หลังจากที่พี่เหมยจ่ายเช็คจำนวน 5 ล้านบาทให้เจคไปแล้ว เธอก็เริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล ทุกอย่างดูปกติดีจนกระทั่งเธอเริ่มติดต่อเจคไม่ได้ โทรศัพท์ที่เธอโทรหาเขาไม่เคยมีคนรับ ข้อความที่เธอส่งไปก็ไม่เคยได้รับการตอบกลับจากเจคอีกเลย ความกังวลเริ่มก่อตัวขึ้นในใจพี่เหมยทีละน้อย เธอพยายามจะบอกตัวเองว่าเขาอาจจะติดงานหรือยุ่งอยู่กับธุรกิจตามที่เคยบอกไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป การที่เธอไม่สามารถติดต่อเขาได้ทำให้ความกังวลนั้นเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว“ทำไมติดต่อไม่ได้เลยนะ...” พี่เหมยพึมพำกับตัวเองขณะกดโทรหาเจคเป็นครั้งที่สิบของวัน แต่ปลายสายกลับมีเพียงเสียงสัญญาณที่ไม่มีใครตอบรับ เธอนั่งอยู่ในห้องทำงาน ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน ไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี เธอไม่อยากยอมรับว่าตัวเองอาจจะถูกหลอก แต่น้ำเสียงอ่อนโยนและท่าทางมั่นใจของเจคเมื่อครั้งที่คุยกันยังคงติดอยู่ในหัวของเธอ คำพูดที่เขาบอกว่าทุกอย่างจะไปได้สวยและการลงทุนครั้งนี้จะทำให้เธอร่ำรวยขึ้นมากยังคงก้องอยู่ในใจในขณะเดียวกัน ทางฝั่งเนย เธอไม่ได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ การค้นพบข้อมูลจากเบียร์เกี่ยวกับเส้นทางการเงินของเ
เมืองเวียนนา ออสเตรียเมื่อพวกเนย เคน เบียร์ และฮิโร่เดินทางมาถึงเมืองเวียนนา ประเทศออสเตรีย บรรยากาศของเมืองที่เงียบสงบ แต่แฝงไปด้วยความงดงามจากสถาปัตยกรรมโบราณ ตัดกับความทันสมัยในตัวเมือง ทำให้ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยหลังจากผ่านการเดินทางยาวนาน ทั้งหมดก็ตรงไปยังโรงแรมสุดหรูชื่อว่า ‘โฮเทล ไคเซอร์ฮอฟ เวียน’ (Hotel Kaiserhof Wien) เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเวียนนา มีการตกแต่งสไตล์คลาสสิกผสมผสานความทันสมัย ให้บรรยากาศเงียบสงบและหรูหรา พร้อมวิวที่งดงามของเมืองเวียนนา“โรงแรมนี้ดูดีมากเลยนะ” เบียร์พึมพำออกมาขณะที่ก้าวเข้ามาในล็อบบี้สุดหรู สายตาเขามองไปรอบๆ สไตล์การตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างความโมเดิร์นและคลาสสิก ทุกอย่างดูเรียบหรู แต่แฝงไปด้วยความเงียบสงบที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย“ก็น่าจะหรูอยู่แล้ว นายคิดว่าใครจัดการให้?” เคนหันไปพูดอย่างติดตลก สายตายังมองไปที่แผนกต้อนรับเมื่อพวกเขาเช็กอินเสร็จเรียบร้อย พนักงานได้จัดห้องพักหรูหราสองห้อง โดยเบียร์กับเนยพักห้องหนึ่ง ส่วนเคนกับฮิโร่พักอีกห้อง“คืนนี้พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้เรามีงานใหญ่” เคนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง เหลือบมองไ
