พรึบ“ได้เวลาเลิกงานแล้วครับ…คุณเลขา^_^”เสียงทุ้มหวานเอ่ยขึ้นดังมาจากด้านหน้าของฉัน ที่ฉันกำลังตั้งอกตั้งใจอ่านเอกสารในมืออยู่อย่างขะมักเขม้น“อ้อค่ะ…”แต่เสียงที่ทักทายฉันดันเป็นเสียงของคุณจอมพลจึงทำให้ฉันเลี่ยงที่จะไม่เงยหน้าไปตอบเขาไม่ได้ ฉันจึงต้องเงยหน้าไปยิ้มให้เขาและตอบเขาไป“อ้อค่ะ?…แล้วก็เก็บของลุกขึ้นสิคะ…จะได้กลับบ้าน….”คุณจอมพลว่าย้อนฉันด้วยน้ำเสียงขำขันกับท่าทางที่เด๋อด๋าของฉัน “เดี๋ยวพี่ไปส่ง^_^”เขาก็เอ่ยพูดต่อว่าเขาจะไปส่งฉัน ฉันกำลังจะอ้าปากปฏิเสธแต่ก็โดนคุณจอมพลเอ่ยแทรกขึ้นมาซะก่อน“เมื่อเช้าพี่ไปรับเธอ….ตอนเย็นพี่ก็ต้องเป็นคนไปส่งเธอสิถึงจะถูก”“แต่พี่จอมเป็นเจ้านายรินะคะ…ถ้าคนอื่นเห็นเขาจะว่ายังไงล่ะค่ะ?”ฉันเอ่ยถามเขาอย่างเป็นกังวลใจ แต่คุณจอมพลกลับไม่มีสีหน้าลำบากใจหรือแคร์ใครจะมองเราแบบนั้นเลยสักนิดเดียว“พี่ไม่แคร์สายตาคนอื่น….และอีกอย่าง…เจ้านายกับเลขาจะไปไหนด้วยกันก็ไม่แปลกเพราะเธอเป็นเลขาพี่นะ…เราทำงานร่วมกัน…”“ไม่มีใครคิดมากหรอก…นอกจากเธอคนเดียวเอริ…”พี่จอมว่าพลางยิ้มกริ่มอย่างทะเล้น ซึ่งฉันก็ทำหน้าแหย่ๆใส่เขาแทนเพราะที่เขาพูดมันก็จริง เจ้านายกับเลขาจะไปไหนม
“ถ้านายไม่ใช่ขุนศึก….ป่านนี้ชีวิตรักของเราทั้งคู่จะเป็นยังไงนะ?”ฉันพึมพำออกมาและยิ้มกริ่มให้ตัวเอง และฉันก็จมอยู่กับความคิดนั้นนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่พอรู้ตัวอีกทีผมที่ยาวสยายของฉันก็ได้แห้งเสียแล้ว ฉันจึงผุดตัวลุกขึ้นเผื่อจะไปจัดการแต่งตัวแต่ฉันกลับรู้สึกหิวน้ำ ฉันจึงเปลี่ยนทิศทางการเดินไปยังประตูทางออกห้องนอนแทนจะไปห้องแต่งตัว ตึกฉันเดินลงบันไดมาเรื่อยๆจนถึงขั้นสุดท้ายก่อนจะเดินมุ่งตรงไปยังห้องครัวเปิดตู้เย็นและหยิบขวดน้ำเปล่าขึ้นมาพร้อมยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำสีใสและเดินออกมาจากห้องครัวไปยังห้องนั่งเล่นเพื่อจะดูโทรทัศน์แก้ความคิดที่อยู่ในหัวของฉันเรื่องขุนศึกสักทีพรึบ ฉันทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาทรงตัวแอลที่ดูหรูหราสีขาวนวลสะอาดตา ราคาน่าจะหลายบาท เฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ก็ดูหรูหราอย่างมีระดับ ขุนศึกต้องหมดเงินกับบ้านหลังนี้ไปเยอะแน่ๆ แต่ฉันตั้งใจไว้แล้วว่าฉันจะโอนบ้านให้กลับไปเป็นชื่อของเขา เพราะฉันไม่อยากได้อะไรจากเขาเลยสักนิด ที่ฉันคบเขาก็เพราะฉันรักเขาจากนิสัยข้างในของเขาจริงๆไม่ใช่เงินทองหรือหน้าตาของเขาที่เขามีจอกกกกกฉันรินน้ำจากขวดลงสู่แก้ว มือก็เอื้อมไปหยิบรีโมทเพื่อจะกดเปิดโทรทั
