๑๓
ยกเสาเอก
เพียงฤดีนั่งน้ำตาซึมอยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชา มองพระกำลังทำพิธีการยกเสาเอก ซึ่งตอนนี้ท่านกำลังพรมน้ำมนต์และโปรยทรายเสกลงไปที่หลุมเสาเอก พร้อมกับเจิมและปิดทองเสาเอกซึ่งผูกผ้าสามสี หน่อกล้วยและอ้อยเอาไว้
ซึ่งคีรินช่วยจัดเตรียมของมงคลทั้งหลายสำหรับใช้ในการประกอบพิธีอย่างไม่บกพร่อง ไม่ว่าจะเป็น หน่อกล้วย อ้อย ผ้าสามสี ไหนจะข้าวตอก ดอกไม้ แป้งหอม แผ่นทอง แผ่นนาก แผ่นเงินและเหรียญเงินสำหรับใส่ลงไปในหลุมเสาเอก และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
เธอไม่คิดว่าบ้านของเธอจะได้รับการทำพิธีอันเป็นมงคลเช่นนี้ แม้คีรินจะบอกว่าเป็นการทำพิธีเล็ก ๆ ทำเพื่อเป็นสิริมงคลและเพื่อความสบายใจสำหรับเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ไม่ได้ใหญ่โตหรือจัดแบบเต็มพิธีเท่าไรนัก แต่สำหรับเธอกลับรู้สึกว่ามันสมบูรณ์แบบมากทีเดียว ไม่คิดไม่ฝันว่าการเริ่มต้นมีบ้านหลังนี้จะเริ่มต้นอย่างดีงามเช่นนี้
หลังจากพิธีเสร็จสิ้นลง คีรินขับรถไปส่งพระสงฆ์ที่นิมนต์มา ส่วนเธอยังคงยืนมองเสาเอกน้ำต
ใบหน้าของเขาก็อยู่ในตำแหน่งที่ดูดี เหมือนกับเขารู้ว่าต้องจับภาพมุมไหนให้เห็นภาพใบหน้าของเขาในมุมที่ดูดีที่สุด ท่าทางของเขาเหมือนนักแสดงมืออาชีพ ที่ดูแล้วเพลินตาไม่ติดขัด น้ำเสียงที่เขาแนะนำการทำงานเป็นขั้นตอนนั้น ดูเรียบ ๆ แต่นุ่มทุ้มน่าฟังมิน่าเล่าช่องของเขาถึงมียอดติดตามเร็วกว่าช่องไก่กาของเธออย่างมาก เพราะภาพสวยสะดุดตาและเพลิดเพลินในการรับชม แถมคนดูยังได้ความรู้เพิ่มอีกด้วย เพราะก่อนที่เขาจะเริ่มต้นทำอะไร เขาจะเอาภาพที่ออกแบบปริ๊นต์ลงกระดาษแล้ว นำมาถ่ายลงในวีดีโอให้เห็นก่อน ว่าเขามีการวัดขนาดพื้นที่หรือ ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของไม้แต่ละชิ้นนั้นขนาดเท่าไรก่อนจะเริ่มทำวัดขนาดการเข้ามุมเข้าฉากกี่องศา การลาดเอียงเท่าไร หรือต้องใช้เครื่องมือใดในการทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพท์อย่างที่เห็นในคลิป ทุกอย่างเป็นขั้นตอนชัดเจน พร้อมบอกเทคนิคในการทำงานไปด้วยอย่างคนที่มีความรู้ด้านนี้โดยเฉพาะ เป็นการแบ่งปันให้กับคนที่อยากนำกลับไปทำกับบ้านของตัวเองได้โดยไม่ต้องจ้างช่าง ก็ยิ่งทำให้มีผู้เข้ามาติดตามเป็นจำนวนมากตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกว่าการเรียกค่าจ้างสามสิบเปอร์เซ็นต์น่าจะแพงไปสักหน่อย เพ
นภาธรเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรูในกรุงเทพฯ หญิงสาวรีบหยิบสมาร์ตโฟนจากกระเป๋าราคาแพงเมื่อมีสายเรียกเข้า เธอคิดว่าคงเป็นสายจากคนที่นัดไว้ วันนี้เธอมีนัดในร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมดัง ด้วยมีรุ่นน้องที่รู้จักกันเป็นเซลล์ขายกระเป๋าอยู่ที่นี่ ซึ่งได้โทร. เรียกให้เธอเข้ามาดูกระเป๋าคอลเลกชันใหม่ที่เพิ่งเข้ามา ไหน ๆ ก็ต้องเข้ามาแล้ว วันนี้เธอจึงรับนัดกับลูกค้าของเธอที่ร้านกาแฟชื่อดังที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ด้วย จึงยังไม่ได้เข้าไปยังร้านขายกระเป๋า หญิงสาวผลักประตูกระจกเข้ามาในร้านกาแฟหรูซึ่งมีสาขาทั่วโลก ขณะที่ดูชื่อคนต้นสาย ก่อนจะย่นคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อคนที่โทร. เข้ามา“ว่าไงคะพี่ชายสุดหล่อ นึกยังไงถึงโทร. มาหาเนี่ย ทุกทีไม่เห็นจะห่วงน้องนุ่ง วันก่อนก็ทำให้พ่อโทร. มาด่าหูแทบฉีก ไม่ช่วยกันเลย” เธอถามคนต้นสายกลับไป ขณะที่วางกระเป๋าถือลงที่เก้าอี้ว่างแล้วนั่งลงตาม“นั่นเราทำตัวเอง ทำเรื่องใหญ่ไม่บอกพ่อสักคำ ก็ควรโดนแล้ว พี่ช่วยแก้ตัวให้ตั้งเยอะแล้วนั่นน่ะ”“โห แก้ตัว แต่มีการบอกว่าน้องเอาเพื่อนไปทิ้งไว้ในบ้านร้างเนี่ยนะ บอกเลยนะว่าข้อหานี้น่ะ โดนด่
หญิงสาวเดินเข้าไปในบ้าน ด้านหน้าบ้านมีระเบียงกว้างราวสองเมตร ล้อมด้วยราวระเบียงไม้ ซึ่งเธอก็เดินเข้าออกอยู่ทุกวัน ตั้งแต่ช่างเริ่มสร้างเธอก็มาเฝ้าดูอยู่เรื่อย ๆ ตอนเย็นของทุกวันก็ต้องแวะมาดูว่าช่างทำเสร็จไปถึงไหนแล้ววันนี้ช่างเพิ่งจะทาสีย้อมไม้เสร็จแล้วเอานั่งร้านลง ทำให้บ้านสีสวยเด่นขึ้นมาก ช่างวีเป็นช่างไม้ฝีมือดีที่นิดแนะนำให้คีริน ตอนที่เขาไปหานิดเพื่อปรึกษาเรื่องหาคนตัดไม้และแปรรูปได้ และอยากได้ช่างที่ทำงานไม้อย่างที่เขาต้องการได้ นิดจึงได้แนะนำช่างวีมาให้ ซึ่งหลังจากที่สร้างบ้านไม้หลังนี้ให้เธอแล้ว ช่างวีก็จะต้องไปสร้างบ้านเล็ก ๆ อีกสี่ห้าหลัง เพื่อที่จะใช้เป็นที่พักนักท่องเที่ยวในไร่ของคีรินต่อหญิงสาวเดินเข้าไปในบ้าน เธอเลื่อนประตูบ้านซึ่งเป็นกรอบไม้กรุกระจกสวยงาม ผนังบ้านในส่วนห้องโถงไม่ได้โชว์โครงไม้แต่ใช้แผ่นไม้ปิดผนังให้ดูเรียบร้อย เพื่อง่ายในการทำความสะอาดและดูสวยงาม ส่วนหน้าต่างเป็นกระจกแบบเดียวกับประตู ซึ่งคีรินเป็นคนพาเธอไปซื้อ โดยการวัดขนาดแล้วให้ช่างกระจกตัดให้ตามขนาดที่ต้องการ ซึ่งราคาถูกกว่าซื้อชุดหน้าต่างกระจกแบบสำเร็จ เขาทำให้เธอประหยัดเงินได้มาก
คีรินขับรถมาจอดหน้าบ้านแล้วเดินไปยังกองพันธุ์ไม้ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเพียงฤดีปลูกใส่ถุงดำไว้ แล้วตะโกนเรียก “มาสิ มาช่วยพี่ขน” “ขนไปไหนคะ” หญิงสาวเลิกคิ้วถามอย่างประหลาดใจ “ขนใส่รถไง เดี๋ยวจะพาไปทำกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” เขาว่า เพียงฤดีทำหน้างง แต่ก็ช่วยเขาขนขึ้นรถอย่างเต็มใจ “เอาพะยอมห้าสิบต้น กระถินเทพาร้อยห้าสิบก็แล้วกัน” คีรินบอก เพียงฤดีทำตามที่เขาบอกจนได้ครบจำนวน เขาก็เดินไปหยิบจอบและถุงมือใส่รถ เรียกให้หญิงสาวขึ้นรถแล้วขับเข้าไปในสวนป่า “พี่คีรินจะเอามาปลูกเหรอคะ&
