สิบนาทีต่อมา... ตำรวจสืบสวนวิ่งตรงไปห้องของผู้กำกับการด้วยสีหน้าตื่นๆ หลังจากที่วางสายสำคัญไปได้ไม่ถึงนาทีก๊อกๆ“เชิญ!” คเชนทร์เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเอ่ยอนุญาตลูกน้องคนสนิทที่ยืนอยู่หน้าห้อง“ผะ... ผู้กำกับฯ ครับ!” คนที่เพิ่งมาถึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงหอบๆ“มีอะไรเหรอ วิ่งหน้าตื่นมาเชียวหมวด”“คือว่า... มีคำสั่งตรงจากท่าน ผบ.ตร. ธนิน เอ่อ... ให้ผู้กำกับฯ ย้ายไปรับราชการที่เชียงใหม่ภายใน 24 ชั่วโมง นับจากเที่ยงของวันนี้เป็นต้นไปครับ”“อะ... อะไรนะ!” คเชนทร์ถามอย่างไม่เชื่อหู“รายละเอียดต่างๆ จะมาถึงตอนเที่ยงครับว่าผู้กำกับฯ จะได้ลง ที่พื้นที่ไหนครับ”“บ้าจริง! N กับ S คือ North-South สินะ” คเชนทร์อุทานออกมาอย่างนึกไม่ถึง ว่าอีกฝ่ายจะให้ตนเลือกระหว่างทิศเหนือกับใต้“ผู้กำกับฯ โอเคไหมครับ?”“ก็โอเคกว่าทางใต้มั้งหมวด!” คเชนทร์นั่งกุมขมับอย่างเซ็งๆ‘โชคดีที่ไม่ได้เลือก S ไม่งั้นซวยแน่คเชนทร์! เฮ้อ... มะลินะมะลิ!’Rocasander Grand Hotel…“จะ... จอดรถข้างหน้าทำไมคะ” มะลิฉัตรถามเสียงสั่น เมื่อรถแล่นเข้ามาจอดยังบริเวณด้านหน้าของโรงแรมเลโอนาดท์ไม่ตอบแต่เปิดประตูออกจากรถ แล้วเดินอ้อมไปกระชากประตูรถฝั
สิบนาทีต่อมา... พราวดาราสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองก่อนจะเดินออกไปหาอีกฝ่ายที่ด้านนอก โดมินิกที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่หันมามองแวบหนึ่งก่อนจะหันไปคุยสายต่ออีกสองสามประโยคแล้วกดวาง“คุณอายุเท่าไหร่?” เขาถามพร้อมกับจ้องมอง“22 จะ 23 ค่ะ”“เรียนจบแล้วเหรอ”“ค่ะ”“คุณเรียนจบที่ไหนพราว?”“คุณถามทำไม?”“ตอบผมมา ไม่งั้นก็ไม่ต้องกลับ โอเค้!” โดมินิกบอกด้วยน้ำเสียงตึงๆ“ฉันเรียนจบที่อังกฤษ วันที่ 23 แล้วก็เพิ่งบินกลับมาถึงไทยเมื่อวันที่ 26 โอเค้!” พราวดาราเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมานิดๆ“คุณชอบทานอะไร เรียนเกี่ยวกับอะไร มีแพลนจะทำอะไรต่อหลังจากที่เรียนจบ” เขาถามต่อ“นี่คุณ! ตกลงจะให้ฉันกลับบ้านจริงๆ ใช่ไหม” เธอถามอย่างรู้สึกรำคาญกับความเรื่องมากของอีกฝ่าย“ตอบมา!” โดมินิกบอกเสียงเข้ม“ฉันชอบทานอาหารเหนือ ฉันเรียนจบการตลาด และกำลังจะเข้าสมัครงานที่บริษัท...”“ลืมมันซะ! คุณไม่มีวันได้ทำมันหรอกพราว” โดมินิกเอ่ยตัดบท“...” พราวดาราถึงกับนิ่งอึ้ง ไม่เข้าใจความหมายของอีกฝ่าย“พร้อมแล้วใช่ไหม” โดมินิกถามขึ้น หลังจากที่เห็นสาวเจ้าเงียบไป“...” พราวดาราจ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ“อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนี้พราว!