พรึบ“อื้อ….เจ็บ”ฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บและจุกท้องที่ร่างของฉันโดนขุนศึกเขวี้ยงลงบนโซฟาตัวแพงอย่างแรง“หึ….เจ็บเป็นด้วยเหรอ?”ขุนศึกเอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงห้วนเรียบ เขาจ้องฉันตาเขม็ง อารมณ์ตอนนี้เขาพร้อมที่จะปะทุใส่ฉันเต็มที่ ว่าแต่เขาไปหัวเสียอะไรมาอีกเนี่ย“เป็นบ้าอะไรเนี่ยขุน?”ฉันเอ่ยถามขุนศึกไปอย่างสงสัยและงุนงง เขาก็กระตุกยิ้มมุมปากขึ้นก่อนจะค่อยๆยื่นมือของตัวเองไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวสีขาวของเขาอย่างช้าๆ โดยที่สายตาของเขาก็จับจ้องมองมาที่เรือนร่างของฉันอย่างไม่วางตา ฉันจึงรับรู้ได้ว่าเสื้อคลุมอาบน้ำของฉันมันถลกขึ้นมาเหนือขาเรียวอ่อนของฉันแล้วเพราะแรงผลักของขุนศึกเมื่อกี้นี้แน่ๆพรึ่บฉันรีบเอื้อมมือลงไปเอาชายเสื้อคลุมปกปิดขาอ่อนของฉันอย่างรวดเร็ว แต่ก็รู้ว่ามันไม่ทันเสียแล้ว เพราะสายตาของขุนศึกที่จ้องมองมาที่เรือนร่างของฉันมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการจนฉันรับรู้ได้ว่าคงไม่มีอะไรมาหยุดเขาได้แล้วตุ๊บขุนศึกโยนเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดีก่อนจะตามด้วยกางเกงสแล็คสีดำผ้าเนื้อดีราคาแพงของเขาตามไป ฉันก็จ้องมองการกระทำของเขาด้วยสายตาหวาดหวั่น และรู้สึกเสียววาบที่ท่อนร
พรึบ"หึ!"ขุนศึกหัวเราะออกมาที่เขาบังคับฉันได้ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรเขาก็ยัดลำกายใหญ่ของเขาเข้ามาในโพรงปากของฉันอย่างรวดเร็วโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว"อื้อฮือ"ฉันร้องออกมาเมื่อภายในโพรงปากของฉันมันคับแน่นไปด้วยลำกายใหญ่โตที่ใหญ่เกินมาตรฐานของชายไทยกำลังคับแน่นอยู่เต็มโพรงปากของฉัน จนทำให้ฉันน้ำตาเล็ดออกมา"อ๊าาาาห์ปากโคตรนุ่ม"ขุนศึกครวญครางออกมาก่อนที่เขาจะค่อยๆขยับสะโพกสอบอย่างช้าๆเพื่อนำพาลำกายใหญ่ของเขาเข้าออกจากโพรงปากของฉันได้อย่างสะดวกขึ้น"อ๊าอื้ออออออ"ฉันร้องท้วงออกมาทั้งนำ้ตา สีข้างของโพรงปากฉันเหมือนจะฉีกขาดมือเล็กของฉันก็ดันขาอ่อนของเขาให้ผละออกไปจากฉันแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะฉันสู้แรงของขุนศึกไม่ได้ แต่เหมือนยิ่งฉันขัดขืนเขาก็ยิ่งดันลำกายใหญ่ให้เข้ามาในโพรงปากของฉันลึกขึ้น พั่บๆๆๆๆๆๆๆๆ"อื้อออออออ!!!"ฉันแทบจะอ้วกออกมาน้ำลายมากมายของฉันต่างพากันไหลรินออกมาจากด้านในปากของฉันหยดลงพื้นและหยดลงตามซอกคอของฉันไหลลงไปด้านล่างจากการสอดใส่ลำกายใหญ่อย่างเอาแต่ใจของขุนศึก ฉันส่ายศีรษะมาไปมาพร้อมน้ำตาแต่คนร่างสูงก็ไม่สะทกสะท้านและสงสารฉันเลยสักนิด"อย่ามาใช้มารยาหญิงกับฉัน"ขุน
พรึบ สองมือใหญ่ของขุนศึกจับขาเรียวเล็กของฉันให้อ้าออกจากกัน ฉันก็พยายาเกร็งขาและเกร็งร่างกายอย่างสุดชีวิต แต่ก็สู้แรงของขุนศึกไม่ไหวแกว๊กกกกกก"กรี๊ดดดด"ฉันกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บแสบเมื่อถูกมือใหญ่ของขุนศึกกระชากเสื้อคลุมอาบน้ำของฉันให้หลุดออกไปจากร่างกายของฉันอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนแผ่นหลังของฉันเกิดอาการแสบร้อนขึ้นมาที่เกิดจากการเสียดสีของเสื้อคลุมที่ขุนศึกดึงมันออกไปจากร่างของฉันและโยนมันทิ้งไปด้านหลังของเขาอย่างไม่ใยดี"หึ!"ขุนศึกหัวเราะในลำคอออกมาพลางสอดส่องสายตามองไปทั่วบริเวณร่างกายที่เปลือยเปล่าของฉันที่ถูกเขาจับตึงให้นอนหงายอยู่บนโซฟาตัวแพง "จะปิดทำไม....ยังไงฉันก็เห็นมันมาทุกซอกทุกมุมแล้ว...และวันนี้ฉันจะสอดแทรกชิมความหวานจากเรือนร่างของเธอทุกสัดส่วนเลย"ขุนศึกเอ่ยออกมากพร้อมกับจ้องมองฉันด้วยแววตาหื่นกาม ฉันที่เอามือข้างขวาปิดเต้าอวบที่จะปิดยังไงก็ไม่มิดอีกข้างปิดจิมิที่โหนกนูนของฉันสายตาก็จับจ้องขุนศึกกลับไปอย่างไม่วางตา เขาจึงจัดการใช้เส้นเข็มขัดของเขามามัดข้อมือทั้งสองข้างของฉันให้อยู่เหนือศีรษะของฉัน"ฉันก็จะนึกซะว่า....สรรหาความสุขมาปรนเปรอให้ตัวเองล่ะกันนะ...""นา
"อื้ออออขุน!!"ฉันก็ร้องท้วงเขาด้วยความเจ็บที่เขาใช้ปลายจมูกฟัดเต้าอวบของฉันอย่างแรง ทำให้ขุนศึกหยุดและแปรเปลี่ยนมาใช้ปลายลิ้นแตะสัมผัสพร้อมกับตวัดเลียยอดปทุมถันของฉันแทนทำให้ฉันแอ่นหน้าอกสู้กับปลายลิ้นสากของเขาด้วยความสุขสมน้ำลายของขุนศึกเปียกชุ่มไปทั่วบริเวณยอดปทุมถันของฉัน เสียงขุนศึกดูดดื่มยอดปทุมถันของฉันมันส่งเสียงดังก้องิยู่ในหูฉันยิ่งทำให้ฉันเสียวซ่าน"อื้อออ"ฉันครางกระเส่าพร้อมกับบิดร่างกายไปมาอย่างสุขสมมือหนาของขุนศึกก็บีบคลึงเต้าอวบของฉันทั้งสองข้างพร้อมเค้าคลึงในขณะเดียวกันเขาก็ยังใช้ปลายลิ้นดูดดึงยอดปทุมถันให้ฉันอย่างนุ่มนวล มือเล็กของฉันยกขึ้นมาโอบกอดคล้องคอของขุนศึกอย่างไม่เอียงอายเขา"จ๊วฟฟฟฟฟ""อื้อออตรงนั้น!"ฉันร้องท้วงขึ้นมาพร้อมกับเบิกตาโตขึ้นจ้องหน้าหล่อของขุนศึกอย่างตกใจที่รับรู้ได้ถึงสัมผัสของนิ้วเรียวที่คลืบคลานเข้าไปหยอกเย้ากลีบกุหลาบงามของฉัน"มันทำไมเหรอ?"ขุนศึกไม่หยุดการกระทำของเขาแต่เขาถามฉันพร้อมกับยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเหมือนจะทำให้ฉันยอมรับว่าฉันชอบสัมผัสของเขา"อื้ออขุน!""มันทำไมเหรอครับ?"ขุนศึกเอ่ยถามย้ำฉันเสียงกระเส่าอีกครั้งพร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวแหวก
ขุนศึก ขุนณรงค์...."จ๊วฟฟฟฟแผล๊บ"ผมก้มหน้าก้มตาดูดดื่มน้ำหวานจากกลีบกุหลาบงามของเอริจนหมดทุกหยาดหยด ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าหล่อขึ้นไปมองหน้าหวานของเอริที่ตอนนี้เธอกำลังนอนหอบหายใจถี่รัวมองหน้าผมอยู่ ดวงตาคู่สวยมองผมอย่างหวานเยิ้มทำให้ผมรู้ทันทีว่าเธอคงจะยังไม่อิ่มกับความสุขที่ผมปรนเปรอให้เธอและผมก็ตั้งใจมาทำมากกว่านี้ด้วย ไม่ใช่แค่ผมจะมามีอะไรกับเธอเท่านั้น แต่ผมจะมาแก้แค้นเธอให้เธอรู้ถึงความเจ็บปวดที่ผมได้รับจากเธอ "หึ....."ผมเงยหน้าจากร่องสวาทที่หวานหอมของเธอจนผมติดใจและอดที่จะคิดถึงมันตลอดเวลาไม่ได้ขึ้นมาจ้องมองหน้าเธอก่อนจะแค่นหัวเราะและมองเธอตั้งแต่เท้าขึ้นไปถึงศีรษะของเธอด้วยสายตาดูถูกที่ผมพยายามทำให้มันเป็นอย่างนั้นเธอหลอกผม เธอเห็นผมเป็นคนโง่มาตลอด แต่แปลกทำไมผมกลับไม่โกรธเธอจริงๆสักที ผมอยากจะเกลียดอยากจะโกรธเธอด้วยซ้ำไป แต่ใจของผมมันก็เกลียดเธอไม่ลงจริงๆทั้งๆที่อยากจะเกลียดเธอแค่ไหน"น้ำเยิ้มขนาดนี้....คงจะพร้อมแล้วสินะ"ผมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้นก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงโดยมีสายตาคู่หวานของเอริที่มองมาที่ผมยากที่จะคาดเดาว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่มองตามมาพรึ่บผมไม่รอ
"ซี๊ดโดดเด็ด" ผมครางออกมาพร้อมกับสายตาที่จับจ้องไปที่หน้าอกออวบอิ่มที่มันกระเพื่อมขึ้นลงไปตามแรงขย่มของคนบนร่างผม มันช่างปลุกความหื่นให้อารมณ์ของผมพุ่งได้เป็นอย่างดีพรึบ"อ๊ะ"เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บและสะดุ้งที่ผมยื่นหน้าเข้าไปใช้ฟันของผมขบกัดยอดปทุมถันสีชมพูสดที่มันแข็งชูชันของเธอ พรึบ"อ๊าาาห์เอริโคตรสุดยอด"ผมครางเสียงหวานกระเส่าออกมาเมื่อเธอยกแขนทั้งสองข้างของเธอมาโอบรอบคอผมและจัดการใช้หน้าอกอวบอิ่มของเธอถูไปมากับใบหน้าของผมทำให้ผมแทบคลั่ง ฟัดหน้ากับหน้าอกของเธอไปพร้อมกับสูดดมอย่างกระหาย โดยที่ส่วนเชื่อมของเราทั้งคู่ยังคงบรรเลงบทเพลงรักกันอย่างบ้าคลั่ง โดยที่เธอเองก็ขย่มผมโดยที่ผมไม่ต้องยกก้นเธอขึ้นลงสอดใส่ไปกับท่อนเอ็นยักษ์ของผมอีกแล้วเพราะเธอเริ่มจะเป็นงานและตอบสนองความต้องการของอารมณ์กามในร่างกายของตัวเองได้แล้วน่ะสิ"ขย่มผัวแรงๆเลยเมียจ๋า"ผมครวญครางเสียงหวานอู้อี้บอกเธอไปพลางใช้ปลายจมูกสูดดมไปกับหน้าอกอวบอิ่มหอมๆของเธออย่างไม่ลดละ ยิ่งเสียงเจ๊าะเจ๊ะของน้ำรักเอริที่หลั่งรินออกมาเป็นตัวล่อลื่นของเอริกระทบกับหน้าขาใหญ่ของผมดังแจ๊ะทำให้ผมอยากจะกระแทกๆเธอแรงๆเพราะมันทำให้ผมกำลัง
"และมีมันไว้ริจะได้อุ่นใจ""และอีกอย่าง....ไม่มีผู้หญิงคนไหนเต็มใจที่จะอยู่กับคนที่มีแต่ตัวอย่างขุนหรอก....ริสบายใจได้"คำพูดของขุนศึกที่ดูมั่นอกมั่นใจทำให้ฉันต้องรีบเปิดเอกสารในซองสีน้ำตาลที่ขุนศึกเพิ่งจะยื่นให้ฉันเมื่อกี้เปิดดูทันทีเพราะคำพูดของเขามันแปลกๆเขาพูดเหมือนจะยกทุกอย่างที่เขามีให้เป็นของฉัน เพราะเขาพูดเหมือนเขาจะเหลือแต่ตัวและก็เป็นไปอย่างที่ฉันคิดจริงๆเอกสารที่เขายื่นให้ฉันเมื่อกี้นี้เป็นเอกสารโอนยกมรดกให้เป็นชื่อฉันแต่เพียงผู้เดียวทั้งบ้านหลังนี้ และบริษัทSMครึ่งหนึ่งที่เคยเป็นของคุณหญิงนฤมิตรแต่ก่อนหน้านี้คุณหญิงเพิ่งจะโอนให้เป็นของขุนศึกก็ถูกโอนให้มาเป็นของฉันและรวมถึงบริษัทAKด้วยที่ชื่อการจดทะเบียนบริษัทก็เป็นชื่อฉัน และยังดำรงตำแหน่งประธานบริษัทคนใหม่ให้อีกด้วย"ทุกอย่างในนี้คงจะเป็นเครื่องหมายการันตีให้ริเห็นแล้วใช่ไหม....