ชั้นบนสุดของคอนโด L
ร่างหนาสวมผ้าขนหนูคาดปิดทับท่อนล่างของตนเองยืนกอดอกมองร่างบางกว่าที่กำลังซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนวมผืนแพงบนเตียงของตนเอง ชายหนุ่มเดินไปข้างๆ เตียง ก่อนยกเท้าขึ้นไปเขี่ยๆ ร่างนั้น
"ลุกแต่งตัวได้แล้ว กูจะไปส่ง" ฮิลล์ใช้เท้าสะกิดร่างของข้าศึกที่สิ้นฤทธิ์
"อื้ออออ~" ร่างที่โดนสะกิดทำเพียงแค่พลิกกลิ้งหมุนไปอีกฝั่งของเตียง
"อย่าให้กูต้องถีบตกเตียง" ฮิลล์เอ่ยเสียงเข้ม นี่ก็สายแล้วเขาต้องรีบไปแต่งตัวแล้วล่ะ ถ้าเกิดเข้างานสายมีหวังโดนบ่นหูชาเละ ถึงแม้ว่าจะฝึกงานโรงงานของพ่อตนเองก็ตามเถอะ
"โถ่โว๊ย!! มึงก็ไปก่อนสิ กูต้องขับรถของไอ่ไต้ฝุ่นกลับ!" อาโปกระเด้งตัวลุกอย่างหัวเสีย
"แล้วมึงเป็นอะไรกับกูถึงจะอยู่ห้องกูตอนกูไม่อยู่" เขาเป็นคนค่อนข้างจะหวงความเป็นส่วนตัว คงไม่สะดวกใจให้อีกฝ่ายนอนในห้องนี้ต่อในระหว่างที่ตนเองไม่อยู่
"......" อาโปพูดอะไรไม่ออก ก็จริงของอีกฝ่าย เขาเป็นอะไรกับมันก่อน ประโยคเพียงประโยคเดียวสามารถสลัดความง่วงงุนออกไปได้อย่างได้ผลชะงัด
"กูจะไปแต่งตัว หวังว่าออกมาคงไม่เจอมึงนะ" ฮิลล์บอกอีกฝ่ายที่นิ่งงันไป ยอมรับว่าเขาอาจพูดแรงแต่ถ้าถามว่ารู้สึกผิดไหมก็ไม่ ฮิลล์คิดในใจระหว่างที่ร่างสูงของตนเองเดินออกไปยังห้องแต่งตัว
....อพาร์ทเม้น S….
อาโปทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความอ่อนแรง แค่ก้าวขาเดินยังยากนี่ต้องหอบสังขารขึ้นบันไดมาอีก ไอ้บ้านั่นก็ไม่คิดถนอมกันหน่อยเหรอวะ เขาบ่นอุบในใจ
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขายอมจะอยู่ในสภาพนี้ ทั้งๆ ที่รู้พอไอ้นั่นมันกินอิ่ม มันก็ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด เขาคงมีค่าเวลาที่ไอ้ฮิลล์อยากระบายก็เท่านั้นอย่ามาหวังให้มันรู้สึกดีด้วยหน่อยเลย ชาตินี้คงเป็นไปไม่ได้ แต่ทั้งๆ ที่รู้ทุกอย่าง เขาก็ยังเต็มใจอยู่ในสภาพนี้อยู่ดี รักเหรอ? ความสัมพันธ์แบบนี้มันจะเกิดความรักได้จริงเหรอ เขาเฝ้าพร่ำถามตัวเองแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ
'กฎของกูมีสามข้อ หนึ่งคนที่มีสิทธิ์บอกว่าจะหยุดหรือไปต่อมีแค่กู สองอย่าล้ำเส้นกับคนของกู สามอย่าพยายามแสดงตัวเราสองคนแค่ผูกพันทางกายส่วนทางใจมันจะไม่มีทางเกิดขึ้น' นี่คือกฎที่เขาเป็นคนยอมรับมันเอง แรกๆ ก็พอรับได้อยู่หรอก นานวันเข้าเป็นตนเสียอีกที่เอาใจลงไปผูกพันกับมัน อาโปนอนหงายหน้าจ้องมองเพดานสักพักใหญ่ก่อนจะปิดเปลือกตาตนเองลง ปล่อยให้หยดน้ำไหลออกตามหางตาเรียวยาวของตน
ครืดๆ ~
อาโปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นรายชื่อบนหน้าจอที่วิดีโอคอลมาเขารีบเช็ดคราบน้ำตาแล้วทำตัวให้เป็นปกติ
"Hi ลูกรักทำอะไรอยู่จ๊ะ" ปลายสายทักทายลูกชายตัวเองหลังจากอีกฝั่งกดรับ
"โปกำลังจะลุกแต่งตัวไปส่งโปรเจคจบ แม่ล่ะสบายดีไหม" อาโปปรับโทนเสียงให้เป็นปกติก่อนตอบปลายสายที่อยู่ห่างกันคนละซีกโลก
"แม่สบายดีจ้า นี่เห็นไหมแด๊ดเขาตื่นเต้นมากเลย เขากำลังจัดห้องไว้ให้ลูกมาอยู่" ปลายสายหันกล้องโทรศัพท์มือถือไปรอบๆ ห้อง หน้าจอปรากฏภาพชายต่างชาติคนหนึ่งกำลังสาละวนกับข้าวของอยู่ ชายต่างชาติคนนั้นเมื่อเห็นภรรยาตนเองหันกล้องมาจับ เจาจึงหยุดและโบกมือให้กับกล้อง
อาโปยิ้มกว้างโบกมือกลับไป ชายคนนั้นคือพ่อเลี้ยงของเขาเอง ตั้งแต่จำความได้ตนก็เรียกผู้ชายคนนี้ว่าแด๊ดดี้แล้ว แม่ของตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวจนมาเจอแด๊ดดี้ตอนตนเองอายุได้ 5 ขวบกว่า หลังจากนั้นแด๊ดดี้ลูคัสก็แต่งงานกับแม่และรับอาโปเป็นบุตรบุญธรรม ตัวเขาจึงได้ใช้นามสกุลของแด๊ด พออาโปอยู่ ม.ปลาย แม่กับแด๊ดก็ย้ายไปอยู่อังกฤษ เขาไม่อยากทิ้งยายไว้เพียงลำพังจึงไม่ได้ตามไปด้วย จนกระทั่งเมื่อสองปีที่แล้วยายของตนได้เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา อาโปจึงไม่มีอะไรที่ต้องห่วงกับที่นี่อีก
"แล้วลูกจะมาเมื่อไหร่เหรอ" ปลายสายกรอกเสียงถามมา
"โปยังไม่แน่ใจเลยแม่ ยังไม่ได้เดินเอกสารเลย มหาลัยแค่ตอบรับมา แต่วันนี้แหละโปจะเข้าไปติดต่อ ถ้าได้วันแน่นอนโปจะบอกแม่นะ" อาโปกรอกเสียงตอบไป
"รีบๆ น้า แม่กับแด๊ดคิดถึงหนูมาก" ผู้เป็นแม่เอ่ยด้วยความคิดถึง
"แม่อ่ะ! โปบอกแล้วใช่ไหมอย่าเรียกหนู โปโตแล้วนะ" อาโปโวยวาย เขาไม่ชอบให้แม่เรียกเขาว่าหนูเลย มันดูไม่คูล ไม่เท่
"ก็แม่เรียกหนูแบบนี้มาตั้งแต่เกิดนี่" ผู้เป็นแม่อดแกล้งลูกตนเองไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้อีกฝ่ายจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่แบบเต็มตัวแล้วแต่ในสายตาตนอีกฝ่ายก็ยังเป็นลูกชายตัวน้อยๆ ของตนเองอยู่ดี
"ไม่คุยด้วยแล่ว โปไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะ" อาโปกระเง้ากระงอด เอาจริงก็ไม่ได้โกรธหรอกแต่เพียงแค่ไม่อยากให้แม่ไปเรียกแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นๆ ถ้าเกิดไอ้ไต้ฝุ่นได้ยืนเข้ามันล้อเขาตาย
....บริษัท T….
