ช่วงบ่ายในลานกิจกรรมของค่ายบรรยากาศเริ่มคึกคักอีกครั้งเมื่อรุ่นพี่ประกาศโจทย์กิจกรรมช่วงบ่าย “สร้างโมเดลนวัตกรรมเพื่อชุมชน” โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับอุปกรณ์ที่จำกัดและต้องใช้ไอเดียสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกลุ่มของเชษและเจนได้รับอุปกรณ์มาในกล่องกระดาษใบใหญ่ ภายในประกอบด้วยไม้ไอติม เชือก ปืนกาว เทปกาว กระดาษแข็ง และวัสดุรีไซเคิลอื่นๆ“เราจะทำอะไรกันดี?” พลอย หนึ่งในสมาชิกกลุ่มคณะบริหารเอ่ยถาม พลางมองอุปกรณ์ในกล่อง“น่าจะเน้นอะไรที่ช่วยชุมชนได้นะ แบบใช้ง่ายและประหยัด” เมฆเสนอความคิดเห็นพลางเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นมาหาข้อมูลเชษที่นั่งเท้าแขนข้างเจน เหลือบมองเธอที่กำลังจดไอเดียลงสมุดเล็กๆ อย่างตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เธอล่ะ คิดอะไรอยู่?”เจนเงยหน้ามองเขา“ฉันคิดว่า เราน่าจะสร้างระบบกรองน้ำฝนง่ายๆ จากวัสดุรีไซเคิล เอาไว้แก้ปัญหาน้ำขังในบ้านเล็กๆ”เชษยิ้มบางๆ “ไม่เลวเลย แต่ต้องทำให้มันใช้งานง่ายจริงๆ”“งั้นเริ่มเลยมั้ย?” เมฆพูดอย่างกระตือรือร้นเริ่มต้นลงมือทำงานเจนและพลอยช่วยกันออกแบบโครงร่างของระบบกรองน้ำด้วยกระดาษแข็ง เชือก และถังน้ำเล็กๆ ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล ขณะที่เชษและเมฆจัดการตัดและต่อไ
ค่ำคืนแรก: บรรยากาศรอบกองไฟลานกว้างของค่ายถูกแต่งแต้มด้วยแสงจากกองไฟใหญ่ที่ลุกโชน นักศึกษานั่งล้อมวงกันอย่างเป็นระเบียบ เสียงหัวเราะและพูดคุยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสนุกสนาน ขณะที่รุ่นพี่กำลังจัดเตรียมกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคีในค่ำคืนนี้เจนเดินมาพร้อมฟ้าและแจงในลุคที่ดูสบายตาแต่แอบแฝงด้วยความเท่ปนหวาน เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพับแขนเล็กน้อย คู่กับกางเกงยีนส์ขาสั้นที่ดูทะมัดทะแมง รองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบๆ เพิ่มความคล่องตัว แต่สิ่งที่ขับให้เธอดูโดดเด่นคือ ผ้าผูกผมลายตารางสีพาสเทลที่เธอใช้มัดผมเป็นหางม้า ทำให้ดูน่ารักแบบไม่ตั้งใจเชษที่นั่งอยู่ในวงนักศึกษาหนุ่มหันมองเจนทันทีที่เธอเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาคมของเขาเบิกขึ้นเล็กน้อย ราวกับโดนดึงดูดด้วยลุคที่แตกต่างจากปกติของเธอ เขาไม่เคยเห็นเธอแต่งตัวในสไตล์นี้มาก่อน“โคตรน่ารักเลย...” เชษพึมพำกับตัวเองเบาๆ จนโจ้ที่นั่งข้างๆ ได้ยินและแอบยิ้มขำ ก่อนกระแอมเบาๆ เรียกสติ“ไอ้เชษ มึงจะแดกเขาแล้วมั้ย?” โจ้แซวขำๆ“เสือกน่ะ!” เชษตวาดเบาๆ แต่ดวงตายังคงจับจ้องเจนไม่วางตาเจนนั่งลงข้างฟ้าและแจง เธอไขว่ห้างเอนตัวพิงเบาะอย่างสบายๆ มือเรียวยกแก้วน้ำขึ้นจิบ
