“เข้มแข็งขึ้นแล้ว และเข้มแข็งอย่างคาดไม่ถึงเชียวละ ถ้าไม่ติดว่าเนื้อตัวมีแต่รอยช้ำ พรุ่งนี้หล่อนคงจะไปถ่ายละครต่อ แต่ฉันว่าให้พักไปเลยดีกว่า ว่าจะพากลับบ้านด้วย บางทีได้ไปเห็นหน้ายายก็คงจะสบายใจมากขึ้น ไม่ใช่เหมือนคนขาดวิญญาณอย่างที่เห็นตอนนี้น่ะ” แองจี้ชำเลืองมองเจ้าของใบหน้าซีดเผือดที่นอนหลับตานิ่งๆ อยู่บนเตียงอีกครั้ง ร่างบอบบางที่เหมือนจะกลืนไปกับความขาวซีดของผ้าคลุมเตียงนั่น ยิ่งทำให้เขาอยากจะร้องไห้โฮอีกครั้งเพราะความผิดครั้งนี้เขาเองก็มีส่วนอยู่ไม่น้อย
“แก แล้วหมอของแกไว้ใจได้หรือเปล่า เรื่องมันจะไม่ฉาวขึ้นมาแน่นะ พรุ่งนี้ฉันต้องพาแชมป์ไปกองละครด้วย คงต้องเตรียมคำพูดไว้เผื่อนักข่าวถามด้วยละ”
“หมอฉันไว้ใจได้ชัวร์ เจฟฟี่เป็นหมอที่ดูแลน้องๆ นางงามของฉันทุกคน หล่อนไม่ทรยศเพื่อนหรอก เพราะคนที่เข้าใจหัวอกผู้หญิงพิเศษๆ อย่างเราก็คงจะมีแต่พวกเราเท่านั้นแหละ แกดูแลพระเอกของแกไปเถอะ ส่วนบทสัมภาษณ์ฉันรู้ว่าแกแก้เกมได้ชัวร์ เดี๋ยวฉันจะส
‘ยาย...ยาย! ยายจ๋า! ยายเป็นอะไร ยาย! ยายจ๋า! น้าเมฆ! น้าหมอก! ช่วยยายด้วย ช่วยด้วย! ฮือ...ใครก็ได้ช่วยด้วย’ ภาพยายที่ค่อยๆ ทรุดกายลงนั่งมือกุมหน้าอกไว้แน่นยังคงติดตามาจนถึงเดี๋ยวนี้ สีหน้าแสดงความเจ็บปวดทำให้เธอใจจะขาดตามเพราะไม่ว่าเธอจะร้องเรียกสักเท่าไรยายก็ไม่ตอบ เธอจึงได้แต่ร้องเรียกให้คนช่วย แต่คนที่ต้องการให้ช่วยกลับไปสุมหัวกันอยู่ในบ่อนที่ตรอกนายชัย ถ้าหากวันนั้นเธอไม่ได้กลับมาบ้าน อะไรจะเกิดขึ้น หลังจากพายายไปส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว เธอก็วิ่งวุ่นตามหาน้าชายทั้งสองคนที่ตรอกนายชัย หวังแค่เพียงเจอใครสักคนเท่านั้น เพราะเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างเธอไม่สามารถเซ็นรับรองเป็นเจ้าของไข้ให้ยายได้ แม้ไม่อยากจะเยี่ยมกรายเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นเลยสักนิดเพราะเรื่องราวฝังใจที่เป็นตราประทับแห่งโชคชะตายังตามหลอกหลอนอยู่ในทุกครั้งที่ปิดเปลือกตาลง&n
สิ่งที่มัตติกาต้องการและบอกผ่านแองจี้ให้มาบอกศิรชัชถูกถ่ายทอดโดยจุ้งอย่างไม่มีตกหล่น ทั้งจำนวนเงิน ทั้งความสัมพันธ์ที่ต่อจากนี้คงมีสถานะไม่แตกต่างไปจากคนแปลกหน้า หรือดีหน่อยก็คงจะอยู่ในสถานะเพื่อนร่วมงานเท่านั้น “อะไรนะ! พี่จุ้ง พี่จุ้งพูดใหม่ซิ ผมได้ยินไม่ถนัด พี่พูดใหม่อีกทีซิ ผมได้ยินผิดไปใช่ไหม”ใบหน้าหล่อราวเทพบุตรส่ายไปมาเพราะไม่อยากเชื่อว่าสิ่งที่ได้ยินจะเป็นความจริง