เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน ภายในบ้านเขาก็เงียบเชียบ ไม่เปิดไฟ ทั้งไม่มีใครอยู่
"นิสา" "นิสา" "นิสา!!!" "ไปไหนของเธอ" เขาได้แต่พรึมพรำคนเดียว เธอไปไหนนี่ก็ 1 ทุ่มแล้ว ทำไมยังไม่กลับมาบ้านของระ...เขา "เหลวไหลจริงๆ เลย" เมื่อรู้ตัวว่าอยู่ไม่สุขขุนเขาก็เดินออกจากบ้านตรงไปที่บ้านพักของพนักงานทันที ด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก "คอยดูนะ ถ้ารู้ว่าเธออู้งานไปไหน ไม่มาทำงานบ้านให้ฉัน ฉันจะจัดการเธอซะให้เข็ด นิสา!" อีกฝั่งคนที่กำลังออกมาเดินเล่น เมื่อเห็นขุนเขา เพื่อนฟ้ารดา ก็สกิดเธอทันที "ฟ้า แกดูนั่น คุณขุนเขาาาาา" "กรี๊ดดดด เขาหล่อจังเลยเนอะ" เพื่อนอีกคนพูดขึ้น "พวกแก หยุดเลยนั่นของฉัน" "ยังไง/ยังไง/ยังไง" เพื่อนทั้งสามคนของเธอก็พูดแซ่วพร้อมกันทันที "ฉันอยากได้เขา เขาถูกใจฉัน และเหมือนเขาก็ชอบฉันด้วยนะ" ฟ้ารดาตอบแบบไม่ปิดบัง "ถามจริง" "จริง" "ฉันจะมาเป็นนายหญิงของที่นี่" ฟ้ารดาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "แล้วชีวิตแกที่กรุงเทพฯ ละ" "แล้วใครบอกฉันจะมาอยู่ที่นี่ถาวรกัน ฉันแค่อยากเป็นนายหญิงของที่นี่" "งั้นรีบไปเร็วววว" เพื่อนของเธออีกคนรีบสกิดและเดินตามเธอไป "เอ่อ พี่ขุนเขาคะ" ฟ้ารดาเรียกขุนเขาเสียงหวาน "คะ...ครับ" ขุนเขาชงักฝีเท้าหยุดเดินทันที "สวัสดีค่ะ" สาวๆ แต่ละคนก็เอ่ยทักทาย "ไปไหนกันครับสาวๆ" เขาหันกลับมา พบว่าเป็นหญิงสาว 4 คนที่กำลังเดินเล่นอยู่แถวนั้น "กำลังจะไปกินข้าวค่ะ" หญิงสาวคนหนึ่งตอบขึ้น "ครับ" เขาพูดพร้อมกับยิ้มให้ "คุณขุนเขาไปกินข้าวด้วยกันไหมคะ" "นี่เมย์ อย่ารบกวนพี่ขุนเขาเลย" ฟ้ารดาทำท่าทีปรามเพื่อนตัวเอง "แหม่ฟ้าฉันก็แค่ชวนไหมละ" "คุณขุนเขาไม่สะดวกหรอคะ" "เอ่อ..." "ถ้าไม่รังเกียจไปกินข้าวด้วยกันไหมคะ" "ได้ครับ ไม่รังเกียจ" เมื่อถูกพูดมาขนาดนี้แล้วไม่ไปคงไม่ได้สินะ "รบกวนหรือเปล่าคะ" ฟ้ารดาถามขึ้นและทำท่าทางเกรงใจ "ไม่ครับ" เมื่อพวกเธอชงกันมาขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องไปตามนั้น ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็กำลังหงุดหงิดอยู่ ไปดูอะไรสวยๆ งามๆ หน่อย ก็คงไม่เป็นไร เมื่อนั่งกินข้าวอยู่ ในใจเขาก็นึกถึงแค่ผู้หญิงคนนั้น นี่สองทุ่มแล้วไม่รู้หายไปไหน หวังว่ากลับไปคงเจอเธอนะ "ไวน์ที่นี่อร่อยดีนะคะ กลับไปคงคิดถึง" "คิดถึงไวน์หรือคิดถึงอะไรยะฟ้า" "คิดถึงไวน์ แล้วก็บรรยากาศ" "หราาาาา" "พวกแกนี่ก็นะ" เธอแกล้งตีแขนเพื่อนตัวเองเบาๆ หยอกล้อกันตามประสา "เกรงใจคุณขุนเขา เขาหน่อยสิ" เพื่อนอีกคนก็พูดขึ้น "ไม่เป็นไรครับ คิดถึงก็มาเที่ยวบ่อยๆ นะ ยินดีต้อนรับครับ" "ตอนรับแค่ยัยฟ้า หรือต้อนรับเราทุกคนคะ" "ทุกคนเลยครับ แต่อาจจะมีคนพิเศษที่สุด" เขาพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา "พี่ขุนเขาก็" เธอผู้ถูกเพื่อนชงก็ยิ้มเขินอาย ทั้งด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอร์ทำให้เธอใจกล้า ขยับเข้าไปใกล้เขา จนจะสิงเข้าร่างให้ได้ ขุนเขาเองก็รู้ดีว่าเธอกำลังอ่อย ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาจัดการเธอไปแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เขาก็ไม่ได้สนใจ จะทำอะไรกับใคร เพราะลำพังแค่กับผู้หญิงอวดเก่งคนนั้น เขาก็พึงพอใจมากๆ แล้ว เมื่อกลับมาถึงไร่ในเวลาสองทุ่มกว่า เธอก็ต้องถอนหายใจเข้าลึกๆ เพราะรู้สึกถึงพลังงานอำมหิตอยู่รายรอบตัว เหตุมาจากเธอต้องไปหาซื้อยาคุมยี่ห้อที่เธอใช้เป็นประจำ เพราะปกติแล้วเธอแพ้ยา เธอจะกินได้แค่ตัวที่หมอแนะนำให้เท่านั้น