ตำหนักบูรพา“หงถิง วันนี้มีผ้าใหม่มาให้เจ้าเลือกมากมาย ฟางหลุนพานายหญิงมาดูผ้าที่ข้าซื้อหามาผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ชุดขาวไว้ทุกข์ของนายหญิงเจ้าเสีย”ฟางหลุนพยักหน้าให้หงถิง แต่หงถิงกับนั่งนิ่งไม่ขยับตัว“ข้าตั้งใจ เลือกมาเสียมากมายให้หงถิง เลือกดูเผื่อว่าเจ้าจะชอบสักผืนสองผืน”หงถิง ขยับตัวหันมองเพียงแว๊บเดียว“ท่านอ๋อง ข้าตอนนี้ไม่มีใจคิดถึงเรื่องอื่นขออภัยด้วย”รอยยิ้มเศร้าๆ บังเกิดขึ้นบนสีหน้าของหวาซงอ๋อง“หวาเซียงอ๋องตายไปแล้ว เขาอยู่เขาก็มิได้ดีกับเจ้ามากมาย ข่มเหงรังแกอีกทั้งกักขังเจ้าข้า เห็นเจ้ามีรอยน้ำตาในทุกวันคืน บัดนี้หวาเซียงอ๋องไม่อยู่แล้ว เจ้าควรดีใจ ที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่”หงถิงขมวดคิ้ว“ไม่เร็วไปหน่อยหรือ แม้ท่านพี่จะเคยรังแกข้า แต่ทว่าเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดความดีเขาก็มีไม่น้อย ท่านอ๋องท่านอย่าฝืนใจข้าเลย”“ดี เจ้าพูดเช่นนี้ข้าจะได้รู้ว่า ความพยายามของข้าสูญเปล่าแต่เจ้าจงจำไว้ว่าคนอย่างข้าไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่ายดาย”หงถิงก้มหน้านิ่งรู้สึกกดดันอย่างที่สุดหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้“หวาจิ้งอ๋อง ส่งคนสังหารหวาเซียงอ๋องมีพยานหลักฐานชัดเจน ถึงแม้เป็นอ๋องแต่หาทำตัวให้เหมาะสมไม่ ข้
“ดีแล้วอีกไม่นานทุกอย่างก็จะเป็นเจ้าที่ได้ครอบครอง จึงขอให้รักษาความดีนี้ไว้”“หวาซงน้อมบัญชาเสด็จย่าต่อไปหลานจะตั้งใจและใส่ต่อราษฎรและทำนุบำรุง การเมืองการปกครอง ศาสนาให้รุ่งเรือง”“หงถิง ชายารองของหวาเซียงเอ่อร์เป็นอย่างไรบ้าง”“นางยังคง เศร้าโศกเสียใจไม่สร่างซา หลานเฝ้า ...เอาใจและดูแลนางอย่างดีที่สุด”“หวาซงอ๋องเจ้าคิดว่า หงถิงนางเป็นเช่นไรในสายตาเจ้า”“หลาน หลานคิดว่านางน่าสงสารแต่เดิมแต่งเข้าจวนหวาเซียงอ๋องก็ถูกหวาเซียงอ๋องกักขังทารุณ พอตั้งครรภ์หวาเซียงอ๋องเมตตานางมาบ้าง หวาเซียงอ๋องกับด่วนจากไป นางจึงน่าสงสารยิ่งนัก หลานก่อนที่จะมานี่คิดว่าจะขอประทานอนุญาตให้เสด็จย่ากราบทูลฝ่าบาทให้แต่งนางเป็นชายารองของหลาน”ไทเฮาพยักหน้ายิ้มๆ“เจ้าไม่รังเกียจนางหรือไร”“นางงดงามอ่อนหวานอีกทั้งเป็นถึงบุตรีของใต้เท้ากวง มีสิ่งใดที่หลานต้องรังเกียจนาง”“ดีเช่นนั้นพิธีแต่งตั้งไท่จือ ข้าทูลฝ่าบาทให้แต่งหงถิงเข้าตำหนักบูรพาเป็นชายารองของเจ้าในวันเดียวกัน”หวาซงอ๋องทรุดกายลงคุกเข่าตรงหน้า“ขอบพระทัยเสด็จย่า หลานตั้งใจจะดูแลทั้งชายาหม้ายและลูกของหวาเซียงอ๋องที่เป็นหลานให้ดีที่สุด”ไทเฮายิ้มนอกเขตวัง
