“ไม่นะ…”ฉันร้องห้ามขุนศึกที่ตอนนี้เขากำลังจะก้มหน้าลงไปหาความเป็นสาวของฉันอีกครั้ง เขาก็หยุดกระชักและเงยหน้ากลับมามองหน้าฉันพลางเลิกคิ้วขึ้นสูง“ทำไม….ไหนเมื่อก่อนเธออยากเป็นของฉันนักไม่ใช่เหรอไง?”“ที่จริง…ฉันก็ช่วยเธอสำเร็จความใคร่ด้วยปลายลิ้นกับนิ้วของฉันมาตลอดเวลา”“และไอ้เรือนร่างของเธอ….ฉันก็เห็นจนมันเบื่อแล้ว….”เขาพูดด้วยเสียงเยือกเย็น แววตาที่ก้มมองเรือนร่างของฉันในขณะพูดไปด้วยของเขาก็เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามทำให้ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจ บางทีฉันกับขุนศึกเราอาจจะจบกันแล้วจริงๆก็ได้ เขาคงไม่ได้รักฉันอีกต่อไปแล้วซึ่งนั้นมันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอไง“ถ้าจะเอา….ก็ใส่ถุงด้วยล่ะกัน….”ฉันจนใจเลยต้องพูดคำนี้ออกไป ทำให้ขุนศึกมองหน้าฉันด้วยแววตาตกใจแวบหนึ่งก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสายตานิ่งเฉย“เพราะนายมันสกปรก”ฉันพูดต่อพลางมองหน้าเขาด้วยแววตาขยะแขยงและรังเกียจ เขาก็กระตุกยิ้มที่มุมปากแววตาดุดันจ้องมองฉันกลับพรึบฉันนอนมองจ้องขุนศึกที่ทันทีที่ฉันพูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนปลดเข็มขัดของเขาออกพร้อมกับถอดกางเกงผ้าสแล็คเนื้อดีพร้อมกับกางเกงในของผู้ชายออกไปจากเรือนร่างของเขา จนร่างกายของเขาเปลือยเปล่าต
เอริ ฐิติมน….พรึบ โพล๊ะ“กรี๊ดดดดดดดด!”ฉันกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อขุนศึกได้ดันลำกายใหญ่ของเขาเข้ามาในร่องสวาทของฉันทีเดียวมิดลำและทีเดียวหนักหน่วงด้วยจนเยื่อพรหมจรรย์ได้ฉีกขาดไปอย่างรุนแรงโดยไม่ได้รับความทนุถนอมและความนุ่มนวลเลยสักนิด“อื้ออ…เจ็บ…”ฉันร้องออกไปพร้อมนำ้ตาของฉันเริ่มไหลออกมาจากที่กลั้นไว้อยู่นาน ขาของฉันสั่นระริกด้วยความเจ็บ ร่างกายของฉันสั่นสะท้านไปทั้งร่างทำให้ขุนศึกที่ก้มหน้ามองจุดเชื่อมของเราสองคนอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันทันที แววตาที่เคยเเข็งกร้าวก่อนหน้านี้ได้หายไปกลายเป็นแววตาอ่อนโยนและรู้สึกผิดขึ้นมาแทน“เอริ….”เขาเรียกฉันเสียงแผ่วเบาแววตาของเขาสั่นไหว“ไง….สะใจนายรึยัง?”ฉันเอ่ยถามเขาไป เขาทำท่าจะยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ฉัน แต่ฉันกลับปัดมือของเขาให้ถอยห่างออกไปจากฉันอย่างเเรง“เเล้วริ…ยั่วโมโหขุนทำไมอ่ะ…?”“จะทำก็ทำให้จบดิ…”ฉันเอ่ยบอกเขาไป ทำให้ขุนศึกมองหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจ ฉันก็ใช้มือของฉันปาดคราบน้ำตาของฉันให้ออกไปให้พ้นจากใบหน้าของฉัน“รีบๆทำให้เสร็จ….ความสัมพันธ์ของเราจะได้จบลงสักที!”ฉันตะโกนเสียงดัง“ริ….”ขุนศึกเรียกฉันเสียงแผ่วเบาใบหน้าหล่อของเข
