รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 23 - ขยี้ให้หมดฤทธิ์(อารียา)"ฮึ!" ฉันแค่นเสียงในลำคออย่างนึกตลก เมื่อจู่ ๆ เขาก็จูบฉันอย่างหนักหน่วง อยากหลบหนีแต่หลบไม่ทันจึงทำเพียงสบตาเขาในระยะใกล้อย่างเย้ยหยัน นั่นจึงทำให้เขาผละริมฝีปากออก แล้วจ้องหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจ มีแต่ฉันที่กำลังมองเขาแล้วยกยิ้มมุมปากให้“อาไม่ค่อยกินเด็ก แต่เห็นว่าหนูคนนี้เด็ด อาเลยจะกินอย่างนั้นเหรอคะ?” ฉันพูดออกไปอย่างท้ายทาย ในเมื่อเขาล้ำเส้นตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องวางท่า ยังไงก็อยู่ในห้องที่ไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว“เหอะ~เสืออย่างอา ไม่กินผู้หญิงซ้ำหน้าและคนใกล้ตัวหรอก” เขาขยับตัวออกห่าง เดินไปพิงกับโต๊ะทำงานยืนมือกอดอกแล้วเอ่ยขึ้น“ทำไมคุณอาถึงเรียกตัวเองว่าเสือล่ะคะ ... ทั้ง ๆ ที่ก็เอาไม่เลือกฤดูเหมือนกับหมา หนูว่าไม่น่าจะใช่เสือนะจากที่เคยเห็น”“อารียา!”“หึ...อีกอย่างอาก็ยังไม่ได้กินหนูนี่คะและคงไม่มีทางได้กินง่าย ๆ ด้วย" ฉันพูดทิ้งท้ายแล้วหันหลังหวังเดินออกมา เจ็บใจนักที่ชอบขโมยจูบฉันโดยไม่ทันตั้งตัว ไอ้แก่ชั่วช้า!กึก!"ปากดีขนาดนี้คิดว่าจะด่าแล้วหนีไปง่าย ๆ งั้นเหรอหลานรัก"ฉันกำลังเปิดประตูออกมา แต่ว่าต้องถูกปิดลงพร้อมล็อกก
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 24 - เรื่องธรรมดา(นิโคลไล)"ท่านประธาน ทำไมคุณอารียาเธอ...." เชรคมันทักเมื่อผมอุ้มอารียาออกมาจากห้องทำงาน ในสภาพที่เธอไม่ได้สติ เพราะเป็นลมในระหว่างที่กิจกรรมรักของผมมันพุ่งพล่าน จนผมจัดการเธอไปหลายรอบ"อารียาเป็นลมเดี๋ยวฉันจะพาเธอกลับบ้าน ฝากนายดูงานทางนี้แทนด้วย" ผมสั่งเชรค"ผมขับรถให้ไหมครับ" เชรคอาสาแต่ว่าผมไม่ต้องการ เรื่องที่ผมเผด็จศึกยัยหลานสาวจะต้องไม่มีใครรู้ มันต้องเป็นความลับ ไม่อย่างนั้นผมได้ถูกตราหน้าแน่นอน"ไม่เป็นไรฉันไปเอง ฝากด้วยนะเชรค""ครับ"ฝากฝังงานเสร็จผมก็อุ้มอารียาเขาไปยังลิฟต์ของผู้บริหารทันที ไม่มีใครเห็นเนื่องจากเป็นลิฟต์ส่วนตัวที่มีเพียงผมคนเดียวใช้งาน มันจึงจัดการพาอารียาออกมาแบบลับตาคนได้อย่างง่ายดาย"อย่ามายุ่งกับฉัน ปล่อย~""โอ๊ะโอ๊ย! ขนาดหลับยังตีเจ็บเลยยัยตัวแสบ"ผมวางอารียานั่งบนเบาะภายในรถยนต์ส่วนตัว แต่เหมือนกับว่าเธอละเมอจนเผลอตบเข้าแก้มผมเต็ม ๆ มือเธอโคตรหนัก จนผมรู้สึกแสบแก้มไปหมดต้องลูบแก้มตัวเองให้คลายความเจ็บก่อนจะจัดการคาดเข็มขัดนิรภัย แล้วอ้อมไปยังฝั่งคนขับจากนั้นผมจึงมุ่งหน้าพาเธอกลับบ้าน แม้ระหว่างทางที่รถยนต์ข
