แม้ลูกบอกว่าขอถามแม่ก่อน แต่พ่ออย่างเขาก็ใจร้อน อยากแสดงบทบาทของพ่อตั้งแต่วินาทีนี้ เพราะเวลาที่หล่นหายไปเกือบสี่ปีมันมากเกินพอแล้ว
“ไปรับอชิที่โรงเรียนครับ อชิอยากนั่งพี่ไทเกอร์อีก”“โอเค พรุ่งนี้ตอนอชิเลิกเรียน พี่ไทเกอร์จะรออชิอยู่ที่หน้าโรงเรียน” เด็กชายยิ้มซุกซน พยักหน้ารับแข็งขัน แถมดวงตากลมยังฉายแววเจ้าเล่ห์เมื่อได้ยินเขาบอกต่อ“พ่อจะไปรับอชิพร้อมกับแม่กุ๊บกิ๊บให้ได้ อชิคอยดูฝีมือพ่อก็แล้วกัน”ไปรยามองผู้ชายต่างวัยทั้งสองคนที่นั่งคู่กันมาพักใหญ่ ท่าทางเหมือนพวกเขามีเรื่องพูดคุยกัน พลันหล่อนก็เอะใจ...หัวใจหวั่นวูบ กลัวว่าอาณัติจะฉวยโอกาสบอกเรื่องที่ทำให้อชิระสับสน
หญิงสาวคิดจะไปแทรกกลางระหว่างพวกเขา หากเมื่ออาหารที่สั่งไปทยอยมาเสิร์ฟ หล่อนจึงบอกพนักงานให้ช่วยไปตามคนทั้งสอง อย่างน้อยวิธีนี้ก็ทำให้พวกเขาไม่ได้อยู่กันตามลำพังอีกลูกน้อยกลับเข้ามา ไปรยาสังเกตสีหน้าของลูกว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือเปล่า แต่หล่อนกลับพบว่าไม่เห็น แม้แต่ท่าทีไม่สบายใจที่อชิระแสดงออกมายามที่ผู้คนกลุ่มนั้นเข้ามาใกล้ก็ไม่เหลื“กูทำพลาดเพราะกูไม่รู้ ไม่ใช่เพราะกูเจตนา ทำไมเขาจะให้อภัยกูไม่ได้” อาณัติแก้ต่างให้ตัวเอง เขายอมรับผิดทุกกรณี และยังหวังจะได้รับโอกาสจากไปรยา“จะบอกว่ามึงเป็นคนโง่ ไม่ใช่คนชั่ว ว่างั้นเถอะ” หลอกด่าไปบ้างพอหอมปากหอมคอ แต่อีกฝ่ายไม่สลด กลับตอบรับเสียดิบดี“ใช่ ทำนองนั้น มึงเป็นเพื่อนรักของกู มึงเข้าใจกู”คนถูกอวยยศให้เป็นเพื่อนรักถึงกับพ่นลมหายใจฝากมาตามสาย ก่อนเขาจะเปลี่ยนไปถามถึงอีกเรื่อง“แม่มึงรู้เรื่องอชิหรือยัง แล้วคุณนายว่ายังไงบ้าง”“แม่รู้แล้ว กูส่งรูปอชิไปให้ แม่ก็รู้ทันทีว่าอชิเป็นลูกของกู แม่บอกว่าอชิเหมือนกูตอนเด็ก อ้อ! วันนี้กูพากุ๊บกิ๊บกับอชิไปกินข้าว เจอไอ้เปากับไอ้เหน่งที่สวนอาหารด้วย พวกมันเห็นอชิก็ถามว่ากูแอบไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไร กูไม่คิดว่าพวกมันล้อเล่นนะ ถามจริงจังนี่แหละ ท่าทางแปลกใจมากด้วย แถมพวกมันยังมองจนลูกกูกลัว”ดูท่าอาณัติจะยอมรับแล้วว่าลูกชายหน้าเหมือนตนเอง หลังจากที่คิดว่าอชิระคล้ายไปรยาฝ่ายเดียวมาตั้งแต่ต้น...และดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะสร้างความภูมิใจให้กับเขา