“อื้ออออ”ฉันครางถี่รัวพลางทำหน้าเหยเกอย่างสุขสมเมื่อขุนศึกอ้าปากและดูดดื่มยอดปทุมถันของฉันอย่างอ้อยอิ่งและนุ่มนวลส่วนมือหนาก็ทำการบีบเคล้าคลึงเต้าอวบทั้งสองข้างอย่างนุ่มนวลจนฉันเสียวซ่านลืมความเจ็บปวดก่อนหน้านี้ไปหมดทั้งสิ้น“อื้อออออ”เสียงทุ้มคำรามออกมาเมื่อเขาใช้ใบหน้าหล่อซุกไซ้ฟัดไปกับหน้าอกหน้าใจที่ขาวนวลของฉันอย่างเอาแต่ใจ“ขุนไม่ไหวแล้วอ่ะริ….”ขุนศึกเงยหน้าขึ้นมาจากเต้าอวบของฉันพลางเอ่ยบอกฉันด้วยใบหน้าหล่อที่กำลังเหยเกฉันก็นอนมองหน้าเขาด้วยใบหน้าที่เหยเกไม่ต่างจากเขาเช่นกัน“อื้อออ….ขุน…”ฉันเอ่ยเรียกขุนศึกที่เขาใช้มือมั้งสองข้างยันตัวออกไปจากร่างของฉันและทำท่าจับขาทั้งสองข้างของฉันอ้าออกให้กว้างมากกว่าเดิมและเขาก็ลุกขึ้นนั่งยองๆขึ้นมา ฉันรู้สึกเจ็บแวบที่ใจกลางความเป็นสาวขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าความเป็นสาวของฉันได้อ้าออกไปตามความกว้างของการอ้าขาของฉันด้วย“ขุนจะทำเบาๆนะครับ….”ขุนศึกเอ่ยบอกฉันพลางยิ้มบางๆให้ฉัน ฉันก็นอนมองหน้าเขาเฉยไม่ได้ตอบหรือพูดอะไรกับเขาไป เพียงแค่ยื่นมือทั้งสองข้างไปจับหมอนที่ฉันหนุนศีรษะอยู่อย่างแน่นเพื่อให้ความเจ็บที่ปะปนกับความเสียวซ่านที่ร่องสวาทของฉันได้คลาย
“แต่ขุนไม่เอาออก….”ขุนศึกพูดต่อด้วยแววตานิ่งเฉยเหมือนเขาจงใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว “เพื่อ?”ฉันเอ่ยถามเขาไปด้วยความรู้สึกไม่พอใจเขา “ก็ขุนอยากปล่อยในตัวริ….” “หึ!”ฉันหัวเราะออกอย่างรู้สึกสมเพชตัวเอง ที่ยอมให้เขาได้ทำอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่เราสองคนเลิกกันแล้ว พรึบ “อื้อ!”ฉันร้องออกมาเมื่อฉันได้ยันตัวลุกขึ้นนั่งและใช้มือผลักหน้าท้องแกร่งของขุนศึกให้เขาถอยห่างออกไปจากตัวฉันและฉันก็ขยับร่างกายของฉันให้ถอยห่างออกมาจากตัวเขา ทำให้ลำกายใหญ่ของเขาหลุดออกไปจากร่องสวาทของฉันจนฉันรู้สึกเจ็บวาบและรู้สึกโล่งๆแปลกจึงร้องออกมา “ริ?”ขุนศึกมองหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจและงุนงงสงสัยปะปนกัน ฉันก้มหน้าลงมองไปสบเข้ากับเลือดสีแดงสดที่ไหลรินออกมาจากร่องสวาทของฉันที่มันปะปนมากับน้ำสีขาวขุ่นของขุนศึกที่มีปริมาณมากติดเลอะที่นอนสีขาวของฉันเต็มไปหมด “กลับไปได้แล้ว…”ฉันเอ่ยบอกขุนศึกไปเสียงเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกหน้าตานิ่งเฉยอย่างคนที่เย็นชา เขาก็มองหน้าฉันพลางขมวดคิ้วไม่เข้าใจ “ความสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์ของเรา….มันจบลงแล้วขุนศึก….”ฉันบอกขุนศึกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แววตาของฉันที่จ้องมองแววตาของขุนศึกมันว่างเปล่าไร้คว
