ชายหนุ่มไล้แก้มบางด้วยความรู้สึกท่วมท้น สิ่งที่เกิดกับเขาและมัตติกาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไม่ใช่เลยสักนิด ทุกสิ่งทุกอย่างถูกลิขิตไว้แล้ว สังคมอเมริกันหล่อหลอมให้เขาเป็นคนสบายๆ ไม่ยึดติดกับความเชื่อใดที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ แต่ในเวลานี้เขากลับคิดว่ามันไม่มีความหมายกับเขาเลยสักนิด เพราะสิ่งที่จะพิสูจน์หนทางแห่งความรักที่เขาจะเดินทางไปหาเธอมันคือ ‘หัวใจ’ เพียงอย่างเดียว และต่อจากนี้เขาคงปฏิเสธคำว่า ‘พรหมลิขิต’ ไม่พ้น มัตติกาพยายามหันหน้าหนีไม่ให้ศิรชัชได้ทำอะไรตามอำเภอใจไปมากกว่านี้ เธอหันซ้ายแลขวา หวังเหลือเกินว่าอย่าให้มีใครเดินมาเห็นเธอกับเขาในขณะนี้ เพราะมันคงไม่เหมาะไม่ควรเป็นแน่หากเขาจะทำรุ่มร่ามถึงในบ้าน “พี่แชมป์คะ พอ...พอแล้วค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี” “พออะไรกัน พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ศิรชัชยังไล้แก้มมัตติกาไม่หยุด แถมยังทำท่าจะไล่เรื่อยลงมาถึงต้นคอเพราะรู้ว่าคนที่ยืนหน้าแดงวูบวาบอยู่ตรงหน้านี้ทำอะไรไม่ได้ หญิงสาวย่นคอจั๊กจี้ทั้งอายทั้งขำ เพราะรู้ว่าเขาแกล้ง แต่เธอน่ะไม่เหลือมือให้ปัดป้องแล้วนี่ “อื้อ...พี่แชมป์ ติ๊ก้า อ
‘จะแน่ใจได้ยังไง ว่าไอ้หน้าหล่อๆ อย่างแกจะไม่...แล้วทิ้ง บอกซะก่อนว่าคุกน่ะข้าไม่กลัว หากไอ้หล้าต้องเจ็บปวดอีกครั้ง ข้ายอมเข้าคุก’ ‘ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ติ๊ก้าเสียใจอีกครับ ต่อจากนี้เธอจะมีแต่ความสุข ผมจะแต่งงานกับติ๊ก้าทันทีที่เธอพร้อม คุณย่ากับคุณอาของผมก็รับทราบแล้ว และท่านยินดีที่สุดที่จะได้น้องหล้ามาเป็นหลานสะใภ้’ ‘คุณย่า...คุณอา...’ เมฆทวนคำก่อนจะหันมองแองจี้ที่พยักหน้ายืนยันคำพูดของพระเอกหนุ่มอีกแรง ‘อย่าทำให้ไอ้หล้าเสียใจ เด็กคนนั้นเจ็บช้ำมาทั้งชีวิต เด็กดีๆ อย่างหล้าควรจะมีความสุขเสียที สัญญาได้ไหม’ นั่นคือคำพูดของเมฆเมื่อรู้ว่าศิรชัชเป็นใคร แววตาเจ็บช้ำของน้าชายที่ไม่เคยทำอะไรดีๆ ให้หลานสาวเลยสักนิดมาตลอดทั้งชีวิตที่ผ่านมา ไม่เคยปกป้องคุ้มครองยามมีเหตุเภทภัย คงมีครั้งนี้เท่านั้นที่เขาจะอ้าปีกปกป้อง แม้ว่ามันจะดูสายเกินไป แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเสียเลย ‘ด้วยชีวิตของผม ผมจะทำให้น้องหล้ามีความสุขที่สุด’ .. กลิ่นดอกแก้ว เล็บมือนาง และโมก ผสมปนเปกันไปหมด ยิ่งดึกน้ำค้างลงกลิ่นหอมเหล่านั้นก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ทว่าคนชอบดอกไ