มัตติกาไม่ควรจะตัดความสัมพันธ์กับเขาแบบนี้ เธอต้องการเงินมากกว่าตัวเขาจริงหรือ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั่นไม่มีผลอะไรกับหัวใจดวงนั้นเลยใช่ไหม “ไม่ผิดหรอกแชมป์ พี่พูดแบบนั้นจริง แล้วแต่แชมป์จะตัดสินใจแล้วละว่าจะทำยังไง” จุ้งพูดย้ำ “ผมไม่เชื่อ ติ๊ก้าไม่มีทางทำแบบนั้น”&nbs
ดวงตากลมโตรื้นไปด้วยหยาดน้ำตาเมื่อพูดถึงน้าอีกสองคนที่ไม่ได้มาในวันนี้ หมอกถูกตำรวจจับคดียาเสพติดในวันที่ยายเข้าโรงพยาบาลทำให้หล้าตามหาเมฆเจอเพียงคนเดียว โชคดีที่หมอกเป็นเพียงผู้เสพ ทางตำรวจจึงถือว่าเป็นผู้ป่วย ยังมีทางที่จะทำให้เลิกได้ ตอนนี้หมอกถูกส่งตัวไปบำบัดที่โรงพยาบาลเพื่อให้แน่ใจว่าเลิกยาแล้วจริงๆ และเดือนหน้าก็คงจะได้กลับมาบ้านเสียที ส่วนลมรำเพยนั้น... ‘อย่านะ...อย่าเข้ามา... อย่าทำหนู...อย่าทำ! กรี๊ด!’ พลั่ก! ‘โอ๊ย!’ เสียงของหนักกระทบอะไรสักอย่างที่คงไม่พ้นเป็นคนที่คร่อมอยู่บนเนื้อตัวที่ร้าวระบมไปด้วยอาการเจ็บและจุกเสียดช่องท้อง ก่อนที่จะได้ยินตามมาอีกหลายครั้งด้วยกัน เด็กหญิงหล้าที่เป็นอิสระพยายามกระเสือกกระสนและจับเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยเพราะถูกกระชากจากความกักขฬะจนฉีกขาดให้เข้ามาปกปิดเนื้อตัวที่เริ่มจะแสดงค
ตลอดเวลา 10 ปี ที่ลมรำเพยถูกคุมขัง เด็กหญิงหล้าหรือมัตติกาในวันนี้ไม่เคยห่างหายจากการเขียนจดหมายไปส่งข่าวและขาดการเยี่ยมเยียนน้าสาวเลย แม้น้าสาวคนนี้จะใจแข็งไม่เคยตอบจดหมายสักฉบับก็ตาม แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสมาเยี่ยมแม้คำพูดจะถนอมเหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วงแต่สายตาที่ทอดมองในยามที่หลานสาวจะกลับ มันบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าในที่สุดมัตติกาก็ทำสำเร็จ “ไม่ใช่ว่าแกพาไอ้หล้ามันไปขายตัวนะ” แววตาจับผิดของคนพูดจ้องเขม็ง แต่พิรุธในสีหน้าของแองจี้ทำให้ลมรำเพยกัดริมฝีปากนิ่ง ภาวนาพร้อมเสียงที่ร่ำร้องในหัวใจว่าอย่าให้เป็นดั่งที่ใจคิด “เฮ้ย! บ้าน่ะพี่ลม ไม่มีใครเขาทำแบบนั้นหรอก” แองจี้ก้มหน้าลงซ่อนพิรุธ เขาไม่ได้โกหกนะเพราะมัตติกาไม่ได้ขายตัวจริงๆ เพียงแต่เงินที่ได้มามันเป็นค่าตอบแทนสำหรับความสาวที่สูญเสียไปเท่านั้น แต่ลมรำเพยควรจะได้รู้ความจริงไหม ความจริงที่มันโหดร้ายสำหรับเด็กสาวที่ต้องหาเลี้ยง
