Share

บทที่ 517

Author: ไห่ตงชิง
หลี่เฉินกล่าวว่า “สิ่งที่เจ้าพูดก็สมเหตุสมผลดี แต่แล้วการต่อต้านจากเหล่าขุนนางล่ะ? เรื่องการแบ่งที่ดิน เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มากเกินไป และกระตุ้นให้ทุกฝ่ายต่อต้าน จะจัดการอย่างไร?”

เห็นได้ชัดว่าโจวผิงอันได้พิจารณาประเด็นนี้อย่างชัดเจนแล้ว เขากล่าวว่า “ตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้ที่ชนะใจผู้คนได้ก็จะชนะใต้หล้า และใจของผู้คนก็แตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตามหัวใจของประชาชนก็คือหัวใจของคนในใต้หล้า แต่สายตาของประชาชนนั้นคับแคบ และสามารถถูกหลอกได้ง่ายด้วยข่าวลือ ส่วนหัวใจของขุนนางนั้น แม้จะมีหัวใจของประชาชนอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นเหล่าขุนนางก็มีความรู้สึกส่วนตัว จึงจำเป็นจะต้องมีคนดีมาคอยชี้นำ”

“เรื่องนี้มีอุปสรรคมากมายจริงๆ พูดได้เลยว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ก็จะถูกเหล่าขุนนางรุมโจมตี ดังนั้นฝ่าบาทต้องไม่หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเอง”

“ผู้ชี้นำจะต้องมีสถานะที่สูงพอ และมีบารมีเพียงพอที่จะโน้มน้าวใจได้ ฝ่าบาทเพียงแค่ต้องรอให้มันเกิดขึ้น”

หลี่เฉินถาม “เจ้ามีใครจะแนะนำไหม?”

โจวผิงอันโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาททรงมองทุกอย่างอย่างชัดแจ้ง ย่อมต้องมีคนในใจอยู่แล้ว กระหม่อมไม่กล้าพูดไร้สาร
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 518

    ซานเป่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “เกรงว่า...อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะ”หลี่เฉินเลิกคิ้วและพูดว่า “ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่เขาตกลงรับราชการ ดูสิ เจิ้งเป่าหรงก็มาจากเวยไห่เว่ยเช่นกัน แต่ก็มาถึงเมืองหลวงเพื่อเข้ารับตำแหน่งในวันรุ่งขึ้นได้”“ต่อให้ถานไถจะเดินทางช้าแค่ไหน สัมภาระมากมายเพียงใด ก็ควรจะคืบคลานจากเวยไห่เว่ยมายังเมืองหลวงในครึ่งเดือนได้แล้ว ยังจะมาขอเวลาอีกสักพักงั้นเหรอ?”ซานเป่ายิ้มอย่างขมขื่น “ท่านจิ้งจือผู้นี้ มีหนังสือที่ซ่อนอยู่ในบ้านซึ่งสามารถใส่รถได้ถึงยี่สิบคัน แค่จัดหนังสือก็ใช้เวลาไปหกเจ็ดวันแล้ว”“ได้ยินมาว่าตามสถาบันศึกษาอื่นๆ ของเขามีหนังสือซ่อนไว้มากกว่านี้ ซึ่งเขาได้กำชับให้คนของเขาไปขนพวกมันทั้งหมดมาที่เมืองหลวง”“นอกจากนี้ ความลับที่ว่าเขาเข้ารับราชการก็ถูกเปิดเผยไปแล้ว จึงมีบัณฑิตและนักวิชาการนับไม่ถ้วน พากันแห่มาแสดงความยินดีกับเขา”“ตลอดการเดินทางของท่านจิ้งจือ มีพวกนักวิชาการคอยรายล้อม วันหนึ่งสามารถเดินทางได้ถึงสามสิบลี้ก็นับว่าไม่เลวแล้ว”หลี่เฉินนวดขมับแล้วกล่าวว่า “ตาเฒ่าผู้นี้ช่างลำบากจริงๆ และการจะสั่งให้เขารีบมาที่เมืองหลวงก็เป