ชายหนุ่มซับหยาดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มนวลอย่างทะนุถนอม มัตติกายิ้มทั้งน้ำตา พยักหน้าเบาๆ อย่างยินยอม ก่อนจะโผกอดเขาและให้คำตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานที่สุด “ติ๊ก้ารักพี่แชมป์ค่ะ ติ๊ก้าจะแต่งงานกับพี่แชมป์” “จริงนะ! ติ๊ก้าไม่หลอกพี่แชมป์นะครับ” พูดพลางก็กอดกระชับร่างน้อยในอ้อมกอดแนบแน่น พร้อมสูดดมเรือนผมที่ยังมีกลิ่นหอมของดอกจำปีจางๆ “งั้นปิดกล้องละครเรื่องนี้เราแต่งงานกันเลยนะครับ พี่จะให้คุณย่าท่านไปดูฤกษ์ให้ คุณย่าของพี่ต้องดีใจมาก แน่ๆ เออ...พี่ควรจะให้คุณย่ามาขอติ๊ก้าจากคุณยายก่อนใช่ไหม แล้วติ๊ก้าว่ามันจะช้าไปไหม กลับไปนี่เราไปดูการ์ดกันเลยนะ เผื่อไม่ถูกใจเราจะได้มาออกแบบกันเอง หรือจะเป็นภาพถ่าย หรือ...” “พี่แชมป์คะ พี่แชมป์ค่อยๆ พูดก็ได้ค่ะ ติ๊ก้าไม่แย่งพูดหรอก ใจเย็นๆ ค่ะ หายใจลึกๆ นะคะ ใจเย็นๆ” ศิรชัชพูดไม่หยุดจนมัตติกาต้องเบรกไว้ทั้งมีความสุขทั้งขำ คนตรงหน้าช่างแตกต่างจากศิรชัช พระเอกชื่อดังคนนั้นนัก ผู้ชายคนนี้เป็นคนธรรมดาและกำลังตื่นเต้นที่จะได้แต่งงานกับเธอ เขาประหม่าและดีใจจนทำอะไรไม่ถูก น้ำตาที่ทำท่าว่าจะหยุดไหลไปแ
บริเวณหน้าโบสถ์หลวงพ่อพุทธโสธรในยามเช้าตรู่ หมอกรับหน้าที่ขับรถพาหนุ่มสาวมาไหว้พระในเช้าวันนี้เพราะว่าแองจี้ยังไม่ตื่น ส่วนเมฆต้องไปที่อู่แต่เช้าเพราะนัดลูกค้ามารับรถ เขาจอดรถข้างโบสถ์หลังเก่าเพราะยายเล็กบอกว่าโบสถ์เก่าเปิดก่อนโบสถ์ใหม่ คือเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปกราบนมัสการองค์หลวงพ่อด้านใน หมอกกวาดตามองบริเวณหน้าโบสถ์ที่มีเพียงชาวบ้านมาดักรอใส่บาตรให้เณรน้อยที่ทยอยเดินออกรับบาตร‘เงินค่ารักษาแม่ทั้งหมดเป็นเงินของคุณแชมป์เขา และเขาก็กำลังจะแต่งงานกับหล้า แค่รอคุณยายพิศไปหาฤกษ์เท่านั้น’ “น้าหมอกลงมาเถอะ มาไหว้พระด้วยกัน” เสียงหวานใสของมัตติกาทำให้คนเป็นน้าตื่นจากภวังค์ เพราะตั้งแต่เมฆเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังก็ทำให้ไม่สบายใจมาจนถึงตอนนี้ “ใช่ครับพี่ มาด้วยกันเถอะ รออยู่ในรถเมื่อยแย่เลย” ศิรชัชสนับสนุน “ไปกันเถอะ เร็วๆ เข้า ตอนนี้ยังไม่มีใครมา เดี๋ยวมีคนมาเห็นจะลำบากกันนะ ไปเถอะน้าอยู่ได้ เมื่อวานก็มาไหว้แล้ว หล้าพาคุณแชมป์เข้าไปเถอะ น้าน่ะลูกหลวงพ่ออยู่แล้วละ ไปเถอะน่า น้าจะหาอะไรกินแถวนี้แหละ เอ่อ...อย่าลืมเติม
ศิรชัชอมยิ้มและทำตามเธออย่างว่าง่าย แต่เพราะหนักมือไปหน่อยน้ำมันที่เหลือในขวดของเขาเลยไม่พอสำหรับตะเกียงอีกหลายจุด มัตติกาทำท่าจะไปซื้อน้ำมันมาให้เขาเพิ่มแต่เขาอยากไปซื้อเองมากกว่า เพราะขวดใหญ่สุดก็คือเป้าหมายของเขา เจ้าของใบหน้างดงามมองมาที่เขาแล้วยิ้มทั้งใบหน้าและดวงตา และเมื่อเติมน้ำมันตะเกียงเสร็จเรียบร้อยแล้วมัตติกาก็พาเขาเข้าไปปิดทององค์หลวงพ่อที่อยู่ด้านใน “พี่อยากถวายไข่ต้มให้หลวงพ่อบ้าง” เพราะมัวแต่เสียเวลาอยู่ในจุดที่เติมน้ำมันตะเกียง แม้จะยังไม่ถึงแปดโมงเช้า แต่ก็มีนักท่องเที่ยวทยอยกันเข้ามาบ้างแล้ว