ขณะเดียวกัน เฟิร์นที่นั่งอยู่ในกลุ่มอีกฝั่ง เธอมองการแสดงทั้งหมดของเชษและเจนด้วยสายตาแข็งกร้าว มือบางกำแก้วน้ำกระดาษจนมันยับยู่ยี่ เสียงหัวเราะและเสียงแซวที่ดังรอบกองไฟยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าดวงตาคู่สวยของเธอฉายแววขุ่นมัว ริมฝีปากเม้มแน่น เฟิร์นพยายามกลบเกลื่อนอารมณ์ด้วยการก้มหน้ามองพื้น แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความคิดอาฆาต เธอไม่อาจทนเห็นภาพนั้นได้ เชษที่เคยเป็นของเธอ อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่น“เธอไม่มีอะไรเหมาะสมกับเขาเลย” เฟิร์นพึมพำเบาๆ เสียงขมขื่นแต่แฝงด้วยความมุ่งมั่นในหัวของเธอเริ่มวางแผนบางอย่างขึ้นมาทันที‘ฉันจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือไปง่าย’ เฟิร์นพูดกับตัวเองในใจ ก่อนจะจ้องมองไปที่เชษด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตั้งใจและแผนการหลังจบกิจกรรมรอบกองไฟ เจนกลับมาถึงบ้านพัก แต่ความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมทั้งวันกลับไม่ช่วยให้เธอหลับลงได้เลย เพื่อนสาวสองคนกลับหลับสนิท เสียงกรนดังสนั่นของทั้งคู่ ทำให้เธอตัดสินใจเดินออกมาสูดอากาศที่สนามหญ้าหน้ารีสอร์ทบรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ ลมเย็นพัดโชยอ่อนๆ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ เจนหยุดยืนมองด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ดวงตาคู่สวยจับจ้อ
“อึ๊...อื๊อ...อ๊า..นาย...อื๊อ..อ๊าย”เสียงครวญครางของเจนดังสะท้อนลั่นไปทั่วห้อง ร่างกายเปลือยเปล่าของเธอบิดเร่าเบาๆ ตามแรงอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน มือเรียวขยุ้มกลุ่มผมของใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังพริ้วลิ้นอย่างชำนาญอยู่ที่จุดอ่อนไหวของเธออย่างไม่หยุดพัก ร่างของเธอกระตุกทุกครั้งที่เขาขยับจังหวะ จนเธอเสร็จคาปากเขานับครั้งไม่ถ้วนในค่ำคืนนี้“อื้ม...” เสียงพึมพำทุ้มต่ำดังชิดใบหู ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะกดทับลงบนริมฝีปากบาง สอดแทรกลิ้นเข้ามาอย่างลึกซึ้ง ตักตวงความหวานปนขมของแอลกอฮอล์ที่ดื่มในคืนนี้ จนเธอแทบลืมหายใจ“อึ๊..อื๊อ.เจ็บ!” เจนเผลอร้องออกมา ใบหน้าเหยเก เมื่อคนตัวโตด้านบนค่อยๆ สอดใส่แก่นกายที่ใหญ่โตเกินคาดเข้ามาในร่างกายของเธออย่างช้าๆ“หืม? ครั้งแรกเหรอ?” เขาถามเสียงพร่า ขณะค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าไปในช่องทางที่คับแน่นอย่างระมัดระวัง“อึ๊..อืม..เบาหน่อย..” เจนพึมพำเสียงแผ่ว พลางหลับตาพริ้ม ร่างกายเกร็งเล็กน้อยตามแรงสัมผัส“ทนหน่อยละกัน” เขากระซิบเสียงพร่า ก่อนก้มลงใช้ปลายลิ้นไล้เบาๆ ที่ยอดถันชูชันของเธอ แล้วสลับกับการเม้มดูดแรงจนเจนครางออกมาด้วยความเสียวสะท้าน ร่างกายของเธอแอ่นขึ้นตามสัญชาตญาณ เพ
