Share

บทที่ 9

Author: หลางเทียนเป๋ายุ๋น
หลินจิ้งหง็อยจนเงียบไป

ทั้งตำแหน่งคุณนายเผยทั้งสมบัติของเผยซือเหนียนสักวันนึงจะต้องเป็นของเธอ คิดการใหญ่ใจต้องนิ่ง ครั้งนี้จะอดทนไปก่อน

เผยซือเหนียนไม่ได้กลับบ้านตอนกลางวันมาสักพักใหญ่ๆ ได้แล้ว เขายืนอยู่ในวิลล่าที่คุ้นเคย ความห่างหายไปนานทำให้เกิดความรู้สึกแปลกและไม่คุ้นในขณะเดียวกัน ที่ใครๆ พูดว่า คู่รักถ้าไม่ได้เจอหน้ากันสักพัก พอกลับมาเจอกันจะรู้สึกเหมือนเพิ่งแต่งงานใหม่ คงจะเป็นเพราะแบบนี้ล่ะมั้ง

"อาหนิง ฉันกลับมาแล้ว" เขาเรียกชื่อของเธอ ขายาวๆ สาวผ่านสนาม เข้าไปยังห้องรับแขก

ต้นไม้ใบหญ้าในสวนถูกตัดแต่งจนเป็นระเบียบ เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านยังถูกรักษาไว้ในสภาพเดิม แต่ทุกที่สะอาดเอี่ยมไร้ซึ่งฝุ่น บ่งบอกได้ถึงนิสัยและรสนิยมของเจ้าของบ้าน

ทั้งหมดนี้เป็นหยาดเหยื่อของอันหนิง

เผยซือเหนียนอยากจะกอดเธอ จากนั้นพูดว่า "เหนื่อยแล้วที่รัก" แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ เขาจึงไปหาคนงานที่จ้างแบบรายวันแล้วสอบถาม "คุณนายล่ะ? ออกไปข้างนอกหรอ?"

ปกติเวลานี้ อันหนิงต้องอยู่บ้านถึงจะถูก

คนรับใช้มองหน้ากันไปมา ไม่มีใครบอกได้ว่าเธอไปไหน "ไม่ทราบเลยค่ะ วันนี้พวกเราไม่เห็นเธอตั้งแต่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 10

    เผยซือเหนียนยิ่งคิดก็ยิ่งลนลาน เขากลัวว่าเธอจะทำไปโดยอารมณ์ชั่ววูบ ออกไปนอนโรงแรมของใช้ไม่ครบครัน ที่กลัวว่านั้นคือเธออาจจะประมาทเมื่อออกไปใช้ชีวิตคนเดียว หรือเดินเล่นไหนต่อไหนแล้วไม่มีเงินใช้ เขานั่งลงบนชิงช้าโดยอัตโนมัติ ล็อคอินเข้าบัญชีธนาคารแล้วเริ่มโอนเงินให้เธอเขากดโอนไปเท่าไหร่ก็ไม่ทันได้มอง รู้แค่ว่าตัวเองใส่เลขศูนย์ไปหลายตัว เพราะกลัวว่าเธอจะลำบากถ้าต้องออกไปอยู่เองข้างนอก หารู้ไม่ว่าเธอไม่ต้องการให้เขาเลี้ยงดูมาตั้งนานแล้วไม่ช้าสายจากเจ้าหน้าที่ธนาคารก็โทรเข้ามา "คุณเผยคะ ธุรกรรมของคุณล้มเหลวทั้งหมดค่ะ"เผยซือเหนียนที่อยู่ท่ามกลางความเสียศูนย์และสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกต่อไป ก็ถามไปทันที "จำนวนเงินกับจำนวนครั้งเยอะเกินไปใช่ไหม? ผมยืนยันตัวได้ว่าผมเป็นคนทำธุรกรรมเองทั้งหมด ถ้าต้องการยืนยันตัวตนหรือเซ็นชื่อ ผมจะทำให้ทันที ผมต้องการโอนเงินให้ภรรยาของผม"เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เป็นคนโอนเงินให้อันหนิงด้วยตัวเองคือเมื่อไหร่ ราวกับว่านานมาแล้วที่ความมั่งคั่งกับสถานะที่สูงส่งทำให้เขาทอดทิ้งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มากมายนี้ไปวันครบรอบวันแต่งงานก็จ้างบริษัทออแกไนซ์มาช่วย

