พศวัตโทรหากวีด้วยน้ำเสียงร้อนรน รีบเล่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กวีฟังจนหมดสิ้น กวีรับฟังด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนตัดสินใจเด็ดขาด“เดี๋ยวผมจะไปรับชัญญา แล้วเราจะออกเดินทางไปด้วยกัน” กวีกล่าวไม่มีการรอช้า ดนัยและปัทมาพร้อมแล้ว ทั้งสี่คนมุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรีทันที ทันทีบ้านศศิรา...ลมอ่อน ๆ พัดผ่านเรือนไม้ยกพื้นสูง เสียงไก่ขันแว่วมาแต่ไกล กลิ่นหอมของดอกไม้จากสวนหน้าบ้านลอยมาตามลม แสงแดดยามเช้าส่องกระทบหลังคากระเบื้องเก่า ทำให้บรรยากาศบ้านสวนดูอบอุ่นและเงียบสงบเสียงแม่ดังขึ้นทันทีที่ศศิราก้าวเข้าบ้าน“ทำไมเมื่อคืนกลับมาดึกนักลูก? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? หรือว่า... ทะเลาะกับพศวัต?”แววตาของแม่เต็มไปด้วยความห่วงใย แต่ศศิราสูดลมหายใจลึก ตัดสินใจแน่วแน่"หนูตัดสินใจแล้วค่ะแม่... หนูจะเลิกกับเขา"แม่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามเสียงแผ่ว "เกิดอะไรขึ้น?"“จริง ๆ แล้วเขามีคู่หมายอยู่แล้ว ครอบครัวเขาทำสัญญากันตั้งแต่รุ่นพ่อแม่"“อะไรนะ?! แล้วทำไมเขาถึงมาคบกับลูกล่ะ?” แม่อุทาน สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจศศิรายิ้มบาง ๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด“เขามีเหตุผลของเขา แต่ช่างเถอะค่ะ... ห
เวลา 20.00 น. ทุกคนทานข้าวเสร็จแล้ว แต่พศวัตยังคงนั่งรอศศิราอยู่ในศาลาหน้าบ้าน ความเงียบงันของค่ำคืนนี้ทำให้เขายิ่งรู้สึกอึดอัดในอก หวังว่าเธอจะมาคุยกับเขาสักประโยค แต่เปล่าเลย...เธอไม่แม้แต่จะชายตามอง“เดี๋ยวคืนนี้ศศิราพาเพื่อนไปนอนบ้านสวนนะลูก”“ค่ะแม่หนูมานอนที่บ้านนะ”“เพื่อนมาหาทิ้งเพื่อนนอนตามลำพังน่าเกลียดนะลูก”เธอรู้ดีว่าถ้าไปนอนบ้านสวน พศวัตต้องหาทางเข้าหาเธอแน่นอนบ้านสวน...บ้านสวนของศศิรามีเพียงสองห้องนอน เธอนอนกับปัทมา ส่วนพศวัตต้องนอนกับดนัย แต่ด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียด ปัทมาและดนัยจึงตัดสินใจช่วยให้ทั้งสองมีโอกาสได้เคลียร์กัน“ที่รักครับ คืนนี้ผมนอนกับคุณได้ไหม?”ดนัยหันไปพูดกับปัทมาพร้อมกับส่งสายตารู้กัน“ได้ค่ะ งั้นคืนนี้เรานอนด้วยกันนะ ฉันหนาว อยากนอนกอดคุณ”ศศิราขมวดคิ้วมองเพื่อนอย่างงุนงง“เดี๋ยวนะ ปัทมาไปคบกับคุณดนัยตอนไหน?”"เราตกลงกันตั้งแต่ตอนเที่ยวทะเลแล้ว แค่ยังไม่มีโอกาสบอกเธอ"ปัทมายิ้มเจื่อนๆ แต่แววตาส่อประกายขี้เล่นดนัยฉวยโอกาสหันไปแกล้งพศวัตทันที“พศวัต คืนนี้นายก็นอนกับแฟนตัวเองสิ เพราะฉันจะนอนกับแฟนฉันเหมือนกัน”“งั้นปัทมานอนกับคุณดนัยเถอะ เดี๋ยวฉัน
