หลังจากเชษส่งทุกคนลงที่หน้ามหาวิทยาลัยเรียบร้อย เขาก็ขับรถพาเจนกลับมาที่คอนโดของเธอ บรรยากาศภายในรถเงียบงันตลอดทาง เชษไม่พูดอะไร ส่วนเจนก็ดูเหมือนจะตกอยู่ในห้วงความคิด กำลังวางแผนว่าควรจะจัดการกับเจินอย่างไรดี ความอึมครึมระหว่างทั้งสองคนทำให้ทุกอย่างดูอึดอัดเมื่อมาถึงห้องพัก เชษไม่พูดอะไรสักคำ แต่เดินตรงเข้ามาช้อนตัวเจนขึ้นทันทีโดยไม่ทันให้ตั้งตัว“เฮ้ย!” เจนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ รีบยกแขนโอบรอบคอเขาไว้ตามสัญชาตญาณเชษวางเธอลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล“อยู่นิ่งๆ” เขาสั่งเสียงเรียบ“เอ่อ...” เจนอ้าปากจะพูด แต่เชษยกมือขึ้นปราม“นั่งเฉยๆ เถอะน่ะ” น้ำเสียงของเขาไม่เปิดโอกาสให้เธอเถียงไม่นาน เขาก็เดินกลับมาจากห้องน้ำพร้อมอ่างน้ำและผ้าขนหนูในมือ เขาวางอุปกรณ์ทั้งหมดลงบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ“นาย...”“เงียบเถอะ” เขาตอบสั้นๆ แต่หนักแน่น พลางหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำอย่างใจเย็น แล้วเริ่มเช็ดมือของเจนที่เต็มไปด้วยรอยช้ำและรอยเปื้อนจากการต่อสู้ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองไปยังรอยแผลเล็กๆ ที่มือบาง เขาขบกรามแน่น สีหน้าเปลี่ยนเป็นดุดันอย่างเห็นได้ชัด“ใคร? มันเป็นใคร?” เชษถามเสียงต่ำ ดวงตาวาว
ไม่นานนัก ไนท์ผู้จัดการผับไนท์อาวน์ก็เดินมาเชิญทั้งสองคนให้ขึ้นไปที่ห้องด้านบนของผับเมื่อถึงเวลา เจินและเจษเดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน ดวงตาของทั้งคู่สบกันด้วยความประหลาดใจ“เธอมาที่นี่ทำไม?” เจษถามเจินด้วยความงุนงง“ฉันควรถามนายมากกว่า ว่ามาทำไม” เจินแปลกใจเช่นกันยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้โต้เถียงกันต่อ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงของเชษที่ก้าวเข้ามา“โอ้...มาครบดีนี่” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาคมจ้องมองทั้งสองคน“เชษ?” เจษขมวดคิ้ว“นายต้องการอะไร?”เชษไม่ตอบ แต่โยนแฟ้มเอกสารสองแฟ้มลงบนโต๊ะ“นี่คือสิ่งที่พวกนายควรดู”เจษหยิบแฟ้มขึ้นมาเปิดอ่าน ภายในเต็มไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างเขากับเจิน การช่วยเหลือเจินในบางเรื่อง รวมถึงข้อความบางส่วนที่บ่งบอกว่าเขาเคยพยายามเข้าใกล้เจนด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์“นี่นายตามสืบฉันเหรอ?” เจษถามเสียงแข็ง ดวงตาเบิกกว้างด้านเจิน เมื่อเปิดแฟ้มของตัวเอง ภายในเอกสารมีหลักฐานชัดเจนเกี่ยวกับการว่าจ้างพี่ตั้มให้ฉุดเจน ทั้งรายละเอียดการโอนเงิน และข้อความสนทนาที่เปิดเผยว่าเธอเป็นคนวางแผนทั้งหมดเจินหน้าซีดเผือด มือที่ถือแฟ้มสั่นเทา“นี่มัน...” เจินพึ