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 11

    ไม่บ่อยนักที่เขาจะยอมลดทิฐิ แต่เวลานี้เพื่ออันหนิงแล้วถึงก้มหัวก็ต้องยอม โชคดีที่หลังจากอีกฝ่ายแน่ใจแล้วว่าภรรยาของเขาหายตัวไปจริงๆ ก็ยอมรับปากเผยซือเหนียนได้บัญชีโซเชียลของอันหนิงมาได้สมใจ รูปโปรไฟล์เป็นรูปที่เธอวาดเอง ให้ความรู้สึกเหมือนกันกับตัวตนของเธอและชื่อบัญชี เป็นความรู้สึกงดงามและสงบที่ไม่อาจอธิบายได้ปกติแล้วอันหนิงไม่ใช่คนช่างพูด จึงเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เมื่อเธอลงบันทึกชีวิตตัวเองบนโลกโซเชียลอยู่หลายปีเธอสร้างแอคเค้าท์บนแอปนี้เป็นกลุ่มแรกๆ บันทึกแรกสุดของเธอโพสต์ตอนที่พวกเขาเพิ่งเริ่มคบกันได้ไม่นาน[คบกันแล้ว (*^▽^*)]อิโมจิที่ฮิตๆ ในสมัยนั้น เมื่อมาดูตอนนี้กลายเป็นเฉยไปแล้ว แต่เผยซือเหนียนก็ยังอ่านไปพร้อมกับรอยยิ้ม แม้ว่าจะผ่านไปหลายปี แต่เขายังสัมผัสได้ถึงความรักหวานแหววเมื่อครั้งที่อันหนิงกับเขาคบกันเธอชอบแชร์ชีวิตของตัวเองลงบนแอปนี้มาก ยามว่างก็จะฝึกวาดรูป พอมีแฟนเขาก็มักจะให้ของขวัญแก่เธอ นอกจากนี้ยังมีช่อดอกไม้ที่ถือในงานแต่งกับชวนดอกไม้ที่ถูกตัดแต่งอย่างประณีตหลังแต่งงาน...เผยซือเหนียนไล่ย้อนอ่านไปทีละโพสต์ หัวใจของเขาอ่อนยะยวบจนเหมือนจะเหลวลงพื้นแ

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 12

    เดิมทีนี่ควรจะเป็นการพิสูจน์ถึงความมีเสน่ห์ของเขาแต่วินาทีนี้ เขาเพิ่งจะตระหนักได้ว่านี่มันเป็นเรื่องที่น่าอายแค่ไหน โดยเฉพาะการที่อันหนิงไปจากเขาด้วยเหตุผลนี้ตำรวจหญิงย้อนถามอย่างตรงไปตรงมา "เพราะงั้นภรรยาของคุณหนีออกจากบ้านไปเพราะคุณนอกใจ?"เผยซือเหนียนไม่ส่งเสียง แค่พยักหน้าด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว โชคดีที่เบอร์แปลกโทรเข้ามาช่วยกู้หน้าเขาทันเวลา เขากดรับมันด้วยความหวังว่าอันหนิงยอมติดต่อเขาแล้วแต่คนที่กำลังพูดสายกลับเป็นผู้ชายที่เรียกตัวเองว่าเป็นทนายจากสำนักงานกฎหมาย "ใช่คุณเผยซือเหนียนหรือเปล่าครับ? ผมเป็นทนายที่คุณอันหนิงไหว้วานเอาไว้ มีเรื่องอยากจะขอคุยกับคุณต่อหน้า ไม่ทราบว่าตอนนี้สะดวกไหมครับ?""สะดวกครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้!" เผยซือเหนียนไม่มีกระจิตกระใจมานั่งอธิบายกับทางตำรวจ เขาโกหกว่าตัวเองยังมีธุระต่อ จากนั้นก็รีบขับรถไปด้วยความเร็วสูงสุดเผยซือเหนียนคิดแต่ว่าอยากเจอทนายโดยเร็วที่สุด จากนั้นโน้มน้าวอันหนิงให้กลับมา เพื่อการนั้นแล้ว ต่อให้ฝ่าไฟแดงไปไม่รู้กี่รอบ ได้ยินคนอื่นด่าไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เขาก็ไม่สนใจทั้งนั้นกระทั่งทนายยื่นหนังสือหย่าฉบับนึงให้เขาเผยซือเหนียนไ

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 13

    เผยซือเหนียนเห็นว่าไม่ว่าจะทำยังไงทนายก็ไม่หลงกล เขาก้มหน้าลงแสดงจุดยืนอีกครั้ง "งั้นเราก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ไม่ว่าคุณจะปรินท์มาเท่าไหร่ ผมก็ไม่มีทางเซ็น ส่วนจะไปฟ้องกับทางศาล ก็แล้วแต่คุณ"เขาไม่เชื่อว่าถึงเวลานั้นอันหนิงจะไม่ปรากฎตัวที่ศาล ก่อนถึงเวลานั้น เขาจะต้องคิดทุกวิถีทางเพื่อขอร้องให้เธอยอมให้อภัยพวกเขารักกันมานานตั้งหลายปี มีความทรงจำร่วมกันมากมายตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ถ้าได้เจอกันอีกยังไงก็ต้องใจอ่อน ตราบใดที่เขายืนหยัดที่จะไม่หย่า สักวันนึงเธอจะต้องเปลี่ยนใจกลับมาหาเขาแน่ทนายได้เตรียมรับมือสำหรับเหตุการณ์นี้มาแล้ว เขาเริ่มร่ายกฎหมายให้เผยซือเหนียนฟัง"คุณเผย ที่จริงคุณอันไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องเลยก็ได้ นี่เป็นแค่แผนสำรองในกรณีที่เลือกไม่ได้ก็เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ เธอยังหวังว่าจะจบกับคุณโดยดี อย่างเช่นแยกกันอยู่สองปี ก็สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้แล้ว ศาลจะตัดสินให้หย่าด้วยเหตุผลที่ทั้งคู่ไม่ได้รักกันแล้ว"ทั้งหมดนี้อันหนิงศึกษามาล่วงหน้า หลังจากตัดสินใจว่าจะยุติความสัมพันธ์นี้ เธอก็ใช้ความได้เปรียบจากอิสระในการออกไปไหนมาไหน พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 14