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 25 - ประสาท(อารียา)สิ่งที่ฉันสูญเสียให้กับผู้ชายมักง่ายสร้างความเสียใจและตราติดในความรู้สึกจนยากที่จะลืมหาย เขาย่ำยีร่างกายฉันอย่างคนไร้สามัญสำนึก ทั้งที่ปากบอกว่าไม่มีทางมาพิศวาสคนแบบฉัน แล้วนี่มันอะไรกัน!? สิ่งที่เขาทำโคตรย้อนแย้งและที่ทำให้ฉันจุกจนพูดไม่ออก ก็คือคำที่เขาบอกว่าไร้สาระ ประโยคสุดท้ายที่ฉันได้ยินในวันนั้นหลังจากที่ปิดประตูห้องนอนของเขา มันทำเอาฉันแทบก้าวขาเดินไม่ไหว น้ำตารินไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บใจ กับการที่ต้องมาเจอคนเลวแบบนิโคลไล ฟรานเดเรกฉันเกลียดจนแทบไม่อยากมองหน้า แต่ว่ามันยากที่จะหลีกเลี่ยงเพราะเราต้องทำงานด้วยกัน ฉันเลยเลือกที่จะปะทะกับเขาให้น้อยที่สุด"ถึงเวลาทานมื้อเที่ยงแล้วครับรีย่า" ฉันนั่งทำงานอยู่หน้าห้องผู้บริหารต้องละสายตาจากคอมพิวเตอร์ เมื่อเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น คุณเชรคเจ้าประจำที่มักมาชวนไปทานข้าวทุกครั้งที่เขาไม่ได้ออกไปข้างนอก"ค่ะ" ฉันพยักหน้าตอบรับพร้อมกับฉีกยิ้มอ่อน แม้ตอนนี้ฉันจะเศร้าเสียใจ แต่ก็พยายามซ่อนมันเอาไว้ข้างใน เรื่องที่เกิดขึ้นมันจะต้องเป็นความลับ เพราะหากคนอื่นรู้เข้าฉันคงถูกมองในแง่ลบ แม้จะอธิบายยังไงก
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 26 - เพราะเธอ...(นิโคลไล)ผมโคตรหงุดหงิดกับสิ่งที่อารียาทำต่อหน้าต่อตา ไม่คิดจะไว้หน้าผมเลยสักนิด เหมือนกับผมที่ยืนหัวโด่เป็นธาตุอากาศ ซึ่งมันทำให้ผมอยากเดินหนีออกมาโดยที่ไม่คิดไว้หน้าใคร แม้ว่าไมค์จะเป็นลูกค้าคนสำคัญก็ตาม แต่สิ่งที่ไม่แสดงออกมามันก็แทบไม่ไว้หน้าคนอย่างผมเช่นกัน ผมเป็นผู้ชายย่อมดูออกจากสายตาที่ไมค์มองอารียา มันแสดงออกมาว่าไมค์มีความรู้สึกในแบบผู้ชายกับผู้หญิง"นี่คุณจะรีบเดินไปไหนนักหนารอฉันด้วยสิ" เสียงเรียกของอารียาดังตามหลังมาแต่นั่นก็ไม่ทำให้ผมคิดจะหยุดเดิน ก็คนมันหงุดหงิด ตอนนี้อยากหาที่ระบายอารมณ์ ผมเดินย่ำเท้าไปยังรถยนต์ แล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งฝั่งคนขับ มองอารียาจากในรถยนต์เห็นเธอวิ่งกระหืดกระหอบตามมา"พูดไม่ได้ยินหรือไงบอกว่าให้รอให้รอกัน อย่างกับมาคนละคันยังงั้นแหละ""ช่วยไม่ได้ขาเธอสั้นเอง"อารียาต่อว่าผมหลังจากที่เธอเข้ามานั่งในรถเรียบร้อยแล้ว จากนั้นผมจึงว่าเธอกลับด้วยสีหน้าหงุดหงิดไม่สบอารมณ์สายตาที่เธอมองมา เหมือนกับว่าตำหนิสิ่งที่ผมทำ แต่แล้วไงล่ะผมต้องสนหรอหน้าไม่เหมือนแม่ผมสักหน่อยไม่จำเป็นต้องแคร์ แต่ความรู้สึกที่ผมเป็นตอนน
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 27 - แค่อยากมา(อารียา)แม้ว่าจะตกใจกับคำขอโทษที่มันออกมาจากปากของเขา แต่ฉันก็ต้องบังคับสีหน้าให้เป็นปกติ ไม่คิดว่าจะเป็นบุญหูได้ฟังคำนี้ออกมาจากปากผู้ชายเช่นเขา ฉันคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ"คุณคงพูดมันจนชิน แค่ทำอะไรมาแล้วพูดขอโทษคิดว่ามันคงจบ" ฉันย้อน"ฉันไม่พูดบ่อยหรอก แค่กับบางคนเท่านั้นแหละ"เขาตอบแบบไม่ยี่หระก่อนจะขับรถยนต์ออกมา