บ้านชาติชายรถสปอร์ตหรูขับมาด้วยความรวดเร็วตามอารมณ์ที่ขุ่นมัวของเจ้าของรถ ร่างบางจอดรถของตัวเองยังบริเวณลานจอดรถของบ้านเดี่ยวที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหรามูลค่ากว่า 50 ล้านบาทด้วยทำเลที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้มูลค่าของบ้านหลังนี้เพิ่มขึ้นทุกปี“นังบ้าอย่าให้ฉันเจอแกอีกนะ” เสียงของร่างบางตะโกนด่าทอเพื่อระบายความคับแค้นใจกรี๊ดดดดดดด! !!ร่างบางในชุดเดรสแดงเดินลงมาจากรถหรูของตัวเองด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว พร้อมกับเดินกระแทกเท้าเข้ามาภายในตัวบ้าน ด้วยนิสัยที่ถูกตามใจมาตั้งแต่ยังเด็กไม่มีอะไรที่คนอย่างเมญ่าอยากได้แล้วไม่ได้“ปากดีไปเถอะมึง คุยกันดีๆไม่ได้ก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” เมญ่าพูดออกมาอย่างโกรธแค้นคนอย่างเธอเสียชื่อไม่ว่าเสียงหน้าไม่ได้ เธอไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ แน่นอนและยิ่งมีชีวิตพ่อของเธอเป็นเดิมพันด้วยแล้วละก็เธอไม่มีทางยอมปล่อยให้ดีโอหลุดมือไปแน่นอนเสียงกรีดร้องของลูกสาวคนเดียวของบ้านดังมาจากทางหน้าบ้าน ทำให้ชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังกอดเกี่ยวกันอยู่บนโซฟาภายในห้องนั่งเล่นผละออกจากกันทันทีด้วยความตกใจ“ใครทำอะไรลูก” เสียงของพ่อบังเกิดเกล้าเอ่ยถามลูกสาวสุดที่รักออกมาด้วย
@พัทยา“ทะเล๊...” ฉันมองออกไปยังนอกหน้าต่างรถหรูพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะมองไปที่ร่างสูงข้างๆ เขาเองก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยเช่นกันในขณะที่มองไปยังท้องทะเลที่อยู่เบื้องหน้า“หึหึ”ซู่! ซู่! ซู่!“ไปเล่นน้ำกันค่ะ” ฉันจูงมือหนาของร่างสูงพร้อมกับพาเขาวิ่งลงไปยังริมชายหาดที่อยู่ไม่ไกล เวลาในตอนนี้เกือบจะห้าโมงเย็นแล้ว แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันธรรมดาทำให้หาดบริเวณนี้ไม่ค่อยมีผู้คนสักเท่าไหร่ร่างสูงวิ่งตามฉันมาตามเเรงฉุดของฉัน ก่อนที่เราจะหยุดเดินและรอให้น้ำทะเลซัดเข้ามาโดนเท้าของเราทั้งสองคนตามแรงของคลื่นที่ซัดเข้ามายังชายฝั่งดูไปดูมามันก็เหมือนกับชีวิตของเราเหมือนกันนะ บางทีเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าชีวิตจะพัดพาอะไรมาให้เราต้องเผชิญบ้าง บางครั้งคลื่นสงบก็เหมือนกับชีวิตที่เรียบง่ายและมันมักจะผ่านไปมันไปไวเสมอ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีพายุเข้าคลื่นลูกใหญ่ที่ซัดเข้ามายังชายฝั่งก็สูงขึ้นตามไปด้วย ชีวิตคนเราก็ไม่ต่างกันมีความสุขสงบก็ต้องมีความทุกข์และความวุ่นวายมาให้เราได้แก้ปัญหาถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะแต่ทุกคนเชื่อไหมว่าทุกครั้งที่พายุพัดผ่านไปความสดใสมันจะกลับมาอีกครั้ง เพราะฉะนั้นดื่ม