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 519

    “หลังจากกระหม่อมกลับไปแล้วจะดำเนินการวางแผนประหยัดค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ซึ่งกระหม่อมเคยประมาณไว้ก่อนหน้านี้แล้ว มันจะช่วยราชสำนักประหยัดเงินไปได้หนึ่งปี”“แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือขยายต้นสายน้ำให้ไหลมากขึ้น[footnoteRef:1]ซึ่งกระหม่อมก็ทำอะไรไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้” [1: ขยายต้นสายน้ำให้ไหลมากขึ้น หมายถึง เพิ่มรายได้] หลี่เฉินได้ฟังก็เหลือบมองสวีฉังชิง จากนั้นก็พูดว่า “การลดค่าใช้จ่ายมีแต่จะทำให้คนขุ่นเคือง ไม่ว่าเจ้าจะตัดค่าใช้จ่ายส่วนไหนก็ตาม มันจะดึงดูดแรงต่อต้าน” สวีฉังชิงกัดฟันพูดว่า “แต่ท้องพระคลังว่างเปล่า พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน กระหม่อมไม่มีทางเลือก ได้แต่ต้องทนรับการตำหนิ” หลี่เฉินครุ่นคิด สิ่งที่เขาคิดไม่ใช่เรื่องที่สวีฉังชิงจะต้องแบกรับคำด่าคนเบื้องล่างรับความผิดแทนเจ้านาย มันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ แต่สิ่งที่เขากำลังพิจารณาก็คือขยายต้นสายน้ำให้ไหลมากขึ้นแม้ว่าตัวเขาจะได้รับเงินจำนวนมากจากงานแต่งงานของเขา แต่เงินจำนวนนี้ก็ถูกใช้ไปสร้างราชบัณฑิตยสถานแล้วซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่สามารถโยกย้ายได้ มิฉะนั้นถานไถจิ้งจือจะเป็นคนแร

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 520

    เมื่อเห็นว่าหลี่เฉินได้ตัดสินใจไปแล้ว สวีฉังชิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโชคดีที่ไม่ได้โต้แย้งตรงๆ ก่อนหน้านี้ ไม่เช่นนั้นคนที่ต้องลำบากใจก็คงจะเป็นตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้น สวีฉังชิงก็ยังคงพูดว่า “เหตุใดฝ่าบาทจึงยืนกรานที่จะเปิดธนาคาร ถึงแม้ว่าธนาคารจะมีเงินมากมาย แต่มันก็เป็นของผู้ฝากเงิน เท่าที่ข้ารู้ คนที่เปิดธนาคารไม่ได้กำไรมากนัก และยังต้องแบกรับความเสี่ยงในการฝากเงินอีก หากมีการสูญหายหรือถูกขโมย ทางธนาคารก็ต้องรับผิดชอบ”สวีฉังชิงไม่เข้าใจ แต่หลี่เฉินนั้นเข้าใจอย่างชัดเจนธนาคารคืออะไร? นี่มันธนาคาร!ธนาคารไม่สามารถทำเงินได้? นั่นไม่ใช่เรื่องตลกเหรอ!ดูเผินๆ ถึงแม้ว่าการขอให้คนฝากเงินและจ่ายดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดเงินออมนั้น เป็นเรื่องที่ขาดทุนมากแต่ธนาคารสามารถรับกระแสเงินสดมหาศาลได้ แม้ว่าธนาคารจะรับผิดชอบเพียงการดูแลความปลอดภัย แต่เมื่อเงินของประชาชนถูกฝากไปแล้ว เงินนั้นจะไม่ถูกถอนออกไป เว้นแต่ว่าจะมีเหตุการณ์ใหญ่เกิดขึ้นเมื่อธนาคารได้รับกระแสเงินสดจำนวนมากเช่นนี้ ก็สามารถนำเงินไปต่อยอดได้ เช่น การกู้ยืม ดอกเบี้ยเงินกู้มีโอกาสทางธุรกิจมากมายธุรกิจนี้เป็นเรื่องยา

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 521

    “มีกฎหมายในราชวงศ์ของเราที่กำหนดให้ดอกเบี้ยรายเดือนสำหรับเงินส่วนตัว หนี้ หรือทรัพย์สินจำนำจะต้องไม่เกินสามส่วน ผู้ใดฝ่าฝืนกฎหมายนี้จะถูกต้องลงโทษด้วยการโบยสี่สิบไม้ และกำไรที่เหลือจะถูกบันทึกว่าเป็นของที่ถูกขโมย ในกรณีที่ร้ายแรงจะถือเป็นความผิดฐานลักขโมย และจะถูกโบยหนึ่งร้อยไม้”“นั่นเป็นดอกเบี้ย 3 ส่วน หากวงเงินกู้มีขนาดใหญ่พอและรักษาหนี้เสียให้เหลือน้อยที่สุด กำไรนี้ก็เพียงพอสำหรับราชสำนัก ที่จะบรรเทาการขาดดุลได้อย่างมาก”สวีฉังชิงยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น ในฐานะพ่อบ้านใหญ่ที่ดูแลถุงเงินของทางการ เขาเบื่อหน่ายกับการถูกตามตื้อเพื่อเงินทุกวัน เพราะในกระเป๋านั้นไม่มีเงินเลยสักกะเฟินเดียว“พระปรีชาของฝ่าบาทคือพรของใต้หล้าและปวงประชา! ”หลี่เฉินระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อได้รับคำชมจากใจของสวีฉังชิง“ไปเรียกหลิวซือฉุนมาที่ตำหนักบูรพา”ครึ่งชั่วยามต่อมา หลิวซือฉุนได้มาถึงพระที่นั่งสีเจิ้งของตำหนักบูรพา“หม่อมฉันหลิวซือฉุน เข้าเฝ้าองค์รัชทายาท” เรือนร่างของหลิวซือฉุนยังคงมีเสน่ห์น่าดึงดูดเช่นเคย หลี่เฉินนั่งอยู่ด้านบนและมองลงมาที่หลิวซือฉุน ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องมาก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 522

