รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 46-ชนะใส ๆ(นิโคลไล)ผมนั่งใช้ความคิดเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องทำงาน เอกสารกองตรงหน้ายังไม่แตะสักแฟ้ม คิดเพียงเรื่องราวเมื่อเช้าที่ได้ยิน ผมจะทำยังไงดีให้อารียาไม่ต้องไปกับคุณไมค์ในเที่ยงนี้“แฮ่ม!....(หนูจะไปกับเขาเหรอรียา ไม่ไปได้ไหมอาขอร้อง พลีส)...โอ้ว แม่งโคตรเหมือนคนกลัวเมียเสียลุคนิโคลไลหมด ไม่เอา ๆ เดี๋ยวเด็กมันได้ใจ... (ฟังให้ดีนะรียา ฉันขอห้ามและเธอต้องทำตาม อย่าไปกับไอ้ไมค์เด็ดขาดไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น ถ้ายังรั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือนเข้าใจไหม?)...นี่ก็ดูนักเลงไปโน ๆ ดีไม่ดีกูเนี่ยแหละโดนรียาสวนกลับ...โอ๊ย!! คิดไม่ออกโว้ยทำไงดีวะ”ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้ผมที่กับพูดพร่ำกับตัวเองต้องหยุดชะงัก และจัดแจงท่วงท่าให้อยู่ในมาดนิ่งขรึมดูน่าเกรงขาม หยิบแฟ้มเอกสารตรงหน้าเปิดอ่าน เหมือนก่อนหน้าไม่มีอะไรที่ปัญญาอ่อนเกิดขึ้น“เข้ามา”"เอกสารของวายเอ็มเอชกรุ๊ปค่ะ" อารียาเข้ามาในห้องทำงานยามสาย ยื่นแฟ้มเอกสารสีดำตรงหน้าของผม เป็นงานที่ผมมอบหมายให้เธอทำ รวบรวมข้อมูลพื้นฐานเพื่อเตรียมการเจรจาคู่ค้าในสัปดาห์หน้า และซึ่งเป็นลูกค้าสำคัญมาก"อืม...ขอบใจ" ผมตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 47 - ใครเมียคุณ“ทำไมลูกค้ายังไม่มาอีกคะ?” อารียาถามผมเมื่อตอนนี้เวลาผ่านไปราวสิบห้านาที ก็ยังไม่มีลูกค้าตามที่ผมนัดมาถึง จะมาได้ยังไงล่ะในเมื่อไม่มีลูกค้าที่นัดหมายไว้จริง ๆ ผมก็แค่หลอกล่อไม่ให้เธอไม่เจอไอ้คุณไมค์เท่านั้นแหละ ใครจะบ้ายอมให้เมียตัวเองออกไปกินข้าสองต่อสองกับผู้ชายคนอื่น...ถึงผมจะเคยเพลย์บอยแต่พอถึงจุดที่ควรหยุด ผมก็สามารถยับยั้งตัวเองได้ ยิ่งเจอคนที่ใช่แล้วยิ่งง่ายดายที่ผมจะไม่มีวันไปทำให้คนที่ผมรักเสียใจ ผมก็มีจุดยืนของผมเหมือนกัน...ผมคนดีไหมล่ะ?“รถคงติดละมั้ง...รออีกสักหน่อยแล้วกัน” ผมยกนาฬิกาขึ้นมาอยู่วางสีหน้านิ่งแล้วตอบเธอ แสดงไปงั้นแหละให้มันดูเนียน ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีใครมาอย่างที่บอก“งั้นฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหมคะ?”“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม”“ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวฉันไปเอง เผื่อว่าลูกค้ามาจะไม่เห็นใคร”อารียาขออนุญาตได้ยินแบบนั้นผมจึงอาสา แต่ว่าเธอก็ปฏิเสธและให้เหตุผลที่ผมเลี่ยงไม่ได้ หากรั้นดันทุรังก็กลัวว่าเธอจะจับพิรุธ แผนที่วางไว้คงจบเห่“หรือให้ผมไปเป็นเพื่อนไหมครับ” เชรคมันอาสาอีกเสียง“ไม่เป็นไรค่ะ คุณเชรครอเป็นเพื่อนท่
