รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 17-แผลงฤทธิ์เบา ๆ(นิโคลไล)"นิคคะ" ในระหว่างที่ผมกำลังทานมื้อเช้าที่มีอารียานั่งหน้าบึ้งจ้องมองอย่างคนโมโห ก็มีเสียงของคู่ขาที่ผมมาพาเมื่อคืนเอ่ยแทรก นั่นทำให้อารียาหันไปมองทันที"อืม เยลิน่า" ผมตอบรับแต่ไม่ได้สนใจหันไปมองหน้าคู่ขา ที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ตัวผม ได้แต่สนใจอ่านหนังสือพิมพ์ พร้อมกับกินมื้อเช้าไปด้วย จนเยลิน่าเดินมาถึงแล้วเธอกดปลายจมูกหอมแก้มของผมทั้งสองข้าง เห็นแต่อารียานั่งจ้องและคว่ำปากมองบน แล้วผมต้องสนเธอเหรอไม่มีทาง เพราะเธอไม่ได้สำคัญอะไรกับผมขนาดนั้น"สว่างโล่ขนาดนี้ยังไม่มียางอาย หน้าด้านหน้ามึนจริง ๆ" อารียาเธอก้มหน้าแล้วพูดเป็นภาษาไทย ผมว่าเธอต้องกำลังด่าผมอยู่แน่ ๆ ผมควรไปเรียนภาษาไทยดีไหมวะ เพื่อจะได้ฟังอารียารู้เรื่องแบบนี้ผมถูกเธอหลอกด่าทั้งปีทั้งชาติแน่นอน"นี่เด็กใหม่ของคุณเหรอคะนิค" เยลิน่าถามผมในขณะที่เธอเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งซ้าย ซึ่งมันอยู่ตรงข้ามกับอารียาที่นั่งขวามือของผม"เปล่า" ผมตอบแบบนิ่ง ๆ สายตาก็ยังคงจ้องอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจ วันนี้ผมมีนัดคุยงานกับคู่ค้าที่ถูกเลื่อนในวันที่ตามหาอารียา เพราะเธอเป็นตัวปัญหาเลยทำให้การเจร
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 18 - เจียมตัว(อารียา)วันทั้งวันฉันเอาแต่อยู่ในห้อง มีเดินลงมาข้างล่างบ้างยามหิว พยายามจะหยิบจับช่วยเหลือแม่บ้าน ก็ไม่มีใครให้ฉันช่วยอะไรเลย มันทำให้ฉันเบื่อหน่ายและเซ็งเอามาก ๆ นั่งดูทีวีนอนเล่นจนสันนิบาตจะกินหลังหมดละกว่าจะเย็นก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องทำให้ฉันเลิกสนใจทีวีที่กำลังฉายซีรี่ส์เรื่องที่ฉันชอบ เดินตรงไปเปิดประตูอย่างไม่ค่อยสะดวกเพราะข้อเท้าที่ยังเจ็บไม่หายดี"มีอะไร?" ฉันถามเสียงห้วนเมื่อเป็นคนที่ฉันเบื่อขี้หน้า ก็ไอ้คุณอาหื่นกามนั่นแหละที่มาเคาะประตูขัดความสุขในการดูซีรี่ส์ของฉัน"สบายดีเนาะมีแต่นอนกับกิน" มาถึงก็ปากหมาแขวะฉันทันที"ไม่มีตามองหรือไงว่าฉันเจ็บขา หรือว่าตาฟ่าฟางเพราะแก่แล้วถึงมองไม่ออกทั้งที่ผ้าพันขนาดนี้" ฉันสวนอย่างไม่ยอมเหมือนกัน จะมาเอาแต่ด่าฉันอยู่ฝ่ายเดียวไม่มีทางซะหรอก"เธอนี่นะ!!""ไม่มีอะไรกับฉันใช่ไหม ถ้าไม่มีธุระก็หลบไปฉันจะเข้าห้องไปดูซีรี่ส์"เขาชี้หน้าตั้งท่าจะด่าฉัน แต่ดันนึกคำพูดไม่ออกละมั้ง ถึงได้ชะงักและขบฟันแน่นแบบนั้น จนฉันระอาและพยายามจะปิดประตูเมื่อเขาไม่ยอมพูดอะไรสักที เสียเวลาดูซีรี่ส์ของฉันจริง ๆ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 19 - ไม่ปกติ(อารียา)ข้อตกลงที่เขาพูดมามันทำให้ฉันเสียความรู้สึก เหมือนเขากำลังคิดว่าฉันจะมาเกาะเขากินไปตลอดชีวิตหรือไง ฉันมีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่จับผู้ชายรวยเพื่อให้ชีวิตตัวเองมีกินมีใช้ คำพูดของเขามันดูถูกและหยามเหยียดจนฉันที่นั่งฟังต้องพยายามควบคุมอารมณ์ เจ็บใจแค่ไหนก็พยายามข่มไว้ไม่โวยวาย อยากจะตอบโต้แต่ก็เลือกที่จะเงียบและชี้แจงให้ฟัง และฉันหวังว่าเขาจะเข้าใจและมองฉันในแง่ดีขึ้นบ้าง อย่างที่เห็นแม้ฉันจะปากไวปากร้าย ก็ไม่เคยดูแคลนหรือว่าร้ายใครก่อน สิ่งที่ฉันตั้งใจและมุ่งมั่นจริงจังนับจากนี้คือการมีเงิน มันคือสิ่งที่ฉันตั้งใจหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหน็บแนมดูแคลนจากผู้ชายปากร้าย มันคือเป้าหมายที่ฉันต้องทำให้ได้ จะได้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นเพื่อความสบายใจของเขา"เฮ้อ..." ฉันยืนใต้ฝักบัวปล่อยให้สายน้ำมันชโลมอารมณ์ที่เป็นตอนนี้ให้เย็นลง คิดแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา เมื่อไม่รู้ว่าวันข้างหน้าฉันจะต้องเจอกับอะไรบ้าง มองอนาคตของตัวเองไม่ออกเลยจริง ๆ"ฉันต้องใช้เวลานานแค่ไหนนะที่จะได้ออกไปจากที่นี่" ฉันยืนพึมพำกับตัวเองในห้องน้ำ ก่อนจะรีบจัดการธุระส่วนตัวให้แล้วเสร็จ ใช้ผ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 20 - ปากบอกไม่แคร์(นิโคลไล)คืนนั้นที่ผมเข้าไปพูดเรื่องข้อตกลงกับอารียา การคุยกันในช่วงสุดท้าย แววตาเศร้าที่อารียาแสดงออกมา มันทำให้ผมหวนคิดทบทวนคำพูดตัวเองจนรู้สึกผิด ในคืนเดียวกันผมเลยคิดจะไปขอโทษเธอ อ้างว่าอาสาเอานมมาให้ ผมไม่เคยพูดขอโทษใครนอกจากพ่อกับแม่ แต่กับอารียาทำไมผมถึงรู้สึกแบบนั้นก็ไม่รู้ อาจจะเพราะชีวิตเธอน่าสงสารละมั้ง แต่สุดท้ายแล้วผมก็ปากหนักพูดไม่ออก เพียงแค่มองหน้าเธอแล้วเดินจากมาตอนนี้อารียาเริ่มเข้ามามีบทบาทในบริษัท ผมให้เธอมาช่วยงานเชรค เห็นว่าเชรคมีงานล้นมือจนทำแทบไม่ทัน เลยให้อารียามารับหน้าที่นี้ไป และตอนนี้เธอก็เข้ามายืนอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของผมอารียาที่อยู่ชุดแซกตัวยาวเข้ารูป เธอยืนนิ่งด้วยท่าทางสง่า แม้ว่าเธอจะตัวเล็กบอบบางแต่กับดูมีเสน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว ผมสังเกตเห็นตั้งแต่ที่เธอเดินแนะนำตัวกับพนักงาน ล้วนเป็นเป้าสายตาของพนักงานชาย มองเธอด้วยสายตาหยาดเยิ้มอย่างกับต้องมนตร์"ท่านประธานคะ" เสียงของอารียาดังขึ้น นั่นทำให้ผมที่จ้องหน้าเธออยู่นานได้สติกลับคืน "ฉันเห็นคุณเอาแต่มองหน้าฉันโดยไม่พูดอะไร หน้าของฉันผิดปกติเหรอคะ?" เธอถา
