“เอ่อ...ไม่มีครับพี่”
“ดี เพราะพี่ห้ามเราเด็ดขาด ถ้าจะมีต้องไปมีหลังละครพี่จบ ในกองนี้ห้ามแชมป์แสดงท่าทีอะไรกับติ๊ก้าเด็ดขาด แค่วิ่งเต้นปิดข่าวที่แฟนคลับของเราไปใส่ไคล้ติ๊ก้าพี่ก็หัวหมุนแล้วนะ ขอให้พี่ถ่ายละครให้เสร็จก่อน ต่อจากนั้นใครฟีเจอริงกับใครพี่ก็ไม่สนแล้ว เข้าใจพี่นะแชมป์” น้ำเสียงเฉียบขาดอันหมายถึงว่าคำสั่งนี้ห้ามละเมิดและห้ามปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“หึๆ เข้าใจคร้าบ แต่พี่แจ๊คแน่ใจนะว่าที่พูดน่ะไม่ได้หวงไว้กินเอง”
“เฮ้ย! แชมป์ เดี๋ยวพี่เตะเลย ไอ้นี่”
“ฮ่าๆ ผมล้อเล่นน่ะครับ แต่ดูท่าพี่แจ๊คจะร้อนตัวนะ โอ้ว...ล้อเล่นจริงๆ ครับ ว่าแต่เรื่องนั้นสรุปเป็นแฟนคลับของผมจริงๆ เหรอครับที่เป็นคนโทร. ไปบอกนักข่าว”
&nb
“ถ้าไม่ปล่อยจะมีอะไร” “ก็คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่แจ๊คคะ! พี่แจ๊ค! พี่แจ๊คคะ!” “ฝากไว้ก่อนเถอะติ๊ก้า” ศิรชัชปล่อยมือจากเธอในทันที ถือว่าเธอชนะที่เอาผู้กำกับแจ๊คมาเป็นโล่กำบัง “ไม่รับฝากค่ะ” ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างถือดีก่อนจะหันมองไปทางอื่นราวกับอีกฝ่ายไม่มีความหมายที่จะมอง “พี่ไม่จบแค่นี้แน่ พี่จะเอาคืนติ๊ก้าอย่างสาสม” “ก็แล้วแต่คุณศิรชัชค่ะ” “พี่ไม่ใช่ตัวเก็บแต้มของใครจำไว้ด้วย และพี่ไม่ใช่แค่คนรู้จักหรือเพื่อนร่วมงาน พี่คิดว่าติ๊ก้าคงโตพอที่จะรู้ว่าสิ่งที่เราทำกันมันเรียกว่าผัวเมีย!”
“ค่ะ ดวงเห็นพวกช่างแต่งหน้าเขาเมาท์กันว่าที่น้องติ๊ก้าไม่มากองเป็นอาทิตย์ก็เพราะพี่แจ๊คพาไปเก็บตัวนี่แหละค่ะ พี่แจ๊คถึงได้เจาะจงถ่ายแต่ซีนกลางวันไงคะเพราะกลางคืนต้องไปส่งส่วย อุ๊ย! ประโยคนี้ดวงไม่ได้พูดเองนะคะ พวกพี่ๆ เขาเมาท์กันแบบนี้จริงๆ ค่ะ” “ไม่เป็นไรครับดวง ก็ผมเป็นคนถามดวงเอง ดวงก็ต้องตอบถูกไหมครับ” ศิรชัชยิ้มรับกิริยาป้องปากไม่อยากพูดของกลิกา ยิ่งเธอพูดและแสดงท่าที เขาก็ยิ่งคิดเข้าข้างมัตติกามากยิ่งขึ้น อาจเป็นไปได้ที่เขากำลังเห็นผิดเป็นชอบ เขาอาจกำลังหลงมัตติกาจนมองว่าใครก็ตามที่ต่อต้านหรือว่าร้ายให้เธอเสียหายกลายเป็นคนไม่ดีไปทั้งหมด นี่เขาเป็นคนแบบนั้นจริงใช่ไหม หัวสมองประมวลภาพเหตุการณ์และคำพูดของผู้หญิงสองคนที่เขาใกล้ชิดด้วยในระยะนี้ มัตติกากับกลิกา ใครกันแน่ที่เล่นละครได้สมบทบาทกว่ากัน “ค่ะ แล้วแชมป์คิดว่าน้องเขาเป็นยังไงบ้างคะ ดวงเห็นแชมป์จ้องน้องเขาตาเป็นมันเลยนะ