    [พี่อันหนิง พี่ก็รู้จักเผยซือเหนียนคนนี้ดี เขาน่ะเป็นพวกยึดติดกับรักครั้งเก่า แล้วก็ไม่ค่อยแสดงออก ตราบใดที่พี่ยินดี เขาก็พร้อมจะเลี้ยงดูพี่ได้ตลอดไป แต่ฉันคิดว่าเรื่องบอกเรื่องพูดกันให้เคลียร์ไปเลยจะดีกว่า][ความรักมันไม่มีมาก่อนมาหลังหรอก แต่สิ่งที่ฉันต้องการก็คือหวังว่าคนที่เขาจะได้เจอก่อนก็คือฉัน ตอนนี้พวกพี่ก็แค่เพื่อนร่วมชั้นที่รู้จักกันดีกว่าคนแปลกหน้าใช่ไหมล่ะ ผู้หญิงน่ะต้องรู้จักแต่งหน้าแต่งตัว ไม่งั้นวันๆ เอาแต่หน้าสด สภาพโทรมๆ ผู้ชายที่ไหนเห็นแบบนี้แล้วจะอยากกลับบ้านกัน?][แน่นอนว่าสาวแรกรุ่นคงไม่มีอะไรจะสู้ได้ แต่ก็เราก็ยังรู้จักตัวเองดีกว่าพวกสาวรุ่นใหญ่ที่หนังเหี่ยวขึ้นทุกวันแต่ก็ยังไม่วายเอาตัวเองไปประชันกับพวกสาวๆ นะ วันนี้เผยซือเหนียนชมว่าฉันสวยอีกแล้วด้วยสิ][ทาด๊าา~ นี่เป็นสร้อยที่เผยซือเหนียนให้ฉัน เขาออกแบบเองกับมือเชียว][พี่อันหนิง พี่น่าจะเข้าใจฉันใช่ไหม? พวกเรารักกันด้วยใจจริง ขอแค่พี่เห็นด้วยกับเรา บ้านหลังนั้นก็จะยกให้พี่เป็นค่าปลอบขวัญหลังหย่า เพราะเผยซือเหนียนจะต้องซื้อหลังใหม่ให้ฉันอยู่แล้ว]……ข้อความเนื้อหาทำนองนี้ถูกส่งมามากมาย แต่ละข้อความนั้นไม่

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 15

    หลินจิ้งเข้าใจความหมายของเขาผิดมหันต์ ก็โผเข้าสู่อ้อมกอดเขาด้วยรอยยิ้ม "แบบนี้มันก็ยิ่งเร้าใจน่ะสิ? ซือเหนียน เรามา...กรี๊ด! ทำอะไรของคุณ!"เธอพูดได้ครึ่งเดียว ก็ถูกเผยซือเหนียนที่สุดจะเหลือทนกระชากชุดนอนออกจากตัวเผยซือเหนียนเพิกเฉยต่อเสียงกรีดร้องของใบหู กระทั่งชุดโปรงถูกโยนลงบนพื้นอย่างสมบูรณ์แล้วถึงได้หยุดการกระทำลง โดยที่เขาไม่ได้มองหลินจิ้งเลยตั้งแต่ต้นจนจบบรรดาคนรับใช้แค่มาทำงานแลกเงินเท่านั้น ใครจะมาอยากดูเหตุการณ์แบบนี้ ต่างก็พากันซอยเท้าหนีไปยังสวนหลังบ้านด้วยความเร็วหลินจิ้งหน้าถอดสีในตอนแรก แต่จนกระทั่งบริเวณนั้นไม่มีใครแล้ว ก็ยิ้มอย่างมั่นใจว่าตัวเองเข้าใจถูก "แหม ทำอย่างกับเค้าไม่เก็ทความต้องการของพี่อย่างงั้นแหละ ทำไมต้องรุนแรงแบบนี้ด้วยล่ะ"หล่อนพูดพลางแนบตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเผยซือเหนียน โดยไม่คิดจะปิดบังความคิดอ่านของตัวเองแม้แต่น้อยที่พวกเขาสองคนมาคบหากันได้ก็เพราะเรื่องบนเตียง ไม่ได้มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จึงไม่จำเป็นต้องเหนียมอาย ตราบใดที่เธอให้ความสนุกกับเขา ก็จะได้เงินจำนวนมากส่วนที่เขาจะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นไม่ใช่คนรักนั้น ก็ไม่มีความหมาย