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 21 - อยากลองอะไรใหม่ ๆ(อารียา)บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจกับการที่เขาเรียกฉันเข้าไปพบ แต่แล้วก็เหมือนจะจบเอาง่าย ๆ ทั้งที่ดูแล้วเขาเหมือนจะมีอะไรพูดคุยกับฉันมากมาย สายตาที่เขามองมาก็แอบซ่อนบางสิ่งเอาไว้ แต่ดันไม่พูดมันออกมา ฉันก็ได้แต่สงสัยไม่ถามเขามากมาย เดี๋ยวจะหาว่าฉันไปวุ่นวายเขาอีก ไม่อยากจะผิดเงื่อนไขที่เขายื่นให้และฉันก็ได้รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะด้วยความมุ่งมั่น ฉันจะไม่มีวันทำผิดเจตนารมณ์ของตัวเองเด็ดขาด เพราะนั่นจะทำให้เขาดูถูกฉันอย่างเต็มปากเต็มคำและคงหนำใจเขาไม่น้อย"เอ่อ คุณอารียาครับพอดีผมลืมไปว่าวันนี้มีประชุมตอนบ่ายสอง ผมว่าคุณน่าจะต้องเข้าร่วมด้วยนะครับจะได้เรียนรู้งานในจุดนี้ พอจะไหวไหมครับ" ฉันเดินมานั่งเก้าอี้ไม่ทันไร คุณเชรคก็เดินมาพูดคุยและบอกกล่าวให้รับรู้ ฉันไม่มีปัญหาที่จะเรียนรู้งานแค่สั่งการมาฉันก็พร้อมที่จะฝึกฝน"ได้ค่ะ แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง" ฉันยินดีมากกับการที่คุณเชรคจะมอบหมายงานเพื่อการเรียนรู้ จะทำให้เขาดูว่าคนอย่างฉันก็มีศักยภาพพอทที่จะทำงาน เขาจะได้มองฉันในทางที่ดีขึ้นและเลิกดูถูกดูแคลน"ตามผมมาเลยครับ" คุณเชรคพยักหน้ารับและเอ่ยขึ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 22 - ขัดหูขัดตา(นิโคลไล)ผมเดินออกมาจากห้องทำงานหลังจากที่เซ็นเอกสารกองอยู่บนโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันเป็นเวลาที่ใกล้เที่ยงพอดี แต่ทำไมไม่เห็นเชรคกับอารียาต้องนั่งอยู่ด้านหน้า ผมเลยเดินตามหาและได้เจอสองคนนั้นพอดี กำลังคุยกันด้วยรอยยิ้มแล้วมันทำให้ผมรู้สึกว่าต้องรีบเข้าไปขัด ไม่รู้เหมือนกันทำไมผมต้องมารู้สึกอะไรแบบนี้ เห็นอารียาคุยกับคนอื่นทีไรก็เป็นขัดหูขัดตาไปหมด ผมว่าผมต้องเริ่มเสียสติไปแล้วแน่ ๆเสียงกระซิบของเหล่าพนักงานแว่วเข้ามาในหู คงแปลกใจที่ทำไมผมผู้ที่ไม่เคยมากินข้าวเที่ยงที่นี่ถึงโผล่มา มันคงแปลกตาพนักงานไม่น้อย"ทานข้าวให้อร่อยนะ" ผมทักทายพวกเขาและนั่นทำให้เหล่าพนักงานยิ้มกริ่ม ผมจึงเดินออกมาหาที่ว่างนั่ง"คุณอารียาจะไปไหนครับ" ไอ้เชรคมันถามตัดหน้าทั้งที่ผมกำลังอ้าปากถามเมื่อเห็นเธอกำลังเดินถือถาดอาหารผ่านหน้าไป ทำให้ผมต้องรีบวางท่าทำทีตักอาหารตรงหน้าเข้าปากแทน"ฉันจะไปนั่งตรงนั้นค่ะ" เธอตอบกลับแต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเธอมีสีหน้ายังไง แต่น้ำเสียงที่ใช้พูดกับเชรคแม่งโคตรสองมาตรฐานเวลาคุยกับผมมาก"ทำไมไม่มานั่งด้วยกันละครับ" เชรคมันลุกยืนแล้วถามอาร
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 23 - ขยี้ให้หมดฤทธิ์(อารียา)"ฮึ!" ฉันแค่นเสียงในลำคออย่างนึกตลก เมื่อจู่ ๆ เขาก็จูบฉันอย่างหนักหน่วง อยากหลบหนีแต่หลบไม่ทันจึงทำเพียงสบตาเขาในระยะใกล้อย่างเย้ยหยัน นั่นจึงทำให้เขาผละริมฝีปากออก แล้วจ้องหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจ มีแต่ฉันที่กำลังมองเขาแล้วยกยิ้มมุมปากให้“อาไม่ค่อยกินเด็ก แต่เห็นว่าหนูคนนี้เด็ด อาเลยจะกินอย่างนั้นเหรอคะ?” ฉันพูดออกไปอย่างท้ายทาย ในเมื่อเขาล้ำเส้นตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องวางท่า ยังไงก็อยู่ในห้องที่ไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว“เหอะ~เสืออย่างอา ไม่กินผู้หญิงซ้ำหน้าและคนใกล้ตัวหรอก” เขาขยับตัวออกห่าง เดินไปพิงกับโต๊ะทำงานยืนมือกอดอกแล้วเอ่ยขึ้น“ทำไมคุณอาถึงเรียกตัวเองว่าเสือล่ะคะ ... ทั้ง ๆ ที่ก็เอาไม่เลือกฤดูเหมือนกับหมา หนูว่าไม่น่าจะใช่เสือนะจากที่เคยเห็น”“อารียา!”