หวาเซียงอ๋อง เป็นองค์ชายสามของฮ่องเต้ แต่ถูกบัญชาให้แต่งกับเหอซ่างเซี่ยนที่เป็นน้องสาวคนเล็กของฮองเฮา เหอซ่างเซี่ยนเป็นคนอ่อนหวานและไม่เคยขัดใจหวาเซียงอ๋องแม้หวาเซียงอ๋องไม่รักทว่าผูกพัน เมื่อเหอซ่างเซี่ยนล้มป่วยและรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย แต่เป็นเพราะรักและห่วงหวาเซียงอ๋องจึงทูลขอให้ฮ่องเต้ประทานสมรสและขอร้องว่าห้ามบอกว่าเป็นความคิดของเหอซ่างเซี่ยน ซึ่งให้แต่งกับบุตรีใต้เท้ากวงซึ่งเป็นขุนนางคนโปรดใกล้ชิดกับฝ่าบาทที่เป็นศิษย์ร่วมสำนักกันมาก่อน โดย เหอซ่างเซี่ยนรู้ว่าหวาเซียงอ๋องเป็นคนที่ค่อนข้างเถรตรงจึงเป็นเหตุให้ขุนนางและบรรดาอ๋องไม่ค่อยชอบขี้หน้าเพราะเขาดำรงค์ตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรที่มีหน้าที่ตรวจตราความผิดของขุนนางข้าราชสำนักและเชื้อพระวงศ์ในครั้งนี้เหอซ่างเซี่ยนจึงคิดว่าหากแต่งกับบุตรีของใต้เท้ากวงแล้วจะสามารถเชื่อมสัมพันธ์พ่อตาลูกเขยด้วยเรื่องที่คนมาร้องทุกข์ต่อหวาเซียงอ๋องเรื่องฆ่าแม่ของ หงถิงและวางเพลิงหงถิง บุตรีของใต้เท้ากวงมีฝาแฝดชื่อกวงเจ้าหรูซึ่งทั้งสองคนอาภัพ กวงเจ้าหรูถูกสอนให้กตัญญู และให้เชื่อมาตลอดว่าแม่ทิ้งไป ส่วนหงถิงอยู่กับมารดาแต่มารดากลับถูกสังหารและวาง
“หงถิง ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่ว่าจะเป็นของชิ้นไหนก็ได้ทั้งนั้นไท่จือเลือกมาแล้วเช่นไรจะกล้าปฏิเสธอีกหน่อยต้องแต่งเข้าตำหนักบูรพาอย่างไรก็ต้องยอมรับความจริงข้อนี้”น้ำเสียงราบเรียบจนหวาเวียงอ๋องคาดไม่ถึงว่าหงถิงจะยอมรับสภาพได้ดีเช่นนี้“ดี เจ้าเข้าใจข้าก็นับว่าดีแล้ว เช่นนั้นของทั้งหมดยกให้เจ้า”“ของทั้งหมดยกมาได้ แต่นางกำนัลหงถิงขอไม่รับเพราะลำพังฟางหลุนก็พอแล้ว”หวาซงอ๋องยิ้ม“เจ้าพูดง่าย ไม่ทำให้ข้าหนักใจเช่นนี้ข้าจึงยอมตามใจเจ้า วันนี้ให้ฟางฟลุนพาเจ้าไปเสวยเย็นพร้อมข้า”หงถิงย่อกายลงช้าๆ หวาซงอ๋องขยับกายเดินออกจากห้องไป“นายหญิงฝืนใจหรือไม่”ฟางหลุนถามเพราะเห็นว่าหงถิงช่างสงบกว่าที่เคยเป็น ไม่น่าเชื่อว่าจะปรับตัวได้ดีเพียงนี้อีกทั้งยังตีสีหน้าได้เรียบเฉยจนน่ากลัว“ฝืนใจ ในเมื่อเขาไม่ใช่คนที่...ข้ารักแต่ก็ต้องฝืนใจยอมเขา ในเมื่อท่านอ๋องไม่อยู่แล้ว ทางเดียวที่จะเอาตัวรอดได้ คือแสร้งยินยอมให้เขาตายใจ แล้วค่อยหาทาง เร้นกายหนีหาย หากปล่อยให้เขาเอาคนของเขาเข้ามา เรื่องราวใดๆที่เราจะกระทำต่อจากนี้จะไม่เป็นความลับ”ฟางหลุนยิ้ม หงถิงกำลังเติบโตการเผชิญอุปสรรคคือการเจริญเติบโตของมนุษย์“ฟางหลุนด