มัตติกาพูดออกไปโดยไม่สนใจอาการขยิบดวงตาของแองจี้ เธอรู้ว่าแองจี้จะพูดอะไร ก็คงเรื่องเดิมที่แองจี้พยายามจะสอนให้เธอมองโลกให้กว้างไม่ให้มองแต่เพียงด้านเดียว และตอนนี้เธอก็กำลังมองอย่างที่แองจี้สอน มองอย่างทะลุทะลวงเข้าไปถึงเนื้อแท้ข้างในหัวใจ หัวใจที่คิดว่ามันเป็นก้อนเนื้อสีแดง แต่สำหรับใครบางคนมันอาจจะดำจนหาจุดขาวไม่เจอก็ได้ และตอนนี้เธอก็เห็นแล้ว ‘อย่าคิดว่าถ้าตัวเราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร ใครก็คงไม่อยากเป็นศัตรูกับเราหรือต้องการทำร้ายเรา เพราะคนร้อยพ่อพันแม่ กมลสันดานแตกต่างกัน บางคนต่อมอิจฉากำเริบได้ง่าย เห็นใครได้ดีแล้วคันยิก ระวังตัว ถนอมตัว อย่าเด่นกว่าใคร อย่าสูงกว่าใครและอย่าด้อยกว่าใคร การอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นสิ่งที่ถูกที่ควร แต่ไม่ใช่อ่อนแอสู้รบปรบมือกับใครไม่เป็น ใครพูดอะไรมาต้องชั่งใจ ฟังหูไว้หู คำหวานแต่ซ่อนเปรี้ยวหรือไม่ก็ซ่อนยาพิษร้ายแรงเอาไว้ ฟังให้เป็นและแยกให้ออก ประสบการณ์ที่ผ่านมาคือบทเรียนแสนแพง จำไว้ให้ดี ต่อไปนี้มัตติกาต้องเป็นคนใหม่ ไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสามองโลกเพียงด้านเดียวอีกแล้ว เข้าใจไหม 3D น่ะรู้จักไหมสามมิติ มองให้ทะลุจอไปเลย’
อาการบุ้ยใบ้ของเพื่อนร่วมอาชีพทำให้คอสตูมกองถ่ายสาวประเภทสองต้องหันมองตาม แล้วรอยยิ้มแหยคล้ายจะร้องไห้ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เพราะคนที่ยืนอยู่ด้านหลังก็คือน้องสาวพระเอกเจ้าของเรื่องเมาท์ประจำวันนี้ ‘เอ่อ...น้องติ๊ก้ามาเมื่อไรคะ ไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย นังพวกนี้ก็เหลือเกิ๊น น้องมาทำไมไม่เรียก ปล่อยให้พี่เมาท์อะไรไม่รู้ ไม่มีสาระเลยนะคะ เป็นยังไงคะน้องติ๊ก้า ชุดใส่ได้พอดีหรือเปล่า’ ’มันหลวมไปนิดนึงค่ะพี่จุ๋ม ติ๊ก้าอยากจะขอแรงพี่จุ๋มช่วยเนาเข้าให้หน่อยนะคะ ติ๊ก้าผอมลงเยอะเลย อาทิตย์ที่ผ่านมาคุณยายของติ๊ก้าผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจน่ะค่ะ ติ๊ก้าต้องอยู่เฝ้าท่านที่โรงพยาบาลหลายวัน ข้าวปลาไม่ค่อยได้กินเลย โชคดีได้พี่จุ้งช่วยพูดกับพี่แจ๊คให้ ไม่งั้นติ๊ก้าคงแย่แน่ค่ะ หยุดติดต่อกันหลายวันแบบนี้เกรงใจทุกคนจัง’ ‘อ๋อ...เหรอคะ เห็นพี่แจ๊คบอกว่าน้องติ๊ก้าตกบันได’ ‘ค่ะ นี่ไงคะ แผลยังไม่หายเลย พี่จุ๋มคิดดูนะคะติ๊ก้าต้องลากสังขารแบบนี้ไปเฝ้าคุณยายน่ะค่ะ พี่แองจี้ก็บ่นๆๆ ไม่หยุด แต่ที่บ้านติ๊ก้าไม่มีใครเลยนะคะ มีน้าก็เป็นผู้ชายหมดค่ะ ไม่สะดวกกัน’ ‘เหรอคะ