หลังจากจบงานพรีเซนต์ เชษก็จำใจต้องกลับไปคอนโดของตัวเอง เพราะครบกำหนดเวลาตามที่เขาอ้างไว้แล้ว เขามีท่าทีอิดออดอย่างเห็นได้ชัด ขณะเก็บของออกจากห้องของเจน“เธอแน่ใจนะว่าไม่ให้ฉันอยู่ต่อ?” เชษถามเป็นครั้งที่สาม พร้อมหันมาส่งสายตาอ้อน“แน่สิ! นายอยู่จนฉันจะไม่มีพื้นที่ส่วนตัวแล้ว” เจนพูดเสียงแข็ง แต่กลับรู้สึกใจหวิวแปลกๆ“งั้นไปละนะ...” เชษพูดพลางลากเสียงยาว ก่อนเดินออกจากห้องไปเมื่อประตูปิดลง เจนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ล้มตัวลงนอนบนโซฟาอย่างหมดแรง มือบางคว้ามือถือขึ้นมาไถดูข่าวสารในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย“อื้ม...อาทิตย์หน้าต้องไปออกค่ายแล้วนี่นา หวังว่าคงไม่ซวยเกินไปนะ” เธอพึมพำเบาๆแต่หลังจากนอนนิ่งไปได้สักพัก ความเงียบในห้องก็ค่อยๆ เข้ามาแทนที่ เจนเปิดโทรศัพท์ดูซีรีส์ที่ค้างไว้ แต่กลับไม่มีสมาธิดูเหมือนปกติ“พอหมอนั่นไม่อยู่...ห้องดูเงียบพิลึกแฮะ” เธอพูดเบาๆ พลางถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเบือนหน้าไปมองเตียงที่เคยมีใครบางคนนอนอยู่ข้างๆ“...ทำไมต้องคิดถึงเขาด้วยเนี่ย” เจนเอ่ยกับตัวเอง ขณะที่มือยังถือรีโมตเลื่อนไปมาบนหน้าจอทีวีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตัดความเงียบในห้อง เจนหยิบขึ้นมาดูชื่อ
“เธอนอนห้องนี้” เชษพูดพลางพยักหน้าไปทางห้องนอนของแขกที่จัดเตรียมไว้ให้“อืม...ขอบคุณนะ” เจนตอบอย่างเกร็งๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องที่เขาจัดไว้ให้เมื่อประตูห้องปิดลง เชษมองตามอย่างพอใจ ก่อนหมุนตัวกลับไปอาบน้ำหลังอาบน้ำเสร็จ เชษยืนอยู่หน้ากระจกห้องน้ำ ขยี้ผมเปียกเบาๆ พลางคิดแผนการเล็กๆ ที่เขาเตรียมไว้ในใจเขาเดินเข้าห้องครัว หยิบน้ำเย็นหนึ่งขวดและขนมเล็กๆ น้อยๆ ออกมา จากนั้นก็มุ่งหน้าไปเคาะประตูห้องนอนแขก“เอ่อ...นายมีอะไร?” เสียงของเจนดังขึ้นจากหลังประตู ก่อนที่มันจะเปิดออก เธอยืนอยู่ในชุดนอนหลวมๆ ที่หยิบติดตัวมาด้วย ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ ท่าทางเขินอายเล็กๆ ของเธอทำให้เชษยิ้มมุมปาก“แค่เอาน้ำกับขนมมาให้ เผื่อเธอหิวยามดึก” เขาส่งน้ำและขนมให้“ขอบใจ” เจนยื่นมือไปรับ แต่จังหวะที่เธอจะปิดประตู เชษกลับเอามือดันประตูไว้“ฉันว่า...” เชษลากเสียงนิดๆ ดวงตาคมจ้องมองเธอ“หืม?”“เธอไม่น่านอนได้หรอก ห้องนี้มันเงียบเกินไป” เชษพูดน้ำเสียงราบเรียบ แต่รอยยิ้มเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์“ห้องเงียบก็เหมาะกับการนอนนี่” เจนแย้ง แต่เสียงของเธอเริ่มไม่มั่นคง“ห้องฉันดีกว่า ลองมานอนสิ” เชษพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
บรรยากาศเช้าวันเสาร์คึกคักเป็นพิเศษ นักศึกษาปี 3 จากคณะวิศวะ บัญชี และบริหารต่างทยอยมารวมตัวกันที่ลานกว้าง เสียงพูดคุยดังอื้ออึงไปทั่ว รถบัสสามคันที่จัดเตรียมไว้จอดเรียงราย รอรับนักศึกษาไปยังสถานที่จัดกิจกรรม“แกจะนั่งรถคันไหน?” แจงถามเจน ขณะลากกระเป๋าเดินทางใบเล็ก“ไม่รู้สิ เอาคันกลางละกัน” เจนตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก สายตากวาดมองไปรอบๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านฟ้าหันไปมองทางกลุ่มนักศึกษาคณะวิศวะที่กำลังเดินมาถึง เสียงเธออุทานเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น“นั่น!