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 16

    "เธอไม่มีสิทธิ์วิจารณ์อันหนิง ที่สำคัญเธอเองก็หวังให้รูปมันจะถูกแชร์ออกไปเหมือนกันล่ะสิท่า? เธอถ่ายหน้าฉันชัดขนาดนั้น แต่กลับบังคับตัวเองไม่ให้เขากล้อง อย่านึกว่าฉันไม่รู้ เธอคิดจะอาศัยวิธีนี้เพื่อไต่เต้าอยู่แล้วล่ะสิท่า?"เวลานี้สติสัมปรัชชัญญะของเขาแจ่มแจ้งซะยิ่งกว่าอะไร แต่มันก็สายไปแล้วหลินจิ้งยังอยากจะแก้ต่าง แต่เขาเกลียดชังเธอซะยิ่งกว่าอะไร ไม่คิดจะให้โอกาสอีกแม้แต่นิดเดียว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารปภ.ของวิลล่า แล้วออกคำสั่ง "ลากตัวคนที่ไม่สมควรเสนอหน้าอยู่ที่นี่ออกไป"รปภ.ของวิลล่าคอยเฝ้ายามอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากออกคำสั่งเสร็จก็รีบมาทันทีหลินจิ้งไม่ยอมไปกับพวกเขา ยังพยายามดิ้นรนขัดขืน "ซือเหนียน คุณเป็นคนเรียกฉันมา ตอนนี้คุณจะให้ฉันไป ฉันก็จะไป แต่คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้..."เผยซือเหนียนหันหลังให้เธอแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เขาทิ้งประโยคนึงโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา "อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก""ซือเหนียน..."หลินจิ้งถูกลากออกจากประตูของวิลล่าไปทั้งอย่างนั้น เธอมองประตูเหล็กแกะสลักปิดลงต่อหน้าต่อตา ราวกับว่าชีวิตของคุณนายไฮโซได้ออกห่างจากตัวเองไปไกลทุกที เธอเริ่มตะโกน

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 17

    ป้าคนนึงทีเพิ่งหย่ากับสามีที่นอกใจมาหมาดๆ เกลียดพวกเมียน้อยจนเข้าไส้ ก็เดินขึ้นไปขวางทางเธอ แล้วด่ากราด "อายุก็แค่นี้ริอาจทำเรื่องต่ำทราม จะเป็นเมียน้อยทำบ้านเค้าแตกให้ได้เลย? ถุย พวกสันดานเมียน้อย!"หลินจิ้งเห็นว่าเธอเป็นแค่คนแปลกหน้าแต่มาด่าตัวเอง ก็ด่ากลับอย่างไม่ยอมแพ้ "นี่ป้า สภาพนี้คงอยากจะเป็นเมียน้อยแต่ไม่มีปัญญามากกว่ามั้ง มาด่าฉันเป็นเมียน้อย คงไม่ใช่ว่าตัวเองเอาผัวไม่อยู่ เลยโดนทิ้งมาหรอกนะ?""ถุย ก็ยังดีกว่าแกที่แก้ผ้าโดนเขาไล่ตะเพิดออกมาล่ะวะ!" ป้าโมโหจนยื่นมือออกมากระชากเธอสถานการณ์กลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาทันทีป้าคนนั้นอาศัยอยู่แถวนี้ ไม่นานก็เรียกรวมพลเพื่อนๆ มารุมด่าหลินจิ้ง ว่าเป็นเมียน้อยหน้าด้าน ส่วนคนอื่นๆ ที่มามุงดูดราม่านี้ ก็เรียกทุกคนเข้ามาดูเพิ่ม จนไม่นานก็รวมคนได้จำนวนมากเสียงเอะอะดังใหญ่โตจนคนในวิลล่ายังได้ยิน แต่เผยซือเหนียนกลับเพิกเฉย ขังตัวเองไว้ในโลกส่วนตัวไม่ยอมออกมาไม่ว่าหลินจิ้งจะปากจัดยังไง ก็ไม่อาจด่าสู้กับคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ เธอโมโหจนร้องไห้ อยากจะปิดหน้าแล้ววิ่งหนีออกไปจากวง แต่ก็เกือบถูกพวกหื่มกามยื่นมือมาแตะอั๋งอีก"ไสหัวไป! อย่ามาแตะตัว

