ติ๊ดดดดดดดดด"อื้อออ!"ฉันรู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อได้ยินโทรศัพท์ของใครสักคน ฉันค่อยๆปรือตามองไปรอบๆและประมวลความทรงจำก่อนหน้านี้ และสายตาของฉันก็ไปสะดุดเข้ากับใบหน้าเรียวขาวใสที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ใต้ร่างฉัน โดยที่มีฉันนั่งซบร่างเขาหลับอย่างสบายทำให้ฉันนึกได้ขึ้นมาทันที ว่าฉันกับเขามีอะไรกันที่ห้องนั่งเล่นบนโซฟาตัวนี้ เป็นเพราะฉันเหนื่อยมาทั้งวันจึงเผลอหลับไป และขุนศึกก็คงจะหลับตามฉันมา โดยที่ร่างกายของเราทั้งคู่ไม่ได้สวมใส่อะไรเลยด้วยซ้ำ"โทรศัพท์?"ฉันพึมพำออกมาก่อนจะสอดส่องสายตามองไปรอบเพื่อหาเสียงของโทรศัพท์ที่ส่งเสียงดังอยู่ในขณะนี้ แต่ดูเหมือนคนใต้ร่างฉันจะไม่ได้ยินนะพรึบ"อื้อ!"เสียงไม่พอใจของขุนศึกดังขึ้นในขณะที่ฉันขยับตัวเพื่อจะหยันตัวออกมาจากอ้อมแขนของเขาและทำให้จุดเชื่อมของเราหลุดออกจากกันเสียที"ไม่ได้ยินหรือไงว้ามีเสียงโทรศัพท์เข้ามา"ฉันเอ่ยบอกขุนศึกไปพลางหันมาจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง แต่ใบหน้าหล่อเรียวกลับหลับตาพริ้มอยู่อย่างนั้นแถมยังกระชับอ้อมแขนรัดร่างของฉันให้แน่นขึ้นอีก แต่มีหรือที่ฉันจะยอม พรึบ พรึบ ฉันดีดดิ้นร่างกายไปมาจนรับรู้ได้ถึงความคับแน่นที่อยู่ภายในร่องสวาทข
พรึบ"อื้อออจ๊วฟฟฟฟฟ"ขุนศึกจับร่างของฉันให้นอนหงายลงไปบนที่โซฟาโดยไม่ถอดถอนริมฝีปากออกจากฉัน เรายังคงมอบจุมพิตที่เร้าร้อนและร้อนแรงตามอารมณ์กามของเราทั้งคู่ให้แก่กันและกัน"อื้อ"ฉันร้องออกมาพร้อมกับลืมตาเบิกโพรงขึ้นเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่แข็วแรงและหนักหน่วงของขุนศึกหลังจากที่เขาเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมและเป็นคนนำเกมส์แทน"อื้อออออขุนนนน"ฉันครางเสียงหวานพร้อมกับมองใบหน้าหล่อของขุนศึกอย่างออดอ้อดเมื่อขุนศึกผ่อนเเรงสะโพกสอบลงและแปรเปลี่ยนมาเข้าออดอย่างเนิ่บๆช้าๆแทนทำให้ฉัรแทบคลั่งกับความสุขและความเสียวที่เขามอบให้"ครับ.....ริชอบไหม?"ขุนศึกขานรับฉันเสียงหวานพร้อมกับจ้องมองเข้ามาในดวงตาของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันก็กัดริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวนและพยักหน้าบอกขุนศึกไปว่าฉันเสียวมาก"อ๊ะ"ฉันร้องออกมอีกครั้งเมื่อขุนศึกก้มหน้าลงไปซุกไซ้เต้าอวบอิ่มของฉันพร้อมกับใช้ปลายลิ้นสากตวัดเลียยอดปทุมถันของฉันพร้อมกับดูดดึงอย่างอ้อยอิ่งทำให้ฉันสั่นระริกเงยหน้าขึ้นร้องครวญครางเสียงดังลั่นอย่างไม่เอียงอาย"แผล๊บๆๆๆ"ขุนศึกดูดดึงยอดปทุมถันของฉันสลับกันทั้งสองข้างพร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างของเขาบีบคลึงขย้ำเต้าอวบของฉั