ฮ่องเต้ถอนหายใจไม่ใช่เพียงฮองเฮาที่รู้สึกผิดแต่เขาเองก็รู้สึกผิดต่อหวาเซียงอ๋องเช่นกัน“ขันทีบัญชาออกไประหว่างนี้ให้ หงถิงชายารองของหวาเซียงอ๋องกลับไปพักพิง ที่จวนหวาเซียงอ๋อง”ตำหนักบูรพาหวาซงอ๋องกวาดจอกสุราบนโต๊ะกระจายเกลื่อนพื้น“ส่งนางกลับจวนหวาเซียงอ๋อง ฝ่าบาทคิดอะไรกัน”“ไท่จือ ฝ่าบาทอาจสงสารพระชายารองของหวาเซียงอ๋องที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเคารพศพหรือจุดธูปหน้าป้ายวิญญาณ”“หยุดคำพูดของเจ้า อย่าเรียกนางว่าชายารองของหวาเซียงอีกเป็นอันขาดนางกำลังจะเป็นชายาของข้า”ชายาเอกก้มหน้านิ่ง“ส่งคนของเจ้าดูแลนาง จับตานางแทนข้า อย่าได้บอกว่าเป็นคนของข้า”ชายาเอกย่อตัวลงช้าๆ หวาซงอ๋องยกไหสุรากรอกลงไปในลำคอ จนเกือบหมดไหกระท่อมกลางป่าหวาเซียงอ๋อง ผลักร่างบางของเจียอีออกห่างเมื่อรู้ว่าไม่ใช่หงถิง สติสัมปะชัญญะกลับคืนมาครบถ้วนบริบูรณ์“เจ้าเป็นใคร”ยกมือบีบที่ลำคอแน่นไม่ยอมปล่อย เจียอีขยับตัวหนี“ข้าเจียอี เป็นคนที่ช่วยท่านเมื่อวาน”“ออกไป อย่ามาใกล้ข้า”“ข้าเป็นคนช่วยท่าน เป็นท่านที่กอดจูบข้า แล้วยังจะทำร้ายข้าอีกหรือ”มือใหญ่กล้บบีบคอแรงขึ้นกว่าเดิม“ถอยออกไปก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน”“แค่กๆๆๆ ”
“ข้าช่วยอะไรพวกท่านไม่ได้ อีกทั้งยังทำให้พวกท่านต้องพลอยลำบากไปด้วยกัน”“นายหญิง นายหญิงเป็นสิ่งเดียวที่ท่านอ๋องเหลือไว้ให้พวกเรา เพื่อระลึกถึงสิ่งที่ท่านอ๋องเคยทำให้พวกเราทั้งหมด ท่านอ๋องเดิมทีใจดีที่สุดแต่เมื่อแต่งชายาเอกและนายหญิงชายาเอกป่วย ท่านอ๋องก็เปลี่ยนไปเราทั้งหมดรักและเคารพท่านอ๋องเช่นไรความรักและเคารพทั้งหมดส่งมาถึงนายหญิงเพียงคนเดียว”หงถิงยิ้มบางๆ รู้สึกขอบคุณฟางหลุน เสี่ยวกุน และกัวเฉาที่เคียงข้างยามยากเช่นนี้โรงเตี้ยมกลางป่าหวาเซียงอ๋องลืมตาตื่นมาอีกครั้งท่านหมอกำลังจับชีพจรอยู่กัวเฉายืนกอดอกมองไม่ไกลนัก“อาการ นายท่านดีขึ้นมาก คาดว่าอีกไม่กี่วันจึงจะหายดีตอนนี้ร่างกายฟื้นตัวรวดเร็ว”หยิบถุงเงินส่งให้ท่านหมอที่วางห่อยาลงข้างแท่นนอน“กัวเฉา”“ท่านอ๋อง ท่านฟื้นแล้ว”“หงถิง หงถิงเป็นอย่างไรบ้าง”กัวเฉายิ้ม“พระชายา ยังโศกเศร้าคิดถึงท่านอ๋องไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีบางอย่างที่กัวเฉาเกรงว่าหากท่านอ๋องรู้ จะไม่ยอมนอนรักษาตัวจนหายเสียก่อน”“บอกข้ามา”“หวาซงอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือ จะมีพิธีแต่งตั้งไท่จือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และในวันนั้นไท่จือจะแต่งชายารองของท่านอ๋อง เข้าตำหนั