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 48(ของที่เคยชอบ)ติ่ง เสียงข้อความดังขึ้นทำให้ผมต้องหลุดจากภวังค์หวาน แล้วเปิดอ่านข้อความในมือถือ“มีอะไรหรือเปล่าคะ?” อารียาเอ่ยถามเมื่อผมเงยหน้ามองเธอ“เปล่าหรอก แค่เชรคส่งข้อความมาบอกว่าจะกลับก่อน เห็นบอกว่ามีธุระต้องรีบไปเคลียร์ที่บริษัท” ผมตอบเธอตามข้อความที่ได้อ่าน“อืม...งั้นเราก็รีบทานข้าวแล้วเข้าบริษัทกันค่ะ เผื่อว่าคุณเชรคมีอะไรให้ฉันช่วยทำ” อารียาพยักหน้ารับรู้ จากนั้นจึงบอกเล่าต่อ ช่างขยันให้วันที่ผมไม่อยากให้ขยันทำไมเนี่ย“พอละ ผมอยากกลับบ้านวันนี้รู้สึกเหนื่อย” ผมพยายามพูดเลี่ยง เพื่อไม่ให้อารียากลับเข้าไปบริษัท อุตส่าห์วางแผนเล่นละครตอแหลมาซะขนาดนี้แล้ว จะปล่อยให้เธอไปเจอไอ้คุณไมค์อีก แล้วผมจะลงทุนไปเพื่ออะไรกัน...“งั้นคุณก็กลับบ้านไปก่อน ฉันจะเข้าบริษัท” มันน่านัก! ยังจะรั้นอีกทั้งที่ผมพูดดักทางไว้ ทำเอาผมรู้สึกเซ็งเลย วางช้อนลงจานแล้วเช็ดปากอย่างหงุดหงิด อยากจะทุบโต๊ะแม่งให้หัก แต่ต้องควบคุมอารมณ์ไว้ เดี๋ยวจะทำให้อารียาปรี๊ดแตกใส่ผมคืน เจองานหนักกว่าเดิมอีกทีนี้“ไม่เอาอะกลับด้วยกัน...อยากนอนกอดเมีย” ผมเริ่มเปลี่ยนอารมณ์ แล้วพูดออดอ้อนเอื้อ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 49-คุณแม่คนใหม่(อารียา)ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ ฉันถึงมีอาการผิดปกติ ทั้งที่ร่างกายแข็งแรงดี ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเจ็บป่วย ไปทำงานเมื่อเช้าก็ปกติทุกอย่าง แต่ทำไมพอกลับเข้ามาในบ้านฉันถึงได้พะอืดพะอมเวียนหัวเพียงแค่ได้กลิ่นเครื่องเทศ ซึ่งฉันไม่เคยแพ้กลิ่นเหล่านี้"ผมเข้าไปด้วยได้ไหมครับ" เขาถามพยาบาลเมื่อถึงคิวฉันถูกเรียกเข้าห้องตรวจ นิคดูมีสีหน้าติดกังวลไม่รู้ว่าห่วงจริงหรือแค่ตอแหล แต่บางครั้งการกระทำของเขามันก็สร้างความเชื่อใจให้ แยกไม่ค่อยออกเลยจริง ๆ ฉันวอกแวกสองจิตสองใจ ทำไมรู้สึกว้าวุ่นไปหมดทั้งที่เคยเป็นคนมั่นใจในตัวเอง"ญาติรอข้างนอกนะคะ" พยาบาลบอกเขา ทำเอานิคหน้าเหี่ยวลงไป ฉันเลยหันไปมองหน้าแล้วส่งยิ้มอ่อนให้สื่อความหมายว่าฉันโอเคทั้งที่ฉันไม่โอเค เพราะฉันกลัวหมอ"อา...หนูโอเค" ฉันบอกเขาทั้งที่หวั่นใจ แต่ไม่อยากให้เขาห่วงมากไงเลยต้องพูดแบบนั้น"แน่ใจนะ" เขาถามย้ำ"อืม" และฉันก็พยักหน้าให้"เชิญค่ะ"จากนั้นจึงเดินตามพยาบาลเข้าไปในห้องตรวจ กลิ่นยาคละคลุ้งเข้าจมูกจนฉันอยากอ้วก มองเห็นอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์พื้นฐาน ฉันก็อยากเข่าทรุดลงกับพื้น ก็
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 50 - ก็แค่ท้องฉันเดินออกมาจากห้องตรวจด้วยความรู้สึกกังวลและว้าวุ่นใจ แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว พยายามทำใจรับกับเหตุการณ์นี้ ที่แม้ฉันจะตั้งหลักไม่ทันก็ตาม"หมอว่าไงบ้าง" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงพะวง เมื่อเห็นฉันเดินเข้ามาใกล้ คอยประคองอย่างกับว่าฉันเดินเองไม่เป็น แต่นั่นคงเพราะว่าเขาห่วงใยละมั้ง ไม่รู้สิแต่ฉันสัมผัสได้แบบนั้น ซึ่งมันอาจจะเป็นการกระทำที่มาจากใจ"ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก...ก็แค่ท้อง" ฉันตอบเขาเสียงเรียบอย่างกับว่ามันเป็นแค่เรื่องธรรมดา ทั้งที่มันเป็นเรื่องกะทันหันทำฉันตั้งรับไม่ทัน คือตอนนี้ฉันก็ยังคิดไม่ตกว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือแค่ความฝัน"เฮ้อ~~ค่อยยังชั่วหน่อย อานึกว่าหนูป่วยหนักซะอีก ดีแล้วล่ะไม่เป็นอะไรก็แค่ท้องเฉย ๆ เอง...ห๊ะ! อะไนฝรนะ! ทะ ทะ ท้อง!?" เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างกับว่าโล่งอก จากนั้นก็พูดต่อปกติ แต่เหมือนคงจะนึกทวนได้จึงตะเบ็งเสียงลั่นไม่เกรงใจคนทั้งโรงพยาบาล จับต้นแขนของฉันแล้วจ้องหน้าอย่างลุ้นคำตอบ แต่ว่าฉันน่ะนิ่งเฉย ไม่ได้แสดงความตื่นเต้นจนออกนอกหน้าเหมือนกับเขา"อืม ปะกลับ" ฉันแค่นเสียงและพยักหน้ารับ และสบัดแ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 51-ทำให้ชัดเจน(นิโคลไล)ผมโคตรดีใจที่รู้ว่าอารียาตั้งท้อง ตอนเธอบอกผมนี่อึ้งเลย ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่ผมเฝ้ารอจะเป็นจริงได้เร็วขนาดนี้ มันคือสิ่งที่ผมต้องการ เพราะไม่อยากให้ใครมาเจาะแจะอารียา...และแล้ววันนี้มันก็เป็นความจริงสักที แม้ว่าเธอจะดูแปลก ๆ ซึ่งผมไม่ค่อยเข้าใจปรับตัวไม่ทัน ระหว่างที่เธอหลับนั้นผมจึงเปิดหาข้อมูลคนท้อง สิ่งที่อารียาเป็นนั้นเกิดจากภาวะตั้งครรภ์ซึ่งมันจะทำให้อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย อันนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้ว"ยัยตัวแสบของอา...เป็นสามีแล้วนี่หว่าเรียกว่าอาไม่ได้แล้วดิ" ผมนอนตะแคงมองหน้าเธอแล้วจินตนาการ พลางลูบผมเธอเล่นเบา ๆ พูดพร่ำคนเดียวอย่างมีความสุข หลังจากที่เธอทานอาหารที่ต้องการเสร็จเรียบร้อยแล้วครืน~~ เสียงโทรศัพท์มือถือของผมสั่นเพราะมีสายโทรเข้ามา นั่นจึงทำให้ผมหันไปมองและกดรับสายทันที"ว่าไงเชรค"(กลับมาแล้วใช่ไหมครับ)"อืม ตอนนี้อยู่บ้านมีอะไรด่วน"(เปล่าครับผมแค่จะโทรมาเตือนว่าพรุ่งนี้คุณนิคต้องไปงานประมูลเครื่องเพชรของบริษัทเคไดม่อน)"ไม่ลืมหรอก อ้อเชรค"(ครับ)"ฝากเตรียมชุดให้อารียาด้วย ส่งแบบมาทางแชตก็ได้"(ได้ครับ...ร้านเดิมไหมคร
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 52-หรือแค่ของเล่น?(อารียา)14.25 น."นี่มันอะไรกันคะ?" ฉันถามคุณเชรคที่เดินเข้ามาในบ้าน พร้อมกับข้าวของมากมาย ทั้งชุดราตรีหลายสไตล์ที่เรียงรายกันแทบเต็มห้องโถง"คุณนิคเป็นคนสั่งมาให้คุณอารียาเลือกสำหรับคืนนี้ครับ" คุณเชรคบอกและนั่นทำให้ฉันขมวดคิ้วงง เพราะไม่รับรู้มาก่อนเลยว่าฉันเกี่ยวอะไรกับคืนนี้ยังไง"คืนนี้?" ฉันย้อนถามด้วยความสงสัย"ครับ" หัวหน้างานของฉันตอบสั้น ๆ"คืนนี้ทำไมคะ แล้วเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะ" และฉันก็ถามอีกครั้ง