โดยได้พูดอะไรต่อหลังจากนี้ แค่กับบางคนอย่างนั้นเหรอ จากที่ฉันได้ฟังเหมือนจะรู้สึกดี แต่เมื่อหวนคิดอีกทีในสิ่งที่เขาทำไว้ มันก็ยากที่ฉันจะให้อภัยต่อการกระทำของเขาในตอนนี้รถยนต์จอดสนิทที่หน้าบ้านหลังจากเราสองคนไปคุยงานเสร็จสิ้น จวนได้เวลาเลิกงานพอดีเลยตรงดิ่งกลับบ้าน ฉันปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วกำลังเอื้อมมือเปิดประตูลงจากรถก็ต้องหยุดชะงัก แล้วหันกลับไปมองเมื่อเขาจับแขนฉันรั้งไว้"มีอะไรกับฉันอย่างนั้นเหรอคะ?" ฉันถามด้วยความสงสัย เพราะคิดว่าหน้าที่วันนี้จบสิ้นลงแล้ว คงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก"ขอโทษอีกครั้ง" เขาพูดคำเดิมก่อนหน้า แต่ว่าครั้งนี้มันน่าฟังและแววตาที่เขามองมามันเปล่งประกายความเศร้า หรือว่าเขาจะสำนึกผิดแล้วจริง ๆ แต่คงไม่หรอกคนที่เ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 28 - คู่ค้าคู่แข่ง(นิโคลไล)ความไม่พอใจก่อตัวขึ้นอย่างอัตโนมัติ เพียงแค่ผมมองเห็นรอยยิ้มของอารียาที่มันดูมีความสุขเวลาที่เธอคุยกับคนอื่น แต่กับผมทุกครั้งที่เราประจันหน้ากัน มันมีแต่ฝีปากและความรุนแรง เธอไร้รอยยิ้มแบบที่เธอยิ้มให้กับไมค์โดยสิ้นเชิง ความไวต่อสิ่งที่รู้สึกทำให้ผมรีบก้าวขาเดินเข้าไปในร้านกาแฟข้างตึก ร้านประจำที่อารียาชอบเข้าไปใช้บริการในยามเช้าตั้งแต่ที่เธอมาทำงานที่นี่ ยิ่งเข้าไปใกล้ก็สร้างความขุ่นเคืองใจแก่ผม จนต้องออกปากเสียงแข็งด้วยคำพูดที่ค่อนข้างแรง ก่อนจะเดินเข้าไปทักทายลูกค้า...แค่ข้ออ้าง นั่นก็เพียงอยากเห็นหน้าอารียาใกล้ ๆ เท่านั้นเอง และผมคิดว่าคำพูดนั้นมันคงจะสะเทือนใจของอารียา แต่ว่าผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกเธออีก แต่ปากมันพลั้งยับยั้งไม่ทัน"สัญญาค่ะ" อารียาวางแฟ้มสัญญาลงตรงหน้าของผมและคุณไมค์ สีหน้าที่แตกต่างกันมันเป็นความสองมาตรฐานที่เธอสร้างขึ้นมา ก็เธอฉีกยิ้มให้กับคุณไมค์และกับผมสีหน้าของเธอบึ้งตึงอย่างกับรังเกียจกัน"ขอบคุณครับ" คุณไมค์เอ่ยขึ้นนั่นยิ่งทำให้อารียาฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม ก่อนที่เธอจะไปนั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้า
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 29 - จีบทางอ้อม(อารียา)"อ้าวคุณไมค์มาซื้อของเหมือนกันเหรอคะ?" ฉันเอ่ยทักเมื่อเห็นคุณไมค์คู่ค้ารายใหม่ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต วันนี้เป็นวันหยุดฉันเลยอยากออกมาเปิดหูเปิดตา การเดินทางไปทำงานด้วยตัวเองทำให้ฉันเริ่มคุ้นชินกับเส้นทางบ้างแล้ว"บังเอิญจังเลยนะครับ ไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณอารียาวันนี้" คุณไมค์ทักทายฉันด้วยรอยยิ้ม ผู้ชายมาซื้อของนี่ดูอบอุ่นจังเลยแฮะ"นั่นสิคะ ฉันก็ไม่คาดคิดมาก่อน""เอ่อ...