1อาทิตย์ต่อมาบริษัทAKโต๊ะทำงานเอริเอริ ฐิติมน......"ทำไมตัวเลขมันแปลกๆ?"ฉันเอ่ยออกมาอย่างสงสัยหลังจากที่ฉันง่วนอยู่กับเอกสารรายงานการเงินในเดือนที่ผ่านมาว่ามันเพิ่มขึ้นกว่าทุกเดือนที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นไปไม่ได้หมายถึงรายรับน่ะ แต่มันเป็นตัวเลขติดลบซะมากกว่า ขุนศึกเอาเงินไปทำอะไรเยอะขนาดนี้หรือเขาบริหารเซ็นอนุมัติจ่ายอะไรไปโดยที่ไม่ผ่านตาฉันหรือเปล่าติ๊ดดดดดฉันไม่รอช้าเอื้อมมือไปหาโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของบริษัทต่อสายหาคุณทิพวรรณฝ่ายการเงินทันทีฉันรอสายปลายสายอยู่สักพักคุณทิพวรรณก็รับสายฉัน(สวัสดีค่ะทิพวรรณฝ่ายการเงินพูดสายค่ะ)"สวัสดีค่ะคุณทิพย์นี่เอริเองนะคะ"ฉันเอ่ยตอบกลับปลายสายไปอย่างสนิทสนม เพราะฉันกับคุณทิพวรรณเราทำงานร่วงกันมาหลายปี และตลอดเวลาที่ผ่านมา ตัวเลขของบริษัทไม่เคยติดลบขนาดนี้มาก่อน(อ้อค่ะสวัสดีค่ะคุณเอริ...มีอะไรให้ทิพรับใช้คะ)คุณทิพวรรณตอบมาเสียงแจ่มใสอย่างยินดีมี่จะช่วยเหลือฉัน ฉันก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ"พอดีดิฉันอยากได้ตัวเลขรายงานการเข้าออกของเงินทั้งเดือนของเดือนนี้และปลายเดือนที่แล้วค่ะ"ฉันเอ่ยบิกจุดประสงค์ของฉันไปอย่างรีบร้อนใจ (อ้อพอดีคุณนามิกาเลขาของท่าน
"คือพี่มีนัดกับลูกค้าซะด้วยสิ"คุณจอมพลว่าพร้อมกับทำสีหน้าลำบากใจ"พี่จอมไม่ต้องเป็นห่วงริหรอกค่ะ.....ไปตามนัดกับลูกค้าดีกว่านะคะ""แล้วริจะกลับยังไงล่ะ?"คุณจอมพลเอ่ยถามฉันกลับมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง"ริเอารถมาค่ะ...พี่จอมไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ""เอาอย่างงั้นเหรอ?"คุณจอมพลว่าต่ออย่างลำบากใจและสองจิตสองใจ เหมือนว่าเขาเลือกไม่ได้เพราะนั้นก็ลูกค้านี่ก็ฉัน เขาคงจะลำบากใจไม่น้อยเลย"ค่ะ...เอาอยากนี้แหละค่ะไม่ต้องเป็นห่วงรินะคะ""โอเคเอาตามที่เธอว่าก็ได้....แต่ถึงบ้านแล้วโทรบอกพี่เลยนะ"คุณจอมพลแย้งเสียงแข็ง ฉันก็ยิ้มกริ่มให้เขาพร้อมกับพยักหน้าเข้าใจและรับคำเขาไม่งั้นคุณจอมพลไม่ยอมแน่"โอเคค่ะ....พี่จอมก็ขับรถดีๆนะคะ""ครับ...งั้นพี่ไปแหละเดี๋ยวรถติด""ค่ะบ๊ายบายค่ะ""บ๊ายบายครับ"คุณจอมพลยกมือโบกลาฉันและยิ้มหวานให้ฉันจนลับทางเดินไป ฉันก็ยิ้มและโบกมือส่งเขาจนร่างของคุณจอมพลละสายตาฉันไปเช่นกัน ฉันถึงจะนั่งลงและคิดหาทางว่าจะเอาตัวเลขรายรับรายจ่ายของเดือนที่แล้วว่ามันหายไปได้ยังไงตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาขุนศึกและนามิมาทำงานด้วยกันทุกวัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะย้ายไปอยู่ด้วยกันแล้วที่คอนโดของขุนศึ