“หึ...อีกอย่างอาก็ยังไม่ได้กินหนูนี่คะและคงไม่มีทางได้กินง่าย ๆ ด้วย" ฉันพูดทิ้งท้ายแล้วหันหลังหวังเดินออกมา เจ็บใจนักที่ชอบขโมยจูบฉันโดยไม่ทันตั้งตัว ไอ้แก่ชั่วช้า!กึก!"ปากดีขนาดนี้คิดว่าจะด่าแล้วหนีไปง่าย ๆ งั้นเหรอหลานรัก"ฉันกำลังเปิดประตูออกมา แต่ว่าต้องถูกปิดลงพร้อมล็อกก
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 24 - เรื่องธรรมดา(นิโคลไล)"ท่านประธาน ทำไมคุณอารียาเธอ...." เชรคมันทักเมื่อผมอุ้มอารียาออกมาจากห้องทำงาน ในสภาพที่เธอไม่ได้สติ เพราะเป็นลมในระหว่างที่กิจกรรมรักของผมมันพุ่งพล่าน จนผมจัดการเธอไปหลายรอบ"อารียาเป็นลมเดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับบ้าน ฝากนายดูงานทางนี้แทนด้วย" ผมสั่งเชรค"ผมขับรถให้ไหมครับ" เชรคอาสาแต่ว่าผมไม่ต้องการ เรื่องที่ผมเผด็จศึกยัยหลานสาวจะต้องไม่มีใครรู้ มันต้องเป็นความลับ ไม่อย่างนั้นผมได้ถูกตราหน้าแน่นอน"ไม่เป็นไรฉันไปเอง ฝากด้วยนะเชรค""ครับ"ฝากฝังงานเสร็จผมก็อุ้มอารียาเขาไปยังลิฟต์ของผู้บริหารทันที ไม่มีใครเห็นเนื่องจากเป็นลิฟต์ส่วนตัวที่มีเพียงผมคนเดียวใช้งาน มันจึงจัดการพาอารียาออกมาแบบลับตาคนได้อย่างง่ายดาย"อย่ามายุ่งกับฉัน ปล่อย~""โอ๊ะโอ๊ย! ขนาดหลับยังตีเจ็บเลยยัยตัวแสบ"ผมวางอารียานั่งบนเบาะภายในรถยนต์ส่วนตัว แต่เหมือนกับว่าเธอละเมอจนเผลอตบเข้าแก้มผมเต็ม ๆ มือเธอโคตรหนัก จนผมรู้สึกแสบแก้มไปหมดต้องลูบแก้มตัวเองให้คลายความเจ็บก่อนจะจัดการคาดเข็มขัดนิรภัย แล้วอ้อมไปยังฝั่งคนขับจากนั้นผมจึงมุ่งหน้าพาเธอกลับบ้าน แม้ระหว่างทางที่รถยนต์ข
บทส่งท้าย-มันคือรักที่ยากจะหวนกลับ(อารียา)เวลาผ่านไปหลายเดือน คนที่อยู่ในท้องก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลา คำสัญญาที่คนแก่ของฉันเคยให้ไว้ ภาระหน้าที่การงานก็รีบเคลียร์แล้วพาฉันมาเที่ยว...("เรียบร้อยดีใช่ไหม? อืม แล้วนี่นายอยู่ที่บริษัทไหม?...งานที่บริษัทฝากนายด้วย เดี๋ยวสิ้นปีจะตบโบนัสให้อย่างงามเลย...มึงพูดให้มันเคลียร์ ๆ ดิเชรค... ไอ้เชรค!")ประโยคเหล่านี้ฉันนั่งฟังพร้อมกับรอยยิ้มในบางครา และแน่นอนว่าเขากำลังคุยกับเลขาคนสนิท ที่สามารถฝากฝังหน้าที่การงานได้ คำพูดที่หยาบโลนแต่แอบซ่อนด้วยความทะเล้น คนแก่ ๆ ที่ฉันเคยตราหน้าว่า เป็นเหมือนหมาที่เอาไม่เลิกฤดู สุดท้ายจนก็ต้องมาตกม้าตายและกลืนน้ำลายตัวเอง ซึ่งก็ไม่ต่างจากเขา ที่อดีตเคยลั่นไม่คิดจะเอาผู้หญิงอย่างฉันทำเมีย...เสมอกันทั้งฉันและเขาสายลมอ่อนพัดกระทบใบหน้า ทำให้ฉันรู้สึกดี มันสดชื่นจนยากจะบรรยาย ตอนนี้ฉันกลายเป็นคุณแม่ที่พร้อมดูแลลูกน้อยที่อยู่ในท้อง คนที่ไม่เคยเห็นหน้าแต่ว่าฉันกลับรักมากมาย แม้ถวายชีวิตฉันก็สามารถให้เขาได้ 'ลูก' เพียงเท่านั้นที่ฉันยอมและ และคนแก่ที่นั่งข้างฉันก็คงคิดและรู้สึกแบบเดียวกัน"อากาศเริ่มเย็นแล้วนะ""ขอนั่ง