ยังไงก็เจอกันแล้วทานมื้อเที่ยงกับผมได้ไหม" คุณไมค์เอ่ยชวน"ได้สิคะ วันนี้วันหยุดฉันไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว แต่ว่าขอซื้อของใช้ก่อนได้ไหมคะ?" ฉันตอบรับอย่างง่ายดาย ก็ฉันไม่มีอะไรต้องรีบไปทำถือซะว่าวันนี้มาเที่ยวแถมได้เพื่อนเดินเล่นอีกต่างหาก"ได้ครับ มาครับผมช่วยเข็นรถ""ไม่เป็นไรค่ะ คุณไมค์ก็ถือตะกร้าของตัวเองก็หนักพอแล้ว ฉันเกรงใจค่ะ""ผมยินดีครับ แค่นี้เองของที่ผมซื้อก็ไม่มีอะไรมาก""โอเค...ขอบคุณนะคะ""ครับ"คุณไมค์อาสาซึ่งฉันเห็นว่าเขาก็ถือตะกร้าของตัวเองเช่นกัน รู้สึกเกรงใจเลยรีบปฏิเสธเขาไป แต่เขาก็ยังดึงดันจะช่วยเหลือฉันให้ได้ ฉันจึงปล่อยมือจากรถเข็นและปล่อยให้เขาทำในสิ่
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 30 - ภาพติดตา(นิโคลไล)ผมออกมายืนตรงระเบียงห้องนอนและต้องสะดุดตาเมื่อเห็นอารียาลงจากรถยนต์สปอร์ตคันหรูที่จอดอยู่หน้าบ้านสังเกตดูอาการที่เธอเป็นจากไกล ๆ ใบหน้าสวยที่แปดเปื้อนด้วยรอยยิ้ม เธอช่างดูมีความสุขมากมาย ผมยืนมองรถคันนั้นที่ขับไปจนลับสายตา จากนั้นอารียาจึงเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับของที่เต็มมือช่างหน้าบานเหลือเกิน สงสัยจะเพลิดเพลินจนลืมเวลาเพราะนี่ก็เริ่มจะมืดค่ำ จวบจนมื้ออาหารเย็น"ใครมาส่ง? รถคันนั้นคุ้น ๆ แฮะ...แล้วดู ดูทำหน้าระรื่นเชียวยัยตัวแสบ ทีกับฉันนี่หน้าอมทุกข์ได้ตลอดทั้งวัน เธอมันสองมาตรฐานอารียา" ผมยืนมองเธอจากที่สูง สีหน้าของเธอดูมีความสุขจนทำให้ผมหวนคิดเวลาอยู่ต่อหน้าผมมันช่างแตกต่าง"แอบนัดออกไปหาผู้ชาย ออกไปก็ไม่คิดจะบอก ฉันต้องจัดการเธอแล้วยัยตัวแสบ" ผมยืนกำราวระเบียงแน่น นึกแค้นใจที่อารียาไปไหนหรือทำอะไรไม่คิดจะบอกผมสักอย่าง"ฝากเก็บไว้ในครัวหน่อยนะคะ""ไปไหนมากลับซะมืดค่ำ แล้วใครมาส่ง"ผมเดินลงมาจากบนบ้านแล้วถามขึ้น หลังจากที่แม่บ้านถือของเดินจากไป นั่นถึงทำให้อารียาหันหลังกลับมามอง เธอแสดงออกทางสีหน้าและถอนลมหายใจอย่างกับรำคาญ มันชัด
บทส่งท้าย-มันคือรักที่ยากจะหวนกลับ(อารียา)เวลาผ่านไปหลายเดือน คนที่อยู่ในท้องก็เติบโตขึ้นตามกาลเวลา คำสัญญาที่คนแก่ของฉันเคยให้ไว้ ภาระหน้าที่การงานก็รีบเคลียร์แล้วพาฉันมาเที่ยว...("เรียบร้อยดีใช่ไหม? อืม แล้วนี่นายอยู่ที่บริษัทไหม?...งานที่บริษัทฝากนายด้วย เดี๋ยวสิ้นปีจะตบโบนัสให้อย่างงามเลย...มึงพูดให้มันเคลียร์ ๆ ดิเชรค... ไอ้เชรค!")ประโยคเหล่านี้ฉันนั่งฟังพร้อมกับรอยยิ้มในบางครา และแน่นอนว่าเขากำลังคุยกับเลขาคนสนิท ที่สามารถฝากฝังหน้าที่การงานได้ คำพูดที่หยาบโลนแต่แอบซ่อนด้วยความทะเล้น คนแก่ ๆ ที่ฉันเคยตราหน้าว่า เป็นเหมือนหมาที่เอาไม่เลิกฤดู สุดท้ายจนก็ต้องมาตกม้าตายและกลืนน้ำลายตัวเอง ซึ่งก็ไม่ต่างจากเขา ที่อดีตเคยลั่นไม่คิดจะเอาผู้หญิงอย่างฉันทำเมีย...เสมอกันทั้งฉันและเขาสายลมอ่อนพัดกระทบใบหน้า ทำให้ฉันรู้สึกดี มันสดชื่นจนยากจะบรรยาย ตอนนี้ฉันกลายเป็นคุณแม่ที่พร้อมดูแลลูกน้อยที่อยู่ในท้อง คนที่ไม่เคยเห็นหน้าแต่ว่าฉันกลับรักมากมาย แม้ถวายชีวิตฉันก็สามารถให้เขาได้ 'ลูก' เพียงเท่านั้นที่ฉันยอมและ และคนแก่ที่นั่งข้างฉันก็คงคิดและรู้สึกแบบเดียวกัน"อากาศเริ่มเย็นแล้วนะ""ขอนั่ง