“เสียวหรอหืมมมม...” ร่างสูงเอ่ยถามฉันเสียงอ่อน ก่อนที่มือหนาจะเกี่ยวชั้นในตัวจิ๋วเพียงชิ้นเดียวของฉันออกจากขาเรียวอย่างช้าๆ“ค่ะ แด๊ดดี้หนูร้อนแล้ว”“สงสัยไวน์แดงจะออกฤทธิ์ พี่ขอชิมหน่อยนะครับที่รัก” ร่างสูงมองมาที่ฉันเล็กน้อย มือหนาทั้งสองข้างจะจับขาของฉันอ้าออกกว้าง“แผล็บ! แผล็บ! แผล็บ! !!”“แผล็บ! แผล็บ! จ๊วบบบบ!!”ปลายลิ้นร้อนของเขาโลมเลียอยู่ยังกึ่งกลางของฉัน พร้อมกับหยอกล้อติ่งเนื้อของฉันเบาๆ ร่างดูดกลืนน้ำหวานที่ไหลย้อยออกมาทุกหยาดหยดการกระทำของเขาทำให้ฉันแทบครั้งจนแทบจะแหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ“อ๊ะ อ่าส์”“แผล็บ! แผล็บ! จ๊วบบบบ!!”“แผล็บ! แผล็บ! จ๊วบบบบ!!”มือหนาขย้ำลงที่สะโพกงามของฉันอย่างหมั่นเขี้ยว ในขณะที่ลิ้นเรียวร้องยังคงดูดกลืนน้ำหวานของฉันอย่างบ้าคลั่ง“ดะ แด๊ดดี้ อ่าส์”เหมือนชายตรงหน้าจะรู้ว่าเขากำลังจะทำให้ฉันคลั่งเขาจึงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ร่างสูงหยอกล้อกับติ่งเนื้อนูนของฉันไม่หยุดนิ้วเรียวของร่างสูง“แผล็บ! แผล็บ! จ๊วบบบบ!!”“แผล็บ! แผล็บ! จ๊วบบบบ!!”“อ่าส์ สะ เสียว” ฉันครางออกมาเบาๆด้วยความเสียวซ่าน พร้อมกับมือบางของฉันจิกลงที่ผมหนานุ่มของเขาเบาๆ เพื่อระบายคาวมเสียว
13.00 น.“แด๊ดดี้หนูยังไม่อยากกลับเลยค่ะ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงที่เดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้กับฉันเสียงอ่อนพร้อมกับมองไปที่เขาอย่างอ้อนๆ วันนี้เป็นวันศุกร์และฉันก็ลางานเรียบร้อยแล้วด้วยเรามีเวลาอยู่ที่นี่อีกตั้งสองวันเลยนะจุ๊บ! !!“เดี๋ยวพี่พามาใหม่นะครับ วันนี้พี่ต้องกลับไปเคลียร์งาน” ร่างสูงลูบหัวของฉันอย่างอ่อนโยน ก่อนที่เขาจะก้มลงมาจุ๊บเบาๆที่หน้าผากของฉัน“ก็ได้ค่ะ แด๊ดดี้พูดแล้วนะว่าจะพาหนูมา” ฉันเอ่ยบอกกับร่างสูงตรงหน้าอย่างงอแง“ครับ”กรุงเทพมหานคร...@AYA CONDO“หนูเข้าห้องเถอะครับ เดี๋ยวแด๊ดต้องไปทำงานก่อน” ร่างสูงเอ่ยบอกกับฉันทันทีที่เขาเดินมาส่งฉันถึงหน้าห้อง ฉันบอกเขาแล้วนะว่าฉันขึ้นมาเองได้เขาก็ไม่ยอมจะต้องเห็นฉันเข้าห้องอย่างปลอดภัยก่อนถึงจะยอมไป“ค่ะ...แด๊ดดี้ขับรถดีๆนะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับเขาเสียงอ่อนพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้เขาหนึ่งทีอุตส่าห์เดินขึ้นมาส่งจุ๊บ!!“ครับ...เดี๋ยวแด๊ดกลับมาทานข้าวเย็นด้วยนะ” ร่างสูงจุ๊บลงที่หน้าผากของฉันอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อนแอ๊ดดดดดดด!!! ฉันเดินเข้ามาในห้องของตัวเองทันทีที่ร่างสูงพูดจบถ้าช้ากว่าเดี๋ยวเขาจะไปทำงานไม่ทันกันพ