(อารียา)หลังจากที่ฉันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้ก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว เพราะอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่คนแก่ของฉันก็แสดงความโอเวอร์เร้าหรืออยากให้อยู่ใกล้หมอต่อ ให้เหตุผลว่าอยากให้แน่ใจว่าฉันหายดีแล้วจริง ๆ จนฉันต้องเอาลูกที่ยังเท่าเม็ดถั่วมาอ้างว่าไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาล เขาถึงได้ยอมให้ฉันกลับมาพักที่บ้าน…เขามันเวอร์ทั้งที่ฉันปกติดีทุกอย่าง“ไม่ต้องประคองหรอก หนูเดินเองได้” ฉันบอกเขาในขณะที่เราสองคนกำลังเดินเข้าไปในตัวบ้าน“ไม่ได้หรอกเผื่อลื่นขึ้นมาจะทำยังไง อยู่ใกล้ ๆ แบบนี้มีอะไรจะได้รับไว้ทัน ทำไมหนูไม่เข้าใจอะ” เหตุผลคนแก่ที่ทำฉันต้องอมยิ้ม แม้บางทีจะดูงี่เง่าไปบ้างก็เถอะ“ก็ไม่อยากให้อาวุ่นวายไง แล้วนี่งานไม่เยอะเหรอถึงไม่เข้าบริษัท” หันไปถามเขา ทำเอาคนแก่ของฉันถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที“นี่ไล่ทางอ้อมใช่ไหม ทำไมอยู่ด้วยกันมันอึดอัดมากหรือไง ใช่สิคนอายุเยอะมันคงไม่กร้าวใจเหมือนคนหนุ่ม ๆ” มีโวยวายเบา ๆ อย่างกับน้อยใจ อะไรวิ่งเข้าหัวสมองทำให้เขาต้องมีอาการวัยรุ่นแบบนี้นะ ทำฉันกลั้นขำแทบไม่ไหวเลยทีเดียว“อะไรของคุณอากันคะเนี้ย หนูไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย แค่เป็นห่วงว่างานขอ
(นิโคลไล)“ว่าไงเชรค” โทรศัพท์มือถือดังขึ้นจนผมต้องหันไปสนใจ เป็นเชรคที่โทรเข้ามา ผมกลัวว่าอารียาจะตื่นหากคุยอยู่ตรงนั้น จึงเดินออกไปตรงระเบียง เพราะตอนนี้เธอกำลังนอนหลับสนิท“เรื่องที่นายให้ผมไปสืบได้ความแล้วครับ”“ว่ามา”“คุณไมค์กับคุณนาตาลีร่วมมือกันทำร้ายคุณอารียาจริง ๆ ครับ เขาเป็นลูกชายของมิสเตอร์ปาเวลที่ฆ่าตัวตาย หลังจากที่คุณนิคไปเทคโอเวอร์บริษัทนั้นมา แต่คุณไมค์ก็มีธุรกิจที่เรารู้กัน แต่จริงแล้วบริษัทที่พ่อเขาสร้างมากับมือเข้าสู่สภาวะวิกฤตเรื่องการเงิน เพื่อรักษาบริษัทนั้นไว้เขาจึงได้ยอมให้ทางเราเทคโอเวอร์” “ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขามีทายาทอีกคน”“คุณไมค์เป็นลูกภรรยาคนที่สองของมิสเตอร์ปาเวลครับ เขาและพ่อของเขาผูกพันกันมาก เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน และผมคิดว่าการที่เขาเข้าใกล้คุณอารียาเพราะว่า.....”“คงเพราะคิดว่าฉันเป็นต้นเหตุให้พ่อเขาฆ่าตัวตายสินะ”“พ่อเขาเป็นคนขอให้คุณนิคช่วยซื้อบริษัทไว้ เพราะห่วงพนักงานกลัวว่าจะตกงานหากบริษัทปิดตัวลง จุดนี้ผมคิดว่าคุณไมค์คงไม่ทราบถึงเบื้องลึกเหล่านี้”สิ่งที่ผมมอบหมายให้เชรคไปตามสืบ เรื่องราวที่ผมเฝ้ารอ มันทำให้ผมหูผึ่งแ