แต่หาตั้งหลายร้านก็ไม่มี กว่าจะเจอก็เกือบค่ำแล้ว ขับรถกลับมาอีกใช้เวลานาน ทั้งอายนทีที่ไม่รู้จะบอกยังไงว่าตะเวนหาซื้อยาคุม เกือบจะ 10 ร้านขายยาแล้ว "ขอบคุณ พี่นทีมากๆ นะคะที่พาไปซื้อของ เสียเวลามากเลย" ชนิสาพูดขึ้นด้วยความรู้สึกผิด "ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เองอย่าคิดมาก" "ไปไหนกันมาครับ" เป็นเสียงของพีท ที่เอ่ยถามขึ้น "เสือก!" นทีก็ตอบไปในทันที "อ้าววววว ก็ถามดีๆ ไหม" "ไปในเมืองมาค่ะ ไปซื้อของ" "อ่อครับ แล้วกินข้าวหรือยังครับ" "ยัง" นทีเป็นคนตอบออกมาแทน "ไม่ได้ถาม" พีทก็แกล้งแหย่ "ไอ้ห่า พีท" "ยังค่ะ พึ่งมาถึง" เป็นชนิสาที่พูดขึ้นมา "งั้นไปกินข้าวกันไหมครับ พรุ่งนี้ผมกลับแล้วผม ขอกินข้าวกับพี่ๆ สักมื่อนะ" "พี่ๆ นี่กูด้วยปะ" "ก็พี่ๆ ก็ต้องพี่ด้วยสิ เหอะๆ หรือไม่ไปก็ได้นะ" "เดี๋ยวเถอะมึง" "เอ่อ คือพี่ต้องกลับไปทำงานบ้านให้คุณขุนเขาค่ะ ไว้พรุ่งนี้ดีกว่า" ไม่รู้ป่านนี้จะโวยวายหาเธอไปถึงไหนแล้ว "เจ้าของไร่หรอครับ เห็นอยู่กับกลุ่มของฟ้า ที่โต๊ะอาหารทางนู้นครับ คุยกันเสียงดัง ท่าทางจะสนุกกันเชียว" พีทพูดพร้อมกับหันหน้าไปตามทาง "อ่อค่ะ" อ่อเขามีนัดแขกคนสำคัญเขานั้นเอง เขาคงไม่เรียกใช้เธอวันนี้แล้ว งั้นเธอก็ไปกินข้าวได้สิ หิวมากเหมือนกัน เมื่อเดินเข้าไปในห้องอาหารของรีสอร์ท ขุนเขาก็มองขึ้นมาสบตากับชนิสาพอดี ซึ่งเธอก็มองเขาอยู่ก่อนแล้ว เธอก็รีบหันไปอีกทาง เพราะเขาทำหน้าเหมือนจะหาเรื่องเธออีกแล้ว "กินอะไรดีครับ วันนี้ขอเป็นเจ้ามือนะ" "รวยเกิ๊น" นทีพูดพร้อมกับมองบน "ก็รวยมากอะ จะทำไมวะ" "กูจะสั่งทุกเมนู" "..." ชนิสาได้ยิ้มออกมาและส่ายหน้าเบาๆ ฟังทั้งสองคนเถียงกัน "ผมจะเลี้ยงพี่นิสา ไม่ใช่พี่วะ" "ไอ้ห่า" "ล้อเล่นเอง พี่ชายสุดที่รัก" "สั่งเลยนะครับพี่นิสา" เขาหันมาพูดกับเธอพร้อมยิ้มกว้างให้ "หยุดเลยมึงอะ นิสามานั่งตรงนี้ข้างๆ พี่ดีกว่า" นทีพูดพร้อมกับดึงแขนเธอมานั่งข้างๆ เขา แบบไม่ได้คิดอะไร เธอเองก็ไม่ได้คิดอะไรเช่นกัน "ไอ้พี่นที จำไว้นะ" "มึงสั่งไปเหอะ จะเอาอะไรก็สั่ง กูก็จะสั่งเต็มที่เพราะมึงพูดเองว่ามึงจะเลี้ยง" "เอาไวน์ขวดที่แพงที่สุดมาด้วยนะครับ" พีทเอ่ยบอกพนักงาน "เดี๋ยวพี่ไปเอามาเสริ์ฟให้นะคะ" เธอก็กำลังจะลุกขึ้นไป แต่นทีก็จับแขนเธอนั่งลงที่เดิม "ตอนนี้เราไม่ใช่พนักงานแล้วนะนิสา เลิกงานแล้วเราสองคนเป็นลูกค้า" "ใช่ครับ มื่อนี้เต็มที่ แต่ค่าไวน์เก็บที่พี่นทีนะ" "ไอ้ห่า งั้นไม่ต้องกงต้องกินมันละ" "แค่นี้เพื่อน้องก็ไม่ได้หรอ จะล่อมาสักสองขวด" เสียงพูดคุยของสามคนดังขึ้น แต่จับใจความไม่ได้ เพราะอยู่ห่างกันพอสมควร เธอไม่ได้พูดอะไรมาก เอาแต่นั่งยิ้มสดใสอยู่อย่างนั้น ทุกการกระทำของนที และทุกรอยยิ้มของเธอ อยู่ในสายตาเขาตลอดเวลา อยู่กับเขาทำเหมือนจะเป็นจะตาย พออยู่กับคนอื่นนี่ หน้าตาสดชื่นสดใส มีความสุขอะไรขนาดนั้น เขาไม่อยากหงุดหงิดเลย แต่มันข่มตัวเองไม่ได้เลย เพราะเธอเพราะเธอคนเดียว22:40เมื่อกินข้าว และนั่งคุยกันอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน ชนิสาทำทีแอบเหลือบมองไปหาขุนเขา แต่ก็ไม่เห็นเขาอยู่ตรงนั้นแล้วทุกคนคงกลับไปพักผ่อน และวันนี้เขาก็คงไปกับคนพิเศษของเขาแล้วสินะ เธอก็ไม่จำเป็นอะไรต้องไปที่บ้านของเขาแล้ว คิดดังนั้นก็เดินตรงไปที่บ้านพักพนักงาน ของตัวเองทันที"กว่าจะกลับห้องมาได้นะ" เป็นเสียงเยือกเย็น ที่ทักเธอ ทันทีที่เธอเดินเข้ามาเปิดไฟภายในห้องพัก"ว๊ายยยยยยย" เธอตกใจมาก เพราะไม่คิดว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ได้"อย่ามาทำเป็นตกใจขนาดนั้น" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เหยือกเย็น"คุณเข้ามาทำอะไรที่ห้องฉันคะ" เธอถามอย่างแปลกใจ เขาทำไมเข้ามาอยู่ที่นี่ได้"หึ ต้องเป็นไอ้นทีใช่ไหม เธอถึงจะไม่ถาม""อะไรของคุณ""ไปไหนมา""คะ?""