(อารียา)หลังจากที่ฉันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้ก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว เพราะอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่คนแก่ของฉันก็แสดงความโอเวอร์เร้าหรืออยากให้อยู่ใกล้หมอต่อ ให้เหตุผลว่าอยากให้แน่ใจว่าฉันหายดีแล้วจริง ๆ จนฉันต้องเอาลูกที่ยังเท่าเม็ดถั่วมาอ้างว่าไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาล เขาถึงได้ยอมให้ฉันกลับมาพักที่บ้าน…เขามันเวอร์ทั้งที่ฉันปกติดีทุกอย่าง“ไม่ต้องประคองหรอก หนูเดินเองได้” ฉันบอกเขาในขณะที่เราสองคนกำลังเดินเข้าไปในตัวบ้าน“ไม่ได้หรอกเผื่อลื่นขึ้นมาจะทำยังไง อยู่ใกล้ ๆ แบบนี้มีอะไรจะได้รับไว้ทัน ทำไมหนูไม่เข้าใจอะ” เหตุผลคนแก่ที่ทำฉันต้องอมยิ้ม แม้บางทีจะดูงี่เง่าไปบ้างก็เถอะ“ก็ไม่อยากให้อาวุ่นวายไง แล้วนี่งานไม่เยอะเหรอถึงไม่เข้าบริษัท” หันไปถามเขา ทำเอาคนแก่ของฉันถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดทันที“นี่ไล่ทางอ้อมใช่ไหม ทำไมอยู่ด้วยกันมันอึดอัดมากหรือไง ใช่สิคนอายุเยอะมันคงไม่กร้าวใจเหมือนคนหนุ่ม ๆ” มีโวยวายเบา ๆ อย่างกับน้อยใจ อะไรวิ่งเข้าหัวสมองทำให้เขาต้องมีอาการวัยรุ่นแบบนี้นะ ทำฉันกลั้นขำแทบไม่ไหวเลยทีเดียว“อะไรของคุณอากันคะเนี้ย หนูไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย แค่เป็นห่วงว่างานขอ
(นิโคลไล)“ว่าไงเชรค” โทรศัพท์มือถือดังขึ้นจนผมต้องหันไปสนใจ เป็นเชรคที่โทรเข้ามา ผมกลัวว่าอารียาจะตื่นหากคุยอยู่ตรงนั้น จึงเดินออกไปตรงระเบียง เพราะตอนนี้เธอกำลังนอนหลับสนิท“เรื่องที่นายให้ผมไปสืบได้ความแล้วครับ”“ว่ามา”“คุณไมค์กับคุณนาตาลีร่วมมือกันทำร้ายคุณอารียาจริง ๆ ครับ เขาเป็นลูกชายของมิสเตอร์ปาเวลที่ฆ่าตัวตาย หลังจากที่คุณนิคไปเทคโอเวอร์บริษัทนั้นมา แต่คุณไมค์ก็มีธุรกิจที่เรารู้กัน แต่จริงแล้วบริษัทที่พ่อเขาสร้างมากับมือเข้าสู่สภาวะวิกฤตเรื่องการเงิน เพื่อรักษาบริษัทนั้นไว้เขาจึงได้ยอมให้ทางเราเทคโอเวอร์” “ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขามีทายาทอีกคน”“คุณไมค์เป็นลูกภรรยาคนที่สองของมิสเตอร์ปาเวลครับ เขาและพ่อของเขาผูกพันกันมาก เขาเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้ไม่นาน และผมคิดว่าการที่เขาเข้าใกล้คุณอารียาเพราะว่า.....”“คงเพราะคิดว่าฉันเป็นต้นเหตุให้พ่อเขาฆ่าตัวตายสินะ”“พ่อเขาเป็นคนขอให้คุณนิคช่วยซื้อบริษัทไว้ เพราะห่วงพนักงานกลัวว่าจะตกงานหากบริษัทปิดตัวลง จุดนี้ผมคิดว่าคุณไมค์คงไม่ทราบถึงเบื้องลึกเหล่านี้”สิ่งที่ผมมอบหมายให้เชรคไปตามสืบ เรื่องราวที่ผมเฝ้ารอ มันทำให้ผมหูผึ่งแ