มีทั้งนำผลไม้ถาดใหญ่มาถวาย นำพวงมาลัยมาวางไว้ที่ตักของหลวงพ่อ และบางคนก็ปิดทองพระประจำวันเกิด และที่มีมากที่สุดก็ไม่พ้นตะกร้าบรรจุไข่ต้มมากมายที่วางเรียงราย “ไว้โอกาสหน้านะคะ วันนี้เรารีบไปปิดทองหลวงพ่อกันดีกว่าค่ะ สายแล้ว นักท่องเที่ยวเริ่มมากันแล้วนะคะ” สีหน้าประดักประเดิดแต่ก็ยังคงส่งยิ้มให้นักท่องเที่ยวที่เริ่มมองมาที่เธอกับเขาอย่างสงสัย มีบ้างที่หันไปพูดคุยกันราวกับว่าจดจำได้ และมีบ้างที่กำลังยกมือถือขึ้นมาเพื่อถ่ายรูป และมั
“น้าหมอก หล้าฝากเก็บด้วย แล้วอย่าลืมตรวจให้หล้าล่ะ” หมอกมองลอตเตอรี่ในมือตัวเองก่อนจะยิ้มพลางส่ายศีรษะไปมาอย่างไม่เข้าใจหลานสาวของเขาสักเท่าไร รู้แต่ว่ามัตติกาดอกนี้เติบโตขึ้นเป็นดอกไม้งดงามที่มีคุณค่าและควรค่าแก่การนำไปปักแจกันจริงๆ เธอไม่ได้เป็นเพียงดอกดินที่ไร้ค่าดั่งคำสบประมาท ‘ดอกดินไม่ได้ด้อยค่าตรงไหนสักนิด เขายังมีประโยชน์ให้คนได้เด็ดมาทำอาหารทำขนม หรือแม้แต่ปลูกเพื่อประดับบ้านเรือน ดอกบัวที่โผล่ไม่พ้นโคลนตมต่างหากที่แม้แต่อาหารเต่าปูปลาก็ยังไม่มีทางได้เป็น’ เขายังจำคำสอนของพระสงฆ์ที่ทางสถานบำบัดนิมนต์มาเทศน์ให้ผู้ที่เข้ารับการบำบัดยาเสพติดได้ฟังก่อนที่จะถูกปล่อยตัวได้เป็นอย่างดี พระท่านเทศน์เปรียบเปรยชีวิตคนกับดอกไม้ที่ชื่อว่า ‘ดอกดิน’ ซึ่งดอกดินนั้นมีประโยชน์อย่างมหาศาล แม้ว่า ‘ชื่อ’ นั้น จะไม่ได้ไพเราะสักนิด ผิดกับดอกบัวซึ่งเป็นที่นิยมนำมาบูชาพระ ทว่าหาก ‘ดอกบัว’ นั้นไม่สามารถโผล่พ้นโคลนตมขึ้นมาได้ ดอกบัวที่คิดว่าสูงค่าก็คงจะด้อยค่ากว่าดอกดิน ดังนั้นแล้วพวกเขาที่ได้รับการอบรมในเรื่องยาเสพติด ได้เรียนรู้วิชาชีพระยะสั้น และได้รับการบำบัดจนสามารถกล
“ผมตัดสินใจแล้วครับพี่จุ้ง พี่แองจี้” “ไม่ได้นะคุณแชมป์ นี่แองจี้อธิบายจนปากจะถึงรูหูอยู่แล้วนะคะ ถ้าคุณแชมป์ทำแบบนั้นมันจะไม่มีใครได้ประโยชน์เลย มีแต่เสียกับเสีย” “ใช่แชมป์ ฟังพวกพี่หน่อยได้ไหม อย่าเอาแต่ความรู้สึกเอาแต่อารมณ์ตัวเองแบบนี้ โตๆ กันแล้วนะ ควรจะพูดกันให้รู้เรื่องบ้าง เฮ้อ! นังแองจี้แกคุยต่อละกัน ฉันไม่ไหวแล้วขอไปสงบสติอารมณ์ข้างนอกก่อน ก่อนที่ฉันจะฆ่าไอ้พระเอกสุดหล่อของแก” จุ้งหัวเสียหนักเดินหนีไปอีกทาง เป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่เขาโมโหศิรชัชได้มากขนาดนี้ ไม่ว่าศิรชัชจะไปทำเรื่องฉาวโฉ่แค่ไหนให้ตามไปปิดข่าว ไม่ว่าจะมั่วผู้หญิงเสียจนต้องคอยสับรางให้อยู่ตลอด ไม่ว่าจะทำร้ายมัตติกาไปด้วยความเข้าใจผิดหรือเพราะความมักมากที่อยู่ในสันดานเบื้องลึก เขาก็เข้าใจความต้องการของผู้ชายที่กำลังอยู่ในวัยฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องที่ศิรชัชกำลังตัดสินใจจะทำต่อไปนี้และเป็นการตัดสินใจที่ห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง เหมือนกับคนที่ปิดหูปิดตาซึ่งรับฟังและมองเห็นแต่เพียงความต้องการของตัวเองเท่านั้น “ทำไมล่ะครับพี่แองจี้ ผมกับติ๊ก้ารักกัน คนรักกั