Latest chapter

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 21

    อดพูดไม่ได้เลยว่า ท่าทางของเผยซือเหนียนในวิดีโอดูแล้วติดตามาก ต่อให้เป็นต่างชาติที่ฟังภาษาของเขาไม่รู้เรื่อง แต่ก็ยังสัมผัสได้ถูกความสิ้นหวังจากบนสีหน้าของเขาและซับไตเติ้ล"ไม่หรอก" อันหนิงโอบกอดเจ้าเหมียว ทอดตาลงต่ำแล้วพูด "เราทุกคนต่างก็เกิดมาตัวคนเดียว ไม่มีใครจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่นเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตต่อไป ถ้าเขาละทิ้งชีวิตตัวเองด้วยเหตุผลนี้จริงๆ นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จะให้คนอื่นเสียสละตัวเองเพื่อทำตามที่เขาขอก็คงไม่ได้หรอก"เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว ต่อให้เผยซือเหนียนมายืนร้องไห้ต่อหน้า เธอก็ไม่มีทางกลับไปลิซ่าเองก็ยิ้มน้อยๆ "งั้้นก็ดี เธออยู่ที่นี่ให้สบายใจดีกว่า ช่วงนี้ในป่ามีพายุหิมะ ถนนในเมืองทุกสายที่ตัดผ่านที่นี่ถูกปิดไปหมด ต่อให้มีคนเข้าใจผิดว่าพวกเธอคือคนเดียวกัน ก็ไม่มีโอกาสได้ติดต่อไปรายงานพวกเขาแน่"ในหัวใจของอันหนิงผุดความอบอุ่นขึ้นมา เธอลองชิมคุกกี้ที่เพิ่งอบมาได้ไม่นาน แล้วพูดพร้อมกับขอบตาแดงระเรื่อ "ขอบคุณนะ คุกกี้อร่อยมาก จริงๆ นะ"วันเวลาผ่านไปไวเหมือนสายน้ำไหล ไม่นานก็มาถึงคืนคริสมาสต์อีฟ นี่เป็นวันสำคัญของชาวเมือง หนุ่มสาวจำนวนมากที่ไปทำงานต่าง

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 20

    สติของเขาถูกบดขยี้ด้วยความสิ้นหวังที่ไร้ซึ่งขอบเขตมานานแล้ว กระทั่งปลายสายให้ที่อยู่ในประเทศมาแบบคลุมเครือ จึงวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่นไม่ได้เหนือความคาดหมาย คนๆ นี้หลอกเขาแต่เขาไม่ได้ไล่บี้ เพราะไม่มีเรี่ยวแรงอีกต่อไปหลังจากวันนั้น สายที่โทรเข้ามาทำนองนี้ก็มีมาต่อเนื่องไม่หยุดทุกคนล้วนเจออันหนิงในที่ใดที่หนึ่ง จากนั้นก็ขอเงินรางวัลจากเผยซือเหนียนไม่มากก็น้อยทั้งที่เขาก็รู้ว่าในบรรดากลุ่มคนเหล่านั้นมีมิจฉาชีพตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ก็ยังโอนเงินให้เหมือนเดิม นั่นก็เพื่อคว้าความหวังอันริบหรี่เอาไว้เงินรางวัลที่ว่าสุดท้ายก็กลายเป็นแค่ก้อนหินที่จมลงไปในทะเล โดยไม่มีแม้แต่ละอองน้ำสะเด็ดขึ้นมาแต่เผยซือเหนียนก็หาได้สนใจไม่ ตอนนี้เขาได้แต่อาศัยความคิดนี้เพื่อให้ตัวเองมีชีวิตอยู่ต่อไปวันๆ ต่อให้จะมีคนบอกว่าต้องการนัดคุย เขาก็ยังไปตามนัดยังมีผู้หญิงบางส่วนที่ใช้วิธีนี้เพื่อเข้าหาเขา แต่ละคนแต่งตัวสวยอวดสัดส่วนเต็มที่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ทั้งยังพูดกับเขาแบบเปิดเผยว่า "คุณเผย ฉันยังมีเพื่อนๆ อีกมากมาย ถ้าคืนไหนที่คุณรู้สึกเหงา พวกเราจะช่วยคลายเหงาได้ทุกเมื่อ"กลายเป็นว่าวิ