ฉันถามว่าเธอไปไหนมา!!!" เขากดเสียงต่ำ"...""ไปไหนมา!" เมื่อเธอไม่ตอบ เขาก็ถามเสียงแข็ง"ไปในเมืองค่ะ""ไปทำอะไร!""ไปซื้อของค่ะ""ของอะไร!" เขามองเธอด้วยสายตาที่เอาเรื่อง"ของใช้ส่วนตัวค่ะ คุณมีอะไรหรือเปล่า""ส่วนตัวคืออะไรของเธอ""ฉันก็บอกอยู่ว่าส่วนตัวค่ะ" เธอตอบเสียงแข็ง"นี่เธอ...""ฉันถามว่าคุณมีอะไรหรือเปล่าคะ""ฉันถามเธออ
เช้าวันไหมที่ไม่ค่อยสดใส่ของเธอนัก เนื่องจากเธอรู้สึกไม่สบาย ขนาดพักผ่อนแล้ว ตื่นมายังรู้สึกปวดหัว ทั้งครั้นเนื้อครั้นตัวอยู่"พี่นิสา""คุณฟ้า สวัสดีค่ะ" เมื่อได้ยินว่าฟ้ารดาเรียกชื่อตัวเอง ชนิสาก็หันไปทักทายอย่างเป็นมิตรทันที"มาทำงานเช้าจังเลยนะคะ" เธอถามเสียงเรียบ"ค่ะ ปกติของพนักงาน""ที่นี่บรรยากาศดีจังเลยนะคะ ฟ้าอยากมาอยู่เร็วๆ""ค่ะ" ด้วยที่เธอไม่รู้ว่าจะตอบอะไร"พี่ขุนเขาไม่มีใครจริงๆ หรอคะ""..." เธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไง เมียจริงๆ จังๆ ก็ไม่มีหรอก จะมีแค่ออกไปมีสัมพันธ์กับสาวๆ สวยๆ ข้างนอกบ้าง ซึ่งเธอก็พอรู้มาจากการบอกหรือประชดของเขา และที่มีแบบไม่เปิดเผยก็เธอนี่ไง นางบำเรอ!"คุณขุนเขายังไม่แต่งงานค่ะ""แล้วคนคบ คนคุยเขามีไหมคะ" เธอถามด้วยท่าทางที่สนใจ"อันนี้พี่ก็ไม่ทราบค่ะ""แล้วทำไมถึงไม่ทราบ พี่นิสาอยู่ที่นี่ไม่ใช่หรอ" และฟ้ารดาก็ขึ้นเสียงใส่"..." และเธอก็ตกใจกับพฤติกรรมแบบนี้"เอ่อ ฟ้าขอโทษค่ะ ฟ้าเห็นว่าพี่นิสาเป็นพนักงานที่นี่เลยแค่จะถามดู""ค่ะ พี่ไม่ทราบจริงๆ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ขะ...""พี่นิสาๆ คุณขุนเขาโวยวายหาใหญ่เลย" แตงกวารีบวิ่งมาบอกหน้าตื่น"อีกแล้วหรอ" เธอ
"ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ พี่ขอโทษจริงๆ พี่แพ้ปลา...""หยุดพูด! ไม่ต้องพูดเพ้อเจ้ออะไรแล้ว""คือแพ้...""มากินข้าวต้มที่เธอทำเดี๋ยวนี้" ขุนเขาพูดพร้อมกับลุกขึ้นไปดึงตัวเธอให้นั่งลง"ฉันไม่กะ...""กิน! ถ้าเธอไม่ได้แกล้ง เธอก็กินอย่ามาทำนิสัยแบบนี้ เธอไม่ใช่เด็กๆ แล้วนิสา!""ฉันไม่ได้แกล้งคะ ฉันไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย""งั้นก็กินมันเข้าไปกินให้หมด ฉันสั่ง!!!" เขาพูดกับเธอเสียงแข็งเธอก็มองเขาด้วยสายตาที่ตัดพ้อ จากนั้นก็ก้มมองที่ชามข้าวต้มปลากะพง ที่มีเนื้อปลากะพงพิเศษชิ้นใหญ่ๆ อยู่เต็มชาม ก่อนจะตัดสินใจหยิบช้อนขึ้นมาตักกิน ก็ได้รู้ว่ามันเค็มจริงๆ ก็สมควรแล้วที่เขาจะติเธอปกติเธอจะทำกับข้าวถูกปากเขามาก บางครั้งเขาก็เผลอชมเธอออกมาบ่อยๆ แต่ครั้งนี้คงไม่ได้จริงๆ เขาต้องจัดการเธอให้เด็ดขาดชนิสาตักข้าวต้มเข้าปาก ขุนเขากับฟ้ารดาก็มองอยู่แบบนั้น จนเกือบจะครึ่งชาม ขุนเขาก็ยืนจ้องชนิสาด้วยสายตาที่เอาเรื่องเธอไม่น้อย เขาคงคิดว่าเธอแกล้งจริงๆ ยิ่งจะหาเรื่องเธออยู่ก็ยิ่งจะหาเรื่องเรื่อยๆ"พี่ขุนเขาคะเราไปกินข้าวที่รีสอร์ทกันดีกว่าไหม ฟ้าหิวแล้วค่ะ" ฟ้ารดาก็ถือวิสาสะมากอดแขนขุนเขาไว้แน่น ด้วยจะพูดจาด้วยน้ำ