“ตกลงครับ ผมจะให้เวลาพี่แองจี้ แต่หลังจากผมกลับจากเกาหลีผมจะประกาศแต่งงานกับเธอทันที และระหว่างนี้หากมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ผม ผมขออนุญาตที่จะบอกว่า เราทั้งคู่กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาดูใจกันอยู่นะครับ” ศิรชัชยังไม่วายจะต่อรอง เพราะขอให้มีคนถามเท่านั้นเขาก็จะบอกทั้งหมดและนั่นจะเท่ากับว่าเป็นการตีตราจองมัตติกาและล้อมกรอบเธอจากผู้ชายที่อยากเด็ดดอกไม้ของเขาทุกคน “เฮ้อ! มันก็แค่นี้แหละ ทำไมพูดยากนัก” จุ้งที่เดินกลับมาจากระเบียงด้านนอก เอ่ยพลางส่ายหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “นังจุ้ง แกจะพาคุณแชมป์ไปงานตอนกี่ทุ่ม ฉันจะได้โทร. บอกติ๊ก้าให้ไปรอที่นั่นเลย” แองจี้กรอกตาไปมากับความดื้อรั้นของศิรชัช แต่ก็ยอมเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นกว่านี้ “อ้าว! แล้วแกจะไปไหน” “จะไปเยี่ยมนังพิซซี่มันสักหน่อย จะไปดูด้วยว่าตอนนี้นังดวงตกมันมีแผนการอะไรบ้าง” “เรียกเขาซะเสียยี่ห้อเลยนะครับ” ศิรชัชยิ้มแกนๆ อยากจะแสดงความคิดเห็นให้มากกว่านี้ แต่เป็นเพราะเรื่องที่เขาทำก็ยังร้อนกรุ่นอยู่ หากจะออกแรงปกป้องกลิกาอีกมีหวังว่าสิ่งที่เขาพยายามดื้อแพ่งคงสูญเปล่าอย่างแน่น
กลิการ้องครวญครางอย่างลืมอายเมื่อเธอถูกจับให้นอนตะแคงข้าง ท่อนขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นสูงพร้อมกับความแกร่งที่แทรกลงมา ทั้งหนักแน่นและรุนแรงอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน ไม่ว่าเธอจะร้องครวญครางแค่ไหนเขาก็ไม่หยุด เขายังคงทำต่อราวกับว่าสื่อได้ถึงหัวใจว่าเธอต้องการอีกและก็ต้องการอีกมากยิ่งขึ้น “ดีเหลือเกินค่ะ คุณขา...” “ดีไหมครับคุณนางเอก” “ดีค่ะ ดีที่สุด อืม...” “ชอบไหมครับ” “ชอบค่ะ ดวงชอบ อืม...ดวงชอบ...” แรงกอดรัดอย่างรุนแรงเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเขาก็จำไม่ได้ แต่เธอก็ยังสามารถทำได้อีกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะถอย และเขาเองก็จะไม่ยอมถอยเช่นกัน “พอก่อนค่ะพอก่อน...” เสียงร้องว่าพอก่อน แต่เมื่อเขาล้มตัวลงนอนและจับเธอพลิกขึ้นด้านบน กลิกาก็ไม่รอช้าที่จะประจำตำแหน่งซึ่ง มันไม่ได้พอตามปากเธอว่าเลยสักนิด สะโพกผายที่กดกระหน่ำลงมาบนแก่นกายที่ยังคงร้อนแรง เธอทั้งบดเบียดและคลึงเคล้นราวกับคนที่เก็บกดมานานแสนนานและไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มจะพอตามพูด มีแต่จะยิ่งมากขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ “คุณขา...กรี๊ดดดด...”