00:50น.บ้านเอริห้องนอนเอริเอริ ฐิติมน....."เห้อ"ฉันเอนตัวลงนอนบนที่นอนคิงส์ไซส์ในห้องนอนของฉันอย่างเหนื่อยล้าและปวดตาอยากจะหลับตาพักผ่อนเพราะฉันนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์มาทั้งวันตอนนี้ฉันกลับมาบ้านเรียบร้อยแล้วและก็อาบน้ำเตรียมตัวเข้านอนเรียบร้อยแล้วด้วย ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าๆจะเข้าตีหนึ่งแล้ว วันนี้ขุนศึกไม่ได้มาหาฉันหรือว่าเขาอาจจะมาแต่ไม่เจอฉันก็ได้ เพราะฉันกลับมาบ้านก็เกือบห้าทุ่มแล้ว เขาคงจะไม่รอฉันเป็นแน่ และก่อนที่ฉันจะอาบน้ำนอนฉันก็โทรรายงานคุณจอมพลเรียบร้อยแล้วด้วย"ฉันหวังว่านายจะเห็นเมลของฉันนะ...ก่อนที่อะไรๆมันจะสายเกินไป"ฉันพึมพำพูดคนเดียวในขณะที่ตัวเองหลับตาเพื่อจะเข้าสู่ห้วงนิทราแล้ว ฉันอยากให้ขุนศึกเห็นหลักฐานการโกงเงินของนามิและเอาเครื่องประชุมเข้าบอร์ดผู้บริหาร ฉันเชื่อว่า นามิจะได้รับบทลงโทษแต่ถ้าเรื่องนี้บอร์ดผู้บริหารรู้เอง คนที่แย่ที่สุดก็คงจะเป็นขุนศึกเพราะเขาเพียงแค่ดำรงตำแหน่งผู้บริหารหรือท่านประธานบริษัทแค่นั้นเองถึงแม้ว่าเขาจะถือหุ้นมากกว่าคนอื่นก็ตามถ้าในที่ประชุมเสียงส่วนมากลงมติให้เอาชื่อเขาออกจากประธานบริษัทเขาก็คงจะทำอะไรไม่ได้ฉันหวังว่า
"สวัสดียามเช้าครับ....คุณเลขาของผม"คุณจอมพลเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉันพร้อมกับเอ่ยคำทักทายด้วยน้ำเสียงแจ่มใส แววตาเป็นประกาย"สวัสดีค่ะท่านรอง"ฉันเองก็ก้มศีรษะเล็กน้อยและเอ่ยทักทายคุณจอมพลกลับไป เขาก็ยักคิ้วข้างหนึ่งให้ฉันก่อนจะยิ้มหัวเราะใส่ฉัน"วันนี้ผมไม่ได้ออกไปไหนนะครับ....เพราะฉะนั้นคุณเอริทำตัวตามสบายได้เลย""ค่ะท่านรอง"ฉันตอบรับคุณจอมพล"ผมขอเป็นกาแฟร้อนไม่ใส่น้ำตาลสักแก้วครับ""ได้ค่ะเดี๋ยวดิฉันจะนำเข้าไปให้นะคะ...เชิญท่านรองรอในห้องดีกว่าค่ะ""โอเคครับ"คุณจอมพลเอ่ยตอบฉันก่อนจะทำตาหวานให้ฉันหนึ่งทีก่อนจะเดินหลีกฉันไปยังห้องทำงานของเขา ฉันก็รีบเดินไปชงกาแฟให้คุณจอมพลที่ห้องอาหารว่างทันที บริษัทฉันจะมีห้องชงกาแฟไว้สำหรับพนักงานทุกชั้น โดยคนที่ดูแลส่วนนี้จะเป็นฉันเองฉันใช้เวลาในการชงกาแฟไม่ถึงห้านาที ฉันก็นำแก้วกาแฟใส่ถาดพร้อมกับขนมบิสกิตจัดใส่จานห้าหกชิ้นอย่างสวยงามเพื่อนำไปให้คุณจอมพลทานคู่กับกาแฟร้อน ฉันชำนาญเรื่องนี้เพราะฉันมักจะทำให้ขุนศึกเป็นประจำก๊อกๆๆๆๆ"เชิญครับ"เสียงทุ้มใสเอ่ยตอบกลับมาหลังจากที่ฉันเคาะประตูห้องทำงานเพื่อจะขออนุญาตเข้าไป ฉันก็เปิดประตูห้องทำงานของคุณ