    “เจ้าลองคิดดูสิ เรื่องนี้ถ้าตระกูลหลิวทำไม่ได้ เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไป คงไม่มีพ่อค้าคนใดในใต้หล้าจะปฏิเสธโอกาสที่จะได้ร่วมมือกับราชสำนักโดยตรง แม้จะเห็นชัดๆ ว่ายังขาดเงินอีกหกล้านตำลึง แต่ก็คงมีคนจำนวนมากนำเงินมาให้”หลี่เฉินมองไปที่หลิวซือฉุนด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม แล้วพูดว่า “เจ้าคิดให้ดีๆ”หลิวซือฉุนกัดฟัน นางรู้ว่าสิ่งที่หลี่เฉินพูดนั้นเป็นความจริงสังคมทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็นสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ ชาวนา ช่างฝีมือ และพ่อค้า โดยข้าราชการขุนนางเป็นอันดับแรก และชาวนาเป็นอันดับสอง มีเพียงพ่อค้าเท่านั้นที่ไม่ว่าพวกเขาจะหาเงินได้มากแค่ไหน แต่สถานะทางสังคมของพวกเขาก็ต่ำที่สุดไม่ว่าจะร่ำรวยแค่ไหน แต่ก็ต้องสวมผ้ากระสอบเมื่อออกไปข้างนอกอยู่ดี ใครก็ตามที่กล้าสวมผ้าไหมออกไปจะถูกแจ้งความกับทางการ สถานเบาโดนโบยสามสิบไม้ สถานหนักคือจำคุกนอกจากนี้ ระบบทะเบียนบ้านของต้าฉินยังเข้มงวดมาก เมื่อเข้าสู่ชนชั้นใดชนชั้นหนึ่งแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรุ่นต่อไปจะเปลี่ยนใจได้ลูกหลานของพ่อค้าก็เป็นได้แค่พ่อค้า แม้แต่คุณสมบัติที่จะซื้อที่ดินสักผืนเพื่อเป็นชาวนาก็ไม่มี ส่วนเจ้าของที่ดินรายใหญ่เหล่าน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 523

    ประโยคนี้ หลิวซือต๋าเป็นคนพูดเนื่องจากเรื่องมันเทศ สถานะของเขาจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา ตอนนี้สถานะของเขาในตระกูลหลิวก็ทะยานขึ้นเหมือนจรวด ทำให้เขาเป็นรองแค่หลิวซือฉุนเท่านั้นเมื่อได้ยินว่าหลิวซือฉุนนำธุรกิจธนาคารกลับมา เขาย่อมมีความสุขอย่างแน่นอน และสงสัยว่าตัวเองนั้นจะได้รับประโยชน์จากมันหรือไม่ แต่เขาก็รู้ทันทีว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ เงินคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดเมื่อประโยคนี้หลุดออกมา ตระกูลหลิวที่มีความสุขเมื่อวินาทีที่แล้วต่างก็มองหน้ากันและพูดไม่ออกธุรกิจใหญ่เช่นนี้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก และหลิวซือฉุนเพิ่งเปิดเผยว่าจำเป็นต้องมีเงินอย่างน้อยหกล้านตำลึง เงินมากขนาดนี้ ตระกูลหลิวจะไปเอามาจากไหน?“ระหว่างทางกลับ ข้าคิดว่าจะขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลหลิวและธุรกิจที่สามารถขายได้ ยกเว้นการขนส่งเกลือ และนำเงินทั้งหมดที่หาได้มารวมกัน”“ข้าประเมินว่าน่าจะขูดเงินออกมาได้ห้าล้านตำลึง ส่วนอีกล้านตำลึง ข้าจะเข้าหาตระกูลอู๋เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือในการขนส่งเกลือ โดยบอกว่าตระกูลหลิวยินดีจะจัดหาเกลือให้เขาในปีหน้า ด้วยราคาเก้าส่วนของราคาตลาด แต่จะต้องชำระเงินล่ว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 524

