พี่ศรีเดินเข้ามาหานิตาด้วยท่าทางสบายๆ ยิ้มอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะพูดขึ้นว่า
"ลิตา วันนี้ไปดื่มกับพวกพี่ไหม?" น้ำเสียงของพี่ศรีเป็นกันเองและชวนเชิญ เพราะวันศุกร์แบบนี้มักเป็นวันที่หลายคนในออฟฟิศจะไปผ่อนคลายด้วยการดื่มหลังเลิกงาน
ลิตาหันมามองพี่ศรี แววตาเธอดูลังเลเล็กน้อย เพราะเธอไม่ใช่คนที่ชอบออกไปดื่มบ่อยนัก แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มและความเป็นมิตรของพี่ศรี ลิตาก็รู้สึกว่าอาจจะเป็นโอกาสดีที่จะลองเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เธอจึงยิ้มบางๆ แล้วตอบกลับไป
"ก็น่าสนใจนะคะ...แต่จะดื่มหนักกันไหม?"
พี่ศรีหัวเราะ "ไม่ต้องห่วงน่า พี่ดูแลลิตาได้อยู่แล้ว!"
ไม่นานหลังจากที่พี่ศรีชวนลิตา อีกสองคนก็เดินเข้ามาสมทบ มลทาและวิมล ทั้งคู่มักจะเป็นกลุ่มที่สนิทกันในออฟฟิศ มลทาเป็นคนพูดเก่งและเฮฮา สร้างบรรยากาศให้ทุกคนรู้สึกสนุกได้เสมอ ส่วนวิมล น้องเล็กของกลุ่ม เป็นคนนิ่งๆ แต่ก็เป็นอีกคนที่ชอบไปดื่มกับเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยๆ
"โอ๊ย ลิตา! วันนี้ไปด้วยกันนะ อยากให้แกไปสนุกด้วยกันจริงๆ" มลทารีบพูดขึ้นทันทีที่เดินมาถึง เธอเป็นคนที่ไม่ยอมให้ใครปฏิเสธง่ายๆ
วิมลเองก็ดูตื่นเต้นไม่แพ้กัน "ใช่ๆลิตา ไปด้วยกันนะ พวกเราอยากให้แกไปจริงๆ รับรองไม่หนักหรอก แค่สนุกนิดหน่อย"
ลิตายิ้มออกมาอีกครั้ง รู้สึกอบอุ่นกับความเป็นมิตรของเพื่อนร่วมงานที่พยายามชวนไปผ่อนคลายด้วยกัน เธอเหลือบมองพี่ศรีที่ยืนยิ้มส่งกำลังใจ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ "โอเค งั้นไปด้วยก็ได้ค่ะ"
ทั้งสามคนหัวเราะกันอย่างดีใจ รู้สึกเหมือนภารกิจชวนเพื่อนสำเร็จ
เมื่อถึงที่บาร์ บรรยากาศครึกครื้นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ลิตาซึ่งปกติไม่ชอบสถานที่แบบนี้ กลับรู้สึกผ่อนคลายไปกับเพื่อนๆ ความตึงเครียดจากงานหายไปชั่วขณะ แต่ความสนุกนี้กลับทำให้เธอลืมสิ่งสำคัญไป นั่นคือการรายงานแฟนสาวของเธอ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ลิตาไม่ทันสังเกตว่ามือถือของเธอสั่นอยู่หลายครั้ง ข้อความจากแฟนสาวถามว่าเธออยู่ที่ไหน และทำไมยังไม่กลับบ้าน เธอเงยหน้าขึ้นจากบรรยากาศที่สนุกสนาน แล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ข้อความที่ยังไม่ได้ตอบกลับหลายสิบข้อความทำให้เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ
ลิตาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ พิมพ์ข้อความตอบกลับ แต่ในใจก็เต็มไปด้วยความกังวลว่าแฟนสาวจะรู้สึกยังไงเมื่อรู้ว่าเธอไปเที่ยวโดยไม่บอกกล่าว
เคทรู้สึกหงุดหงิดอย่างมากเมื่อทั้งโทรและส่งข้อความไปหาลิตาหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับเลย ความรู้สึกกังวลเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความโมโห มือถือในมือของเคทสั่นระรัวอีกครั้งหลังจากที่เธอพยายามติดต่ออยู่หลายชั่วโมง ทว่าลิตายังคงเงียบหาย ไม่มีสัญญาณตอบกลับแม้แต่น้อย
"นี่มันเรื่องอะไรกัน?" เคทพึมพำกับตัวเองอย่างอารมณ์เสีย ความไม่สบายใจถาโถมเข้ามา เธอไม่เคยต้องตามลิตาแบบนี้มาก่อน ลิตามักจะเป็นคนที่มีระเบียบวินัยและตอบกลับตลอดเวลาที่เธอติดต่อไป แต่คืนนี้กลับแตกต่าง
เคทยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทิ้งเอกสารที่กำลังทำอยู่ลงบนโต๊ะ หันมองนาฬิกาอีกครั้ง ก่อนจะหยิบกุญแจรถเตรียมออกไปตามหาลิตาด้วยตัวเอง ความโกรธที่สะสมมากขึ้นทุกนาทีกำลังครอบงำเธอ
"ถ้าเธอไม่ตอบ ฉันจะไปหาถึงที่เอง" เคทพูดเสียงเข้มพลางเดินออกจากห้องอย่างเร่งรีบ พร้อมกับหัวใจที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจและคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ
ในผับที่บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงเพลงดังสะท้อน ลิตารู้สึกหัวหมุนเล็กน้อยจากแสงไฟหลากสีที่กะพริบไปมา เธอไม่ค่อยดื่มนัก แต่คืนนี้ด้วยแรงชักชวนจากเพื่อน ๆ และความรู้สึกอยากปลดปล่อยตัวเองจากความเครียดของงานทำให้เธอยอมจิบเครื่องดื่มไปหลายแก้ว จนตอนนี้เริ่มรู้สึกเมา
ร่างของลิตาเริ่มโอนเอนเล็กน้อยตามจังหวะเพลงที่ดังลั่น เสียงหัวเราะของเพื่อน ๆ รอบตัวทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่โลกที่ต่างออกไปจากความจริง เธอพยายามเต้นตามจังหวะเพลง ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วเธอไม่ใช่คนที่ชอบกิจกรรมแบบนี้ รู้สึกเหมือนการเต้นในคืนนี้เป็นการปลดปล่อยความอัดอั้นที่สะสมไว้
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความเมาก็เริ่มครอบงำ ลิตารู้สึกมึนงงและอ่อนแรงเล็กน้อย แม้จะสนุกกับบรรยากาศรอบตัว แต่ในใจลึก ๆ ก็เริ่มมีความรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แต่สายตาที่เบลอทำให้ข้อความที่ค้างอยู่ดูเลือนลาง
ลิตาเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอ รู้สึกเหมือนโลกหมุนเร็วขึ้น เธอจับแก้วในมือแน่น พยายามหาทางทำให้ตัวเองทรงตัวได้ แต่ความเมาทำให้ทุกอย่างยากขึ้นเรื่อย ๆ "ฉันคงเมาเกินไปแล้ว..." เธอพึมพำกับตัวเองพลางพยายามจะหาเก้าอี้นั่งพัก แต่ดูเหมือนความมึนงงนี้จะยิ่งทวีความรุนแรง
"ให้ฉันช่วยนะคะ" เสียงหวาน ๆ ละมุนดังขึ้นใกล้หูของลิตา ร่างที่โอนเอนจากความเมาทำให้เธอหันไปมองตามเสียงนั้น ทันทีที่ลิตาเห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สายตาของเธอเบลอเล็กน้อย แต่ก็พอจะเห็นชัดเจนว่าสาวคนนั้นเป็นคนสวยและดูเซ็กซี่เป็นพิเศษ ผิวขาวเนียน ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสะกดสายตา ชุดเดรสรัดรูปโชว์สัดส่วนโค้งเว้าของเธอทำให้ลิตายิ่งรู้สึกเหมือนโลกในผับนั้นชะลอตัวลงชั่วขณะ
"เอ่อ... ขอบคุณนะคะ แต่ฉัน..." ลิตาอ้ำอึ้ง พยายามหาคำตอบให้ตัวเองว่าเธอควรจะปฏิเสธหรือรับความช่วยเหลือนี้ดี แต่ความมึนงงจากเครื่องดื่มทำให้เธอไม่สามารถตัดสินใจได้ชัดเจน สาวคนนั้นยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะยื่นมือมาประคองแขนลิตาเบา ๆ
"คุณดูเหมือนจะเมามากเลยค่ะ เดี๋ยวฉันพาไปนั่งพักตรงนั้นดีกว่านะ" สาวเซ็กซี่พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและอ่อนโยน
ลิตามองหน้าของผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง แล้วก็รู้สึกว่าเธอไม่สามารถปฏิเสธได้ ราวกับว่ามีบางอย่างในสายตาของเธอดึงดูดให้ลิตายอมรับความช่วยเหลือนั้นโดยไม่คิดอะไรต่อ เธอพยักหน้าเบา ๆ และปล่อยให้สาวคนนั้นพาเธอไปนั่งที่มุมสงบในผับ
"พักก่อนนะคะ เดี๋ยวคุณจะรู้สึกดีขึ้น" สาวคนนั้นยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ลิตา ใกล้ชิดจนลิตาสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ที่อบอวลอยู่รอบตัว
ลิตาเงยหน้ามองสาวสวยตรงหน้า ผ่านสายตาที่พร่ามัวเพราะความเมา ทันใดนั้นภาพของสาวเซ็กซี่คนนั้นก็กลายเป็นเคทในสายตาของเธอ ความสับสนผสมกับความรู้สึกคิดถึงที่ลิตามีต่อแฟนสาวทำให้เธอไม่สามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นใครในตอนนี้
“อ้าว...ที่รักขา” ลิตาพึมพำเสียงเบาและอ่อนหวาน ขณะที่ยื่นมือไปแตะที่ใบหน้าของสาวสวยตรงหน้า สัมผัสอ่อนโยนจากมือของลิตาทำให้ผู้หญิงคนนั้นชะงักเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน แม้จะไม่เข้าใจสถานการณ์เต็มที่ แต่เธอก็ไม่ว่าอะไร ลิตาโน้มตัวเข้าหา คิดว่าเธอกำลังสัมผัสใบหน้าของเคท แฟนสาวที่คอยดูแลเธอเสมอมา
สาวสวยคนที่อยู่ตรงหน้าเหลือบตามองลิตาอย่างรู้ทัน เธอหัวเราะเบา ๆ และตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย้ายวน “ที่รักเหรอคะ... น่ารักจังเลยนะคะ” เธอพูดอย่างอ่อนหวาน ขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นจนลิตารู้สึกถึงความร้อนจากร่างกายของเธอ