(อารียา)ฉันตื่นนอนในยามเช้า ข้างเตียงไม่มีเขาที่เฝ้าฉันเมื่อคืน กวาดสายตามองหาจนพบว่าเขายืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียง เหมือนกับเลี่ยงไม่อยากให้ใครได้ยิน ไม่รู้ว่ากลัวจะรบกวนการนอนหลับของฉัน หรือมันมีเรื่องอะไรที่ปิดบังจนไม่อยากได้ฉันรับรู้ ฉันนอนมองแผ่นของเขาอย่างครุ่นคิด พร้อมกับทบทวนคำพูดและการอ้อนวอนของเขาที่พูดเมื่อคืน...ฉันควรเปิดใจและให้โอกาสเขาได้เป็นพ่อของลูกดีไหม?“ตื่นแล้วเหรอ...รู้สึกยังไงบ้าง ปวดหัวหรือรู้สึกไม่สบายตัวไหม?” เขาถามทันทีเมื่อเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่วางสาย ถามรัวจนฉันตั้งตัวที่จะให้คำตอบไม่ทัน สีหน้าของเขาดูห่วงใยฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกดี แต่ก็ไม่รู้ว่าคนอย่างนิโคลไลจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน ไม่แน่ใจว่าเขาจะจริงจังหรือไม่ ฉันไม่อยากจะคาดหวังกับผู้ชายคนนี้เลย...กลัวผิดหวัง“ไม่เป็นอะไรแล้ว หนูโอเคตอนนี้อยากกลับบ้าน” ฉันบอกเขาในสิ่งที่ต้องการ ฉันไม่ชอบกลิ่นของโรงพยาบาลเลยสักนิด“ให้หมอดูอาการอีกสักวันสองวันก่อนเถอะนะ จะได้มั่นใจว่าปลอดภัยแล้วจริง ๆ” เขาคะยั้นคะยอ พร้อมกับมือเอื้อมมาลูบหัวของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันมองหน้าเขาอย่างสังเกต สายตาของเขามองฉันต่างไปจากเดิมใน
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 59-ยอมทุกอย่าง“นายคิดจะทำอะไรกันไมค์ เข้าหาอารียาเพื่ออะไร” จากที่เชรคเล่าให้ฟัง ทำให้ผมนั่งคิดทวนคนเดียวอยู่ในห้อง มีเพียงความมืดสลัวที่อยู่เป็นเพื่อนตอนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมนึกห่วงอารียามากกว่าเดิม ผมกลัวว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอจนได้รับอันตรายอีก ผมเดินออกมาตรงระเบียงห้องพักฟื้น ยืนมองทอดไกลไปอย่างไร้จุดหมาย สมองคิดเรื่องราวมากมายที่มันสามารถเชื่อมโยงกัน แต่นึกทวนยังไงผมก็นึกมันไม่ออก ตอนนี้โคตรกลุ้มเลยล่ะผมเดินกลับเข้ามาในห้องพักฟื้นของอารียา แล้วนั่งลงข้างเธอ ผมกุมมือของเธอไว้ แล้วจ้องมองใบหน้าของเธอในความมืดสลัว คิดกลัวและกังวลจนตอนนี้ผมรู้สึกนอนไม่หลับ ห่วงความปลอดภัยของเธอหากผมเผลอหลับไป แล้วใครแอบเข้ามาทำร้ายเธออีก“อา...” เสียงของอารียาที่แผ่วเบาเรียกผมจนต้องตื่นตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ความเงียบทำให้ผมได้ยินเสียงของเธอที่แหบแห้งชัดเจน“หนูเป็นยังไงบ้าง รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม เดี๋ยวอาเรียกหมอให้” ผมรีบถามอาการของเธอทันที ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไฟหัวเตียงเพื่อให้มีแสงสว่าง“ลูกละคะปลอดภัยใช่ไหม?” เป็นคำถามแรกที่เธอเอ่ยขึ้น ไม่ได้นึก