ห้องห้องหนึ่งซึ่งหน้าห้องมีแผ่นป้าย 'ห้องผู้บริหาร' ถูกติดไว้ ภายในห้องกำลังมีเจ้าของร่างสูงขะมักเขม้น,เขม้นขะมักกับกองเอกสาร ถึงแม้ฮิลล์จะเป็นนักศึกษาฝึกงานของคณะเภสัชศาสตร์ แต่ในระหว่างนี้เขาก็ต้องฝึกงานเอกสารของบริษัทตนเองด้วย เท่ากับว่าเขาต้องฝึกทั้งในส่วนของสายการผลิตยาและต้องฝึกทั้งงานบริหารจากคนของพ่อเขาเอง
แอ๊ดด~
"มึงมาทำไม มีธุระอะไร" ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นทักทายผู้ที่เข้ามาใหม่
"เบื่อๆ อ่ะ พอดีกูไปส่งไอ้รุยที่ห้องสตู แล้วก็ไปส่งไอ่ฝุ่นเอารถที่ไอ่...อาโปมา เบื่อ ไม่มีอะไรทำเลยแวะมาหามึง" ไซโคลนปรายตามองปฏิกิริยาของเพื่อนเมื่อเขาพูดถึงชื่อนั้นหลังจากที่เดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้าม มันบอกว่าไม่จริงจังแต่แค่พูดถึงชื่อของไอ้อาโปไอ้ฮิลล์ก็หยุดฟังแล้ว ไซโคลนยิ้นเยาะในใจ
"อือ ว่างเนาะมึง" ฮิลล์ขยับกรอบแว่นแล้วก้มลงสนใจเอกสารในมือต่อ
"ไม่เชิงว่างหรอก ไอ่ฝุ่นชวนกูไปส่งไอ่อาโปเดินเอกสารไปเรียนต่อที่อังกฤษแต่กูขี้เกียจเลยหาเรื่องมาหามึงแทน" ไซโคลนแอบมองปฏิกิริยาของเพื่อนตนเองอีกครั้ง
"แล้วยังไง! มันจะไปก็ปล่อยมันไปสิมึงจะพูดถึงมันทำไม" แฟ้มเอกสารถูกปิดลงอย่างแรงด้วยความลืมตัว
"ไม่จริงจัง แล้วทำไมต้องโมโห" ไซโคลนกอดอกมองเพื่อนตนเอง มุมปากยกยิ้มขึ้นน้อยๆ
"มึงมาหากูถึงบริษัทเพื่อจะกวนโมโหกูเหรอ" ใบหน้าหล่อเหลากล่าวเสียงเข้ม
"เปล๊า! กูเบื่อจริงๆ" ไซโคลนไหวไหล่ขึ้น แต่ก็ยังไม่หยุดอมยิ้ม
ฟิ้ว~ ปึ๊ก!