แขนสองข้างของเธอถูกล็อกไว้กับที่นอนหนานุ่มติดสปริง ในขณะที่ต้นขาเปล่าเปลือยที่เปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างถูกบางสิ่งแทรกกลางอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่ริมฝีปากจาบจ้วงร้อนแรงแทรกซึมไปด้วยกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์บางเบาจะฉกวาบลงมาอย่างตะกรุมตะกราม กลิกาชะงักเมื่อความรุนแรงและความกักขฬะที่ผู้ชายแปลกหน้ากำลังทำกับเธอมันคือความต้องการอย่างสุดกู่ในเวลานี้ อารมณ์ที่ต้องทนสะกดเก็บเพราะเล้าโลมศิรชัชไม่สำเร็จ เมื่อมาเจอน้ำบ่อหน้าที่เธอแค่มองตาเขาเธอก็รู้ว่ามันคงจะร้อนแรงและอร่อยลิ้นอย่างสุด ยิ่งคิดว่าเขา ‘แปลกหน้า’ ‘ไม่รู้จัก’ อารมณ์แห่งความต้องการและกำลังได้สิ่งแปลกใหม่มาเติมเต็มยิ่งยากที่จะระงับไว้ได้อีก ริมฝีปากร้อนแรงบดขยี้กันและกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้ว่าหมอกจะชะงักไปชั่วครู่กับการตอบโต้ของกลิกา เธอไม่เพียงไม่ดิ้นรนผลักไสอย่างที่ควรจะเป็น แต่เธอกลับเป็นฝ่ายรุกเร้าและสร้างความร้อนแรงให้เขาอย่างถึงใจไม่แพ้กัน ฝ่ามือหยาบใหญ่จึงทำหน้าที่อย่างธรรมชาติจัดสรรในทันที อกอวบอิ่มถูกคลึงเคล้นด้วยความหนักหน่วง ความรุนแรงคงเป็นสิ่งที่เธอต้องการในเวลานี้ ยิ่งแรงเขายิ่งได้ยินเสียงครวญครา
“กรี๊ด...อีติ๊ก้า! กล้าดียังไงมาเรียกกูแบบนี้ อีบ้า! กรี๊ด...” “ภีมค่ะ พี่แชมป์ ติ๊ก้าขอเวลานอกนิดนึงนะคะ” มัตติกายิ้มเพียงนิดเมื่อเห็นภีมพยักหน้างุนงงและเห็นแววตาเปี่ยมไปด้วยความรักจากศิรชัชส่งตรงมาให้ เพราะรู้ว่านั่นคือกำลังใจในสิ่งที่เธอจะทำ “ใครกันแน่ที่หาผัวไม่ได้ ใครกันแน่ที่แย่งผัวคนอื่น แล้วอีบ้า อีหน้าด้านที่มันกล้ามอมยาผู้ชายนี่มันชื่อว่าอะไรนะ อ้อ...ชื่อว่า กลิกา อีกาเอ๋ย อีดวง...เดี๋ยวจะสงเคราะห์โทร. บอกนักข่าวให้รีบมาทำข่าวอีผีเปรตขอส่วนบุญนะคะ เผื่อจะมีใครใจดีแจกยาแก้คันเฉพาะที่ให้น่ะค่ะ เอาสักโหลละกันนะ เผื่อเอาไว้ใช้วันหน้าด้วย เวลาคันมาแล้วหาอะไรเกาไม่ได้จะได้ใช้ยาประทังไปก่อน ดีไหมคะ” บทละครเรื่องใหม่ที่เธอเพิ่งอ่านไปเพียงไม่กี่ตอนถูกนำมาใช้ได้อย่างถูกเวล่ำเวลา มัตติกายิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อ ถ้าเธอรู้ว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น สาบานได้ว่าเธอจะทำการบ้านจะอ่านต่อจนจบ เพื่อจะได้ใช้แง่มุมของบทประพันธ์มารับมือกับผู้หญิงอย่างกลิกาให้ถึงพริกถึงขิงไม่แพ้กัน “กรี๊ด...อีบ้า! อีติ๊ก้า! กรี๊ด...” ภีมและม