“ข้าพร้อมแล้ว ท่านองครักษ์พร้อมหรือยัง”“พระชายาระยะทางไปจากนี่ไม่ไกลนักมีกระท่อมหลังหนึ่งซุกซ่อนอยู่กลางป่า มิดชิดไร้ผู้คนย่างกราย เราทั้งหมดเร้นกายที่นั่นก่อนมืด แล้วพรุ่งนี้ค่อยหาทางอีกที”“ไม่กลัวว่าพวกเขาจะพบเรา”“ที่นั่นปลอดภัย กัวเฉาเร้นกายมานานวันแต่ระหว่างทางค่อนข้ารกเรื้อ”“ไม่เป็นไรข้าทนได้”สัมผัสอบอุ่นเมื่อคืนทำให้หงถิงรู้ว่าจะไม่มีทางยอมตกเป็นของคนอื่นแม้จะลำบากเพียงใดก็ตาม“กัวเฉา อาสาพาไป ที่นั่นจะพบคนผู้หนึ่งที่จะนำทางพระชายาอย่างปลอดภัย”หงถิงขมวดคิ้ว“ยังมีผู้ใดที่ไว้ใจได้อีกเล่า”“คนผู้นี้ กัวเฉาไว้ใจเขาเฉกเช่นเดียวกับท่านอ๋อง เมื่อถึงเวลานั้นพระชายาก็จะ ต้องพูดเช่นเดียวกับกัวเฉา”หงถิงยิ้ม“พระชายาเหตุใดจึงไม่เร้นกายในตอนมืดค่ำ”ฟางหลุนสงสัย“ออกไปตอนนี้ไร้คนสงสัย หากมีคนถามก็ให้ตอบว่าพาข้าเดินเที่ยวชมตลาดเพื่อหาของใช้จำเป็นสำหรับวันพรุ่งนี้ สบโอกาสเราจึงเร้นกายระหว่างนี้ กัวเฉาท่านต้องใช้ความสามารถในการสังเกตุคนว่ามีคนของหวาซงบ้างหรือไม่”“พระชายารอบคอบยิ่งนัก หากเป็นฟางหลุนคงคิดไม่ถึงไท่จือและคนของไท่จือเองก็คงคิดไม่ถึง ว่าพระชายาจะเร้นกายไปตอนกลางวันแสกๆ ”กัวเ
หวาเซียงอ๋องแต่เดิมเป็นที่รักใคร่และเคารพขององครักษ์เสื้อแพร แม้เขาไม่อยู่แล้วแต่ทุกคนยังระลึกถึงแม้แต่เขา หวาซงอ๋องภายนอกอ่อนโยนแต่การแสดงออกกลับคนผู้น้อยล้วนอาศัยอำนาจ จนทำให้หวาดกลัวกัวเฉาเก็บกระบี่เข้าฝักเร่งนำทางยังกระท่อมกลางป่าที่รกเรื้อและยากลำบาก“พระชายา เข้าไปข้างในเถิด”ฟางหลุนขยับตัวตามแต่กัวเฉามองสบตาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา หงถิงมองคนทั้งหมด“เราทั้งสามอารักขาอยู่ด้านนอกจึงดี”กัวเฉาพูดขึ้น หงถิงเปิดประตูเข้าไปด้านใน หวาเซียงอ๋องยืนเอามือไพล่หลังในอาภรณ์สีทึมทึบ หันหน้ากลับมาเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก หงถิงยืนนิ่งกับที่น้ำตาไหลริน กัวเฉาปิดประตูก่อนจะพยักหน้าให้ฟางหลุนกับเสี่ยวกุนออกมาจากตรงนั้น“ท่านพี่”หวาเซียงอ๋องกอดรวบร่างบางที่วิ่งเข้าหาเขาทันที“ท่านพี่ท่านยังไม่ได้ทิ้งข้าไปใช่ไหม”ริมฝีปากอุ่นกดปิดริมฝีปากบางไว้ไม่ให้เอ่ยคำใดมีเพียงภาษากายและสัมผัสอ่อนนุ่มอบอุ่นเท่านั้นที่จะอธิบายทุกอย่าง จูบเนิ่นนานที่ทำเอาหงถิงอ่อนระทวยในอ้อมแขน จนหวาเซียงอ๋องต้องพยุงไว้ ถอนริมฝีปากออกช้าๆก่อนจะกดมันลงอีกครั้ง บดเบียดอ่อนหวานซ้อนร่างบางไปที่แคร่ไม้ไผ่ ทาบทับเสียเต็มตัวแบบไม่อาจ
ผลไม้รสเปรี้ยวรสชาติดีไม่น้อยหงถิงคิดหวาเซียงอ๋องได้มาจากที่แห่งใด คนอย่างเขาเช่นไรจึงเสาะแสวงหาของแบบนี้มาได้หรือสั่งให้ใครไปเก้บมากันแน่แต่ก้ไม่ได้ถามไถ่“นายหญิง ไม่เสวยอะไร กินได้เพียงผลไม้รสเปรี้ยวเจ้าค่ะ”เสียงฟางหลุนคุยกับหวาเซียงอ๋องด้านนอกห้องโดยที่อีกคนไม่กล้าเข้ามาในเมื่อรู้ว่าหงถิงแพ้ท้องและแพ้ลามมาถึงเขาด้วยหลังจากที่รู้จึงทำได้เพียงอยุ่ห่างๆวันๆก็แค่แวะเวียนมาไม่กล้าเข้าไปหาเหมือนเคย“ยาบำรุง