“เพราะฉันรักเธอได้….”“ฉันก็เกลียดเธอได้เหมือนกัน….เอริ!”ผมพูดบอกเธอเสียงเข้มพลางจ้องมองเธอตาไม่กระพริบ เธอคงรับรู้ได้ว่าอารมณ์ของผมตอนนี้มันเป็นยังไง เพราะสรรพนามที่ผมใช้แทนกับเธอมันได้เปลี่ยนไปแล้ว“และฉัน….จะคิดเธอทุกบาททุกสตางค์กับค่าโง่ที่ฉันเคยสูญเสียให้เธอไป….”ผมบอกเธอเสร็จก็ก้มหน้าลงไปซุกไซ้ซอกคอของเธออย่างรุนแรงตามอารมณ์ที่ทั้งโกรธทั้งโมโหทั้งน้อยใจเธอ“อื้ออ….“เอริไม่ได้ผลักไสร่างกายของผมออกไปแต่เธอกลับนอนนิ่งๆให้ผมได้ทำร้ายและเสพสุขจากเรือนร่างที่สุดแสนจะเพอร์เฟคของเธอ ผมบีบคลึงเต้าอวบอิ่มทั้งสองเต้าที่มีขนาดใหญ่โตและขาวนวลเนียนราวกับซาลาเปาที่มียอดประดับด้วยสีชมพูที่แข็งชูชันจนน่าดูดดึง“แผล๊บๆ”ผมก้มหน้าลงมาซุกไซ้เต้าอวบของเธอและทำรอยรักทุกครั้งที่ปลายลิ้นของผมเลื่อนผ่านความหวานของร่างกายของเธอและกลิ่นตัวหอมเฉพาะของเธอกำลังทำให้ผมคุ้มคลั่ง“จ๊วฟฟฟจ๊วฟฟ”ผมดูดดื่มยอดปทุมถันสีชมพูที่แข็งชูชันท้าทายสายตาของผม ผมทั้งดูดทั้งดึงจนได้ยินเสียงครางเบาๆที่เธอพยายามอัดอั้นมันไว้เพื่อไม่ให้ผมได้ใจว่าเธอกำลังเสียวซ่าน เธอแอ่นหน้าอกของเธอขึ้นลงสู้ปลายลิ้นร้อนของผม ผมจัดการใช้มือทั้งสองข้
“อื้ออออออ!”เสียงเอริร้องออกมาด้วยความเจ็บปะปนกับความเสียวซ่านที่ผมค่อยๆดันลำกายใหญ่ของผมเข้าไปในร่องสวาทของเธออย่างช้าๆเพราะด้านในของเธอตอดผมถี่รัวและคับแน่นจนทำให้ผมรู้สึกปวดหนึบที่เจ้ามังกรยักษ์ของผม ครั้งนี้เข้าง่ายกว่าครั้งแรกเพราะผมกับเธอเพิ่งจะมีอะไรกันได้ไม่นานร่องสวาทของเธอยังไม่ได้คืนตัวบวกกับน้ำหวานของเธอที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายอีกเลยง่ายต่อการสอดใส่ “อ๊าาาาาาาห์!”ผมร้องครวญครางออกมาอย่างเสียวซ่านเมื่อผมได้ดันลำกายใหญ่ของผมจนสุดโคนและใช้มือทั้งสองข้างบีบคลึงก้นกลมกลึงขาวเนียนของเอริเป็นที่ยึดและเป็นที่ผ่อนคลายความเสียวของลำกายใหญ่ลงได้บ้าง “โคตรเสียว….แน่นชิบ…เอริ…”ผมเอ่ยออกมาในขณะที่ผมแช่ท่อนเอ็นยักษ์ของผมค้างไว้ในร่องของเธอที่ตอดผมถี่รัวจนผมแทบจะหลั่ง “อื้อออ…”เอริเองก็ครวญครางเสียงกระเส่าเมื่อผมค่อยๆขยับท่อนเอ็นของผมอย่างช้าๆเนิ่บๆเพื่อให้ร่องสวาทของเธอปรับตัวให้เข้ากับท่อนเอ็นยักษ์ของผมที่มีขนาดใหญ่ากว่าผู้ชายไทยทั่วๆไป “อื้อออออ” เพลี๊ะ! ผมอดใจไม่ไหวที่เอริล่อนสะโพกไปมาสู้กับท่อนเอ็นยักษ์ของผมที่เริ่มกระแทกเข้าหาร่องสวาทของเธอถี่รัวและหนักหน่วงขึ้นทำให้ร่าง