ยามเช้าวันจันทร์แรกของสัปดาห์ เส้นทางจราจรในกรุงเทพฯ ที่ปกติก็หนาแน่นอยู่แล้ว ยิ่งแย่ลงไปอีกเมื่อมีอุบัติเหตุบนถนนสุขุมวิท เสียงดีเจรายงานข่าวจราจรผ่านวิทยุยิ่งทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่เบาะหน้าถึงกับขมวดคิ้วด้วยความรำคาญใจ“จะติดอะไรนักหนานะ... ขอแค่ไปให้ถึงสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุชก็เท่านั้นเอง” หญิงสาวบ่นออกมาเสียงเบา พลางก้มลงดูนาฬิกาข้อมือของเธอ ซึ่งบอกเวลา 7.30 น. เข้าไปแล้ว“บ่นเป็นคนแก่ไปได้ รถมันก็ติดแบบนี้ทุกวัน” ชายสูงอายุที่ทำหน้าที่ขับรถพูดล้อเลียนเบาๆ“แหม...เนยต้องรีบไปทำงานนะคะ เมื่อวานก็ไปสายทีนึงแล้ว ที่สำคัญคุณพ่อไม่ต้องทำงานแล้วนี่คะ” เนยตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดพ่อของเนยเป็นข้าราชการที่เพิ่งปลดเกษียณเมื่อปีที่ผ่านมา และในช่วงนี้เขามักมีเวลาว่างพอจะทำสิ่งต่างๆ ในชีวิต รวมถึงการขับรถไปส่งลูกสาวสุดที่รักที่สถานีรถไฟฟ้า ห่างจากบ้านไม่ถึง 5 กิโลเมตร แต่วันนี้การจราจรกลับหยุดนิ่งเนื่องจากมีเหตุคนปีนขึ้นไปบนอาคารที่ทำงานของสถานีตำรวจพระโขนง ทำให้มีผู้คนมุงดูและการจราจรติดขัดอย่างหนัก“โห...แบบนี้เนยไปทำงานไม่ทันแน่เลยค่ะ ขึ้นมอเตอร์ไซค์ดีกว่า” หญิงสาวเริ่มกังวลกับเวลาที่ว
ทันทีที่เนยเดินออกมา แพรที่รออยู่หน้าออฟฟิศรีบถามขึ้นทันที“เป็นไงบ้างเนย?”“ก็...ไม่มีอะไรนี่” เนยตอบอย่างไม่ใส่ใจ ยักไหล่เล็กน้อยพร้อมยิ้มกวนๆ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง“ไม่มีอะไร? ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่เหมยจะปล่อยเธอมาแบบไม่มีอะไร” แพรเดินตามเพื่อนสาวอย่างสงสัย“ทุกคนรู้ว่าพี่เหมยดุเหมือนสิงโต แกปล่อยเธอมาได้ยังไงเนี่ย?” แพรพูดด้วยสีหน้างุนงง เพราะพี่เหมยเป็นที่รู้จักในเรื่องความดุและการลงโทษพนักงานอย่างเคร่งครัด“คงเพราะ...ฉันดวงดีมั้ง” เนยตอบอย่างไม่ใส่ใจ พลางวางเอกสารบนโต๊ะและจัดของให้เข้าที่“เธอเนี่ยนะ ดวงดี?” แพรย้อนถามเสียงสูง พร้อมจ้องหน้าเนยเหมือนไม่อยากจะเชื่อ“เอาเป็นว่าฉันทำงานสำเร็จ ลูกค้าสมัครบัตรเครดิตกับฉัน นั่นก็คงเป็นเหตุผลที่พี่เหมยไม่ลงโทษฉันล่ะมั้ง” เนยพูดสั้นๆ ตัดบทอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ดีว่าแพรคงไม่หยุดถามหากเธอไม่ตอบให้ชัดเจน“พูดถึงเรื่องงาน ฉันได้ยินมาว่าผู้จัดการแบงก์สาขาเยาวราชยอมสมัครบัตรกับเธอแล้วจริงไหม?” แพรถามอย่างสงสัย“ใช่ ทำไมเหรอ?” เนยหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางออกมาเตรียมแต่งหน้า“ไม่อยากเชื่อเลย! เขาบอกเองว่าไม่เคยสนใจสมัครบัตรเครดิตกับบริ