บ้านสวนศศิริ...ดนัยกับปัทมาอยู่ในห้องนอนด้วยกันเพียงลำพัง เพราะอยากเปิดโอกาสให้ศศิราและพศวัตได้ปรับความเข้าใจกัน ก่อนหน้านี้เธอไม่คิดอะไร แต่เมื่อสถานการณ์พาไป การอยู่ใกล้กันนานขึ้นกลับทำให้หัวใจปัทมาเริ่มหวั่นไหว โดยเฉพาะเมื่อดนัยมองเธอไม่วางตาสายฝนกระหน่ำลงมาหนักขึ้น ด้านนอกมีเพียงเสียงน้ำฝนกระทบหลังคาและเสียงลมพัดผ่านต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม บรรยากาศอบอ้าวกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดแบบแปลกๆ“นี่คุณดนัย... จะจ้องฉันอีกนานไหม”ปัทมาพูดขึ้นเบาๆ“ก็ผมบอกว่าผมชอบคุณ จ้องหน่อยไม่เห็นจะแปลก”“โรคจิต”ปัทมาพึมพำ แต่ใบหน้ากลับร้อนผ่าวเธอนั่งอยู่บนเตียง ขณะที่ดนัยนั่งเอกเขนกบนโซฟาตัวเล็กข้างเตียง ไม่ถึงครู่ร่างสูงก็ลุกพรวดขึ้นแล้วกระโดดลงบนที่นอนทันที“นี่คุณ! จะทำอะไร?! กลับไปนอนที่โซฟาเลยนะ”“ฝนตก อากาศเย็นจะตาย ขอนอนบนเตียงเถอะน่า”“งั้นฉันจะไปนอนโซฟาเอง”ปัทมารีบลุกขึ้น แต่ดนัยจับข้อมือเธอไว้“คุณรังเกียจผมหรือไง แค่นอนเตียงเดียวกันเอง”ปัทมาชะงักไปเล็กน้อย“มันไม่ใช่อย่างนั้น... เราไม่ได้เป็นอะไรกัน มันไม่เหมาะสม”ดนัยยิ้มมุมปาก ก่อนพูดขึ้นเสียงนุ่ม“งั้นก็เป็นสิ...”“อะไร?”“เป็นแฟนผมไง”
บ้านศศิรา...บรรยากาศยามเช้าหลังฝนกระหน่ำเมื่อคืนยังคงชื้นแฉะ หยาดน้ำฝนเกาะบนใบไม้ เสียงนกร้องแว่วมาไกลๆ อากาศเย็นสบาย แต่ท้องฟ้ายังคงอึมครึมราวกับฝนจะตกลงมาอีกครั้งศศิราเดินออกจากบ้าน มานั่งที่โต๊ะหน้าบ้าน ซึ่งแม่ของเธอได้จัดเตรียมข้าวต้มร้อนๆ ไส้กรอกไข่ดาว และขนมปังปิ้ง ไว้ให้“น่าทานจังเลยค่ะแม่”“ทานเยอะๆ นะแม่ทำไว้ให้”สายพิณยิ้มบางๆ ก่อนจะหยิบตะกร้าเตรียมออกไป “วันนี้แม่มีนัดกับป้าศรี จะไปตลาดกัน”“ขอบคุณค่ะแม่”สายพิณมองศศิราแล้วพยักหน้าเบาๆ“เมื่อลูก ๆ คืนดีกันแล้ว แม่ก็หายห่วง”พูดจบก็เดินออกจากบ้านไป“คุณพศวัตเรียกคุณดนัยกับปัทมา มาทานมื้อเช้าได้แล้วค่ะ”“ป่านนี้เขาคงจัด...มื้อเช้าบนเตียงกันแล้วมัง?”“คุณนี่นะ...”พศวัตยิ้มเจ้าเล่ห์ โน้มตัวเข้าใกล้พลางกระซิบเสียงแผ่ว“คุณไม่ต้องเลยศศิรา... ไปทะเลผมก็อด เมื่อคืนกว่าจะเข้าใจกันได้ก็ดึก ทานข้าวเสร็จคุณก็หลับ คืนนี้ผมจะไม่พลาดแน่นอน คืนนี้ผมต้องเคลียร์กับคุณให้รู้เรื่อง”ศศิราตาเบิกกว้าง ใจเต้นระรัว“พูดอะไรของคุณเนี่ย...” แก้มเธอร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวปัทมาและดนัยเดินออกจากบ้าน มุ่งตรงไปยังโต๊ะอาหารหน้าบ้านที่จัดไว้เรียบร้
มหาวิทยาลัยชื่อดัง...เช้าวันวาเลนไทน์ในมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยบรรยากาศของความรัก ดอกกุหลาบสีแดงสด ช็อกโกแลตหลากหลายยี่ห้อ และตุ๊กตาหมีขนฟูถูกส่งผ่านไปมาในมือของคู่รักหนุ่มสาวที่กำลังมีความรักตามประสาวัยรุ่นแต่สำหรับ ศศิรา วันนี้อาจเป็นวันแห่งความทรงจำของเธอที่ไม่มีวันลืมก็ว่าได้ศศิราเป็นนักศึกษาปี 1 