เนื่องจากคำตอบแสนสั้นที่คุณเชรคบอกมา ฉันยังไม่สามารถเข้าใจได้"มีงานเลี้ยงที่คุณรีย่าต้องไปกับคุณนิคน่ะครับ ผมแค่ทำตามที่เจ้านายสั่งมา และหวังว่าคุณรีย่าจะให้ความร่วมมือเช่นกัน ไม่อย่างนั้นคุณนิคฆ่าผมตายแน่ ๆ" คุณเชรคพูดซะยาวเหยียดด้วยสายตาเว้าวอน"ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลยล่ะครับ" ฉันยังคงเอ่ยถามไม่ต่างจากเดิม"ผมบอกไปเมื่อสักครู่นี่ไงครับ...เอาเป็นว่ารับรู้แล้วนะ" ฉันชักสีหน้าระอาเมื่อได้ฟังคำพูดที่คุณเชรคตอบมา อยู่ด้วยกันมานานหรือไงถึงได้พูดกวนเหมือนกับเจ้านายไม่มีผิด นี่ฉันมาอยู่ผิดที่ผิดทางหรือไงกันนะ ถึงต้องมาเจอคนปั่นประสาทข
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 53 - เอาร้อยล้านมาแลก"ฉันจะเป็นอะไรแล้วมันหนักส่วนไหนของคุณไม่ทราบเหรอคะ? " ฉันตอบพร้อมกับระบายยิ้มออกมาทว่าต้องกัดฟันอย่างอดกลั้น แม้จะรู้สึกโกรธในคำแดกดันของผู้หญิงคนนั้น หากว่าไม่คิดไว้หน้าเจ้านายฉันคงได้ตะเพิดยัยนี่แทบกลับบ้านไม่ทัน แม้ฉันจะอารมณ์ร้อนแต่ในสถานที่อันไม่ควร ฉันก็สามารถควบคุมได้ แต่อย่าให้ได้หลุดพ้นสายตาใคร คนอย่างอารียาไม่ยอมให้ใครมาเย้ยและเหยียดหยามหรอก นอกจากฉันสู้ไม่ไหว!"ระวังคำพูดของคุณด้วยนาตาลี" เป็นคุณนิคที่พูดแทรก และจับมือของฉันไว้ เขาบีบเบา ๆ เหมือนกำลังสื่อว่าปลอบใจฉันอยู่ เขาดูนิ่งและใจเย็นแต่สิ่งที่ฉันเห็นในแววตาเขามันคือความไม่พอใจ หรือว่าฉันสำคัญตัวเองมากไปที่คิดแบบนั้น เขาอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันรู้สึกก็ได้"อะไรกันคะนิค ฉันก็แค่พูดแหย่เล่นเองค่ะไม่ได้จริงจังหรอกนะ" ไม่ได้จริงจังน่าตบให้ปากแตก ยัยนี่ดูแขวะฉันอย่างไม่มีมารยาท สงสัยที่บ้านคงขาดการอบรมเวลาอยู่ในสังคม หน้าตาก็ดีแถมได้ยินว่าเป็นนางบงนางแบบแถวหน้าไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงได้วางตัวอย่างกับเกิดในสลัมก็ไม่ปาน หน้ากากที่ใส่คงคลุมไม่มิดกมลสันดานละมั้ง...ฉันก็ได้แต่ก่นด
บทส่งท้าย-มันคือรักที่ยากจะหวนกลับ(อารียา)เวลาผ่านไปหลายเดือน คนที่อยู่ในท้องก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลา คำสัญญาที่คนแก่ของฉันเคยให้ไว้ ภาระหน้าที่การงานก็รีบเคลียร์แล้วพาฉันมาเที่ยว...("เรียบร้อยดีใช่ไหม? อืม แล้วนี่นายอยู่ที่บริษัทไหม?...งานที่บริษัทฝากนายด้วย เดี๋ยวสิ้นปีจะตบโบนัสให้อย่างงามเลย...มึงพูดให้มันเคลียร์ ๆ ดิเชรค... ไอ้เชรค!")ประโยคเหล่านี้ฉันนั่งฟังพร้อมกับรอยยิ้มในบางครา และแน่นอนว่าเขากำลังคุยกับเลขาคนสนิท ที่สามารถฝากฝังหน้าที่การงานได้ คำพูดที่หยาบโลนแต่แอบซ่อนด้วยความทะเล้น คนแก่ ๆ ที่ฉันเคยตราหน้าว่า เป็นเหมือนหมาที่เอาไม่เลิกฤดู สุดท้ายจนก็ต้องมาตกม้าตายและกลืนน้ำลายตัวเอง ซึ่งก็ไม่ต่างจากเขา ที่อดีตเคยลั่นไม่คิดจะเอาผู้หญิงอย่างฉันทำเมีย...เสมอกันทั้งฉันและเขาสายลมอ่อนพัดกระทบใบหน้า ทำให้ฉันรู้สึกดี มันสดชื่นจนยากจะบรรยาย ตอนนี้ฉันกลายเป็นคุณแม่ที่พร้อมดูแลลูกน้อยที่อยู่ในท้อง คนที่ไม่เคยเห็นหน้าแต่ว่าฉันกลับรักมากมาย แม้ถวายชีวิตฉันก็สามารถให้เขาได้ 'ลูก' เพียงเท่านั้นที่ฉันยอมและ และคนแก่ที่นั่งข้างฉันก็คงคิดและรู้สึกแบบเดียวกัน"อากาศเริ่มเย็นแล้วนะ""ขอนั่ง