ลิตาหลับตาลงชั่วครู่ ด้วยความเมาและความเหนื่อยล้า เธอพึมพำบางอย่างเกี่ยวกับเคทด้วยเสียงที่เบาจนแทบไม่ได้ยิน ร่างของเธอเริ่มพิงเข้าไปหาสาวตรงหน้ามากขึ้น
ลิตางัวเงียตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตา ทำให้เธอรู้สึกตัวขึ้นทันที ความรู้สึกแรกที่เธอสัมผัสได้คืออาการปวดหัวอย่างหนัก ราวกับว่าทุกอย่างในหัวของเธอกำลังบีบตัวอย่างรุนแรง"โอ๊ย... ปวดหัวจัง" ลิตาพึมพำกับตัวเอง พลางใช้มือขยี้ขมับเบา ๆ พยายามที่จะเรียกสติกลับมา ความรู้สึกแห้งผากในคอและอาการหนักอึ้งของร่างกายทำให้เธอเข้าใจได้ทันทีว่าเธอเมาหนักมากเมื่อคืนนี้เธอค่อย ๆ พลิกตัวขึ้นมานั่งตรงขอบเตียง หันมองรอบ ๆ ห้องที่ดูหรูหรา แต่ไม่ใช่ที่ที่เธอคุ้นเคย ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตาและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำหอมที่อบอวลในอากาศทำให้เธอยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น"นี่...ที่ไหนเนี่ย?" ลิตาพูดออกมาอย่างงุนงง สายตาของเธอมองไปรอบ ๆ พยายามประมวลเหตุการณ์เมื่อคืน เธอจำได้เลือนลางถึงการออกไปดื่มกับเพื่อน ๆ แล้วก็มีเสียงเพลงดัง กลิ่นควันบุหรี่ และภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยเธอเมื่อเธอเริ่มเมา แต่นอกจากนั้น...ทุกอย่างก็เบลอไปหมดทันใดนั้นเอง ความรู้สึกตระหนกเริ่มก่อตัวในใจของเธอ ลิตาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นสายที่ไม่ได้รับและข้อความจากเคทมากมาย ความกังวลที่พุ่งขึ
ลิตากลับมาถึงคอนโดในช่วงบ่าย แสงแดดส่องสว่างเข้ามาในห้อง แต่ความรู้สึกเมาค้างทำให้เธอรู้สึกหนักอึ้งและง่วงมาก หลังจากคืนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและดื่มหนัก เธอเปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างเกือบจะเซ ข้าวของกระจัดกระจายตามพื้น จนไม่อยากจะคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงลมพัดผ่านหน้าต่าง เธอรู้สึกอ่อนเพลียเกินกว่าจะทำอะไรได้ จึงตัดสินใจที่จะนอนพักสักหน่อย ก่อนที่เธอจะรู้ตัว เธอก็หลับไปบนโซฟาอย่างรวดเร็ว ความคิดสับสนจากเมื่อคืนเริ่มจางหายไปเวลาผ่านไป ลิตายังคงหลับอย่างลึก จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอไม่ได้ยิน แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยภาพความทรงจำที่ไม่ชัดเจน ทั้งเสียงหัวเราะและการพูดคุยที่เธอไม่แน่ใจว่าควรจะจำไว้หรือปล่อยผ่านไปเมื่อประตูถูกเปิดออก เคทเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความเป็นห่วงและโกรธเคืองในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็นลิตานอนอยู่บนโซฟา เคทรู้สึกเจ็บปวดและโมโหกับความไม่รับผิดชอบของลิตา แต่ลิตากลับหลับสนิทจนไม่รู้ว่าเคทยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางความสับสนและความรู้สึกที่ขัดแย้งกันในใจเคทลิตาตื่นขึ้นมาจากการหลับยาว เมื่อตระหนักว่าเคทยืนอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่แสดง
“ที่รักขาาา หนูไม่ดื้อแล้วค่าา” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความอ้อนวอนและความร้อนรน ความรู้สึกที่สะสมไว้ในร่างของเธอทำให้เธอไม่อาจทนต่อไปได้อีกต่อไป เธอหวังว่าคำพูดนั้นจะทำให้เคทหยุดการลงโทษนี้และยอมให้เธอได้สัมผัสถึงความสุขที่เธอปรารถนาเคทเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าของเธอ สายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์และอำนาจทำให้ลิตายิ่งหวั่นไหว “แน่ใจแล้วหรือว่าหนูจะไม่ดื้ออีก” เคทเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเย้ายวน ก่อนที่เธอจะใช้ลิ้นค่อยๆ สัมผัสอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง ทำให้ลิตายิ่งดิ้นด้วยความต้องการที่พุ่งพล่านไปทั่วร่างลิตาพยายามบิดตัวและร้องอ้อนวอนอีกครั้ง หวังว่าเคทจะหยุดยั่วเย้าและปลดปล่อยความรู้สึกที่ท่วมท้นในใจของเธอ "หนูไม่ดื้อแล้วจริงๆ ค่ะที่รัก... ได้โปรด..." เสียงของเธอสั่นเครือด้วยความหวัง เคทรู้ดีว่าลิตาอ่อนลงแล้ว แต่เธอยังคงล่อลวงให้ลิตาจมอยู่ในความปรารถนาอย่างต่อเนื่อง ปล่อยให้ความตึงเครียดนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ“ดีแล้วล่ะ...” เคทกระซิบใกล้ๆคราวนี้ เคทยังคงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเริ่มเลียวนลงไปตามร่างกายของลิตา ลิ้นอุ่นๆ ของเธอไล่ลงไปตามผิวเนียนละเอียดของลิตาอย่