"มึงออกไปเลยไอ่เชี่ยนี่" แฟ้มเอกสารถูกปามาทางร่างของไซโคลนแต่เคราะห์ดีที่เขาหลยได้ทัน ไอ้นี่ชอบใช้ความรุนแรงกลบเกลื่อน
"กูตายได้เลยนะไอ่ฮิลล์!" ไซโคลนแหวเพื่อนที่เล่นกันแรง ถ้าเขาหลบไม่ทันหัวเขามีสิทธิ์เลือดอาบได้เลยนะ
"ใครใช้ให้มึงกวนประสาทกูล่ะ" ฮิลล์กอดอกมองอีกฝ่ายก่อนแสยะยิ้มเลือดเย็นส่งให้
ก๊อกๆ แอ๊ด~ ประตูถูกเปิดโดยผู้มาใหม่อีกครั้ง
"สองคนนี้ทะเลาะกันอีกละ" ร่างโปร่งของผู้มีใบหน้าหวานละมุน กลิ่นอายรอบตัวบ่งบอกว่าอีกฝ่ายมาจากชาติตระกูลที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัยเดินเข้ามาหาผู้ชายร่างใหญ่ที่กำลังแกล้งกันไปมาราวกับเด็ก
"อ้าว มาร์คมาได้ยังไง" ฮิลล์ยิ้มกว้างทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของแขกที่เข้ามา
"มาร์คมีถ่ายงานแถวนี้พอดี เลยเข้ามาให้คนแถวนี้เลี้ยงข้าว" อีกฝ่ายยิ้มหวานตอบ
"ได้สิ ฮิลล์เสร็จงานพอดี" ฮิลล์เอ่ยบอกด้วยความกระตือรือร้น ต่อให้งานเขาไม่เสร็จถ้าเป็นคนคนนี้เขาสามารถทิ้งทุกอย่างได้
"หึ! กูไปละหมั่นไส้" ไซโคลนเอ่ยแซวเพื่อนก่อนลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้สองคนนั้นได้อยู่ด้วยกันตามลำพังดีกว่า ไอ้อาโปจะเอาอะไรไปสู้มาร์คได้วะ ไซโคลนคิดในใจ
'ไม่ส่งนะเว้ย' ฮิลล์ตะโกนไล่หลังเพื่อนตนเองออกไป วันนี้เขาอภัยให้มันในฐานะที่มันรู้งาน
"มาร์ครอฮิลล์อยู่บนรถดีกว่า ฮิลล์ไปแป๊บเดียวเดี๋ยวมานะครับ" ตาคมยิ้มหวานส่งให้ร่างที่นั่งเบาะนั่งข้างคนขับในรถหรู"ขอบคุณครับฮิลล์" หนุ่มเจ้าของใบหน้าหวานยิ้มหวานขอบคุณ มาร์ค รามิล วรเตชะทรัพทย์ นักร้องนักแสดงหนุ่มผู้มากความสามารถทอดสายตาตามแผ่นหลังกว้างของฮิลล์ไป เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นรู้สึกอย่างไรกับตน เขาเองไม่ได้รังเกียจอีกฝ่ายแต่เพียงแค่รอเวลาให้เขาคนนั้นกล้าที่จะเดินเข้ามาบอกตนเองตรงๆ เสียทีก็เท่านั้น เขาชอบความชัดเจนไม่ชอบอะไรที่ต้องมานั่งเดาตามประสาคนที่มีความมั่นใจสูง....ร้านกาแฟชื่อดัง....ร่างสูงของฮิลล์กำลังยืนรอเครื่องดื่มที่เพิ่งสั่งไปไม่นาน แต่พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นใบหน้าคุ้นตากำลังนั่งคุยกะหนุงกะหนิงมีความสุขอยู่กับใครอีกคนที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ตาคู่คมหรี่เล็กจดจ้องสองร่างนั้นด้วยความสนใจ'พี่ตฤณกลับมาเมื่อไหร่ครับ' 'พี่เพิ่งกลับมาได้ไม่กี่เดือนเอง พี่ไปหาโปที่บ้านมาถึงรู้ว่ายายไม่อยู่แล้ว พี่เสียใจด้วยนะ''ขอบคุณครับพี่ แต่ยายแกไปสบายแล้วล่ะครับไม่ต้องเหนื่อยต้องทุกข์แล้ว ก็คงมีแต่คนอยู่นี่แหละที่ต้องอยู่ให้ได้''โตขึ้นเยอะเลยน้าาา เจ้าก้อนข้าวเหนียวของพี่' อีกฝ
....อพาร์ทเม้น S....อาโปหอบสังขารโซซัดโซเซของตนเองขึ้นบันไดมายังห้องพัก ก็พี่ตฤณนะสิบอกจะพาไปทานข้าวแต่ไม่บอกว่าจะไปต่อ วันนี้เขายิ่งอารมณ์นอยด์ๆ อยู่ด้วยเลยกระดกเหล้าไปพอสมควร"อ๊ะ! เห้ย!" เสื้อของอาโปถูกจับคอเสื้อหิ้วลากโดยคนบางคน ส่งผลให้ร่างซึ่งบางกว่าของเขาซึ่งเพียงแค่ยืนยังโงนเงนปลิวตามแรงลากด้วยความง่ายดาย"ไอ่เชี้ย! ใครวะ ไอ่ห่าที่ไหนวะ" อาโปดิ้นแหกปากโวยวายเสียงดัง'เห้ย! เมาก็ไปนอนจะโวยวายหาพ่องมึงเหรอ!' เสียงผู้ที่พักอยู่ห้องในตึกตะโกนออกมาด้วยความรำคาญ"เปิดห้อง!" เสียงเข้มสั่ง"...." อาโปชะงักหยุดดิ้นด้วยคุ้นกับเสียงนั้นดี"จะเปิดดีๆ หรือจะให้กูพังประตูห้องมึง" ไม่พูดเปล่า ขายาวของอีกฝ่ายยังตั้งท่ายกขึ้นพร้อมออกแรงเหวี่ยงไปยังประตูห้องของตนเองแกร๊ก แอ๊ดด~อาโปไม่มีทางเลือกเขาควานกุญแจออกมาเปิดห้องอย่างรวดเร็ว ไม่อยากนั้นไอ้บ้าที่รอไม่เป็นคนนี้คงได้พังประตูห้องตามที่มันพูดจริงๆ คนรวยนี่แม่งมันดีจริงๆ จะพังหรือทำลายอะไรก็ไม่ต้องคิดมาก"มึงมีอะไรกับกู" อาโปถามขึ้นเมื่อทั้งสองคนเข้ามายืนอยู่ในห้องของตนเองแล้ว"กูโทรหามึงตั้งหลายสายตามึงมันบอดเหรอ! หรือว่าหูมึงหนวก! หรือว่