    ดวงตาของหลิวซือต๋าเป็นประกาย ขณะพูดคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจออกมา“ดังนั้นข้าเห็นด้วยกับความคิดของน้องสาว...ซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูล นอกจากการขนส่งเกลือแล้ว ธุรกิจและทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลจงขายออกไปให้หมด แล้วรวบรวมเงินทั้งหมดไปลงทุนในธนาคาร!”กล่าวจบ หลิวซือต๋าก็พูดอย่างจริงจังว่า “ทุกคน การทำธุรกิจขนาดใหญ่ที่เราไม่เชี่ยวชาญนั้นไม่มีประโยชน์ แม้ว่าจะทำการค้าแบบเดียวกัน เช่น ทำผักดองเหมือนร้านหลิวปี้จูของเมืองหลวง พวกเขาขายผักดองแค่ไม่กี่อย่าง แต่กลับทำรายได้หนึ่งแสนทุกปี ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? นั่นก็เพราะว่าพวกเขามีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้”“ตระกูลหลิวของพวกเราไม่ต้องการธุรกิจมากมายเช่นนั้น เราสามารถทิ้งการขายผ้าและผ้าไหมทั้งหมดไปได้ ตราบใดที่ยึดธุรกิจขนส่งเกลือและธนาคารไว้ได้ และพึ่งพาตำหนักบูรพา เช่นนั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอีกต่อไป!”คำพูดเหล่านี้ หากเป็นคนอื่นพูดก็ช่างเถอะ แต่นี่มาจากปากของหลิวซือต๋าอดีตคุณชายจอมสำราญดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจมากสำหรับทุกคนเมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบ หลิวซือฉุนจึงพูดอย่างช้าๆ ว่า “พี่รองพูดถูกแล้ว นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการจะพูด ทุกคน คิดตามข้า

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 525

    “ข้อเสนอก่อนหน้านี้ก็สร้างผลประโยชน์ให้ตระกูลหลิวมาโดยตลอด”ความคิดของหลิวซือต๋านั้นชัดเจน เขาพูดอย่างเด็ดขาดว่า “แต่การจะรักษาผลประโยชน์ตลอดไปนั้นเป็นเรื่องยาก”“จะขนส่งเกลือก็ดี มันเทศก็ช่าง มันดูเหมือนกับว่าตระกูลหลิวเป็นหัวหอกในการดำเนินการ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นตระกูลอื่น ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไหนก็ทำได้ดีพอๆ กับตระกูลหลิว ยิ่งไปกว่านั้น ราชสำนักไม่อนุญาตให้พ่อค้าทั่วไปเข้ามาแทรกแซงเรื่องการขนส่งเกลือ แต่ที่เราทำได้ เพราะได้รับสิทธิพิเศษจากตำหนักบูรพา”“ตอนนี้มันเทศก็มาถูกทางแล้ว และได้รับการส่งเสริมไปทั่วประเทศในอนาคต ซึ่งจะเป็นรากฐานของราชสำนักในการปกครองโลก นี่จะเป็นอาวุธสำคัญของประเทศชาติ ดังนั้นองค์รัชทายาทจะไม่ยอมให้ตระกูลหลิวเข้ามาแทรกแซงอย่างแน่นอน หากตระกูลหลิวของพวกเราต้องการมีชีวิตอยู่ไปนานๆ ก็ไม่ควรยื่นมือเข้าไปยุ่ง”“ดังนั้นสองเรื่องนี้ ตระกูลหลิวไม่มีที่ว่างที่จะพัฒนาต่อไปได้ แต่ธนาคารนั้นต่างออกไป”พูดถึงตรงนี้ ดวงตาของหลิวซือต๋าก็เปล่งประกายและพูดว่า “องค์รัชทายาทต้องการเปิดธนาคาร เพราะสนใจกระแสเงินสดจำนวนมหาศาล ซึ่งสามารถช่วยให้ราชสำนักระดมเงินเข้าท้องพระคลังได้ ดังนั