“ลิตา จ๋า…” เสียงเคทเต็มไปด้วยอารมณ์และความเร่าร้อน ขณะที่เธอจ้องมองไปที่ร่างของลิตาที่อยู่ด้านบน สาวน้อยขยับขึ้นลงในท่าคุกเข่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ดวงตาของเธอสุกสกาวเต็มไปด้วยความปรารถนา ขณะที่ร่างกายของเธอชุ่มไปด้วยความร้อนแรง ราวกับว่าไฟที่ลุกโชนอยู่ในใจได้แพร่กระจายออกมาจากทุกอณูของผิวกาย“พี่เคท… หนูอยากให้พี่รู้สึกถึงความรักของหนู” ลิตาพูดเสียงหวาน ราวกับเสียงกระซิบที่ทำให้เคทแทบจะหยุดหายใจ ร่างของลิตาเริ่มขยับไปมาช้าๆ ในขณะที่มือของเธอกำกุมอกสวยและขยับขึ้นลงอย่างยั่วยวน ทำให้เคทต้องกัดฟันเพื่อควบคุมอารมณ์เคทยิ้มให้กับลิตา ขณะที่เธอเริ่มสอดลิ้นเข้าออกอย่างช้าๆ เพื่อกระตุ้นความรู้สึกของลิตา ความร้อนที่ลุกโชนระหว่างพวกเธอทำให้เคทรู้สึกถึงความต้องการที่มากยิ่งขึ้น ลิ้นของเธอเคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อน ราวกับเป็นการสื่อสารความรักที่มีอยู่ในใจ“หนูเซ็กซี่มากเลย” เคทกระซิบด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยอารมณ์ ขณะที่มือของเธอเริ่มลูบไล้ไปตามขาเรียวของลิตา สร้างความรู้สึกที่ทวีความร้อนขึ้นในแต่ละสัมผัส เคทไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดที่เกิดขึ้นได้“หนูจะทำให้พี่เคทรู้สึกดี… อย่าหยุดนะคะ” ลิตาเอ่ยด้ว
"เสียวค่ะ ที่รัก..." ลิตาสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างของเธอสั่นสะท้านไปตามสัมผัสของเคท เสียงกระซิบของลิตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่อาจปกปิดได้ ร่างของเธอคล้อยตามแรงปรารถนาอย่างควบคุมไม่ได้เคทยิ้มเล็กน้อย ยิ่งได้ยินคำพูดนั้นยิ่งกระตุ้นให้เธอรุกเร้าหนักขึ้น "แบบนี้ใช่ไหมที่เธอชอบ..." เคทกระซิบตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่น่าหลงใหล เธอยังคงรัวลิ้นและเพิ่มจังหวะที่เร็วขึ้นทุกครั้ง ทำให้ลิตายิ่งสะท้านอย่างไม่มีที่สิ้นสุดร่างของลิตาสั่นไหว เสียงหายใจหนักขึ้นและร้อนแรงขึ้น สัมผัสทุกอย่างจากเคททำให้ลิตาแทบจะหลุดออกจากโลกแห่งความเป็นจริง พลางครางเสียงเบา ลิตาบิดกายอย่างร้อนแรง ร่างกายของเธอเกร็งไปตามความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นจนไม่อาจทนไหว เสียงครางเบา ๆ แว่วออกมา "อาา... รักหนูแรงๆ เลยค่ะ ที่รัก..." ลิตากระซิบด้วยเสียงที่สะท้อนถึงความต้องการอันแรงกล้า ขณะที่เธอหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ความรู้สึกทั้งหมดเข้าครอบงำเคทจับสะโพกของลิตาไว้แน่น รุกหนักขึ้นตามคำร้องขอ ริมฝีปากและลิ้นของเธอยังคงทำงานอย่างไม่ลดละ เคทมองลิตาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา ก่อนที่จะก้มลงจูบหนัก ๆ ลงบนร่างของลิตา ปล่อยให้
เสียงครางของลิตาดังสะท้อนในห้อง ร่างกายของเธอสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เคทยังคงใช้ไวเบรเตอร์กระตุ้นต่อไปจนลิตาถึงจุดสุดยอดอย่างเต็มที่ ร่างกายของเธอเกร็งแน่น ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนคลายลงในอ้อมกอดของเคทเคทหยุดการเคลื่อนไหวและลูบไล้ไปตามร่างของลิตาอย่างอ่อนโยน ขณะที่ทั้งสองยังคงหายใจหอบ ลมหายใจของพวกเธอเบาบางลงพร้อมกับความสงบที่เริ่มเข้ามาแทนที่ความร้อนแรงที่พุ่งพล่านเมื่อครู่"พี่ทำให้หนูพอใจหรือยัง?" เคทกระซิบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ขณะที่เธอจ้องมองลิตาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยลิตายิ้มอ่อนๆ และพยักหน้า ก่อนจะกอดเคทไว้แน่น สัมผัสความอบอุ่นจากร่างของเธอทำให้ลิตารู้สึกสงบ และเต็มไปด้วยความพึงพอใจทั้งสองค่อยๆ ผ่อนคลายลงในความเงียบงัน ร่างกายของพวกเธอพาดทับกันแนบแน่น เคทลูบผมของลิตาเบาๆ ขณะที่เธอจูบหน้าผากของคนรัก พลางกระซิบเบาๆ "ฉันรักเธอ"ลิตาสบตาเคทก่อนจะกระซิบตอบกลับ "หนูก็รักพี่ค่ะ"“แต่หนูชอบลิ้นพี่เคทมากกว่า...” คนตัวเล็กพูดออกมาอย่างแสนซน รอยยิ้มที่ปนความยั่วเย้าแต่งแต้มบนใบหน้า ร่างกายขยับเข้าใกล้เหมือนกำลังท้าทายเคทมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ซ่อนความปรารถนาเอาไว้
ในยามค่ำคืนที่ลิตาเผชิญกับความเหงาและความเปลี่ยวใจ เนื่องจากการแยกจากกับเคท เธอนอนอยู่ในเตียงเดียวกันที่พวกเขาเคยแชร์กัน ความรู้สึกของการจากลาทำให้เธอรู้สึกเปลี่ยวใจและหาความสงบในความฝันของเธอ:ในห้องนอนที่เงียบสงบ:ลิตานอนอยู่บนเตียงที่เคยเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรักจากเคท หมอนและผ้าห่มดูเหมือนจะยังคงมีร่องรอยของความอบอุ่นจากค่ำคืนที่ผ่านมา แม้ว่าเคทจะไม่ได้อยู่ที่นี่ ลิตาก็ยังรู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่ไม่สามารถลืมได้ขณะที่ลิตาหลับไป:ความรู้สึกของความเหงาและความคิดถึงทำให้เธอเข้าสู่ความฝัน ลิตาฝันถึงความอบอุ่นและความรักที่เคทเคยมอบให้ เธอพบว่าตัวเองกลับไปอยู่ในห้องนอนที่เคทและเธอเคยใช้เวลาร่วมกันในฝันนั้น ลิตาเห็นเคทอยู่ข้างๆ เธอ ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน เคทเริ่มสัมผัสและกอดลิตาอย่างอบอุ่น ความรู้สึกของการสัมผัสที่อ่อนโยนและรักใคร่ที่เคทมีให้เกิดขึ้นในฝันอย่างชัดเจนในฝัน:เคทเริ่มจูบลิตาอย่างเต็มไปด้วยความรักและความเร่าร้อน การสัมผัสของเคททำให้ลิตารู้สึกถึงความร้อนแรงและความรักที่ลึกซึ้ง การที่เคทเอื้อมมือไปสัมผัสร่างกายของลิตาทำให้เธอรู้สึกถึงความสุขและความพอใจที่ไม่สามารถห
ในช่วงที่เคทต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศเป็นเวลานานถึงสามเดือน บรรยากาศในคอนโดเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความเศร้าและความหวัง:เคท เตรียมกระเป๋าเดินทางในห้องนอน เธอพยายามรวบรวมสิ่งของทั้งหมดที่ต้องใช้สำหรับการเดินทางในช่วงสามเดือนข้างหน้า การจัดเตรียมสิ่งของเป็นไปอย่างเป็นระเบียบ แต่ท่ามกลางการจัดกระเป๋านั้นมีความรู้สึกที่คุกรุ่นอยู่ในใจของเธอลิตา ยืนอยู่ที่ข้างๆ เตียง มือของเธอจับไว้ที่กระเป๋าเดินทางเล็กๆ ที่เธอเตรียมให้เคทเต็มไปด้วยความรู้สึกของการจากลา ขณะที่เคทยังคงจัดเตรียมกระเป๋า ลิตารู้สึกถึงความอ้างว้างที่จะต้องเผชิญในช่วงเวลาที่เคทห่างไป"เคทคะ... การไปทำงานต่างประเทศนานขนาดนี้จะยากมากเลยนะคะ" ลิตาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและความเศร้าเคทหันมามองลิตาด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ "ฉันรู้ค่ะที่รัก... แต่ฉันสัญญาว่าจะโทรหาคุณทุกวันและจะกลับมาเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เคทพูดพร้อมกับยิ้มอย่างมั่นใจเคทยื่นมือไปจับมือของลิตาและดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด การกอดนั้นเต็มไปด้วยความรักและความหวัง "เราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันค่ะ... และเมื่อฉันกลับมา เราจะมีเวลาที่ดี