รถหรูถูกเหยียบเร่งไปบนท้องถนนด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่เจ้าของมันไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคันเร่งลงสักนิดกลับกันปลายเท้ายังออกแรงกดส่งคันเร่งไปข้างหน้าเสียอีกไอ้หมอนั่นเป็นอะไรของมันวันนี้มันถึงได้ทำตัวงี่เง่าน่ารำคาญผิดปกติ สาเหตุที่เขาเลือกมันแทนที่จะให้จบที่วันไนท์สแตนด์เหมือนคนอื่นๆ ก็เพราะดูมันไม่ใช่คนงี่เง่าและดูเป็นคนเข้าใจอะไรได้ง่ายๆ "เจอกันที่ร้าน R" "ได้สิ""บอกไอ้ฝุ่น ไอ้รุยด้วย กูอารมณ์ไม่ดีอย่าสะเออะเท" "เออ โอเค" ฮิลล์โทรบอกเพื่อนตนเองเสร็จเขาก็มุ่งหน้าตรงไปยังสถานที่นัดทันที....สถานบันเทิง R….ชายสามคนนั่งมองชายหนุ่มผู้ที่มีรอยแตกริมฝีปากได้รูปยกกระดกน้ำสีอำพันลงคอไม่ขาดช่วง ไซโคลน รุยและไต้ฝุ่นหันหน้าสบตากันราวกับพวกเขาสามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเอ่ยวาจา'มันเป็นอะไรวะ''กูไม่รู้''มึงก็ถามสิไอ้โคลน''มึงนั่นแหละถามไอ้ฝุ่น''ฮึ...ไม่! มึงถามมันดิไอ้รุย''ฮึ! คนฉลาดเขาไม่เอาชีวิตเข้าไปเล่นกับอะไรเสี่ยงๆ ว่ะ''มึงนั่นแหละไอ้โคลน มีแต่มึงที่กล้า''เออ!'"มึงจะบอกได้หรือยังว่าเป็นห่าอะไร หยุดแดกเหล้าก่อนดิ!" ไซโคลนผู้ซึ่งถูกโหวตให้เป็นคนถามเอื้อมมือไปยั้งมื
....ทางด้านอาโป....หลังจากกดอ่านข้อความของไซโคลนใจเขาก็ยิ่งอยู่ไม่เป็นสุข สุดท้ายก็ต้องลุกไปหาไอ้หมาบ้าฮิลล์อยู่ดี มันผิดที่ตนนี่แหละที่ไม่เคยมองดูมันทุกข์หรือทรมานได้เลยสักที แล้วไอ้ไซโคลนก็ทิ้งร่างเพื่อนตัวเองที่เมาไม่ได้สติไว้หน้าห้องจริงๆ ด้วย มันไม่กลัวเพื่อนมันจะโดนยุงหามหรือยังไง (ยุงก็หามไม่ขึ้นหรอกกูพิสูจน์แล้ว ตอนนี้ถึงนอนปวดหลังอยู่เนี่ย ไซโคลน)"มาพี่ช่วย" ตฤณที่ตามมาด้วยเห็นอาโปทุลักทุเลยกร่างที่หนากว่าตัวน้องไปมากเดินเข้าไปช่วย เขาว่าเขาก็สูงแล้วนะแต่ดูเหมือนว่าไอ้คนที่ไม่ได้สติคนนี้จะสูงกว่าเขาเสียอีกหลังจากเข้ามาในห้องของฮิลล์ได้แล้ว อาโปและตฤณก็พาร่างไร้สติของเจ้าของห้องไปนอนลงบนโซฟาหรูติดกระจกชมวิว เขายืดตัวกวาดสายตาไปรอบๆ อืม รสนิยมดีไอ้หมอนี่คงรวยพอตัว"ป่ะ กลับกันเถอะ" ตฤณชวนอาโปกลับเมื่อเห็นว่าเสร็จธุระแล้ว แต่ดูเหมือนว่าคนน้องจะไม่อยากกลับสักเท่าไหร่ ดูพะว้าพะวังกับไอ้นั่นเหลือเกิน"คะ...ครับ" อาโปตอบรับ สายตาที่ทอดมองร่างบนโซฟาดูตัดใจทิ้งไปได้ยากยิ่งแต่ก็ถูกตฤณจูงมือให้หันหลังออกไปอยู่ดีหมับ! อยู่ๆ ร่างที่คิดว่าหลับใหลไม่ได้สติก็ยกมือขึ้นคว้าข้อมือของอาโ
"มึงเบื่อกูแล้วนี่ ข้อตกลงของเราก็ถือว่าให้จบกันสิ" อาโปยังคงท้าทายอำนาจมืดอย่างต่อเนื่อง"มึงก็รู้ว่ากูเป็นลูกคนเดียว กูไม่เคยต้องแบ่งของเล่นกับใคร ต่อให้มันเป็นของที่กูไม่เล่นก็ไม่ได้แปลว่าคนอื่นจะเอาไปเล่นต่อได้" กรงนิ้วแกร่งยื่นไปบีบปลายคางของอีกฝ่ายที่กำลังถูกพันธนาการแน่นหนาอยู่บนเก้าอี้ ร่างหนาก้มใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปพูดใกล้ๆ ใบหน้าของอีกฝ่าย เพื่อตอกย้ำให้มันรู้ถึงความสำคัญของมันเอง"แล้วจะให้กูอยู่เพื่ออะไร มึงมีของเล่นชิ้นใหม่แล้ว ก็ปล่อยกูไปสิ!" เจ้าของดวงตาคู่สวยมองด้วยสายตาตัดพ้อ"มึงลืมแล้วเหรอว่าคนที่มีสิทธิ์บอกว่ามันจะจบหรือไปต่อมีแค่กูเท่านั้น!" มือซึ่งพันธนาการใบหน้าหวานเจ้าของดวงตาคู่สวยที่จ้องมองตนสะบัดข้อมือของตัวเองด้วยความโกรธจนใบหน้านั้นสะบัดตามแรงส่ง ใจของเขาปวดจี๊ดๆ เขาไม่ชอบสายตาแบบนี้ของมันเลยให้ตาย"อ้อ แล้วคนที่มึงเห็นเขาไม่ใช่ของเล่น มาร์คมีค่ามากกว่านั้น" ฮิลล์เอ่ยเย็นชา สงสัยเมื่อวันนั้นไอ้นี่มันคงเห็นเขากับมาร์คสินะ"...." หึ! อาโปแค่หัวเราะสมเพชตนเองในใจ ในสายตามึงคงไม่มีใครไร้ค่าได้เท่ากูหรอกฮิลล์เห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปจึงเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ (นิ