พอมาถึงรีสอร์ทก็เจอเข้ากับนทีและแตงกวาพอดี เมื่อนทีเห็นท่าทีไม่สบายของชนิสา ก็รีบวิ่งเข้ามาดู เพราะหน้าเธอซีดมาก ทั้งยังเหมือนคนหายใจไม่ออก"นิสา นิสาเป็นอะไร" นทีถามอย่างร้อนใจ"พี่นิสาเป็นอะไรก็ไม่รู้ เหมือนจะไม่สบาย" พีทรีบบอกทันที"พี่นิสาแพ้อะไรอีกหรือเปล่า" แตงกวาถามด้วยความตกใจ"ตะ...แตงกวา พี่นที พะ...พานิสาไปหาหมอหน่อยค่ะ" เธอพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา"ครับๆ พีทมึงพานิสาขึ้นรถก่อน กูจะเอาของออกไปไว้ก่อน" เมื่อพูดจบเขาก็ขนของลงจากรถทันที และพีทก็จัดเบาะเพื่อให้นิสานั่งให้สบายที่สุด และก็เปิดประตูจะขึ้นรถด้วย"มึงไม่ต้องไป เดี๋ยวก็กลับกรุงเทพฯ แล้ว""แต่พี่นิสา""กูกับแตงกวาดูแลเอง""พี่นิสา ไม่เป็นอะไรนะพี่นิสา" แตงกวารีบตามขึ้นรถไปกุมมือชริสาไว้แน่น"แต่...""มึงไม่ต้องแต่ เดี๋ยวกูส่งไลน์ไปบอก รีบไปเก็บของกลับกรุงเทพฯ เถอะมึง""ครับๆ ยังไงบอกผมด้วยนะพี่" เมื่อพีทพูดจบ นทีก็รีบขับรถออกไปอย่างเร็ว จนคนแถวนั้นมองกันหมด"เกิดอะไรขึ้น" ขุนเขารีบเดินมาถามพีททันที"พี่นิสาไม่สบายครับ พี่นทีเลยพาไปโรงพยาบาลแล้ว" เขาตอบด้วยท่าทีเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย"แล้วนายไม่ตามไปหรอพีท" ตามด้วยฟ้ารดาที
ขุนเขา Talkเมื่อส่งน้องๆ นักศึกษาเสร็จ รีสอร์ทของเขาก็เงียบสงบขึ้นมาก เนื่องจากทัวร์ของกลุ่มนักศึกษาได้เหมารีสอร์ทของเขาเป็นเวลา 2 คืน 3 วัน และวันนี้แขกปกติก็มีเข้ามาพักบ้าง แต่ไม่ได้มากมายอะไรเขานั่งลงเก้าอี้ทำงาน ด้วยอาการที่เหนื่อยล้า นี่เวลาก็ล่วงเลยมาถึง 1 ทุ่มแล้วทำไม ชนิสายังไม่กลับมา หรือจะป่วยจริงๆ แต่คงไม่ใช่หรอก น่าจะแค่สำออยออกไปเที่ยวในเมืองกับนทีมากกว่าคิดได้แบบนั้นก็ต่อสายหาเธอทันที แต่โทรยังไงก็ไม่รับสาย นี่ก็ปาเข้าไปสายที่สามแล้ว ทำให้คนที่รอสายอยู่ถึงกับหัวเสียทันที แล้วก็กดวางโทรหานที ก็ไม่รับเหมือนกัน กรามแกร่งของเขาก็นูนขึ้นมาทันทีRrrrr Rrrr Rrrr"นิสา เธอหายหัวไปไหน" เขาพูดออกมาเสียงดุดัน(คชา : นิสาไหนของมึง) เป็นเสียงของคชาเอ่ยทัก"ไอ้เหี้ย นี่มึงหรอ มึงมีไร" เขาพูดด้วยอารมณ์ที่ขุนเคือง(คชา : งานแต่งไอ้ขุนพล กูกับน้องอ้ายจะไปนะ จะเอาลูกไปด้วย จัดห้องพักที่เงียบๆ ห่างไกลผู้คนให้หน่อย ลูกกูไม่ชอบเสียงดัง)"มึงเอาเมียกับลูกมาด้วยหรอวะ"(คชา : เอ่อ เอาเมียกับลูกไปด้วย แล้วความฉิบหายของกู เมียกูกับน้องนุ๊กนิ๊กเป็นเพื่อนกัน ไอ้ห่า)"เวรไหมละมึง วีรกรรมมึงไม่ชนห
วันต่อมา"นิสา นิสาเป็นยังไงบ้างลูก" เสียงนิดาแม่ของชนิสาถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงลูก"แม่" เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา ก็เห็นว่าเป็นแม่เธอที่เรียกอยู่ข้างๆ"ทำไมถึงไปกินปลากะพงได้ละลูก" แม่เธอถามอย่างคนใจเย็น"ฮึกๆ นิสาเผลอไปกินจ้ะแม่" เธอเลี่ยงที่จะพูดความจริงดีที่สุด"ร้องไห้ทำไมลูก" เมื่อเห็นว่าเธอร้องไห้แม่เธอก็สวมกอดเธอเอาไว้"นิสากลัวว่าจะตาย นิสากลัวจะไม่ได้เห็นพ่อกับแม่อีก ฮือๆๆ" เพราะเป็นสิ่งเดียวที่เธอกลัวที่สุดในชีวิตแล้ว"ไม่ต้องร้องไห้นะลูก นิสาปลอดภัยแล้ว หมอบอกแม่ว่าให้นอนดูอาการอีก 2 วันค่อยกลับได้""เป็นว่าต้องอยู่โรงพยาบาล 3 วันเลยหรอจ้ะแม่""ใช่ลูก อีกสักคืนสองคืน ให้ผืนแดงมันหยุบลงด้วย""แล้วนี่แม่มาได้ยังไง พ่ออยู่กับใครจ้ะ" เธอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงพ่อ"แม่ฝากไว้กับป้านุช แม่โทรมาหานิสาเมื่อเช้า หนูที่ชื่อแตงกวาเป็นคนรับสาย และบอกว่านิสานอนอยู่โรงพยาบาล แม่เลยรีบมาแต่เช้าเลย""โธ่ แม่ ไม่เห็นต้องลำบากทิ้งพ่อมาเลย นี่ก็ไกลด้วย""ทำยังไงได้ แม่เป็นห่วงลูก" แม่เธอพูดพร้อมลูบหัวเบาๆ"ขอบคุณนะจ๊ะแม่ นิสาก็ยังใจไม่ดีอยู่จริงๆ นิสากลัว กลัวจริงๆ" เธอพูดพร้อมกับกอดแม่เธอไว้แน่น