“มีอะไรหรือคะแม่?” พราวดาราถามทันทีที่เห็นมารดาเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสื้อ“ก็พ่อเราน่ะสิ จะดื่มไวน์กับพ่อซาเก้แต่วันเลย” เพียงดาวบอก“ฮะ!” พราวดาราร้องอย่างไม่เชื่อหู‘เมื่อกี้ที่ไอ้บ้านั่นให้พระเครื่อง พ่อเราก็ยิ้มซะจนหน้าบาน แล้วมาตอนนี้ก็ยังมีไวน์มาล่ออีก เฮ้อ... ทำไมสถานการณ์มันถึงได้พลิกผัน ขนาดนี้นะ’“ไม่ต้องมาฮะเลย! บอกเด็กให้เตรียมแก้วไวน์แดงกับถังชิวแล้วยกไปให้พ่อเราที” เพียงดาวบอกบุตรสาวยิ้มๆ“ค่ะ” พราวดาราถอนหายใจอย่างเพลียๆ ก่อนจะเดินไปทำตามที่มารดาสั่งชั้นบนสุดของโรงแรม... Rocasander Grandหลังจากที่เลโอนาดท์พามะลิฉัตรขึ้นไปยังห้องพัก เขาก็กลับลงมานั่งดื่มที่ไนต์คลับชั้นใต้ดินของโรงแรม เพราะต้องการผ่อนคลายอารมณ์หงุดหงิดที่มีในใจ‘พระเจ้า! เขารักเธอ แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกอะไรในการกระทำที่เขาแสดงออก เธอทำเหมือนว่าจะมีเขาอยู่ในชีวิตก็ได้ หรือไม่มีก็ได้ ตลอดเวลาสามวันที่ไม่ได้เจอกัน เขารู้สึกเหมือนมันนานราวกับชั่วกัปชั่วกัลป์ เขาโหยหาและคิดถึงจนต้องนั่งเครื่องหนีการประชุมกลับมาหาเธอ... ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ทำให้เขาคลั่งจนแทบบ้า’เลโอนาดท์ยกบรั่นดีขึ้นกระดกติดๆ กันถึงสามแก้ว
“บ้าจริง! มะลิเห็นข่าวนี่ไหม?” เลโอนาดท์จ้องมองรูปของตนกับนางเอกดังเมื่อคืนอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะหันไปถามธาริณีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ“ดิฉันไม่ทราบค่ะ”“เพราะนี่ใช่ไหมที่ทำให้มะลิลาออก” เลโอนาดท์ถามอีกครั้งเพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้เรื่องนี้ดี“ท่านน่าจะถามตัวเองมากกว่านะคะ ว่าทำไม?” ธาริณีย้อนพร้อมกับยิ้มให้ผู้เป็นนายอย่างท้าทาย“อย่ามากวนผม! ไปตามมะลิมาเดี๋ยวนี้!” เลโอนาดท์ตวาดเสียงดังลั่นอย่างหัวเสีย เมื่อถูกแม่บ้านที่ดูแลตนเป็นประจำใช้สายตาและน้ำเสียงที่แปลกไปจากเดิม“ดิฉันเสียใจค่ะท่าน ดิฉันไม่รู้ว่าเธอไปที่ไหน” ธาริณีบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน“อย่ามาโกหก! คุณรู้ว่ามะลิอยู่ที่ไหน บอกมา! ไม่งั้นผมจะไล่คุณออก”“ท่านไม่ต้องไล่ค่ะ ดิฉันขอลาออกเอง” ธาริณีบอกพร้อมกับดึงป้ายชื่อหัวหน้าแผนกทำความสะอาดวางลงบนโต๊ะอย่างไม่แยแส“คุณณี!” ธีรติเรียกอย่างตกใจ มองสถานการณ์อย่างมึนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมธาริณีถึงแสดงท่าทีไม่พอใจผู้เป็นนายอย่างเห็นได้ชัด“นี่เธอ...” เลโอนาดท์กำลังจะพูดแต่กลับถูกอีกฝ่ายขัดขึ้น“ดิฉันหลงคิดว่าท่านรักมะลิจริงๆ ซะอีก ที่ไหนได้! ที่แท้ท่านมัน ก็แค่ผู้ชายเห็นแก่ตัว