เป็นครั้งแรกที่อาโปได้สัมผัสความอบอุ่นของอีกฝ่าย และก็เป็นครั้งแรกที่เขาเผยด้านอ่อนแอที่สุดของตนเองออกมา เขาไม่ชอบการอาละวาดทำลายข้าวของมากที่สุด อาจเป็นเพราะปมในวัยเด็กมั้ง ตอนนั้นกว่าพวกทวงหนี้จะยอมออกไปได้ แม่ของเขาต้องยอมกราบเท้าพวกมันเพื่อไม่ให้พวกมันพังข้าวของไปมากกว่านั้น ตอนนั้นแม่กอดเขาไว้ไม่ให้โดนลูกหลงจนเนื้อตัวของแม่เต็มไปด้วยเศษแก้วและรอยถลอก เขาและแม่ต้องเจอสภาพแบบนั้นนานหลายเดือน คิดดูสิว่าผู้หญิงกับเด็กตัวเล็กๆ ต้องมาเจอสภาพแบบนั้นตามลำพังจะต้องเข้มแข็งมากแค่ไหนกว่าจะผ่านพ้นมาได้ เพียงแค่คิดถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นร่างกายเขาก็พลันสั่นไม่หาย"อย่า! ขอกูอยู่แบบนี้ต่อได้ไหม โอ๊ย!" อาโปหมายจะรั้งร่างหนาที่กำลังทำท่าจะผละออกจากตน ร่างกายของเขาเผลอยกแขนเพื่อนจะกอดรั้งร่างของอีกฝ่าย จนลืมไปว่าตอนนี้ร่างกายของตนถูกผูกมัดติดกับพนักเก้าอี้แน่นหนา"ฮึ..อยู่นิ่งๆ อย่าดิ้น" ฮิลล์อ้อมแขนยื่นไปแก้ปมที่ตนเป็นคนผูกไว้ โดยที่ร่างของเขายังคงคุกเข่าอยู่ข้างหน้าร่างของอีกฝ่าย มุมปากของเขาเผลอยิ้มกับปฏิกิริยาของอาโป ท่าทางของมันคล้ายลูกหมาที่กำลังตั้งตารอคอยเจ้าของให้ปลดโซ่ให้มันเลยว่ะหมับ!เ
ใบหน้าคมจองใบหน้าหวานใต้ร่างตนเอง ฮิลล์รู้สึกขัดใจรอยแดงเป็นทางซึ่งสาเหตุมาจากตนที่ทำให้เกิดรอยขึ้นบนแก้มใสข้างนั้น ชายหนุ่มก้มลงไปซับจุมพิตบาดแผลนั้นราวกับมันจะช่วยให้รอยนั้นจางลงได้ จนเจ้าของแก้มต้องเบี่ยงความสนใจให้เขามาสนอย่างอื่นแทนใบหน้าของคนใต้ร่างหน้าเบี่ยงแก้มหลบริมฝีปากที่กำลังวอแวอยู่บริเวณแก้มของตน ร่างของชายหนุ่มถูเสียดสีไปยังบริเวณแก่นกายร้อนของอีกฝ่ายที่กำลังชันแขนคร่อมร่างของตน ดวงตาคู่สวยปรายมองส่งสายตาหยาดเยิ้ม ริมฝีปากชมพูสดเผยอขึ้นโดยถูกคมเขี้ยวผู้เป็นเจ้าของขบเม้มมันอยู่ตาคมหรี่เล็กลง หัวคิ้วขมวดชนกัน มวลความเสียวกำลังก่อตัวในท้องของตน ไอ้อาโปกำลังยั่วเขา! ฮิลล์คิดในใจ ตนไม่ได้ไม่พอใจแต่ชอบมากต่างหาก ชายหนุ่มฉกจูบบดริมฝีปากที่กำลังยั่วยวนตนทันทีทันใด สองแขนของตนสอดรับท้ายทอยของอีกฝ่ายริมฝีปากของร่างหนาทั้งจูบ ทั้งกัด ทั้งเม้มไปทั่วทั้งตัวร่างบาง เสื้อผ้าที่เคยห่อหุ้มร่างกายของทั้งสองฝ่ายไม่จำเป็นอีกต่อไป มันถูกฉีกทึ้งกระจัดกระจายทั่วห้องนอนหรู"อ่าาส์" อาโปส่งเสียงครางแผ่วเบาเมื่อตุ่มไตบริเวณหน้าอกของตนถูกขบกัดเบาๆ ผู้กระทำช้อนตาขึ้นมองใบหน้าแดงระเรื่อของอีกฝ่า
....หลายวันผ่านไป....อาโปตื่นนอนมาก็พบว่าในห้องนอนเหลือตนแค่เพียงลำพัง เขาสอดส่ายสายตาไปทั่วห้องก็ไม่พบผู้เป็นเจ้าของมัน มีเพียงชุดของเขาที่ถูกพับเป็นระเบียบและโทรศัพท์สมาร์ตโฟนของตนวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง'กูไปทำงาน แม่บ้านมาเก็บของทำความสะอาดเสร็จแล้ว อาหารอยู่ในตู้เย็นมึงอุ่นกินได้เลยไม่ต้องรอ'อาโปหยิบกระดาษโน้ตเล็กๆ ซึ่งถูกโทรศัพท์ของตนทับไว้ขึ้นมาอ่าน มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นยิ้มกว้าง มุมน่ารักของมึงก็มีนี่ เขาคิดในใจหลังจากลุกอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ปาไปเกือบบ่าย อาโปจึงพาร่างของตนออกมาห้องโถงนั่งเล่น เขาเดินไปเปิดประตูตู้เย็นอย่างคุ้นชินราวกับเป็นเจ้าของห้องเอง จะไม่ชินได้อย่างไรตนนอนค้างที่นี่เป็นวันที่ห้าเข้าไปแล้ว ชายหนุ่มกำลังจะหยิบอาหารที่ถูกห่อเก็บไว้อย่างดีออกมาเพื่อจะอุ่น แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมดันดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน ใครมันโทรมาตอนนี้กันนะ หิวจะแย่อยู่แล้ว! เมื่อคืนไอ้นั่นมันเล่นงานเขาทั้งคืนขนาดแค่เดินยังรู้สึกระบมอยู่เลย แต่ว่ามันก็ช่างอึดเหลือเกินเสียแรงไปขนาดนั้นยังตื่นไปทำงานได้ ถ้าเป็นตนคงโทรลางานไปแล้ว"สวัสดีครับพี่ตฤณ" ชายหนุ่มกดรับสายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