เช้าวันต่อมา10:30น.เอริ ฐิติมน…..พรึบ“อื้อออ…”ฉันร้องครางออกมาเบาๆเมื่อรับรู้ได้ถึงร่างกายที่ปวดร้าวไปทั้งตัว ที่เจ็บหนักเป็นพิเศษคงจะเป็นใจกลางความเป็นสาวเพราะมันปวดร้าวเจ็บแสบไปหมด“กลับไปแล้วเหรอ?”ฉันเอ่ยออกมาทันทีที่ลืมตามาก็พบว่าผู้ชายที่นอนกอดฉันทั้งคืนได้หายไปจากที่นอนข้างๆตัวของฉันแล้ว ฉันจึงค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่งพรึบฉันจับจ้องไปที่ผ้าปูที่นอนสีขาวที่พอฉันจับผ้าห่มที่ห่มร่างเปลือยเปล่าของฉันให้ออกไปก็พบกับรอยคราบสีเหลืองเป็นดวงๆพร้อมกับคราบเลือดสีแดงสดที่เริ่มแห้งเหือดไปแล้ว ทำให้ฉันเผลอใจสั่นขึ้นมา ทั้งๆที่ฉันพยายามจะเดินออกมาจากชีวิตของเขาแล้วเเท้ๆแต่กลับกลายเป็นว่า ฉันดันไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับขุนศึก แล้วแบบนี้มีเหรอที่เขาจะยอมปล่อยฉันไป คำพูดและเเววตาที่ขุนศึกมองฉันด้วยความโกรธในตอนที่เขาบอกฉันว่า เขารักฉันได้ เขาก็เกลียดฉันได้เหมือนกัน มันเจ็บปวดมากนะที่ได้ยินคำพูดนี้หลุดออกมาจากปากของผู้ชายที่เรารักแต่ทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อฉันเป็นคนเลือกเองพรึบ“ซี๊ดดด!”ทันทีที่ฉันขยับท่อนล่างก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อรับรู้ได้ถึงความแห้งกรังของน้ำรักของขุนศึกผสมกับน้ำรักข
12:00น.ห้องครัว….ฉันที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ค่อยๆพาร่างกายที่อ่อนแอและปวดร้าวของตัวเองเดินลงจากบันไดบ้านจากชั้นสองลงมายังชั้นล่าง เพราะฉันหิวข้าว และฉันก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติแปลกไปเพราะผ้าปูที่นอนที่เลอะไปด้วยคราบเลือดและคราบน้ำรักของฉันกับขุนศึก ได้หายออกไปจากที่นอนหลงเหลือไว้เพียงแค่เตียงนอนขนาดหกฟุตราคาแพงแค่นั้น ใครกันนะที่เอาออกไป ฉันก็รู้สึกอายเหมือนกันนะ“กลิ่นอะไรหอมจัง^_^”ฉันพึมพำขึ้นมาเมื่อทันทีที่ขาของฉันก้าวถึงพื้นของชั้นล่าง กลิ่นหอมฉุยที่ลอยออกมาจากที่ไหนสักแห่งในบ้านหลังนี้ทำให้น้ำย่อยในกระเพาะของฉันเริ่มทำงานขึ้นมาทันที“ขวัญไม่ได้ไปเที่ยวแล้วหรือไงกันนะ?”ฉันพึมพำขึ้นอย่างนึกสงสัยว่าขวัญหรือใครกันที่ทำอาหารหอมกรุ่นนี้ ฉันไม่รอช้ารีบใช้จมูกสูดดมหาที่มาของกลิ่นหอมๆของอาหารนี้ ก็พบว่าต้นตอของกลิ่นนี้อยู่ที่ห้องรับประทานอาหาร ฉันจึงเดินมุ่งไปที่ห้องอาหารทันทีก็พบกับจานอาหารที่ถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะอาหารอยู่สามจาน นั้นคือของโปรดของฉันทั้งนั้นเลยพรึบ“อื้อออออร่อย^_^”ฉันที่เดินไปถึงยังอาหารก็ใช้ช่อนตักอาหารแกงส้มกุ้งตัวใหญ่ขึ้นมากินเลย พลางทำหน้าฟินเพลี๊ย“ป้าบัว?!”