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาวน้อยจากต่างจังหวัดที่เพิ่งเข้ามาเรียนในกรุงเทพมหานคร เธอไม่ได้โดดเด่นเหมือนสาวๆ ดาวมหาลัย แต่เธอก็น่ารักฉบับสาวเรียบร้อย ตากลมผมยาวสวมแว่นตาหนา สวมเสื้อผ้ามิดชิด กระโปรงยาวรองเท้าผ้าใบสีขาวเธอรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี กำช็อกโกแลตไว้แน่นในมือแล้วมุ่งหน้าไปหา พศวัต ทันทีพศวัต คือเดือนมหาวิทยาลัย นักศึกษาปี 4 คณะวิศวกรรมโยธา รูปหล่อ พ่อรวย ดีกรีหนุ่มฮอตอันดับหนึ่งของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาวๆ ทุกคณะต่างชื่นชอบในตัวเขา และเขาเองก็เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง และชอบความท้าทาย รอยยิ้มมุมปากของเขาทำให้สาวๆ หลงใหล และแน่นอนศศิราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ชื่นชอบในตัวเขามากเช่นกันแต่สำหรับศศิราเธอเป็นเหมือน FC ที่ชื่นชอบเขาคนหนึ่ง เธอรู้ดีว่าหากชอบแบบชู้สาวพศวัตไม่มีทางสนใจเธอ เธอไม่ได
เสียงพูดคุยจอแจของนักศึกษาดังระงมไปทั่วลานกว้างของมหาวิทยาลัย บรรดาสมาชิกชมรมค่ายอาสาต่างเตรียมตัวขึ้นรถเพื่อเดินทางไปสร้างโรงเรียนให้เด็ก ๆ บนดอย เหล่าดาวเดือนจากแทบทุกคณะก็เข้าร่วมกิจกรรมนี้ ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก“ทุกคนเข้าแถวตามรายชื่อที่พี่แจ้งไว้นะคะ!”เสียงสตาฟประกาศก้องรถทัวร์หกคันจอดเรียงรายริมถนน รอรับอาสาสมัครกว่า 150 คน และแน่นอน… พศวัต ศศิรา ปัทมา ดนัย กวี และชัญญา ได้ออกค่ายอาสาในครั้งนี้ และทั้งหมดได้ขึ้นไปอยู่ในรถคันเดียวกัน“ขอนั่งด้วยคนนะคะพี่กวี”เสียงหวานของชัญญาดังขึ้น ก่อนเจ้าตัวจะทรุดตัวลงนั่งทันทีโดยไม่รอคำตอบ“ได้ครับ” กวีตอบยิ้ม ๆพศวัตมองภาพนั้นอยู่ห่าง ๆ แต่เลือกที่จะเงียบ แม้จะรู้สึกไม่ชอบใจที่น้องสาวของตนเข้าไปใกล้ชิดกับกวีมากเกินไป แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรศศิรานั่งคู่กับปัทมา แถวเดียวกับพศวัตที่นั่งอยู่กับดนัยดูเหมือนว่าเธอจะไม่แม้แต่เหลือบตามามองเขาด้วยซ้ำ พศวัตจ้องเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าให้ดนัยเป็นสัญญาณ ดนัยรับรู้ทันที ก่อนหันไปดึงปัทมาให้ลุกขึ้นมา“มานั่งกับพี่” ดนัยดึงแขนปัทมานั่งเบาะของเขาทันที“ปล่อย! อย่ามายุ่งกับฉัน!” ปัทมาแหวเสี
“เป็นยังไงบ้าง ศศิรา? แผลลึกไหม?”กวีรีบรุดมาดูน้องสาวด้วยความเป็นห่วงทันทีที่รู้ว่าเธอบาดเจ็บ โดยมีรสรินติดตามเขามาด้วย“ไม่เป็นไรค่ะพี่ แต่ห้ามบอกแม่นะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง”“เธอนี่ก็เป็นแบบนี้ทุกที”กวีตำหนิน้องสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ“พี่กวีคะ ฉันปวดหัวมาก ขอยาหน่อยได้ไหมคะ?”