น้ำเสียงของเขามีผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจ ทว่ามัตติกาคนนี้ไม่ใช่สาวน้อยไร้เดียงสาในวันวานอีกแล้ว ในเวลานี้ ขณะนี้ มีเพียงมัตติกาดาราสาวสวยที่มีข่าวคาวส่งกลิ่นโชยไปทั่วทั้งวงการ และคนที่ตอกย้ำว่ามันจริงก็คือเขาคนนี้ “ปล่อยฉันค่ะ! คุณไม่มีสิทธิ์จะมาทำอะไรกับฉันแบบนี้อีก” “ทำไมพี่ถึงไม่มีสิทธิ์ เราเป็น...” “ไม่ได้เป็นค่ะ มันจบไปแล้ว คุณอย่าลืม มันแลกด้วยเงินมาแล้ว” “แต่พี่จะจำ และพี่ก็จำได้ว่า เงินนั้นพี่ให้เพราะติ๊ก้าต้องการใช้ ไม่ใช่ค่าตัว เพราะติ๊ก้ามีค่ากับพี่มากกว่านั้น” “เหรอคะ! เท่าไรคะ! ค่าตัวของฉัน ฉันจะได้เรียกเพิ่ม คุณจะได้เลิกยุ่งกับฉันเสียที” มัตติกาเริ่มกรุ่นไปด้วยอารมณ์โกรธมากขึ้น เพราะพูดถึงขนาดนี้เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยมือจากเธอ และที่เธออยากโกรธมากที่สุดก็คือตัวเอง เพราะก้นบึ้งในหัวใจนั้นเธอกำลังร่ำร้องขอให้เขาจับมือเธอให้แน่น ความขัดแย้งที่ตีรวนอยู่ในหัวใจมันกำลังทำร้ายร่างกายที่พยายามทำเป็นเข้มแข็งไม่แคร์เขา ไม่แคร์สายตาเว้าวอนคู่นั้น ไม่แคร์น้ำเสียงทุ้มเจือหวานที่ทำให้เธอสะท้านไปถึงหัวใจยามเขาเอ่ยเรียก
พระเอกหนุ่มเดินจากไปแล้ว แต่ความอบอุ่นที่ฝากไว้บนแก้มเธอยังรู้สึกได้จนถึงขณะนี้ มัตติกาแตะที่แก้มตัวเอง สัมผัสอันแผ่วเบาแต่แผ่ความอุ่นซ่านไปทั้งกาย ไม่เว้นแม้แต่หัวใจของเธอที่ยังรับรู้ได้ และภาพสะท้อนของหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอมยิ้มน้อยๆ อยู่หน้ากระจกนั้นก็ทำให้มัตติกาชักสีหน้าใส่ในทันที “เข้มแข็งไว้ติ๊ก้า เจ็บแล้วต้องจำ อย่าลืม มันคือบทเรียนที่มีค่า อย่าได้หลงไปกับความหล่อไร้ที่ติอย่างนั้นอีก ไม่งั้นจะเป็นเธอที่เจ็บเจียนตายอีกครั้ง!” เสียงพึมพำดั่งคนพร่ำบอกกับตัวเอง ก่อนเรือนร่างงดงามจะทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดใหญ่ หยาดน้ำตาแห่งความสับสนไหลออกมาเป็นเพื่อนเธออีกครั้งในค่ำคืนนี้.. กว่าสองสัปดาห์ที่การเร่งถ่ายทำละครทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อให้ละครได้ออนแอร์ในช่วงที่ข่าวของมัตติกายังร้อนแรงอย่างสุดๆ ข่าวคาวๆ ทางหน้าหนังสือพิมพ์ยังคงมีให้เห็นทุกวัน โดยเฉพาะข่าวพระเอ
มัตติกาชี้ชวนให้ภีรพลมองตามก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาอย่างเขินๆ เมื่อเห็นฝ่ายคอสตูมสองสาวเทียมวิ่งไล่กันไปมา ชายหนุ่มมองใบหน้างามยามที่แย้มยิ้มมองมายังตนเอง ทำให้บรรยากาศโดยรอบคล้ายจะหยุดนิ่ง ดวงตาสวยหวานพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจในครั้งแรกที่เห็นทำให้เขารู้สึกพิเศษกับเธอจนกล้าที่จะบุกมาขายขนมจีบถึงกองถ่ายโดยไม่หวั่นสักนิดว่าข่าวรอบเช้าในวันถัดไปนั้นจะมีเขากับเธอเป็นเจ้าของเรื่องหรือเปล่า “วันนี้คุณภีมว่างเหรอคะ” “ไม่ว่างครับ แต่อยากมาหา ติ๊ก้าชอบไหมครับ” ภีรพลหมายถึงดอกกุหลาบสีขาวช่อโตที่มัตติกาประคองไว้แนบอกและกิริยาที่ค่อยๆ จดจมูกลงบนกลีบดอกสีขาวสะอาดตาก็ทำให้หัวใจเขาสั่นสะท้าน จนเธอเงยหน้าขึ้นมานั่นแหละเขาจึงต้องรีบทำสีหน้าให้เป็นปกติ ไม่ใช่ประหม่าราวกับเป็นเด็กอนุบาลริรักเหมือนที่กำลังขำตัวเองอยู่ในขณะนี้&
“ผมคิดไม่ผิดเลยครับ” “ไม่ผิดเรื่องอะไรคะ” “ก็เรื่องที่ติ๊ก้าเป็นคนใจดีน่ะสิครับ” สายตาหวานเชื่อมของพระเอกดาวรุ่งพุ่งแรง ภีม ภีรดล ที่มองตรงไปยังมัตติกา นางเอกสาวกระแสร้อนแห่งปีอย่างสื่อความหมาย รอยยิ้มแสนอ่อนหวาน กิริยาดอมดมช่อดอกไม้ที่ได้รับ รวมถึงหลากหลายคำพูดที่เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นฝ่ายชวนคุยอย่างเป็นกันเองมากกว่าที่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายพูดก่อน แต่คำพูดสั้นๆ พร้อมสายตาสื่อความหมายก็ทำให้นางเอกสาวมีอาการคล้ายสะท้านอายไปชั่วครู่ ภาพที่เห็นทำให้คนที่ยืนแอบมองคนทั้งคู่หัวร่อต่อกระซิกกันมานานแล้วถึงกับกำมือแน่น กรามแกร่งขบกันจนเป็นสันเพราะภาพบาดตาบาดใจเกินจะทนดูต่อไปได้ “อ้าว! ภีมมาได้ไงเนี่ย”&nb
กลิการ้องครวญครางอย่างลืมอายเมื่อเธอถูกจับให้นอนตะแคงข้าง ท่อนขาข้างหนึ่งถูกยกขึ้นสูงพร้อมกับความแกร่งที่แทรกลงมา ทั้งหนักแน่นและรุนแรงอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน ไม่ว่าเธอจะร้องครวญครางแค่ไหนเขาก็ไม่หยุด เขายังคงทำต่อราวกับว่าสื่อได้ถึงหัวใจว่าเธอต้องการอีกและก็ต้องการอีกมากยิ่งขึ้น “ดีเหลือเกินค่ะ คุณขา...” “ดีไหมครับคุณนางเอก” “ดีค่ะ ดีที่สุด อืม...” “ชอบไหมครับ” “ชอบค่ะ ดวงชอบ อืม...ดวงชอบ...” แรงกอดรัดอย่างรุนแรงเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วเขาก็จำไม่ได้ แต่เธอก็ยังสามารถทำได้อีกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะถอย และเขาเองก็จะไม่ยอมถอยเช่นกัน “พอก่อนค่ะพอก่อน...” เสียงร้องว่าพอก่อน แต่เมื่อเขาล้มตัวลงนอนและจับเธอพลิกขึ้นด้านบน กลิกาก็ไม่รอช้าที่จะประจำตำแหน่งซึ่ง มันไม่ได้พอตามปากเธอว่าเลยสักนิด สะโพกผายที่กดกระหน่ำลงมาบนแก่นกายที่ยังคงร้อนแรง เธอทั้งบดเบียดและคลึงเคล้นราวกับคนที่เก็บกดมานานแสนนานและไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มจะพอตามพูด มีแต่จะยิ่งมากขึ้นและเพิ่มขึ้นอย่างหยุดไม่อยู่ “คุณขา...กรี๊ดดดด...”