ผมยืนมองสารวัตรสไนเปอร์ที่ยังทำหน้านิ่ง ไม่แสดงออกอะไรทั้งนั้นวันนี้เขามาตรวจตราร้านของผม แต่พอเข้ามาก็ทำหน้านิ่ง ขรึม ชีวิตนี้เขารู้จักหาความสนุกให้ตัวเองบ้างหรือเปล่าวะ?“หึ…” ผมกระตุกยิ้ม ก่อนจะยกแก้วเหล้าในมือขึ้นกระดก รสขมปร่าของแอลกอฮอล์ไหลลงคอ แต่มันกลับไม่ช่วยให้ความร้อนในอกผมหายไปเลยสักนิดท่าทางของเขามันเหมือนท่านหิงสาจริงๆ น่าจับกระแทกลงเตียงให้รู้แล้วรู้รอด!ผมเม้มริมฝีปากแน่น ความคิดชั่วร้ายเริ่มแล่นเข้ามาในหัว เล่นตัวนักใช่ไหม? คอยดูเถอะ! จะกำราบให้ครางเหมือนหมาเลยเชียว! ไม่อยากยอมรับดีๆ งั้นเหรอ? ได้! เดี๋ยวจะทำให้ยอมเอง!สายตาของผมยังคงจับจ้องไปที่ร่างของคุณสารวัตร เขายังคงวางมาดเข้ม หน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เหอะ! ผมดูออกนะว่าตั้งแต่ที่เราได้อยู่ใกล้กันมากขึ้น เขาเริ่มเสียอาการไปหลายรอบแล้วไม่เป็นไร…จะเล่นให้สุดแล้วหยุดที่เตียงเลยคอยดู!แต่ก่อนไปพ่อจะ ‘กิน’ ให้เบื่อก่อน ไม่งั้นถ้าพวกไอ้ฮิลล์ ไอ้ไต้ฝุ่น ไอ้รุยรู้ คงโดนล้อตายห่า!แค่คิดภาพพวกมันเอามาล้อก็อยากจะจับเขาลากเข้าห้องเดี๋ยวนี้เลย!…สไนเปอร์ Talk…ผมรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองมาอย่างจงใจจากอีกฝั่งของห้อ
"ขอโทษครับ ผมไม่ชอบโคแก่" ตฤณบอกชายมีอายุในชุดภูมิฐาน จริงๆ อีกฝ่ายไม่ได้ดูมีอายุขนาดนั้น กลับกันหากไม่ทราบอายุที่แท้จริงอาจคิดได้ว่าบุคคลนี้แก่กว่าตนเพียงไม่กี่ปีขุนเขาหรี่ตามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจ จากประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมาทำให้ตนคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายน่าใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาก่อนแน่นอน เพราะท่าทางมั่นใจและนิสัยที่เถรตรงแบบนี้คงไม่อาจพบได้ทั่วไปในนิสัยคนไทย'หน้าตาก็ดี แต่ไม่น่าเป็นคนไร้มารยาทเสียเลย' ชายผู้ผ่านช่วงวัยกลางคนมาแล้วคิดในใจ เขาเพียงแค่พยายามใกล้ชิดไอ้หนุ่มนี่เพื่อจะดัดนิสัยอวดดีของลูกตนเอง ไม่วายอีกฝ่ายกลับคิดว่าเขาจริงจังกับมันเสียเหลือเกินได้นี่"เข้าใจนะครับลุง ผมขอตัว!" ตฤณยกร่างของตนเองขึ้นจากเก้าอี้กลางร้านอาหารสุดหรูที่อีกฝ่ายนัดมาดินเนอร์ เขาไม่อยากโดนมองว่าเป็นเด็กเสี่ยน่ะสิ ถึงได้ปฏิเสธความรู้สึกที่คุณขุนเขา อัศวเทวกุล ประธานบริษัทยายักษ์ใหญ่ของประเทศหยิบยื่นให้ ใครจะมองว่าตนโง่ก็ช่างเถอะ ของเล่นไฮโซใครจะเป็นก็เป็นไม่ใช่ผมแน่นอน"สองล้านต่อเดือนพอไหมครับ" ชายมีอายุยื่นเช็กที่เพิ่งเขียนตัวเลขลงไปมาหน้าตนเองตฤณหรี่มองไปยังเช็กใบนั้นพลางคิดในใจ นี่สินะ
ใบหน้าคมมีสีหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าคนรักของตนหยิบของที่ตนเองก็ลืมไปแล้วว่ายังมีอยู่ออกมา ไอ้นั่นมันเหมือนหนามสะกิดใจเขาทุกครั้งที่ได้เห็น ให้ตายสิ! พยายามจะลืมมันแล้วเชียว"ฮิลล์มึงเป็นอะไร" อาโปเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายสีหน้าไม่ค่อยดีคนถูกถามไม่ตอบคำถามเพียงแต่ดึงถามเข้าไปสวมกอดแน่นราวกับกลัวอีกฝ่ายหายไป อาโปยกแขนขึ้นลูบหลังคนตัวโตกว่า ความอบอุ่นจากฝ่ามือถูกส่งไปปลอบประโลมหัวใจที่กำลังเต้นหวีดหวิวให้กลับมาเต้นปกติดังเดิม"บอกกูได้หรือยัง ว่ามึงเป็นอะไร" อาโปเอ่ยถามอีกครั้งหลังเห็นว่าฮิลล์สงบลงบ้างแล้ว ตอนนี้เขากำลังนอนเกยอีกฝ่ายอยู่บนเตียงกว้าง ยืนนานๆ มันก็เมื่อยไหมล่ะ ตนจึงพาฮิลล์มานอนสบายๆ บนเตียงดีกว่า คงต้องปล่อยให้พี่ตฤณกับลุงขุนเขารอกันไปก่อน นี่เขาติดนิสัยไม่ดีแบบนี้มาจากฮิลล์เมื่อไหร่กันไม่เพียงอีกฝ่ายไม่ตอบคำถาม ชายหนุ่มยังเอื้อมมือดึงต้นคอของคนถามลงมาดูใกล้ตัวเอง ก่อนนิ้วแกร่งจะลูบไล้รอยจางของแผลเป็นที่แทบจะมองไม่เห็นบนต้นคอขาวเนียนของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา"กูไม่เป็นอะไรแล้ว" อาโปยกมือของตนขึ้นกุมมือที่กำลังลูบไล้คอของตน เขาพอจะเดาได้ลางๆ ว่าที่อีกฝ่ายมีอาการแบบนี้เพราะเหตุ