รสริน หญิงสาวผู้ช่ำชองในเสน่ห์ เอ่ยขึ้นพลางส่งสายตาเว้าวอน“ครับ เดี๋ยวผมไปจัดยาให้”กวีตอบรับอย่างสุภาพ“ขอบคุณนะคะ”รสรินกล่าวพร้อมเอื้อมมือไปจับมือเขา แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอสนใจกวีมากเพียงใดศศิรากับปัทมาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ต่างพากันส่ายหน้า“ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริง ๆ”ปัทมากระซิบเบา ๆในขณะนั้นเอง ชัญญาเดินเข้ามาพร้อมขนมในมือ“พี่กวี นี่ค่ะ ขนม”“ขอบคุณนะครับ น้องชัญญา”กวียิ้มรับด้วยความจริงใจ เพราะในใจลึก ๆ แล้ว เขาเองก็ชอบผู้หญิงแบบชัญญาเช่นกัน เป็นการดีที่เข้าค่ายหกวันนี้จะศึกษาซึ่งกันวันที่ห้าของการเข้าค่ายอาสา ….เช้าวันนี้บรรยากาศบนดอยงดงามราวกับภาพวาด แสงแดดอ่อน ๆ ทาบทอลงบนยอดหญ้าที่ปกคลุมไปด้วยหมอกบาง ๆอากาศหนาวเย็นจนไออุ่นจากลมหายใจลอยเป็นควันจาง ๆ อาจารย์พานักศึกษาออกเดินสำรวจธรรมชาติ ชื่นชมควา
หลายเดือนต่อมา...บรรยากาศวันรับปริญญาอบอวลไปด้วยความชื่นมื่นและเสียงแห่งความยินดี วันแห่งความสำเร็จการศึกษาของ พศวัต,ดนัย, กวี และรสรินวันนี้ทุกคณะเต็มไปด้วยผู้คน นักศึกษารุ่นน้องต่างถือดอกไม้ ลูกโป่ง และของขวัญมาแสดงความยินดีกับเหล่าบัณฑิตเสียงเพลงบรรเลงจากลำโพง เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยดังก้องไปทั่วบริเวณ บางมุมมีครอบครัวของบัณฑิตถ่ายรูปเก็บความทรงจำบางมุมมีกลุ่มเพื่อนช่วยกันจัดช่อดอกไม้และคล้องพวงมาลัยให้อย่างสนุกสนานศศิราและปัทมาเดินเข้ามาสมทบ ร่วมแสดงความยินดีกับกวี ว่าที่คุณหมอคนใหม่ ขณะที่ชัญญา น้องสาวของพศวัตก็เข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ“ยินดีกับพี่กวีมากๆ เลยนะคะ ที่จะได้เป็นหมอสมใจสักที”ชัญญากล่าวพร้อมรอยยิ้มจริงใจกวีหันมายิ้มอบอุ่นให้เธอ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ขอบคุณนะครับชัญญา สำหรับกำลังใจที่ดีของพี่”ทุกคนต่างรับรู้ว่าชัญญาคบหากับกวี แต่ในมุมหนึ่ง รสรินที่ยืนยิ้มแสดงความยินดีอยู่กลับรู้สึกไม่ต่างจากการฝืนยิ้ม ภายในใจของเธอไม
บ้านศศิรา...บรรยากาศยามเช้าหลังฝนกระหน่ำเมื่อคืนยังคงชื้นแฉะ หยาดน้ำฝนเกาะบนใบไม้ เสียงนกร้องแว่วมาไกลๆ อากาศเย็นสบาย แต่ท้องฟ้ายังคงอึมครึมราวกับฝนจะตกลงมาอีกครั้งศศิราเดินออกจากบ้าน มานั่งที่โต๊ะหน้าบ้าน ซึ่งแม่ของเธอได้จัดเตรียมข้าวต้มร้อนๆ ไส้กรอกไข่ดาว และขนมปังปิ้ง ไว้ให้“น่าทานจังเลยค่ะแม่”“ทานเยอะๆ นะแม่ทำไว้ให้”สายพิณยิ้มบางๆ ก่อนจะหยิบตะกร้าเตรียมออกไป “วันนี้แม่มีนัดกับป้าศรี จะไปตลาดกัน”“ขอบคุณค่ะแม่”สายพิณมองศศิราแล้วพยักหน้าเบาๆ“เมื่อลูก ๆ คืนดีกันแล้ว แม่ก็หายห่วง”พูดจบก็เดินออกจากบ้านไป“คุณพศวัตเรียกคุณดนัยกับปัทมา มาทานมื้อเช้าได้แล้วค่ะ”“ป่านนี้เขาคงจัด...มื้อเช้าบนเตียงกันแล้วมัง?”“คุณนี่นะ...”พศวัตยิ้มเจ้าเล่ห์ โน้มตัวเข้าใกล้พลางกระซิบเสียงแผ่ว“คุณไม่ต้องเลยศศิรา... ไปทะเลผมก็อด เมื่อคืนกว่าจะเข้าใจกันได้ก็ดึก ทานข้าวเสร็จคุณก็หลับ คืนนี้ผมจะไม่พลาดแน่นอน คืนนี้ผมต้องเคลียร์กับคุณให้รู้เรื่อง”ศศิราตาเบิกกว้าง ใจเต้นระรัว“พูดอะไรของคุณเนี่ย...” แก้มเธอร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวปัทมาและดนัยเดินออกจากบ้าน มุ่งตรงไปยังโต๊ะอาหารหน้าบ้านที่จัดไว้เรียบร้