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 19

    กระดาษที่อยุ่บนพื้นพวกนั้นเป็นกระดาษชนิดเดียวกับที่อันหนิงเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้เขา เขาเอาสมุดเล่มที่เธอใช้ไม่หมดย้ายจากห้องหนังสือมาห้องนอน จากนั้นก็นั่งเขียนหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันอยู่หลายวันเวลาไร้ซึ่งความหมายในขณะนี้แม่ของเผยซือเหนียนพูดทั้งน้ำตา "อันหนิงไม่ได้อยากเจอลูกแล้ว ต่อให้ลูกเขียนจดหมายขอโทษจนล้นห้องมันจะไปมีประโชน์อะไร? ลูกต้องพูดคำพวกนี้กับเธอด้วยตัวของลูกเอง"เผยซือเหนียนครุ่นคิดอย่างจริงจังนิดหน่อย ยอมรับว่าที่แม่พูดนั้นมีเหตุผล แต่เขาจมอยู่ใต้ตมโคลน จนไม่สามารถออกมาได้แล้ว เขาช้อนดวงตาแดงก่ำขึ้น แล้วพูดอย่างยืนหยัด "เธอจะต้องรู้แน่ ขอแค่ผมเขียนพวกนี้ให้หมด เธอก็จะให้อภัยผม ใช่แล้ว ผมต้องจริงใจให้มาก..."เสียงของเขาแหบแห้ง ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความบ้าคลั่งที่ผิดปกติ ดวงตาก็เป็นประกายแปลกประหลาด พูดได้ครึ่งนึง จู่ๆ ก็ลุกขึ้นแย่งสมุดกลับไป แล้วใช้มือสั่นเทาของเขาเขียนลงไปในสมุด เขาเขียนไปพร้อมกับพูดพึมพำ"อันหนิง ฉันผิดไปแล้ว เธอจะให้อภัยฉันใช่ไหม? ถ้าฉันเขียนจนหมดสมุดเล่มนี้ เธอก็จะต้องกลับมายกโทษให้ฉันแน่ ขอโทษนะ..."เผยซือเหนียนพร่ำประโยคเหล่านี้อย่างไม่รู้จักเหน็ด

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 18

    เขาร้อนใจราวกับมีไฟลนก้น แต่วีซ่ากับตั๋วเครื่องบินไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจะเสร็จได้ในทันทีกว่าเขาจะเหยียบย่างเข้ามาในดินแดนของนอร์เวย์ ทั้งติดต่อสถานทูตกับทางตำรวจเพื่อตามหาอันหนิง ก็กินเวลาเข้าไปแล้วสามวันเผยซือเหนียนเคาประตูคอนโด ตะโกนเรียกชื่อ "อันหนิง" แล้วบุกเข้าไปทันที แต่กลับถูกเจ้าของบ้านที่กำลังทำความสะอาดอยู่ห้ามเอาไว้ก่อน เขาพูดด้วยความระแวง "คุณเป็นใคร?""ผมมาหาอันหนิง" เขาพูดเสร็จ ก็ตระหนักได้ว่าเธอใช้ชื่อภาษาอังกฤษที่นี่ ก็รีบอธิบายใหม่อีกรอบ "เธอเป็นภรรยาของผม พวกเราเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ผมก็เลยมาเพื่อปรับความเข้าใจกับเธอ"เจ้าของบ้านโบกมือทันที "ที่นี่ไม่มีคนที่คุณกำลังตามหาหรอก""เธอชื่ออันหนิง ชื่อภาษาอังกฤษคือNING"เจ้าของบ้านยังพูดอีก "ผู้เช่าของผมชื่อเซี่ยงหยวน ไม่ใช่คนที่คุณกำลังพูดถึง คุณมาหาผิดคนแล้ว"เซี่ยงหยวน?เผยซือเหนียนตกอยู่ในภาวะไปต่อไม่ถูก"คุณแน่ใจนะครับว่าไม่ได้จำชื่อผิด?"เจ้าของบ้านเริ่มอารมณ์เสีย "ถ้าคุณไม่เชื่อก็ช่างเถอะ"ขณะพูด ก็เตรียมจะปิดประตูไปเผยซือเหนียนไม่ยอมปล่อยเบาะแสตรงหน้าไปง่ายๆ ก็ควักธนบัตรออกมาแล้วไล่ถามต่อ "คิดซะว่านี่เป็

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 17

    ป้าคนนึงทีเพิ่งหย่ากับสามีที่นอกใจมาหมาดๆ เกลียดพวกเมียน้อยจนเข้าไส้ ก็เดินขึ้นไปขวางทางเธอ แล้วด่ากราด "อายุก็แค่นี้ริอาจทำเรื่องต่ำทราม จะเป็นเมียน้อยทำบ้านเค้าแตกให้ได้เลย? ถุย พวกสันดานเมียน้อย!"หลินจิ้งเห็นว่าเธอเป็นแค่คนแปลกหน้าแต่มาด่าตัวเอง ก็ด่ากลับอย่างไม่ยอมแพ้ "นี่ป้า สภาพนี้คงอยากจะเป็นเมียน้อยแต่ไม่มีปัญญามากกว่ามั้ง มาด่าฉันเป็นเมียน้อย คงไม่ใช่ว่าตัวเองเอาผัวไม่อยู่ เลยโดนทิ้งมาหรอกนะ?""ถุย ก็ยังดีกว่าแกที่แก้ผ้าโดนเขาไล่ตะเพิดออกมาล่ะวะ!" ป้าโมโหจนยื่นมือออกมากระชากเธอสถานการณ์กลายเป็นวุ่นวายขึ้นมาทันทีป้าคนนั้นอาศัยอยู่แถวนี้ ไม่นานก็เรียกรวมพลเพื่อนๆ มารุมด่าหลินจิ้ง ว่าเป็นเมียน้อยหน้าด้าน ส่วนคนอื่นๆ ที่มามุงดูดราม่านี้ ก็เรียกทุกคนเข้ามาดูเพิ่ม จนไม่นานก็รวมคนได้จำนวนมากเสียงเอะอะดังใหญ่โตจนคนในวิลล่ายังได้ยิน แต่เผยซือเหนียนกลับเพิกเฉย ขังตัวเองไว้ในโลกส่วนตัวไม่ยอมออกมาไม่ว่าหลินจิ้งจะปากจัดยังไง ก็ไม่อาจด่าสู้กับคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ เธอโมโหจนร้องไห้ อยากจะปิดหน้าแล้ววิ่งหนีออกไปจากวง แต่ก็เกือบถูกพวกหื่มกามยื่นมือมาแตะอั๋งอีก"ไสหัวไป! อย่ามาแตะตัว