"สวัสดียามเช้าครับ....คุณเลขาของผม"คุณจอมพลเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฉันพร้อมกับเอ่ยคำทักทายด้วยน้ำเสียงแจ่มใส แววตาเป็นประกาย"สวัสดีค่ะท่านรอง"ฉันเองก็ก้มศีรษะเล็กน้อยและเอ่ยทักทายคุณจอมพลกลับไป เขาก็ยักคิ้วข้างหนึ่งให้ฉันก่อนจะยิ้มหัวเราะใส่ฉัน"วันนี้ผมไม่ได้ออกไปไหนนะครับ....เพราะฉะนั้นคุณเอริทำตัวตามสบายได้เลย""ค่ะท่านรอง"ฉันตอบรับคุณจอมพล"ผมขอเป็นกาแฟร้อนไม่ใส่น้ำตาลสักแก้วครับ""ได้ค่ะเดี๋ยวดิฉันจะนำเข้าไปให้นะคะ...เชิญท่านรองรอในห้องดีกว่าค่ะ""โอเคครับ"คุณจอมพลเอ่ยตอบฉันก่อนจะทำตาหวานให้ฉันหนึ่งทีก่อนจะเดินหลีกฉันไปยังห้องทำงานของเขา ฉันก็รีบเดินไปชงกาแฟให้คุณจอมพลที่ห้องอาหารว่างทันที บริษัทฉันจะมีห้องชงกาแฟไว้สำหรับพนักงานทุกชั้น โดยคนที่ดูแลส่วนนี้จะเป็นฉันเองฉันใช้เวลาในการชงกาแฟไม่ถึงห้านาที ฉันก็นำแก้วกาแฟใส่ถาดพร้อมกับขนมบิสกิตจัดใส่จานห้าหกชิ้นอย่างสวยงามเพื่อนำไปให้คุณจอมพลทานคู่กับกาแฟร้อน ฉันชำนาญเรื่องนี้เพราะฉันมักจะทำให้ขุนศึกเป็นประจำก๊อกๆๆๆๆ"เชิญครับ"เสียงทุ้มใสเอ่ยตอบกลับมาหลังจากที่ฉันเคาะประตูห้องทำงานเพื่อจะขออนุญาตเข้าไป ฉันก็เปิดประตูห้องทำงานของคุณ
ร้านชุดเจ้าสาวหรูในห้างสรรพสินค้าในเครือบริษัทAK"ชุดนี้เป็นยังไงบ้างคะ...พี่เอริว่าสวยไหมคะ?"เสียงหวานใสของนามิเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอาชุดราตรีสั้นสีขาวทาบตัวและหันมายิ้มหวานให้ฉัน ที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้องลองชุดแห่งนี้ท่ามกลางชุดเจ้าสาวหลากหลายสไตล์แต่ละชุดดูสวยและดูแพงมากเลยล่ะ"ก็สวยนะคะ....ดูเหมาะสมกับคุณนามิดีค่ะ…..ดูสวยหวานและเซ็กซี่ไปในตัวค่ะ"ฉันเอ่ยบอกนามิไปตามความจริงหลังจากที่มองพินิจพิจารณาชุดที่เธอเลือกแล้ว เธอก็ฉีกยิ้มหวานให้ฉันก่อนจะหันไปหาพนักงานที่รอคอยบริการเธออยู่ด้วยท่าทางสุภาพและเป็นมิตร"ฉันอยากลองชุดนี้ค่ะ""งั้นเชิญคุณผู้หญิงทางด้านนี้เลยค่ะ"พนักงานว่าพร้อมกับผายมือไปทางด้านซ้ายเพื่อบอกเป็นนัยว่าห้องลองชุดอยู่ทางด้านซ้ายมือของเธอ "เดี๋ยวนามิมานะคะพี่เอริ"นามิหันมาบอกฉันก่อนที่เธอจะยิ้มหวานให้ฉัน"ค่ะ"ฉันตอบรับคำเธอพร้อมกับยิ้มให้เธอ เธอก็หันหลังเดินไปตามทางที่พนักงานร้านบอกโดยมีพนักงานประจำร้านนี้เดินตามหลังเธอไปพร้อมกับถือชุดราตรีสีขาวแบบสั้นเกาะอกเดินตามหลังเธอไป เมื่อเธอไปแล้วฉันก็ล้มตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดิมและหยิบหนังสือที่ทางร้านเตรียมมาให้ลูกค้าเลือกชุดแต่งงา
"และมีมันไว้ริจะได้อุ่นใจ""และอีกอย่าง....ไม่มีผู้หญิงคนไหนเต็มใจที่จะอยู่กับคนที่มีแต่ตัวอย่างขุนหรอก....ริสบายใจได้"คำพูดของขุนศึกที่ดูมั่นอกมั่นใจทำให้ฉันต้องรีบเปิดเอกสารในซองสีน้ำตาลที่ขุนศึกเพิ่งจะยื่นให้ฉันเมื่อกี้เปิดดูทันทีเพราะคำพูดของเขามันแปลกๆเขาพูดเหมือนจะยกทุกอย่างที่เขามีให้เป็นของฉัน เพราะเขาพูดเหมือนเขาจะเหลือแต่ตัวและก็เป็นไปอย่างที่ฉันคิดจริงๆเอกสารที่เขายื่นให้ฉันเมื่อกี้นี้เป็นเอกสารโอนยกมรดกให้เป็นชื่อฉันแต่เพียงผู้เดียวทั้งบ้านหลังนี้ และบริษัทSMครึ่งหนึ่งที่เคยเป็นของคุณหญิงนฤมิตรแต่ก่อนหน้านี้คุณหญิงเพิ่งจะโอนให้เป็นของขุนศึกก็ถูกโอนให้มาเป็นของฉันและรวมถึงบริษัทAKด้วยที่ชื่อการจดทะเบียนบริษัทก็เป็นชื่อฉัน และยังดำรงตำแหน่งประธานบริษัทคนใหม่ให้อีกด้วย"ทุกอย่างในนี้คงจะเป็นเครื่องหมายการันตีให้ริเห็นแล้วใช่ไหม....