๑๔เจ้าของบ้าน คีรินขับรถออกจากที่ว่าการอำเภอ เขาหันมองเพียงฤดีที่ตอนนี้นั่งจ้องทะเบียนบ้านของตัวเองมาครู่ใหญ่แล้ว เปิดหน้าโน้นหน้านี้อ่านแล้วก็ดูซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะหลังจากที่สร้างบ้านเสร็จ เขาก็เอาแบบฟอร์มขออนุญาตสร้างบ้านที่เทศบาลตำบลออกให้ ไปให้ผู้ใหญ่บ้านออกเอกสารเซ็นรับรองให้เรียบร้อย ก่อนจะรีบมาที่ว่าการอำเภอต่อเพราะพอผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ถ้าบ้านเสร็จแล้วก็ถ่ายรูปภายนอกภายในบ้านและห้องน้ำพริ๊นต์ใส่กระดาษ แล้วไปออกเล่มทะเบียนบ้านที่อำเภอได้เลยไม่ต้องรอถึงสิบห้าวันก็ได้ เจ้าของบ้านสาวเห่อมาก รีบกลับมาถ่ายรูปแล้วจะปั่นจักรยานไปอำเภอเอง เขาจึงต้องขับรถมาส่ง“เป็นอะไรหรือเรา ดูแล้วดูอีก ดูไม่เสร็จสักที” เขาหันไปถาม“ฤดีดูให้แน่ใจว่าเป็นชื่อฤดีจริง ๆ หรือเปล่า” หญิงสาวตอบ ตาก็มองชื่อเจ้าของบ้านที่อยู่ในสมุดสีน้ำเงินเล่มเล็กนั้นราวกับว่ากำลังฝันไป“ก็เป็นชื่อเราสิ จะเป็นชื่อใครล่ะ หืม” เขายื่นมือมาลูบหัวคนที่นั่งข้าง ๆ ราวเดือ
๑๕ยอมเป็นแฟนพี่มั้ย เพียงฤดีทรุดนั่งฝั่งตรงข้ามของคีริน แล้วเริ่มลงมือรับประทานอาหาร แม้เป็นอาหารเหลือจากมื้อเช้า แต่คีรินก็กินอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดเกลี้ยง เขาบอกให้เธอไปนั่งรอ ส่วนเขาช่วยเก็บจานชามไปล้างให้อย่างเอาใจ แล้วไปนอนบนโซฟาให้เธอนวดหลังให้ “พี่คีรินไม่เปิดทีวีดูหรือคะ” เธอถาม เพราะปกติเขาจะนั่งดูทีวีอยู่ตรงนี้ ถ้านั่งปุ๊บก็จะหยิบรีโมทกดดูทีวีทันที แต่วันนี้กลับมานอนคว่ำหน้าให้เธอนวดอย่างเดียว “ไม่อ่ะ ไม่อยากดู อยากนอนนิ่ง ๆ ให้ฤดีนวดมากกว่า” หญิงสาวจึงได้ลงมือนวดให้เขา คนนอนให้นวดหลับตาพริ้ม ยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อมือเล็ก ๆ กดลงบนแผ่นหลัง มันไม่ได้ทำให้เขาถึงกับหายปวดหลัง แต่มือเล็กที่จุ๊กจิ๊กอยู่บนแผ่นหลัง มันให้ความรู้สึกผ่อนคลายจนเขาแทบจะเคลิ้มหลับ กระทั่งหญิงสาวขยับตัว เขาจึงคิดว่าเธอคงจะนวด
มือเรียวโอบแผ่นหลังของเขาเอาไว้ ความอบอุ่นในตัวเขาทำให้เธอมีความสุขจนไม่รู้ว่าจะอธิบายออกมาอย่างไร เป็นความอบอุ่น อ่อนโยนลึกซึ้ง ที่ทำให้เธอรู้สึกถึงความมั่นคงในหัวใจซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่จะมีใครสักคนให้เธอได้พึ่งพิงได้สักที ที่ผ่านมาเธอมีแต่ความโดดเดี่ยว เป็นหลักให้คนอื่นพึ่งพิงมาโดยตลอด“ดีใจจัง พรุ่งนี้พี่จะได้แนะนำได้ถูกสักทีว่าฤดีเป็นแฟนพี่ คิดมาตั้งหลายวันแล้วว่าจะบอกเพื่อนยังไงดีว่าพี่กับเราเป็นอะไรกัน”“ก็บอกว่าเป็นเพื่อนของน้องสาวก็ได้นี่คะ” เธอว่า“บอกแบบนั้น