ว่าขุนจริงใจกับริแค่ไหน""แต่ริไม่ต้องกังวลนะ...ขุนจะยังคงทำงานแบบเดิมเหมือนตอนที่ขุนยังคงดำรงตำแหน่งอยู่""ริทำใจให้สบายคอยเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวให้ขุนและคอยรับเงินปันผลรายปีก็พอ"ขุนศึกเอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มกริ่มไปด้วยรอยยิ้มที่อิ่มเอมใจ เขาเต็มใ
"ริ.....ขอโทษนะขุน....แต่ริยังไม่พร้อม"เมื่อคำพูดออกจากปากฉัน ทุกอย่างรอบตัวก็ดูเหมือนจะเงียบลงไปผู้ชายที่คุกเข่าตรงหน้าฉันในตอนนี้ เขากลับยิ้มให้ฉันถึงมันจะเป็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้าก็เถอะแต่ทำไมเขายังยิ้มได้เหมือนเขาจะรู้ในคำตอบของฉันอยู่แล้วว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน"ริยังไม่อยากแต่งงานกับขุนก็ไม่เป็นไร.....แต่ขุนจะขอริแต่งงานแบบนี้ไปทุกๆปี""จนกว่าริจะยอมแต่งงานกับขุน"ขุนศึกเอ่ยออกมาเสียงเข้มหน้าตายิ้มแย้มอย่างมีความหวัง เขาค่อยๆยันตัวลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับฉันฉันก็จ้องเขากลับไป ด้วยแววตาที่เรียบนิ่งไร้ความรู้สึกใดๆ"ริไม่อยากจะเชื่อในคำพูดของขุน....แต่ริจะขอคอยดูก็แล้วกันว่าขุนจะทำแบบที่ขุนพูดได้จริงๆ"ฉันเอ่ยออกไปตามความจริง ความที่ฉันยังไม่มั่นใจในคำพูดและตัวของเขาได้จริงๆ"ขุนรู้....ว่าที่่ผ่านมาขุนไม่เคยทำให้ริมีความสุข....ขุนเอาแต่คอยทำร้ายจิตใจริ....เอาแต่นอกกายริ""แต่ขุนไม่เคยนอกใจริสักครั้งหนึ่งเลยนะ....""เพราะขุนรู้.....ว่าไม่มีผู้หญิงคนไหน...ดีเท่ากับริอีกแล้ว""แต่ขุนก็รู้ตัวดีว่าขุนไม่พร้อมที่จะเสียริไปอีกแล้ว""ในวันนี้ถึงริยังไม่อยากแต่งงานกับขุน""แต่ขุนขอร
ติ๋งเมื่อลิฟท์มาถึงชั้นล่างของบ้านฉันก็เดินออกมาจากลิฟท์ก่อนจะเดินมุ่งตรงไปยังห้องครัวแต่พอเดินไปถึง ก็กลับพบว่า แก๊สที่ป้าบัวบอก ในขณะนี้มันไม่ได้ตั้งอะไรไว้เลยเสียด้วยซ้ำ"สงสัยป้าบัวแกคงจะลืม.....อย่างนี้ฉันควรมีเวลาให้แกได้พักผ่อนซะแล้ว"ฉันเอ่ยออกไปพลางส่ายศีรษะไปด้วยอย่างเป็นห่วงป้าบัว ที่เขาดูแลคนอื่นจนลืมที่จะดูแลตัวเอง"ไปนอนดูหนังที่ห้องนั่งเล่นสักชั่วโมงค่อยขึ้นห้องดีกว่า"ฉันพึมพำออกมาอย่างคนที่ขี้เกียจมากๆ ฉันรู้ตัวว่าตัวเองเปลี่ยนไปมาก จากเมื่อก่อน ขยับตัวทีก็งาน งานและก็งาน แต่ตอนนี้ขี้เกียจ และไม่อยากจะทำอะไรเลยนอกจากกินแล้วก็นอน"อะไรเนี่ย?"