"ผมเกลียดคุณเข้าใจไหม""ไม่จริงคุณไม่ได้เกลียดแก้มหวานคุณรักแก้มหวาน""ไม่งั้นคุณจะมาทำดีกับแก้มหวานทำไม""ที่ผมทำดีกับคุณเพราะผมติดใจในเซ็กส์ของคุณไง....คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เร้าร้อนและร้อนแรงเรื่องบนเตียงมากแค่ไหน"เควินพูดพร้อมกับเดินตรงมาหาแก้มหวาน"ผมไม่เคยมีอะไรกับใครแล้วมีความสุขเท่าคุณ"เควินว่าพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวไล้เกี่ยไปตามแขนของแก้มหวานอย่างแผ่วเบา พร้อมกับมองแก้มหวานด้วยแววตาหวานเยิ้ม"ผมก็เลยเล่นตามน้ำคุณถึงแม้ในใจผมมันจะสนแค่ร่างกายคุณแต่นิสัยและสันดานของคุณผมรังเกียจมันเสียด้วยซ้ำ"เควินพูดไปพลางมองไปที่ร่างของแก้มหวานด้วยสายตาดูถูกและเหยียดหยาม"ผมก็นึกว่าคุณจะเล่นๆกับผมแต่ที่ไหนได้คุณคิดจริงจัง"เควินว่าพลางยิ้มหัวเราะออกมาอย่างเรื่องที่เป็นประเด็นสนทนาอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องตลก ทำให้แก้มหวานมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจและน้อยใจไปในตัวเธอคิดว่าเขาจะสนใจและมีความรู้สึกดีๆให้เธอเสียอีก แต่ที่ไหนได้เขากลับไม่ได้มีใจให้เธอเลย "ไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอก.....ผมพูดความจริง""และต่อไปคุณก็ช่วยกรุณารู้จุดยืนของตัวเองด้วยนะ"เควินเอ่ยออกมาปิดท้ายแววตาที่เขามองเธอเวลาพูด
"ไม่ใช่ว่าริเป็นซิงเกิ้ลมัมไม่ได้แต่ริไม่อยากเป็นไม่อยากให้ลูกมีแค่ริที่ทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกันแต่อยากให้ลูกได้รับความรักจากพ่อแท้ๆของเขาและความเอาใจใส่จากพ่อของเขาจริงๆ" "คนที่ไม่เคยขาดพ่อขาดแม่ไม่มีวันเข้าใจหรอกไม่ว่าแม่จะดูแลดีแค่ไหนแต่มันก็ไม่เหมือนความรักที่มีทั้งพ่อและแม่อยู่ครบ" "ริหวังว่าขุนจะเข้าใจนะ....ขุนแค่ทำหน้าที่พ่อของลูกเท่านั้นพอ....." "ริ....." "หรือขุนอยากจะเลือกก็ได้นะระหว่างทำหน้าที่พ่อของลูกหรือจะไม่รับหน้าที่อะไรเลยก็ได้" "ก็ได้ขุนจะเอาแบบที่ริว่าก็ได้"ขุนศึกที่ได้ยินคำขาดจากฉัน เขาก็พูกเสียงเข้มแทรกขึ้นมาทันที "แต่ขุนจะทำให้ริเห็นว่าขุนพร้อมที่จะหยุดและมีแค่ริคนเดียวแล้วจริงๆ"ขุนศึกว่าพร้อมกับทำหน้ามั่นใจว่าเขาจะสามารถทำอย่างที่เขาพูดได้จริงๆ แต่เขาก็พูดแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันจับเขาได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นและฉันก็ไว้ใจและเชื่อใจเขามาตลอดและเป็นยังไงล่ะ สุดท้าย ฉันก็เป็นอีโง่เหมือนเดิม เคยยอมเสียศักดิ์ศรีตัวเองแก้ผ้าให้ขุนศึกเอาเพื่อให้เขาเลิกไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น นั่นมันเป็นความคิดเด็กน้อยชะมัด "ทำให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากันอีกที..