ลิตาค่อยๆ ก้าวเข้ามาในห้อง ร่างกายของเธอถูกปกคลุมด้วยชุดซีทรูบางเบาที่แทบจะปิดไม่มิด ผิวเนียนขาวของเธอโดดเด่นขึ้นมาเมื่อแสงอ่อนๆ ของยามเช้าส่องผ่าน เน้นให้เห็นทรวดทรงอวบอัด หน้าอกใหญ่ที่แทบล้นออกมาจากขอบชุด เผยให้เห็นหัวนมสีแดงอ่อนๆ ที่ทำให้ทุกสายตาจับจ้องอย่างหลงใหล เอวกิ่วของลิตายิ่งทำให้เธอดูงดงาม ร่างกายที่เรียวยาวส่งให้เธอเหมือนนางฟ้าบนผืนโลก ขาเรียวขาวของเธอก้าวเข้ามาอย่างช้าๆ แต่เต็มไปด้วยความเย้ายวน หัวนมของลิตาที่ตั้งชันดันชุดซีทรูบางเบาออกมา ทำให้เห็นรูปร่างของมันอย่างชัดเจน ชุดนั้นแทบไม่สามารถปิดบังอะไรได้เลย ทุกสัดส่วนของเธอถูกเน้นให้เห็นชัดเจนขึ้น ร่างกายที่เย้ายวนและเร่าร้อนของลิตาทำให้เคทตื่นตะลึง เธอไม่อาจละสายตาไปจากสาวน้อยคนนี้ได้เลย ลิตาเดินเข้ามาใกล้เคทมากขึ้น รอยยิ้มซุกซนบนใบหน้าและสายตาที่เชิญชวนทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดและร้อนแรง เคทกลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก สายตาของเธอไม่สามารถละจากลิตาที่เดินเข้ามาใกล้ได้ ความรู้สึกกระวนกระวายเริ่มเพิ่มขึ้นในตัวเธอ“วันนี้คงต้องลาหยุดต่ออีกสักวันแล้ว” เคทพูดกับตัวเองในใจ ก่อนจะพูดยั่วๆลิตาว่า"ที่รัก... จำได้ไหม
ในช่วงที่เคทต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศเป็นเวลานานถึงสามเดือน บรรยากาศในคอนโดเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความเศร้าและความหวัง:เคท เตรียมกระเป๋าเดินทางในห้องนอน เธอพยายามรวบรวมสิ่งของทั้งหมดที่ต้องใช้สำหรับการเดินทางในช่วงสามเดือนข้างหน้า การจัดเตรียมสิ่งของเป็นไปอย่างเป็นระเบียบ แต่ท่ามกลางการจัดกระเป๋านั้นมีความรู้สึกที่คุกรุ่นอยู่ในใจของเธอลิตา ยืนอยู่ที่ข้างๆ เตียง มือของเธอจับไว้ที่กระเป๋าเดินทางเล็กๆ ที่เธอเตรียมให้เคทเต็มไปด้วยความรู้สึกของการจากลา ขณะที่เคทยังคงจัดเตรียมกระเป๋า ลิตารู้สึกถึงความอ้างว้างที่จะต้องเผชิญในช่วงเวลาที่เคทห่างไป"เคทคะ... การไปทำงานต่างประเทศนานขนาดนี้จะยากมากเลยนะคะ" ลิตาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลและความเศร้าเคทหันมามองลิตาด้วยความอบอุ่นและความเข้าใจ "ฉันรู้ค่ะที่รัก... แต่ฉันสัญญาว่าจะโทรหาคุณทุกวันและจะกลับมาเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" เคทพูดพร้อมกับยิ้มอย่างมั่นใจเคทยื่นมือไปจับมือของลิตาและดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด การกอดนั้นเต็มไปด้วยความรักและความหวัง "เราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันค่ะ... และเมื่อฉันกลับมา เราจะมีเวลาที่ดี
ในยามค่ำคืนที่ลิตาเผชิญกับความเหงาและความเปลี่ยวใจ เนื่องจากการแยกจากกับเคท เธอนอนอยู่ในเตียงเดียวกันที่พวกเขาเคยแชร์กัน ความรู้สึกของการจากลาทำให้เธอรู้สึกเปลี่ยวใจและหาความสงบในความฝันของเธอ:ในห้องนอนที่เงียบสงบ:ลิตานอนอยู่บนเตียงที่เคยเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรักจากเคท หมอนและผ้าห่มดูเหมือนจะยังคงมีร่องรอยของความอบอุ่นจากค่ำคืนที่ผ่านมา แม้ว่าเคทจะไม่ได้อยู่ที่นี่ ลิตาก็ยังรู้สึกถึงความเชื่อมโยงที่ไม่สามารถลืมได้ขณะที่ลิตาหลับไป:ความรู้สึกของความเหงาและความคิดถึงทำให้เธอเข้าสู่ความฝัน ลิตาฝันถึงความอบอุ่นและความรักที่เคทเคยมอบให้ เธอพบว่าตัวเองกลับไปอยู่ในห้องนอนที่เคทและเธอเคยใช้เวลาร่วมกันในฝันนั้น ลิตาเห็นเคทอยู่ข้างๆ เธอ ทั้งสองนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน เคทเริ่มสัมผัสและกอดลิตาอย่างอบอุ่น ความรู้สึกของการสัมผัสที่อ่อนโยนและรักใคร่ที่เคทมีให้เกิดขึ้นในฝันอย่างชัดเจนในฝัน:เคทเริ่มจูบลิตาอย่างเต็มไปด้วยความรักและความเร่าร้อน การสัมผัสของเคททำให้ลิตารู้สึกถึงความร้อนแรงและความรักที่ลึกซึ้ง การที่เคทเอื้อมมือไปสัมผัสร่างกายของลิตาทำให้เธอรู้สึกถึงความสุขและความพอใจที่ไม่สามารถห