Pinakabagong kabanata

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 978

    หวงจี๋เทียนจากไปด้วยความพึงพอใจ หลังจากนั้น หลี่เฉินก็สะสางภาระงานของวันนี้จนเสร็จเรียบร้อย แต่กลับไม่ได้ไปพักผ่อนเหมือนเช่นเคยวั่นเจียวเจียวเดินเข้ามารินน้ำชาให้หลี่เฉิน พลางกล่าวเสียงเบา "องค์ชาย ควรจะพักผ่อนแล้วเพคะ"หลี่เฉินที่กำลังก้มหน้าดูตำราอยู่ ตอบกลับไปโดยไม่เงยหน้า "วันนี้ต้องอยู่ดึกหน่อย ข้ารอคนคนหนึ่ง""รอคน? องค์ชายต้องการพบท่านใด ให้เขามาพบก็สิ้นเรื่อง ไฉนต้องเป็นองค์ชายที่ต้องรอ?" วั่นเจียวเจียวกล่าวด้วยความไม่พอใจหลี่เฉินหัวเราะเบา "คนผู้นี้ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาเมื่อใด แต่ที่แน่ๆ เขาต้องมา และเมื่อมาถึง เขาจะต้องนำข่าวคราวของหลี่อิ๋นหู่มาให้ข้าอย่างแน่นอน"วั่นเจียวเจียวกระพริบตา ไม่เข้าใจนักแต่ก็ไม่ได้ถามต่อหลี่เฉินกวาดตามองไปรอบๆ พระที่นั่งสีเจิ้ง ก่อนจะเอ่ยถาม "ช่วงนี้ไม่เห็นกงฮุยอวี่เลย หายไปไหน?"วั่นเจียวเจียวเบ้ปาก "องค์ชายเองยังไม่รู้ บ่าวจะรู้ได้อย่างไรเพคะ? ช่วงนี้นางทำตัวลึกลับเหลือเกิน ไม่เห็นหน้าเลยสักวัน บางทีอาจจะหนีไปแล้วก็ได้"หลี่เฉินวางตำรา ก่อนจะใช้หนังสือตีลงบนศีรษะของวั่นเจียวเจียวเบาๆ แล้วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ "เลิกเล่นแง่ได้แล้ว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 977

    หลี่เฉินเชี่ยวชาญในเรื่องการใช้ช่องว่างของข้อมูล เพื่อสร้างผลประโยชน์ที่สุดหวงจี๋เทียนไม่มีทางรู้ถึงสถานการณ์ที่พลิกผันภายในต้าฉินในขณะนี้ และยิ่งไม่รู้ว่าหลี่เฉินได้ดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่รอให้วันพรุ่งนี้ประกาศพระราชโองการ เพื่อลบล้างตำแหน่งและอำนาจทั้งหมดของหลี่อิ๋นหู่ พร้อมกับขับไล่ออกจากทำเนียบราชวงศ์ดังนั้น บุญคุณตามน้ำนี้ หลี่เฉินจึงยินดีมอบให้โดยไม่ลังเลถึงแม้ว่าภายหลังหวงจี๋เทียนจะรู้ความจริง แต่มันก็สายไปเสียแล้วหวงจี๋เทียนตกตะลึงทันทีไฟไหม้จุดพักแรม ลอบสังหารองค์ชายต่างแคว้น ไม่ว่าอยู่ที่ใดก็ถือเป็นเรื่องใหญ่โต แต่ก็ไม่น่าถึงขั้นทำให้ท่านอ๋องของแคว้นตนเองถูกปลดจากทุกตำแหน่ง หากลองคิดในมุมของตนเอง หากวันใดวันหนึ่งเขาถูกริบตำแหน่งและลดเป็นสามัญชน นั่นอาจจะเป็นความทุกข์ทรมานยิ่งกว่าความตายเสียอีกสิ่งที่ทำให้หวงจี๋เทียนประหลาดใจกว่านั้นก็คือ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป ตนเองเพิ่งถูกเพลิงไหม้เล่นงานไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ฝ่ายตำหนักบูรพากลับสามารถจับตัวคนร้ายได้ แถมยังมีมาตรการจัดการออกมาเสร็จสรรพแล้วเรื่องนี้ทำให้หวงจี๋เทียนอดคิดไม่ได้ว่า หรือว่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 976