ว่าขุนจริงใจกับริแค่ไหน""แต่ริไม่ต้องกังวลนะ...ขุนจะยังคงทำงานแบบเดิมเหมือนตอนที่ขุนยังคงดำรงตำแหน่งอยู่""ริทำใจให้สบายคอยเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้ขุนและคอยรับเงินปันผลรายปีก็พอ"ขุนศึกเอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มกริ่มไปด้วยรอยยิ้มที่อิ่มเอมใจ เขาเต็มใ
"ริ.....ขอโทษนะขุน....แต่ริยังไม่พร้อม"เมื่อคำพูดออกจากปากฉัน ทุกอย่างรอบตัวก็ดูเหมือนจะเงียบลงไปผู้ชายที่คุกเข่าตรงหน้าฉันในตอนนี้ เขากลับยิ้มให้ฉันถึงมันจะเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้าก็เถอะแต่ทำไมเขายังยิ้มได้เหมือนเขาจะรู้ในคำตอบของฉันอยู่แล้วว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน"ริยังไม่อยากแต่งงานกับขุนก็ไม่เป็นไร.....แต่ขุนจะขอริแต่งงานแบบนี้ไปทุกๆปี""จนกว่าริจะยอมแต่งงานกับขุน"ขุนศึกเอ่ยออกมาเสียงเข้มหน้าตายิ้มแย้มอย่างมีความหวัง เขาค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับฉันฉันก็จ้องเขากลับไป ด้วยแววตาที่เรียบนิ่งไร้ความรู้สึกใดๆ"ริไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของขุน....แต่ริจะขอคอยดูก็แล้วกันว่าขุนจะทำแบบที่ขุนพูดได้จริงๆ"ฉันเอ่ยออกไปตามความจริง ความที่ฉันยังไม่มั่นใจในคำพูดและตัวของเขาได้จริงๆ"ขุนรู้....ว่าที่่ผ่านมาขุนไม่เคยทำให้ริมีความสุข....ขุนเอาแต่คอยทำร้ายจิตใจริ....เอาแต่นอกกายริ""แต่ขุนไม่เคยนอกใจริสักครั้งหนึ่งเลยนะ....""เพราะขุนรู้.....ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหน...ดีเท่ากับริอีกแล้ว""แต่ขุนก็รู้ตัวดีว่าขุนไม่พร้อมที่จะเสียริไปอีกแล้ว""ในวันนี้ถึงริยังไม่อยากแต่งงานกับขุน""แต่ขุนขอร
ติ๋งเมื่อลิฟท์มาถึงชั้นล่างของบ้านฉันก็เดินออกมาจากลิฟท์ก่อนจะเดินมุ่งตรงไปยังห้องครัวแต่พอเดินไปถึง ก็กลับพบว่า แก๊สที่ป้าบัวบอก ในขณะนี้มันไม่ได้ตั้งอะไรไว้เลยเสียด้วยซ้ำ"สงสัยป้าบัวแกคงจะลืม.....อย่างนี้ฉันควรมีเวลาให้แกได้พักผ่อนซะแล้ว"ฉันเอ่ยออกไปพลางส่ายศีรษะไปด้วยอย่างเป็นห่วงป้าบัว ที่เขาดูแลคนอื่นจนลืมที่จะดูแลตัวเอง"ไปนอนดูหนังที่ห้องนั่งเล่นสักชั่วโมงค่อยขึ้นห้องดีกว่า"ฉันพึมพำออกมาอย่างคนที่ขี้เกียจมากๆ ฉันรู้ตัวว่าตัวเองเปลี่ยนไปมาก จากเมื่อก่อน ขยับตัวทีก็งาน งานและก็งาน แต่ตอนนี้ขี้เกียจ และไม่อยากจะทำอะไรเลยนอกจากกินแล้วก็นอน"อะไรเนี่ย?"