ฝ่ามือที่ลูบไล้อยู่บนร่างกายของเขามันไม่ต่างจากเหล็กร้อนๆ ที่กำลังนาบแนบลงบนเนื้อ เพราะทุกที่ที่เธอสัมผัส ทุกที่ที่เธอพยายามปลุกเร้า มันกำลังสร้างความเจ็บปวดให้เขาอย่างสุดที่จะทานทนได้ ฝ่ามือหนาพยายามอย่างยากยิ่งที่จะผลักไสเธอให้พ้นไปจากร่าง แต่ก็ดูเหมือนว่ายิ่งผลักไสหรือออกแรงให้มากเพียงใดก็ดูราวว่าเรี่ยวแรงนั้นกลับจะดึงดันตวัดเธอเข้าหามากยิ่งขึ้น เขาอยากไปให้พ้นจากที่นี่แต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่รู้ว่ากลิกาจะเตลิดไปถึงไหนหากไม่ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ สิ่งที่เขาทำได้คือควรเก็บไม้เก็บมือตัวเองให้พ้นไปจากเรือนร่างนี้ และซุกร่างลงแนบกับพื้นเพื่อป้องกันการสัมผัสแตะต้อง แต่กลิกาไม่เพียงไม่ให้ความร่วมมือ เธอกลับยิ่งพยายามปลุกเร้าเขา “แชมป์ขา...ดวงรักแชมป์นะคะ...แชมป์...ดวงอยากเป็นของแชมป์...อยากให้แชมป์กอด...อยากให้แชมป์จูบ...อยากให้แชมป์...รัก! รักดวงแรงๆ แรงเท่าที่แชมป์ต้องการ นะคะ...ได้โปรด...ได้โปรดรักดวงนะคะแชมป์ขา..” กลิกานาบเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เนื้อตัวพร่างพราวไปด้วยหยาดน้ำลงกับแผ่นหลังของเขา ใช้ทรวงอวบอิ่มถูไถไปมาบนแผ่นหลังเพื่อกระตุ้นอารมณ์ แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น
กลิกากรีดร้องและพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากรัศมีของสายน้ำเย็นเฉียบที่ศิรชัชจับเธอนั่งลง ก่อนจะเปิดฝักบัวแรงสุดพร้อมกับฉีดใส่เธอไม่ยั้ง “ดวงอดทนหน่อยนะ มันจะดีขึ้น เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เราต้องอดทน” ศิรชัชข่มความตึงเครียดที่มีผลต่อสติยับยั้งชั่งใจของเขาให้ลดน้อยลงทุกที แต่เขาก็ต้องทำ เพราะเขาไม่อยากได้ชื่อว่า ‘กินเพื่อน’ เขาไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกลิกาเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แม้จะต้องเห็นเธอทุรนทุรายอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่เขาฉีดเข้าใส่ก็ตาม ก่อนจะเลี่ยงมาที่ตู้เย็นและเปิดขวดน้ำที่มีอยู่สองขวดกรอกลงคอจนหมด เพราะเขาต้องเร่งให้ปวดปัสสาวะเพื่อเอาสารกระตุ้นพวกนั้นออกมาให้หมด ไม่เช่นนั้นจะเป็นเขาเสียเองที่ทนไม่ได้ แต่ก็ดูว่าสิ่งที่ทำไปมันจะไร้ประโยชน์ ความต้องการที่ถูกจุดขึ้นอย่างเต็มที่ไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงไปเลย เพราะเรือนร่างเปล่าเปลือยของกลิกาพร้อมดวงตาท้าทายและฝ่ามือที่ลูบไล้ไปทั้งร่าง มันกำลังกระตุ้นความต้องการของเขาจนแทบจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว.. ห้องพักรายวันยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ตั้งอยู่ริมทางเพื่อรอคอยลูกค้าขาจร ขาประจำ หรือลูกค้าท