ความจริงที่คาดคั้นจากแองจี้ทำให้ผู้ชายไร้หัวใจอย่างเมฆคิดได้ และเมื่อได้รู้มันก็ไม่ต่างไปจากสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางร่าง หลานสาวที่ยิ้มแย้มและคะยั้นคะยอให้เขาประกอบอาชีพที่สุจริตสักอย่าง ภายใต้สีหน้ายิ้มแย้ม แต่แววตาเศร้าอย่างที่สุดนั้น เขาไม่รู้ว่าหัวใจของมัตติกาทำด้วยอะไรมันถึงได้แข็งแกร่งและมีแต่ความดีงามอยู่มากมายถึงขนาดนั้น เคยมีสักครั้งไหมนะที่เด็กคนนี้คิดจะทำอะไรเพื่อตัวเอง “หล้ารักน้าเมฆนะ” ยามที่คนที่เธอรักมากที่สุดในชีวิตกำลังต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่จำต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อยืดระยะเวลาแห่งความสุขให้ยาวนานที่สุด สิ่งใดที่หลงลืม ยังไม่ได้เริ่ม ยังไม่ได้ทำก็ควรจะทำอย่างไม่ต้องรั้งรอมิใช่หรือ เพราะหากรั้งรอ เวลาแห่งความสุขอาจไม่มีโอกาสมาเยือนก็ได้ ดังเช่นคำบอกรัก หากมีโอกาสก็ควรจะทำ “อื้อ...น้าก็รักเรา” เมฆเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นแต่หนักแน่น&nb
“เอ่อ...ไม่มีครับพี่” “ดี เพราะพี่ห้ามเราเด็ดขาด ถ้าจะมีต้องไปมีหลังละครพี่จบ ในกองนี้ห้ามแชมป์แสดงท่าทีอะไรกับติ๊ก้าเด็ดขาด แค่วิ่งเต้นปิดข่าวที่แฟนคลับของเราไปใส่ไคล้ติ๊ก้าพี่ก็หัวหมุนแล้วนะ ขอให้พี่ถ่ายละครให้เสร็จก่อน ต่อจากนั้นใครฟีเจอริงกับใครพี่ก็ไม่สนแล้ว เข้าใจพี่นะแชมป์” น้ำเสียงเฉียบขาดอันหมายถึงว่าคำสั่งนี้ห้ามละเมิดและห้ามปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “หึๆ เข้าใจคร้าบ แต่พี่แจ๊คแน่ใจนะว่าที่พูดน่ะไม่ได้หวงไว้กินเอง” “เฮ้ย! แชมป์ เดี๋ยวพี่เตะเลย ไอ้นี่” “ฮ่าๆ ผมล้อเล่นน่ะครับ แต่ดูท่าพี่แจ๊คจะร้อนตัวนะ โอ้ว...ล้อเล่นจริงๆ ครับ ว่าแต่เรื่องนั้นสรุปเป็นแฟนคลับของผมจริงๆ เหรอครับที่เป็นคนโทร. ไปบอกนักข่าว”&nb
“ถ้าไม่ปล่อยจะมีอะไร” “ก็คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่แจ๊คคะ! พี่แจ๊ค! พี่แจ๊คคะ!” “ฝากไว้ก่อนเถอะติ๊ก้า” ศิรชัชปล่อยมือจากเธอในทันที ถือว่าเธอชนะที่เอาผู้กำกับแจ๊คมาเป็นโล่กำบัง “ไม่รับฝากค่ะ” ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างถือดีก่อนจะหันมองไปทางอื่นราวกับอีกฝ่ายไม่มีความหมายที่จะมอง “พี่ไม่จบแค่นี้แน่ พี่จะเอาคืนติ๊ก้าอย่างสาสม” “ก็แล้วแต่คุณศิรชัชค่ะ” “พี่ไม่ใช่ตัวเก็บแต้มของใครจำไว้ด้วย และพี่ไม่ใช่แค่คนรู้จักหรือเพื่อนร่วมงาน พี่คิดว่าติ๊ก้าคงโตพอที่จะรู้ว่าสิ่งที่เราทำกันมันเรียกว่าผัวเมีย!”