    "องค์รัชทายาทต้าฉิน ครั้งนี้โปรดให้ข้าได้รับคำอธิบายที่สมเหตุสมผลด้วย!"หวงจี๋เทียนก้าวเข้ามาด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด น้ำเสียงเต็มไปด้วยความไม่พอใจแต่เพียงแค่คำพูดของเขาสิ้นสุดลง ก็มีถ้วยชาลอยหวืดลงมาตกกระทบพื้นข้างเท้าของเขาดังเพล้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้หวงจี๋เทียนสะดุ้งโหยงเขาเงยหน้ามองหลี่เฉินด้วยความตกตะลึง พลางคิดว่า หรือว่าหลี่เฉินจะโกรธจนขาดสติแล้วฆ่าตนเสียที่นี่?ทั้งที่ตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำแท้ๆหวงจี๋เทียนรู้สึกอัดอั้นเพียงเห็นใบหน้าของหลี่เฉินที่มืดครึ้ม ราวกับกำลังระงับโทสะอย่างเต็มที่ เขาฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนกล่าว "อาเกอสิบสามอย่าเข้าใจผิด ข้าโกรธที่มีคนกล้าหาญชาญชัยถึงขั้นวางเพลิงที่จุดพักแรม ตั้งใจจะลอบสังหารอาเกอสิบสาม แล้วโยนความผิดมาให้ข้า""เรื่องนี้ ข้าได้สืบหาข้อมูลแล้ว และพบว่ามีเงื่อนงำบางอย่าง ตอนนี้จับตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว เพียงแต่ทำให้อาเกอสิบสามต้องตกใจ ข้ารู้สึกผิดจริงๆ"ความโกรธที่อัดแน่นอยู่ในใจของหวงจี๋เทียนพลันถูกความประหลาดใจแทนที่ เขาเอ่ยถาม "เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน องค์ชายรู้ตัวคนร้ายแล้วหรือ?"หลี่เฉินถอนหายใจ ก่อนเผ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 975

    คำพูดถูกส่งออกไป ความหมายชัดเจนแจ่มแจ้งหลี่ชางหลานรู้สึกว่าลมหายใจของตนเริ่มร้อนระอุจักรวรรดิต้าฉินมีกฎเกณฑ์ควบคุมเชื้อพระวงศ์อย่างเข้มงวด ฮ่องเต้แต่ละพระองค์ล้วนยึดมั่นในแนวคิดของปฐมจักรพรรดิอย่างเคร่งครัด นั่นคือ ราชสำนักสามารถมอบเงินทองให้เชื้อพระวงศ์ได้ใช้ชีวิตสุขสบาย มีเกียรติและศักดิ์ศรี แต่ไม่อาจมีอำนาจทางการเมืองตลอดสามร้อยกว่าปีของราชวงศ์ต้าฉิน เชื้อพระวงศ์สามารถเข้ารับราชการได้ แต่ตำแหน่งจะไม่เกินระดับสี่ นี่เป็นกฎเหล็ก ส่วนตำแหน่งทางทหาร อย่าได้หวัง แม้แต่จะสมัครเข้ารับราชการก็ยังเป็นไปไม่ได้“เชื้อสายราชวงศ์หลี่ทั้งปวง จะต้องยกย่องพระราชอำนาจเป็นสูงสุด สมควรได้รับความมั่งคั่งรุ่งเรือง แต่สิทธิ์ทางการเมืองต้องชัดเจน ฮ่องเต้มิอาจลำเอียงเพราะสายสัมพันธ์ส่วนตัวจนทำให้บ้านเมืองปั่นป่วน”ประโยคที่ปฐมจักรพรรดิทรงทิ้งไว้ ได้ตัดโอกาสของเชื้อพระวงศ์หลี่ในการก้าวเข้าสู่ราชสำนัก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแทรกแซงการปกครองเลยด้วยซ้ำ และเพราะเหตุนี้เอง การที่หลี่เฉินเสนอที่นั่งในราชวิทยาลัย จึงถือเป็นโอกาสอันล้ำค่าสำหรับหลี่ชางหลาน รวมถึงเชื้อพระวงศ์อื่นๆ ที่อาจได้รับส่วนแบ่งจากโอก

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 974

    หลี่เฉินต้องการถอดถอนอำนาจและตำแหน่งทั้งหมดของหลี่อิ๋นหู่ จำเป็นต้องผ่านสำนักคุมประพฤติเว้นแต่ว่าเขาจะเป็นฮ่องเต้ที่สามารถใช้อำนาจแห่งราชบัลลังก์บังคับบัญชาได้โดยตรง มิฉะนั้น ต่อให้เป็นองค์รัชทายาทผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็ยังต้องคำนึงถึงท่าทีของสำนักคุมประพฤติเรื่องของสำนักคุมประพฤติจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยากง่ายตรงที่หากหาคนที่มีอำนาจตัดสินใจถูกต้อง และมอบผลประโยชน์ที่อีกฝ่ายต้องการ เรื่องนี้ก็สามารถจัดการได้ทันที ยากตรงที่หากสำนักคุมประพฤติยืนกรานขัดขวาง หลี่เฉินก็แทบไม่มีหนทางจัดการกับพวกผู้เฒ่าที่สูงศักดิ์แต่หัวโบราณเหล่านั้น โชคดีที่ครั้งนี้หลี่เฉินเลือกถูกคน หลี่ชางหลานคือกุญแจสำคัญ และผลประโยชน์ที่เสนอให้ก็เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายปฏิเสธไม่ได้ดังนั้นโอกาสที่จะได้รับการจัดการเรื่องนี้จึงสูงมากในช่วงเย็นของวัน สำนักคุมประพฤติส่งข่าวมาว่าพวกเขายอมรับบทลงโทษทั้งหมดที่ตำหนักบูรพากำหนดแก่หลี่อิ๋นหู่"องค์ชาย ได้ยินว่าครั้งนี้จงเหรินลิ่งต้องจ่ายไม่น้อย สำนักคุมประพฤติยังมีผู้อาวุโสบางคนที่เห็นว่าการกระทำขององค์ชายเป็นการทำร้ายสายเลือดเดียวกัน เกรงว่าฝ่าบาทอาจไม่พอพระทัย"