ตู๊ดๆๆๆ“ปิดเครื่อง!” เธอบอกพร้อมกับส่งมือถือให้อีกฝ่ายดู“บ้าจริง!” ธีรติเผลอสบถออกมาอย่างหัวเสีย“เกิดอะไรขึ้นบอกฉันมานะ เพื่อนฉันเป็นอะไร!” พิมาลาถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“โทร. หาแม่คุณ! แล้วถามว่ามะลิฉัตรอยู่ที่ชลบุรีไหม”“มันเกิดอะไรขึ้น!” พิมาลาถามอีกครั้งอย่างทนไม่ไหว“ทำตามที่ผมบอกพิ!” เขาบอกด้วยสีหน้าตึงๆพิมาลาเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รีบกดโทร. หามารดาตามที่อีกฝ่ายบอก เสียงรอสายดังขึ้นเพียงสองครั้ง ปลายสายก็กดรับ“แม่คะ! มะลิอยู่กับแม่ไหม”“ไม่! มะลิจะมาหาแม่งั้นเหรอ?”ปลายสายแกล้งถาม และเดาสถานการณ์ออกว่าตอนนี้ทางนั้นคงกำลังตามหาตัวของบุตรสาวอยู่“อะ...โอเคค่ะ เดี๋ยวพิโทร. กลับ!” พิมาลาบอกก่อนจะกดวางสายแล้วหันมาถามคนตรงหน้า ที่เอาแต่ถามและสั่งนู่นสั่งนี่ แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลใดๆ กับเธอ“มะลิไม่ได้อยู่ที่ชลบุรี! ทีนี้คุณช่วยบอกฉันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น”“มะลิหนีไป” ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเพลียๆ กับสายตาของสาวเจ้าที่จ้องมองมายังตน“หนี! ทำไมมะลิต้องหนีด้วยล่ะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ“เรื่องมันซับซ้อนน่ะพิ! คุณไปใส่เสื้อผ้าแล้วมากับผม!”“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าคุณไม่บอกมาว
เช้าวันต่อมา... (ไร่สิรันยากรณ์)ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูห้องนอนรัวๆ ปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่ลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปยังประตูด้วยท่าทางที่งัวเงีย“คุณเป็นคนให้ข่าวนี่ใช่ไหม?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ ‘ไอ้บ้านี่ไปขุดรูปของเธอเมื่อสามปีก่อนมาจากไหนนะ!’“ข่าวอะไรเหรอพราว!” โดมินิกถามก่อนจะสะบัดหัวไปมาอย่างมึนๆ“ก็ข่าวนี่ไงล่ะไอ้คนบ้า!” พราวดาราบอกพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้กับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตึงๆ“โอ้พระเจ้า!” โดมินิกตกใจนิดๆ ที่เห็นรูปของตนกับรูปของสาวเจ้าขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ‘ข่าวรั่วไปได้ยังไงวะ’“อย่ามาทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องนะ” หญิงสาวต่อว่าคนที่ทำให้ชีวิตของเธอวุ่นวายไปหมดตั้งแต่ที่ได้เจอกับอีกฝ่าย“ผม...”“คุณควรจะส่งฉันลงที่ไหนก็ได้สักที่ แต่คุณกลับพาฉันมาส่งที่บ้าน แล้วก็สร้างเรื่องขึ้นมากมายจนพ่อและแม่ของฉันเชื่อซะสนิทใจ ฮึก! แล้วคุณยังทำลายชีวิตฉันด้วยการลงข่าวบ้าๆ นี่อีก ฮึก! คุณมันเลวสุดๆ เลยรู้ตัวไหม!” พราวดาราต่อว่าไปยกมือขึ้นปาดน้ำตาไปอย่างรู้สึกเจ็บปวด“เฮ้! พราว ข่าวนี้มันเรื่องเล็กมากเลยนะคนดี”“คุณบอกว่าเรื่องเล็กอย่างนั้นเหรอ ไอ้คนบ้า ฮือๆๆ” พราวดาราต่อว่าพลางร