แขนสองข้างของเธอถูกล็อกไว้กับที่นอนหนานุ่มติดสปริง ในขณะที่ต้นขาเปล่าเปลือยที่เปิดเผยทุกสิ่งทุกอย่างถูกบางสิ่งแทรกกลางอย่างถือวิสาสะ ก่อนที่ริมฝีปากจาบจ้วงร้อนแรงแทรกซึมไปด้วยกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์บางเบาจะฉกวาบลงมาอย่างตะกรุมตะกราม กลิกาชะงักเมื่อความรุนแรงและความกักขฬะที่ผู้ชายแปลกหน้ากำลังทำกับเธอมันคือความต้องการอย่างสุดกู่ในเวลานี้ อารมณ์ที่ต้องทนสะกดเก็บเพราะเล้าโลมศิรชัชไม่สำเร็จ เมื่อมาเจอน้ำบ่อหน้าที่เธอแค่มองตาเขาเธอก็รู้ว่ามันคงจะร้อนแรงและอร่อยลิ้นอย่างสุด ยิ่งคิดว่าเขา ‘แปลกหน้า’ ‘ไม่รู้จัก’ อารมณ์แห่งความต้องการและกำลังได้สิ่งแปลกใหม่มาเติมเต็มยิ่งยากที่จะระงับไว้ได้อีก ริมฝีปากร้อนแรงบดขยี้กันและกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แม้ว่าหมอกจะชะงักไปชั่วครู่กับการตอบโต้ของกลิกา เธอไม่เพียงไม่ดิ้นรนผลักไสอย่างที่ควรจะเป็น แต่เธอกลับเป็นฝ่ายรุกเร้าและสร้างความร้อนแรงให้เขาอย่างถึงใจไม่แพ้กัน ฝ่ามือหยาบใหญ่จึงทำหน้าที่อย่างธรรมชาติจัดสรรในทันที อกอวบอิ่มถูกคลึงเคล้นด้วยความหนักหน่วง ความรุนแรงคงเป็นสิ่งที่เธอต้องการในเวลานี้ ยิ่งแรงเขายิ่งได้ยินเสียงครวญครา
“กรี๊ด...อีติ๊ก้า! กล้าดียังไงมาเรียกกูแบบนี้ อีบ้า! กรี๊ด...” “ภีมค่ะ พี่แชมป์ ติ๊ก้าขอเวลานอกนิดนึงนะคะ” มัตติกายิ้มเพียงนิดเมื่อเห็นภีมพยักหน้างุนงงและเห็นแววตาเปี่ยมไปด้วยความรักจากศิรชัชส่งตรงมาให้ เพราะรู้ว่านั่นคือกำลังใจในสิ่งที่เธอจะทำ “ใครกันแน่ที่หาผัวไม่ได้ ใครกันแน่ที่แย่งผัวคนอื่น แล้วอีบ้า อีหน้าด้านที่มันกล้ามอมยาผู้ชายนี่มันชื่อว่าอะไรนะ อ้อ...ชื่อว่า กลิกา อีกาเอ๋ย อีดวง...เดี๋ยวจะสงเคราะห์โทร. บอกนักข่าวให้รีบมาทำข่าวอีผีเปรตขอส่วนบุญนะคะ เผื่อจะมีใครใจดีแจกยาแก้คันเฉพาะที่ให้น่ะค่ะ เอาสักโหลละกันนะ เผื่อเอาไว้ใช้วันหน้าด้วย เวลาคันมาแล้วหาอะไรเกาไม่ได้จะได้ใช้ยาประทังไปก่อน ดีไหมคะ” บทละครเรื่องใหม่ที่เธอเพิ่งอ่านไปเพียงไม่กี่ตอนถูกนำมาใช้ได้อย่างถูกเวล่ำเวลา มัตติกายิ้มที่มุมปากอย่างเป็นต่อ ถ้าเธอรู้ว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้น สาบานได้ว่าเธอจะทำการบ้านจะอ่านต่อจนจบ เพื่อจะได้ใช้แง่มุมของบทประพันธ์มารับมือกับผู้หญิงอย่างกลิกาให้ถึงพริกถึงขิงไม่แพ้กัน “กรี๊ด...อีบ้า! อีติ๊ก้า! กรี๊ด...” ภีมและม