ฉันพึมพำออกมาเมื่อขาของตัวเองเดินย่างก้าวเข้าภายในห้องนั่งเล่นก็ต้องตกใจกับลูกโป่งสีชมพูสดใสที่ลอยอยู่กลางอากาศมากมายแต่ไม่ลอยจนติดเพดานบ้านเพราะถูกเชือกรั้งไว้ฉันก็ตื่นตาตื่นใจกับลูกโป่งสีชมพูอ่อนสวยสดใสก่อนที่จะยิ้มออกมาจนแด้มปริและเดินไปตามทางเรื่อยๆไม่รู้ว่าจะเดินไปไหนเพราะพื้นที่ทั้งห้องนี้เต็มไปด้วยลูกโป่งทั้งลูกเล็กและลูกใหญ่และฉันก็มาหยุดยืนเมื่อสิ้นสุดทางเดิน ที่ตรงหน้าของฉันเป็นกำแพงสีขาวแต่ข้อความบนกำแพงทำให้ฉันอึ้
วันต่อมา08:00น.บ้านชัชชัยวรรณ.....ห้องนอนเอริ เอริ ฐิติมน....."ชุดนี้น่ารักจังเลยนะคะป้าบัว"ฉันเอ่ยบอกป้าบัวไปในขณะที่ฉันกำลังหมุนรอบตัวเองเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยที่ส่องกระจกฉายสะท้อนตัวเองกลับมา เป็นชุดมินิเดรสสีขาวแขนพองทรงเอประดับโบว์ไว้ที่ด้านหน้าของชุดตรงหน้าอกของฉัน ชุดเป็นลายดอกไม้ เป็นสไตล์ของยุโรป กระโปรงยาวเลยเข่าฉันมานิดหน่อยดูรวมๆแล้วมันก็สบายและน่ารัก ดี เหมือนเป็นชุดคลุมท้องเหมือนกันนะ"ป้าบัวเลือกเองหรือคะ?"ฉันเอ่ยถามป้าบัวไปอย่างสงสัย เพราะเมื่อกี้ก่อนหน้านี้ประมาณยี่สิบนาที ป้าบัวเดินถือเสื้อผ้าชุดนี้เข้ามาในห้องของฉันและบอกว่าท่านเป็นคนซื้อให้ ไม่รู้ว่าฉันจะชอบหรือเปล่า และฉันจะใส่ได้ไหม ท่านเลยให้ฉันลองใส่ดูก่อนผลก็ปรากฏว่าฉันใส่ได้ และฉันก็ชอบมันมาก มันดูน่ารักเป็นแนวสายแหวนดีนะสีก็ออกพาสเทลนิดๆดูน่ารักดี"ชะใช่จ๊ะ.....เป็นยังไงจ๊ะเอริชอบไหม?"ป้าบัวที่ยืนอยู่ด้านหลังของฉันที่คอยช่วยฉันจัดแจงชุดก็เอ่ยออกมาแต่น้ำเสียงและแววตาของท่านดูสั่นๆดูมีพิรุธนะถ้าเป็นคนอื่นอาจจะคิดว่าเขากำลังพูดโกหกอยู่แน่ แต่นี่เป็นป้าบัว ท่านจะโกหกฉันไปทำไมล่ะจริงไหม"ชอบนะคะป้าบั
ในวีดีโอมีผู้ชายอยู่หลายคนรวมๆห้าคนได้และสถานที่มืดๆที่มีไฟหลากหลายสีแบบนี้ก็คงจะเป็นผับที่ไหนสักแห่งหนึ่งในกรุงเทพนี้แหละฉันก็ตั้งใจมองก็พบว่ามีผู้ชายสามคนที่คุ้นตาฉัน หนึ่งคือฟิวสองคือทีและสามคือขุนศึกข้างกายของผู้ชายทุกคนจะมีผู้หญิงแต่งตัวโป๊ๆหน้าอกตู้มๆนั่งขนาบข้างแบบแทบจะสิงร่างกันโดยพวกเธอเป็นคนชงเหล้าให้เขาทั้งห้าคนและคอยปรนนิบัติพวกเขาอย่างใกล้ชิดและออดอ้อนออเซาะแต่จะมีผู้ชายอยู่คนหนึ่งที่นั่งเป็นคนสุดท้ายของเพื่อนที่มีสีหน้าเหมือนไม่ค่อยสบายใจแบบคนที่กำลังอมทุกข์และดูอึดอัดอะไรอยู่ในใจ(วันนี้หนุ่มๆเลือกอิหนูของเจ๊นี่ไปได้เลนนะคะ....น้องๆพวกนี้พร้อมดูแลจ๊ะ)เสียงหวานอย่างดัดให้เสียงเล็กลงจากปกติมากเอ่ยขึ้นมา ฉันว่าเธอคนที่พูดอยู่นี่น่าจะเป็นสาวสองและเป็นคนที่กำลังถ่ายวีดีโออยู่ในตอนนี้ด้วยนะ(มันแน่นอนอยู่แล้วครับเจ๊.....พวกผมน่ะจัดเต็มแน่)เป็นทีที่เอ่ยขึ้นมาพลางยิ้มกริ่มอย่างเจ้าชู้และเขาก็หันไปกอดรัดนัวเนียกับผู้หญิงข้างกายเขาอย่างไม่เอียงอายใคร(แล้วน้องคนนี้ล่ะจ๊ะ....สนใจอิหนูของเจ๊คนไหนเป็นพิเศษไหม?)เจ๊สาวสองแพลนกล้องไปจับยังขุนศึกที่นั่งอยู่ติดกับขอบเก้าอี้ด้านในสุดข
