเกี่ยวกับงานเอกสาร ก็เลยไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น จะตื่นเต้นหน่อยก็ตอนที่มีคนมาเรียกและคิดว่าเขาโทรมาหานี่แหละจนถึงเย็นวันเดียวกัน..กว่าจะทำงานเอกสารเสร็จในแต่ละวัน ร่างกายก็เหนื่อยล้าไม่ต่างจากออกฝึกเลยเขาไปกี่วันแล้วเนี่ย ถามตัวเองไปงั้นแหละ ทั้งๆ ที่นับวันนับคืนรออยู่ รวมระยะเวลาที่เขาออกเรือไปก็เดือนหนึ่งแล้ว เพิ่งได้คุยกันแค่ครั้งเดียวเอง งานยุ่งขนาดนั้นเลยเหรอเธอได้คุยกับเขาก็แค่ตอนมาทำงาน เพราะทหารถูกฝึกให้มีความอดทน ถ้าจะติดต่อใครก็แค่ติดต่อมาในเวลาและสถานที่ราชการเท่านั้น กฎของทหารเคร่งครัดมากออกจากที่ทำงานเธอก็ขับรถมาดูริมชายหาด ตรงที่เคยมาจอดรถอยู่กับเขาถ้าวันที่เขาชวนออกมาขับรถเล่น และถ้าเธอออกมาด้วย คงเป็นอีกวันที่เขาพามาจอดรถที่นี่ เราเป็นบ้าอะไรเนี่ย ไม่หวงเนื้อหวงตัวเลยหรือไง เพราะเธอแอบเสียดายวันนั้นน่าจะออกมากับเขาก็ดีใบหน้างามแดงขึ้นมา และรอยยิ้มนั้นก็ปราก
"ผมเอง""?" แค่เพียงประโยคเดียวเธอก็จำได้แล้วว่านั่นเป็นเสียงของใคร เท้าเรียวค่อยๆ ก้าวเดินมาที่ประตู และเปิดมันออกโดยไม่รอช้าแอดดดด...สิ่งแรกที่มุกงามทำคือกระโดดเข้าไปกอด ไม่คิดจะถามเลยด้วยซ้ำว่าเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอถึงไม่ได้ข่าวเลย"อุ๊ย" พายุที่ยืนอยู่ด้านหลังถึงกับหันหน้าไปมองทางอื่นแทบไม่ทัน"เข้าไปข้างในก่อนดีไหม" เขาก็อยากกอดเธออยู่แบบนี้ให้นาน แต่ข้างบ้านนี่สิดูจะอยากรู้อยากเห็นเกินไปแล้วข้างบ้านที่ทศนหมายถึงก็คือวัชระและรูมเมทอีกคน เพราะพวกนั้นเปิดหน้าต่างออกมาดูเลยว่าเป็นใครแกร็ก.. คนที่อาบน้ำอยู่ไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเสียงมุกงามเปิดประตูหน้าบ้าน พอล้างผมเสร็จคะน้าก็เอาผ้าขนหนูมาพันรอบตัวไว้ก่อนที่จะเปิดประตูออกมาดู"......." ออกมาพอรู้ว่าเป็นใคร คะน้าก็รีบเดินเข้าไปในห้องนอน ทศนไม่ได้สนใจเลยว่าคะน้าอยู่ในสภาพไหน เพราะเขายังคงให้ความสนใจกับผู้หญิงที่กอดอยู่ แต่กับพายุนี่สิ..ได้แต่ทำตาปริบๆ มองตามไป"จะไม่ถามเหรอว่าผมขึ้นฝั่งมาตอนไหน" ขณะที่พูดทั้งสองก็ยังคงไม่ได้ปล่อยกอดออกเลย และทศนคิดว่ามันคุ้มมากกับการออกเรือครั้งนี้"แล้วพวกคุณขึ้นฝั่งมาตอนไหนคะ