บ้านสวนศศิริ...ดนัยกับปัทมาอยู่ในห้องนอนด้วยกันเพียงลำพัง เพราะอยากเปิดโอกาสให้ศศิราและพศวัตได้ปรับความเข้าใจกัน ก่อนหน้านี้เธอไม่คิดอะไร แต่เมื่อสถานการณ์พาไป การอยู่ใกล้กันนานขึ้นกลับทำให้หัวใจปัทมาเริ่มหวั่นไหว โดยเฉพาะเมื่อดนัยมองเธอไม่วางตาสายฝนกระหน่ำลงมาหนักขึ้น ด้านนอกมีเพียงเสียงน้ำฝนกระทบหลังคาและเสียงลมพัดผ่านต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม บรรยากาศอบอ้าวกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดแบบแปลกๆ“นี่คุณดนัย... จะจ้องฉันอีกนานไหม”ปัทมาพูดขึ้นเบาๆ“ก็ผมบอกว่าผมชอบคุณ จ้องหน่อยไม่เห็นจะแปลก”“โรคจิต”ปัทมาพึมพำ แต่ใบหน้ากลับร้อนผ่าวเธอนั่งอยู่บนเตียง ขณะที่ดนัยนั่งเอกเขนกบนโซฟาตัวเล็กข้างเตียง ไม่ถึงครู่ร่างสูงก็ลุกพรวดขึ้นแล้วกระโดดลงบนที่นอนทันที“นี่คุณ! จะทำอะไร?! กลับไปนอนที่โซฟาเลยนะ”“ฝนตก อากาศเย็นจะตาย ขอนอนบนเตียงเถอะน่า”“งั้นฉันจะไปนอนโซฟาเอง”ปัทมารีบลุกขึ้น แต่ดนัยจับข้อมือเธอไว้“คุณรังเกียจผมหรือไง แค่นอนเตียงเดียวกันเอง”ปัทมาชะงักไปเล็กน้อย“มันไม่ใช่อย่างนั้น... เราไม่ได้เป็นอะไรกัน มันไม่เหมาะสม”ดนัยยิ้มมุมปาก ก่อนพูดขึ้นเสียงนุ่ม“งั้นก็เป็นสิ...”“อะไร?”“เป็นแฟนผมไง”
เวลา 20.00 น. ทุกคนทานข้าวเสร็จแล้ว แต่พศวัตยังคงนั่งรอศศิราอยู่ในศาลาหน้าบ้าน ความเงียบงันของค่ำคืนนี้ทำให้เขายิ่งรู้สึกอึดอัดในอก หวังว่าเธอจะมาคุยกับเขาสักประโยค แต่เปล่าเลย...เธอไม่แม้แต่จะชายตามอง“เดี๋ยวคืนนี้ศศิราพาเพื่อนไปนอนบ้านสวนนะลูก”“ค่ะแม่หนูมานอนที่บ้านนะ”“เพื่อนมาหาทิ้งเพื่อนนอนตามลำพังน่าเกลียดนะลูก”เธอรู้ดีว่าถ้าไปนอนบ้านสวน พศวัตต้องหาทางเข้าหาเธอแน่นอนบ้านสวน...บ้านสวนของศศิรามีเพียงสองห้องนอน เธอนอนกับปัทมา ส่วนพศวัตต้องนอนกับดนัย แต่ด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียด ปัทมาและดนัยจึงตัดสินใจช่วยให้ทั้งสองมีโอกาสได้เคลียร์กัน“ที่รักครับ คืนนี้ผมนอนกับคุณได้ไหม?”ดนัยหันไปพูดกับปัทมาพร้อมกับส่งสายตารู้กัน“ได้ค่ะ งั้นคืนนี้เรานอนด้วยกันนะ ฉันหนาว อยากนอนกอดคุณ”ศศิราขมวดคิ้วมองเพื่อนอย่างงุนงง“เดี๋ยวนะ ปัทมาไปคบกับคุณดนัยตอนไหน?”"เราตกลงกันตั้งแต่ตอนเที่ยวทะเลแล้ว แค่ยังไม่มีโอกาสบอกเธอ"ปัทมายิ้มเจื่อนๆ แต่แววตาส่อประกายขี้เล่นดนัยฉวยโอกาสหันไปแกล้งพศวัตทันที“พศวัต คืนนี้นายก็นอนกับแฟนตัวเองสิ เพราะฉันจะนอนกับแฟนฉันเหมือนกัน”“งั้นปัทมานอนกับคุณดนัยเถอะ เดี๋ยวฉัน