ข้าให้ท่านหมอจัดยาบำรุงที่ดีที่สุดในแคว้นฉานให้นายหญิงของเจ้า อย่าลืมเคี่ยวให้หงถิงดื่มเช้าเย็น ยานี้ยังช่วยเรื่องอาการแพ้ท้อง กว่าข้าจะได้มันมาต้องอาสาไปช่วยท่านหมอที่ไปเก็บสมุนไพรอยู่บนเขาห่างออกไปหลายลี้”ฟางหลุนยิ้มไม่อยากเชื่อว่าความรักเปลี่ยนคนได้เพียงนี้ท่านอ๋องเดิมเฉยชาไม่ใส่ใจผู้ใดมาบัดนี้กลับเปลี่ยนจากคนเฉยชาเป็นคนที่ใส่ใจผู้อื่นยิ่งนัก"เจ้าค่ะท่านอ๋อง"ย่อกายลงรับบัญชา“นางผอมลงหรือไม่”น้ำเสียงห่วงใยไม่เปลี่ยน"เจ้าค่ะก็กินได้แค่ผลไม้รสเปรี้ยวอย่างอื่นไม่อาจแตะต้องเครื่องหอมยังต้องโยนทิ้ง"เสียงฟางหลุนตอบเบาๆ"นางลำบากเพียงนี้เชียวหรือข้าจะแบ่งเบานางได้เช่นไรกัน"น้ำเสียง
หวาเซียงอ๋องก้าวเท้ายาวๆยังห้องของหงถิง ข้างหน้านั่นกลับเงียบจนน่าในหาย นางจะเป็นอย่างบ้าง อาการบาดเจ็บที่เขาเห็นรุนแรงไม่น้อย แต่ใจกลับกระหวัดคิดไปถึงเหอซ่างเซี่ยน ความครุกรุ่นบังเกิดขึ้นในใจก้าวขาออกไปจากตรงนั้นทันที“ท่านอ๋อง ชายารองบาดเจ็บถึงเพียงนั้นท่านยังใจร้ายกับนาง”กัวเฉา ประสานมือตัดสินใจอยู่นานกว่าจะกล้าพูด“นางทำให้เซี่ยนเซี่ยนตาย”“ท่านอ๋อง พระชายาเอกนางรู้ว่าตัวเองไม่แข็งแรงจึงนับว่าตัดสินใจไปแล้วด้วยความเด็ดเดี่ยวออกไปตามพระชายารองด้วยความเป็นห่วง ตอนที่กัวเฉาเจอพระชายารองนั้น นางพยายามส่งภาษามือให้กัวเฉาไปช่วยพระชายาเหอซ่างเซี่ยนแต่ว่ากัวเฉาไม่อาจรู้ว่านางต้องการจะบอกอะไรหากท่านอ๋องจะโกรธใครสักคนขอให้เป็น กัวเฉาเถิด ที่โง่งมไม่สามารถเข้าใจภาษามือ”“เจ้าจงใจพูดแทนนาง มีความหมายใดหรือไม่”“ท่านอ่องนางอาภัพ พูดไม่ได้อีกทั้งแต่งเข้ามาในจวนอ๋องหวังว่าท่านอ๋องจะดีกับนาง แค่แต่งมาเป็นชายารองก็นับว่ารันทดพอแล้วยิ่งเป็นชายารองของท่านอ๋องที่มีสายตามองแต่เพียง ชายาเอกยิ่งทำให้นางน่าสงสาร”“กัวเฉา”ตวาดลั่น“ท่านอ๋องหากกัวเฉา เป็นคนอื่นจึงมิกล้าพูดกับท่านอ่องแบบนี้ ท่านอ๋องเคยสงสั
กระท่อมกลางป่า“พระชายา เอ่อ ๆๆ ไท่จือเฟย ไท่จือเชิญท่านที่ตำหนักบูรพา”เสี่ยวกุน ประสานมือท่าทีนอบน้อม“ไท่จือ”หงถิงเลิกคิ้วสูง“ไท่จือ..เอ่อ..ไท่จือหวาเซียง ท่านอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือให้พระชายาเอ่อพูดผิดตลอด ให้ไท่จือเฟยเตรียมตัวย้ายเข้าไปที่ตำหนักบูรพา”หงถิงยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น“อย่างไรก็ต้องเข้าตำหนักบูรพาในวันนี้ในวันฤกษ์งามยามดี แต่ผิดกันที่ ….