13: 20 น. หน้าหอพักของอริน... (เชียงใหม่)“มะลิ!” อรินเอ่ยทักทายเพื่อนด้วยน้ำเสียงสดใส หลังจากที่รับสายของอีกฝ่ายเมื่อครู่ว่าใกล้จะมาถึง เธอจึงรีบวิ่งลงมารอที่หน้าหอ“ริน!” มะลิฉัตรลงจากรถเสร็จก็โผเข้าไปกอดเพื่อนอย่างดีใจ“ไม่เจอแค่สองเดือนสวยขึ้นเยอะเลยนะนี่” อรินเอ่ยแซวยิ้มๆ“บ้า! เธอสบายดีไหม?” มะลิฉัตรถามก่อนจะดันเพื่อนสาวออกมามองอย่างสำรวจ“สบายดีจ้ะ ว่าแต่พาแฟนมาด้วยเหรอ?” อรินมองเลยไปยังหนุ่มร่างสูงมาดเท่ที่ยืนด้านหลังอย่างสนใจ“ไม่ใช่สักหน่อย!” มะลิฉัตรส่งสายตาดุๆ ให้เพื่อนสาว ก่อนจะหันไปแนะนำคนที่มาด้วย “นี่ผู้กำกับฯ คเชนทร์จ้ะ พอดีเจอกันโดยบังเอิญ คุณคเชนทร์เลยอาสามาส่ง”“สวัสดีค่ะผู้กำกับฯ” อรินรีบยกมือไหว้ ‘แม่เจ้า! ผู้ชายอะไรหุ่นเพอร์เฟ็กต์สุดๆ ไปเลย’“สวัสดีครับคุณริน!” คเชนทร์ทักทายสาวร่างเล็กที่ยังอยู่ในชุดพนักงานต้อนรับของโรงแรมเอื้องลานนาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผู้กำกับการหนุ่มพูดกับสองสาวต่ออีกครู่ก็ขอตัวกลับ อรินจึงพามะลิฉัตรหิ้วของเดินขึ้นห้องพักอย่างไม่รอช้าทันทีที่เข้ามาในห้องพัก มะลิฉัตรถึงกับยิ้มกว้างอย่างชอบใจ กับการตกแต่งห้องพักของเพื่อนสาว“ว้าว! ห้องสวยจัง” ม
ชั้นบนสุด... โรงแรมโรคาซานเดอร์ แกรนด์“บอสครับ! บอส!” เจซีเอ่ยเรียกคนที่นั่งเหม่อให้รู้สึกตัว“มีอะไร?” เลโอนาดท์หันมามองคนสนิทแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองทางเดิม“ผมสั่งอาหารเอาไว้! บอสลุกมาทานก่อนเถอะครับ”“ฉันยังไม่หิว!”“แต่บอสต้องทานอะไรบ้างนะครับ”“ฉันบอกว่าไม่...” เลโอนาดท์กำลังจะหันไปต่อว่า แต่ก็ตกใจที่เห็นบิดากับมารดาเดินเข้ามาด้านหลังของคนสนิท “แด๊ด! มัม”“เกิดอะไรขึ้น? เธอคนนี้ใช่ไหมที่ทำให้ลูกเปลี่ยนไป”เมลิซ่าถามพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้บุตรชาย ที่มีสภาพเหมือนสิงโตที่ตายซากมานับเดือน“ไม่ใช่ครับ” เลโอนาดท์รับหนังสือพิมพ์มาดูก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะใกล้ๆ ด้วยท่าทางหงุดหงิด“งั้นคนไหน?” เมลิซ่าถามอย่างสงสัย“เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ”“หมายความว่า...” เอเดนถามพลางจ้องมองบุตรชายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอีกฝ่ายจะโทรมไปได้ถนัดตา ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน“เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าวนั่นครับ” เลโอนาดท์บอก“ก็สมควรนะ” เมลิซ่าบอกลูกชายตัวดี ด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน“โธ่! มัมครับ!”