พศวัตโทรหากวีด้วยน้ำเสียงร้อนรน รีบเล่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กวีฟังจนหมดสิ้น กวีรับฟังด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนตัดสินใจเด็ดขาด“เดี๋ยวผมจะไปรับชัญญา แล้วเราจะออกเดินทางไปด้วยกัน” กวีกล่าวไม่มีการรอช้า ดนัยและปัทมาพร้อมแล้ว ทั้งสี่คนมุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรีทันที ทันทีบ้านศศิรา...ลมอ่อน ๆ พัดผ่านเรือนไม้ยกพื้นสูง เสียงไก่ขันแว่วมาแต่ไกล กลิ่นหอมของดอกไม้จากสวนหน้าบ้านลอยมาตามลม แสงแดดยามเช้าส่องกระทบหลังคากระเบื้องเก่า ทำให้บรรยากาศบ้านสวนดูอบอุ่นและเงียบสงบเสียงแม่ดังขึ้นทันทีที่ศศิราก้าวเข้าบ้าน“ทำไมเมื่อคืนกลับมาดึกนักลูก? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? หรือว่า... ทะเลาะกับพศวัต?”แววตาของแม่เต็มไปด้วยความห่วงใย แต่ศศิราสูดลมหายใจลึก ตัดสินใจแน่วแน่"หนูตัดสินใจแล้วค่ะแม่... หนูจะเลิกกับเขา"แม่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามเสียงแผ่ว "เกิดอะไรขึ้น?"“จริง ๆ แล้วเขามีคู่หมายอยู่แล้ว ครอบครัวเขาทำสัญญากันตั้งแต่รุ่นพ่อแม่"“อะไรนะ?! แล้วทำไมเขาถึงมาคบกับลูกล่ะ?” แม่อุทาน สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจศศิรายิ้มบาง ๆ แต่เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด“เขามีเหตุผลของเขา แต่ช่างเถอะค่ะ... ห
งานเลี้ยงที่บริษัทของพศวัตเต็มไปด้วยแขกมากมาย ทั้งพนักงานและซัพพลายเออร์ต่างเข้าร่วมกันอย่างคึกคักในฐานะเจ้าของบริษัท นายประสิทธิ์ (พ่อของพศวัต) ออกมาต้อนรับแขกอย่างเป็นกันเอง เช่นเดียวกับอาคม เพื่อนสนิทของนายประสิทธิ์ ที่มาพร้อมกับลูกสาวของตัวเองจินดา หญิงสาววัย 20 ปี ออกงานคู่กับบิดา ทันทีที่เดินเข้ามา อาคมก็รีบเรียกลูกสาวให้มาทำความรู้จักกับพศวัตทันที“จินดา มานี่ลูก มารู้จักพี่พศวัตไว้สิ เขาเป็นรองประธานบริษัท ต่อไปบริษัทเราจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน”“สวัสดีครับ” พศวัตกล่าวทักทายอย่างสุภาพ แต่ทุกคำพูดของอาคมนั้น ศศิราที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยินเต็มสองหู และเข้าใจความหมายทั้งหมด“อ้าว! ประสิทธิ์มาพอดีเลย”อาคมร้องทักเพื่อนสนิทของตน“นี่ลูกสาวฉันไง ที่ฉันเคยบอกว่าจะให้หมั้นหมายกับลูกชายนาย”“สวัสดีค่ะคุณลุง” จินดาเอ่ยเสียงหวาน“อ้อ สวัสดีจ้ะหนูจินดา”ประสิทธิ์รับไหว้ พลางเหลือบมองพศวัตที่สีหน้าเริ่มเปลี่ยนไปพศวัตอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ยังไม่ทันจะเอ่ย อาคมก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน“ว่าแต่…ชัญญามาด้วยไหม? กะว่าจะหมั้นหมายให้ลูกชายฉันเหมือนกัน”พศวัตชะงัก เขาหันขวับไปมองศศิราทันที แว