ฝ่ามือที่ลูบไล้อยู่บนร่างกายของเขามันไม่ต่างจากเหล็กร้อนๆ ที่กำลังนาบแนบลงบนเนื้อ เพราะทุกที่ที่เธอสัมผัส ทุกที่ที่เธอพยายามปลุกเร้า มันกำลังสร้างความเจ็บปวดให้เขาอย่างสุดที่จะทานทนได้ ฝ่ามือหนาพยายามอย่างยากยิ่งที่จะผลักไสเธอให้พ้นไปจากร่าง แต่ก็ดูเหมือนว่ายิ่งผลักไสหรือออกแรงให้มากเพียงใดก็ดูราวว่าเรี่ยวแรงนั้นกลับจะดึงดันตวัดเธอเข้าหามากยิ่งขึ้น เขาอยากไปให้พ้นจากที่นี่แต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่รู้ว่ากลิกาจะเตลิดไปถึงไหนหากไม่ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ สิ่งที่เขาทำได้คือควรเก็บไม้เก็บมือตัวเองให้พ้นไปจากเรือนร่างนี้ และซุกร่างลงแนบกับพื้นเพื่อป้องกันการสัมผัสแตะต้อง แต่กลิกาไม่เพียงไม่ให้ความร่วมมือ เธอกลับยิ่งพยายามปลุกเร้าเขา “แชมป์ขา...ดวงรักแชมป์นะคะ...แชมป์...ดวงอยากเป็นของแชมป์...อยากให้แชมป์กอด...อยากให้แชมป์จูบ...อยากให้แชมป์...รัก! รักดวงแรงๆ แรงเท่าที่แชมป์ต้องการ นะคะ...ได้โปรด...ได้โปรดรักดวงนะคะแชมป์ขา..” กลิกานาบเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เนื้อตัวพร่างพราวไปด้วยหยาดน้ำลงกับแผ่นหลังของเขา ใช้ทรวงอวบอิ่มถูไถไปมาบนแผ่นหลังเพื่อกระตุ้นอารมณ์ แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น
กลิกากรีดร้องและพยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากรัศมีของสายน้ำเย็นเฉียบที่ศิรชัชจับเธอนั่งลง ก่อนจะเปิดฝักบัวแรงสุดพร้อมกับฉีดใส่เธอไม่ยั้ง “ดวงอดทนหน่อยนะ มันจะดีขึ้น เราต้องผ่านมันไปให้ได้ เราต้องอดทน” ศิรชัชข่มความตึงเครียดที่มีผลต่อสติยับยั้งชั่งใจของเขาให้ลดน้อยลงทุกที แต่เขาก็ต้องทำ เพราะเขาไม่อยากได้ชื่อว่า ‘กินเพื่อน’ เขาไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกลิกาเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น แม้จะต้องเห็นเธอทุรนทุรายอยู่ท่ามกลางสายน้ำที่เขาฉีดเข้าใส่ก็ตาม ก่อนจะเลี่ยงมาที่ตู้เย็นและเปิดขวดน้ำที่มีอยู่สองขวดกรอกลงคอจนหมด เพราะเขาต้องเร่งให้ปวดปัสสาวะเพื่อเอาสารกระตุ้นพวกนั้นออกมาให้หมด ไม่เช่นนั้นจะเป็นเขาเสียเองที่ทนไม่ได้ แต่ก็ดูว่าสิ่งที่ทำไปมันจะไร้ประโยชน์ ความต้องการที่ถูกจุดขึ้นอย่างเต็มที่ไม่มีทีท่าว่าจะหมดลงไปเลย เพราะเรือนร่างเปล่าเปลือยของกลิกาพร้อมดวงตาท้าทายและฝ่ามือที่ลูบไล้ไปทั้งร่าง มันกำลังกระตุ้นความต้องการของเขาจนแทบจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว.. ห้องพักรายวันยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ตั้งอยู่ริมทางเพื่อรอคอยลูกค้าขาจร ขาประจำ หรือลูกค้าท