"แต่งงานกับผมนะ"หญิงสาวพยักหน้าตอบไป นาทีนี้ถึงกับพูดไม่ออก แต่ก็อยากรีบตอบตกลง"ดีใจจังผมจะมีเมียแล้ว""แล้วผู้ใหญ่ฝ่ายคุณ.." เธอกับเขาอยู่คนละชนชั้นเลย ยังคิดว่าตัวเองฝันไป แบบเธอเนี่ยนะ..จะคว้าลูกชายนายพลลงมาขอแต่งงานด้วยได้"ผมคุยกับแม่แล้ว ท่านบอกให้ขอคุณก่อน ถ้าคุณตกลงท่านถึงจะทำตามพิธี""คุณคุยกับท่านตอนไหนคะ" ได้ยินเขาบอกว่าลงจากเรือแล้วตรงมาหาเธอเลยแล้วเอาเวลาไหนไปคุยกับแม่"ตอนอยู่บนเรือ"แบบนี้นี่เองเหรอที่เขาไม่ได้โทรมาหาเธอแต่เลือกโทรหาแม่ จะผิดไหมถ้างอนให้เขาตอนนั้น"รักผมไหม""รักค่ะ" เธอยังไม่ได้ยินคำว่ารักจากเขาหรอก แต่ถ้าเขาต้องการให้เธอพูดก่อนเธอก็จะพูด ระยะเวลา 3 เดือนที่จากกันมันเหมือนจากกัน 3 ชาติเลย"ผมก็รักคุณ""จริงหรือคะ""จริงสิ รักมากด้วย" พูดจบใบหน้าหล่อคมก็ซุกลงที่ซอกคอของเธออีกครั้งครั้งนี้เธอไม่พูดเรื่องงานแล้ว แถมยังกอดเขาไว้แน่น"ขอนะ" ชายหนุ่มกระซิบพูดในขณะที่ขยับขึ้นมาแนบจูบ ถึงแม้เธอจะตอบอนุญาตก็คงพูดไม่ได้แล้วเพราะถูกเขาปิดปากไว้จูบอยู่ครู่หนึ่งไม่รู้ว่าเขาล้วงเอาอาวุธลับตัวเองออกมาตั้งแต่เมื่อไร มารู้ตัวอีกทีตอนที่เขาจับมือเธอกำมัน ใบหน้างามแด
พอรถจอดลงที่ริมชายหาด มือหนาก็เอื้อมไปคว้าคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ เข้ามาไซร้ซอกคอ"อือ ใจเย็นก่อนสิคะ""เย็นไม่ได้แล้ว" ขณะที่พูดเขายังไม่ได้ถอนริมฝีปากออกมาจากซอกคอนั้นเลยมุกงามปล่อยให้เขาสัมผัสร่างกายของเธอโดยที่ไม่ได้ห้าม แถมยังขยับขาแยกออกเพื่อให้มือหนานั้นลูบคลำมันได้ถนัด"อือ คุณทัศ" ลูบคลำเนินอวบนูนอยู่ครู่หนึ่งเขาก็แหวกกางเกงชั้นในแล้วแหย่นิ้วเข้าไปสะกิดยอดเม็ดเสียว"ทนไม่ไหวอีกแล้ว" ริมฝีปากหนากระซิบพูดข้างใบหู ในขณะที่ค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปในร่องเล็กนั้นแต่แทนที่เขาจะข้ามฝั่งเหมือนคราวก่อน ครั้งนี้เขาใช้แรงดึงร่างของเธอให้ลอยข้ามมาได้อย่างง่ายดาย"โอ๊ย ทำอะไรของคุณ" หญิงสาวยังไม่ตั้งหลักทั้งตกใจและก็เจ็บตรงที่ถูกมือของเขากระชาก"ก็มันทนไม่ไหวนี่" เขาล้วงส่วนสำคัญนั้นออกมาตั้งรอไว้แล้ว พอร่างของเธอข้ามมาได้เขาก็ค่อยๆ ดันมันผ่านขอบกางเกงชั้นในที่ขยับออกเล็กน้อยเข้าไป "ซี๊ดด นั่งทับลงมาเลย""อื้อ" หญิงสาวทำตามโดยการทิ้งน้ำหนักลงมาช้าๆ"น่ารักจัง" ดวงตาคมมองส่วนที่มันกำลังจมหายเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย แล้วก็จับสะโพกของเธอยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะปล่อยให้เธอทิ้งน้ำหนักตัวลงมาช้าๆ "