พวกวิศวะมาแล้ว เชษก็มาด้วย”เจนชะงักเล็กน้อย เธอรีบหลบตาทันทีเพื่อกลบเกลื่อน แต่ใบหน้ากลับร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว“อย่าพูดถึงเขาตอนนี้ได้มั้ย” เจนบ่นเสียงต่ำ“แกพูดแบบนี้ แต่นายเชษนั่น กำลังเดินมาทางเราละ...” แจงกระซิบพร้อมรอยยิ้มขำๆ“พร้อมเพื่อนๆ เขาด้วย” ฟ้าเสริม พลางทำหน้ากรุ้มกริ่มเจนหันขวับไปมอง และแน่นอน เชษกำลังเดินตรงมาจริงๆ โดยมีโจ้และเฟย์ตามมาด้านหลังกลุ่มของเชษสะดุดตาทุกคนด้วยความหน้าตาดี โดยเฉพาะเชษที่แค่เดินมาก็เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากนักศึกษาสาวได้ตลอดทาง หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกที่มีความมั่นใจของเขาทำให้ยิ่งดูโด
ช่วงบ่ายในลานกิจกรรมของค่ายบรรยากาศเริ่มคึกคักอีกครั้งเมื่อรุ่นพี่ประกาศโจทย์กิจกรรมช่วงบ่าย “สร้างโมเดลนวัตกรรมเพื่อชุมชน” โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับอุปกรณ์ที่จำกัดและต้องใช้ไอเดียสร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกลุ่มของเชษและเจนได้รับอุปกรณ์มาในกล่องกระดาษใบใหญ่ ภายในประกอบด้วยไม้ไอติม เชือก ปืนกาว เทปกาว กระดาษแข็ง และวัสดุรีไซเคิลอื่นๆ“เราจะทำอะไรกันดี?” พลอย หนึ่งในสมาชิกกลุ่มคณะบริหารเอ่ยถาม พลางมองอุปกรณ์ในกล่อง“น่าจะเน้นอะไรที่ช่วยชุมชนได้นะ แบบใช้ง่ายและประหยัด” เมฆเสนอความคิดเห็นพลางเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นมาหาข้อมูลเชษที่นั่งเท้าแขนข้างเจน เหลือบมองเธอที่กำลังจดไอเดียลงสมุดเล็กๆ อย่างตั้งใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น“เธอล่ะ คิดอะไรอยู่?”เจนเงยหน้ามองเขา“ฉันคิดว่า เราน่าจะสร้างระบบกรองน้ำฝนง่ายๆ จากวัสดุรีไซเคิล เอาไว้แก้ปัญหาน้ำขังในบ้านเล็กๆ”เชษยิ้มบางๆ “ไม่เลวเลย แต่ต้องทำให้มันใช้งานง่ายจริงๆ”“งั้นเริ่มเลยมั้ย?” เมฆพูดอย่างกระตือรือร้นเริ่มต้นลงมือทำงานเจนและพลอยช่วยกันออกแบบโครงร่างของระบบกรองน้ำด้วยกระดาษแข็ง เชือก และถังน้ำเล็กๆ ที่มาจากวัสดุรีไซเคิล ขณะที่เชษและเมฆจัดการตัดและต่อไ
ค่ำคืนแรก: บรรยากาศรอบกองไฟลานกว้างของค่ายถูกแต่งแต้มด้วยแสงจากกองไฟใหญ่ที่ลุกโชน นักศึกษานั่งล้อมวงกันอย่างเป็นระเบียบ เสียงหัวเราะและพูดคุยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสนุกสนาน ขณะที่รุ่นพี่กำลังจัดเตรียมกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคีในค่ำคืนนี้เจนเดินมาพร้อมฟ้าและแจงในลุคที่ดูสบายตาแต่แอบแฝงด้วยความเท่ปนหวาน เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพับแขนเล็กน้อย คู่กับกางเกงยีนส์ขาสั้นที่ดูทะมัดทะแมง รองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบๆ เพิ่มความคล่องตัว แต่สิ่งที่ขับให้เธอดูโดดเด่นคือ ผ้าผูกผมลายตารางสีพาสเทลที่เธอใช้มัดผมเป็นหางม้า ทำให้ดูน่ารักแบบไม่ตั้งใจเชษที่นั่งอยู่ในวงนักศึกษาหนุ่มหันมองเจนทันทีที่เธอเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาคมของเขาเบิกขึ้นเล็กน้อย