ยามเย็นใกล้พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ท้องฟ้าถูกแต่งแต้มด้วยสีส้มทองอมชมพู ริมทะเลใต้ร่มไม้ใหญ่ ชุดอาหารถูกจัดวางเรียงรายบนโต๊ะไม้ เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งเป็นจังหวะ สายลมพัดแผ่วเบา บรรยากาศแสนผ่อนคลาย เหมาะแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริงดนัยกับปัทมาเป็นคู่แรกที่มาถึง ทั้งสองเพิ่งเดินเล่นริมหาดก่อนหน้านี้เลยมาถึงไวคู่อื่น ตามมาด้วยชัญญากับกวี แม้พวกเขาจะยังไม่ได้พักเต็มที่ตั้งแต่มาถึง แต่ก็ไม่คิดจะละเลยการนัดหมายกับเพื่อนๆผ่านไปไม่นาน ศศิราและพศวัตจึงค่อยเดินออกมาเป็นคู่สุดท้าย เสียงแซวจากกลุ่มเพื่อนดังขึ้นทันที“มาช้ากว่าคู่อื่นแบบนี้ มัวทำอะไรกันอยู่หรือเปล่า พศวัต?”ดนัยแกล้งถามพร้อมเลิกคิ้วเป็นเชิงหยอกพศวัตหัวเราะพลางยกมือขึ้นเกาหลังคอ“ไม่มีอะไรหรอก แฟนฉันไม่ค่อยสบาย เวียนหัวนิดหน่อย เลยให้พักก่อน”“ดูแลดีขนาดนี้ ถ้าฉันมีแฟน ฉันก็จะดูแลแบบนายนี่แหละ” ดนัยหันไปส่งสายตาให้ปัทมาอย่างมีเลศนัยพศวัตหัวเราะขำ“ขอให้มีเร็วๆ นี้นะ”ดนัยถอนหายใจอย่างโอเวอร์“ขอเขาแล้ว แต่ยังต้องรอให้ใจอ่อนอยู่”พูดจบก็หันไปสบตาปัทมา ทว่าหญิงสาวเพียงแค่กลอกตา ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง เดินไปหาศศิราทันที“เวียนหัวดีขึ้นหร
เวลานี้เกือบบ่าย คณะเพื่อนสนิทหกคน ปัทมา, ดนัย ชัญญา, กวี ,พศวัต และศศิรา เดินทางมาถึงบ้านพักบนเกาะส่วนตัว หลังจากไม่ได้มีโอกาสพักผ่อนมานาน วันนี้เป็นวันพิเศษที่พวกเขารอคอยเมื่อมาถึงหน้าบ้านพักหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ติดชายหาดพศวัตถือพวงกุญแจ เดินนำหน้าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปบอกทุกคน"มีห้าห้องนอนนะ ใครจะนอนกับใคร เลือกเลยครับ!"ปัทมาหันมามองศศิราพร้อมรอยยิ้ม"ฉันขอห้องคนเดียวละกัน หรือศศิราจะมานอนกับฉัน?"ศศิราพยักหน้า“ได้สิ..จ๊ะ”ยังไม่ทันพูดจบ พศวัตก็ดึงตัวศศิรามาโอบไว้แน่น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับใบหน้า“ไม่ได้หรอกครับ คู่หมั้นของผมต้องนอนกับผมเท่านั้น!”ทุกคนหัวเราะกับท่าทางขี้หวงของพศวัต บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหยอกล้อและความอบอุ่น“งั้นเหลือสี่ห้องพอดี ครบคนเลยค่ะ” ปัทมาสรุปกวีมองไปทางชัญญา แววตาอ่อนโยน“ชัญญา...ไม่นอนกับพี่เหรอ?”ชัญญาหันไปสบตาพี่ชายของตน พศวัตที่กำลังยืนมองอยู่คล้ายรอฟังคำตอบ เธอจึงกระซิบเบาๆ กับกวี“เดี๋ยวค่อยว่ากันนะ”ทั้งสองส่งสายตาให้กันอย่างรู้กันดี พศวัตมองดูแล้วก็พอจะเข้าใจ แต่ก็ทำได้เพียงยิ้มขำกับสถานการณ์นี้ปัทมายกกระเป๋าขึ้นเตรียมเดินเข้าห้อง ดนัยรีบ