"จะออกไปทำงานแล้วเหรอครับ"พอได้ยินคนข้างบ้านทักคะน้าก็เลยหันมองไปดูด้านหลังตัวเองว่าพวกเขาทักใคร แต่พอไม่เห็นใครเธอก็เลยหันกลับมา"ค่ะ" ไอ้พวกนี้จะอะไรนักหนาเนี่ย จะแจ้งเรื่องความไม่เหมาะสมก็ไม่ได้ เพราะพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่คะน้าไม่ชอบเอาซะเลยผู้ชายแบบนี้"พวกผมกำลังจะออกไปเหมือนกันเลยครับ"คะน้าไม่ตอบ พอใส่รองเท้าเสร็จก็รีบไปที่รถแล้วขับออกไปเลยคนที่นอนอยู่โซฟาเมื่อคืนนี้ค่อยๆ ชะโงกหน้าขึ้นมองผ่านหน้าต่างออกไปดู"ยากๆ แบบนี้แหละกูชอบ" วัชระเห็นว่าเธอไม่ตอบก็เลยหันไปพูดกับเพื่อน"หล่อนมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ""มึงเชื่อด้วยเหรอ" เพราะวัชระแอบสังเกตอยู่ ถ้าเป็นแฟนกันต้องมีฉากสวีทเหมือนอีกคู่บ้างสิ แต่นี่ไม่มีเลยเย็นวันเดียวกันนั้น.. พอมุกงามเลิกงานมา ก็เห็นว่ารถของท่านนายพลจอดอยู่หน้าบ้านพัก"พวกท่านมาที่นี่ทำไม?" หญิงสาวรีบเข้าไปดูในบ้าน"มาแล้วครับแม่" ทศนเห็นว่ามุกงามเดินเข้ามาก็เลยบอกแม่"สวัสดีค่ะ" เธอไม่ได้ลืมหรอกที่เขาบอกว่าแม่จะมาวันนี้ แต่ไม่คิดว่าท่านจะมารอที่บ้านพัก เพราะพื้นที่มันคับแคบมาก"สวัสดีจ้า ตาทัศคงเล่าให้หนูฟังแล้วว่าพ่อกับแม่มาทำไม""ค่ะ" หญิงสาวเดินเข้าไปนั่ง
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 108🔞 ตอนจบงานแต่งวันนี้พายุจัดได้ใหญ่โตมาก เทียบเท่ากับงานของทศนได้เลย เพราะเขาไม่อยากให้เธอน้อยหน้าใคร แถมเจ้าสาวไม่ต้องลงแรงทำอะไรเลยแค่รอรับการเซอร์ไพรส์จากเขาเท่านั้นพอ"ผมรักคุณ" ชายหนุ่มล้วงเอาแหวนเพชรที่เตรียมมาให้กับเธอออกมาเพื่อจะสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายคะน้ายื่นมือข้างซ้ายไปให้เขาได้สวมใส่"ถอดออกก่อนดีกว่าไหมครับ" ตรงนิ้วนางข้างซ้ายยังมีแหวนทองที่เขาขอหมั้นเธอ"ไม่ค่ะ สวมด้วยกันเลย" มันเป็นแหวนที่เขาให้คะน้าก็เลยไม่อยากจะถอดมันออกพายุก็เลยสวมแหวนเพชรเข้าไปนิ้วเดียวกับแหวนทอง วงที่ให้เธอก่อนหน้านั้นพอสวมแหวนเสร็จเสียงปรบมือก็ดังขึ้น "จูบเลย จูบเลย" กองเชียร์หลายคนต่างก็เชียร์ให้คู่บ่าวสาวแสดงความรักให้กับแขกได้เห็นมือหนาถูกยกขึ้นมาบังในขณะที่จูบปากเธออยู่ เพื่อไม่ให้มันเป็นภาพโจ่งแจ้งเกินไปสาวๆ ต่างก็กรี๊ดกันสนั่น เพราะมันเป็นฉากที่ฟินมาก ไม่เคยมีใครทำแบบนี้ เพราะนั่นหมายถึงเขาให้เกียรติเจ้าสาวมากพอพายุปล่อยจูบออกสายตาคนเป็นเจ้าสาวยังคงจับจ้องที่ใบหน้าเจ้าบ่าวของเธอ"คะน้าขอโทษด้วยนะคะ""คุณขอโทษผมทำไม""ขอโทษเรื่องที่พ่อกับแม่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย"