ราวกับโดนดึงดูดด้วยลุคที่แตกต่างจากปกติของเธอ เขาไม่เคยเห็นเธอแต่งตัวในสไตล์นี้มาก่อน“โคตรน่ารักเลย...” เชษพึมพำกับตัวเองเบาๆ จนโจ้ที่นั่งข้างๆ ได้ยินและแอบยิ้มขำ ก่อนกระแอมเบาๆ เรียกสติ“ไอ้เชษ มึงจะแดกเขาแล้วมั้ย?” โจ้แซวขำๆ“เสือกน่ะ!” เชษตวาดเบาๆ แต่ดวงตายังคงจับจ้องเจนไม่วางตาเจนนั่งลงข้างฟ้าและแจง เธอไขว่ห้างเอนตัวพิงเบาะอย่างสบายๆ มือเรียวยกแก้วน้ำขึ้นจิบ
ขณะเดียวกัน เฟิร์นที่นั่งอยู่ในกลุ่มอีกฝั่ง เธอมองการแสดงทั้งหมดของเชษและเจนด้วยสายตาแข็งกร้าว มือบางกำแก้วน้ำกระดาษจนมันยับยู่ยี่ เสียงหัวเราะและเสียงแซวที่ดังรอบกองไฟยิ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าดวงตาคู่สวยของเธอฉายแววขุ่นมัว ริมฝีปากเม้มแน่น เฟิร์นพยายามกลบเกลื่อนอารมณ์ด้วยการก้มหน้ามองพื้น แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยความคิดอาฆาต เธอไม่อาจทนเห็นภาพนั้นได้ เชษที่เคยเป็นของเธอ อยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่น“เธอไม่มีอะไรเหมาะสมกับเขาเลย” เฟิร์นพึมพำเบาๆ เสียงขมขื่นแต่แฝงด้วยความมุ่งมั่นในหัวของเธอเริ่มวางแผนบางอย่างขึ้นมาทันที‘ฉันจะไม่ยอมให้เขาหลุดมือไปง่าย’ เฟิร์นพูดกับตัวเองในใจ ก่อนจะจ้องมองไปที่เชษด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตั้งใจและแผนการหลังจบกิจกรรมรอบกองไฟ เจนกลับมาถึงบ้านพัก แต่ความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมทั้งวันกลับไม่ช่วยให้เธอหลับลงได้เลย เพื่อนสาวสองคนกลับหลับสนิท เสียงกรนดังสนั่นของทั้งคู่ ทำให้เธอตัดสินใจเดินออกมาสูดอากาศที่สนามหญ้าหน้ารีสอร์ทบรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงบ ลมเย็นพัดโชยอ่อนๆ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ เจนหยุดยืนมองด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ดวงตาคู่สวยจับจ้อ
เชษ – [จะบ้าตาย]ให้ตายเหอะ!!ยิ่งผมจูบเจนมากเท่าไหร่ ความต้องการในตัวผมก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นจนแทบควบคุมไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นเพราะฤทธิ์ยาหรือเพราะตัวเธอที่แสนเย้ายวนกันแน่กลิ่นกายหอมละมุนจากเธอเหมือนกับกำลังท้าทายความอดทนของผมจนหมดสิ้น ผมอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอก เดินตรงไปยังเตียงนอนอย่างรวดเร็วเมื่อวางเธอลงบนเตียงได้ ผมก็กดตัวเธอลงให้นอนราบ ขณะที่สายตาผมจับจ้องไปที่ชุดที่เธอสวมอยู่ไอ้ชุดที่ใส่มานี่ก็...เซ็กซี่เกินจนอยากจะฉีกทิ้งแควก!“เฮ้ย นาย!”เธอร้องอย่างตกใจ เมื่อผมไม่ได้แค่คิด แต่กระชากเสื้อจนขาดเหลือเพียงซิลิโคนที่ปิดจุกไว้เท่านั้นและมันไม่ได้หยุดแค่นั้น เสื้อผ้าของผมเอง รวมถึงกระโปรงสั้นของเธอ ก็ถูกผมปลดออกอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่วินาที ทิ้งทุกชิ้นลงข้างเตียงอย่างไม่สนใจอะไรนอกจากเธอที่อยู่ตรงหน้าผมยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ก่อนจะโน้มตัวลงประกบริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง อารมณ์ของผมตอนนี้พลุ่งพล่านจนแทบระเบิด ไม่ว่าจะสัมผัสเธอกี่ครั้ง กี่รอบ ก็ไม่มีวันพอ...“อื๊อ...”เสียงครางแผ่วเบาจากเธอทำให้ผมยิ่งคลั่ง รวบข้อมือทั้งสองข้างของเธอขึ้นไว้เหนือศีรษะ พลางก้มลงซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นขอ