(อารียา)ฉันตื่นนอนในยามเช้า ข้างเตียงไม่มีเขาที่เฝ้าฉันเมื่อคืน กวาดสายตามองหาจนพบว่าเขายืนคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียง เหมือนกับเลี่ยงไม่อยากให้ใครได้ยิน ไม่รู้ว่ากลัวจะรบกวนการนอนหลับของฉัน หรือมันมีเรื่องอะไรที่ปิดบังจนไม่อยากได้ฉันรับรู้ ฉันนอนมองแผ่นของเขาอย่างครุ่นคิด พร้อมกับทบทวนคำพูดและการอ้อนวอนของเขาที่พูดเมื่อคืน...ฉันควรเปิดใจและให้โอกาสเขาได้เป็นพ่อของลูกดีไหม?“ตื่นแล้วเหรอ...รู้สึกยังไงบ้าง ปวดหัวหรือรู้สึกไม่สบายตัวไหม?” เขาถามทันทีเมื่อเดินเข้ามาในห้องหลังจากที่วางสาย ถามรัวจนฉันตั้งตัวที่จะให้คำตอบไม่ทัน สีหน้าของเขาดูห่วงใยฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกดี แต่ก็ไม่รู้ว่าคนอย่างนิโคลไลจะเชื่อได้มากน้อยแค่ไหน ไม่แน่ใจว่าเขาจะจริงจังหรือไม่ ฉันไม่อยากจะคาดหวังกับผู้ชายคนนี้เลย...กลัวผิดหวัง“ไม่เป็นอะไรแล้ว หนูโอเคตอนนี้อยากกลับบ้าน” ฉันบอกเขาในสิ่งที่ต้องการ ฉันไม่ชอบกลิ่นของโรงพยาบาลเลยสักนิด“ให้หมอดูอาการอีกสักวันสองวันก่อนเถอะนะ จะได้มั่นใจว่าปลอดภัยแล้วจริง ๆ” เขาคะยั้นคะยอ พร้อมกับมือเอื้อมมาลูบหัวของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันมองหน้าเขาอย่างสังเกต สายตาของเขามองฉันต่างไปจากเดิมใน
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 59-ยอมทุกอย่าง“นายคิดจะทำอะไรกันไมค์ เข้าหาอารียาเพื่ออะไร” จากที่เชรคเล่าให้ฟัง ทำให้ผมนั่งคิดทวนคนเดียวอยู่ในห้อง มีเพียงความมืดสลัวที่อยู่เป็นเพื่อนตอนนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมนึกห่วงอารียามากกว่าเดิม ผมกลัวว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอจนได้รับอันตรายอีก ผมเดินออกมาตรงระเบียงห้องพักฟื้น ยืนมองทอดไกลไปอย่างไร้จุดหมาย สมองคิดเรื่องราวมากมายที่มันสามารถเชื่อมโยงกัน แต่นึกทวนยังไงผมก็นึกมันไม่ออก ตอนนี้โคตรกลุ้มเลยล่ะผมเดินกลับเข้ามาในห้องพักฟื้นของอารียา แล้วนั่งลงข้างเธอ ผมกุมมือของเธอไว้ แล้วจ้องมองใบหน้าของเธอในความมืดสลัว คิดกลัวและกังวลจนตอนนี้ผมรู้สึกนอนไม่หลับ ห่วงความปลอดภัยของเธอหากผมเผลอหลับไป แล้วใครแอบเข้ามาทำร้ายเธออีก“อา...” เสียงของอารียาที่แผ่วเบาเรียกผมจนต้องตื่นตัวหลุดจากภวังค์ความคิด ความเงียบทำให้ผมได้ยินเสียงของเธอที่แหบแห้งชัดเจน“หนูเป็นยังไงบ้าง รู้สึกไม่สบายตรงไหนไหม เดี๋ยวอาเรียกหมอให้” ผมรีบถามอาการของเธอทันที ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดสวิตซ์ไฟหัวเตียงเพื่อให้มีแสงสว่าง“ลูกละคะปลอดภัยใช่ไหม?” เป็นคำถามแรกที่เธอเอ่ยขึ้น ไม่ได้นึก