"แน่ใจนะว่านี่ชุดกินเลี้ยง?" คะน้าแปลกใจตั้งแต่ที่มุกงามเลือกชุดให้ลองใส่ดูแล้ว"รับชุดนี้แหละค่ะสวยดี" มุกงามไม่ได้ตอบคะน้าหรอกแต่หันไปพูดกับเจ้าของร้าน"เดี๋ยวก่อนนะงาม..""ไม่เดี๋ยวแล้วเอาชุดนี้แหละ" มุกงามก็เลยยื่นบัตรเครดิตไปให้เจ้าของร้านรูด แต่บัตรที่มุกงามให้ไปไม่ใช่ของตัวเองหรอก เป็นของใครบางคนที่วานให้เธอทำงานนี้ให้"คะน้าจ่ายเองก็ได้" คะน้าพูดแบบเกรงใจก่อนที่จะรับชุดจากเจ้าของร้านมา"กลับกัน"คะน้าเดินตามมุกงามออกมา ทำไมวันนี้เพื่อนดูแปลกๆ ถามอย่างก็ตอบอย่าง[บ้านพักข้าราชการ]"พวกเขาไม่อยู่เหรอ" เข้ามาในบ้านก็ไม่เจอทั้งพายุและทศน ทั้งๆ ที่พวกเขายังอยู่ในช่วงลาพัก"คงออกไปธุระเราไม่ต้องรอหรอก" มุกงามเป็นคนตอบคะน้าขอตัวเอาของเข้าไปเก็บในห้อง และเธอก็อดโทรถามไม่ได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนทำไมโทรศัพท์ถึงไม่เปิด ..แต่โทรไปก็ไม่มีสัญญาณเลยค่ำมืดวันเดียวกัน.."อุ๊ย" ลงจากรถก็เห็นคะน้ายืนเท้าสะเอวอยู่หน้าประตู"ตัวใครตัวมันนะเว้ย" ทศนกระซิบพูดกับพายุก่อนที่จะเดินผ่านคะน้าเข้าไปในบ้าน"ผมไปทำธุระมาครับ""แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ล่ะคะ""สงสัยว่าแบตผมจะหมดแน่เลย" พายุทำทีเป็นล้วงโทรศั
พอได้ยินยอดเงินที่แม่ขอจากเขาแล้วมือเรียวก็เอื้อมไปขอโทรศัพท์คืนไม่อยากให้เขาคุยต่อแล้ว {"ถ้าไม่มีเงินสินสอดถึงหนึ่งล้านบาท ก็อย่ามาคุยกับลูกสาวของฉัน"} เสียงนี้ยังดังเล็ดลอดออกมา"แม่หยุดนะ" พายุไม่ยอมส่งโทรศัพท์คืนให้ เธอก็เลยต้องร้องบอกให้แม่หยุดพูดก่อน>>{"ได้ครับ ผมให้คุณสองล้านเลย ถ้าคุณสัญญาว่าจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับคะน้าอีก"}"มันพูดเล่นหรือพูดจริงวะ" เสียงผู้ชายดังเข้ามาในสาย และคะน้าก็จำได้ว่ามันเป็นเสียงของพ่อ"ผู้พันคะ" คะน้าเรียกเขาให้หันกลับมามองเธอก่อน พอเขาหันกลับมาเธอก็ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกว่าอย่าไปคุยเรื่องเงินกับพ่อกับแม่"เอามาเดี๋ยวกูพูดเอง" เสียงผู้ชายที่ดังมาตามสายยังคงพูดต่อ เหมือนว่ากำลังแย่งโทรศัพท์กันคุย"ไม่ต้องมายุ่งนะนี่ลูกสาวฉัน!""อ้าวอีนี่ลูกมึงก็ลูกกูเหมือนกัน">>{"ผมอยากให้พวกคุณตกลงกันให้รู้เรื่องก่อนค่อยโทรกลับมาแค่นี้นะครับ"} {"อย่าเพิ่งสิคุณ"} พอได้ยินว่าทางฝั่งนี้จะวางสายทางนั้นก็รีบเรียกเอาไว้ก่อน>>{"ถ้าจะตกลงอะไรก็ต้องคิดให้ดีก่อน เพราะพวกคุณกำลังคุยกับข้าราชการระดับสูง จะผิดคำพูดไม่ได้"} {"ได้ๆ แม่ตกลง ถ้าได้เงินสองล้านบาทจริงแม