“เห็นแต่ข้างหลังเนี่ยนะ?” เจซีว่าก่อนจะก้มลงมองมือถือต่ออย่างไม่สนใจ“สวยมากจริงๆ นะพี่ เสียดายที่บอสไม่มาด้วย แหม! อยากให้ได้เห็นจริงๆ”“มึงก็ถ่ายรูปพวกเธอส่งไปให้บอสสิวะ!” เจซีบอกอย่างเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมานิดๆ“เป็นความคิดที่ดีมากๆ เลยพี่” จอห์นบอกก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋าขึ้นมาเตรียมเก็บภาพของสองสาว“ฮ่าๆๆ เอาที่มึงสบายใจนะ กูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” เจซีส่ายหน้าอย่างเพลียๆ กับท่าทางซื่อแกมโง่ของลูกน้อง ‘หึ! ลองส่งไปดูสิ!เดี๋ยวมึงจะรู้สึก’“เดินดีๆ นะพี่” จอห์นตะโกนตาม ก่อนจะหันมาสนใจสองสาวที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เพื่อดักรอถ่ายรูปส่งให้ผู้เป็นนายดูสิบนาทีต่อมา... ขณะที่เจซีเดินออกจากห้องน้ำมาได้เพียงสองก้าว มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้น เขาจึงล้วงมันออกมาดู ก็เห็นสายของผู้เป็นนายโทร. เข้า จึงรีบเดินแกมวิ่งออกไปที่ด้านนอกร้าน เพื่อกดรับสาย“แกอยู่ไหน?” เลโอนาดท์ถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ“อยู่ที่หน้าร้านครับ!” เจซีบอก“ผู้หญิงที่ไอ้จอห์นมันถ่ายรูปส่งมาคือมะลิ! แกเฝ้าเธอให้ดีๆ จนกว่าฉันจะไปถึง!” เลโอนาดท์บอ
Bangkok 14:30 น. Rocasander Grand Hotel...หลังจากที่ลงเครื่องเสร็จโดมินิกก็พาพราวดาราตรงไปยังโรงแรมของเพื่อนรัก เพื่อเอาของสำคัญที่เก็บไว้ในเซฟห้องนอนตนเลโอนาดท์ที่เพิ่งกลับจากชลบุรีมาถึงโรงแรมทันได้เห็นหลังของเพื่อนรักไวๆ จึงรีบวิ่งตาม“ซาเก้! ซาเก้!”โดมินิกที่กำลังรอลิฟต์หันไปมองตามเสียง “อ้าว! ลีโอ”“นายมาเมื่อไหร่?” เลโอนาดท์ถาม“เพิ่งมาถึง! จะพาพราวมาเปิดตัวคืนนี้ พรุ่งนี้จะพาไปลองชุดไทย ที่ห้องเสื้อ” โดมินิกบอกพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามาแนบกาย“สวัสดีครับคุณพราว” เลโอนาดท์เอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มๆ“สะ... สวัสดีค่ะ” พราวดารายกมือขึ้นไหว้อีกฝ่าย ทำหน้าไม่ถูกเมื่อนึกไปถึงวันแรกที่เจอกับเขาที่โรงแรมเอื้องลานนา“ยินดีด้วยนะครับ” เลโอนาดท์บอก“เอ่อ... ค่ะ” พราวดาราเอ่ยรับไม่เต็มเสียง“ฉันว่าจะไปตามหามะลิที่เชียงใหม่น่ะ” เลโอนาดท์หันไปบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่เริ่มตึงนิดๆ“ผู้หญิงคนนั้น?” โดมินิกถามพร้อมกับทำท่าครุ่นคิด“ใช่! เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าววันนั้น” เลโอนาดท์ตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
“เอ่อ... เรื่องนี้ดิฉันไม่ทราบค่ะ ยังรอมะลิติดต่อกลับมาบอกเช่นกัน” จันทร์ฉายบอกพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ“ทำไมถึงเกิดเรื่องบ้าๆ แบบขึ้นได้ฮะ” เมลิซ่าหันไปเล่นงานบุตรชาย“ผมทะเลาะกับมะลิก็เลยลงไปนั่งดื่มที่คลับชั้นล่างของโรงแรม แล้วอยู่ๆ นางแบบนั่นก็เข้ามานั่งด้วย” เลโอนาดท์ถอนหายใจอย่างเพลียๆ เมื่อถูกซักไซ้ถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นอีกครั้ง“แล้ว...” เมลิซ่าเลิกคิ้วถามอย่างต้องการรายละเอียด“แล้วผมก็ลุกเดินหนีขึ้นไปที่ชั้นบนไงครับ” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ หลังจากถูกมารดาถามเหมือนกับคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน“ตอนนั้นหนูมะลิอยู่ที่ไหน?” เอเดนถามอย่างสงสัย“ที่ห้องนอนของผมครับ”“แล้วเธอหายไปได้ยังไงโดยที่ลูกไม่รู้” เมลิซ่ายิงคำถามต่อ“โธ่! นี่มัมไม่เชื่อใจผมใช่ไหม ถึงถามเหมือนจับผิดผมแบบนี้น่ะ” เลโอนาดท์ตัดพ้อด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ“แม่ไม่ได้จับผิด แต่อยากจะรู้ทุกๆ อย่าง คุณจันทร์เองก็คงอยากจะรู้ใช่ไหมคะ?” เมลิซ่าบอกพลางหันไปขอความเห็นจากอีกฝ่าย“เอ่อ... ค่ะ” จันทร์ฉายตอบไม่เต็มเสียง“งั้นฟังนี่แล้วช่วยตัดสินผมใหม่ด้วยนะ
วันต่อมา เวลา 10:27 น. Rocasander Grand Hotelที่ห้องรับรองของโรงแรมหนาแน่นไปด้วยนักข่าวจากหลากหลายสำนัก ที่มารอทำข่าวของหัวเรือใหญ่ โรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น คนปัจจุบัน ที่เป็นข่าวฮ็อตหน้าหนึ่งเมื่อหลายวันก่อน“ได้ข่าวว่าครอบครัวของคุณเลโอนาดท์ กับครอบครัวของคุณโดมินิกเดินทางมาถึงไทยเมื่อวานใช่ไหมครับ” นักข่าวเปิดคำถามแรกอย่างไม่รอช้า“ครับ! พวกท่านเดินทางมาสู่ขอเจ้าสาวให้กับโดมินิก” เลโอนาดท์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“คุณโดมินิกกับคุณพราวดารามีกำหนดจะหมั้นหมายกัน ในอีกห้าวันข้างหน้าใช่ไหมครับ?”“ครับ! ที่เชียงใหม่ โรงแรมเอื้องลานนา”“แล้วคุณเลโอนาดท์ล่ะครับ ใกล้จะมีข่าวดีหรือยัง?”“ก็น่าจะไล่ๆ กันครับ” เลโอนาดท์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ“พอจะเปิดเผยได้ไหมครับว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นเป็นใคร ใช่นางเอกดังหรือเปล่าครับ?”“ไม่ใช่ครับ!”“แต่จากรูปที่เห็นวันก่อนในไนต์คลับ ทำให้ใครๆ ต่างคิดว่าคุณเลโอนาดท์กับคุณเชอร์รี่กำลังคบกันอยู่นะครับ”“เธอเข้ามานั่งคุยกับผมครับ มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาทีก่อนที่ผมจะลุกออกไป”
ชั้นบนสุด... โรงแรมโรคาซานเดอร์ แกรนด์“บอสครับ! บอส!” เจซีเอ่ยเรียกคนที่นั่งเหม่อให้รู้สึกตัว“มีอะไร?” เลโอนาดท์หันมามองคนสนิทแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองทางเดิม“ผมสั่งอาหารเอาไว้! บอสลุกมาทานก่อนเถอะครับ”“ฉันยังไม่หิว!”“แต่บอสต้องทานอะไรบ้างนะครับ”“ฉันบอกว่าไม่...” เลโอนาดท์กำลังจะหันไปต่อว่า แต่ก็ตกใจที่เห็นบิดากับมารดาเดินเข้ามาด้านหลังของคนสนิท “แด๊ด! มัม”“เกิดอะไรขึ้น? เธอคนนี้ใช่ไหมที่ทำให้ลูกเปลี่ยนไป”เมลิซ่าถามพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้บุตรชาย ที่มีสภาพเหมือนสิงโตที่ตายซากมานับเดือน“ไม่ใช่ครับ” เลโอนาดท์รับหนังสือพิมพ์มาดูก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะใกล้ๆ ด้วยท่าทางหงุดหงิด“งั้นคนไหน?” เมลิซ่าถามอย่างสงสัย“เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ”“หมายความว่า...” เอเดนถามพลางจ้องมองบุตรชายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอีกฝ่ายจะโทรมไปได้ถนัดตา ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน“เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าวนั่นครับ” เลโอนาดท์บอก“ก็สมควรนะ” เมลิซ่าบอกลูกชายตัวดี ด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน“โธ่! มัมครับ!”