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 58 - กำจัด(ก็คุณพลาดเองช่วยไม่ได้ จะมาโทษผมได้ยังไง...นั่นมันเรื่องของคุณ ผมช่วยขนาดนี้แล้วยังไม่มีปัญญาจัดการ.....อืม ค่อยคิดอีกที และคุณก็ควรห่างการติดต่อผมสักพักด้วย...แค่นี้นะ)(เปิดทางให้แล้วยังโง่อีก) "เชรคนายจัดการเรื่องที่อารียาถูกทำร้ายให้เด็ดขาด ฉันไม่มีปล่อยให้อารียาเจ็บฟรีแน่" ผมเดินออกมานอกห้องพักของอารียาหลังจากที่เธอนอนหลับไปแล้ว สั่งการกับเชรคที่รออยู่ด้านนอก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ผมโมโหมาก และคงยากหากมันไม่ได้รับการคลี่คลายในแบบของผม ผมไม่ได้ใจร้ายหากใครไม่คิดทำลายผมหรือคนที่ผมรักก่อน"ครับนาย ผมจะรีบจัดการให้ทันที" เชรคตบปากรับคำ เป็นคนสนิทที่ผมไว้ใจมากและรักเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง เราสองคนสนิทสนมกันมานานจนรู้ใจกัน"นาตาลีทำเกินไปและฉันจะไม่เอาไว้ให้รกหูรกตา ถ้าอยู่ไม่เป็นเย็นไม่ได้ก็อย่าคิดว่าจะได้มีที่ยืน...ฉันเอาจริง!!!" ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ยิ่งนึกภาพที่อารียากำลังจมน้ำไปต่อหน้าต่อตา มันยิ่งทำให้ผมโกรธเคือง หญิงหรือชายหากสร้างปัญหาให้ผมก็ไม่เอาไว้"ครับ” เชรคก้มหัวตอบรับคำสั่งของผมอย่างที่เขาเคยทำ“เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะอยู่เฝ้าอา
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 57-ช่วยที(นิโคลไล)สิ่งที่นาตาลีทำกับอารียา วันนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยเธอไปง่าย ๆ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลามากพอที่จะมาตำหนิเธอ เพราะชีวิตของอารียา กำลังจมดิ่งลงสู่ก้นสระ"เกินไปจริง ๆ นาตาลีอย่าคิดว่าคุณจะรอดที่ทำร้ายเมียผมขนาดนี้!""ถ้ามันตายฉันคงกินอิ่มนอนหลับสบาย ฮ่าฮ่าฮ่า"พูดจบผมกำลังจะกระโดดลงสระเพื่อไปช่วยอารียา แต่ก็มีคนตัดหน้าแล้วดำน้ำลงไปคว้าตัวอารียามาก่อน ไม่รู้เลยว่าอารียาว่ายน้ำไม่เป็น ตอนที่เห็นเธอตกลงไปใจของผมหล่นวูบไปสู่ปลายเท้า เสียงหัวเราะของนาตาลีที่ดังก้องอย่างสะใจ ตอนนี้เธอเหมือนกับคนเสียสติไปแล้ว ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาโดยไม่คำนึงเลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้น เป็นการพรากชีวิตคนคนหนึ่งได้เลย"รียา รียา" ผมดึงอารียาขึ้นมาแล้ววางเธอนอนราบกับพื้นข้างสระ ตบแก้มเธอเบา ๆ หวังให้เธอรู้สึกตัว เพราะตอนนี้อริยาหมดสติ หัวใจของผมสั่นไหวและหวาดกลัว ห่วงทั้งเมียและลูกที่อยู่ในท้องจะได้รับอันตราย"ผายปอดเธอสิครับคุณนิค" เป็นเสียงของคู่แข่งหัวใจ เลยอยากเตือนสติ ทำให้ผมทำตามในสิ่งที่เขาบอก ค่อยๆปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับอารียา ทำ CPR และผายปอดให้เธอวนซ้ำอยู่แบบนั้น แ