“ค่ะ ดวงเห็นพวกช่างแต่งหน้าเขาเมาท์กันว่าที่น้องติ๊ก้าไม่มากองเป็นอาทิตย์ก็เพราะพี่แจ๊คพาไปเก็บตัวนี่แหละค่ะ พี่แจ๊คถึงได้เจาะจงถ่ายแต่ซีนกลางวันไงคะเพราะกลางคืนต้องไปส่งส่วย อุ๊ย! ประโยคนี้ดวงไม่ได้พูดเองนะคะ พวกพี่ๆ เขาเมาท์กันแบบนี้จริงๆ ค่ะ” “ไม่เป็นไรครับดวง ก็ผมเป็นคนถามดวงเอง ดวงก็ต้องตอบถูกไหมครับ” ศิรชัชยิ้มรับกิริยาป้องปากไม่อยากพูดของกลิกา ยิ่งเธอพูดและแสดงท่าที เขาก็ยิ่งคิดเข้าข้างมัตติกามากยิ่งขึ้น อาจเป็นไปได้ที่เขากำลังเห็นผิดเป็นชอบ เขาอาจกำลังหลงมัตติกาจนมองว่าใครก็ตามที่ต่อต้านหรือว่าร้ายให้เธอเสียหายกลายเป็นคนไม่ดีไปทั้งหมด นี่เขาเป็นคนแบบนั้นจริงใช่ไหม หัวสมองประมวลภาพเหตุการณ์และคำพูดของผู้หญิงสองคนที่เขาใกล้ชิดด้วยในระยะนี้ มัตติกากับกลิกา ใครกันแน่ที่เล่นละครได้สมบทบาทกว่ากัน “ค่ะ แล้วแชมป์คิดว่าน้องเขาเป็นยังไงบ้างคะ ดวงเห็นแชมป์จ้องน้องเขาตาเป็นมันเลยนะ
กลิการ้องครวญครางอย่างลืมอายเมื่อเธอถูกจับให้นอนตะแคงข้าง ท่อนขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นสูงพร้อมกับความแกร่งที่แทรกลงมา ทั้งหนักแน่นและรุนแรงอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน ไม่ว่าเธอจะร้องครวญครางแค่ไหนเขาก็ไม่หยุด เขายังคงทำต่อราวกับว่าสื่อได้ถึงหัวใจว่าเธอต้องการอีกและก็ต้องการอีกมากยิ่งขึ้น “ดีเหลือเกินค่ะ คุณขา...” “ดีไหมครับคุณนางเอก” “ดีค่ะ ดีที่สุด อืม...” “ชอบไหมครับ” “ชอบค่ะ ดวงชอบ อืม...ดวงชอบ...” แรงกอดรัดอย่างรุนแรงเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเขาก็จำไม่ได้ แต่เธอก็ยังสามารถทำได้อีกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะถอย และเขาเองก็จะไม่ยอมถอยเช่นกัน “พอก่อนค่ะพอก่อน...” เสียงร้องว่าพอก่อน แต่เมื่อเขาล้มตัวลงนอนและจับเธอพลิกขึ้นด้านบน กลิกาก็ไม่รอช้าที่จะประจำตำแหน่งซึ่ง มันไม่ได้พอตามปากเธอว่าเลยสักนิด สะโพกผายที่กดกระหน่ำลงมาบนแก่นกายที่ยังคงร้อนแรง เธอทั้งบดเบียดและคลึงเคล้นราวกับคนที่เก็บกดมานานแสนนานและไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มจะพอตามพูด มีแต่จะยิ่งมากขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ “คุณขา...กรี๊ดดดด...”