คอนโดดนัย...เวลา 8.30 น. เสียงกริ่งประตูดังขึ้น ดนัยที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาเปิดประตูในชุดคลุมตัวหลวม กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ ลอยตามผิวกาย เขาคิดว่าอาจเป็นพนักงานของคอนโดฯ แต่พอเปิดประตูออกกลับต้องชะงักปัทมายืนอยู่ตรงหน้า ในมือเธอถือถุงอาหารเช้า พร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรง“สวัสดีค่ะ พอดีฉันเอาอาหารเช้ามาให้”เธอพูดเสียงนุ่ม ดวงตาคู่นั้นมองเขาอย่างใสซื่อดนัยไม่คิดว่าเธอจะใส่ใจคำพูดของเขาขนาดนี้ เขาดีใจมากเสียจนแทบกลั้นรอยยิ้มไม่อยู่“ผมดีใจมากเลยนะครับ ไม่คิดว่าคุณจะมา”เสียงของเขาอบอุ่นกว่าที่ตั้งใจเล็กน้อยปัทมายิ้มพลางเอียงคอมองเขา“แล้วทำไมฉันจะมาไม่ได้ละคะ คุณอุตส่าห์ช่วยฉัน น้ำใจแค่นี้ ฉันทำให้คุณได้อยู่แล้ว”ดนัยมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง ยิ่งได้ยินคำพูดนี้ เขายิ่งรู้สึกพิเศษ“งั้น…ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ คุณตามสบายเลย”“ค่ะ เดี๋ยวฉันจัดอาหารเช้าให้ แล้วจะให้ฉันไปเรียกศศิรากับคุณพศวัตมาทานด้วยกันไหมคะ?”ดนัยชะงัก ก่อนส่ายหน้าเร็วๆ ดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์“ป่านนี้สองคนนั้นคงนอนกอดกันอยู่ ปล่อยเขาไปเถอะครับ ผมอยากใช้เวลานี้กับคุณมากกว่า”ปัทมายิ้มขำเล็กๆ ก่อนส่า
คอนโดของพศวัต...ยามค่ำคืนอันเงียบสงบ แสงไฟจากตัวเมืองลอดผ่านม่านบางๆ เข้ามาสะท้อนกับผนังห้อง สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองเสียง "ติ๊ด" ดังขึ้นเมื่อพศวัตใช้คีย์การ์ดเปิดประตู ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง เขาไม่รอช้า ช้อนตัวศศิราขึ้นในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว“อุ้ย! จะทำอะไรคะ ปล่อยก่อน”ศศิราร้องเสียงเบา มือเล็กดันอกกว้างของเขาเบาๆ แต่กลับถูกกอดแน่นขึ้น“ผมหิว...”เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างหู“หิว?” ศศิราเลิกคิ้ว ทำหน้ายู่ใส่เขาอย่างแง่งอนพศวัตหัวเราะเบาๆ ก่อนจะวางเธอลงบนโซฟาตัวใหญ่ พลางถอนหายใจยาว“วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมาก... แต่ก็เป็นวันที่มีความสุขที่สุด เพราะน้องสาวของผมเดินได้อีกครั้ง ต้องขอบคุณพี่ชายของคุณที่ไม่ทอดทิ้งเธอ”“พี่กวีเป็นคนดีมากค่ะ”ศศิราพูดด้วยรอยยิ้ม“โชคดีของยัยน้องจริงๆ”พศวัตมองเธอนิ่ง ราวกับมีบางอย่างที่อยากพูดแต่ลังเลศศิราจ้องเขากลับ“มีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะค่ะ”ชายหนุ่มยิ้มบางๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเธอแผ่วเบา “คุณรอผมตรงนี้นะ... ผมมีอะไรจะให้”ศศิรามองตามแผ่นหลังกว้างของเขาที่เดินเข้าไปในห้องนอน ก่อนที่เขาจะกลับออกมาพร้อมกับกล่องกำมะหยี่สีดำในมือเธอเบิกตากว้าง