ขุนเขา Talk3 วันผ่านไป เขาและเธอยังมีสงครามเย็นต่อกันอยู่ เธอเงียบทุกอย่าง เขาจะหาเรื่องอะไร เธอก็ทำทั้งหมด ไม่เคยบ่นไม่เคยปฏิเสธอะไรสักอย่าง"พ่อ..." เขาเบิกตากว้างเมื่อเห็นพ่อเขา เดินเข้ามาในบ้าน"อืม""พ่อมาได้ไง" ร้อยวันพันปี พ่อเขาแทบไม่มาที่นี่เลย"ไร่ก็ไร่ข้า ทำไมจะมาไม่ได้วะ”"แต่พ่อยกให้ผมแล้ว จะมาไร่พ่อได้ยังไง" ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ"เอ่อ รู้งี้ยกให้วัดดีกว่า""พ่อออออ""เอ่อ ข้าพ่อเอ็ง""แล้วมาทำไม"เมื่อนิสาเดินออกมาจากห้องครัว ทันทีที่เห็นเสี่ยไพบูลย์ เธอก็ตกใจมาก เพราะเสี่ยไพบูลย์เคยอยากได้เธอเป็นนางบำเรอ ตอนนั้นเธอปฏิเสธแทบตาย เพราะไม่ได้ต้องการอะไรแบบนี้แต่เมื่อความจำเป็นทำให้เธอไม่มีทางเลือก เธอก็ตัดสินใจไปหาเสี่ยไพบูลย์ที่โรงแรมของเขาทันที แต่ก็เจอกับลูกชายคนเล็ก นั่นก็คือคุณขุนเขาก่อนเมื่อเขารู้เจตนาของเธอว่าเธอมาทำอะไร เขาก็โกรธเธอเกลียดเธอมาตั้งแต่ตอนนั้น เขาดึงแขนเธอขึ้นไปบอกเสี่ยไพบูลย์ซึ่งตอนนั้น ก็อยู่กับผู้หญิงอีกคนในห้อง ว่าเขาจะให้เธอมาเป็นนางบำเรอตัวเอง และที่ 6 ไร่ของเธอเขาจะขอ จนสุดท้ายก็ได้เป็นนางบำเรอของลูกชายของเสี่ยไพบูลย์มาจนถึงทุกวันนี้ตอนนั้นเ
2 สัปดาห์ต่อมาเขากับเธอก็ยังคงสงครามเย็นกันอยู่ เธอไม่พูดกับเขา เธอยอมเขาทุกอย่าง เขาก็หาเรื่องอะไรเธอมากไม่ได้และตอนนี้ด้วยอารมณ์ของชายหนุ่ม ก็เริ่มรู้สึกอึดอัดมาบ้างแล้ว เกือบจะเดือนแล้วที่ไม่ได้มีอะไรกับเธอ จะเรียกหาก็กลัวจะเสียฟอร์ม ทั้งช่วงนั้นเธอก็ไม่สบายอยู่ ก็กลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีกส่วนเธอเอง ก็พยายามจะหลบหน้าเขา และตีตัวออกห่างเขาให้มากที่สุด ตื่นเช้ามาก็มาทำอาหารไว้ให้ทุกวัน จัดโต๊ะให้เรียบร้อย ก่อนเขาจะลงมาจากบ้าน เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เธอก็จะรีบออกไปเวลาอื่นๆ ที่อยู่ในไร่ เมื่อเขาไปฟาร์มวัว เธอก็ไปฟาร์แกะ เมื่อเขามาฟาร์มแกะ เธอก็ไปช่วยพนักงาน ทำงานที่รีสอร์ท ถ้าเขาไปที่นั่น เธอก็จะเข้าไปช่วยแม่บ้าน ทำความสะอาดห้องพักเมื่อตกเย็นมา เธอก็มาทำงานบ้านให้เขาทุกอย่าง เมื่อเขาเรียกใช้เธอหรือเขาบ่นอะไร เธอก็รีบไปทำโดยไม่มีข้อต่อขานอะไร เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วเธอก็จะรีบกลับบ้านพักไปทันที เนินนานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ที่วนลูปอยู่แบบนี้ จนทำให้เขาหงุดหงิดแทบบ้าอยู่แล้ว"นที มึงจะไปไหน" เมื่อเห็นท่าทางที่ดูจะเร่งรีบของนที เขาก็เอ่ยถามขึ้น"จะเอาข้าวไปให้ลุงเจิมครับ ลุงเจิมกับค
ชนิสา Talkเมื่อนั่งทำงานที่ออฟฟิตได้สักพัก ก็มีคนเดินเข้ามาทักทาย ซึ่งเธอก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย"สวัสดีครับนิสา" เป็นเสียงอันหล่อเหลาไม่แพ้หน้าตา"อ้าว คุณปริ้นสวัสดีค่ะ" ชนิสาก็ทักทายกลับไปทันที แต่ก็ยังคงแสดงสีหน้าสงสัย"อ่อ พอดีผมว่างๆ เลยแวะมาเที่ยวครับ นี่ครับของฝากจากกรุงเทพฯ" และปริ้นก็ยื่นกล่องบางอย่างให้เธอ"ขอบคุณมากนะคะ สวยมากเลย" เป็นโบว์สีขาว คล้ายๆ กับแบบที่เธอชอบใส่"พอดีไปเดินเล่น แล้วเห็นว่าเหมาะกับนิสาเลยซื้อมาฝากครับ เห็นว่านิสาทำผมทรงนั้นพร้อมกับใส่โบว์แล้วสวยดี" ปริ้นพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์ให้"ขอบคุณอีกครั้งนะคะ" ชนิสาพูดพร้อมกับก้มหน้าให้เล็กน้อย"ไม่เป็นไรเลยครับ เต็มใจมากๆ""เชิญนั่งก่อนค่ะ ตามสบายนะคะ" และหญิงสาวก็ลุกขึ้นไปเอาน้ำ มาให้ชายหนุ่มตรงหน้า เพราะเธอว่างจากงานบ้างแล้ว"ขอบคุณครับ งานยุ่งมากเลยหรอครับ" เมื่อเห็นว่าหญิงสาว ยังใจจดใจจ่อตั้งใจทำงานเขาเลยถามขึ้น"ตอนเช้าก็จะยุ่งแบบนี้ทุกวันค่ะ ต้นเดือนด้วย" เธอชงักไปกับคำว่าต้นเดือน เพราะสิ้นเดือนหน้าเธอก็หมดสัญญาแล้ว..."นิสานี่ตั้งใจทำงานจังเลยนะครับ""..." หญิงสาวยังคงคิดอะไรอยู่"ไอ้ขุนนี่โชคดีจริงๆ เล
เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาชนิสาก็อาบน้ำแต่งตัว ไปทำงานปกติ แต่ก็เจอกับแบมไพลินที่ยืน คุยอยู่กับนทีแบบไม่สบอารมณ์ ทั้งนทีที่แสดงสีหน้าเบื่อหน่ายออกมาอย่างชัดเจน"มีอะไรกันหรือเปล่าคะคุณแบมพี่นที" ชนิสารีบเข้าไปถามทันที เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มมาคุ"ฉันจะไปหาพี่ขุนเขา แต่นายนทีมาว่าฉัน""ผมไม่ได้ว่าครับ ผมแค่ให้คุณแบมเข้าไปดูงานในออฟฟิตก่อน มันเป็นงานที่ต้องทำก่อน ไม่ใช่ว่าไปหาคุณขุนเขาตอนนี้ มันไม่ใช่เรื่อง" นทีตอบกลับแบบไม่ค่อยพอใจ"นี่ไง! นายกำลังว่าฉัน""ผม!""คนงานอย่างนายมาเกี่ยวอะไรด้วย อนาคตฉันจะเป็นนายหญิงของที่นี่ ฉันจะทำอะไรก็ได้" แบมไพลินแพร่ดเสียงดัง"ผมเปล่าว่า ผม..." นทีกำลังอธิบาย"เอ่อ คืออย่างนี้ค่ะคุณแบม ตอนเช้ามาเราต้องเข้าออฟฟิตเข้าระบบทุกอย่างก่อน เพื่อดูพนักงานว่าคนไหนขาดลา มาสาย ต้องอยู่ตรงนั้นแตั้งแต่ 8 โมงถึง 9 โมงค่ะ มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ" ชนิสาอธิบายอย่างใจเย็น"เธอก็ไปทำสิ ปกติก็หน้าที่ของเธอไม่ใช่หรือไง""ก็ใช่ค่ะ แต่คุณผู้หญิงบอกมาเองเลยว่าให้สอนงานคุณแบมเหมือนที่ฉันทำทุกอย่าง คุณแบมจะได้รู้ทุกหน้าที่""ฉันจะเป็นนายหญิงนะ ฉันจะทำหรือไม่ทำก็ได้ คนงานเยอะแยะ พนัก
เมื่อพ่นน้ำไปไม่รู้ตัว ขุนเขาก็รีบดึงทิชชู่มาเช็ดให้ในทันที"โทษๆ วะมึง""มึงเป็นเหี้ยไร ห่าโดนกูเลยเนี่ย" ปริ้นพูดพร้อมกับเช็ดไปด้วย"เอ้อๆ กูเช็ดให้นี่ไง""ไม่ต้องเลย กูเช็ดของกูเอง เสื้อแพงนะเว้ย" ปริ้นยังบ่นไม่หยุด"แล้วมึงบอกว่าอยู่หลายวันนี่ยังไง" ขุนเขาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ"ก็กูเบื่อๆ อะ ไอ้ห่าพวกนั้นก็ไม่ว่างกัน ไอ้คชาก็ติดลูกติดเมีย กูเลยมาหามึง""แล้วมึงก็มาตั้งไกลเนี่ยนะ" ถามด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด"ไกลเหี้ยไร แค่นี้กูขับรถ 3 ชั่วโมงเองสบาย" ปริ้นพูดอย่างสบายใจ"ห่าไรละ แต่ก่อนกูให้มาหาบอกไกลบอกไม่สะดวกมา"เมื่อก่อนขนาดมีงานอะไรที่ไร่เขา ไอ้พวกนี้ยังปฎิเสธจ้าละหวั่นกัน ถ้าไม่ใช่งานแต่งหรืองานศพ ไอ้พวกห่านี่อย่าหวังว่าจะได้เห็นหน้าพวกมัน"ก็วันนี้ไม่เหมือนกัน กูมาเพราะมีเป้าหมาย""อะไรของมึง" ขุนเขาหรี่ตาถาม"กูมาจีบนิสา" ปริ้นพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง"..." ขุนเขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก"กูบอกที่บ้านกูแล้ว ป๊าม้าโอเค อาม่ารอรับหลานสะใภ้ ทั้งเฮียและเจ่เจ้ถามใหญ่เลยว่าจะพาไปสวัสดีวันไหน" ปริ้นพูดพร้อมกับยิ้มออกมา"ที่บ้านมึงไม่ว่าหรอถ้าคนนั้นคือผู้หญิงธรรมดา" ก็ถามไปแบบนั้นแหละ
ภายในรถ"หื้มมมม คุณขุนเขาค่ะในที่สุด องุ่นที่ไร่ก็ได้โกอินเตอร์ ไปอีกประเทศแล้ว แบบนี้ก็ต้องทำงานให้หนักขึ้นนะสิ" เสียงแตงกวาพูดขึ้นด้วยความดีใจ"..." ชนิสาที่นั่งอยู่ข้างหลัง ยังคงนิ่งเงียบและไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจเธอก็ยิ้มออกมาเหมือนกัน ทุกความเหนื่อยของเธอ เริ่มเห็นผลขึ้นมาบ้างแล้ว"ผลผลิตดี อย่างอื่นก็จะดีไปด้วยนะแตงกวา" ขุนเขาพูดกับคนข้างๆ แต่สายตาก็เหลือบมองกระจกมองหลัง เกือบจะตลอดเวลา"เช่นโบนัส ใช่ไหมคะ""ก็ต้องถามนิสาแล้วละ" เพราะปีที่แล้ว ช่วงที่จะให้โบนัสพนักงาน ชนิสาจะเป็นคนคิดให้ทั้งหมด จะดูภาพรวมของทุกอย่างในไร่ และก็เสนออกมาเป็นโบนัส ให้พนักงานอย่างเหมาะสมที่สุด"พี่นิสาว่าไง โบนัสจะดีไหมปีนี้" แตงกวาหันมาถามอย่างตื่นเต้น"พี่ไม่รู้ อันนี้ต้องถามคุณแบมนะ" ชนิสาตอบพร้อมยิ้มบางๆ ให้แตงกวาเธอไม่รู้จริงๆ เพราะเธอคงอยู่ไม่ถึง อีกไม่เกิน 3 เดือน เธอก็ต้องออกไปจากที่ไร่แล้ว เธอคงไม่มีสิทธิ์จะไปรับรู้อะไร เรื่องของเขาปล่อยให้ว่าที่นายหญิงของไร่เป็นคนจัดการ"ใช่สิเนอะ แตงกวาลืมไปค่ะ"ทุกคำพูดของเธอ ทำให้คนที่ขับรถอยู่ ถึงกับหย่นคิ้วเข้าหากัน จนจะเป็นโบว์อยู่แล้ว"ถึงแล้วค่ะคุณข