ลวงรักแฟนเก่า บทที่ 105🔞"คิดถึงคุณจังเลย" พอเข้ามาในห้องนอนลับตาเพื่อนเท่านั้นแหละ พายุก็คว้าร่างของเธอเข้ามากอดไว้แน่น"คะน้าก็คิดถึงคุณค่ะ" ใบหน้างามแนบลงแผ่นอกของชายคนรักเบาๆแต่กอดกันอยู่เพียงไม่นานเขาก็โน้มลงมาขอจูบหญิงสาวยื่นริมฝีปากขึ้นไปรับจูบนั้นแบบรู้งานเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ค่อยๆ ถูกปลดกระดุมออกโดยการช่วยกันคนละไม้ละมือ"ซี๊ดด ขอก่อนนะแล้วค่อยออกไปอาบน้ำกัน""ค่ะ อืออ" เนินอวบถูกของแข็งที่เขา จับถูไถอยู่เมื่อสักครู่สอดใส่เข้ามา ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการสิ่งนี้..เธอก็ต้องการมันเหมือนกันขาเรียวค่อยๆ แยกออกจากกันเองแบบไม่ต้องให้เขาใช้แรง แต่พายุก็ช่วยจับเพราะเธอไม่มีที่ยึดเหนี่ยว"เบาๆ นะคะ""ครับ" ใบหน้าคลอเคลียร์ฝังจูบลงซอกคอของหญิงอันเป็นที่รักเบาๆ พร้อมกับค่อยๆ ขยับ ดันสะโพกนั้นเข้าไปช่องกลางระหว่างขาเรียว "ไปที่เตียงดีไหมครับ"คะน้าส่ายหน้าตอบไป เขาคงอยากได้ในท่ายืนแต่คงกลัวว่าเธอจะเมื่อยขา"ซี๊ดด น่ารักจัง" ริมฝีปากหนาพรมจูบและสูดดมกลิ่นกายอันหอมละมุนพร้อมกับดันสะโพกเข้ามา"อ่ะ อ่ะ อื้อ" คนตัวเล็กเกาะร่างแกร่งไว้แน่น เพียงไม่นานพายุก็พาเธอมานอนลงที่เตียง เพราะตอนกระ
"ใครนั่งฮ.มาลงที่นี่" จากที่กำลังจะเม้าท์เรื่องของผู้พันคะน้า ตอนนี้เปลี่ยนมาพูดถึงเฮลิคอปเตอร์ที่เพิ่งจะลงจอด"ใครจะรู้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เรือกลางทะเลก็ต้องเป็นท่านๆ นั่นแหละ" เรือกลางทะเลหมายถึงทหารที่ออกทำภารกิจอยู่บนเรือ ถ้ามีเหตุด่วนฉุกเฉินสามารถขอกลับฝั่งได้โดยเฮลิคอปเตอร์ แต่นั่นต้องผ่านการเซ็นต์ยินยอมจากคนที่มีอำนาจถือว่าเฮลิคอปเตอร์มาช่วยชีวิตแล้วกัน คะน้าไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องของตัวเองอยู่แล้ว ดีไปที่ขาเม้าท์มีเรื่องอื่นพูดคุยกันหญิงสาวนั่งทำงานจนถึงช่วงเย็นของวันเดียวกัน เธอก็รีบเก็บของแล้วกลับลงมาเพราะรู้สึกวิงเวียนศีรษะหนักมาก"?!?" ขาเรียวเก้าลงมาถึงขั้นสุดท้ายของบันได สายตามองไปเห็นผู้ชายที่ถือช่อดอกไม้ยืนอยู่เบื้องหน้า นี่เราคิดถึงเขามากเลยเหรอมองเห็นแสงตะวันที่สาดส่องมาเป็นเขาได้ยังไงเพื่อนๆ หลายคนที่ทยอยลงมาจากชั้นบนต่างก็หยุดไปตามๆ กัน ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่มีอะไรพิเศษก็คงทำให้คนอื่นหยุดมองไม่ได้ แต่นี่เขาถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่มาก จนเป็นเป้าสายตาของทุกคนที่อยู่แถวนั้น"......" ชายหนุ่มที่ยืนหอบช่อดอกไม้ช่อใหญ่อยู่แปลกใจ ทำไมเธอถึงทำเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่ตร