ร่างหนายืนมองรอยสักบนอกข้างซ้ายในกระจกด้วยความภูมิใจ ใต้รอยสักรูปรอยฟันนั้นมีตัวอักษรซึ่งอ่านได้ว่า 'Hill belong to Apo ' สลักสักลงบนผิวหน้างอย่างวิจิตร มันต้องสวยอยู่แล้วสิ ช่างสักคนนี้ไอ้รุยแนะนำมาด้วยตัวเอง 'คนอย่างรุยทุกอย่างต้องดีที่สุด' เขาเลยเชื่อใจในฝีมือช่างคนนี้"มึงจะยืนเก๊กอีกนานไหม เร็วๆ กูหิว" อาโปที่ยืนรออีกฝ่ายแต่งตัวส่ายหัวทำหน้าระอา มันยืนเลือกเสื้อถอดและใส่ใส่และถอดอยู่แบบนี้มานับสิบตัวจนตอนนี้พื้นห้องเต็มไปด้วยเสื้อที่ถูกมันถอด"กินกูรองท้องก่อนไหม" ร่างสูงหน้ากระจกมองอีกฝ่ายผ่านกระจกด้วยดวงตากะลิ้มกะเหลี่ย"กินตีนกูนี่" อาโปใช้เท้าถีบตูดแน่นของอีกฝ่ายแล้วเดินหนีไปอีกห้อง ตอนนี้พวกตนย้ายมาอยู่ด้วยกันได้เกือบจะครบปีแล้ว โดยอาโปเป็นฝ่ายย้ายมาอยู่กับอีกฝ่าย กะแหงล่ะ คนรักสบายแบบมันคงไม่ยอมย้ายไปอยู่ห้องเล็กเท่ารูหนูของตนเป็นแน่หมั่บ!"มาโดนทำโทษซะดีๆ ใครสอนให้ใช้เท้ากับผัว" ฮิลล์ตามมาบังคับกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลัง"อื้อ~ ไปแต่งตัวให้เสร็จก่อนกูหิว" อาโปพยายามแกะแขนล่ำที่พันธนาการร่างของตนเองไว้ ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงหลบใบหน้าที่กำลังวุ่นวายกับลำคอของตน"กินของคาวกูก่อน
คนในรถที่กดข้อความหาเพื่อนตนเองเห็นร่างคุ้นตากึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางตน ชายหนุ่มจึงรีบเปิดประตูรถออกไปด้วยความเป็นห่วง ร่างสูงของฮิลล์รีบวิ่งไปหาร่างที่กำลังมุ่งหน้ามาทางตนเอง ร่างบางกว่าโผเข้ากอดร่างหนาทันทีเมื่อทั้งคนมาบรรจบกัน ในระหว่างที่วิ่งมาอาโปมั่นใจแล้วว่าตนเองไม่อยากเสียฮิลล์ไปมากแค่ไหน ต่อจากนี้ตนจะวางอคติลงแล้วลองเริ่มใหม่กับไอ้หมอนี่สักครั้งวะ ถ้าจะเจ็บอีกก็ให้มันรู้ไป"เป็นอะไร! เกิดอะไรขึ้น! ใครทำอะไรมึง!" ฮิลล์เอ่ยถามพลางลูบหลังคนในอ้อมแขนด้วยความเป็นห่วง ไอ้สองคนนั่นทำอะไรที่รักของเขากันแน่ หรือว่าเป็นคนอื่นที่ทำ ไหนใครหน้าไหนมันกล้ากูจะกระทืบให้จมตีนคอยดู! กล้าทำได้ไงอาโปออกจะน่าทนุถนอมขนาดนี้ (ขออนุญาติมองบน =..=)"ไม่มีใครทำทั้งนั้น กูขอโทษที่งี่เง่าใส่มึง" อาโปกระชับแขนที่กอดอีกฝ่ายแน่น"ใครพูดอะไรให้มึงฟัง" คนตัวโตกว่าถามขณะลูบหลังปลอบอีกฝ่าย"..." ร่างในอ้อมกอดส่ายหัวไปมาแทนคำตอบ"ไอ้พวกนั้นพูดอะไรไม่ต้องไปฟังมันหรอกไร้สาระ" น่าตับไอ้สองนั่นมากระทืบจริงเชียว ดูสิอาโปของเขาเสียขวัญหมดแล้ว"อื้อ กลับกันเถอะ" อาโปดันตัวออกจากอีกฝ่าย"กลับไปไหนคอนโดมึงหรือคอยโดกู" ฮิลล
อาโปมานั่งกร่อยกินเหล้าฟังเพลงอยู่ที่ร้านของเพื่อน เขากับฮิลล์ไม่ได้ติดต่อกันมาเกือบอาทิตย์ มีแต่ไอ้ฮิลล์ที่ข้อความมาเตือนให้เขากินข้าว แต่เขาทำเพียวแค่เปิดข้อความอ่านไม่ตอบกลับไป"พวกมึงทะเลาะอะไรกัน" ไต้ฝุ่นถามอาโปที่วันนี้มันมานั่งกินเหล้าที่ร้านของตน"เปล่า" อาโปบอกขณะยกแก้วกระดกวิสกี้เข้าปาก"หึ...เชื่อได้มาก" ไซโคลนแค่นหัวเราะกับคำตอบของอีกฝ่าย"มึงก็เพลาๆ ลงบ้าง ไอ้ฮิลล์มันยอมมึงขนาดนี้แล้ว" ไต้ฝุ่นเอ่ย ขนาดเขาเองยังแปลกใจที่เพื่อนของตนยอมอีกฝ่ายมากขนาดนี้ ไอ้อาโปบอกว่าไม่อยากให้มันมาเจอ ไอ้ฮิลล์ก็ไม่มาแต่เลือกที่จะส่งข้อความมาถามตนทุกห้านาที ไอ้อาโปคงไม่รู้ว่าช่วงอาทิตย์ที่ผ่ามาพวกตนต้องลำบากแค่ไหน ไอ้ฮิลล์มันเอาแต่โทรจิกให้พวกตนสับเปลี่ยนกันไปเฝ้าไอ้คนที่กำลังนั่งกระดกเหล้าอยู่นี่ ได้โปรดดีกันเถอะกูขอร้อง กูเหนื่อย!"แล้วมึงจะพูดถึงคนตายทำไม!" อาโปกระแทกแก้วลงบนโต๊ะ"ถ้ามันตายขึ้นมามึงนั่นแหละที่จะเสียใจ" ไซโคลนเอ่ย ชายหนุ่มเอนตัวพิงพนักโซฟายกเท้าขึ้นมาไขว่ห้างก่อนจะพูดต่อ"มึงเห็นแผลที่มือมันไหม รู้ไหมมันได้มายังไง" อาโปขมวดคิ้วกับคำถามที่ส่งมาจากไซโคลน"ก็อุบัติเหตุไม่ใช่เห