“แชมป์! ดวง! ทำอะไรกัน นี่มันไม่ใช่สถานที่...” เสียงผู้กำกับแจ๊คร้องลั่นเมื่อเห็นว่านักข่าวกำลังพุ่งเป้ามาทางนี้ แต่เมื่อเห็นกิริยาที่ศิรชัชโอบประคองกลิกา คำพูดต่อว่าจึงต้องหยุดไป “พี่แจ๊ค! มาช่วยผมเร็ว ดวงเขาเมาน่ะครับ” “อ้าว! พี่ก็นึกว่า...แต่เมาอะไรล่ะเนี่ย เห็นดื่มไปแก้วเดียวเท่านั้น” แจ๊คขมวดคิ้วครุ่นคิดเพราะอาการของกลิกาไม่น่าจะใช่คนที่เพิ่งรับเอาแอลกอฮอล์เข้าไปเพียงน้อยนิด รวมทั้งรอยยิ้มเล็กๆ ที่ผุดวาบคลุกเคล้าอยู่กับแผงอกของศิรชัชก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าการเมาครั้งนี้คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน “มานี่แชมป์ พี่พาไปเองดีกว่า แชมป์อยู่ที่นี่แหละ” เขาคงต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้มันลุกลามและโหมกระหน่ำมอดไหม้ตามใจคนที่ปรารถนา และแม้เขาอาจจะคิดผิด แต่ก็คงดีกว่าที่คิดถูกแล้วยังปล่อยให้ไฟลุกโชนอย่างไม่คิดจะเข้าไปช่วยดับ ทั้งที่สามารถทำได้ “ผมพาไปเองดีกว่าครับ พี่แจ๊คอยู่ที่นี่ตอบคำถามนักข่าวให้ผมดีกว่า ให้ดวงเขานอนพักสักครู่ก็คงจะดีขึ้น” ศิรชัชตวัดร่างอวบอิ่มของกลิกาขึ้นแนบอก ก่อนจะพาเดินลงบันไดไปยังห้องพักรับรองด้านหลังโด
“อย่างนั้นข่าวที่ว่าคุณแชมป์กำลังซุ่มปลูกต้นรักกับน้องสาวพระเอกนี่เป็นความจริงหรือเปล่าคะ” คำถามทะลุกลางปล้องไม่ไว้หน้านางเอกสาวที่พยายามสร้างกระแสเมื่อครู่สร้างรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนใบหน้าพระเอกของเรื่อง รอยยิ้มปรากฏราวกับว่านี่คือสิ่งที่รอคอย แต่ก่อนที่เขาจะตอบ “แหม ถามแบบนี้ไม่เกรงใจคุณภีมเลยนะคะ ดวงว่าคำถามนี้ไว้รอถามคุณภีมเขาดีกว่า คู่ขวัญคู่ใหม่ด้วยละ งั้นดวงกับแชมป์ขอตัวไปพบพี่จ๋าก่อนนะคะ เดี๋ยวมาสนุกกันใหม่ ตามสบายเลยนะคะทุกคน” ศิรชัชถูกกลิกาลากไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ ดวงตาคมเข้มยังคงจับจ้องที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของนักข่าวสาวร่างกะทัดรัด และสัญญาณมือที่เธอทำท่าว่าจะโทร. หาก็ทำให้เขาอมยิ้มพร้อมพยักหน้าว่าเข้าใจ บรรยากาศงานปิดกล้องละครพร้อมทั้งเลี้ยงขอบคุณนักข่าวสายบันเทิงที่ช่วยทำข่าวและโพรโมตละครเรื่องใหม่เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ผู้จัด ผู้กำกับ ทีมงาน ดารานักแสดง และนักข่าวหลายสำนักต่างกินเต้นดื่มกันเต็มที่ ปาร์ตี้สนุกอันสุดเหวี่ยงคงมีเพียงเขาคนเดียวที่อารมณ์เสียอย่างสุดๆ ทั้งจากเรื่องที่กลิกาให้สัมภาษณ์ และจากภาพที่เห็นอยู่ด