เจนที่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เชษไม่เคยหายไปนานขนาดนี้มาก่อน เธอวางแก้วเครื่องดื่มลง ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะไปตามหาเขา ร่างบางเดินเลียบไปตามโถงทางเดินของโซนวีไอพีที่เงียบสงบจนกระทั่งเจนหยุดชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เฟิร์นกำลังจูบกับเชษอย่างนัวเนียอยู่ในมุมที่คิดว่าไม่มีใครเห็น ร่างสูงดูเหมือนจะทรงตัวไม่อยู่ ดวงตาคมของเจนเบิกกว้าง แต่แวบเดียวเท่านั้น ก่อนที่ดวงตาคู่สวยจะวาวโรจน์ด้วยความโกรธเธอกวาดสายตามองรอบตัวจนเจอสายยางสำหรับรดน้ำต้นไม้ที่พาดอยู่ไม่ไกล เจนคว้าสายยาง เปิดน้ำเต็มที่ แล้วฉีดเข้าใส่ทั้งคู่ทันที“กรี๊ดดดดด!!!”เสียงเฟิร์นกรีดร้องลั่น เมื่อกระแสน้ำเย็นเฉียบกระทบตัว ร่างของเธอเปียกโชกทันทีเจนไม่รอช้า เธอตรงเข้าไปกระชากผมเฟิร์นอย่างแรง ก่อนจะผลักร่างของเฟิร์นจนล้มลงไปกองกับพื้นเธอหันกลับไปหาเชษ ตั้งใจจะเล่นงานเขาที่ทำแบบนี้ แต่ร่างสูงกลับทรุดตัวลงนั่งพิงกำแพง ใบหน้าคมซีดเซียว“เชษ! นาย!” เจนเรียกเขาเสียงเขียว แต่ทันทีที่เห็นอาการเขา ร่างบางชะงักไป“ฉัน...โดนยา...” เสียงของเขาแผ่วเบา ร่างสูงกัดฟันแน่นพยายามข่มอาการคำพูดนั้นทำให้เจนชะงักไปชั่วครู่ ดวงตาของเธอเบิกกว้า
เสียงเพลงในผับดังสนั่น แขกเหรื่อบนฟลอร์เต้นรำกำลังสนุกสนาน แต่บรรยากาศเปลี่ยนไปชั่วขณะเมื่อกลุ่มของเจนเดินเข้ามาในผับทุกสายตาหันมาจับจ้อง พนักงานเสิร์ฟบางคนถึงกับหยุดชะงัก หยุดเดินตามธรรมชาติ เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบทิศ คนในผับเริ่มซุบซิบกันเบาๆเจนในลุคที่ไม่เหมือนปกติ เธอสวมเสื้อสายเดี่ยวสีแดงสดเปิดหลัง เนื้อผ้ามันวาวสะท้อนแสงไฟในผับ เผยเนินอกอวบอิ่มและแผ่นหลังขาวเนียน กระโปรงหนังสีดำแหวกข้างเล็กน้อยโชว์เรียวขา ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้ทุกก้าวย่างของเธอดูเย้ายวน รองเท้าส้นสูงคู่เก่งช่วยเสริมให้เธอดูสง่างามและเซ็กซี่จนเกินห้ามใจฟ้าและแจงที่แต่งตัวเซ็กซี่ไม่แพ้กันเดินขนาบข้าง ดึงดูดความสนใจจากผู้คนในผับได้ไม่แพ้เจน เสียงเพลงเหมือนจะเบาลงชั่วขณะ ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงหันมามองพวกเธอเป็นตาเดียวเชษที่นั่งอยู่ในโซนวีไอพีกับโจ้และเฟย์ ชะงักไปทันทีเมื่อเห็นเจนเดินเข้ามา ดวงตาคมเข้มเบิกกว้าง รอยยิ้มมุมปากที่มักติดตัวหายไปทันที เหลือเพียงสีหน้าตะลึงงันกับลุคของเธอในคืนนี้โจ้กับเฟย์ที่ยืนอยู่ห่างไปเล็กน้อยถึงกับยกแก้วขึ้นปิดปาก หันมามองหน้ากันก่อนรีบเดินตรงกลับมาที่โต๊ะทันที“เชี่ย! นั่นเจนจริงเหรอวะ?