เจนรีบร้อนเดินออกจากคอนโดด้วยจังหวะก้าวที่เร่งร้อน ภายในหัวของเธอเต็มไปด้วยภาพเหตุการณ์เมื่อคืนที่ไหลย้อนกลับมาอย่างรวดเร็วงานเลี้ยงเฟรชชี่ต้อนรับน้องใหม่ในฐานะรุ่นพี่ปีสาม เธอ ฟ้า และแจงได้รับมอบหมายให้ดูแลบรรยากาศในงาน รวมถึงคอยแจกเครื่องดื่มให้บรรดารุ่นน้องที่มาร่วมสนุก แต่ดูเหมือนจะมีไอ้บ้าที่ไหนซักตัวคิดกิจกรรมสุดบ้าขึ้นมาเพื่อเพิ่มสีสันให้ค่ำคืน“ถ้ารุ่นน้องได้รับการดูแลจากพี่รหัสอย่างดี ให้ยกแก้วเหล้าให้พี่รหัสดื่มเป็นรางวัล!” เสียงประกาศดังลั่นความซวยของเธอคือ—เจนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ในฐานะรุ่นพี่ เธอไม่อยากทำให้น้องๆ ผิดหวัง เลยจำใจรับแก้วที่ส่งมาแบบปฏิเสธไม่ได้ ความวุ่นวายที่รุ่นน้องต่อแถวมาอย่างไม่ขาดสายทำให้เธอไม่รู้เลยว่าดื่มไปกี่แก้ว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ทุกอย่างมืดสนิทและเมื่อเธอตื่นขึ้นในวันถัดมา—เธอกลับพบตัวเองบนเตียงกว้างในสภาพที่ไม่ควรเกิดขึ้น... กับเขา!เชษ หนุ่มหล่อสุดฮอตแห่งคณะวิศวะที่ใครๆ ต่างหมายปอง ไม่ว่าจะไปที่ไหน เขาคือจุดสนใจเสมอ เป็นผู้ชายที่สาวๆ ทั้งมหาวิทยาลัยอยากจะครอบครองเจนยิ่งเดิน ยิ่งเม้มปากแน่น หัวใจเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมา แต่ไม่ใช่เพราะความเข
เจนเดินออกจากสนามบาสด้วยจังหวะก้าวเร่งรีบ ความโกรธยังตีวนอยู่ในอก แต่ยิ่งพยายามลืมก็ยิ่งนึกถึงสายตาเจ้าเล่ห์ของเชษที่มองเธออย่างเหนือกว่า เธอกัดฟันแน่น พยายามสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไปยังไม่ทันเดินพ้นเขตคณะดี เสียงมือถือในกระเป๋าสะพายก็ดังขึ้น เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมา เห็นชื่อฟ้าปรากฏอยู่บนหน้าจอเจนกดรับสายทันที “ว่าไง?”“เจน! แกอยู่ไหนเนี่ย?เมื่อกี้เพื่อนฉันบอกว่าเห็นแกอยู่กับเชษ จริงปะ?” ฟ้าถามรัวเร็วด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนอยากรู้อยากเห็นเจนกลอกตาและถอนหายใจ“ก็... เออ ฉันไปหาเขามา แต่แค่ไปเคลียร์เรื่องโพสต์บ้าๆ นั่น! แล้วอีกอย่าง...มันไม่ใช่แบบที่แกคิด”“ไม่ใช่แบบที่ฉันคิด?แล้วมันแบบไหนกันยะ? "เจนเม้มริมฝีปากแน่น ความหงุดหงิดและอึดอัดพุ่งขึ้นในอก เธอไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน“ฉันไม่รู้!”ฟ้าทำเสียงอืมในลำคอเหมือนกำลังครุ่นคิด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง“เอางี้ เดี๋ยวฉันไปหาแกที่ห้อง แกค่อยเล่าให้ฟัง โอเคมะ? "“เออ ก็ได้” เจนตอบสั้นๆ ก่อนจะกดวางสายเธอเงยหน้าขึ้น สูดลมหายใจลึกเพื่อระงับอารมณ์ที่ยังคุกรุ่นในใจ แล้วเดินออกจากเขตคณะอย่างเร่งรีบ แม้จะพยายามสลัดคว
เช้าวันใหม่ เจนสะดุ้งตื่นเพราะเสียงข้อความแจ้งเตือนจากมือถือ เธอคว้ามือถือขึ้นมาอ่านด้วยอาการงัวเงีย แต่เมื่อเห็นข้อความจากฟ้าที่ส่งมา ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างทันที‘แก เชษเดินมาหาที่คณะบัญชีตอนฉันกลับ! เดินชิลๆ เหมือนมาเที่ยว คนทั้งคณะมองกันตาแทบไม่กระพริบ รีบจัดการเรื่องนี้เถอะก่อนจะวุ่นไปกว่านี้!’