“แชมป์! ดวง! ทำอะไรกัน นี่มันไม่ใช่สถานที่...” เสียงผู้กำกับแจ๊คร้องลั่นเมื่อเห็นว่านักข่าวกำลังพุ่งเป้ามาทางนี้ แต่เมื่อเห็นกิริยาที่ศิรชัชโอบประคองกลิกา คำพูดต่อว่าจึงต้องหยุดไป “พี่แจ๊ค! มาช่วยผมเร็ว ดวงเขาเมาน่ะครับ” “อ้าว! พี่ก็นึกว่า...แต่เมาอะไรล่ะเนี่ย เห็นดื่มไปแก้วเดียวเท่านั้น” แจ๊คขมวดคิ้วครุ่นคิดเพราะอาการของกลิกาไม่น่าจะใช่คนที่เพิ่งรับเอาแอลกอฮอล์เข้าไปเพียงน้อยนิด รวมทั้งรอยยิ้มเล็กๆ ที่ผุดวาบคลุกเคล้าอยู่กับแผงอกของศิรชัชก็ทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าการเมาครั้งนี้คงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน “มานี่แชมป์ พี่พาไปเองดีกว่า แชมป์อยู่ที่นี่แหละ” เขาคงต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม ดีกว่าปล่อยให้มันลุกลามและโหมกระหน่ำมอดไหม้ตามใจคนที่ปรารถนา และแม้เขาอาจจะคิดผิด แต่ก็คงดีกว่าที่คิดถูกแล้วยังปล่อยให้ไฟลุกโชนอย่างไม่คิดจะเข้าไปช่วยดับ ทั้งที่สามารถทำได้ “ผมพาไปเองดีกว่าครับ พี่แจ๊คอยู่ที่นี่ตอบคำถามนักข่าวให้ผมดีกว่า ให้ดวงเขานอนพักสักครู่ก็คงจะดีขึ้น” ศิรชัชตวัดร่างอวบอิ่มของกลิกาขึ้นแนบอก ก่อนจะพาเดินลงบันไดไปยังห้องพักรับรองด้านหลังโด
“อย่างนั้นข่าวที่ว่าคุณแชมป์กำลังซุ่มปลูกต้นรักกับน้องสาวพระเอกนี่เป็นความจริงหรือเปล่าคะ” คำถามทะลุกลางปล้องไม่ไว้หน้านางเอกสาวที่พยายามสร้างกระแสเมื่อครู่สร้างรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนใบหน้าพระเอกของเรื่อง รอยยิ้มปรากฏราวกับว่านี่คือสิ่งที่รอคอย แต่ก่อนที่เขาจะตอบ “แหม ถามแบบนี้ไม่เกรงใจคุณภีมเลยนะคะ ดวงว่าคำถามนี้ไว้รอถามคุณภีมเขาดีกว่า คู่ขวัญคู่ใหม่ด้วยละ งั้นดวงกับแชมป์ขอตัวไปพบพี่จ๋าก่อนนะคะ เดี๋ยวมาสนุกกันใหม่ ตามสบายเลยนะคะทุกคน” ศิรชัชถูกกลิกาลากไปอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ ดวงตาคมเข้มยังคงจับจ้องที่ใบหน้าจิ้มลิ้มของนักข่าวสาวร่างกะทัดรัด และสัญญาณมือที่เธอทำท่าว่าจะโทร. หาก็ทำให้เขาอมยิ้มพร้อมพยักหน้าว่าเข้าใจ บรรยากาศงานปิดกล้องละครพร้อมทั้งเลี้ยงขอบคุณนักข่าวสายบันเทิงที่ช่วยทำข่าวและโพรโมตละครเรื่องใหม่เป็นไปด้วยความสนุกสนาน ผู้จัด ผู้กำกับ ทีมงาน ดารานักแสดง และนักข่าวหลายสำนักต่างกินเต้นดื่มกันเต็มที่ ปาร์ตี้สนุกอันสุดเหวี่ยงคงมีเพียงเขาคนเดียวที่อารมณ์เสียอย่างสุดๆ ทั้งจากเรื่องที่กลิกาให้สัมภาษณ์ และจากภาพที่เห็นอยู่ด