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 58 - กำจัด(ก็คุณพลาดเองช่วยไม่ได้ จะมาโทษผมได้ยังไง...นั่นมันเรื่องของคุณ ผมช่วยขนาดนี้แล้วยังไม่มีปัญญาจัดการ.....อืม ค่อยคิดอีกที และคุณก็ควรห่างการติดต่อผมสักพักด้วย...แค่นี้นะ)(เปิดทางให้แล้วยังโง่อีก) "เชรคนายจัดการเรื่องที่อารียาถูกทำร้ายให้เด็ดขาด ฉันไม่มีปล่อยให้อารียาเจ็บฟรีแน่" ผมเดินออกมานอกห้องพักของอารียาหลังจากที่เธอนอนหลับไปแล้ว สั่งการกับเชรคที่รออยู่ด้านนอก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ผมโมโหมาก และคงยากหากมันไม่ได้รับการคลี่คลายในแบบของผม ผมไม่ได้ใจร้ายหากใครไม่คิดทำลายผมหรือคนที่ผมรักก่อน"ครับนาย ผมจะรีบจัดการให้ทันที" เชรคตบปากรับคำ เป็นคนสนิทที่ผมไว้ใจมากและรักเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง เราสองคนสนิทสนมกันมานานจนรู้ใจกัน"นาตาลีทำเกินไปและฉันจะไม่เอาไว้ให้รกหูรกตา ถ้าอยู่ไม่เป็นเย็นไม่ได้ก็อย่าคิดว่าจะได้มีที่ยืน...ฉันเอาจริง!!!" ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ยิ่งนึกภาพที่อารียากำลังจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา มันยิ่งทำให้ผมโกรธเคือง หญิงหรือชายหากสร้างปัญหาให้ผมก็ไม่เอาไว้"ครับ” เชรคก้มหัวตอบรับคำสั่งของผมอย่างที่เขาเคยทำ“เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะอยู่เฝ้าอา
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 57-ช่วยที(นิโคลไล)สิ่งที่นาตาลีทำกับอารียา วันนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยเธอไปง่าย ๆ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลามากพอที่จะมาตำหนิเธอ เพราะชีวิตของอารียา กำลังจมดิ่งลงสู่ก้นสระ"เกินไปจริง ๆ นาตาลีอย่าคิดว่าคุณจะรอดที่ทำร้ายเมียผมขนาดนี้!""ถ้ามันตายฉันคงกินอิ่มนอนหลับสบาย ฮ่าฮ่าฮ่า"พูดจบผมกำลังจะกระโดดลงสระเพื่อไปช่วยอารียา แต่ก็มีคนตัดหน้าแล้วดำน้ำลงไปคว้าตัวอารียามาก่อน ไม่รู้เลยว่าอารียาว่ายน้ำไม่เป็น ตอนที่เห็นเธอตกลงไปใจของผมหล่นวูบไปสู่ปลายเท้า เสียงหัวเราะของนาตาลีที่ดังก้องอย่างสะใจ ตอนนี้เธอเหมือนกับคนเสียสติไปแล้ว ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาโดยไม่คำนึงเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้น เป็นการพรากชีวิตคนคนหนึ่งได้เลย"รียา รียา" ผมดึงอารียาขึ้นมาแล้ววางเธอนอนราบกับพื้นข้างสระ ตบแก้มเธอเบา ๆ หวังให้เธอรู้สึกตัว เพราะตอนนี้อริยาหมดสติ หัวใจของผมสั่นไหวและหวาดกลัว ห่วงทั้งเมียและลูกที่อยู่ในท้องจะได้รับอันตราย"ผายปอดเธอสิครับคุณนิค" เป็นเสียงของคู่แข่งหัวใจ เลยอยากเตือนสติ ทำให้ผมทำตามในสิ่งที่เขาบอก ค่อยๆปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับอารียา ทำ CPR และผายปอดให้เธอวนซ้ำอยู่แบบนั้น แ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 56-คนในความลับที่ไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป(นิโคลไล)"เธอคือภรรยาของผม ที่ถูกต้องทางพฤตินัยและก็กำลังจะถูกต้องทางนิตินัยอีกไม่ช้า" ผมประกาศเสียงดังแน่ชัดว่าคนทั้งห้องจัดเลี้ยงต้องได้ยิน สิ่งที่คิดพูดออกไปมันถูกตรองมาอย่างถี่ถ้วน วันนี้ที่ผมให้อารียามางานด้วย ก็เพราะจะประกาศความลับที่ผมไม่อยากปิดบังอีกต่อไป ผมอยากให้ใครต่อใครรับรู้ว่าเธอคือคนที่ผมรัก และพร้อมจะให้เธอก้าวเข้ามาในชีวิตนับจากนี้ทุกคำที่ผมพูดออกไป สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนที่อยู่ในงาน บางคนหันไปกระซิบกระซาบกัน แต่มันก็ไม่ทำให้ผมสนใจเท่าผู้หญิงตรงหน้า ที่ดวงตาเริ่มสั่นระริกผมไม่รู้ว่าเธอกำลังอายหรือดีใจกันแน่ แต่น้ำตาของเธอมันทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีมากกว่าด้านลบ"แต่งงานกันนะรียา" ผมพูดย้ำอีกครั้งพร้อมกับเอื้อมมือเพื่อรอรับ ในใจก็ลุ้นว่าอารียาจะยอมแต่งงานกับผมไหม?"อ๊ะ!" "ไม่มีทาง! มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ต้องเป็นฉันสินิคคนคนนั้นต้องเป็นฉันไม่ใช่นังเด็กนี่" เพียงผมพูดจบจู่ ๆ นาตาลีก็โผล่พรวดเข้ามา แล้วผลักอารียาจนเธอเซถลา ดีที่ผมคว้ามือเธอไว้ได้ทัน และเป็นคุณไมค์ที่รับเธอจากด้านหลัง รองเท้าส้นส
"ฉันอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกค่ะ" ฉันเหมือนจะมือสั่นเมื่อเห็นคุณนิคมุ่งไปยังผู้หญิงที่ชื่อนาตาลี พูดกับคุณไมค์จบฉันก็หันหลังตั้งท่าจะเดินออกมา"จะไปไหน?" แต่ว่าต้องหยุดก้าวเดิน เมื่อแขนถูกจับรั้งไว้ นั่นจึงทำให้ฉันหันหลังกลับไปมอง".........." คนที่คว้าแขนไว้ทำให้ฉันแน่นิ่ง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้แต่มองหน้าเขาชั่วครู่ ไม่สามารถทานทนต่อสายตาของคุณนิคได้ไหว จึงได้เบือนหน้าหลบสายตา ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรเพียงแค่มองหน้าเขาแล้วภาพทุกอย่างมันก็ถูกมโนไปไกล จนแทบอยากปล่อยให้น้ำตารินไหล มันอ่อนไหวเพียงแค่สบตาเขา "ฉะ ฉันหายใจไม่ค่อยออก เลยว่าจะไปสูดอากาศข้างนอก" ฉันตอบเขาด้วยน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้เป็นปกติที่สุด"รอก่อนสิ อามีบางอย่างจะบอก" คุณนิคพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ แต่แววตาของเขาย้อนแย้ง มันดูมีประกายฉายวับออกมา ฉันหันไปมองผู้คนโดยรอบ ทุกสายตาจดจ้องมายังฉันกับคุณนิค ที่ยืนอยู่ภายใต้แสงไฟสาดส่องสว่างจ้า"บ บอกอะไรคะ?" ฉันย้อนถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก มันประหม่าจนไม่รู้จะเก็บทรงยังไงให้แน่นิ่งและไม่วอกแวกต่อหน้าสาธารณะชนที่รายล้อมตอนนี้"อารู้ว่ามันอาจจะช้าไป และที่ผ่านมาหนูก็คงเสียใจมามากพอสมคว