ไอ้พวกนั้นก็ได้มาจีบฤดีล่ะสิ ไม่เอาหรอกพี่หวง กะว่าถ้าวันนี้ฤดียังไม่ยอมเป็นแฟนพี่ พรุ่งนี้พี่ก็จะบอกเพื่อนอยู่ดีว่าพี่จีบฤดีอยู่ พวกนั้นจะได้ไม่ต้องมายุ่ง” เขาบอกแผนการของตัวเอง เพียงฤดียิ้มขบขัน“งั้นวันนี้ก็วางแผนเอาไว้แล้วสิคะ ที่มาทำเป็นขอให้ฤดีนวดให้เนี่ย”“ก็นิดหน่อย แค่วางแผนว่าทำยังไงให้ได้อยู่ใกล้ชิดกันบ้าง จะได้มีโอกาสถาม นึกได้ว่ายังไม่ได้ปลูกต้นไม้คืนที่ตัดไปเลย ก็เลยได้แผนขุดหลุมให้ปวดหลัง แล้วให้มานวดหลังให้ เขาต้องใจอ่อนบ้างแหละ ได้ผลจริง ๆ ด้วย” ว่าพลางหอมแก้มน
เพียงฤดีจัดเตรียมอาหารและข้าวของหลายอย่างไว้ต้อนรับเพื่อน ๆ ของคีรินที่กำลังจะเดินทางมา เขาพาเธอไปซื้ออาหารทะเลจำนวนมากตั้งแต่เช้า ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ และปลา จนแทบจะขนขึ้นรถไม่หมดเขาบอกว่าเพื่อน ๆ ทั้งหมดจะมาร่วมงานเป็นทีมเดียวกับเขา คราวนี้จะมาประชุมจัดตั้งบริษัทด้วยกันเป็นครั้งแรก เป็นเพื่อนร่วมงานทีมเดียวกันตั้งแต่อยู่บริษัทเดียวกัน แต่ละคนร่วมงานกันมานานห้าถึงสิบปี รู้ใจกันดี แต่ต่างก็แยกย้ายลาออกจากที่ทำงานเดิมไปรับงานฟรีแลนซ์อย่างที่เขาทำอยู่ บ้างก็ทำธุรกิจของตัวเอง เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเปิดบริษัทและต้องการคนร่วมทีม ทุกคนจึงจะมาร่วมลงทุนด้วยเพราะตอนนี้เทคโนโลยีการสื่อสารทันสมัย ไม่จำเป็นต้องไปทำงานในออฟฟิศทุกวันเหมือนอย่างแต่ก่อน ทุกคนทำงานเชื่อมโยงกันได้ทางโลกออนไลน์ แม้เขาจะอยู่ไกลจากกรุงเทพฯ มากก็ไม่ใช่ปัญหาในการทำงานร่วมกัน รถยนต์หรูห้าคันกำลังขับเข้ามาที่หน้าบ้าน คีรินยิ้มร่าด้วยท่าทางดีใจ วางมือจากการช่วยเพียงฤดีเตรียมของอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัวเอาท์ดอร์หน้าบ้าน แล้วออกไปต้อนรับ&nb
“นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ
“งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน
๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb
ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให
งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น
๒๑ปรับตัวเองง่ายกว่าเพียงฤดีอัดคลิปนิยายเสียงเสร็จก็เดินกลับไปที่บ้านเพื่อช่วยมารดาทำอาหารเย็น ปล่อยให้คีรินได้กลับไปทำงานของเขา ซึ่งช่วงเย็นเขาก็จะมากินข้าวที่บ้านของเธอ เนื่องจากมารดาจะทำกับข้าวไว้ให้ตั้งแต่หทัยรัตน์รู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ คีรินก็ถือโอกาสไม่กินข้าวตอนเย็นที่บ้านตัวเองอีก จะหิ้วท้องไปนั่งรอกินข้าวที่บ้านของเธอทุกเย็นมีเพียงช่วงเช้าที่เธอจะมาทำอาหารเช้าให้เขาตามปกติ โดยทำเผื่อไปถึงมื้อเที่ยงด้วย และเธอก็กินมื้อเช้ากับมื้อเที่ยงร่วมกับเขา โดยที่มารดาของเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก แต่ช่วงเย็นเธอจะกลับไปช่วยมารดาทำอาหารและรอเขาไปกินด้วยกันเมื่อไปถึงบ้านเธอเห็นนภดลกับมารดานั่งดูสมาร์ตโฟนแล้วคุยอะไรกันอยู่“ดูอะไรเหรอแม็กซ์” เพียงฤดีเดินเข้าไปถาม“ส่องเฟซบีอยู่ ทะเลาะกับพี่ท็อปแล้วโพสต์เฟซด่ากระจาย แถมกรีดข้อมือตัวเองด้วย สยองมาก”“แล้วพี่ท็อปเป็นยังไงบ้างล่ะ”“ก็คงเหนื่อยหน่อยน่ะ เมื่อกี้ผมแค่โทร. ไปจะถามว่ามางานแต่งงานพ
เสียงดังที่อยู่ในห้องนอนฝั่งตรงข้าม ทำให้คีรินต้องเงี่ยหูแนบกับประตูแล้วย่นคิ้วเบา ๆ เมื่อมีเสียงแปลก ๆ เหมือนมีคนสองสามคนอยู่ในนั้น เขาจึงตัดสินใจเคาะประตู “ฤดี ฤดี” ไม่มีเสียงตอบ แต่เขาได้ยินเสียงเดินมาเปิดประตู “มีอะไรหรือคะพี่คีริน” หญิงสาวถาม “ฤดีเข้ามาทำอะไรในนี้น่ะ แล้วเมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกัน”“ไม่มีใครค่ะ ฤดีอยู่คนเดียว” เธอว่าพลางเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม เขาเดินเข้ามาในห้องนอนของเธอ กวาดตามองไปทั่วห้อง ซึ่งตอนนี้ไม่ได้มีข้าวของของเธอมากนัก เพราะขนกลับไปไว้ที่บ้านของตัวเองหมดแล้ว เขาเปิดประตูห้องน้ำดูก็ไม่มีใคร ก่อนจะหันมาถาม “เมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงคนคุยกันจริง ๆ นะ แล้วฤดีทำอะไรน่ะ” เขาเห็นไมค์โครโฟนตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานเลยเดินเข้ามาดู
นิรานั่งมองไลฟ์สดในเพจไร่คีรินที่เธอเห็นเอกภพเปิดดู แล้วลองมาเปิดดูเองบ้าง เห็นท่าทางมีความสุขของเขาแล้วเธอถึงกับน้ำตาปรี่ลงมา เขากำลังมีความสุข ธุรกิจใหม่ก็กำลังรุ่งเรืองในขณะที่เธอสูญเสียเขาไปแล้วส่วนกิตติกรหรือกอล์ฟผู้กำกับชื่อดังซึ่งเธอเอาเงินของคีรินไปฝากลงทุนกับเขา และหวังว่าเขาจะดูแลเธอต่อจากคีรินได้เป็นอย่างดีเพราะมีฐานะดีกว่า และสามารถส่งเสริมอาชีพของเธอได้ แต่ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงที่ลำบากเพราะแม้คีรินจะไม่เอาเรื่อง แต่ก็มีคดีความที่ยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ออนไลน์ชื่อดัง จึงมีการฟ้องร้องของคู่กรณีคนอื่น ๆอีกทั้งเมื่อเธอมาลองคบกับดนุวัฒน์ไฮโซชื่อดัง ก็กลับกลายเป็นว่าคุณสมบัติของเธอไม่เพียงพอที่จะเป็นสะใภ้ผู้ดีเก่าในสายตามารดาของเขา ความหวังที่จะขึ้นไปอยู่บนที่สูงตกวูบลงมาทันใดตอนนี้มีเพียงบริษัทผลิตละครสั้นเล็ก ๆ ที่เธอขอให้คีรินลงทุนให้เท่านั้น ที่เป็นหลักให้กับชีวิต แต่พอเขาออกไป แฟนคลับของเขาก็ติดตามเขาไปด้วย จนตอนนี้ช่องของเธอมียอดวิวน้อยลงมาก รายได้ก็ลดน้อยลงตาม เอานักแสดงใหม่เข้ามาแทนเขา ก็เข้ากับทีมงานไ