เจนกัดริมฝีปากแน่น ความรำคาญและอายประดังเข้ามาพร้อมกัน เธอโยนมือถือลงบนเตียงอย่างแรง ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง“โอ๊ย! จะอะไรนักหนาวะ…” เจนพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพิมพ์ตอบกลับหาฟ้า‘วันนี้ฉันไม่ไปเรียน ฝากบอกอาจารย์ด้วยนะ’ส่งข้อความเสร็จ เธอโยนมือถือลงบนเตียงอีกครั้ง คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ ตัดสินใจกลับไปที่ค่ายมวยของที่บ้านแทน เธอรู้ว่าที่นั่นเป็นที่เดียวที่จะช่วยให้เธอหลบพ้นจากความวุ่นวายในหัวได้ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเสียงกระสอบทรายถูกต่อยดังก้องอยู่ภายในค่ายมวย ‘ศักดิ์ประภาไฟต์คลับ’ เจนกำลังซ้อมอยู่หน้ากระสอบทรายอย่างมีสมาธิ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของบรรดาลูกศิษย์ที่ฝึกซ้อมอยู่ใกล้ๆ“ซ้ายอีก! อย่าลืมบิดตัว!” พี่เดย์ พี่ชายคนเล็กที่รับหน้าที่เป
ภายในมหาวิทยาลัยเจนนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้ยาวในมุมสงบของคณะ สายตาจับจ้องไปยังสมุดโน้ตตรงหน้าที่เต็มไปด้วยลายมือของเธอ ขณะที่มือข้างหนึ่งหมุนปากกาไปมาโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าที่มักดูมั่นใจ ตอนนี้กลับฉายแววครุ่นคิด“มาขยันอะไรตอนนี้เนี่ย?” เสียงฟ้าดังขึ้นขัดจังหวะ เจนเงยหน้าขึ้นทันที เห็นฟ้าและแจงเดินตรงเข้ามาพร้อมเครื่องดื่มในมือ“ชาเย็นไข่มุก เพิ่มวิปครีมสุดโปรดของแก” ฟ้าวางแก้วลงตรงหน้าเจนพร้อมรอยยิ้มกว้างเจนถอนหายใจยาว หยิบแก้วขึ้นมาดูดหนึ่งอึกแล้ววางลง“ขอบใจนะ แต่วันนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องเรียนหรอก ฉันแค่...”แจงทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พร้อมเท้าคางมองหน้าเพื่อน “แค่... เจอเรื่องอะไรมาอีกล่ะ?”เจนเลี่ยงโดยการดูดไข่มุกจากชาเย็นขึ้นมา ไม่ยอมตอบตรงๆ เธอไม่อยากเล่าเรื่องเชษให้ใครฟังอีก เพราะแค่คิดถึงเขา หัวใจเธอก็เต้นแรงอย่างน่ารำคาญฟ้าสังเกตสีหน้าเพื่อนที่ดูตึงเครียด จึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น“เอางี้ไหม? วันนี้หลังเลิกเรียนไปที่ผับของพี่คิงมะ? ไนท์อาวน์ ผ่อนคลายหน่อย”“ไนท์อาวน์?” เจนถามพร้อมเลิกคิ้วแจงพยักหน้าเสริม“ผับพี่ชายยัยฟ้านั่นแหละ บรรยากาศดี ดนตรีสดก็เริ่ด แล้วฉันรู้นะว่าแกน่ะ ไม่ได้เที่ยวที่ไ
ขณะเดียวกัน เฟิร์นที่นั่งอยู่ในกลุ่มอีกฝั่ง เธอมองการแสดงทั้งหมดของเชษและเจนด้วยสายตาแข็งกร้าว มือบางกำแก้วน้ำกระดาษจนมันยับยู่ยี่ เสียงหัวเราะและเสียงแซวที่ดังรอบกองไฟยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าดวงตาคู่สวยของเธอฉายแววขุ่นมัว ริมฝีปากเม้มแน่น เฟิร์นพยายามกลบเกลื่อนอารมณ์ด้วยการก้มหน้ามองพื้น แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความคิดอาฆาต เธอไม่อาจทนเห็นภาพนั้นได้ เชษที่เคยเป็นของเธอ อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่น“เธอไม่มีอะไรเหมาะสมกับเขาเลย” เฟิร์นพึมพำเบาๆ เสียงขมขื่นแต่แฝงด้วยความมุ่งมั่นในหัวของเธอเริ่มวางแผนบางอย่างขึ้นมาทันที‘ฉันจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือไปง่าย’ เฟิร์นพูดกับตัวเองในใจ ก่อนจะจ้องมองไปที่เชษด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตั้งใจและแผนการหลังจบกิจกรรมรอบกองไฟ เจนกลับมาถึงบ้านพัก แต่ความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมทั้งวันกลับไม่ช่วยให้เธอหลับลงได้เลย เพื่อนสาวสองคนกลับหลับสนิท เสียงกรนดังสนั่นของทั้งคู่ ทำให้เธอตัดสินใจเดินออกมาสูดอากาศที่สนามหญ้าหน้ารีสอร์ทบรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ ลมเย็นพัดโชยอ่อนๆ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ เจนหยุดยืนมองด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ดวงตาคู่สวยจับจ้อ
ค่ำคืนแรก: บรรยากาศรอบกองไฟลานกว้างของค่ายถูกแต่งแต้มด้วยแสงจากกองไฟใหญ่ที่ลุกโชน นักศึกษานั่งล้อมวงกันอย่างเป็นระเบียบ เสียงหัวเราะและพูดคุยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสนุกสนาน ขณะที่รุ่นพี่กำลังจัดเตรียมกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคีในค่ำคืนนี้เจนเดินมาพร้อมฟ้าและแจงในลุคที่ดูสบายตาแต่แอบแฝงด้วยความเท่ปนหวาน เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพับแขนเล็กน้อย คู่กับกางเกงยีนส์ขาสั้นที่ดูทะมัดทะแมง รองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบๆ เพิ่มความคล่องตัว แต่สิ่งที่ขับให้เธอดูโดดเด่นคือ ผ้าผูกผมลายตารางสีพาสเทลที่เธอใช้มัดผมเป็นหางม้า ทำให้ดูน่ารักแบบไม่ตั้งใจเชษที่นั่งอยู่ในวงนักศึกษาหนุ่มหันมองเจนทันทีที่เธอเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาคมของเขาเบิกขึ้นเล็กน้อย ราวกับโดนดึงดูดด้วยลุคที่แตกต่างจากปกติของเธอ เขาไม่เคยเห็นเธอแต่งตัวในสไตล์นี้มาก่อน“โคตรน่ารักเลย...” เชษพึมพำกับตัวเองเบาๆ จนโจ้ที่นั่งข้างๆ ได้ยินและแอบยิ้มขำ ก่อนกระแอมเบาๆ เรียกสติ“ไอ้เชษ มึงจะแดกเขาแล้วมั้ย?” โจ้แซวขำๆ“เสือกน่ะ!” เชษตวาดเบาๆ แต่ดวงตายังคงจับจ้องเจนไม่วางตาเจนนั่งลงข้างฟ้าและแจง เธอไขว่ห้างเอนตัวพิงเบาะอย่างสบายๆ มือเรียวยกแก้วน้ำขึ้นจิบ
ช่วงบ่ายในลานกิจกรรมของค่ายบรรยากาศเริ่มคึกคักอีกครั้งเมื่อรุ่นพี่ประกาศโจทย์กิจกรรมช่วงบ่าย “สร้างโมเดลนวัตกรรมเพื่อชุมชน” โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับอุปกรณ์ที่จำกัดและต้องใช้ไอเดียสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกลุ่มของเชษและเจนได้รับอุปกรณ์มาในกล่องกระดาษใบใหญ่ ภายในประกอบด้วยไม้ไอติม เชือก ปืนกาว เทปกาว กระดาษแข็ง และวัสดุรีไซเคิลอื่นๆ“เราจะทำอะไรกันดี?” พลอย หนึ่งในสมาชิกกลุ่มคณะบริหารเอ่ยถาม พลางมองอุปกรณ์ในกล่อง“น่าจะเน้นอะไรที่ช่วยชุมชนได้นะ แบบใช้ง่ายและประหยัด” เมฆเสนอความคิดเห็นพลางเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นมาหาข้อมูลเชษที่นั่งเท้าแขนข้างเจน เหลือบมองเธอที่กำลังจดไอเดียลงสมุดเล็กๆ อย่างตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เธอล่ะ คิดอะไรอยู่?”