"สวัสดีค่ะ ชื่อแบมนะคะ แบมจะมาทำงานที่นี่ ดูแลงานทุกอย่างของไร่ ช่วยพี่ขุนเขา แบมยังไม่เคยทำงานมาก่อนเลยค่ะ รบกวนขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ" หญิงสาวพูดด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง และน่ารักสดใส ทำให้คนงานหลายๆ คนชอบเธอขุนเขาที่นั่งฟังอยู่ ตาก็เหลือบไปมองชนิสา ตลอดเวลา ชนิสานิ่งมากเหมือนไม่รู้สึกอะไร กับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่ทักท้วงอะไรสักอย่างเลย จนทำให้ขุนเขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับทุกสรรพสิ่ง"ค่ะคุณแบม พวกเรายินดีต้อนรับคุณแบมนะคะ" บัวและก็ทีมงานพูดขึ้นเมื่อทุกคนได้รับเงินเดือนหมดแล้ว ก็พากันกลับไปพักผ่อน แม้กระทั่งขุนเขาที่ยิ้มให้แบมไพลินและออกจากห้องไปทันที ไม่พูดอะไรกับเธอต่อแม้แต่คำเดียว"พี่ขุนเขาคือว่าแบม..."ปึง!! เสียงปิดประตูก็ดังขึ้น"อ๊ายยย นี่ไม่คิดจะสนใจกันเลยใช่ไหม" แบมกำมือทั้งห้านิ้วไว้แน่น เพื่อข่มอารมณ์โกรธเอาไว้เมื่อความหงุดหงิดบังเกิดขึ้น ก็เดินออกจากห้องไปทันที และก็พอดีเจอนทีกับแตงกวา กำลังยืนคุยกันอยู่"นี่นาย" เสียงเรียกแพร่ดออกมา ทำให้คนทั้งสองรีบหันไปมอง"ครับ คุณแบม" นทีตอบแบบไม่คิดอะไร"นายทำตำแหน่งอะไรที่นี่นะ ฉันจำไม่ได้" พูดพร้อมกับสายตาที่เหยียดเล็ก
เมื่อขุนเขาได้ยินแบบนั้นก็รีบหันหน้าไปมองชนิสา ที่ร้องไห้อยู่ตัวเขาเอง เป็นคนใจร้ายขนาดนี้ได้ยังไง"ไหนพ่อบอกว่านิสามาเสนอตัวให้พ่อเอง วันนั้นที่ผมไปหาพ่อ" ขุนเขาพูดเสียงดังขึ้น"พ่อไม่รู้จะว่ายังไง กลัวเอ็งจะหาว่าพ่อมักมากอีก พ่อเลยโกหกไปแบบนั้น" เสี่ยไพบูลย์พูดพร้อมกล้มหน้า ไม่กล้าสู้หน้าลูกชาย"พ่อ!!!" และความรู้สึกผิดของเขาก็ประเดประดังเข้ามาเต็มอก ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาทำร้ายจิตใจชนิสาสารพัด เพราะคิดว่าเธอคือผู้หญิงที่น่ารังเกียจ เอาตัวเข้าแลกกับที่ดินขี้ปะติ๋ว แต่เขาไม่รู้เลยว่ามันสำคัญกับครอบครัวของเธอขนาดนี้"เอ่อ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง เป็นความผิดของฉัน""..." บุษบายังมองหน้าสามีเก่าด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด"หนูนิสา ฉันขอโทษหนูนะ ที่เป็นต้นเหตุทั้งหมด ฉันจะคืนที่ให้หนู" เสี่ยไพบูลย์พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง"..." ชนิสาเอาแต่ร้องไห้ ไม่ได้พูดอะไร"นิสา เธอไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วนะ เอาโฉนดที่ดินเธอคืนไปเถอะ ส่วนสัญญาว่าจะทำงานที่นี่...""แม่ครับ ผมยังยืนยันให้นิสา อยู่จนครบสัญญา" ขุนเขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ"อยู่หรอ อยู่ให้แกทำร้ายซ้ำไปซ้ำมา อีกอย่างนั้นหรอ""ผมไม่ทำครับแม่" ข