ฉันพึมพำออกมาเมื่อขาของตัวเองเดินย่างก้าวเข้าภายในห้องนั่งเล่นก็ต้องตกใจกับลูกโป่งสีชมพูสดใสที่ลอยอยู่กลางอากาศมากมายแต่ไม่ลอยจนติดเพดานบ้านเพราะถูกเชือกรั้งไว้ฉันก็ตื่นตาตื่นใจกับลูกโป่งสีชมพูอ่อนสวยสดใสก่อนที่จะยิ้มออกมาจนแด้มปริและเดินไปตามทางเรื่อยๆไม่รู้ว่าจะเดินไปไหนเพราะพื้นที่ทั้งห้องนี้เต็มไปด้วยลูกโป่งทั้งลูกเล็กและลูกใหญ่และฉันก็มาหยุดยืนเมื่อสิ้นสุดทางเดิน ที่ตรงหน้าของฉันเป็นกำแพงสีขาวแต่ข้อความบนกำแพงทำให้ฉันอึ้
วันต่อมา08:00น.บ้านชัชชัยวรรณ.....ห้องนอนเอริ เอริ ฐิติมน....."ชุดนี้น่ารักจังเลยนะคะป้าบัว"ฉันเอ่ยบอกป้าบัวไปในขณะที่ฉันกำลังหมุนรอบตัวเองเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยที่ส่องกระจกฉายสะท้อนตัวเองกลับมา เป็นชุดมินิเดรสสีขาวแขนพองทรงเอประดับโบว์ไว้ที่ด้านหน้าของชุดตรงหน้าอกของฉัน ชุดเป็นลายดอกไม้ เป็นสไตล์ของยุโรป กระโปรงยาวเลยเข่าฉันมานิดหน่อยดูรวมๆแล้วมันก็สบายและน่ารัก ดี เหมือนเป็นชุดคลุมท้องเหมือนกันนะ"ป้าบัวเลือกเองหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไปอย่างสงสัย เพราะเมื่อกี้ก่อนหน้านี้ประมาณยี่สิบนาที ป้าบัวเดินถือเสื้อผ้าชุดนี้เข้ามาในห้องของฉันและบอกว่าท่านเป็นคนซื้อให้ ไม่รู้ว่าฉันจะชอบหรือเปล่า และฉันจะใส่ได้ไหม ท่านเลยให้ฉันลองใส่ดูก่อนผลก็ปรากฏว่าฉันใส่ได้ และฉันก็ชอบมันมาก มันดูน่ารักเป็นแนวสายแหวนดีนะสีก็ออกพาสเทลนิดๆดูน่ารักดี"ชะใช่จ๊ะ.....เป็นยังไงจ๊ะเอริชอบไหม?"ป้าบัวที่ยืนอยู่ด้านหลังของฉันที่คอยช่วยฉันจัดแจงชุดก็เอ่ยออกมาแต่น้ำเสียงและแววตาของท่านดูสั่นๆดูมีพิรุธนะถ้าเป็นคนอื่นอาจจะคิดว่าเขากำลังพูดโกหกอยู่แน่ แต่นี่เป็นป้าบัว ท่านจะโกหกฉันไปทำไมล่ะจริงไหม"ชอบนะคะป้าบั
ในวีดีโอมีผู้ชายอยู่หลายคนรวมๆห้าคนได้และสถานที่มืดๆที่มีไฟหลากหลายสีแบบนี้ก็คงจะเป็นผับที่ไหนสักแห่งหนึ่งในกรุงเทพนี้แหละฉันก็ตั้งใจมองก็พบว่ามีผู้ชายสามคนที่คุ้นตาฉัน หนึ่งคือฟิวสองคือทีและสามคือขุนศึกข้างกายของผู้ชายทุกคนจะมีผู้หญิงแต่งตัวโป๊ๆหน้าอกตู้มๆนั่งขนาบข้างแบบแทบจะสิงร่างกันโดยพวกเธอเป็นคนชงเหล้าให้เขาทั้งห้าคนและคอยปรนนิบัติพวกเขาอย่างใกล้ชิดและออดอ้อนออเซาะแต่จะมีผู้ชายอยู่คนหนึ่งที่นั่งเป็นคนสุดท้ายของเพื่อนที่มีสีหน้าเหมือนไม่ค่อยสบายใจแบบคนที่กำลังอมทุกข์และดูอึดอัดอะไรอยู่ในใจ(วันนี้หนุ่มๆเลือกอิหนูของเจ๊นี่ไปได้เลนนะคะ....น้องๆพวกนี้พร้อมดูแลจ๊ะ)เสียงหวานอย่างดัดให้เสียงเล็กลงจากปกติมากเอ่ยขึ้นมา ฉันว่าเธอคนที่พูดอยู่นี่น่าจะเป็นสาวสองและเป็นคนที่กำลังถ่ายวีดีโออยู่ในตอนนี้ด้วยนะ(มันแน่นอนอยู่แล้วครับเจ๊.....พวกผมน่ะจัดเต็มแน่)เป็นทีที่เอ่ยขึ้นมาพลางยิ้มกริ่มอย่างเจ้าชู้และเขาก็หันไปกอดรัดนัวเนียกับผู้หญิงข้างกายเขาอย่างไม่เอียงอายใคร(แล้วน้องคนนี้ล่ะจ๊ะ....สนใจอิหนูของเจ๊คนไหนเป็นพิเศษไหม?)เจ๊สาวสองแพลนกล้องไปจับยังขุนศึกที่นั่งอยู่ติดกับขอบเก้าอี้ด้านในสุดข