วันเดียวกัน23:30น.เอริ ฐิติมน......จึกๆๆ"ริ......""หื้ออออ"ฉันครางรับเสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกฉันพร้อมกับแรงสะกิดที่ไหล่ฉันเบาๆฉันที่นั่งขดตัวหลับอยู่บนโซฟาภายในห้องโถงใหญ่ก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาดูเจ้าของเสียงที่ฉันเฝ้ารอเขาจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้"ขุน......กี่โมงแล้วเนี่ย?"ฉันขยี้ตาเพื่อไล่ความสะลึมสะลือความงัวเงียให้หายไปพร้อมกับเอ่ยถามขุนศึกไป"เที่ยงคืนกว่าแล้ว....ริมานอนทำไมตรงนี้?"ขุนศึกตอบฉัรพร้อมกับเอ่ยถามฉันกลับ ฉันที่หายจากอาการสะลึมสะลือแล้วแล้วก็ขยับตัวนั่งดีๆและหันไปมองหน้าขุนศึกที่เขานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับฉันและนั่งข้างๆฉันด้วย"ริมารอขุนนั้นแหละ.....ทำไม่มาซะดึกเลย....หาไม่เจอเหรอ?""เปล่า.....พอดีขุนไปทำธุระมาน่ะ""อ้อ"ฉันพยักหน้าพลางร้องตอบขุนศึกไป แม้ในใจอยากจะถามเขาว่าธุระที่เขาว่าคืออะไร แต่สีหน้าและแววตาของขุนศึกเหมือนไม่อยากบอกให้ฉันรู้ว่าธุระที่เขาพูดถึงคืออะไรถ้าเขาไม่อยากบอก ฉันก็ไม่ควรที่จะถามต่อสินะ เพราะฐานะของฉันกับเขาไม่มีสิทธิ์ซักไซ้จนได้รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากไปกว่านี้"ว่าแต่ริมารอขุน......มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า"ขุนศึกถามฉันพร้อมกับจ้องมองฉั
จะปล่อยห้องว่างไวโดยไร้คนอยู่ก็เสียดาย ฉันก็เลยใจอ่อนและยอมมาอยู่ที่นี่ซึ่งฉันคิดว่ามันสะดวกสบายดี บ้านที่ฉันหาในเน็ตก็มองทรุดโทรมและค่าเช่าก็แพง อะไรที่ประหยัดได้ในตอนนี้ฉันก็ควรจะประหยัดและตอนนี้ฉันก็ท้องด้วย ฉันควรจะมีเงินสำรองไว้เลี้ยงลูกของฉันให้เขาอยู่อย่างสุขสบายให้เยอะๆดีกว่าฉันควรจะบอกเรื่องนี้กับขุนศึก......ว่าฉันท้องกับเขา....."ป้าบัวคะ""จ๊ะว่าไงจ๊ะเอริ?"ป้าบัวที่กำลังยกชามกะละมังที่เช็ดตัวคุณหญิงเพิ่งเสร็จหันมาขานรับฉันเงินก้อนใหญ่ฉันก็ให้ขุนศึกไปหมดแล้ว รถก็ขายทิ้ง บ้านก็มาไฟไหม้อีก ค่ารักษาพยาบาลคุณหญิงค่าใช้จ่ายรายเดือนก็สูง โดยเฉพาะค่ากายภาพบำบัดที่ฉันว่าจ้างให้นางพยาบาลที่เป็นคนทำกายภาพบำบัดและศึกษาด้านนี้มาโดยเฉพาะให้มาดูแลคุณหญิงทุกวันโดยทำกายภาพบำบัดให้คุณหญิงเดินได้อีกครั้งและฉันจะทำทุกวิถีทางให้ชีวิตของลูกฉันมีความสุขและสุขสบายที่สุดไม่ให้ลำบากและรู้สึกขาดแบบที่ชีวิตฉันเคยเป็นมา ฉันจะเลี้ยงเขาให้ดีที่สุดเท่าที่สุดของความสามารถของฉัน"ป้าบัวส่งโลเคชั่นให้ขุนหรือยังคะว่าเราอยู่ที่ไหนกัน?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไป ท่านก็ยิ้มบางๆให้ฉัน"ป้ากำลังจะไปส่งโลเคชั่นให้คุณข
"ไม่ว่าฉันจะให้แกทำอะไรแกก็ยอมใช่ไหม?"แก้มหวานเอ่ยถามผมด้วยแววตามีเลศนัยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากขึ้น ผมก็จ้องมองเธอนิ่ง และผมก็อยากทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบลง วันนี้คุณแม่ผมเกือบจะไม่รอด เพราะผมเป็นตัวต้นเหตุ วันนี้อาจจะโชคดี แต่มันก็คงตะไม่โชคดีทุกครั้งไป "ใช่" "ถ้าฉันให้แกไปตายล่ะ" "มันไม่มากไปเหรอ?"