สามีเป็นข้า”กอดหงถิงจากด้านหลังไว้แน่น“ท่านพี่ ไหนบอกหงถิงว่าเราสองคนจะเร้นกาย”หงถิงทวงสัญญา“ข้าอยากไปแต่ตอนนี้เสด็จพ่อยังไร้คนที่วางใจได้”“ท่านพี่ ท่านก็เลยไม่วางใจ”“ข้า เกรงใจเจ้าไม่น้อย เจ้ายินดีเป็นไท่จือเฟยของข้าไหมไม่ว่าจะภูเขาดาบทะเลเพลิงเจ้ายังจะอยู่ข้างข้าอีกไหม”ก้มลงกระซิบข้างหู“ไม่ว่า ท่านพี่จะเป็นยาจกหรือฮ่องเต้ หงถิงยังจะเคียงข้าง บอกแล้วมิใช่หรือว่าแม้จะเร้นกายหงถิงก็จะเคียงข้างในเมื่อตอนนี้ท่านพี่เลือกที่จะกตัญญูต่อฝ่าบาทหงถิงจึงไม่อาจคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยยังพร้อมเคียงข้างเสมอ”“ขอบใจเจ้าอย่างไรจึงจะพอกับสิ่งที่เจ้าทำให้ข้า เจ้ายอมเคียงข้างข้าคนที่... เคยร้ายกับเจ้ามาก่อน”“แค่ได้อยู่ข้างกันหงถิงก็พอแล้วไม่ต้อ
“เจ้าเลิกพูดจาให้ร้ายข้า แล้วหาหลักฐานมายืนยันความผิดของข้า”“ข้านี่อย่างไรเล่าหลักฐานท่านพูดเองว่าข้าสมควรตายยาพิษที่ท่านใส่มันลงในอาหารแต่เป็นเพราะสวรรค์มีตา สาวใช้ของข้านางจึงยอมตายแทนเพื่อให้ข้าได้หนีมาเปิดโปงความผิดของท่านเป็นเช่นนี้ข้าจึงทำลายใบหน้าตัวเองเสีย สวรรค์มีตามือสังหารผู้นั้น ได้ลงชื่อสารภาพทุกอย่างไม่อย่างนั้นข้าจะรู้ได้อย่างไรว่า เขาทำงานผิดพลาดแล้วท่านเป็นคนสั่งให้เขาวางเพลิง ข้าแม้อยากให้นางตายเพียงใดก็ไม่คิดที่จะทำเช่นนั้น ท่านอาศัยคำขู่ของข้าเพื่อใส่ความข้า”ยื่นร่างคำสารภาพไปมาตรงหน้า หวาเซียงอ๋อง รับมันก่อนจะก้าวขึ้นไปบนบัลลังก์ ์ส่งถึงมือฮ่องเต้“กวงเจ้าหลัว ชั่วช้าเกินไปแล้ว แม้แต่เลือดเนื้อเชื้อไขท่านยังใช้เป็นเครื่องมือ ทหารนำตัวไปคุมขังรอวันประหาร”“ฝ่าบาทกวงเจ้าหลัวขอความเป็นธรรม เจ้าหรูข้าก็มิได้บังคับให้นางต้องตายแต่เป็นเพราะหวาจิ้งอ๋อง เห็นว่านางกำลังตั้งครรภ์เกรงว่าหากหวาเซียงอ๋องรู้ว่านางตั้งครรภ์กับใคร เขาจะถูกลงทัณฑ์อีกทั้งคดียักยอกเงินในคลังหลวงในตอนนั้นเป็นหวาจิ้งอ๋องที่อยู่เบื้องหลัง จึงวางแผนให้เจ้าหรูเข้าไปขโมย หลักฐานจากจวนหวาเซียงอ๋องมาเจ้าห
“เสด็จพ่อ”หวาซงอ๋องพยายามเร่งรัดให้มอบเสื้อคลุมมังกรกับเขา“ลูกถูกหวาซง และมือสังหารของเขาล้อมกรอบแต่เป็นเพราะคมกระบี่ของหวาซงที่ทำให้ลูกเสียหลักตกลงไปที่หน้าผาสูง”“ฝ่าบาท ข้าเคยบอกแล้วว่ามือสังหารเหล่านั้นไม่ใช่ของข้า”หวาจิ้งอ๋องได้ที“หุบปากเจ้าเสียน้องรองไหนว่าจะจะอยู่ข้างข้า หากข้าช่วยให้เจ้าพ้นผิดเรื่องที่ฆ่ากวงเจ้าหรู”หวาซงอ๋องหันไปเล่นงานหวาจิ้งอ๋อง“พี่ใหญ่แผนของท่านรัดกุมก็จริง แต่หารู้ไม่ว่าข้าที่รอดมาได้ เพราะท่านไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่มือสังหารที่ทำงานให้ท่าน ท่านยังกำจัดพวกเขาเสียจนสิ้นข้าจึงได้โอกาสสวมรอยอาศัยศพของพวกเขาในการเร้นกายเพื่อรักษาตัว”“ไม่จริงเสด็จพ่อสิ่งที่หวาเซียงอ๋องพูดมาไม่เป็นความจริง”“เสด็จพ่อลูกอาศัยเปลี่ยนอาภรณ์และห้อยป้ายหยกให้กับศพของมือสังหารนายหนึ่งที่ใบหน้าแหลกเหลวจากการตกจากหน้าผา หนีรอดมาได้ เพราะรู้ดีว่าคนของหวาซงอ๋องจะต้องถูกส่งมาให้ค้นหาศพลูก”“หวาซงจริงหรือไม่”“เสด็จพ่อไม่เป็นความจริง หวาเซียงอ๋องพลัดตกจากเหวเอง ลูกไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขากัวเฉา ลากเอามือสังหารที่รอดชีวิตในวันเดียวกับหวาเซียงอ๋องเข้ามา“พูด”“ฝ่าบาท กระหม่อมเป็นมือสังห