ฟ้าสางของวันใหม่ ไปรยาตื่นขึ้นมาจัดเตรียมเสื้อผ้าสำหรับตัวเองและลูกชายตัวกลมที่ยังนอนหลับอุตุอยู่บนที่นอนอบอุ่นเรื่องราวที่คุยกับลูกก่อนเข้านอนกำลังย้อนเข้ามาในหัว ไปรยารู้ว่าสักวันมันจะเดินมาถึงตรงนี้ เพราะหล่อนกับลูกยังต้องอยู่ที่เดิม หล่อนไม่อาจหนีอาณัติ เนื่องจากยังมีหนี้สินติดค้างเขาอยู่‘เราคืนเงินให้คุณอาณัติก่อนดีไหมคะพ่อ กุ๊บกิ๊บมีเลขบัญชีของเขาค่ะ เราทยอยโอนให้เขาได้’ไปรยาเคยเกริ่นกับพ่อตอนที่หล่อนยังท้องแก่ ความกังวลและความไม่สบายใจเกิดขึ้นทุกทีที่นึกถึงเขา ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ อีกทั้งยังน้อยใจ หล่อนจึงอยากตัดขาดจากเขาไปเสีย‘คนนี้ไม่อยู่เมืองไทยไม่ใช่เหรอ เขาไม่ได้ทวงเงินมาด้วย ยอดหนี้ก็มากถึงเจ็ดแสน พ่อว่าเราเก็บหนี้ของเขาไว้ก่อน แล้วรีบจ่ายให้คนที่ทวงเข้ามาจะดีกว่า กุ๊บกิ๊บจะได้ไม่ต้องรับสายของเจ้าหนี้บ่อยๆ แต่ลูกไม่ต้องห่วงนะ ถ้าเจ้าหนี้รายนี้ติดต่อมาขอเงินคืนไวๆ พ่อก็จะขายที่ดินสวนให้เขา’พ่อเคยพูดให้หล่อนตกใจจนต้องรีบห้ามไว้ หล่อนไม่ต้องการให้พ่อขายที่ดินสวน เพราะมันเป็นความสุขของพ่อ...และหากไม่มีมันแล้ว พ่อของ
ไปรยาทำอาหารอยู่ในครัวอย่างใจเย็น วันนี้มีเวลาเหลือเฟือ เพราะไม่ต้องรีบร้อนไปทำธุระที่อื่นนอกจากไปส่งลูกชายที่โรงเรียนแล้วเลยไปที่โรงแรมอชิระกำลังร้องเพลง บอกให้รู้ว่าเด็กชายอารมณ์ดี ซึ่งคงมาจากการที่หล่อนรับปากว่าจะนั่งรถของอาณัติไปรับเจ้าตัวหลังเลิกเรียนด้วย...แต่ปัญหาของไปรยายังมี หล่อนต้องถามเรื่องนี้กับอาณัติให้รู้เรื่องเสียก่อนอชิระอายุเพียงสามขวบ ไปรยากลัวว่าลูกจะคิดไปเอง และถ้าเป็นเช่นนั้น หล่อนก็ต้องรับมือกับความผิดหวังของลูก เพราะลูกให้ความหวังกับเรื่องนี้มากเสียงรถดังอยู่ใกล้ๆ ไปรยาได้ยิน เมื่อนึกว่าอชิระกำลังนั่งระบายสีในสมุดวาดอยู่ในห้องนั่งเล่น หญิงสาวจึงปิดเตาแก๊สแล้วเดินออกมาจากห้องครัว เพราะจับทิศทางเสียงจนรู้ว่ารถคันนั้นจอดอยู่หน้ารั้วบ้านเด็กชายลุกจากเก้าอี้ประจำตัวแล้ววิ่งปรู๊ดไปเกาะกรอบประตูตัดหน้าหล่อน“แม่กุ๊บกิ๊บครับ คุณลุงมาครับ”อชิระหันไปบอกแม่เสียงใส ดวงหน้าเปื้อนยิ้ม ดวงตาเปล่งประกายสุข หากท่าทียังคงเอียงอายเมื่อมองไปยังคนตัวใหญ่แขกไม่ได้รับเชิญที่เปิดประตูรั้วแล้วเดินมาถึงหน้าประตูบ้า
“ฉันอยากคุยกับคุณ”ไปรยาก้มลงไปกระซิบใกล้ๆ อาณัติก็ตอบกลับด้วยระดับเสียงเดียวกัน หากสายตาของเขายังมองปลาหางนกยูงในอ่างบัวตามที่เด็กชายชี้บอก“บอกอชิเองสิ”“คุณนั่นแหละบอก”น้ำเสียงของคุณแม่เข้มขึ้นขณะสั่ง ‘คุณลุง’ ให้บอกลูกชายตัวเอง ชายหนุ่มอมยิ้มในสีหน้า เขาทำให้หล่อนได้อย่างไม่มีปัญหา และยินดีทำให้ด้วย ชายหนุ่มจึงยื่นมือไปโอบร่างเล็กกลมที่ยังอยู่ในชุดนอนแล้วบอกเสียงอ่อนโยน“อชิอยู่กับพี่ปลาไปก่อนนะครับ เดี๋ยวลุงคุยกับแม่ ไม่นานลุงจะมาดูปลากับอชิด้วย”“ได้คร้าบ คุณลุงรีบมานะครับ”เมื่อคุณแม่ได้ยินลูกชายบอกคนตัวใหญ่ หล่อนถึงกับตีหน้าคว่ำ ชายหนุ่มเห็นเข้า จึงคว้าข้อมือของหล่อนพาเดินห่างออกมา“กุ๊บกิ๊บอยากคุยอะไรกับพี่”ปากก็ถามไป แต่ในใจตั้งธงไว้ว่าถ้าไปรยาไม่ให้เขามาหาหล่อนกับลูกที่บ้าน เขาคงต้องปฏิเสธ“เมื่อเช้าอชิบอกฉันว่า เอ่อ...”ไปรยาหยุดไว้แค่นั้น เพราะไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดอย่างไรโดยไม่ให้ตั