บ้านของเอริ20:30น.เอริ ฐิติมน.....ห้องนั่งเล่น......"ปกติแกกินข้าวเวลานี้ด้วยเหรอ?"เพลงขวัญเอ่ยถามฉันขึ้นในขณะที่เธอวางจานข้าวสวยร้อนๆลงตรงหน้าของฉันพร้อมกับต้มไก่ตุ๋นยาจีนต้นตำรับของคุณหญิงนฤมิตรที่ท่านสั่งให้ป้าบัวต้มไว้ให้ฉันทานบำรุงลูกๆทั้งสามในครรภ์ของฉัน"ตอนไม่ท้องก็กินบ้างไม่กินบ้าง....แต่พอท้องนี่แทบจะกินวันละหกเจ็ดมื้ออย่างต่ำอ่ะแก"ฉันเอ่ยบอกเพลงขวัญไปพลางใช้มือทั้งสองข้างหยิบช้อนกับส้อมขึ้นมาถือไว้พร้อมจะลงมือทานอาหารตรงหน้าที่มีกลิ่นหอมยั่วยวนด้วยแววตาที่เป็นประกายแพรวพราว"ไหนบอกว่าแกมีเรื่องไม่สบายใจ....?"เพลงขวัญเอ่ยถามฉันพลางเลิกคิ้วมองหน้าฉันอย่างสงสัยก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกันกับฉันฉันก็มองหน้าเธอนิ่งด้วยแววตาที่เป็นกังวลอยู่ในใจนั้นแหละ แต่ทำไงได้ ก็ท้องฉันมันหิวหนิ ขอกินก่อนล่ะกัน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน"เดี๋ยวฉันขอกินก่อน....เดี๋ยวค่อยคุย""โอเคจ๊ะ.....งั้นเดี๋ยวฉันขอไปโทรหาลูกก่อนไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อเขาเอาเข้านอนแล้วหรือยัง?""โอเคจ้า"ฉันยิ้มให้เพลงขวัญเธอก็ยิ้มให้ฉันก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของเธอและเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นเมื่อเธอไปแล้ว ฉันก็หันกลับมาให้ค
เหล้า บุหรี่ ก็ไม่หนักทุกวันแบบเมื่อก่อน แต่เรื่องผู้หญิง ฉันก็ยังคงไม่มั่นใจอยู่ดี เพราะเขาไม่เคยทำให้ฉันเชื่อใจเขาได้สักครั้ง....จริงๆกับเรื่องนี้ฉันรอขุนศึกไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับรถวีลแชร์ เขายิ้มกว้างให้ฉันมาแต่ไกล ฉันก็ยิ้มให้เขากลับไป"เชิญครับคุณผู้หญิง""ขอบคุณค่ะคุณบุรุษพยาบาล"ฉันเอ่ยออกไปแกล้งขุนศึกที่เขาเข็นรถวีลแชร์มาหยุดตรงหน้าฉัน"ยินดีที่จะเป็นทุกอย่างให้เธอครับ""เลี่ยน"ฉันเอ่ยออกไปอย่างหมั่นใส่เขาก่อนจะลุกขึ้นยืนโดยมีร่างของขุนศึกที่ถลาเข้ามาช่วยประคองฉันไว้อย่างรวดเร็วเล่นเอาซะตกใจเลยแหะขุนศึกจัดการช่วยฉันทุกอย่าง โดยที่เขาทำอย่างเบามือและทะนุถนอมเหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ"พร้อมออกตัวแล้วครับ""ค่ะไปได้เลยค่ะคุณบุรุษพยาบาล"ฉันแกล้งแซวขุนศึกต่อ เขาก็ยิ้มขำก่อนจะเข็นรถวีลแชร์ไปยังทิศทางออกของโรงพยาบาล โดยมุ่งตรงไปที่ลานจอดรถเมื่อมาถึงที่รถเขาก็จัดการประคองร่างของฉันขึ้นจากรถวีลแชร์ย้ายมานั่งบนรถของเขาอย่างเบามือเช่นเดิมแต่ที่ทำให้ฉันแปลกใจและรู้สึกประทับใจขุนศึกอีกอย่างหนึ่งก็คือตอนนี้เขากลับมามีทุกอย่างไม่ว่าจะเงินทองหรือชื่อเสียงแต่เขาก็ยังคงทำตัวเหมือนขุนศึกค