วันต่อมา...“เดินทางปลอดภัยนะคะ ถึงแล้วโทรบอกบัวด้วยนะ” ฉันบอกกับพ่อและแม่ของฉันเสียงอ่อน ก่อนจะเดินเข้าไปกอดฉันไว้แน่น“จ้ะลูก แม่ฝากดูแลบัวด้วยนะดีน” แม่ฉันบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงอ่อนพร้อมกับส่งยิ้มไปไหนเขาอย่างเอ็นดู“ผมจะดูแลบัวอย่างดีครับ”“แม่รอบหน้าพอยายมาเที่ยวด้วยนะคะ”“จ้ะลูก”“นี่ไอ้ลูกเขยเดี๋ยวพ่อจะส่งให้ช่วยดูให้หน่อยนะ” พ่อเอ่ยบอกกับพี่ดีนเสียงใส พร้อมกับตบลงที่ไหล่แกร่งของเขาเบาๆ นี่ขนาดเขาสองคนมีโอกาสได้คุยกันแค่สองวันเท่านั้นเองนะพ่อที่หวงลูกสาวอย่างกับจงอางหวงไข่แบบพ่อฉันยังแพ้ให้กับพี่ดีนราบคราบขนาดนี้ ถ้าขืนอยู่ด้วยกันนานกว่านี้มีหวังว่าฉันที่เป็นลูกแท้ๆ ได้ตกกระป๋องแน่ๆ“ได้เลยครับพ่อ”“น้อยๆหน่อยค่า” ฉันเอ่ยบอกกับผู้ชายตรงหน้าทั้งสองคนอย่างมั่นไส้ ก่อนจะยิ้มออกมากับท่าทีของทั้งสองคนเมื่อคืนหลังจากที่พี่ดีนพาครอบครัวของฉันไปทานข้าวเรียบร้อยแล้ว เขาก็กลับไปนอนที่บ้านของตัวเอง แต่กว่าจะกลับไปได้เขานั่งคุยอะไรกับพ่อของฉันก็ไม่รู้ครึ่งค่อนคืน พ่อของฉันเป็นคนที่ถ้าคุยกับใครแล้วถูกคอจะคุยเก่งคุยไม่หยุดไม่รู้ไปสรรหาเรื่องคุยมาจากไหน ส่วนฉันกับแม่ก็อาบน้ำและนอนหลับไปเล
[DEEN’S PART]“แด๊ดดดดด...” ผมได้ยินเสียงที่คุ้นเคยร้องเรียกผมมาจากทางด้านหลัง ไม่ทันที่ผมจะหันกลับไปมองปัง! ปัง!เสียงปืนนัดแรกก็ดังขึ้นมากระสุนพุ่งตรงไปหาร่างบางของบัว และด้วยความเร็วของไอ้ริวมันก็ยิงคนร้ายกลับไปทันทีเช่นกัน“บัว” หัวใจของผมกระตุกวูบที่หันไปเห็นร่างบางของคนที่ผมรักโดนยิงเข้าอย่างจังและกำลังจะทิ้งตัวลงอย่างหมดสติ ผมรีบวิ่งเข้าไปรับร่างบางที่นอนแน่นิ่งจนเข่าของผมทรุดลงกับพื้น“บัวครับได้ยินแด๊ดดี้ไหม ตื่นมาคุยกับแด๊ดก่อน” ฉันตะโกนบอกร่างบางตรงหน้าเสียงสั่นเครือความกลัวเข้ามาเกาะกุมหัวใจของผมจะเต็มไปหมด ชีวิตนี้ผมเกิดมาไม่เคยกลัวตายเลยสักครั้งแต่วันนี้ผมกลัว กลัวว่าร่างบางตรงหน้าจะไม่อยู่ให้คนไม่ได้เรื่องอย่างผมได้รัก ผมกลัวไปหมดทุกอย่างอย่างที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน“บัว ได้ยินพี่ไหมที่รัก” ผมฉีกเสื้อของตัวเองออกจนขาดวิ่น ก่อนจะนำมาพันแผลของร่างบางตรงหน้าอย่างน้อยก็เผื่อว่ามันจะช่วยห้ามเลือดให้กับเธอได้บาง“โธ่เว้ย! ไปเอารถมาเดี๋ยวนี้” ผมตะโกนบอกกับลูกน้อยที่รีบวิ่งออกมาจากมุมต่างๆของห้างมารวมตัวกันและยืนล้อมบริเวณจุดที่เกิดเหตุ บางส่วนก็วิ่งตามคนร้ายออกไปอย่างรู้งา
[DEEN’S PART]@คฤหาสน์ตระกูลโรจน์จรัสภูวดลผมเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูที่มีแต่ความทรงจำมากมายทั้งดีและร้ายอยู่ที่นี่ วันนี้ผมจะมาจบเรื่องทั้งหมดและทิ้งมันไว้แต่เพียงเท่านี้ เพราะต่อไปนี้ผมจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก “ปล่อยกูเดี๋ยวนี้พวกมึงไม่รู้รึไงว่ากูเป็นใคร ป๊าครับช่วยแม็กซ์ด้วย” เสียงไอ้แม็กซ์เวลตะโกนโวยวายดังมาจากด้านในห้องรับแขก