ในช่วงพักกลางวัน บริษัทของเนยที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทำให้มีร้านอาหารมากมายให้เลือก หญิงสาวเดินออกจากบริษัทพร้อมกับแพรและเจี๊ยบ น้องฝึกงานคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสองเดือนเนยเอ็นดูเจี๊ยบมาก เพราะนิสัยและบุคลิกหลายอย่างคล้ายกับตัวเธอ ทั้งในเรื่องความเก่งและความน่ารักสดใส การที่ทั้งสามคนเดินไปไหนมาไหนด้วยกันก็มักจะดึงดูดสายตาของผู้ชายที่เดินผ่านไปมาอยู่เสมอ แต่สิ่งที่ทำให้แพรรู้สึกตลกทุกครั้งคือ พวกเขามักมองแพรด้วยสายตาอิจฉา เพราะคิดว่าเธอเป็นสาวห้าวที่ชอบผู้หญิงด้วยกัน“เฮ้อ... ฉันล่ะไม่อยากเดินกับเธอสองคนเลยจริงๆ” แพรแสร้งถอนหายใจออกมาหนักๆ ขณะที่พวกเธอนั่งในร้านอาหารประจำ“ทำไมล่ะ?” เนยเลิกคิ้วถามด้วยความสงสัย หลังจากสั่งอาหารเสร็จ“ก็ดูเธอสองคนสิ คนหนึ่งก็สวยสง่า อีกคนก็น่ารักอ่อนหวาน ส่วนฉัน...ดูเหมือนผู้ชายชัดๆ” แพรทำหน้าเหมือนทุกข์ใจ พลางย่นจมูก“ผู้ชายที่เดินผ่านพวกเราก็มองฉันอย่างกับจะฆ่าฉันให้ตายคาที่เลยล่ะ คงอยากกินเลือดฉันกันหมดแน่ๆ”คำพูดของแพรทำให้เนยกับเจี๊ยบระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ทั้งคู่คุ้นเคยกับมุกตลกแบบนี้ของแพรดี เพราะเธอพูดแบบนี้เกือบทุกครั้งที่ออกไปด้วยกัน
บริษัท ทีเอ็กซ์สตรีม จำกัด เป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านการวางระบบคอมพิวเตอร์ และพัฒนาโปรแกรมซอฟต์แวร์ แม้จะก่อตั้งมาเพียง 5 ปี แต่บริษัทนี้ก็สามารถสร้างกำไรได้ถึง 100 ล้านบาทต่อปีโดยเฉพาะแผนก Development ซึ่งเป็นแผนกที่ทำรายได้หลักจากการขายโปรแกรมให้กับบริษัทเอกชน แถมยังต้องมีพนักงานคอยดูแลและสนับสนุนลูกค้าหลังการขาย ซึ่งทำให้แผนกนี้ถือเป็น ‘หน้าตา’ ของบริษัท และพนักงานที่ทำงานในแผนกนี้ก็ได้รับทั้งอภิสิทธิ์และเงินเดือนสูงตามงานที่โปรแกรมเมอร์แต่ละคนทำได้“เฮ้ย ไอ้เบียร์!” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง ขณะที่ชายหนุ่มกำลังซ่อมโน้ตบุ๊กอยู่ เขาหยุดมือทันทีที่ได้ยินชื่อของตัวเอง“มีอะไร ไอ้เน?” เบียร์หันไปถามเพื่อนด้วยท่าทางที่ยังง่วนอยู่กับงาน“วันนี้มึงไม่มีงานออกเทรนนอกบริษัทเหรอวะ?”เน เพื่อนสนิทของเขาถามพลางทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ อย่างสบายใจ พร้อมวางถุงน้ำอัดลมกระป๋องลงบนโต๊ะของเบียร์โดยไม่รอคำเชิญ“ไม่มี วันนี้ว่าง แต่พรุ่งนี้กูต้องออกไปข้างนอก” เบียร์ตอบพร้อมกับลงมือซ่อมโน้ตบุ๊กต่อ“ไปไหนล่ะ?” เนยื่นกระป๋องน้ำอัดลมส่งให้เบียร์เบียร์รับไปและเปิดฝาดื่มพลางตอบ “บริษัทบัตรเครดิตอะไรซัก