"แฝดทั้งสามคนปลอดภัยและเติมโตตามวัยครับ...ออกจะโตอย่างรวดเร็วเสียด้วยซ้ำ""เพราะเขาโตเกินเกณฑ์อายุเขาจริงๆไปหนึ่งสัปดาห์ครับคุณฐิติมนและคุณขุนณรงค์"คุณหมอเอ่ยขึ้นในขณะที่เขาอธิบายรายละเอียดรูปร่างของเจ้าแฝดทั้งสามคนของฉันผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมจากการอัลตร้าซาวด์หน้าท้องของฉันทำให้ฉันที่เห็นการเจริญเติบโตของลูกๆทั้งสามฉันทุกอาทิตย์ถึงกับยิ้มไม่หุบและมันตื้นตันอยู่ในใจของฉันจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยล่ะเมื่อคุณหมอตรวจเสร็จก็กลับไปนั่งที่โต๊ะตรวจของเขาและฉันก็ลุกขึ้นจากเตียงอัลตร้าซาวด์โดยมีขุนศึกคอยประคองร่างฉันตลอดเวลาไม่ว่าฉันจะเดินหรือลุกนั่งก็ต้องมีเขาคอยประคองอยู่ตลอดเวลาเลยถึงตอนนี้ฉันจะท้องได้แค่สี่เดือนแต่ท้องของฉันเริ่มจะใหญ่กว่าคนท้องสาวทั่วไปถึงสองเท่าเพราะในท้องของฉันมีเด็กน้อยอยู่ตั้งสามคนแหนะจะไม่ให้ใหญ่เกินคนท้องสาวทั่วไปได้ยังไงล่ะเมื่อฉันกับขุนศึกมานั่งที่โต๊ะตรวจในห้องของหมอได้คุณหมอก็เอ่ยขึ้นบอกเราถึงกำหนดคลอดทันที"และกำหนดคลอดคืออีกยี่สิบหกสัปดาห์ข้างหน้า....แต่ครรภ์ของคุณฐิติในเป็นครรภ์แฝดสามคน....หมอกลัวว่าอาจจะมีโอกาสเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษเกิดขึ้นได้แทบจะตลอด
"ไม่รู้ว่าช่องในเจดีย์ของแม่เธอจะพอใส่อัฐิของพ่อเธอได้อีกอันไหม?"คุณแม่ของผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มบางๆให้พี่จอมก่อนจะยื่นโกศสีขาวนวลที่ด้านในบรรจุเถ้ากระดูกของพ่อผมยื่นไปตรงหน้าของพี่จอมพี่จอมพลก็มองโกศในมือแม่ผมสลับกับมองหน้าผมด้วยแววตาแปลกใจและดูจะอึ้งไปนิดๆเหมือนเขาคิดไม่ถึงว่าคุณแม่ผมจะทำเรื่องแบบนี้ได้"ตอนนั้นคุณเป็นคนยืนกรานเองว่าจะเอาเถ้ากระดูกของพ่อไปเก็บไว้แต่ทำไมวันนี้กลับเอามาให้ผมเสียง่ายดายแบบนี้ได้ล่ะครับ....ทั้งที่ในตอนที่ผมกับแม่ของผมร้องขอคุณแทบจะกราบเท้า?"พี่จอมพลเอ่ยถามแม่ผมกลับมาเสียงเรียบ ในตาจ้องเขม่นมาที่แม่ผมอย่างต้องการคำตอบ"ในตอนนั้นที่ฉันไม่ให้อัฐิของพ่อให้แม่เธอก็เพราะตอนนั้นฉันมีทั้งอารมณ์โกรธอารมณ์เกลียดอยู่เต็มในอก""ฉันคิดได้อย่างเดียวคือว่า....ไม่ว่าพ่อของเธอจะเป็นหรือตายฉันก็จะไม่มีทางให้สองคนนี้ได้อยู่ด้วยกันเด็ดขาด""ฉันรู้ตัวว่าฉันมันแย่....กว่าจะมารู้ว่าความคิดของฉันมันไม่ดีต่อใครเลยรวมถึงตัวฉันเองด่วย....ก็เกือบจะสายไป""และฉันก็อยากจะขอบคุณเธอนะ....ที่ช่วยฉันออกมาจากกองเพลิงในวันนั้น""ถึงเธอจะไม่เต็มใจก็เถอะ....แต่ฉันก็อยากจะขอบคุณเธอ....และข