แขนสองข้างของเธอถูกล็อกไว้กับที่นอนหนานุ่มติดสปริง ในขณะที่ต้นขาเปล่าเปลือยที่เปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างถูกบางสิ่งแทรกกลางอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่ริมฝีปากจาบจ้วงร้อนแรงแทรกซึมไปด้วยกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์บางเบาจะฉกวาบลงมาอย่างตะกรุมตะกราม กลิกาชะงักเมื่อความรุนแรงและความกักขฬะที่ผู้ชายแปลกหน้ากำลังทำกับเธอมันคือความต้องการอย่างสุดกู่ในเวลานี้ อารมณ์ที่ต้องทนสะกดเก็บเพราะเล้าโลมศิรชัชไม่สำเร็จ เมื่อมาเจอน้ำบ่อหน้าที่เธอแค่มองตาเขาเธอก็รู้ว่ามันคงจะร้อนแรงและอร่อยลิ้นอย่างสุด ยิ่งคิดว่าเขา ‘แปลกหน้า’ ‘ไม่รู้จัก’ อารมณ์แห่งความต้องการและกำลังได้สิ่งแปลกใหม่มาเติมเต็มยิ่งยากที่จะระงับไว้ได้อีก ริมฝีปากร้อนแรงบดขยี้กันและกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้ว่าหมอกจะชะงักไปชั่วครู่กับการตอบโต้ของกลิกา เธอไม่เพียงไม่ดิ้นรนผลักไสอย่างที่ควรจะเป็น แต่เธอกลับเป็นฝ่ายรุกเร้าและสร้างความร้อนแรงให้เขาอย่างถึงใจไม่แพ้กัน ฝ่ามือหยาบใหญ่จึงทำหน้าที่อย่างธรรมชาติจัดสรรในทันที อกอวบอิ่มถูกคลึงเคล้นด้วยความหนักหน่วง ความรุนแรงคงเป็นสิ่งที่เธอต้องการในเวลานี้ ยิ่งแรงเขายิ่งได้ยินเสียงครวญครา
“กรี๊ด...อีติ๊ก้า! กล้าดียังไงมาเรียกกูแบบนี้ อีบ้า! กรี๊ด...” “ภีมค่ะ พี่แชมป์ ติ๊ก้าขอเวลานอกนิดนึงนะคะ” มัตติกายิ้มเพียงนิดเมื่อเห็นภีมพยักหน้างุนงงและเห็นแววตาเปี่ยมไปด้วยความรักจากศิรชัชส่งตรงมาให้ เพราะรู้ว่านั่นคือกำลังใจในสิ่งที่เธอจะทำ “ใครกันแน่ที่หาผัวไม่ได้ ใครกันแน่ที่แย่งผัวคนอื่น แล้วอีบ้า อีหน้าด้านที่มันกล้ามอมยาผู้ชายนี่มันชื่อว่าอะไรนะ อ้อ...ชื่อว่า กลิกา อีกาเอ๋ย อีดวง...เดี๋ยวจะสงเคราะห์โทร. บอกนักข่าวให้รีบมาทำข่าวอีผีเปรตขอส่วนบุญนะคะ เผื่อจะมีใครใจดีแจกยาแก้คันเฉพาะที่ให้น่ะค่ะ เอาสักโหลละกันนะ เผื่อเอาไว้ใช้วันหน้าด้วย เวลาคันมาแล้วหาอะไรเกาไม่ได้จะได้ใช้ยาประทังไปก่อน ดีไหมคะ” บทละครเรื่องใหม่ที่เธอเพิ่งอ่านไปเพียงไม่กี่ตอนถูกนำมาใช้ได้อย่างถูกเวล่ำเวลา มัตติกายิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อ ถ้าเธอรู้ว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น สาบานได้ว่าเธอจะทำการบ้านจะอ่านต่อจนจบ เพื่อจะได้ใช้แง่มุมของบทประพันธ์มารับมือกับผู้หญิงอย่างกลิกาให้ถึงพริกถึงขิงไม่แพ้กัน “กรี๊ด...อีบ้า! อีติ๊ก้า! กรี๊ด...” ภีมและม