บ้านของเอริ20:30น.เอริ ฐิติมน.....ห้องนั่งเล่น......"ปกติแกกินข้าวเวลานี้ด้วยเหรอ?"เพลงขวัญเอ่ยถามฉันขึ้นในขณะที่เธอวางจานข้าวสวยร้อนๆลงตรงหน้าของฉันพร้อมกับต้มไก่ตุ๋นยาจีนต้นตำรับของคุณหญิงนฤมิตรที่ท่านสั่งให้ป้าบัวต้มไว้ให้ฉันทานบำรุงลูกๆทั้งสามในครรภ์ของฉัน"ตอนไม่ท้องก็กินบ้างไม่กินบ้าง....แต่พอท้องนี่แทบจะกินวันละหกเจ็ดมื้ออย่างต่ำอ่ะแก"ฉันเอ่ยบอกเพลงขวัญไปพลางใช้มือทั้งสองข้างหยิบช้อนกับส้อมขึ้นมาถือไว้พร้อมจะลงมือทานอาหารตรงหน้าที่มีกลิ่นหอมยั่วยวนด้วยแววตาที่เป็นประกายแพรวพราว"ไหนบอกว่าแกมีเรื่องไม่สบายใจ....?"เพลงขวัญเอ่ยถามฉันพลางเลิกคิ้วมองหน้าฉันอย่างสงสัยก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกันกับฉันฉันก็มองหน้าเธอนิ่งด้วยแววตาที่เป็นกังวลอยู่ในใจนั้นแหละ แต่ทำไงได้ ก็ท้องฉันมันหิวหนิ ขอกินก่อนล่ะกัน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน"เดี๋ยวฉันขอกินก่อน....เดี๋ยวค่อยคุย""โอเคจ๊ะ.....งั้นเดี๋ยวฉันขอไปโทรหาลูกก่อนไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อเขาเอาเข้านอนแล้วหรือยัง?""โอเคจ้า"ฉันยิ้มให้เพลงขวัญเธอก็ยิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของเธอและเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นเมื่อเธอไปแล้ว ฉันก็หันกลับมาให้ค
เหล้า บุหรี่ ก็ไม่หนักทุกวันแบบเมื่อก่อน แต่เรื่องผู้หญิง ฉันก็ยังคงไม่มั่นใจอยู่ดี เพราะเขาไม่เคยทำให้ฉันเชื่อใจเขาได้สักครั้ง....จริงๆกับเรื่องนี้ฉันรอขุนศึกไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับรถวีลแชร์ เขายิ้มกว้างให้ฉันมาแต่ไกล ฉันก็ยิ้มให้เขากลับไป"เชิญครับคุณผู้หญิง""ขอบคุณค่ะคุณบุรุษพยาบาล"ฉันเอ่ยออกไปแกล้งขุนศึกที่เขาเข็นรถวีลแชร์มาหยุดตรงหน้าฉัน"ยินดีที่จะเป็นทุกอย่างให้เธอครับ""เลี่ยน"ฉันเอ่ยออกไปอย่างหมั่นใส่เขาก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยมีร่างของขุนศึกที่ถลาเข้ามาช่วยประคองฉันไว้อย่างรวดเร็วเล่นเอาซะตกใจเลยแหะขุนศึกจัดการช่วยฉันทุกอย่าง โดยที่เขาทำอย่างเบามือและทะนุถนอมเหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ"พร้อมออกตัวแล้วครับ""ค่ะไปได้เลยค่ะคุณบุรุษพยาบาล"ฉันแกล้งแซวขุนศึกต่อ เขาก็ยิ้มขำก่อนจะเข็นรถวีลแชร์ไปยังทิศทางออกของโรงพยาบาล โดยมุ่งตรงไปที่ลานจอดรถเมื่อมาถึงที่รถเขาก็จัดการประคองร่างของฉันขึ้นจากรถวีลแชร์ย้ายมานั่งบนรถของเขาอย่างเบามือเช่นเดิมแต่ที่ทำให้ฉันแปลกใจและรู้สึกประทับใจขุนศึกอีกอย่างหนึ่งก็คือตอนนี้เขากลับมามีทุกอย่างไม่ว่าจะเงินทองหรือชื่อเสียงแต่เขาก็ยังคงทำตัวเหมือนขุนศึกค