“แต่ถึงยังไงอชิก็เป็นลูกของพี่ จะให้เปลี่ยนเป็นอื่นไม่ได้หรอก”“คุณต้องการลูกหรือคะ”อาณัตินิ่งเงียบ เขามีคำตอบชัดเจนอยู่ในใจ แต่ถ้าบอกออกไป ไปรยาจะรับได้หรือเปล่า“ถ้าคุณต้องการอชิ...เห็นทีจะไม่ได้ค่ะ เพราะฉันไม่ให้คุณ”ไปรยาเดินผ่านหน้าเขาเพื่อจะกลับเข้าบ้าน ส่วนลูกชายที่ยังนั่งอยู่ข้างอ่างบัวและกำลังพูดคุยกับปลาหางนกยูงอยู่นั้นก็หันมามองแม่ แล้วยิ้มอย่างไร้เดียงสา…ก่อนจะส่งคำถามที่ทำให้ไปรยาต้องหนักใจอีกรอบ“แม่กุ๊บกิ๊บครับ อชินั่งรถของคุณลุงไปโรงเรียนได้ไหมครับ”“แต่ลูกบอกแม่ว่าแค่ให้คุณลุงไปรับกลับจากโรงเรียนนี่คะ”“อชิอยากให้คุณลุงไปส่งด้วยครับ นะครับแม่กุ๊บกิ๊บคนสวย”อชิระออดอ้อน ลุกขึ้นเดินไปจับมือของแม่มาแนบแก้มตัวเอง ท่าทีนี้เจ้าตัวเล็กรู้ดีว่าทำให้แม่ใจอ่อนเกือบทุกที...และอาณัติก็ไม่พลาดที่จะพูดสนับสนุนเด็กชาย“ลุงกับแม่จะไปส่งอชิที่โรงเรียนครับ”“เย่! ดีใจจังเลย อชิมีปาป๊าไปส่งเหมือนเบนเบนแล้ว”อชิระออกอ
จากที่คิดว่าวันนี้มีเวลาเหลือเฟือ เพราะไม่มีธุระที่อื่น นอกจากไปส่งลูกชายที่โรงเรียนแล้วขับรถไปที่ทำงาน แต่กลับกลายเป็นเช้าของวันที่วุ่นวาย และดูท่าหล่อนจะต้องเร่งรีบเข้างานให้ทันเวลาไม่ต่างจากทุกวันไปรยาถอนหายใจ หลังจากที่หล่อนยอมตามใจผู้ชายต่างวัยทั้งสองคน ยอมแม้กระทั่งจอดรถของตัวเองไว้ที่บ้าน แล้วเข้าไปนั่งในรถของอาณัติเพื่อไปส่งอชิระที่โรงเรียน...แต่เรื่องยังไม่จบเท่านี้ เพราะพวกเขายังสร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก“อชินั่งข้างหลังคนเดียวได้ไหมครับ”ผู้ใหญ่ที่นั่งประจำที่คนขับมานานนับนาที แต่ไม่ยอมเคลื่อนรถออกไป มองสองแม่ลูกที่นั่งข้างกันทางตอนหลัง แล้วถามเด็กชาย“อชิอยากให้แม่กุ๊บกิ๊บนั่งด้วย” อชิระรู้ทัน คว้าหมับที่ต้นแขนของแม่ไว้ แต่พ่อก็ยังต่อรอง“พ่อขอแม่กุ๊บกิ๊บมานั่งข้างๆ พ่อสักวันได้ไหมลูก เดี๋ยวพ่อคืนให้”อชิระมุ่นคิ้วคิด เจ้าตัวเล็กอยากให้แม่นั่งกับตัวเอง แต่พอคิดว่าแลกกับการให้พ่อไปส่งที่โรงเรียนในวันนี้...เด็กชายก็พอจะตัดใจให้แม่ไปนั่งข้างพ่อได้“ก็ได้ครับ แต่อชิให้พ่อยืมนะครับ” บอกให