ฝ่ามือที่ลูบไล้อยู่บนร่างกายของเขามันไม่ต่างจากเหล็กร้อนๆ ที่กำลังนาบแนบลงบนเนื้อ เพราะทุกที่ที่เธอสัมผัส ทุกที่ที่เธอพยายามปลุกเร้า มันกำลังสร้างความเจ็บปวดให้เขาอย่างสุดที่จะทานทนได้ ฝ่ามือหนาพยายามอย่างยากยิ่งที่จะผลักไสเธอให้พ้นไปจากร่าง แต่ก็ดูเหมือนว่ายิ่งผลักไสหรือออกแรงให้มากเพียงใดก็ดูราวว่าเรี่ยวแรงนั้นกลับจะดึงดันตวัดเธอเข้าหามากยิ่งขึ้น เขาอยากไปให้พ้นจากที่นี่แต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่รู้ว่ากลิกาจะเตลิดไปถึงไหนหากไม่ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ สิ่งที่เขาทำได้คือควรเก็บไม้เก็บมือตัวเองให้พ้นไปจากเรือนร่างนี้ และซุกร่างลงแนบกับพื้นเพื่อป้องกันการสัมผัสแตะต้อง แต่กลิกาไม่เพียงไม่ให้ความร่วมมือ เธอกลับยิ่งพยายามปลุกเร้าเขา “แชมป์ขา...ดวงรักแชมป์นะคะ...แชมป์...ดวงอยากเป็นของแชมป์...อยากให้แชมป์กอด...อยากให้แชมป์จูบ...อยากให้แชมป์...รัก! รักดวงแรงๆ แรงเท่าที่แชมป์ต้องการ นะคะ...ได้โปรด...ได้โปรดรักดวงนะคะแชมป์ขา..” กลิกานาบเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เนื้อตัวพร่างพราวไปด้วยหยาดน้ำลงกับแผ่นหลังของเขา ใช้ทรวงอวบอิ่มถูไถไปมาบนแผ่นหลังเพื่อกระตุ้นอารมณ์ แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น
กลิกากรีดร้องและพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากรัศมีของสายน้ำเย็นเฉียบที่ศิรชัชจับเธอนั่งลง ก่อนจะเปิดฝักบัวแรงสุดพร้อมกับฉีดใส่เธอไม่ยั้ง “ดวงอดทนหน่อยนะ มันจะดีขึ้น เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เราต้องอดทน” ศิรชัชข่มความตึงเครียดที่มีผลต่อสติยับยั้งชั่งใจของเขาให้ลดน้อยลงทุกที แต่เขาก็ต้องทำ เพราะเขาไม่อยากได้ชื่อว่า ‘กินเพื่อน’ เขาไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกลิกาเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แม้จะต้องเห็นเธอทุรนทุรายอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่เขาฉีดเข้าใส่ก็ตาม ก่อนจะเลี่ยงมาที่ตู้เย็นและเปิดขวดน้ำที่มีอยู่สองขวดกรอกลงคอจนหมด เพราะเขาต้องเร่งให้ปวดปัสสาวะเพื่อเอาสารกระตุ้นพวกนั้นออกมาให้หมด ไม่เช่นนั้นจะเป็นเขาเสียเองที่ทนไม่ได้ แต่ก็ดูว่าสิ่งที่ทำไปมันจะไร้ประโยชน์ ความต้องการที่ถูกจุดขึ้นอย่างเต็มที่ไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงไปเลย เพราะเรือนร่างเปล่าเปลือยของกลิกาพร้อมดวงตาท้าทายและฝ่ามือที่ลูบไล้ไปทั้งร่าง มันกำลังกระตุ้นความต้องการของเขาจนแทบจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว.. ห้องพักรายวันยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ตั้งอยู่ริมทางเพื่อรอคอยลูกค้าขาจร ขาประจำ หรือลูกค้าท