ก่อนที่มันจะหันไปขอความช่วยเหลือจากชายวัยกลางคนที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟา“คุณจะปล่อยให้ลูกชายของคุณทำกับแบบนี้กับฉันและลูกไม่ได้นะคะ” ร่างบางที่ถูกมัดมือมัดเท้าอยู่ในห้องโถงใหญ่ร้องโวยวายเรียกร้องหาความเป็นธรรมจากสามีของเธอที่นั่งอยู่ไม่ไกล“มีเรื่องอะไรกันแน่” ร่างสูงมองดูเมียและลูกของตัวเองก่อนจะหันไปถามลูกน้องของผมที่ยืนคุมอยู่ไม่ไกลด้วยความสงสัย ถึงเขาจะไม่ได้รู้จักผมดีเพราะไม่ได้เลี้ยงดูผมมา แต่เขาก็น่าจะรู้ดีที่สุดว่าผมไม่ได้มีดีแค่ขู่เพราะเคยเจอมากับตัวเองแล้วครั้งนึ่งตอนที่ผมจะเทคโอเวอร์บริษัทของเขาและการที่ผมจับตัวลูกและเมียของเขาไว้แบบนี้หมายความว่าผมมีเหตุผมมากพอที่จะทำแบบนั้นเรื่องนี้เขาน่าจะรู้ดี“เอาตัวพวกมันเข้าไป” ผมเอ่ยบอกกับลูกน้องที่เดินตามหลัง
ผมมองไปที่ไอ้แม็กซ์เวลอย่างเวทนา เด็กที่เคยมีทุกอย่างมันอยู่มาวันหนึ่งทุกอย่างที่เคยมีกลับหายไปอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวมันไม่ง่ายเลยที่จะยอมรับความจริง ถึงผมจะไม่ใช่คนดีแต่ผมคิดว่ามันยังเด็กเกินไปที่จะรับเรื่องนี้และอีกอย่างนอกจากมันจะชอบยั่วโมโหหรืออยากฆ่าผมกับน้องให้ตาย เด็กที่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองอย่างมันทำอันตรายพวกผมไม่ได้หรอก“ริวเอาแม็กซ์เวลออกไป” ผมเอ่ยบอกกับร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหลังเสียงเรียบ ยังไงแม่กับพ่อแท้ๆของมันก็ไม่รอดและมันจะโหดร้ายเกินไปที่ให้ลูกชายอย่างมันมาเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็น แม็กซ์เวลมันยังเด็กเกินไปที่จะรับเรื่องอะไรพวกนี้ได้“ฮือออออออ ฮึก” แม็กซ์เวลร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ก่อนจะโดนริวคนสนิทของผมลากตัวออกไป“แกจะเอาลูกฉันไปไหน” เสียงของแมรี่ตะโกนถามออกมาเสียงดังราวกับคนเสียงสติที่เห็นลูกชายของตัวเองถูกลากตัวออกไป“ไม่ต้องห่วง ฉันจะเลี้ยงดูมันอย่างดี” พ่อแท้ๆของผมพูดขึ้นเสียงเรียบ เขาเลี้ยงดูของเขามาตั้งแต่เกิดถึงจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่เขาก็คงตัดใจทิ้งไอ้แม็กซ์เวลไปไม่ได้หรอกคิดไปคิดมาก็น่าสงสัยเพราะเขาสามารถทิ้งผมและน้องได้อย่างเลือดเย็น ‘ช่างมันเถอะ’ มาคิดทบทวนตอน
@บ้านพักต่างอากาศที่เขาใหญ่...“ถึงแล้ว” ดีแลนที่นั่งอยู่ด้านหลังพูดขึ้นทันทีที่รถหรูของเราจอดลงยังลานจอดรถที่อยู่ไม่ไกลจากตัวบ้าน“ลุยเลยครับ” ฉันหันไปบอกกับลูกก่อนจะเห็นว่าเจ้าตัวน้อยเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมที่กำลังจะมาถึงแล้วจริงๆ เราสามคนพ่อ แม่ ลูกมาแคมป์ปิ้งด้วยกันที่นี่บ่อยๆ เพราะฉะนั้นแทบจะไม่มีอะไรต้องห่วงเจ้าลูกชายคนเดียวของฉันเลย เพราะเขาชอบที่นี่มากและทุกครั้งที่มีโอกาสเขาก็มักจะขอให้ฉันกับพี่ดีนพามาที่นี่อยู่บ่อย“ที่รัก เดี๋ยวแด๊ดดี๊ยกเองหนูไปเปิดบ้านรอเลยครับ”“จริงด้วยครับ”“ก็ได้ค่ะ” ฉันเดินมาเปิดประบ้านตามที่คุณสามีและเจ้าลูกชายของฉันสั่งอย่างว่าง่าย ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินตามเข้ามาด้านใน“ไหวไหมครับ” ฉันเอ่ยถามดีแลนที่สะพายกระเป๋าเป้ของตัวเองเข้ามาหาฉัน“แค่นี้สบายมากครับ แต่แม่ครับเมื่อไหร่ดีแลนจะตัวเท่าป๊าหรอครับ” เด็กน้อยตรงหน้าถามฉันด้วยความสงสัย ก่อนจะว่างกระเป๋าที่สะพายมาลง“ถ้าลูกอยากตัวเท่าป๊าก็ต้องกินนมและออกกำลังด้วยเข้าใจไหมคะ”“ตัวเท่าป๊าได้แต่จะหล่อเหมือนป๊าคงจะยากหน่อยนะ”“คุณย่าบอกว่าดีแลนหล่อกว่าป๊านะครับ”“จริงรึป่าว”“คุณย่าไม่โกหกดีแลนแน่นอน ป๊าไม
4 ปีต่อมา...ก๊อกกกกกๆๆ!!หลังจากที่ฉันกับพี่ดีนอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยและกำลังเตรียมตัวเข้านอน เสียงเคาะก็ดังขึ้นมาจากประตูทางเข้าที่อยู่ไม่ไกล พี่ดีนมองมาที่ฉันเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นเดินไปตามเสียงที่ยังคงดังไม่หยุดก๊อกกกกกๆๆ!!“แด๊ดดี๊ แด๊ดดี๊” ทันทีที่ประตูเปิดออกเสียงน้อยๆ ก็ดังขึ้นมาทันทีเพื่อทักทายร่างสูงที่ยืนบังเขาเอาไว้ไม่ยอมให้เข้ามาด้านใน“เรียก ‘ปะป๊า’...‘แด๊ดดี๊’ เอาไว้ให้เมียป๊าเรียกได้คนเดียว” พี่ดีนเอ่ยบอกกับเด็กน้อยตรงหน้าเสียงเรียบ พร้อมกับมองไปที่ร่างเล็กของเด็กตรงหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง“แด๊ดดี๊”“ดีแลน”“ปะป๊าก็ได้ครับ” เด็กน้อยเสียงอ่อนลงทันทีที่โดนป๊าของเขาเรียกแบบนั้นดีแลนเป็นลูกชายคนเดียวของฉันกับพี่ดีนที่อายุพึ่งจะ 4 ขวบไปเมื่อสองวันก่อน ฉันจะบอกว่านอกจากลูกจะวาดรูปเก่งเหมือนฉันแล้วดีแลนก็แทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนฉันเลย ขนาดม๊าของพี่ดีนกับแม่ของฉันยังบอกว่าดีแลนถอดแบบพี่ดีนมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นนิสัยที่ความสุขุมมากเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ความฉลาดและเขายังมีไหวพริบที่ดีจนหลายๆ ครั้งฉันยังอึ้งกับการกระทำของเจ้าลูกชายของฉันเลยดีแลนมีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกับพี่ด
“แด๊ดดี๊คะ อ่าส์” ร่างสูงจับฉันคว่ำลงกับที่นอนก่อนที่เขาจะตามลงมาทาบทับฉันไว้ ริมฝีปากหนาจูบลงที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าของฉันเบาๆ อย่างอ่อนโยน“พี่ขอเข้าไปนะครับ” ร่างสูงกระซิบลงที่ข้างหูของฉัน ก่อนที่เขาจะขบเม้นเบาๆที่ติ่งหู ฉันหันไปหาเขาก่อนที่เราจะจูบกันอย่างดูดดื่มมือหนาของเขาประคองใบหน้าเรียวของฉันเอาไว้เพื่อให้เขาจูบฉันได้ง่ายขึ้น“ค่ะ อื้อออออ” หลังจากที่เขาผละริมฝีปากออก ฉันครางออกมาด้วยความเสียงซ่านมือหนายกสะโพกงามของฉันขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเอาท่อนเอ็นอันใหญ่โตของฉันถูขึ้นถูลงเบาๆ ที่กึ่งกลางสาวของฉันสวบบบบบบบ! !!“ซี๊ดดดดดด/ซี๊ดดดดด” ฉันกับพี่ดีนครางออกมาพร้อมกันด้วยความเสียวซ่าน มือหนาจับเอวบางของฉันไว้แน่นก่อนที่สะโพกหนาของเขาจะเริ่มขยับตับ! ตับ! ตับ!!