เสียงครางของลิตาดังสะท้อนในห้อง ร่างกายของเธอสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เคทยังคงใช้ไวเบรเตอร์กระตุ้นต่อไปจนลิตาถึงจุดสุดยอดอย่างเต็มที่ ร่างกายของเธอเกร็งแน่น ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนคลายลงในอ้อมกอดของเคทเคทหยุดการเคลื่อนไหวและลูบไล้ไปตามร่างของลิตาอย่างอ่อนโยน ขณะที่ทั้งสองยังคงหายใจหอบ ลมหายใจของพวกเธอเบาบางลงพร้อมกับความสงบที่เริ่มเข้ามาแทนที่ความร้อนแรงที่พุ่งพล่านเมื่อครู่"พี่ทำให้หนูพอใจหรือยัง?" เคทกระซิบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ขณะที่เธอจ้องมองลิตาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยลิตายิ้มอ่อนๆ และพยักหน้า ก่อนจะกอดเคทไว้แน่น สัมผัสความอบอุ่นจากร่างของเธอทำให้ลิตารู้สึกสงบ และเต็มไปด้วยความพึงพอใจทั้งสองค่อยๆ ผ่อนคลายลงในความเงียบงัน ร่างกายของพวกเธอพาดทับกันแนบแน่น เคทลูบผมของลิตาเบาๆ ขณะที่เธอจูบหน้าผากของคนรัก พลางกระซิบเบาๆ "ฉันรักเธอ"ลิตาสบตาเคทก่อนจะกระซิบตอบกลับ "หนูก็รักพี่ค่ะ"“แต่หนูชอบลิ้นพี่เคทมากกว่า...” คนตัวเล็กพูดออกมาอย่างแสนซน รอยยิ้มที่ปนความยั่วเย้าแต่งแต้มบนใบหน้า ร่างกายขยับเข้าใกล้เหมือนกำลังท้าทายเคทมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ซ่อนความปรารถนาเอาไว้
"เสียวค่ะ ที่รัก..." ลิตาสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างของเธอสั่นสะท้านไปตามสัมผัสของเคท เสียงกระซิบของลิตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่อาจปกปิดได้ ร่างของเธอคล้อยตามแรงปรารถนาอย่างควบคุมไม่ได้เคทยิ้มเล็กน้อย ยิ่งได้ยินคำพูดนั้นยิ่งกระตุ้นให้เธอรุกเร้าหนักขึ้น "แบบนี้ใช่ไหมที่เธอชอบ..." เคทกระซิบตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่น่าหลงใหล เธอยังคงรัวลิ้นและเพิ่มจังหวะที่เร็วขึ้นทุกครั้ง ทำให้ลิตายิ่งสะท้านอย่างไม่มีที่สิ้นสุดร่างของลิตาสั่นไหว เสียงหายใจหนักขึ้นและร้อนแรงขึ้น สัมผัสทุกอย่างจากเคททำให้ลิตาแทบจะหลุดออกจากโลกแห่งความเป็นจริง พลางครางเสียงเบา ลิตาบิดกายอย่างร้อนแรง ร่างกายของเธอเกร็งไปตามความรู้สึกที่ถูกกระตุ้นจนไม่อาจทนไหว เสียงครางเบา ๆ แว่วออกมา "อาา... รักหนูแรงๆ เลยค่ะ ที่รัก..." ลิตากระซิบด้วยเสียงที่สะท้อนถึงความต้องการอันแรงกล้า ขณะที่เธอหลับตาพริ้ม ปล่อยให้ความรู้สึกทั้งหมดเข้าครอบงำเคทจับสะโพกของลิตาไว้แน่น รุกหนักขึ้นตามคำร้องขอ ริมฝีปากและลิ้นของเธอยังคงทำงานอย่างไม่ลดละ เคทมองลิตาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา ก่อนที่จะก้มลงจูบหนัก ๆ ลงบนร่างของลิตา ปล่อยให้
“ลิตา จ๋า…” เสียงเคทเต็มไปด้วยอารมณ์และความเร่าร้อน ขณะที่เธอจ้องมองไปที่ร่างของลิตาที่อยู่ด้านบน สาวน้อยขยับขึ้นลงในท่าคุกเข่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ดวงตาของเธอสุกสกาวเต็มไปด้วยความปรารถนา ขณะที่ร่างกายของเธอชุ่มไปด้วยความร้อนแรง ราวกับว่าไฟที่ลุกโชนอยู่ในใจได้แพร่กระจายออกมาจากทุกอณูของผิวกาย“พี่เคท… หนูอยากให้พี่รู้สึกถึงความรักของหนู” ลิตาพูดเสียงหวาน ราวกับเสียงกระซิบที่ทำให้เคทแทบจะหยุดหายใจ ร่างของลิตาเริ่มขยับไปมาช้าๆ ในขณะที่มือของเธอกำกุมอกสวยและขยับขึ้นลงอย่างยั่วยวน ทำให้เคทต้องกัดฟันเพื่อควบคุมอารมณ์เคทยิ้มให้กับลิตา ขณะที่เธอเริ่มสอดลิ้นเข้าออกอย่างช้าๆ เพื่อกระตุ้นความรู้สึกของลิตา ความร้อนที่ลุกโชนระหว่างพวกเธอทำให้เคทรู้สึกถึงความต้องการที่มากยิ่งขึ้น ลิ้นของเธอเคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อน ราวกับเป็นการสื่อสารความรักที่มีอยู่ในใจ“หนูเซ็กซี่มากเลย” เคทกระซิบด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยอารมณ์ ขณะที่มือของเธอเริ่มลูบไล้ไปตามขาเรียวของลิตา สร้างความรู้สึกที่ทวีความร้อนขึ้นในแต่ละสัมผัส เคทไม่สามารถต้านทานแรงดึงดูดที่เกิดขึ้นได้“หนูจะทำให้พี่เคทรู้สึกดี… อย่าหยุดนะคะ” ลิตาเอ่ยด้ว