“ก็…”กดริมฝีปากปิดปากบางไว้“ไม่ต้องพูดแล้ว แค่เจ้าไม่ยอมเป็นของหวาซง ข้าก็รู้ว่าเจ้ารักข้าเพียงใด ต้องขอบคุณคำพูดของหวาซง ที่บอกว่าจะดูแลชายารองของข้าตอนนั้นเองที่ทำให้ข้าคิดว่าข้าจะตายไม่ได้ทั้งที่เจ็บเจียนตาย เพื่อสิ่งที่เขาคิดจะได้ไม่มีทางเป็นจริงสิ่งเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อคือการที่ได้กลับมากอดเจ้าแบบนี้ แต่ก็กลัวเหลือเกินว่า เจ้าจะเห็นแก่ลาภยศยอมแต่งเข้าตำหนักบูรพา”“ไม่ ไม่ ไม่หงถิงยอมตาย”ตอบเร็วรี่“ ข้ารู้ ว่าเจ้าไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าจะต้องเป็นของข้า และให้ข้าได้รักเจ้าแบบนี้ตลอดไปข้าเองต่อจากนี้จะมีมีสายตาไว้มองใคร”หงถิงหน้าเศร้า เมื่อคิดถึงเหอซ่างเซี่ยน“ชายาเอกของท่านเล่า”หวาเซียงอ๋องยิ้มกว้าง“หงถิงหึงข้า ข้าดีใจที่สุด เซี่ยนเซี่ยนนางเป็นดั่งเพื่อนที่คอยหวังดี และเข้าใจข้ามาตลอด ป่านนี้นางก็คงดีใจที่ข้ารักเจ้าได้มากขนาดนี้ แม้เจ้าไม่ใช่เจ้าหรูเพราะความผิดพลาดแต่ความผิดพลาดน้้นกลับทำให้ข้ามีความสุขเพียงนี้"จุมพิตเบาๆ ที่หน้าผาก“คิดถึงหงถิง แล้วก้อนแป้งน้อยในท้องของพ่อเป็นอย่างไรบ้างโก้งโค้งจุมพิตที่หน้าท้องเปลือยเปล่า ที่มองเห็นมาป๋องนูนออกมาเพียงนิด“เจ้
หวาเซียงอ๋องแต่เดิมเป็นที่รักใคร่และเคารพขององครักษ์เสื้อแพร แม้เขาไม่อยู่แล้วแต่ทุกคนยังระลึกถึงแม้แต่เขา หวาซงอ๋องภายนอกอ่อนโยนแต่การแสดงออกกลับคนผู้น้อยล้วนอาศัยอำนาจ จนทำให้หวาดกลัวกัวเฉาเก็บกระบี่เข้าฝักเร่งนำทางยังกระท่อมกลางป่าที่รกเรื้อและยากลำบาก“พระชายา เข้าไปข้างในเถิด”ฟางหลุนขยับตัวตามแต่กัวเฉามองสบตาพร้อมกับส่ายหน้าไปมา หงถิงมองคนทั้งหมด“เราทั้งสามอารักขาอยู่ด้านนอกจึงดี”กัวเฉาพูดขึ้น หงถิงเปิดประตูเข้าไปด้านใน หวาเซียงอ๋องยืนเอามือไพล่หลังในอาภรณ์สีทึมทึบ หันหน้ากลับมาเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออก หงถิงยืนนิ่งกับที่น้ำตาไหลริน กัวเฉาปิดประตูก่อนจะพยักหน้าให้ฟางหลุนกับเสี่ยวกุนออกมาจากตรงนั้น“ท่านพี่”หวาเซียงอ๋องกอดรวบร่างบางที่วิ่งเข้าหาเขาทันที“ท่านพี่ท่านยังไม่ได้ทิ้งข้าไปใช่ไหม”ริมฝีปากอุ่นกดปิดริมฝีปากบางไว้ไม่ให้เอ่ยคำใดมีเพียงภาษากายและสัมผัสอ่อนนุ่มอบอุ่นเท่านั้นที่จะอธิบายทุกอย่าง จูบเนิ่นนานที่ทำเอาหงถิงอ่อนระทวยในอ้อมแขน จนหวาเซียงอ๋องต้องพยุงไว้ ถอนริมฝีปากออกช้าๆก่อนจะกดมันลงอีกครั้ง บดเบียดอ่อนหวานซ้อนร่างบางไปที่แคร่ไม้ไผ่ ทาบทับเสียเต็มตัวแบบไม่อาจ