“เฮ้ย ไอ้เบียร์ หัวหน้าเรียก!”เสียงเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ข้างๆ ตะโกนบอก ทำให้เบียร์หลุดออกจากภวังค์ เขาพยักหน้าให้เป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะวางกล่องโปรแกรมลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปยังห้องหัวหน้าก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตครับ” เบียร์เคาะประตูเบาๆ แล้วเปิดเข้าไป หัวหน้าที่กำลังตรวจเอกสารเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม“อ้าว มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ” หัวหน้าฝ่ายทัก ก่อนจะผายมือให้เขานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงาน“หัวหน้ามีอะไรหรือครับ?” เบียร์ถามตรงๆ เพราะเขารู้ว่าถ้าไม่มีงานด่วน หัวหน้าคงไม่เรียกเขามา“เรื่องงานพรุ่งนี้น่ะ ทางบริษัทบัตรเครดิตที่เราทำซอฟต์แวร์ให้ ตอนนี้เขาต้องการพัฒนาโปรแกรมควบคู่ไปด้วย และต้องให้เราส่งคนไปเทรนพนักงานที่นั่นด้วย เงื่อนไขทั้งหมดจะคุยกันพรุ่งนี้ในการประชุม” หัวหน้าพูดด้วยสีหน้าหนักใจ“ฟังดูไม่น่ายากเลยนี่ครับ” เบียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย“ดูเหมือนง่ายนะ แต่โปรเจกต์นี้มีความซับซ้อนหน่อย ทางเราต้องส่งคนไปประจำที่บริษัทบัตรเครดิตในช่วงแรก เพื่อเทรนพนักงานให้ใช้งานโปรแกรมของเรา และ...” หัวหน้าหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ“นอกจากอธิพงศ์แล้ว นายคืออีกคนที่ฉันไว้ใจได้ แต่ตอนนี้อธิพงศ
การทำงานเกี่ยวกับบัตรเครดิตทั้งวันทำให้เนยรู้สึกเหนื่อยล้า โดยเฉพาะเมื่อเจอลูกค้าที่เรื่องมาก แต่เธอก็ยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้เสมอ เพราะเธอรู้ดีว่าสำหรับงานบริการ สิ่งสำคัญที่สุดคือการมอบบริการที่ยอดเยี่ยมให้ลูกค้า และดึงพวกเขากลับมาใช้บริการอีกครั้งสำหรับเนย เรื่องพวกนี้ไม่ยากเลย เธอสามารถ ‘ตีหน้า’ เก่งจนเพื่อนๆ ในออฟฟิศยกฉายาให้ว่า “นางนกสองหน้า” เพราะเธอสามารถแสดงออกอย่างมืออาชีพได้ตลอดเวลาหลังเลิกงาน เป็นเวลาที่เนยชอบมากที่สุด หญิงสาวมักจะแวะที่โลตัสตรงสถานีอ่อนนุชเพื่อซื้อของใช้ส่วนตัวหรือของกินเล่น เธอมีความสุขกับการเลือกดูของ แม้ว่าบางครั้งจะไม่ได้ซื้อติดมือกลับบ้านเลยก็ตามพูดไม่ค่อยเก่ง...แต่รักหมดใจ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋าสะพายของเนย หญิงสาวจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดเพราะมีคนขัดจังหวะการช้อปปิ้งของเธอ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ ก่อนจะกดรับสายด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์“ฮัลโหล นายมีอะไร?” เสียงเธอกรอกลงไปอย่างไม่พอใจเมื่อรู้ว่าเป็นใครที่โทรมา“เออ ฉันเอง เธอจะกลับบ้านกี่โมง?” เสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างไม่รู้ว่าคนฟังอารมณ์เสียแค่ไหน“กำลังจะกลับ แค่แวะซื้อของนิดหน่อย” เนยตอ