“ติ๊ก้านี่เขาดังจริงๆ นะครับ พี่จ๋านี่ตาถึงมากเลยนะครับที่ดันน้องดังจนได้” “ดันบ้าอะไรล่ะแจ๊ค นี่ถ้าไม่เกรงใจนังจุ้งตั้งแต่แรก พี่ก็ไม่กล้ารับหรอก เด็กใหม่ไม่ค่อยอยากเสี่ยง แรกๆ ก็เหลวไม่ใช่เหรอ พี่ว่าแจ๊คนั่นแหละเก่งที่เคี่ยวเด็กมันได้ถึงขนาดนี้” จ๋า สาวใหญ่ผู้จัดละครชื่อดังพูดกับผู้กำกับแจ๊ค ขณะมองดูมัตติกาที่อยู่ในวงล้อมของนักข่าวสายบันเทิง และท่าทางตอบคำถามได้น่ารักน่าเอ็นดูนั้นก็ทำให้อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างปลาบปลื้มออกมา “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับพี่ ตั้งแต่วันที่เกิดปัญหาเรื่องข่าวที่พี่ให้ผมพักกอง กลับมาอีกทีน้องติ๊ก้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยครับ จากนางสาวร้อยเทค กลายเป็นว่าแทบจะไม่ต้องเทคเลยนะครับ ดวงเสียอีกที่เทคบ่อยจนน่าแปลกใจ สงสัยได้กำลังใจดี” “กำลังใจ อ้อ นายภีมน่ะเหรอ” “ครับ เอ...แล้วทำไมป่านนี้ถึงยังไม่มา อ้าวโน่น! มาพอดีเลย” ภีมที่หอบกระเช้าดอกมะลิแสนจะน่ารักมามอบให้มัตติกายิ่งทำให้นักข่าวสนใจมากยิ่งขึ้น และเมื่อทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกันก็ไม่ต้องบอกเลยว่างานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองคู่อย่างแน่นอน คู่หนึ่งนั้นก็คือ ‘ศิรชั
“ตกลงครับ ผมจะให้เวลาพี่แองจี้ แต่หลังจากผมกลับจากเกาหลีผมจะประกาศแต่งงานกับเธอทันที และระหว่างนี้หากมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ผม ผมขออนุญาตที่จะบอกว่า เราทั้งคู่กำลังอยู่ในระหว่างศึกษาดูใจกันอยู่นะครับ” ศิรชัชยังไม่วายจะต่อรอง เพราะขอให้มีคนถามเท่านั้นเขาก็จะบอกทั้งหมดและนั่นจะเท่ากับว่าเป็นการตีตราจองมัตติกาและล้อมกรอบเธอจากผู้ชายที่อยากเด็ดดอกไม้ของเขาทุกคน “เฮ้อ! มันก็แค่นี้แหละ ทำไมพูดยากนัก” จุ้งที่เดินกลับมาจากระเบียงด้านนอก เอ่ยพลางส่ายหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “นังจุ้ง แกจะพาคุณแชมป์ไปงานตอนกี่ทุ่ม ฉันจะได้โทร. บอกติ๊ก้าให้ไปรอที่นั่นเลย” แองจี้กรอกตาไปมากับความดื้อรั้นของศิรชัช แต่ก็ยอมเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นกว่านี้ “อ้าว! แล้วแกจะไปไหน” “จะไปเยี่ยมนังพิซซี่มันสักหน่อย จะไปดูด้วยว่าตอนนี้นังดวงตกมันมีแผนการอะไรบ้าง” “เรียกเขาซะเสียยี่ห้อเลยนะครับ” ศิรชัชยิ้มแกนๆ อยากจะแสดงความคิดเห็นให้มากกว่านี้ แต่เป็นเพราะเรื่องที่เขาทำก็ยังร้อนกรุ่นอยู่ หากจะออกแรงปกป้องกลิกาอีกมีหวังว่าสิ่งที่เขาพยายามดื้อแพ่งคงสูญเปล่าอย่างแน่น