“อ่าส์ อะ อื้อออออ” ฉันครางออกมาไม่เป็นศัพท์ด้วยความเสียงซ่าน ร่างสูงโน้มตัวลงมาจุ๊บที่หัวของฉันอย่างอ่อนโยน ตับ! ตับ! ตับ!!“อ๊ะ อ๊ะ อ่าส์” สะโพกหนาเร่งจังหวะกระแทกเข้ามาใส่ฉันหนักหน่วงขึ้น พร้อมกับมือหนาขย้ำสะโพกงามของฉันอย่างมันมือตับ! ตับ! ตับ!!เพียะ!!!“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ายยยย” ฉันครางออกมาพร้อมกับเอวบางของฉันบิดเล้าไปมาท
Christmas Day…@คฤหาสน์วงค์อัครหิรัญวันนี้เป็นวันคริสต์มาสเป็นเหมือนวันรวมพลของหลายๆ ครอบครัว ซึ่งครอบครัวของพวกเราก็มารวมตัวกันที่คฤหาสน์หลังนี้เพื่อรับประทานอาหารและได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นพวกเราจึงจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนในช่วงสิ้นปีฉันกับพี่ดีนแต่งงานกันมาปีกว่าๆ แล้วเขายังคงเป็นผู้ชายคนเดิมเสมอต้นเสมอปลาย วันแรกเขาปฏิบัติต่อฉันอย่างไรวันนี้เขาก็ยังคงปฏิบัติกับฉันอย่างนั้น เราทั้งคู่ยังไม่มีทายาทหรอนะฉันเคยคุยเรื่องนี้กับพี่เขาแล้วสุดท้ายก็จบลงด้วยคำพูดแบบเดิม ‘พี่ยังไม่พร้อมครับ’ เขาบอกฉันแบบนี้ทุกครั้งที่เราคุยกันถึงเรื่องนี้“หนูบัวช่วงนี้หนูดูซูบไปนะลูก” ม๊าถามฉันขึ้นมาทันทีที่ฉันเดินตามท่านเข้ามาในห้องนั่งเล่น ในห้องนี้มีแต่ผู้หญิงส่วนพวกผู้ชายแยกไปดื่มกันอีกห้องซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องนี้เท่าไหร่นัก“ช่วงนี้หนูงานเยอะน่ะค่ะ” ฉันเอ่ยบอกกับร่างบางตรงหน้าเสียงอ่อน ฉันรีบเคลียร์ให้เสร็จเพราะจะลาพักร้อนเพื่อไปเที่ยวกับคุณสามีของฉันน่ะสิ อาทิตย์ที่ผ่านมาฉันจึงหักโหมทำงานอย่างหนัก“แอร๊...” เสียงน้องไข่มุกลูกสาวของพี่เบลซกับดาร้องขึ้นมาเบา พร้อมกับทำท่าทางเ
16.00 น.หนุ่มๆ โดนสวดกันไปยกใหญ่ก่อนที่ทุกคนจะทานอาหารพร้อมกัน จากนั้นจึงแยกย้ายกันกลับ ตอนนี้เหลือเพียงฉันกับพี่ดีนที่จะตามกลับไปทีหลัง เราตกลงกันว่าจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันสองวันและแน่นอนว่าฉันได้วันหยุดมาจะเฮียผาอีกแล้วเฮียบอกกับฉันตอนผูกแขนว่า ‘เฮียอยากเลี้ยงหลาน ไม่ต้องรีบกลับเฮียให้วันหยุดเพิ่มเพื่อปั้มหลานเท่านั้น’ เมื่อวานก่อนกลับก็ยังย้ำฉันอีกรอบด้วยนะ“รถพร้อมแล้วไอ้ลูกเขย” เสียงพ่อตะโกนเรียกพี่ดีนมาจากทางหน้าบ้าน เอาอีกแล้วสองคนนี้มีลับลมคมนัยกันอีกแล้ว“ครับพ่อ”“มีอะไรรึป่าวคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงตรงหน้าออกไปด้วยความสงสัย เขากำลังง่วนกับการเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ไหนเขาบอกว่าจะกลับพรุ่งนี้ไง...“ไปกัน” ร่างสูงจูงมือฉันเดินออกไปยังรถโฟวิลที่พ่อของฉันเตรียมไว้รอเรา“ทุกอย่างเรียบร้อย” พ่อบอกกับพี่ดีนก่อนจะยื่นกุญแจรถให้เขา“ขอบคุณครับ”“แด๊ดดี๊ยังไม่ได้บอกหนูเลยนะคะว่าจะพาไปไหน” ฉันถามร่างสูงออกไปอย่างงอลๆ“โอ๊ๆๆ อย่าพึ่งงอลแด๊ดนะครับ” ร่างสูงบอกกับฉันเสียงอ่อนในขณะที่มือหนาโยกหัวของฉันไปมาอย่างเอ็นดู“ชอบเซอร์ไพรส์หนูตลอด”“แล้วหนูชอบไหมคะ”“ชอบค่ะ” ฉันตอบกลับเขาไปเสียงใสพร