“แชมป์! ดวง! ทำอะไรกัน นี่มันไม่ใช่สถานที่...” เสียงผู้กำกับแจ๊คร้องลั่นเมื่อเห็นว่านักข่าวกำลังพุ่งเป้ามาทางนี้ แต่เมื่อเห็นกิริยาที่ศิรชัชโอบประคองกลิกา คำพูดต่อว่าจึงต้องหยุดไป “พี่แจ๊ค! มาช่วยผมเร็ว ดวงเขาเมาน่ะครับ” “อ้าว! พี่ก็นึกว่า...แต่เมาอะไรล่ะเนี่ย เห็นดื่มไปแก้วเดียวเท่านั้น” แจ๊คขมวดคิ้วครุ่นคิดเพราะอาการของกลิกาไม่น่าจะใช่คนที่เพิ่งรับเอาแอลกอฮอล์เข้าไปเพียงน้อยนิด รวมทั้งรอยยิ้มเล็กๆ ที่ผุดวาบคลุกเคล้าอยู่กับแผงอกของศิรชัชก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าการเมาครั้งนี้คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน “มานี่แชมป์ พี่พาไปเองดีกว่า แชมป์อยู่ที่นี่แหละ” เขาคงต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้มันลุกลามและโหมกระหน่ำมอดไหม้ตามใจคนที่ปรารถนา และแม้เขาอาจจะคิดผิด แต่ก็คงดีกว่าที่คิดถูกแล้วยังปล่อยให้ไฟลุกโชนอย่างไม่คิดจะเข้าไปช่วยดับ ทั้งที่สามารถทำได้ “ผมพาไปเองดีกว่าครับ พี่แจ๊คอยู่ที่นี่ตอบคำถามนักข่าวให้ผมดีกว่า ให้ดวงเขานอนพักสักครู่ก็คงจะดีขึ้น” ศิรชัชตวัดร่างอวบอิ่มของกลิกาขึ้นแนบอก ก่อนจะพาเดินลงบันไดไปยังห้องพักรับรองด้านหลังโด
“อย่างนั้นข่าวที่ว่าคุณแชมป์กำลังซุ่มปลูกต้นรักกับน้องสาวพระเอกนี่เป็นความจริงหรือเปล่าคะ” คำถามทะลุกลางปล้องไม่ไว้หน้านางเอกสาวที่พยายามสร้างกระแสเมื่อครู่สร้างรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนใบหน้าพระเอกของเรื่อง รอยยิ้มปรากฏราวกับว่านี่คือสิ่งที่รอคอย แต่ก่อนที่เขาจะตอบ “แหม ถามแบบนี้ไม่เกรงใจคุณภีมเลยนะคะ ดวงว่าคำถามนี้ไว้รอถามคุณภีมเขาดีกว่า คู่ขวัญคู่ใหม่ด้วยละ งั้นดวงกับแชมป์ขอตัวไปพบพี่จ๋าก่อนนะคะ เดี๋ยวมาสนุกกันใหม่ ตามสบายเลยนะคะทุกคน” ศิรชัชถูกกลิกาลากไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ ดวงตาคมเข้มยังคงจับจ้องที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของนักข่าวสาวร่างกะทัดรัด และสัญญาณมือที่เธอทำท่าว่าจะโทร. หาก็ทำให้เขาอมยิ้มพร้อมพยักหน้าว่าเข้าใจ บรรยากาศงานปิดกล้องละครพร้อมทั้งเลี้ยงขอบคุณนักข่าวสายบันเทิงที่ช่วยทำข่าวและโพรโมตละครเรื่องใหม่เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ผู้จัด ผู้กำกับ ทีมงาน ดารานักแสดง และนักข่าวหลายสำนักต่างกินเต้นดื่มกันเต็มที่ ปาร์ตี้สนุกอันสุดเหวี่ยงคงมีเพียงเขาคนเดียวที่อารมณ์เสียอย่างสุดๆ ทั้งจากเรื่องที่กลิกาให้สัมภาษณ์ และจากภาพที่เห็นอยู่ด