ในห้องแต่งตัวเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าหลากสีและเครื่องสำอางกระจายเต็มโต๊ะ ฟ้าและแจงยืนจ้องเจนที่ใส่สายเดี่ยวสีขาวธรรมดา คลุมด้วยซีทรูสีดำ และกางเกงสกินนี่เอวสูงอย่างเอือมระอา“แกแต่งแบบนี้ไม่ได้!” ฟ้าพูดขึ้น พร้อมกับทำสีหน้าเหมือนเห็นอะไรที่รับไม่ได้“ใช่! แกต้องแต่งให้เลิศหน่อยเว้ย!” แจงเสริมทันที“ทำไมอะ? ฉันว่าแค่นี้ก็พอแล้วปะ?”“ไม่พอ!!!” ฟ้าและแจงประสานเสียงกัน ก่อนที่ฟ้าจะเดินมาคว้าแขนเจน“มานี่! เดี๋ยวพวกฉันจัดให้เอง”สิบห้านาทีต่อมา...เจนยืนอยู่หน้ากระจก ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในลุคที่เปลี่ยนไปจนแทบไม่เชื่อสายตาฟ้าเลือกเสื้อสายเดี่ยวสีแดงสด ดีไซน์เก๋ด้วยสายห่วงโซ่ไขว้กันด้านหลัง เปิดโชว์แผ่นหลังขาวเนียนอย่างน่ามอง เนื้อผ้ามันวาว ด้านหน้าถูกออกแบบให้เว้าลึกเล็กน้อย เผยให้เห็นเนินอกอิ่มอย่างพอเหมาะ ดูหรูหราและเย้ายวนในคราวเดียวกันส่วนแจงจัดการเลือกกระโปรงหนังสีดำสั้นเหนือเข่า มีดีไซน์แหวกข้างเล็กน้อย โชว์เรียวขาขาวเนียนที่ดูโดดเด่นและสะดุดตา“แกต้องโชว์ขานิดๆ แต่ไม่โป๊ นี่แหละ...กำลังดี” แจงพูดด้วยรอยยิ้มพอใจฟ้าไม่หยุดแค่นั้น เธอหยิบรองเท้าส้นสูงสีดำ
สองวันต่อมา...ภายในห้องคอนโดของเชษ แสงแดดยามสายลอดผ่านม่านสีเทาอ่อน ส่องกระทบโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารและหน้าจอแล็ปท็อปที่เปิดอีเมลหลายฉบับ เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะ ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียด คิ้วขมวดจนแทบจะเป็นปม ขณะที่ดวงตาคมกริบไล่สายตาอ่านข้อมูลบนหน้าจอเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง เจนในชุดลำลองสบายๆ เดินออกมาจากห้องนอนพร้อมแล็ปท็อปในมือ เธอหยุดยืนอยู่ข้างหลังเชษ สายตาสอดส่องมองชายหนุ่มที่กำลังนั่งคร่ำเคร่งอยู่กับหน้าจอ“นายทำไรอะ?”เชษเงยหน้าขึ้นจากเอกสารดิจิทัลในหน้าจอแล็ปท็อป ก่อนจะยิ้มมุมปาก ดึงร่างบางของเจนมานั่งบนตักโดยไม่พูดอะไร แล็ปท็อปในมือของเธอถูกดึงไปวางไว้บนโต๊ะ แขนแกร่งโอบรอบเอวของเธอไว้หลวมๆ“กำลังดูข้อมูลของบริษัทโครนอส คอร์ปอเรชั่น บริษัทที่ชนะประมูลนั่นแหละ”เจนมองจอแล็ปท็อปที่แสดงข้อมูลอยู่ เธอเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะพึมพำเบาๆ“ฮั้วประมูลเหรอ?”“อืม...”เชษพยักหน้า ดวงตาคมจ้องข้อมูลตรงหน้า ก่อนจะเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด“ฉันมีเรื่องอยากถาม...”“หืม?” เจนเลิกคิ้ว หันมามองเขา“เฮียเคนเป็นใคร?”เจนกระพริบตาปริบๆ คำถามนั้นทำให้เธอชะงักไป เธอร