ฮิลล์ขับรถตรงมายังโรงพยาบาลที่มาร์คถํกส่งตัวมาหลังจสกได้รับสายจากผู้จัดการของอ่กฝ่าย พ่อแม่ของมาร์คที่อยู่อเมริกาคงยังไม่รู้เรื่อง รอให้ตนไปถึงก่อนแล้วกันค่อยโทรบอก มาร์คทำงานอยู่ที่นี่คนเดียวไม่มีญานิพี่น้องที่ไหน นั่นจึงเป็นเหตุที่เขาไมาสามารถปฏิเสธคำขอพี่จูดี้ได้ หากจะนับตอนนี้ที่เมืองไทยคงมีเขาเพียงแค่คนเดียวที่จะเรียกว่าญาติได้หลังจากจอดรถเสร็จผมรีบเดินมองหาห้องฉุกเฉินทันที เพราะก่อนหน้านี้จูดี้บอกว่ามาร์คถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินในสภาพไม่มีสติ ผมเองก็ร้อนใจเป็นห่วงอีกฝ่ายเช่นกัน"มาร์คเป็นไงบ้างครับพี่หวาน" ผมถามผู้ช่วยของพี่จู้ดี้ที่กำลังเดินไปมาหน้าห้องฉุกเฉิน"พี่ไม่รู้เหมือนกัน หมอเอาน้องมาร์คเข้าไปนานแล้วยังไม่ออกมาเลย" อีกฝ่ายตอบด้วยสีหน้ากังวล"มาร์คตกลงมาสูงเลยเหรอครับ""ประมาณตึกสองชั้นค่ะน้องฮิลล์ นั่งร้านมันต่อไม่ดีน้องมาร์คเลยเสียหลักตกลงมาโดนเบาะลมแล้วก็สลบไปเลย" คนชื่อหวานเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังฮิลล์อยู่ทำธุระที่โรงพยาบาลจนมาร์คถูกย้ายเข้าห้องพิเศษ โชคดีที่อีกฝ่ายตกลงบนเบาะลมนิรภัยคอเลยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หมอเลยใส่เฝือกอ่อนช่วยพยุงคอไว้ แต่ที่หนักคงเป็นแขนที
....Apo's talk....ผมกำลังนั่งหน้ามุ่ยในรถรอไอ้คนที่ไปลากผมออกมาจากบริษัทที่กำลังเดินผิวปากมาอย่างอารมณ์ดี ตั้งแต่วันนั้นไอ้ฮิลล์ก็ก้อร่อก้อติกผมไม่ห่างจนบางทีผมเองก็รำคาญ'มึงไม่มีงานทำหรือไง''มี...แต่กูใช้เงินทำงาน' ผู้มีใบหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างไหวไหล่ขึ้นนั่นแหละครับความน่าหมั่นไส้ของมัน ตอนนี้จะว่าไปผมเองก็เริ่มชินกับนิสัยแบบนี้ของมันเสียแล้ว เมื่อก่อนมันไม่ได้เป็นคนแบบนี้นะ ฮิลล์คนก่อนประหยัดถ้อยประหยัดคำเสียเหลือเกิน แต่ตอนนี้เนี่ยสิมันพูดกวนจนผมต้องบอกให้มันหยุดบ้าง แรกๆ มันมานั่งเฝ้าชวนผมช่วงเที่ยงแต่ผมก็ยังไม่ยอมไปไหนกับมัน หลังๆ มันเลยเริ่มมาปักหลักนานขึ้นแล้วก่อกวนทุกคนไปหมดจนพี่ตฤณต้อฃขอร้องให้ผมเอามันออกจากออฟฟิศ'เฮ้ย! ใกล้ไป หน้าอ่ะออกห่างๆ หน่อย' ฮิลล์ที่ขยับกรอบแว่นสายตาของมันแล้วหรี่ตามอง บอกน้องนักศึกษาฝึกงานชายที่ผมกำลังสอนงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์'เฮ้ยๆ มืออ่ะ ไม่ต้องขนาดนั้นเว้ย' ฮิลล์ที่บอกตั้มที่กำลังช่วยผมจัดพร็อพถ่ายงาน'ไม่ได้ๆ มึงอ่ะไปถ่ายแทน' ฮิลล์ที่จัดแจงลากผมออกมา แล้วจับน้องนักศึกษาฝึกงานชายเข้าไปในเซ็ตเพื่อเป็นหุ่นถ่ายเครื่องประดับร่วมกับนายแบบอีกคนแ
ฮิลล์นั่งมองอีกฝ่ายทานอาหารเงียบๆ แค่เห็นคนตรงหน้าทานอย่างเอร็ดอร่อยเขาก็อิ่มอกอิ่มใจจนความอยากอาหารหายไปหมดสิ้น"แล้วมึงไม่กินไง๊" อาโปที่เห็นอีกฝ่ายไม่เตะอาหารในจานตัวเองทานเลยถามขึ้น เอ๊ะ! หรือมันใส่ยาอะไรให้กูกินหรือเปล่า"ฮึ๊ เห็นมึงกินได้กูก็มีความสุขแล้ว" ชายหนุ่มยิ้มตอบ"แหวะ! จะอ้วก ได้โปรดกลับมาเป็นฮิลล์คนเดิมเถอะกูขอร้อง" อาโปวางมีดและส้อมที่กำลังหันสเต๊กลงทันที ชายหนุ่มคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มล้างปาก "ก็บอกแล้วไงถ้าเป็นเด็กดี กูก็จำดีกับมึงแค่คนเดียวตลอดไป" ชายหนุ่มส่งสายตาจริงจังให้อีกฝ่าย เมื่อคืนเขาไม่ได้พูดไปงั้นๆ เขาหมายความตามที่พูดจริงๆ "…" อาโปจ้องลึกเข้าไปยังสายตาอีกฝ่าย นี่เขาเชื่อมันได้จริงๆ ใช่ไหม ถ้าเชื่อแล้วมันจะไม่ทรยศความรู้สึกที่เขาให้ไปใช่หรือไม่"มึงไม่ต้องเชื่อกูตอนนี้หรอกนะ ขอแค่อย่าปิดกั้นกูก็พอ" ฮิลล์เอื้อมมือของตนไปกุมมืออีกฝ่ายไว้เมื่อเห็นแววแห่งความลังเลที่ปรากฏในดวงตาคู่สวย"มือมึงไปโดนอะไรมา" อาโปสังเกตเห็นรอยแผลเป็นกลางฝ่ามือที่ลากเฉียงผ่านตั้งแต่ฝ่ามืออีกด้านยาวจนถึงโคนนิ้วชี้ของอีกฝ่าย เขาจำได้เมื่อก่อนมันไม่เคยมีแผลนี้"อุบัติเหตุน่ะ" ชายหนุ่