“ติ๊ก้านี่เขาดังจริงๆ นะครับ พี่จ๋านี่ตาถึงมากเลยนะครับที่ดันน้องดังจนได้” “ดันบ้าอะไรล่ะแจ๊ค นี่ถ้าไม่เกรงใจนังจุ้งตั้งแต่แรก พี่ก็ไม่กล้ารับหรอก เด็กใหม่ไม่ค่อยอยากเสี่ยง แรกๆ ก็เหลวไม่ใช่เหรอ พี่ว่าแจ๊คนั่นแหละเก่งที่เคี่ยวเด็กมันได้ถึงขนาดนี้” จ๋า สาวใหญ่ผู้จัดละครชื่อดังพูดกับผู้กำกับแจ๊ค ขณะมองดูมัตติกาที่อยู่ในวงล้อมของนักข่าวสายบันเทิง และท่าทางตอบคำถามได้น่ารักน่าเอ็นดูนั้นก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างปลาบปลื้มออกมา “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับพี่ ตั้งแต่วันที่เกิดปัญหาเรื่องข่าวที่พี่ให้ผมพักกอง กลับมาอีกทีน้องติ๊ก้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยครับ จากนางสาวร้อยเทค กลายเป็นว่าแทบจะไม่ต้องเทคเลยนะครับ ดวงเสียอีกที่เทคบ่อยจนน่าแปลกใจ สงสัยได้กำลังใจดี” “กำลังใจ อ้อ นายภีมน่ะเหรอ” “ครับ เอ...แล้วทำไมป่านนี้ถึงยังไม่มา อ้าวโน่น! มาพอดีเลย” ภีมที่หอบกระเช้าดอกมะลิแสนจะน่ารักมามอบให้มัตติกายิ่งทำให้นักข่าวสนใจมากยิ่งขึ้น และเมื่อทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องบอกเลยว่างานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองคู่อย่างแน่นอน คู่หนึ่งนั้นก็คือ ‘ศิรชั
“ตกลงครับ ผมจะให้เวลาพี่แองจี้ แต่หลังจากผมกลับจากเกาหลีผมจะประกาศแต่งงานกับเธอทันที และระหว่างนี้หากมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ผม ผมขออนุญาตที่จะบอกว่า เราทั้งคู่กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาดูใจกันอยู่นะครับ” ศิรชัชยังไม่วายจะต่อรอง เพราะขอให้มีคนถามเท่านั้นเขาก็จะบอกทั้งหมดและนั่นจะเท่ากับว่าเป็นการตีตราจองมัตติกาและล้อมกรอบเธอจากผู้ชายที่อยากเด็ดดอกไม้ของเขาทุกคน “เฮ้อ! มันก็แค่นี้แหละ ทำไมพูดยากนัก” จุ้งที่เดินกลับมาจากระเบียงด้านนอก เอ่ยพลางส่ายหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “นังจุ้ง แกจะพาคุณแชมป์ไปงานตอนกี่ทุ่ม ฉันจะได้โทร. บอกติ๊ก้าให้ไปรอที่นั่นเลย” แองจี้กรอกตาไปมากับความดื้อรั้นของศิรชัช แต่ก็ยอมเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นกว่านี้ “อ้าว! แล้วแกจะไปไหน” “จะไปเยี่ยมนังพิซซี่มันสักหน่อย จะไปดูด้วยว่าตอนนี้นังดวงตกมันมีแผนการอะไรบ้าง” “เรียกเขาซะเสียยี่ห้อเลยนะครับ” ศิรชัชยิ้มแกนๆ อยากจะแสดงความคิดเห็นให้มากกว่านี้ แต่เป็นเพราะเรื่องที่เขาทำก็ยังร้อนกรุ่นอยู่ หากจะออกแรงปกป้องกลิกาอีกมีหวังว่าสิ่งที่เขาพยายามดื้อแพ่งคงสูญเปล่าอย่างแน่น