เจนเงยหน้ามองเขา“ฉันคิดว่า เราน่าจะสร้างระบบกรองน้ำฝนง่ายๆ จากวัสดุรีไซเคิล เอาไว้แก้ปัญหาน้ำขังในบ้านเล็กๆ”เชษยิ้มบางๆ “ไม่เลวเลย แต่ต้องทำให้มันใช้งานง่ายจริงๆ”“งั้นเริ่มเลยมั้ย?” เมฆพูดอย่างกระตือรือร้นเริ่มต้นลงมือทำงานเจนและพลอยช่วยกันออกแบบโครงร่างของระบบกรองน้ำด้วยกระดาษแข็ง เชือก และถังน้ำเล็กๆ ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล ขณะที่เชษและเมฆจัดการตัดและต่อไ
บรรยากาศเช้าวันเสาร์คึกคักเป็นพิเศษ นักศึกษาปี 3 จากคณะวิศวะ บัญชี และบริหารต่างทยอยมารวมตัวกันที่ลานกว้าง เสียงพูดคุยดังอื้ออึงไปทั่ว รถบัสสามคันที่จัดเตรียมไว้จอดเรียงราย รอรับนักศึกษาไปยังสถานที่จัดกิจกรรม“แกจะนั่งรถคันไหน?” แจงถามเจน ขณะลากกระเป๋าเดินทางใบเล็ก“ไม่รู้สิ เอาคันกลางละกัน” เจนตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก สายตากวาดมองไปรอบๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านฟ้าหันไปมองทางกลุ่มนักศึกษาคณะวิศวะที่กำลังเดินมาถึง เสียงเธออุทานเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น“นั่น!พวกวิศวะมาแล้ว เชษก็มาด้วย”เจนชะงักเล็กน้อย เธอรีบหลบตาทันทีเพื่อกลบเกลื่อน แต่ใบหน้ากลับร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว“อย่าพูดถึงเขาตอนนี้ได้มั้ย” เจนบ่นเสียงต่ำ“แกพูดแบบนี้ แต่นายเชษนั่น กำลังเดินมาทางเราละ...” แจงกระซิบพร้อมรอยยิ้มขำๆ“พร้อมเพื่อนๆ เขาด้วย” ฟ้าเสริม พลางทำหน้ากรุ้มกริ่มเจนหันขวับไปมอง และแน่นอน เชษกำลังเดินตรงมาจริงๆ โดยมีโจ้และเฟย์ตามมาด้านหลังกลุ่มของเชษสะดุดตาทุกคนด้วยความหน้าตาดี โดยเฉพาะเชษที่แค่เดินมาก็เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากนักศึกษาสาวได้ตลอดทาง หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกที่มีความมั่นใจของเขาทำให้ยิ่งดูโด
“เธอนอนห้องนี้” เชษพูดพลางพยักหน้าไปทางห้องนอนของแขกที่จัดเตรียมไว้ให้“อืม...ขอบคุณนะ” เจนตอบอย่างเกร็งๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องที่เขาจัดไว้ให้เมื่อประตูห้องปิดลง เชษมองตามอย่างพอใจ ก่อนหมุนตัวกลับไปอาบน้ำหลังอาบน้ำเสร็จ เชษยืนอยู่หน้ากระจกห้องน้ำ ขยี้ผมเปียกเบาๆ พลางคิดแผนการเล็กๆ ที่เขาเตรียมไว้ในใจเขาเดินเข้าห้องครัว หยิบน้ำเย็นหนึ่งขวดและขนมเล็กๆ น้อยๆ ออกมา จากนั้นก็มุ่งหน้าไปเคาะประตูห้องนอนแขก“เอ่อ...นายมีอะไร?” เสียงของเจนดังขึ้นจากหลังประตู ก่อนที่มันจะเปิดออก เธอยืนอยู่ในชุดนอนหลวมๆ ที่หยิบติดตัวมาด้วย ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ ท่าทางเขินอายเล็กๆ ของเธอทำให้เชษยิ้มมุมปาก“แค่เอาน้ำกับขนมมาให้ เผื่อเธอหิวยามดึก” เขาส่งน้ำและขนมให้“ขอบใจ” เจนยื่นมือไปรับ แต่จังหวะที่เธอจะปิดประตู เชษกลับเอามือดันประตูไว้“ฉันว่า...” เชษลากเสียงนิดๆ ดวงตาคมจ้องมองเธอ“หืม?”“เธอไม่น่านอนได้หรอก ห้องนี้มันเงียบเกินไป” เชษพูดน้ำเสียงราบเรียบ แต่รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์“ห้องเงียบก็เหมาะกับการนอนนี่” เจนแย้ง แต่เสียงของเธอเริ่มไม่มั่นคง“ห้องฉันดีกว่า ลองมานอนสิ” เชษพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