รักลับสัมพันธ์สวาทตอนที่ 56-คนในความลับที่ไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป(นิโคลไล)"เธอคือภรรยาของผม ที่ถูกต้องทางพฤตินัยและก็กำลังจะถูกต้องทางนิตินัยอีกไม่ช้า" ผมประกาศเสียงดังแน่ชัดว่าคนทั้งห้องจัดเลี้ยงต้องได้ยิน สิ่งที่คิดพูดออกไปมันถูกตรองมาอย่างถี่ถ้วน วันนี้ที่ผมให้อารียามางานด้วย ก็เพราะจะประกาศความลับที่ผมไม่อยากปิดบังอีกต่อไป ผมอยากให้ใครต่อใครรับรู้ว่าเธอคือคนที่ผมรัก และพร้อมจะให้เธอก้าวเข้ามาในชีวิตนับจากนี้ทุกคำที่ผมพูดออกไป สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนที่อยู่ในงาน บางคนหันไปกระซิบกระซาบกัน แต่มันก็ไม่ทำให้ผมสนใจเท่าผู้หญิงตรงหน้า ที่ดวงตาเริ่มสั่นระริกผมไม่รู้ว่าเธอกำลังอายหรือดีใจกันแน่ แต่น้ำตาของเธอมันทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดีมากกว่าด้านลบ"แต่งงานกันนะรียา" ผมพูดย้ำอีกครั้งพร้อมกับเอื้อมมือเพื่อรอรับ ในใจก็ลุ้นว่าอารียาจะยอมแต่งงานกับผมไหม?"อ๊ะ!" "ไม่มีทาง! มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ต้องเป็นฉันสินิคคนคนนั้นต้องเป็นฉันไม่ใช่นังเด็กนี่" เพียงผมพูดจบจู่ ๆ นาตาลีก็โผล่พรวดเข้ามา แล้วผลักอารียาจนเธอเซถลา ดีที่ผมคว้ามือเธอไว้ได้ทัน และเป็นคุณไมค์ที่รับเธอจากด้านหลัง รองเท้าส้นส
"ฉันอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกค่ะ" ฉันเหมือนจะมือสั่นเมื่อเห็นคุณนิคมุ่งไปยังผู้หญิงที่ชื่อนาตาลี พูดกับคุณไมค์จบฉันก็หันหลังตั้งท่าจะเดินออกมา"จะไปไหน?" แต่ว่าต้องหยุดก้าวเดิน เมื่อแขนถูกจับรั้งไว้ นั่นจึงทำให้ฉันหันหลังกลับไปมอง".........." คนที่คว้าแขนไว้ทำให้ฉันแน่นิ่ง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ได้แต่มองหน้าเขาชั่วครู่ ไม่สามารถทานทนต่อสายตาของคุณนิคได้ไหว จึงได้เบือนหน้าหลบสายตา ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไรเพียงแค่มองหน้าเขาแล้วภาพทุกอย่างมันก็ถูกมโนไปไกล จนแทบอยากปล่อยให้น้ำตารินไหล มันอ่อนไหวเพียงแค่สบตาเขา "ฉะ ฉันหายใจไม่ค่อยออก เลยว่าจะไปสูดอากาศข้างนอก" ฉันตอบเขาด้วยน้ำเสียงที่พยายามปั้นให้เป็นปกติที่สุด"รอก่อนสิ อามีบางอย่างจะบอก" คุณนิคพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ แต่แววตาของเขาย้อนแย้ง มันดูมีประกายฉายวับออกมา ฉันหันไปมองผู้คนโดยรอบ ทุกสายตาจดจ้องมายังฉันกับคุณนิค ที่ยืนอยู่ภายใต้แสงไฟสาดส่องสว่างจ้า"บ บอกอะไรคะ?" ฉันย้อนถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก มันประหม่าจนไม่รู้จะเก็บทรงยังไงให้แน่นิ่งและไม่วอกแวกต่อหน้าสาธารณะชนที่รายล้อมตอนนี้"อารู้ว่ามันอาจจะช้าไป และที่ผ่านมาหนูก็คงเสียใจมามากพอสมคว