เพราะเมื่อคืนเข้านอนเร็ว ไม่อยากคิดอะไรมาก เลยทำให้เธอตื่นเช้าได้อย่างสดชื่น รีบอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานอย่างปกติ เนื่องด้วยแขกกลับไปหมดแล้ว วันนี้เลยสงบกับวิ่งวุ่นเก็บของ"นิสา" บุษบาเรียกชนิสาด้วยน้ำเสียงที่สดใส"สวัสดีค่ะ คุณผู้หญิง" ชนิสาพูดพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม"เป็นยังไงบ้างหลับสบายไหม""ค่ะ เมื่อคืนนอนเร็ววันนี้เลยตื่นมาสดชื่น""แสดงว่า แต่ก่อนนอนดึกกับไม่สดชื่นหรอ" สายตาของบุษบา แสดงความห่วงใยออกมาอย่างชัดเจน"เอ่อคือ..." ก็แทบจะไม่ได้นอนทั้งคืน ถูกจับกินจนแทบจะเหลือแต่กระดูก"ช่างเถอะนะนิสา ถ้ามันไม่ดีก็ไม่ต้องไปคิดอะไรแล้ว ฉันบอกลูกชายฉันแล้ว ฉันจะจัดการเขาเอง เธอไม่ต้องห่วง""..." แล้วคุณบุษบาหมายถึงอะไร"ฉันจะกลับกรุงเทพฯ ตอนเย็นนะ อยากจะฝากให้เธอดูแลน้องแบมด้วย สักอาทิตย์หน้าจะมาลองทำงานที่นี่""อ่อค่ะ...ได้ค่ะ" ชนิสาตอบรับด้วยใบหน้าที่วูบไหว สุดท้ายแล้ว ว่าที่นายหญิงของที่นี่ก็มาแล้วสินะ"แล้ววันนี้ตอนบ่ายโมง เธอไปเจอฉันที่บ้านขุนเขานะ ฉันมีอะไรจะคุยกับเธอสองคน ต้องคุยพร้อมกัน""เอ่อคือ" ชนิสามีท่าทีที่ลังเล"ไปเถอะ ฉันอยู่เธอไม่ต้องกังวลอะไร""ค่ะ คุณผู้หญิง" แล
ตกเย็นมา ในกลุ่มของเขาก็นั่งล้อมวงปาร์ตี้กัน รวมถึงอ้ายและคชาและเพื่อนๆ คนอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มของพวกเขา ที่กำลังจะเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ"ขอบใจพวกมึงมากนะที่มา โดยเฉพาะคุณหญิงอ้าย ที่อุตส่ามาได้ น้องคเชนครับน้านิ๊กขอบคุณมากนะครับ " นุ๊กนิ๊กกอดเพื่อนสนิทแน่น พร้อมกับจับเท้าลูกชายของเธอเบาๆ"ต้องมาอยู่แล้ว รอดูหลานอยู่นะคะ คเชนอยากมีน้องไหมลูก""ไม่แน่ ถ้าเป็นผู้หญิงให้หมั้นกันไว้ดีมะ" นุ๊กนิ๊กพูดในเชิงหยอกล้อ"ก็ดีนะ จะได้อยู่ในสายตา ไม่ออกนอกลู่นอกทาง""จำได้ไหมที่ฉันเคยบอกเรื่องเพื่อนที่ขุนพล"(ในเรื่อง *รักเกินห้ามใจนายแบดบอย)"จำได้สิ ก็นี่ไงหลักฐาน อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น" เธอพูดพร้อมกับเขย่าลูกน้อยที่อุ้มอยู่เบาๆ จนเกิดเสียงหัวเราะในกลุ่มเพื่อนขึ้น"รถพร้อมแล้วครับอ้าย กลับกันเถอะ""ค่ะ กลับก่อนนะคะทุกคน แล้วเจอกันใหม่ค่ะ" อ้ายโบกมือทักทายทุกคน พร้อมด้วยทุกคนที่กู่กันเข้ามา หยอกล้อหอมน้องคเชน หลานคนแรกของกลุ่ม"ไปก่อนนะพวกมึง แล้วเจอกัน แล้วนั่นไอ้ขุน มึงจะเหม่ออีกนานไหม" คชาพูดจาเย้าแหย่คนที่เอาแต่เหม่อ ไม่สนใจจะมาส่งแขก"อย่าไปยุ่งกะมันเลย เดี๋ยวพวกกูซักฟอกมันเอง มึงรอฟังข่าวเถอ
รถตู้หรูคันสีขาววาววับของบุษบา ก็ค่อยๆ เปิดออกมา พร้อมกับบุษบาและชนิสา ที่เดินลงมา ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้น พากันยิ้มออกมาอย่างดีใจ ต่างจากขุนเขาที่ตาแดง และพยายามจะเดินเข้าไปหานิสา"แกหยุดอยู่ตรงนั้น" บุษบาพูดขึ้นด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีต่อลูกชาย"หนูนิสาของป้า เป็นยังไงบ้าง นี่ตามหาหนูกันทั้งคืนเลยลูก" ป้าแววพูดพร้อมกับสวมกอดเธออย่างอบอุ่น รวมถึงแตงกวา และพนักงานผู้หญิงอีกหลายๆ คนด้วย"นิสาไม่เป็นอะไรค่ะ..." เธอพูดพร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตา ตาเธอบวมและแดงมากๆ"ทุกคนเป็นห่วงนิสามากนะ ออกตามหากันทั้งคืนเลย พี่ดีใจนะที่นิสาไม่เป็นอะไร""ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะคะ" เธอยิ้มออกมาพร้อมน้ำตา อบอุ่นหัวใจมาก คนหลายสิบชีวิตเป็นห่วงเธอขนาดนี้"นิสาฉัน..." ขุนเขาพูดเสียงแผ่วเบาแต่ไม่มีใครสนใจ"ไปพักผ่อนนะนิสา ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้ว ไปส่งนิสาด้วยนะพี่แวว""ค่ะคุณผู้หญิง" ป้าแววตอบรับพร้อมโอบกอดชนิสาไว้"ขอบคุณคุณผู้หญิงนะคะ""ไม่เป็นไรแล้ว" บุษบายิ้มบางๆ ให้"..." ชนิสาก้มหน้าและก็เดินไปทันทีเมื่อทุกอย่างจบลงแล้วพนักงานหลายคนก็พากันไปทำงานต่อ เพื่อนของขุนเขาก็มองเขาตาเขม่ง เพราะยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น