2 วันต่อมา...ซู่! ซู่! ซู่!วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องเดินทางกลับแล้วเวลาของความสุขมันมักจะผ่านไปไวเสมอเลยเนอะ ฉันยืนมองออกไปยังท้องทะเลตรงหน้าก่อนจะค่อยๆหลับตาลงเพื่อซึมซับเสียงของคลื่นที่กระทบชายฟังได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“หืมมมม” ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมาทันทีที่แขนแกร่งที่คุ้นเคยกอดฉันเอาไว้จากทางด้านหลัง ฉันไม่ตกใจกับการกระทำเขาแล้วล่ะเพราะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นแหละที่กล้าทำแบบนี้กับฉัน“แด๊ดดี๊หายไปไหนมาแต่เช้าคะ” ฉันซบลงที่อกแกร่งของเขาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยถามเขาออกไปด้วยความสงสัย“แด๊ดดี๊ไปเตรียมอาหารเช้าให้หนูมาครับ” ร่างสูงบอกกับฉันก่อนจะก้มลงซุกหน้าของเขาลงกับไหล่มนของฉัน“อะไรนะคะ แด๊ดดี๊ทำอาหารหรอคะ ไปฝึกมาตอนไหนเนี่ย” ฉันรัวคำถามใส่ร่างสูงที่อยู่ด้านหลังเป็นชุด ก็เขาชอบทำให้ฉันประหลาดใจอยู่เรื่อยเลยนี่นา“ความลับครับ ไปกันเถอะเดี๋ยวอาหารเย็นหมด” พี่ดีนพูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะเดินจูงมือของฉันให้เดินตามเขาออกไป“เรากำลังจะไปไหนกันหรอคะ”“…”“แด๊ดดี๊”“เดี๋ยวถึงแล้วหนูก็รู้ครับ”เขาพาฉันเดินมาจากหาดทรายกว้างๆ ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นทางเดินเล็กๆ ลัดเลาะไปตามแนวของต้นไม้ ก่อนที่เราจะมาหยุดอยู่หน้าปากถ้ำ
19.00 น.หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วพวกเราก็พากันกลับมายังบ้านพัก ร่างสูงเปิดประตูรั่วเพื่อให้ฉันเดินเข้าไปด้านในก่อน...“นายครับ” เสียงของพี่ริวเรียกพี่ดีนดังขึ้นมาจากด้านหลัง เราทั้งคู่หันกลับไปมองเขาพร้อมกัน“เดี๋ยวหนูเข้าไปรอด้านในนะคะ” ฉันบอกกับร่างสูงตรงหน้าออกไป ก่อนจะเดินเข้าไปในเขตของบ้านพักทันทีเพื่อให้เขาคุยงานกับพี่ริวได้สะดวก“อาบน้ำก่อนดีกว่า ก่อนอื่นต้องจัดของเข้าที่ก่อน” ฉันเดินไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกล ฉันเลือกที่จะจัดเสื้อผ้าของพี่ดีนแขวนไว้บนตู้เสื้อผ้าก่อนเพราะมีอยู่กี่ตัว ก่อนจะหันมาจัดของของตัวเองด้วยความเป็นผู้หญิงมันก็จะมีของกระจุกกระจิกเต็มไปหมดบางทีฉันก็สงสัยนะว่าตัวเองเอาอะไรมาเยอะแยะ‘เที่ยวให้สนุกนะคะ - กะทิ’ นี่เป็นของฝากจากกะทิพี่ดีนบอกว่าลูกน้องของจีซัสนำมาฝากไว้ให้ฉันก่อนที่เราจะขึ้นเครื่อง“ไหนดูสิกะทิฝากอะไรมา” ฉันอ่านข้อความในโพสอิทก่อนจะเปิดถุงผ้าตรงหน้าออก ในนี้มีบิกินีสองตัวใหม่เอี่ยมป้ายราคายังไม่ทันแกะฉันแค่บ่นให้เธอฟังเองว่าไปหาซื้อไม่ทัน เธอก็จัดหนักมาให้ฉันซะเลยสินะ ‘ทูพีชแบบนี้แด๊ดดี๊จะให้ใส่รึป่าวเนี่ย’ ‘ช่างเถอะพรุ่งนี้แด๊ดดี๊ไ