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 973

    หลี่เฉินไม่ได้ยืนยันเรียกเขาว่าเสด็จปู่ใหญ่ และก็ไม่ได้เรียกตำแหน่งของเขา แต่เลือกใช้คำว่าผู้อาวุโสหลี่เมื่อปัญหาเรื่องสรรพนามถูกแก้ไขอย่างลงตัว หลี่ชางหลานจึงรับถ้วยชาด้วยสองมือ แล้วยกขึ้นจิบเบาๆหลังจากวางถ้วยชาลง เขากล่าวว่า “ชาดีจริงๆ”หลี่เฉินยิ้มพลางกล่าว “หากผู้อาวุโสหลี่ชอบ ข้าจะให้คนเตรียมไว้ให้ท่านนำกลับไป”หลี่ชางหลานโบกมือ “สุภาพชนไม่แย่งของรักของผู้อื่น ชาดีที่องค์ชายสะสมไว้ ข้าไม่ควรนำไป”“ก็ไม่ได้มีค่าอะไรมาก ก่อนหน้านี้ตอนข้าพระราชทานตำแหน่งท่านอ๋องให้หลี่อิ๋นหู่ เขามอบชานี้มาเป็นของขวัญขอบคุณ”เพียงประโยคเดียว ทำให้มือของหลี่ชางหลานที่กำลังจะยกถ้วยชาขึ้นดื่มค้างอยู่กลางอากาศเมืองหลวงไม่มีความลับ โดยเฉพาะเหตุการณ์วันนี้ที่หลี่อิ๋นหู่ขึ้นไปเดินบนภูเขาจิ่งซานเพื่อขอพร แต่กลับเป็นต้นเหตุทำให้ราษฎรหลายพันคนต้องเสียชีวิตเรื่องนี้ทำให้ทั้งเมืองหลวงปั่นป่วนไปหมดแม้ว่าหลี่ชางหลานจะถูกเรียกตัวมาอย่างเร่งรีบ แต่เขาก็รับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างองค์รัชทายาทและจ้าวอ๋องได้ขาดสะบั้นลงโดยสิ้นเชิงบัดนี้เมื่อได้ยินชื่อของหลี่อิ๋นหู่จากปากของหลี่เฉิน เขารู้สึกเหมือนมีดเห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 972

    "เมื่อครั้งกระหม่อมกวาดล้างหมู่บ้านเหมียว ก็เป็นเพียงฐานที่มั่นหลักของตระกูลโจวเท่านั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีหญิงสาวจากตระกูลโจวแต่งงานออกไปมากมายจนยากจะนับได้ บุตรหลานของพวกนางหลายคนต่างก็มีอำนาจในมือ หากโจวสิงเจี่ยเปล่งวาจาเรียกหา พวกมันสามารถรวมกำลังคนจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น อย่างน้อยก็สามารถฟื้นฟูหมู่บ้านตระกูลโจวขึ้นมาใหม่ได้อย่างแน่นอน"ซานเป่าอธิบายอย่างละเอียด แต่สีหน้าของหลี่เฉินกลับไร้ความรู้สึกผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่เฉินกล่าวว่า "ปัญหาของเหมียวเจียงเป็นเรื่องใหญ่ ไม่อาจลงมือโดยพลการได้ในตอนนี้ แต่โจวสิงเจี่ยและหลี่อิ๋นหู่ร่วมมือกันสังหารราษฎรไปนับพัน รวมถึงหลี่อิ๋นหู่ยังฆ่าองค์ชายเก้า เรื่องเหล่านี้ไม่มีทางปล่อยผ่านไปได้"น้ำเสียงของหลี่เฉินเรียบเฉย "ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ประกาศจับตัวหลี่อิ๋นหู่และโจวสิงเจี่ย หน่วยบูรพาต้องไล่ล่าพวกมันอย่างเต็มกำลัง ผู้ใดพบร่องรอยและรายงานเข้ามาจะได้รับรางวัลใหญ่"ซานเป่าได้ยินดังนั้นก็เอ่ยถาม "แต่ว่าตำแหน่งของจ้าวอ๋อง"การที่ราชสำนักประกาศจับท่านอ๋อง เป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและถือเป็นเรื่องอื้อฉาวของราชวงศ์หลี่เฉินกล่าวเรี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 971