13: 20 น. หน้าหอพักของอริน... (เชียงใหม่)“มะลิ!” อรินเอ่ยทักทายเพื่อนด้วยน้ำเสียงสดใส หลังจากที่รับสายของอีกฝ่ายเมื่อครู่ว่าใกล้จะมาถึง เธอจึงรีบวิ่งลงมารอที่หน้าหอ“ริน!” มะลิฉัตรลงจากรถเสร็จก็โผเข้าไปกอดเพื่อนอย่างดีใจ“ไม่เจอแค่สองเดือนสวยขึ้นเยอะเลยนะนี่” อรินเอ่ยแซวยิ้มๆ“บ้า! เธอสบายดีไหม?” มะลิฉัตรถามก่อนจะดันเพื่อนสาวออกมามองอย่างสำรวจ“สบายดีจ้ะ ว่าแต่พาแฟนมาด้วยเหรอ?” อรินมองเลยไปยังหนุ่มร่างสูงมาดเท่ที่ยืนด้านหลังอย่างสนใจ“ไม่ใช่สักหน่อย!” มะลิฉัตรส่งสายตาดุๆ ให้เพื่อนสาว ก่อนจะหันไปแนะนำคนที่มาด้วย “นี่ผู้กำกับฯ คเชนทร์จ้ะ พอดีเจอกันโดยบังเอิญ คุณคเชนทร์เลยอาสามาส่ง”“สวัสดีค่ะผู้กำกับฯ” อรินรีบยกมือไหว้ ‘แม่เจ้า! ผู้ชายอะไรหุ่นเพอร์เฟ็กต์สุดๆ ไปเลย’“สวัสดีครับคุณริน!” คเชนทร์ทักทายสาวร่างเล็กที่ยังอยู่ในชุดพนักงานต้อนรับของโรงแรมเอื้องลานนาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มผู้กำกับการหนุ่มพูดกับสองสาวต่ออีกครู่ก็ขอตัวกลับ อรินจึงพามะลิฉัตรหิ้วของเดินขึ้นห้องพักอย่างไม่รอช้าทันทีที่เข้ามาในห้องพัก มะลิฉัตรถึงกับยิ้มกว้างอย่างชอบใจ กับการตกแต่งห้องพักของเพื่อนสาว“ว้าว! ห้องสวยจัง” ม
เช้าวันต่อมา... (ไร่สิรันยากรณ์)ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูห้องนอนรัวๆ ปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่ลุกขึ้น แล้วเดินตรงไปยังประตูด้วยท่าทางที่งัวเงีย“คุณเป็นคนให้ข่าวนี่ใช่ไหม?” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงตึงๆ ‘ไอ้บ้านี่ไปขุดรูปของเธอเมื่อสามปีก่อนมาจากไหนนะ!’“ข่าวอะไรเหรอพราว!” โดมินิกถามก่อนจะสะบัดหัวไปมาอย่างมึนๆ“ก็ข่าวนี่ไงล่ะไอ้คนบ้า!” พราวดาราบอกพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้กับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตึงๆ“โอ้พระเจ้า!” โดมินิกตกใจนิดๆ ที่เห็นรูปของตนกับรูปของสาวเจ้าขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ‘ข่าวรั่วไปได้ยังไงวะ’“อย่ามาทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องนะ” หญิงสาวต่อว่าคนที่ทำให้ชีวิตของเธอวุ่นวายไปหมดตั้งแต่ที่ได้เจอกับอีกฝ่าย“ผม...”“คุณควรจะส่งฉันลงที่ไหนก็ได้สักที่ แต่คุณกลับพาฉันมาส่งที่บ้าน แล้วก็สร้างเรื่องขึ้นมากมายจนพ่อและแม่ของฉันเชื่อซะสนิทใจ ฮึก! แล้วคุณยังทำลายชีวิตฉันด้วยการลงข่าวบ้าๆ นี่อีก ฮึก! คุณมันเลวสุดๆ เลยรู้ตัวไหม!” พราวดาราต่อว่าไปยกมือขึ้นปาดน้ำตาไปอย่างรู้สึกเจ็บปวด“เฮ้! พราว ข่าวนี้มันเรื่องเล็กมากเลยนะคนดี”“คุณบอกว่าเรื่องเล็กอย่างนั้นเหรอ ไอ้คนบ้า ฮือๆๆ” พราวดาราต่อว่าพลางร