ด้านเจน ด้วยความช่วยเหลือจากเคน ทำให้เธอปลอมตัวเป็นพนักงานเสิร์ฟของโรงแรม ภายใต้ยูนิฟอร์มเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาและกระโปรงสีดำเข้ารูป พร้อมผ้ากันเปื้อนสีครีมที่ทำให้เธอดูไม่สะดุดตาเกินไป แต่แฝงไปด้วยความคล่องตัว ใบหน้าหวานของเธอถูกแต่งแต้มบางเบาเพื่อไม่ให้เป็นที่จดจำง่ายเกินไปเจนได้รับมอบหมายให้ดูแลห้องประชุมส่วนตัวที่ชั้นสองของโรงแรม ห้องประชุมนี้ถูกจองโดยบริษัท ‘โครนอส อินดัสทรีส์’ ซึ่งจากข้อมูลที่เธอได้รับมา เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนสีเทาที่มีข่าวลือว่าพัวพันกับการฮั้วประมูลโครงการเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์ห้องประชุมส่วนตัวบนชั้นสองของโรงแรมถูกจัดแต่งอย่างหรูหรา โทนสีขาวทอง ผ้าม่านหนาปิดบังหน้าต่างเพื่อความเป็นส่วนตัว โต๊ะยาวกลางห้องถูกจัดด้วยอุปกรณ์สำหรับประชุม และมีพื้นที่สำหรับบุฟเฟต์อาหารที่จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วเจนพยายามเก็บสีหน้าให้เรียบเฉย ขณะเดินเข้าไปเช็กความเรียบร้อยของอาหารและเครื่องดื่มที่จัดเตรียมไว้ เธอรู้สึกถึงสายตาบางคู่ที่แอบมองมาทางเธอ แต่ก็พยายามไม่แสดงท่าทีพิรุธเจนเดินเข้าไปหยิบถาดเครื่องดื่ม ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร สายตากวาดมองไปรอบๆ ห้องอย่างแนบเนียน บรรยากาศ
เชษนั่งอยู่บนโซฟาของคอนโด ใบหน้าคมเคร่งเครียดขณะเลื่อนอ่านข้อมูลที่บอสส่งมาให้บนแล็ปท็อป เสียงพึมพำเบาๆ ของเขาดังขึ้นเป็นจังหวะขณะขบคิดแผนการ“ถ้าอยากได้หลักฐานเพิ่ม…ฉันอาจต้องเข้าไปในงานประมูลเอง” เจนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนเสื้อยืดตัวโคร่งและกางเกงขาสั้น เธอเช็ดผมที่ยังชื้นเล็กน้อย พลางเดินตรงไปหาเชษ“นายดูเครียดมากเลยนะ มีอะไรเหรอ?”เชษเงยหน้าขึ้นมองเธอ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ“ฉันกำลังคิดแผนหาหลักฐานเกี่ยวกับกลุ่มทุนสีเทาน่ะ” เจนขมวดคิ้วนิดๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้างเขา“แผนอะไร?”เชษวางแล็ปท็อปลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ก่อนจะพูดเสียงจริงจัง“ตอนนี้ฉันมีข้อมูลบางอย่างที่พอจะเชื่อมโยงพวกมันได้ แต่ยังไม่พอสำหรับเอาไปใช้เล่นงานพวกนั้น ถ้าฉันสามารถเข้าไปร่วมงานประมูลเซ็นทรัลอเวนิว ทาวเวอร์ได้ ฉันอาจหาโอกาสเจาะลึกข้อมูลของพวกมันเพิ่มได้” “งานประมูล? นายจะเข้าไปยังไง?”“บริษัทของพ่อฉัน…SK Construction เป็นหนึ่งในผู้ร่วมประมูล ฉันสามารถเข้าไปในฐานะตัวแทนได้ แต่…” เชษพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความกังวล“แต่อะไร?” เจนถาม พร้อมมองหน้าเขานิ่ง“มันเสี่ยง ถ้าพวกนั้นรู้ตัวว่าเรากำลังตามสืบข้