“ข้าพร้อมแล้ว ท่านองครักษ์พร้อมหรือยัง”“พระชายาระยะทางไปจากนี่ไม่ไกลนักมีกระท่อมหลังหนึ่งซุกซ่อนอยู่กลางป่า มิดชิดไร้ผู้คนย่างกราย เราทั้งหมดเร้นกายที่นั่นก่อนมืด แล้วพรุ่งนี้ค่อยหาทางอีกที”“ไม่กลัวว่าพวกเขาจะพบเรา”“ที่นั่นปลอดภัย กัวเฉาเร้นกายมานานวันแต่ระหว่างทางค่อนข้ารกเรื้อ”“ไม่เป็นไรข้าทนได้”สัมผัสอบอุ่นเมื่อคืนทำให้หงถิงรู้ว่าจะไม่มีทางยอมตกเป็นของคนอื่นแม้จะลำบากเพียงใดก็ตาม“กัวเฉา อาสาพาไป ที่นั่นจะพบคนผู้หนึ่งที่จะนำทางพระชายาอย่างปลอดภัย”หงถิงขมวดคิ้ว“ยังมีผู้ใดที่ไว้ใจได้อีกเล่า”“คนผู้นี้ กัวเฉาไว้ใจเขาเฉกเช่นเดียวกับท่านอ๋อง เมื่อถึงเวลานั้นพระชายาก็จะ ต้องพูดเช่นเดียวกับกัวเฉา”หงถิงยิ้ม“พระชายาเหตุใดจึงไม่เร้นกายในตอนมืดค่ำ”ฟางหลุนสงสัย“ออกไปตอนนี้ไร้คนสงสัย หากมีคนถามก็ให้ตอบว่าพาข้าเดินเที่ยวชมตลาดเพื่อหาของใช้จำเป็นสำหรับวันพรุ่งนี้ สบโอกาสเราจึงเร้นกายระหว่างนี้ กัวเฉาท่านต้องใช้ความสามารถในการสังเกตุคนว่ามีคนของหวาซงบ้างหรือไม่”“พระชายารอบคอบยิ่งนัก หากเป็นฟางหลุนคงคิดไม่ถึงไท่จือและคนของไท่จือเองก็คงคิดไม่ถึง ว่าพระชายาจะเร้นกายไปตอนกลางวันแสกๆ ”กัวเ
“ข้าช่วยอะไรพวกท่านไม่ได้ อีกทั้งยังทำให้พวกท่านต้องพลอยลำบากไปด้วยกัน”“นายหญิง นายหญิงเป็นสิ่งเดียวที่ท่านอ๋องเหลือไว้ให้พวกเรา เพื่อระลึกถึงสิ่งที่ท่านอ๋องเคยทำให้พวกเราทั้งหมด ท่านอ๋องเดิมทีใจดีที่สุดแต่เมื่อแต่งชายาเอกและนายหญิงชายาเอกป่วย ท่านอ๋องก็เปลี่ยนไปเราทั้งหมดรักและเคารพท่านอ๋องเช่นไรความรักและเคารพทั้งหมดส่งมาถึงนายหญิงเพียงคนเดียว”หงถิงยิ้มบางๆ รู้สึกขอบคุณฟางหลุน เสี่ยวกุน และกัวเฉาที่เคียงข้างยามยากเช่นนี้โรงเตี้ยมกลางป่าหวาเซียงอ๋องลืมตาตื่นมาอีกครั้งท่านหมอกำลังจับชีพจรอยู่กัวเฉายืนกอดอกมองไม่ไกลนัก“อาการ นายท่านดีขึ้นมาก คาดว่าอีกไม่กี่วันจึงจะหายดีตอนนี้ร่างกายฟื้นตัวรวดเร็ว”หยิบถุงเงินส่งให้ท่านหมอที่วางห่อยาลงข้างแท่นนอน“กัวเฉา”“ท่านอ๋อง ท่านฟื้นแล้ว”“หงถิง หงถิงเป็นอย่างไรบ้าง”กัวเฉายิ้ม“พระชายา ยังโศกเศร้าคิดถึงท่านอ๋องไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีบางอย่างที่กัวเฉาเกรงว่าหากท่านอ๋องรู้ จะไม่ยอมนอนรักษาตัวจนหายเสียก่อน”“บอกข้ามา”“หวาซงอ๋องบัดนี้รั้งตำแหน่งไท่จือ จะมีพิธีแต่งตั้งไท่จือในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และในวันนั้นไท่จือจะแต่งชายารองของท่านอ๋อง เข้าตำหนั