ตู๊ดๆๆๆ“ปิดเครื่อง!” เธอบอกพร้อมกับส่งมือถือให้อีกฝ่ายดู“บ้าจริง!” ธีรติเผลอสบถออกมาอย่างหัวเสีย“เกิดอะไรขึ้นบอกฉันมานะ เพื่อนฉันเป็นอะไร!” พิมาลาถามกลับด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“โทร. หาแม่คุณ! แล้วถามว่ามะลิฉัตรอยู่ที่ชลบุรีไหม”“มันเกิดอะไรขึ้น!” พิมาลาถามอีกครั้งอย่างทนไม่ไหว“ทำตามที่ผมบอกพิ!” เขาบอกด้วยสีหน้าตึงๆพิมาลาเริ่มใจคอไม่ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก รีบกดโทร. หามารดาตามที่อีกฝ่ายบอก เสียงรอสายดังขึ้นเพียงสองครั้ง ปลายสายก็กดรับ“แม่คะ! มะลิอยู่กับแม่ไหม”“ไม่! มะลิจะมาหาแม่งั้นเหรอ?”ปลายสายแกล้งถาม และเดาสถานการณ์ออกว่าตอนนี้ทางนั้นคงกำลังตามหาตัวของบุตรสาวอยู่“อะ...โอเคค่ะ เดี๋ยวพิโทร. กลับ!” พิมาลาบอกก่อนจะกดวางสายแล้วหันมาถามคนตรงหน้า ที่เอาแต่ถามและสั่งนู่นสั่งนี่ แต่ไม่ยอมบอกเหตุผลใดๆ กับเธอ“มะลิไม่ได้อยู่ที่ชลบุรี! ทีนี้คุณช่วยบอกฉันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น”“มะลิหนีไป” ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเพลียๆ กับสายตาของสาวเจ้าที่จ้องมองมายังตน“หนี! ทำไมมะลิต้องหนีด้วยล่ะ” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ“เรื่องมันซับซ้อนน่ะพิ! คุณไปใส่เสื้อผ้าแล้วมากับผม!”“ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าคุณไม่บอกมาว
“บ้าจริง! มะลิเห็นข่าวนี่ไหม?” เลโอนาดท์จ้องมองรูปของตนกับนางเอกดังเมื่อคืนอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะหันไปถามธาริณีที่ยืนอยู่ใกล้ๆ“ดิฉันไม่ทราบค่ะ”“เพราะนี่ใช่ไหมที่ทำให้มะลิลาออก” เลโอนาดท์ถามอีกครั้งเพราะมั่นใจว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้เรื่องนี้ดี“ท่านน่าจะถามตัวเองมากกว่านะคะ ว่าทำไม?” ธาริณีย้อนพร้อมกับยิ้มให้ผู้เป็นนายอย่างท้าทาย“อย่ามากวนผม! ไปตามมะลิมาเดี๋ยวนี้!” เลโอนาดท์ตวาดเสียงดังลั่นอย่างหัวเสีย เมื่อถูกแม่บ้านที่ดูแลตนเป็นประจำใช้สายตาและน้ำเสียงที่แปลกไปจากเดิม“ดิฉันเสียใจค่ะท่าน ดิฉันไม่รู้ว่าเธอไปที่ไหน” ธาริณีบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน“อย่ามาโกหก! คุณรู้ว่ามะลิอยู่ที่ไหน บอกมา! ไม่งั้นผมจะไล่คุณออก”“ท่านไม่ต้องไล่ค่ะ ดิฉันขอลาออกเอง” ธาริณีบอกพร้อมกับดึงป้ายชื่อหัวหน้าแผนกทำความสะอาดวางลงบนโต๊ะอย่างไม่แยแส“คุณณี!” ธีรติเรียกอย่างตกใจ มองสถานการณ์อย่างมึนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมธาริณีถึงแสดงท่าทีไม่พอใจผู้เป็นนายอย่างเห็นได้ชัด“นี่เธอ...” เลโอนาดท์กำลังจะพูดแต่กลับถูกอีกฝ่ายขัดขึ้น“ดิฉันหลงคิดว่าท่านรักมะลิจริงๆ ซะอีก ที่ไหนได้! ที่แท้ท่านมัน ก็แค่ผู้ชายเห็นแก่ตัว