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 16

    "เธอไม่มีสิทธิ์วิจารณ์อันหนิง ที่สำคัญเธอเองก็หวังให้รูปมันจะถูกแชร์ออกไปเหมือนกันล่ะสิท่า? เธอถ่ายหน้าฉันชัดขนาดนั้น แต่กลับบังคับตัวเองไม่ให้เขากล้อง อย่านึกว่าฉันไม่รู้ เธอคิดจะอาศัยวิธีนี้เพื่อไต่เต้าอยู่แล้วล่ะสิท่า?"เวลานี้สติสัมปรัชชัญญะของเขาแจ่มแจ้งซะยิ่งกว่าอะไร แต่มันก็สายไปแล้วหลินจิ้งยังอยากจะแก้ต่าง แต่เขาเกลียดชังเธอซะยิ่งกว่าอะไร ไม่คิดจะให้โอกาสอีกแม้แต่นิดเดียว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารปภ.ของวิลล่า แล้วออกคำสั่ง "ลากตัวคนที่ไม่สมควรเสนอหน้าอยู่ที่นี่ออกไป"รปภ.ของวิลล่าคอยเฝ้ายามอยู่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง หลังจากออกคำสั่งเสร็จก็รีบมาทันทีหลินจิ้งไม่ยอมไปกับพวกเขา ยังพยายามดิ้นรนขัดขืน "ซือเหนียน คุณเป็นคนเรียกฉันมา ตอนนี้คุณจะให้ฉันไป ฉันก็จะไป แต่คุณจะทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้..."เผยซือเหนียนหันหลังให้เธอแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เขาทิ้งประโยคนึงโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมา "อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก""ซือเหนียน..."หลินจิ้งถูกลากออกจากประตูของวิลล่าไปทั้งอย่างนั้น เธอมองประตูเหล็กแกะสลักปิดลงต่อหน้าต่อตา ราวกับว่าชีวิตของคุณนายไฮโซได้ออกห่างจากตัวเองไปไกลทุกที เธอเริ่มตะโกน

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 15

    หลินจิ้งเข้าใจความหมายของเขาผิดมหันต์ ก็โผเข้าสู่อ้อมกอดเขาด้วยรอยยิ้ม "แบบนี้มันก็ยิ่งเร้าใจน่ะสิ? ซือเหนียน เรามา...กรี๊ด! ทำอะไรของคุณ!"เธอพูดได้ครึ่งเดียว ก็ถูกเผยซือเหนียนที่สุดจะเหลือทนกระชากชุดนอนออกจากตัวเผยซือเหนียนเพิกเฉยต่อเสียงกรีดร้องของใบหู กระทั่งชุดโปรงถูกโยนลงบนพื้นอย่างสมบูรณ์แล้วถึงได้หยุดการกระทำลง โดยที่เขาไม่ได้มองหลินจิ้งเลยตั้งแต่ต้นจนจบบรรดาคนรับใช้แค่มาทำงานแลกเงินเท่านั้น ใครจะมาอยากดูเหตุการณ์แบบนี้ ต่างก็พากันซอยเท้าหนีไปยังสวนหลังบ้านด้วยความเร็วหลินจิ้งหน้าถอดสีในตอนแรก แต่จนกระทั่งบริเวณนั้นไม่มีใครแล้ว ก็ยิ้มอย่างมั่นใจว่าตัวเองเข้าใจถูก "แหม ทำอย่างกับเค้าไม่เก็ทความต้องการของพี่อย่างงั้นแหละ ทำไมต้องรุนแรงแบบนี้ด้วยล่ะ"หล่อนพูดพลางแนบตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเผยซือเหนียน โดยไม่คิดจะปิดบังความคิดอ่านของตัวเองแม้แต่น้อยที่พวกเขาสองคนมาคบหากันได้ก็เพราะเรื่องบนเตียง ไม่ได้มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จึงไม่จำเป็นต้องเหนียมอาย ตราบใดที่เธอให้ความสนุกกับเขา ก็จะได้เงินจำนวนมากส่วนที่เขาจะเห็นเธอเป็นแค่ของเล่นไม่ใช่คนรักนั้น ก็ไม่มีความหมาย