ภายในร้านกาแฟเบลนด์ แอนด์ บรู ร้านเล็กๆ ใจกลางเมือง ที่ตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟต์ เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น เชษนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่ง มือหนาเขี่ยแก้วกาแฟที่เหลือเพียงก้นแก้วไปมา ขณะสายตาคมทอดมองผ่านกระจกบานใหญ่ที่เผยให้เห็นความวุ่นวายของเมืองด้านนอกเสียงกระดิ่งดังเบาๆ เมื่อประตูร้านเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดแจ็คเก็ตหนังสีน้ำตาลคลาสสิกและกางเกงยีนส์ขาดเล็กน้อยก้าวเข้ามา ใบหน้าของเขาเปื้อนยิ้มมั่นใจ ขณะที่สายตากวาดมองหาเป้าหมาย“ว่าไงเรา” ชายหนุ่มเอ่ยทัก ก่อนเดินตรงมานั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเชษ“มาช้าจัง พี่บอส” เชษพูดพลางยกยิ้มมุมปาก“เอาน่า รีบสุดๆ แล้ว” บอสหัวเราะเบาๆ พร้อมยกมือโบกเรียกพนักงานมารับออเดอร์กาแฟเชษพิงหลังกับพนักเก้าอี้ สายตามองบอสด้วยความคุ้นเคยย้อนกลับไปตอนที่พวกเขาเพิ่งรู้จักกันครั้งแรกในงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีที่จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชั้นนำ เชษซึ่งในตอนนั้นเป็นนักศึกษาวิศวกรรมโยธาปีสอง เข้าร่วมงานด้วยความตั้งใจอยากเรียนรู้เทคนิคการออกแบบโครงสร้างอาคารด้วยซอฟต์แวร์ขั้นสูงขณะเดียวกัน บอสซึ่งเป็นวิทยากรรับเชิญ กำลังพูดถึงการนำเทคโนโลยี AI และการเขียนโปรแกรมมาประยุกต
“อ๊า...อ๊า...เชษ...งื้อ...”เจนครางเสียงกระเส่า เมื่อปลายลิ้นร้อนของเชษสอดเข้าไปในตัวเธอ ลิ้นของเขากระดกรัวอย่างชำนาญ สร้างสัมผัสที่ลึกล้ำและเร่าร้อน เกลียวลิ้นดันขึ้นลงหลายครั้งราวกับตั้งใจปลุกเร้าให้เธอถึงจุดสุดยอดมือเรียวบางของเจนเลื่อนขึ้นมาจิกบ่าของเขาแน่น ร่างบางสะท้านไปทั้งตัวจากความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามา ท้องน้อยของเธอเกร็งแน่นจนไม่อาจควบคุมได้ขณะที่ปลายลิ้นร้อนของเขาบดขยี้จุดไวสัมผัสอย่างเร่าร้อน มือหนาของเชษก็ไม่หยุดนิ่ง เลื่อนขึ้นมาบดบี้และขยี้ยอดถันสีสวยของเธอเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความชำนาญ การกระทำของเขายิ่งเพิ่มความเสียวซ่านให้กับเจนจนแทบทนไม่ไหวร่างบางกัดริมฝีปากแน่น พยายามระบายความวาบหวามที่พุ่งพล่าน มือเรียวของเธอเผลอยกขึ้นขยุ้มผมของเขาโดยไม่รู้ตัว ร่างกายตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างลืมตัว ทุกจังหวะที่เขาเคลื่อนไหวราวกับยิ่งพาเธอเข้าสู่ห้วงอารมณ์ที่ลึกซึ้งและเร่าร้อนขึ้นไปอีก“อืม...” เชษพึมพำเสียงต่ำในลำคอ ขณะที่ปลายลิ้นของเขายังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง ราวกับตั้งใจปลุกเร้าทุกความรู้สึกของเจน ยิ่งได้ยินเสียงครางหวานที่หลุดออกจากริมฝีปากของเธอ เขาก็ยิ่งเพิ่มความพริ้วไหวขอ