ผมถามเธอไปเสียงเข้ม เรื่องที่ผมและเพื่อนๆทำกับเธอ เธอก็ยังมีชีวิตอยู่และดีด้วยจนถึงทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ "หึ.....ฉันรู้ว่าแกคงไม่กล้าตายหรอก" "งั้น......ฉันขอแลกศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของแกก็ล่ะกันนะ" "ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉัน?" "กราบตีนฉันสิ.....แล้วฉันจะเลิกยุ่งกับแม่แกและก็เอริผู้หญิงที่แกบอกว่ารักนักรักหนาด้วย" "ไม่รู้ว่าแกรักเธอยังไงนะถึงได้นอกกายนอกใจเธอนอนกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา" "ถ้าฉันเป็นเอริฉันคงไม่เอาผู้ชายเลวๆที่ทำตัวเหมือนหมาตัวผู้ที่ต้องผสมพันธุ์ไปทั่วโดยไม่สนว่าใครเป็นใคร" "แบบแกหรอกนะขุนศึก" "แค่ฉันกราบตีนเธอ.....แค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหม?"ผมไม่สนใจคำพูดที่ถากถางของแก้มหวานแต่เอ่ยถามในสิ่งที่จะเป็นตัวหยุดเรื่องนี้กับเธอไป เธอก็ทำหน้าบึ้งตึงนิดหน่อยก่อนจะแสยะยิ้มให้ผม
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องผมก็ยื่นมือไปกดออดเพื่อเรียกคนในห้องให้รู้ว่ามีคนมาขอพบเธอผมรออยู่ไม่นานและกดออดซ้ำไปแค่ครั้งเดียว ประตูห้องหรูบานตรงหน้าผมก็ค่อยๆถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ด้านในของห้องนี้ผมก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองบุคคลที่เป็นคนมาเปิดประตูเธอเป็นผู้หญิงผอมสวยหุ่นดี เธออยู่ในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีแดงผมของเธอถูกดัดเป็นลอนใหญ่แล้วปล่อยสยายไปด้านหลังสีหน้าที่เธอจ้องมองมาที่ผมด้วยแววตาสงสัย และเพ่งมองพินิจพิจารณาอย่างสงสัยว่าผมคือใครผมจึงค่อยๆใช้มือดึงฮู้ดที่ปิดหน้าของผมอยู่ให้ออกเพื่อเผยใบหน้าของผมให้เธอคนนี้ได้เห็นอย่างชัดเจนขึ้นและในเมื่อใบหน้าของผมที่ไร้เสื้อฮู้ดปกผิดเปิดเผยแก่คนตรงหน้าเธอก็จ้องมองผมด้วยแววตาตกใจและแปลกใจ ผมก็จ้องมองเธอกลับไปด้วยแววตาเรียบเฉยเมื่อแปดปีก่อน เธอกับผมเราคงจะคุ้นตากันเพราะเราสองเคยมีอะไรกันและแอบเป็นแฟนกันมาก่อนทั้งๆที่ผมเองก็มีแฟนอยู่แล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะหลอกเธอ แต่ผมคิดว่าผู้หญิงทั้งมหาลัยก็น่าจะรู้ดีว่าผมมีเจ้าของอยู่แล้ว แต่กลับผิดคาดที่เธอคนนี้ไม่รู้ เธอจึงปล่อยใจรักผมแต่ผมกลับไม่เคยรักเธอ ไม่ว่าเธอจะแสนดีและน่ารักแค่ไหน ผมก็ไม่เคยคิดที่จะรั
ช่วงเย็นวันเดียวกันคอนโด TYขุนศึก ขุนณรงค์......"ขอบคุณสำหรับข้อมูลตอนนี้ฉันอยู่ที่หน้าคอนโดที่แกบอกแล้ว""คอนโดTYชั้นที่สามสิบห้องสามสามสี่ห้าฉันจำได้ล่ะขอบใจแกมากฟิว"ผมเอ่ยบอกฟิวไปในขณะที่สายตาก็ทอดมองเงยหน้าไปยังชั้นบนสุดชั้นที่สามสิบของตึกสูงตระหง่านใจกลางเมืองตรงหน้าของผมในขณะนี้(แกคิดที่จะทำอะไร?)(ตอนนี้เขามีอิทธิพลมากกว่าแกเขาสามารถทำให้แกหายไปโดยไม่มีใครสงสัยได้เลยนะขนาดทำให้ชีวิตของแกพังเขาก็ยังทำได้)(ฉันว่าแกไม่สมควรที่จะประมาทผู้หญิงคนนี้)เสียงปลายสายของฟิวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมจึงละใบหน้าจากตึกสูงตรงหน้าและเอ่ยคุยกับฟิวต่อ"ฉันรู้ขอบใจและขอโทษที่ทำให้ชีวิตของแกต้องมาติดร่างแหพลอยซวยไปกับฉันด้วย"ผมเอ่ยบอกหิวไปอย่างคนที่รู้สึกผิดที่ออกมาจากใจจริงไปของผม(แกไม่ได้ทำอะไรผิดถ้ามันจะผิดก็ผิดกันหมดนี่แหละ)(มันคงจะเป็นเพราะตอนนั้นพวกเรายังเด็กเลยไม่ได้คิดอะไรให้มากกว่านี้เลยทำเรื่องแบบนั้นลงไป)(ฉันไม่มีสิทธิ์โกรธแกหรือแก้มหวานเลยด้วยซ้ำ)"นั่นสิเนอะ....