(อารียา)หลังจากที่ฉันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้ก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว เพราะอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่คนแก่ของฉันก็แสดงความโอเวอร์เร้าหรืออยากให้อยู่ใกล้หมอต่อ ให้เหตุผลว่าอยากให้แน่ใจว่าฉันหายดีแล้วจริง ๆ จนฉันต้องเอาลูกที่ยังเท่าเม็ดถั่วมาอ้างว่าไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาล เขาถึงได้ยอมให้ฉันกลับมาพักที่บ้าน…เขามันเวอร์ทั้งที่ฉันปกติดีทุกอย่าง“ไม่ต้องประคองหรอก หนูเดินเองได้” ฉันบอกเขาในขณะที่เราสองคนกำลังเดินเข้าไปในตัวบ้าน“ไม่ได้หรอกเผื่อลื่นขึ้นมาจะทำยังไง อยู่ใกล้ ๆ แบบนี้มีอะไรจะได้รับไว้ทัน ทำไมหนูไม่เข้าใจอะ” เหตุผลคนแก่ที่ทำฉันต้องอมยิ้ม แม้บางทีจะดูงี่เง่าไปบ้างก็เถอะ“ก็ไม่อยากให้อาวุ่นวายไง แล้วนี่งานไม่เยอะเหรอถึงไม่เข้าบริษัท” หันไปถามเขา ทำเอาคนแก่ของฉันถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที“นี่ไล่ทางอ้อมใช่ไหม ทำไมอยู่ด้วยกันมันอึดอัดมากหรือไง ใช่สิคนอายุเยอะมันคงไม่กร้าวใจเหมือนคนหนุ่ม ๆ” มีโวยวายเบา ๆ อย่างกับน้อยใจ อะไรวิ่งเข้าหัวสมองทำให้เขาต้องมีอาการวัยรุ่นแบบนี้นะ ทำฉันกลั้นขำแทบไม่ไหวเลยทีเดียว“อะไรของคุณอากันคะเนี้ย หนูไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย แค่เป็นห่วงว่างานขอ
(นิโคลไล)“ว่าไงเชรค” โทรศัพท์มือถือดังขึ้นจนผมต้องหันไปสนใจ เป็นเชรคที่โทรเข้ามา ผมกลัวว่าอารียาจะตื่นหากคุยอยู่ตรงนั้น จึงเดินออกไปตรงระเบียง เพราะตอนนี้เธอกำลังนอนหลับสนิท“เรื่องที่นายให้ผมไปสืบได้ความแล้วครับ”“ว่ามา”“คุณไมค์กับคุณนาตาลีร่วมมือกันทำร้ายคุณอารียาจริง ๆ ครับ เขาเป็นลูกชายของมิสเตอร์ปาเวลที่ฆ่าตัวตาย หลังจากที่คุณนิคไปเทคโอเวอร์บริษัทนั้นมา แต่คุณไมค์ก็มีธุรกิจที่เรารู้กัน แต่จริงแล้วบริษัทที่พ่อเขาสร้างมากับมือเข้าสู่สภาวะวิกฤตเรื่องการเงิน เพื่อรักษาบริษัทนั้นไว้เขาจึงได้ยอมให้ทางเราเทคโอเวอร์” “ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขามีทายาทอีกคน”“คุณไมค์เป็นลูกภรรยาคนที่สองของมิสเตอร์ปาเวลครับ เขาและพ่อของเขาผูกพันกันมาก เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน และผมคิดว่าการที่เขาเข้าใกล้คุณอารียาเพราะว่า.....”“คงเพราะคิดว่าฉันเป็นต้นเหตุให้พ่อเขาฆ่าตัวตายสินะ”“พ่อเขาเป็นคนขอให้คุณนิคช่วยซื้อบริษัทไว้ เพราะห่วงพนักงานกลัวว่าจะตกงานหากบริษัทปิดตัวลง จุดนี้ผมคิดว่าคุณไมค์คงไม่ทราบถึงเบื้องลึกเหล่านี้”สิ่งที่ผมมอบหมายให้เชรคไปตามสืบ เรื่องราวที่ผมเฝ้ารอ มันทำให้ผมหูผึ่งแ