หลังจากจบงานพรีเซนต์ เชษก็จำใจต้องกลับไปคอนโดของตัวเอง เพราะครบกำหนดเวลาตามที่เขาอ้างไว้แล้ว เขามีท่าทีอิดออดอย่างเห็นได้ชัด ขณะเก็บของออกจากห้องของเจน“เธอแน่ใจนะว่าไม่ให้ฉันอยู่ต่อ?” เชษถามเป็นครั้งที่สาม พร้อมหันมาส่งสายตาอ้อน“แน่สิ! นายอยู่จนฉันจะไม่มีพื้นที่ส่วนตัวแล้ว” เจนพูดเสียงแข็ง แต่กลับรู้สึกใจหวิวแปลกๆ“งั้นไปละนะ...” เชษพูดพลางลากเสียงยาว ก่อนเดินออกจากห้องไปเมื่อประตูปิดลง เจนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ล้มตัวลงนอนบนโซฟาอย่างหมดแรง มือบางคว้ามือถือขึ้นมาไถดูข่าวสารในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย“อื้ม...อาทิตย์หน้าต้องไปออกค่ายแล้วนี่นา หวังว่าคงไม่ซวยเกินไปนะ” เธอพึมพำเบาๆแต่หลังจากนอนนิ่งไปได้สักพัก ความเงียบในห้องก็ค่อยๆ เข้ามาแทนที่ เจนเปิดโทรศัพท์ดูซีรีส์ที่ค้างไว้ แต่กลับไม่มีสมาธิดูเหมือนปกติ“พอหมอนั่นไม่อยู่...ห้องดูเงียบพิลึกแฮะ” เธอพูดเบาๆ พลางถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเบือนหน้าไปมองเตียงที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ข้างๆ“...ทำไมต้องคิดถึงเขาด้วยเนี่ย” เจนเอ่ยกับตัวเอง ขณะที่มือยังถือรีโมตเลื่อนไปมาบนหน้าจอทีวีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตัดความเงียบในห้อง เจนหยิบขึ้นมาดูชื่อ
ไม่นานนัก ไนท์ผู้จัดการผับไนท์อาวน์ก็เดินมาเชิญทั้งสองคนให้ขึ้นไปที่ห้องด้านบนของผับเมื่อถึงเวลา เจินและเจษเดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน ดวงตาของทั้งคู่สบกันด้วยความประหลาดใจ“เธอมาที่นี่ทำไม?” เจษถามเจินด้วยความงุนงง“ฉันควรถามนายมากกว่า ว่ามาทำไม” เจินแปลกใจเช่นกันยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้โต้เถียงกันต่อ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงของเชษที่ก้าวเข้ามา“โอ้...มาครบดีนี่” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาคมจ้องมองทั้งสองคน“เชษ?” เจษขมวดคิ้ว“นายต้องการอะไร?”เชษไม่ตอบ แต่โยนแฟ้มเอกสารสองแฟ้มลงบนโต๊ะ“นี่คือสิ่งที่พวกนายควรดู”เจษหยิบแฟ้มขึ้นมาเปิดอ่าน ภายในเต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างเขากับเจิน การช่วยเหลือเจินในบางเรื่อง รวมถึงข้อความบางส่วนที่บ่งบอกว่าเขาเคยพยายามเข้าใกล้เจนด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์“นี่นายตามสืบฉันเหรอ?” เจษถามเสียงแข็ง ดวงตาเบิกกว้างด้านเจิน เมื่อเปิดแฟ้มของตัวเอง ภายในเอกสารมีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับการว่าจ้างพี่ตั้มให้ฉุดเจน ทั้งรายละเอียดการโอนเงิน และข้อความสนทนาที่เปิดเผยว่าเธอเป็นคนวางแผนทั้งหมดเจินหน้าซีดเผือด มือที่ถือแฟ้มสั่นเทา“นี่มัน...” เจินพึ