    ซานเป่ากัดฟันแน่น จำต้องล้มเลิกการไล่ตามหลี่อิ๋นหู่และโจวสิงเจี่ยเขากวาดตามองไปรอบๆ พบว่าฝูงแมลงที่หนาแน่นจนมองแทบไม่เห็นพื้นกำลังเริ่มถอยกลับ ทิ้งไว้เพียงซากศพจำนวนมากนับพันในคลื่นแมลงครั้งนี้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่โชคดีหรือมีฝีมือพอจะรอดพ้นจากหายนะได้ ส่วนที่เหลือซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ รวมถึงต้าหลี่ซื่อชิง หวังฟู่ย่ง ต่างก็กลายเป็นวิญญาณใต้ฝูงแมลงไปทั้งหมดเมื่อฝูงแมลงสลายไป สิ่งที่เผยออกมาก็คือซากศพที่กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น ซากศพเหล่านี้ไม่มีเลือดไหลออกมา แต่เนื้อหนังทั้งหมดถูกแมลงกัดแทะจนขาดวิ่นแทบไม่เหลือชิ้นดีที่โชคร้ายที่สุดคงเป็นหวังฟู่ย่ง ศพของเขาตอนนี้เหลือเพียงโครงกระดูกเท่านั้น แม้แต่เศษเนื้อขนาดฝ่ามือก็ไม่เหลือกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหม็นของแมลงลอยคลุ้งไปทั่วอากาศ ผสานกับภาพของซากศพที่เกลื่อนกลาดอยู่รอบตัว เป็นภาพที่สร้างแรงกระแทกให้จิตใจอย่างรุนแรง ใบหน้าของซานเป่าดำทะมึนจนแทบจะบีบหยดน้ำออกมาได้เขารู้ดีว่าตัวเองกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่แล้ว…พระที่นั่งสีเจิ้งหลี่เฉินมองดูซากศพของแมลงสีดำที่วางอยู่ตรงหน้า กับซานเป่าที่คุกเข่าอยู่บนพื้นมานานกว่าครึ่งชั่วยาม ใบห

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 970

    ผู้ที่ซุ่มโจมตีมีความชำนาญอย่างยิ่ง ขณะที่เขาจู่โจมออกมาอย่างกะทันหัน ซานเป่าทำได้เพียงบิดร่างหลบเลี่ยงจุดสำคัญ แต่ก็ยังไม่อาจหนีจากฝ่ามือที่พุ่งเข้ากระแทกไหล่ของเขาเสียงกระแทกหนักหน่วงดังขึ้น ท่ามกลางเสียงอุทานของซานเป่า ร่างทั้งสองแยกออกจากกัน ซานเป่าถูกกระแทกจนลอยกระเด็นไปไกลกว่าสิบก้าว เมื่อตกลงสู่พื้นยังต้องถอยหลังอีกสามก้าว แต่ละก้าวหนักแน่นราวขุนเขาถล่ม พื้นดินที่เหยียบย่ำแตกร้าวสะเทือนทันทีที่ซานเป่าตั้งหลักได้ ฝูงแมลงสีดำรอบตัวก็คล้ายได้รับคำสั่ง พวกมันพุ่งโจมตีเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่งซานเป่าครางเสียงต่ำ พลังภายในพลุ่งพล่านออกจากร่าง ส่งแรงสั่นสะเทือนกระจายออกไป แมลงที่ไต่ขึ้นบนตัวเขาถูกสังหารจนหมดสิ้น ร่วงหล่นลงบนพื้นแต่ก่อนที่เขาจะทันได้หายใจ โลหิตของแมลงที่ถูกฆ่าล่อให้แมลงจำนวนมากยิ่งกว่าถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ซานเป่ารู้ว่าสถานการณ์นี้ไม่อาจปล่อยให้ยืดเยื้อ เขากลืนลมหายใจลงคอ พลังลมปราณรวมศูนย์ในปาก ก่อนจะเปล่งเสียงร้องกึกก้องเสียงคำรามแหลมสูงดั่งระเบิดเสียง สร้างคลื่นพลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คลื่นพลังกระจายออกไปทุกทิศทาง แมลงทุกตัวที่อยู่ในรัศมีของคลื่นพลังสั่นสะ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status