ฉันก็ไม่สมควรที่จะโกรธแก้มหวานด้วยเหมือนกัน"ผมเอ่ยออกมาอย่างคิดนึกตริตรองอย่างที่ฟิวว่าที่จริงถ้าตอนนั้นผมไม่คึกค
"ผมขอโทษครับ""คุณจะมาขอโทษฉันทำไมล่ะค่ะ....ฉันเองต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณสิถึงจะถูก""เดี๋ยวฉันจะโอนจ่ายค่ารักษาให้คุณทีหลังนะคะ....เพราะวันนี้ฉันไม่มรเงินติดตัวเลย"ฉันเอ่ยบอกคุณเควินไปตามความจริง เขาก็มีสีหน้าตกใจและสลดปะปนกันไป"อย่าโอนจ่ายค่ารักษาให้ผมเลยครับ...ขอให้ผมได้ดูแลคุณสักครั้ง""ในฐานะเพื่อนได้ไหมครับ"คุณเควินว่าต่อในเสียงและสีหน้าเชิงขอร้อง ฉันก็มองหน้าเขาอย่างคนคิดหนัก เขาขอช่วยในฐานะเพื่อนถ้าฉันปฏิเสธเพื่อนคนนี้ ก็ควจะเสียมารยาท"ก็ได้ค่ะ....แต่ริขอแค่ความช่วยเหลือจากคุณเควินแค่ครั้วนี้ครั้งเดียวนะคะ....ครั้งต่อไปไม่ต้องแล้วนะคะ....ริเกรงใจ"สิ้นคำพูดฉันคุณเควินก็มีสีหน้าดีใจขึ้นมา"ครับ....ขอบคุณนะครับที่ยอมรับความช่วยเหลือจากผมในครั้งนี้""มีอะไรหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามคุณเควินต่อหลังจากที่เขาพูดจบประโยคเขาก็นิ่งไปและมองหน้สฉันอย่างคนอึดอัดใจเหมือนเขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ยอมพูดมันออกมาฉันจึงเลือกที่จะเป็นฝ่ายถามเอง"ผมดูข่าวเกี่ยวกับไฟไหม้ที่บ้านของคุณและผมก็ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่าคุณเข้ามารับการรักษาที่นี่""ผมจึงรีบมา....และก็พบคุณแต่ทางโรงพยาบาลแจ
"แต่คงจะยาก.....เพราะเขามีหลักฐานขนาดนั้น" "และที่สำคัญเขาไม่รับฟังหรอกว่าแม่นายเองก็โดนหลอกเหมือนกัน" "เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงเอริ?" "ก็อย่างที่บอกว่าตอนนี้.....นายกำลังโดนโจมตรีจากคนที่นายเรยไปทำลายชีวิตเขายังไงล่ะ" "นายเกือบทำให้แม่นายต้องมาตายเพราะความเจ้าชู้ของนาย.....ขุนศึก" "และคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยอย่างแม่นายต้องมาซวยต้องมาหมดตัวต้อยมาเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านสร้างมาก็เพราะนาย" "เพราะความเจ้าชู้ของนาย"ฉันพูดเสียงแข็งตะโกนใส่ขุนศึกไปเป็นชุดด้วยแววตาสั่นไหวน้ำตาเอ่อคลอ ขุนศึกก็ทำสีหน้ายอมรับความผิด สีหน้าของเขาซีดลงแววตาของเขาสั่นไหว "ขุนรู้ว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะขุน....." "ที่มาทำให้แม่และก็ริเดือดร้อน" "ขุนจะจบเรื่องนี้เอง"ขุนศึกพูดเสียงเข้มแววตาจริงจังและวูบไหว "ผมฝากแม่ด้วยนะครับ" "เดี๋ยวผมมาได้ที่อยู่ใหม่ที่ไหนรบกวนป้าบัวโทรบอกผมด้วยนะครับ"ขุนศึกผละจากรถวีลแชร์เดินไปหยุดตรงหน้าของป้สบัวพร้อมกับเอ่ยบอกป้าบัว "ค่ะได้ค่ะว่าแต่คุณขุนศึกจะไปไหนคะ?"ป้าบัวรับคำขุนศึกและเอ่ยถามเขาต่อ ขุนศึกกฺ็หันกลับมามองหน้าฉัน ด้วยสายตานิ่งเฉย "ไปทำให้เรื่องทุกอย่างมันจบคร