"ฉันมาขอพบคุณพ่อค่ะ" ไม่มีใครไม่รู้จักเธอในฐานะลูกสะใภ้ของท่านนายพลทศกัณฐ์"เชิญผู้พันได้เลยครับ" ทหารที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเคาะส่งสัญญาณบอกท่านเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดประตูห้องให้"ว่าไงเรา" ทศกัณฐ์ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วชวนให้ลูกสะใภ้มานั่งอีกมุมหนึ่งซึ่งเป็นมุมรับแขก"งามมีเรื่องจะมาขอร้องคุณพ่อค่ะ""มีเรื่องจะมาขอร้อง เรื่องอะไร""คือว่า..." มุกงามทนเห็นเพื่อนอุ้มท้องโดยไม่มีพ่อไม่ได้แล้ว เธอต้องรีบจัดการเรื่องทุกอย่างก่อนที่ท้องของคะน้าจะโตขึ้นมา ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กัน แต่ความคิดของมุกงามก็ไม่ได้ต่างจากคะน้าเลย ถ้าท้องของคะน้าโตขึ้นมาโดยที่ยังไม่แต่งงาน ยิ่งเธอเป็นข้าราชการด้วยแล้ว มันก็จะดูไม่ดีบางทีอาจจะถูกตรวจสอบเลยก็ได้[บนเรือ] เวลาผ่านไปเพียงไม่นานจากตอนที่มุกงามขอเข้าพบพ่อของสามี ก็ได้มีทหารที่ทำงานในห้องสื่อสารมาตามผู้พันพายุไปรับโทรศัพท์ถ้ามีคนโทรขึ้นมาบนเรือแบบนี้ทหารจะตกใจมาก เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนและคนที่โทรเข้ามาไม่ใหญ่พอตัวก็ไม่สามารถที่จะทำแบบนี้ได้ ที่ตกใจส่วนมากคนที่ได้รับโทรศัพท์ มีแค่ไม่กี่เรื่องถ้าญาติไม่ป่วยหนักก็คือญาติเสีย"มันคงไม่มีอะไรหรอก ไ
"งามว่าไปหาหมอดีกว่า" คะน้าไม่ได้มีอาการแค่ตอนทำกับข้าว ตอนทานข้าวคะน้าก็ทานไม่ค่อยลง"นอนให้เต็มอิ่มสักคืนพรุ่งนี้ตื่นมาคงหายดี""ถ้าไม่หายพรุ่งนี้ต้องไปหาหมอกับงามนะ" มุกงามรู้สึกคาใจกับอาการที่เพื่อนเป็นอยู่ แต่เพื่อนยังไม่แต่งงานคงไม่ปล่อยให้ตัวเองท้องก่อนแต่งหรอกมั้ง เธอก็เลยไม่กล้าพูดกล้าถามออกมา นอกเสียจากพาไปให้หมอเช็คให้แน่ใจคะน้าทานข้าวต้มที่มุกงามทำมาให้แล้วก็นอนพักผ่อน มุกงามสั่งไว้ว่าห้ามทานยาตัวไหนทั้งนั้น คะน้าก็เลยไม่ทานที่มุกงามสั่งไว้แบบนี้เพราะถ้าเป็นแบบที่คิดไว้จริง กลัวจะมีผลกระทบ...จนถึงเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้คะน้าพยายามนอนให้หลับ บังคับตัวเองไม่ให้คิดอะไร พอตื่นขึ้นมาก็อาการดีขึ้น"ดีขึ้นแล้วแน่นะ""ดีขึ้นแล้วไม่เวียนหัวเหมือนเมื่อวาน ขอบใจมากนะงาม""ถ้าไม่ไหวก็กลับมาพักผ่อนนะ""จ้ะ" ทั้งสองก็เลยออกมาทำงานพร้อมกันคะน้าทำงานปกติ และอาการแบบเมื่อวานก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีกเลยจนมาถึงช่วงเย็น ทั้งสองกลับมาเจอกันที่บ้านอีกครั้ง"วันนี้เป็นยังไงบ้าง" มุกงามเป็นห่วงเพื่อนตอนเที่ยงก็ยังโทรไปถามอาการ ถึงตอนเย็นก็ยังถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ไม่เป็นอะไรแล้ว""อาการอาเ