(อารียา)ฉันตื่นนอนในยามเช้า ข้างเตียงไม่มีเขาที่เฝ้าฉันเมื่อคืน กวาดสายตามองหาจนพบว่าเขายืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียง เหมือนกับเลี่ยงไม่อยากให้ใครได้ยิน ไม่รู้ว่ากลัวจะรบกวนการนอนหลับของฉัน หรือมันมีเรื่องอะไรที่ปิดบังจนไม่อยากได้ฉันรับรู้ ฉันนอนมองแผ่นของเขาอย่างครุ่นคิด พร้อมกับทบทวนคำพูดและการอ้อนวอนของเขาที่พูดเมื่อคืน...ฉันควรเปิดใจและให้โอกาสเขาได้เป็นพ่อของลูกดีไหม?“ตื่นแล้วเหรอ...รู้สึกยังไงบ้าง ปวดหัวหรือรู้สึกไม่สบายตัวไหม?” เขาถามทันทีเมื่อเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่วางสาย ถามรัวจนฉันตั้งตัวที่จะให้คำตอบไม่ทัน สีหน้าของเขาดูห่วงใยฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกดี แต่ก็ไม่รู้ว่าคนอย่างนิโคลไลจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน ไม่แน่ใจว่าเขาจะจริงจังหรือไม่ ฉันไม่อยากจะคาดหวังกับผู้ชายคนนี้เลย...กลัวผิดหวัง“ไม่เป็นอะไรแล้ว หนูโอเคตอนนี้อยากกลับบ้าน” ฉันบอกเขาในสิ่งที่ต้องการ ฉันไม่ชอบกลิ่นของโรงพยาบาลเลยสักนิด“ให้หมอดูอาการอีกสักวันสองวันก่อนเถอะนะ จะได้มั่นใจว่าปลอดภัยแล้วจริง ๆ” เขาคะยั้นคะยอ พร้อมกับมือเอื้อมมาลูบหัวของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันมองหน้าเขาอย่างสังเกต สายตาของเขามองฉันต่างไปจากเดิมใน
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 59-ยอมทุกอย่าง“นายคิดจะทำอะไรกันไมค์ เข้าหาอารียาเพื่ออะไร” จากที่เชรคเล่าให้ฟัง ทำให้ผมนั่งคิดทวนคนเดียวอยู่ในห้อง มีเพียงความมืดสลัวที่อยู่เป็นเพื่อนตอนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมนึกห่วงอารียามากกว่าเดิม ผมกลัวว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอจนได้รับอันตรายอีก ผมเดินออกมาตรงระเบียงห้องพักฟื้น ยืนมองทอดไกลไปอย่างไร้จุดหมาย สมองคิดเรื่องราวมากมายที่มันสามารถเชื่อมโยงกัน แต่นึกทวนยังไงผมก็นึกมันไม่ออก ตอนนี้โคตรกลุ้มเลยล่ะผมเดินกลับเข้ามาในห้องพักฟื้นของอารียา แล้วนั่งลงข้างเธอ ผมกุมมือของเธอไว้ แล้วจ้องมองใบหน้าของเธอในความมืดสลัว คิดกลัวและกังวลจนตอนนี้ผมรู้สึกนอนไม่หลับ ห่วงความปลอดภัยของเธอหากผมเผลอหลับไป แล้วใครแอบเข้ามาทำร้ายเธออีก“อา...” เสียงของอารียาที่แผ่วเบาเรียกผมจนต้องตื่นตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ความเงียบทำให้ผมได้ยินเสียงของเธอที่แหบแห้งชัดเจน“หนูเป็นยังไงบ้าง รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม เดี๋ยวอาเรียกหมอให้” ผมรีบถามอาการของเธอทันที ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไฟหัวเตียงเพื่อให้มีแสงสว่าง“ลูกละคะปลอดภัยใช่ไหม?” เป็นคำถามแรกที่เธอเอ่ยขึ้น ไม่ได้นึก