2 อาทิตย์ต่อมา...“แด๊ดดี๊หนูออกไปเดินเล่นข้างนอกได้ไหมคะ” ฉันเอ่ยถามร่างสูงที่กำลังนั่งอ่านเอกสารในมือด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดเขาเงยหน้าขึ้นมามองฉันเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ มาให้ฉัน“หนูไม่เจ็บแผลแล้วหรอครับ หืมมมม...” ร่างสูงวางไอแพดในมือลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉัน“แด๊ดดี๊หนูไหวคะ ไม่มีแผลแล้วด้วย หนูอยากออกไปเจอแสงแดดบ้าง” ฉันนั่งกอดอกพร้อมกับทำหน้ายู่ใส่เขาอย่างงอลๆฉันออกมาจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวต่อที่บ้านได้ 1 อาทิตย์แล้ว รวมกับที่ฉันนอนโรงพยาบาลตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันทำได้เพียงกินกับนอนพี่ดีนไม่ให้ฉันทำอะไรเลยส่วนตัวของเขานั้นก็ได้ย้ายที่ทำงานมาอยู่ที่คอนโดของฉันอย่างเต็มรูบแบบ เขาเฝ้าฉันแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนไม่ออกไปไหนเลย พอฉันขอออกไปทำงานที่บริษัทเฮียผาก็ไม่ให้ไปบอกให้ฉันหยุดไปเลย 1 เดือน เนี่ยทุกคนพร้อมใจกันกักขังฉัน“งั้นเตรียมตัวนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้แด๊ดพาไปเที่ยวทะเล” ร่างสูงบอกกับฉันก่อนจะอุ้มฉันไปนั่งลงบนตักแกร่งของเขา“คะ? ไปทำงานหรอคะ”“ใช่ครับ...”“ฮึ่ย แด๊ดดี้ทำไมพึ่งบอกล่ะคะ”“จริงๆแด๊ดดี้ให้ใครทำงานให้ก็ได้ครับแต่เห็นหนูอยากไปเจอแสงแดดพอดี แด๊ดดี้เลยคิดว่าน
[BUA’S PART]9.00 น.ฉันค่อยๆ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งของตัวเองขึ้นมาช้าๆ ด้วยคำถามที่ว่า ทำไมโลกของฉันมันถึงได้หมุนแบบนี้ล่ะ ‘หรือว่าฉัน...’ ฉันรวบรวมสติของตัวเองและคิดทบทวนตัวเองอีกที ‘ฉันโดนยิงนี่...แล้ว?’ ฉันหันไปมองรอบๆด้วยความตกใจก่อนจะเห็นร่างสูงที่ฉันคุ้นกำลังเซ็นเอกสารในมืออย่างขะมักเขม้นในขณะที่มืออีกข้างของเขายังคงกุมมือฉันไว้แน่น“แด๊ดดี้ ขา...”“ขา...ตื่นแล้วหรอเด็กดื้อ” ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารในมือทันทีที่ได้ยินเสียงของฉัน รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของร่างสูงตรงหน้า“ยังค่ะหนูหลับอยู่” ฉันบอกกับเขาอย่างแกล้งๆ พร้อมกับมองสำรวจร่างกายของเขาไปด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนจุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ! !!“หลอกแด๊ดหรอ หืมมมมม” ริมฝีปากหนาจุ๊บลงที่มือบางของฉันอย่างอ่อนโยน“อ๊ะ”“เจ็บมากไหม...ไม่มีหนูอยู่แด๊ดจะอยู่อย่างไง” ร่างสูงเอ่ยบอกกับฉันเสียงอ่อน ก่อนที่เขาจะซุกใบหน้าหล่อเหลาของเขาลงกับมือบางของฉัน“หนูไม่เจ็บเลยค่ะ แด๊ดดี้ไม่ต้องห่วงนะคะ” ฉันบอกกับร่างสูงตรงหน้าเสียงอ่อน ก่อนจะลูบลงที่แก้มของเขาเบาๆ“…”“แด๊ดเจ็บตรงไหนไหมคะ” ฉันเอ่ยถามเขาออกไปด้วยความเป็นห่วงพร้