หลังจากเชษส่งทุกคนลงที่หน้ามหาวิทยาลัยเรียบร้อย เขาก็ขับรถพาเจนกลับมาที่คอนโดของเธอ บรรยากาศภายในรถเงียบงันตลอดทาง เชษไม่พูดอะไร ส่วนเจนก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในห้วงความคิด กำลังวางแผนว่าควรจะจัดการกับเจินอย่างไรดี ความอึมครึมระหว่างทั้งสองคนทำให้ทุกอย่างดูอึดอัดเมื่อมาถึงห้องพัก เชษไม่พูดอะไรสักคำ แต่เดินตรงเข้ามาช้อนตัวเจนขึ้นทันทีโดยไม่ทันให้ตั้งตัว“เฮ้ย!” เจนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ รีบยกแขนโอบรอบคอเขาไว้ตามสัญชาตญาณเชษวางเธอลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล“อยู่นิ่งๆ” เขาสั่งเสียงเรียบ“เอ่อ...” เจนอ้าปากจะพูด แต่เชษยกมือขึ้นปราม“นั่งเฉยๆ เถอะน่ะ” น้ำเสียงของเขาไม่เปิดโอกาสให้เธอเถียงไม่นาน เขาก็เดินกลับมาจากห้องน้ำพร้อมอ่างน้ำและผ้าขนหนูในมือ เขาวางอุปกรณ์ทั้งหมดลงบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ“นาย...”“เงียบเถอะ” เขาตอบสั้นๆ แต่หนักแน่น พลางหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำอย่างใจเย็น แล้วเริ่มเช็ดมือของเจนที่เต็มไปด้วยรอยช้ำและรอยเปื้อนจากการต่อสู้ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองไปยังรอยแผลเล็กๆ ที่มือบาง เขาขบกรามแน่น สีหน้าเปลี่ยนเป็นดุดันอย่างเห็นได้ชัด“ใคร? มันเป็นใคร?” เชษถามเสียงต่ำ ดวงตาวาว
เชษที่ยืนอึ้งอยู่กับภาพตรงหน้า เผลอหัวเราะออกมาเบาๆ เขาลืมไปเสียสนิทว่า เจนเป็นลูกสาวเจ้าของค่ายมวย ไอ้พวกนี้จะทำอะไรเธอได้ ดีแค่ไหนที่ไอ้พวกนี้ไม่ตายคาตีนเธอเขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหาเธอ ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่ากำปั้นเล็กๆ ของเธอเปื้อนเลือดจนแดงฉานเจนที่เพิ่งได้คำตอบว่าใครเป็นคนจ้างชายพวกนี้มา โยนร่างของชายที่คอเสื้อยังอยู่ในมือเธอลงกับพื้นอย่างไม่ไยดี ก่อนจะหันมาเจอเชษยืนมองอยู่ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ“นะ...นะ...นายมาได้ไง” เธอพูดตะกุกตะกัก มองซ้ายขวาเลิกลั่กเชษอมยิ้มออกมาน้อยๆ ท่าทางลุกลี้ลุกลนของเธอ แม้จะเพิ่งจัดการพวกชายฉกรรจ์จนปางตาย แต่สำหรับเขากลับดูน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ“เธอนี่นะ...” เชษพึมพำเบาๆ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ ดึงร่างเล็กของเธอเข้ามากอดแน่น“หืม?” เจนเลิกคิ้วงุนงง แต่ไม่ได้ขัดขืน“ฉันเป็นห่วงแทบแย่” เชษพูดเสียงทุ้มเบาๆ ใกล้หูเธอเจนกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะพึมพำตอบเสียงอ่อน“อะ...โทษทีที่ทำให้เป็นห่วง”เชษไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่ก้มมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน พร้อมรอยยิ้มที่มีเสน่ห์จนเจนถึงกับเบลอไปชั่วขณะรู้ตัวอีกที ริมฝีปากร้อ