"แฝดทั้งสามคนปลอดภัยและเติมโตตามวัยครับ...ออกจะโตอย่างรวดเร็วเสียด้วยซ้ำ""เพราะเขาโตเกินเกณฑ์อายุเขาจริงๆไปหนึ่งสัปดาห์ครับคุณฐิติมนและคุณขุนณรงค์"คุณหมอเอ่ยขึ้นในขณะที่เขาอธิบายรายละเอียดรูปร่างของเจ้าแฝดทั้งสามคนของฉันผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมจากการอัลตร้าซาวด์หน้าท้องของฉันทำให้ฉันที่เห็นการเจริญเติบโตของลูกๆทั้งสามฉันทุกอาทิตย์ถึงกับยิ้มไม่หุบและมันตื้นตันอยู่ในใจของฉันจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยล่ะเมื่อคุณหมอตรวจเสร็จก็กลับไปนั่งที่โต๊ะตรวจของเขาและฉันก็ลุกขึ้นจากเตียงอัลตร้าซาวด์โดยมีขุนศึกคอยประคองร่างฉันตลอดเวลาไม่ว่าฉันจะเดินหรือลุกนั่งก็ต้องมีเขาคอยประคองอยู่ตลอดเวลาเลยถึงตอนนี้ฉันจะท้องได้แค่สี่เดือนแต่ท้องของฉันเริ่มจะใหญ่กว่าคนท้องสาวทั่วไปถึงสองเท่าเพราะในท้องของฉันมีเด็กน้อยอยู่ตั้งสามคนแหนะจะไม่ให้ใหญ่เกินคนท้องสาวทั่วไปได้ยังไงล่ะเมื่อฉันกับขุนศึกมานั่งที่โต๊ะตรวจในห้องของหมอได้คุณหมอก็เอ่ยขึ้นบอกเราถึงกำหนดคลอดทันที"และกำหนดคลอดคืออีกยี่สิบหกสัปดาห์ข้างหน้า....แต่ครรภ์ของคุณฐิติในเป็นครรภ์แฝดสามคน....หมอกลัวว่าอาจจะมีโอกาสเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษเกิดขึ้นได้แทบจะตลอด
"ไม่รู้ว่าช่องในเจดีย์ของแม่เธอจะพอใส่อัฐิของพ่อเธอได้อีกอันไหม?"คุณแม่ของผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มบางๆให้พี่จอมก่อนจะยื่นโกศสีขาวนวลที่ด้านในบรรจุเถ้ากระดูกของพ่อผมยื่นไปตรงหน้าของพี่จอมพี่จอมพลก็มองโกศในมือแม่ผมสลับกับมองหน้าผมด้วยแววตาแปลกใจและดูจะอึ้งไปนิดๆเหมือนเขาคิดไม่ถึงว่าคุณแม่ผมจะทำเรื่องแบบนี้ได้"ตอนนั้นคุณเป็นคนยืนกรานเองว่าจะเอาเถ้ากระดูกของพ่อไปเก็บไว้แต่ทำไมวันนี้กลับเอามาให้ผมเสียง่ายดายแบบนี้ได้ล่ะครับ....ทั้งที่ในตอนที่ผมกับแม่ของผมร้องขอคุณแทบจะกราบเท้า?"พี่จอมพลเอ่ยถามแม่ผมกลับมาเสียงเรียบ ในตาจ้องเขม่นมาที่แม่ผมอย่างต้องการคำตอบ"ในตอนนั้นที่ฉันไม่ให้อัฐิของพ่อให้แม่เธอก็เพราะตอนนั้นฉันมีทั้งอารมณ์โกรธอารมณ์เกลียดอยู่เต็มในอก""ฉันคิดได้อย่างเดียวคือว่า....ไม่ว่าพ่อของเธอจะเป็นหรือตายฉันก็จะไม่มีทางให้สองคนนี้ได้อยู่ด้วยกันเด็ดขาด""ฉันรู้ตัวว่าฉันมันแย่....กว่าจะมารู้ว่าความคิดของฉันมันไม่ดีต่อใครเลยรวมถึงตัวฉันเองด่วย....ก็เกือบจะสายไป""และฉันก็อยากจะขอบคุณเธอนะ....ที่ช่วยฉันออกมาจากกองเพลิงในวันนั้น""ถึงเธอจะไม่เต็มใจก็เถอะ....แต่ฉันก็อยากจะขอบคุณเธอ....และข