“ที่รักขาาา หนูไม่ดื้อแล้วค่าา” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความอ้อนวอนและความร้อนรน ความรู้สึกที่สะสมไว้ในร่างของเธอทำให้เธอไม่อาจทนต่อไปได้อีกต่อไป เธอหวังว่าคำพูดนั้นจะทำให้เคทหยุดการลงโทษนี้และยอมให้เธอได้สัมผัสถึงความสุขที่เธอปรารถนาเคทเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าของเธอ สายตาที่เปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์และอำนาจทำให้ลิตายิ่งหวั่นไหว “แน่ใจแล้วหรือว่าหนูจะไม่ดื้ออีก” เคทเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเย้ายวน ก่อนที่เธอจะใช้ลิ้นค่อยๆ สัมผัสอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง ทำให้ลิตายิ่งดิ้นด้วยความต้องการที่พุ่งพล่านไปทั่วร่างลิตาพยายามบิดตัวและร้องอ้อนวอนอีกครั้ง หวังว่าเคทจะหยุดยั่วเย้าและปลดปล่อยความรู้สึกที่ท่วมท้นในใจของเธอ "หนูไม่ดื้อแล้วจริงๆ ค่ะที่รัก... ได้โปรด..." เสียงของเธอสั่นเครือด้วยความหวัง เคทรู้ดีว่าลิตาอ่อนลงแล้ว แต่เธอยังคงล่อลวงให้ลิตาจมอยู่ในความปรารถนาอย่างต่อเนื่อง ปล่อยให้ความตึงเครียดนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ“ดีแล้วล่ะ...” เคทกระซิบใกล้ๆคราวนี้ เคทยังคงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเริ่มเลียวนลงไปตามร่างกายของลิตา ลิ้นอุ่นๆ ของเธอไล่ลงไปตามผิวเนียนละเอียดของลิตาอย่
ลิตากลับมาถึงคอนโดในช่วงบ่าย แสงแดดส่องสว่างเข้ามาในห้อง แต่ความรู้สึกเมาค้างทำให้เธอรู้สึกหนักอึ้งและง่วงมาก หลังจากคืนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและดื่มหนัก เธอเปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างเกือบจะเซ ข้าวของกระจัดกระจายตามพื้น จนไม่อยากจะคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงลมพัดผ่านหน้าต่าง เธอรู้สึกอ่อนเพลียเกินกว่าจะทำอะไรได้ จึงตัดสินใจที่จะนอนพักสักหน่อย ก่อนที่เธอจะรู้ตัว เธอก็หลับไปบนโซฟาอย่างรวดเร็ว ความคิดสับสนจากเมื่อคืนเริ่มจางหายไปเวลาผ่านไป ลิตายังคงหลับอย่างลึก จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอไม่ได้ยิน แต่ในใจของเธอกลับเต็มไปด้วยภาพความทรงจำที่ไม่ชัดเจน ทั้งเสียงหัวเราะและการพูดคุยที่เธอไม่แน่ใจว่าควรจะจำไว้หรือปล่อยผ่านไปเมื่อประตูถูกเปิดออก เคทเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความเป็นห่วงและโกรธเคืองในเวลาเดียวกัน เมื่อเห็นลิตานอนอยู่บนโซฟา เคทรู้สึกเจ็บปวดและโมโหกับความไม่รับผิดชอบของลิตา แต่ลิตากลับหลับสนิทจนไม่รู้ว่าเคทยืนอยู่ตรงนั้น ท่ามกลางความสับสนและความรู้สึกที่ขัดแย้งกันในใจเคทลิตาตื่นขึ้นมาจากการหลับยาว เมื่อตระหนักว่าเคทยืนอยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่แสดง
ลิตางัวเงียตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้นเคย แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตา ทำให้เธอรู้สึกตัวขึ้นทันที ความรู้สึกแรกที่เธอสัมผัสได้คืออาการปวดหัวอย่างหนัก ราวกับว่าทุกอย่างในหัวของเธอกำลังบีบตัวอย่างรุนแรง"โอ๊ย... ปวดหัวจัง" ลิตาพึมพำกับตัวเอง พลางใช้มือขยี้ขมับเบา ๆ พยายามที่จะเรียกสติกลับมา ความรู้สึกแห้งผากในคอและอาการหนักอึ้งของร่างกายทำให้เธอเข้าใจได้ทันทีว่าเธอเมาหนักมากเมื่อคืนนี้เธอค่อย ๆ พลิกตัวขึ้นมานั่งตรงขอบเตียง หันมองรอบ ๆ ห้องที่ดูหรูหรา แต่ไม่ใช่ที่ที่เธอคุ้นเคย ผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตาและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำหอมที่อบอวลในอากาศทำให้เธอยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น"นี่...ที่ไหนเนี่ย?" ลิตาพูดออกมาอย่างงุนงง สายตาของเธอมองไปรอบ ๆ พยายามประมวลเหตุการณ์เมื่อคืน เธอจำได้เลือนลางถึงการออกไปดื่มกับเพื่อน ๆ แล้วก็มีเสียงเพลงดัง กลิ่นควันบุหรี่ และภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยเธอเมื่อเธอเริ่มเมา แต่นอกจากนั้น...ทุกอย่างก็เบลอไปหมดทันใดนั้นเอง ความรู้สึกตระหนกเริ่มก่อตัวในใจของเธอ ลิตาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นสายที่ไม่ได้รับและข้อความจากเคทมากมาย ความกังวลที่พุ่งขึ