“ติ๊ก้านี่เขาดังจริงๆ นะครับ พี่จ๋านี่ตาถึงมากเลยนะครับที่ดันน้องดังจนได้” “ดันบ้าอะไรล่ะแจ๊ค นี่ถ้าไม่เกรงใจนังจุ้งตั้งแต่แรก พี่ก็ไม่กล้ารับหรอก เด็กใหม่ไม่ค่อยอยากเสี่ยง แรกๆ ก็เหลวไม่ใช่เหรอ พี่ว่าแจ๊คนั่นแหละเก่งที่เคี่ยวเด็กมันได้ถึงขนาดนี้” จ๋า สาวใหญ่ผู้จัดละครชื่อดังพูดกับผู้กำกับแจ๊ค ขณะมองดูมัตติกาที่อยู่ในวงล้อมของนักข่าวสายบันเทิง และท่าทางตอบคำถามได้น่ารักน่าเอ็นดูนั้นก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างปลาบปลื้มออกมา “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับพี่ ตั้งแต่วันที่เกิดปัญหาเรื่องข่าวที่พี่ให้ผมพักกอง กลับมาอีกทีน้องติ๊ก้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยครับ จากนางสาวร้อยเทค กลายเป็นว่าแทบจะไม่ต้องเทคเลยนะครับ ดวงเสียอีกที่เทคบ่อยจนน่าแปลกใจ สงสัยได้กำลังใจดี” “กำลังใจ อ้อ นายภีมน่ะเหรอ” “ครับ เอ...แล้วทำไมป่านนี้ถึงยังไม่มา อ้าวโน่น! มาพอดีเลย” ภีมที่หอบกระเช้าดอกมะลิแสนจะน่ารักมามอบให้มัตติกายิ่งทำให้นักข่าวสนใจมากยิ่งขึ้น และเมื่อทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องบอกเลยว่างานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองคู่อย่างแน่นอน คู่หนึ่งนั้นก็คือ ‘ศิรชั
“ตกลงครับ ผมจะให้เวลาพี่แองจี้ แต่หลังจากผมกลับจากเกาหลีผมจะประกาศแต่งงานกับเธอทันที และระหว่างนี้หากมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ผม ผมขออนุญาตที่จะบอกว่า เราทั้งคู่กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาดูใจกันอยู่นะครับ” ศิรชัชยังไม่วายจะต่อรอง เพราะขอให้มีคนถามเท่านั้นเขาก็จะบอกทั้งหมดและนั่นจะเท่ากับว่าเป็นการตีตราจองมัตติกาและล้อมกรอบเธอจากผู้ชายที่อยากเด็ดดอกไม้ของเขาทุกคน “เฮ้อ! มันก็แค่นี้แหละ ทำไมพูดยากนัก” จุ้งที่เดินกลับมาจากระเบียงด้านนอก เอ่ยพลางส่ายหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “นังจุ้ง แกจะพาคุณแชมป์ไปงานตอนกี่ทุ่ม ฉันจะได้โทร. บอกติ๊ก้าให้ไปรอที่นั่นเลย” แองจี้กรอกตาไปมากับความดื้อรั้นของศิรชัช แต่ก็ยอมเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นกว่านี้ “อ้าว! แล้วแกจะไปไหน” “จะไปเยี่ยมนังพิซซี่มันสักหน่อย จะไปดูด้วยว่าตอนนี้นังดวงตกมันมีแผนการอะไรบ้าง” “เรียกเขาซะเสียยี่ห้อเลยนะครับ” ศิรชัชยิ้มแกนๆ อยากจะแสดงความคิดเห็นให้มากกว่านี้ แต่เป็นเพราะเรื่องที่เขาทำก็ยังร้อนกรุ่นอยู่ หากจะออกแรงปกป้องกลิกาอีกมีหวังว่าสิ่งที่เขาพยายามดื้อแพ่งคงสูญเปล่าอย่างแน่น