"พอดีเลยค่ะ" คะน้ายกมือขึ้นมามองแหวนวงที่เขาเพิ่งสวมให้ด้วยรอยยิ้มที่ยากจะบรรยายพายุเห็นรอยยิ้มเธอก็อดที่จะอมยิ้มไปด้วยไม่ได้ จะไม่ให้พอดีได้ยังไงเขาแอบวัดขนาดตอนที่เธอหลับอยู่"รอผมกลับมานะเราจะจัดงานแต่งกัน""ค่ะ" ใบหน้างามแนบลงกับอกแกร่งเบาๆเช้าวันต่อมา..เมื่อคืนนี้ไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน แต่พอตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นเขานอนอยู่ข้างๆ แล้ว"เขาไปแล้วเหรอ" หญิงสาวที่ร่างกายเปลือยเปล่าแต่ก็มีผ้าห่มคลุมร่างของเธออยู่ รีบลุกขึ้นแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวพันรอบร่างกายไว้ ก่อนที่จะรีบออกมาจากห้อง"ทำไมออกมาแบบนี้" พายุออกจากห้องน้ำก็เห็นเธอมีแค่ผ้าเช็ดตัว"ฉันคิดว่าคุณออกไปแล้ว""ถ้าไปผมก็ต้องปลุกสิ ผมแค่มาอาบน้ำ"พอได้ยินเสียงปลดล็อกประตูห้องของทศน พายุก็รีบพาเธอเข้ามาในห้อง"คุณจะไปลงเรือตอนไหนคะ""คงสายๆ หน่อย""สายๆ เหรอ" เมื่อวานนี้เธอก็ลางานครึ่งวันแล้ว ถ้าลาวันนี้ไปส่งเขาอีกจะเป็นอะไรไหม"ส่งผมแค่นี้ก็ได้" เขาพอจะเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่"โทรมาหาฉันบ่อยๆ นะคะ""ครับ"[ที่ทำงานของคะน้า]"ผู้พันมองอะไรอยู่คะ" เพื่อนร่วมงานเห็นคะน้ามองไปทางท่าเรือก็เลยสงสัย"ป่านนี้เรือจะออกหรือยัง""เห็นว่าต
จากคนที่เคยพูดหยอกล้อ ตอนนี้นั่งเศร้าไม่ต่างกัน เพราะพรุ่งนี้มีคำสั่งขึ้นเรือแล้ว"เราขอย้ายดีไหมวะ""กว่าคำสั่งย้ายจะออกมา เป็นปีเลยนะ""ถ้ากูไม่อยู่แล้วเมียกูจะอยู่ยังไงล่ะ""เรียกเมียได้เต็มปากเลยนะ มึงขอเขาแต่งงานหรือยัง"เที่ยงวันเดียวกัน.."ทำไมคุณไม่โทรมาก่อนคะ" คะน้าลงมาก็เห็นเขายืนทำมาดเท่รออยู่หน้ารถแล้ว"ผมก็เพิ่งมาถึง" พายุพูดพร้อมกับเปิดประตูรถให้เธอขึ้น[ร้านอาหารนอกกอง]"ทำไมออกมาทานไกลจังคะ เดี๋ยวก็เข้างานไม่ทันหรอก""ผมอยากทำอะไรพิเศษๆ ให้กับคุณบ้าง""มีอะไรหรือเปล่าคะ" ทั้งสองคุยกันระหว่างรออาหารที่เพิ่งสั่งไป"พรุ่งนี้มีคำสั่งให้ขึ้นเรือแล้ว"ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากของผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า เพราะเธอพูดไม่ออก"ครั้งนี้ไม่รู้จะออกเรือกี่เดือน ถ้าทะเลสงบก็คงอยู่นานหน่อย""ค่ะ" เธอก็เป็นทหารเหมือนกันทำไมจะไม่รู้ แต่ถึงแม้เป็นทหารก็มีหัวใจ"ผมจะโทรมาหาคุณบ่อยๆ นะ" แต่ก่อนเคยเห็นแต่เพื่อนแย่งโทรขึ้นฝั่งกัน ครั้งนี้คงมีเขาร่วมด้วยอีกคนเพียงไม่นานอาหารก็ถูกยกมาบริการ ถ้าเขาบอกหลังทานข้าวก็คงจะดี แล้วตอนนี้ใครจะทานลงล่ะ"ทานนี่สิครับ" มือหนาตักอาหารวางใส่ชามข้าวให้คะน้าพ