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 58 - กำจัด(ก็คุณพลาดเองช่วยไม่ได้ จะมาโทษผมได้ยังไง...นั่นมันเรื่องของคุณ ผมช่วยขนาดนี้แล้วยังไม่มีปัญญาจัดการ.....อืม ค่อยคิดอีกที และคุณก็ควรห่างการติดต่อผมสักพักด้วย...แค่นี้นะ)(เปิดทางให้แล้วยังโง่อีก) "เชรคนายจัดการเรื่องที่อารียาถูกทำร้ายให้เด็ดขาด ฉันไม่มีปล่อยให้อารียาเจ็บฟรีแน่" ผมเดินออกมานอกห้องพักของอารียาหลังจากที่เธอนอนหลับไปแล้ว สั่งการกับเชรคที่รออยู่ด้านนอก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ผมโมโหมาก และคงยากหากมันไม่ได้รับการคลี่คลายในแบบของผม ผมไม่ได้ใจร้ายหากใครไม่คิดทำลายผมหรือคนที่ผมรักก่อน"ครับนาย ผมจะรีบจัดการให้ทันที" เชรคตบปากรับคำ เป็นคนสนิทที่ผมไว้ใจมากและรักเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง เราสองคนสนิทสนมกันมานานจนรู้ใจกัน"นาตาลีทำเกินไปและฉันจะไม่เอาไว้ให้รกหูรกตา ถ้าอยู่ไม่เป็นเย็นไม่ได้ก็อย่าคิดว่าจะได้มีที่ยืน...ฉันเอาจริง!!!" ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ยิ่งนึกภาพที่อารียากำลังจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา มันยิ่งทำให้ผมโกรธเคือง หญิงหรือชายหากสร้างปัญหาให้ผมก็ไม่เอาไว้"ครับ” เชรคก้มหัวตอบรับคำสั่งของผมอย่างที่เขาเคยทำ“เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะอยู่เฝ้าอา
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 57-ช่วยที(นิโคลไล)สิ่งที่นาตาลีทำกับอารียา วันนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยเธอไปง่าย ๆ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลามากพอที่จะมาตำหนิเธอ เพราะชีวิตของอารียา กำลังจมดิ่งลงสู่ก้นสระ"เกินไปจริง ๆ นาตาลีอย่าคิดว่าคุณจะรอดที่ทำร้ายเมียผมขนาดนี้!""ถ้ามันตายฉันคงกินอิ่มนอนหลับสบาย ฮ่าฮ่าฮ่า"พูดจบผมกำลังจะกระโดดลงสระเพื่อไปช่วยอารียา แต่ก็มีคนตัดหน้าแล้วดำน้ำลงไปคว้าตัวอารียามาก่อน ไม่รู้เลยว่าอารียาว่ายน้ำไม่เป็น ตอนที่เห็นเธอตกลงไปใจของผมหล่นวูบไปสู่ปลายเท้า เสียงหัวเราะของนาตาลีที่ดังก้องอย่างสะใจ ตอนนี้เธอเหมือนกับคนเสียสติไปแล้ว ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาโดยไม่คำนึงเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้น เป็นการพรากชีวิตคนคนหนึ่งได้เลย"รียา รียา" ผมดึงอารียาขึ้นมาแล้ววางเธอนอนราบกับพื้นข้างสระ ตบแก้มเธอเบา ๆ หวังให้เธอรู้สึกตัว เพราะตอนนี้อริยาหมดสติ หัวใจของผมสั่นไหวและหวาดกลัว ห่วงทั้งเมียและลูกที่อยู่ในท้องจะได้รับอันตราย"ผายปอดเธอสิครับคุณนิค" เป็นเสียงของคู่แข่งหัวใจ เลยอยากเตือนสติ ทำให้ผมทำตามในสิ่งที่เขาบอก ค่อยๆปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับอารียา ทำ CPR และผายปอดให้เธอวนซ้ำอยู่แบบนั้น แ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 56-คนในความลับที่ไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป(นิโคลไล)"เธอคือภรรยาของผม ที่ถูกต้องทางพฤตินัยและก็กำลังจะถูกต้องทางนิตินัยอีกไม่ช้า" ผมประกาศเสียงดังแน่ชัดว่าคนทั้งห้องจัดเลี้ยงต้องได้ยิน สิ่งที่คิดพูดออกไปมันถูกตรองมาอย่างถี่ถ้วน วันนี้ที่ผมให้อารียามางานด้วย ก็เพราะจะประกาศความลับที่ผมไม่อยากปิดบังอีกต่อไป ผมอยากให้ใครต่อใครรับรู้ว่าเธอคือคนที่ผมรัก และพร้อมจะให้เธอก้าวเข้ามาในชีวิตนับจากนี้ทุกคำที่ผมพูดออกไป สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนที่อยู่ในงาน บางคนหันไปกระซิบกระซาบกัน แต่มันก็ไม่ทำให้ผมสนใจเท่าผู้หญิงตรงหน้า ที่ดวงตาเริ่มสั่นระริกผมไม่รู้ว่าเธอกำลังอายหรือดีใจกันแน่ แต่น้ำตาของเธอมันทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีมากกว่าด้านลบ"แต่งงานกันนะรียา" ผมพูดย้ำอีกครั้งพร้อมกับเอื้อมมือเพื่อรอรับ ในใจก็ลุ้นว่าอารียาจะยอมแต่งงานกับผมไหม?"อ๊ะ!" "ไม่มีทาง! มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ต้องเป็นฉันสินิคคนคนนั้นต้องเป็นฉันไม่ใช่นังเด็กนี่" เพียงผมพูดจบจู่ ๆ นาตาลีก็โผล่พรวดเข้ามา แล้วผลักอารียาจนเธอเซถลา ดีที่ผมคว้ามือเธอไว้ได้ทัน และเป็นคุณไมค์ที่รับเธอจากด้านหลัง รองเท้าส้นส
"ฉันอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกค่ะ" ฉันเหมือนจะมือสั่นเมื่อเห็นคุณนิคมุ่งไปยังผู้หญิงที่ชื่อนาตาลี พูดกับคุณไมค์จบฉันก็หันหลังตั้งท่าจะเดินออกมา"จะไปไหน?" แต่ว่าต้องหยุดก้าวเดิน เมื่อแขนถูกจับรั้งไว้ นั่นจึงทำให้ฉันหันหลังกลับไปมอง".........." คนที่คว้าแขนไว้ทำให้ฉันแน่นิ่ง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้แต่มองหน้าเขาชั่วครู่ ไม่สามารถทานทนต่อสายตาของคุณนิคได้ไหว จึงได้เบือนหน้าหลบสายตา ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรเพียงแค่มองหน้าเขาแล้วภาพทุกอย่างมันก็ถูกมโนไปไกล จนแทบอยากปล่อยให้น้ำตารินไหล มันอ่อนไหวเพียงแค่สบตาเขา "ฉะ ฉันหายใจไม่ค่อยออก เลยว่าจะไปสูดอากาศข้างนอก" ฉันตอบเขาด้วยน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้เป็นปกติที่สุด"รอก่อนสิ อามีบางอย่างจะบอก" คุณนิคพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ แต่แววตาของเขาย้อนแย้ง มันดูมีประกายฉายวับออกมา ฉันหันไปมองผู้คนโดยรอบ ทุกสายตาจดจ้องมายังฉันกับคุณนิค ที่ยืนอยู่ภายใต้แสงไฟสาดส่องสว่างจ้า"บ บอกอะไรคะ?" ฉันย้อนถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก มันประหม่าจนไม่รู้จะเก็บทรงยังไงให้แน่นิ่งและไม่วอกแวกต่อหน้าสาธารณะชนที่รายล้อมตอนนี้"อารู้ว่ามันอาจจะช้าไป และที่ผ่านมาหนูก็คงเสียใจมามากพอสมคว