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 14

    [พี่อันหนิง พี่ก็รู้จักเผยซือเหนียนคนนี้ดี เขาน่ะเป็นพวกยึดติดกับรักครั้งเก่า แล้วก็ไม่ค่อยแสดงออก ตราบใดที่พี่ยินดี เขาก็พร้อมจะเลี้ยงดูพี่ได้ตลอดไป แต่ฉันคิดว่าเรื่องบอกเรื่องพูดกันให้เคลียร์ไปเลยจะดีกว่า][ความรักมันไม่มีมาก่อนมาหลังหรอก แต่สิ่งที่ฉันต้องการก็คือหวังว่าคนที่เขาจะได้เจอก่อนก็คือฉัน ตอนนี้พวกพี่ก็แค่เพื่อนร่วมชั้นที่รู้จักกันดีกว่าคนแปลกหน้าใช่ไหมล่ะ ผู้หญิงน่ะต้องรู้จักแต่งหน้าแต่งตัว ไม่งั้นวันๆ เอาแต่หน้าสด สภาพโทรมๆ ผู้ชายที่ไหนเห็นแบบนี้แล้วจะอยากกลับบ้านกัน?][แน่นอนว่าสาวแรกรุ่นคงไม่มีอะไรจะสู้ได้ แต่ก็เราก็ยังรู้จักตัวเองดีกว่าพวกสาวรุ่นใหญ่ที่หนังเหี่ยวขึ้นทุกวันแต่ก็ยังไม่วายเอาตัวเองไปประชันกับพวกสาวๆ นะ วันนี้เผยซือเหนียนชมว่าฉันสวยอีกแล้วด้วยสิ][ทาด๊าา~ นี่เป็นสร้อยที่เผยซือเหนียนให้ฉัน เขาออกแบบเองกับมือเชียว][พี่อันหนิง พี่น่าจะเข้าใจฉันใช่ไหม? พวกเรารักกันด้วยใจจริง ขอแค่พี่เห็นด้วยกับเรา บ้านหลังนั้นก็จะยกให้พี่เป็นค่าปลอบขวัญหลังหย่า เพราะเผยซือเหนียนจะต้องซื้อหลังใหม่ให้ฉันอยู่แล้ว]……ข้อความเนื้อหาทำนองนี้ถูกส่งมามากมาย แต่ละข้อความนั้นไม่

  • รักเรานั้นร่วงโรย   บทที่ 13

    เผยซือเหนียนเห็นว่าไม่ว่าจะทำยังไงทนายก็ไม่หลงกล เขาก้มหน้าลงแสดงจุดยืนอีกครั้ง "งั้นเราก็คงไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ไม่ว่าคุณจะปรินท์มาเท่าไหร่ ผมก็ไม่มีทางเซ็น ส่วนจะไปฟ้องกับทางศาล ก็แล้วแต่คุณ"เขาไม่เชื่อว่าถึงเวลานั้นอันหนิงจะไม่ปรากฎตัวที่ศาล ก่อนถึงเวลานั้น เขาจะต้องคิดทุกวิถีทางเพื่อขอร้องให้เธอยอมให้อภัยพวกเขารักกันมานานตั้งหลายปี มีความทรงจำร่วมกันมากมายตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ถ้าได้เจอกันอีกยังไงก็ต้องใจอ่อน ตราบใดที่เขายืนหยัดที่จะไม่หย่า สักวันนึงเธอจะต้องเปลี่ยนใจกลับมาหาเขาแน่ทนายได้เตรียมรับมือสำหรับเหตุการณ์นี้มาแล้ว เขาเริ่มร่ายกฎหมายให้เผยซือเหนียนฟัง"คุณเผย ที่จริงคุณอันไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องเลยก็ได้ นี่เป็นแค่แผนสำรองในกรณีที่เลือกไม่ได้ก็เท่านั้น ถ้าเป็นไปได้ เธอยังหวังว่าจะจบกับคุณโดยดี อย่างเช่นแยกกันอยู่สองปี ก็สามารถดำเนินการทางกฎหมายได้แล้ว ศาลจะตัดสินให้หย่าด้วยเหตุผลที่ทั้งคู่ไม่ได้รักกันแล้ว"ทั้งหมดนี้อันหนิงศึกษามาล่วงหน้า หลังจากตัดสินใจว่าจะยุติความสัมพันธ์นี้ เธอก็ใช้ความได้เปรียบจากอิสระในการออกไปไหนมาไหน พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status