เมื่อรถคันสีดำมาจอดหน้าโรงเรียนอนุบาลซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้าน อชิระปีนลงจากเก้าอี้เมื่อแม่เปิดประตูรถให้ แล้วเด็กชายก็จูงมือแม่เดินไปหาคุณครูที่รอรับอยู่หน้าประตูรั้วโรงเรียน“สวัสดีครับคุณครู อชิมาแล้วครับ”“สวัสดีค่ะอชิ สวัสดีค่ะคุณแม่”คุณครูที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีทักทายอชิระและแม่ของเจ้าตัว และดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันพิเศษของเด็กชายอีกด้วย“พ่ออู๋มาส่งอชิด้วยนะครับ”อชิระบอกอย่างมีความสุข ซึ่งไปรยาก็นึกไม่ถึงว่าลูกจะพูดออกมา แถมยังชี้ให้คุณครูดูพ่อของตัวเองที่ยืนอยู่ข้างรถอีกด้วยไปรยายืนส่งลูกอยู่ที่หน้าประตูรั้ว จนเห็นว่าลูกเข้าไปในห้องเรียน หล่อนจึงวางใจแล้วเดินออกมา พลันนึกได้ว่าตัวเองไม่มีรถมาด้วยนี่นะดวงหน้าสวยเงยขึ้นมา แล้วสบตากับคนที่ยืนเอียงคอมองอยู่ก่อนแล้ว“เชิญครับคุณแม่ของอชิ”อาณัติคงได้ยินคำพูดของลูกเมื่อสักครู่ รอยยิ้มกริ่มจึงเกลื่อนทั่วใบหน้า“หมดธุระของคุณแล้ว คุณก็กลับไปได้แล้วค่ะ ฉันจะไปรถรับจ้าง”“พูดเป็นเล่นน่า พี่จะกล
อาณัติตัดสินใจบอกแม่ว่าตนยังไม่กลับบ้านในเร็วๆ นี้ โชคดีที่ผู้จัดการแผนกที่เขาทำงานอยู่นั้นส่งงานให้เขาทำทางไกลได้ ชายหนุ่มคิดจะใช้ห้องพักในโรงแรมทำงานไปยาวๆ...เพราะที่แห่งนี้เขาจะได้อยู่ใกล้ไปรยา อีกทั้งยังไปรับไปส่งลูกชายที่โรงเรียนได้ แล้วคำพูดของแม่ที่พ่วงตำแหน่งนายจ้างก็ทำให้หัวใจของชายหนุ่มเบิกบาน...หลังจากหงุดหงิดมาครึ่งค่อนวัน“เงินเดือนของแกทั้งเดือนยังไม่พอจ่ายค่าที่พัก ยังหวังจะดูแลลูกเมียอีกนะ”“งั้นผมพาลูกเมียไปเกาะแม่กินก็แล้วกัน แม่จะว่ายังไงครับ”“อย่าดีแต่ปากพูด พามาให้ได้เถอะ ถึงแกจะมีลูกเป็นโหล ฉันก็มีเงินพอให้แกเลี้ยงลูก...ว่าแต่แน่ใจนะว่าเมียของแกยังไม่มีคนอื่น”“กุ๊บกิ๊บไม่มีใครหรอก นอกจากผม แค่มองตาเขา ผมก็รู้แล้วแม่ แล้วเมื่อเช้าผมก็ไปนั่งกินข้าวในบ้านของเขามาแล้วด้วย ลูกชายของผมจัดการให้ผมเอง”“ดูท่าลูกแกจะฉลาดนะ”จู่ๆ ก็มีก้อนแข็งๆ ตีตื้นถึงลำคอ ไม่คิดว่าชีวิตนี้เขาจะรักใครได้มากขนาดนี้ในระยะเวลาไม่กี่วัน“ผมอยากให้แม่เจออชิ”“พามาบ้าน
รถคันสีขาวค่อนข้างเก่าเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านจัดสรรที่อยู่ค่อนไปทางด้านหลังของโครงการหรู แม้บ้านหลังนี้จะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับหลังอื่นในโครงการเดียวกัน แต่พื้นที่รอบบ้านนั้นกว้างขวางไม่ต่างกันไปรยาเปิดประตูรถออกมาหลังจากดับเครื่องยนต์แล้ว เมื่อสักครู่หล่อนขับรถผ่านป้อมยามหน้าหมู่บ้านก็สัมผัสได้ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีค่อนข้างสูง หากพอมาถึงบ้านหลังนี้ หล่อนก็ขับรถเข้ามาได้เลย เพราะประตูรั้วเปิดกว้างอยู่หล่อนมาไม่ผิดบ้านแน่นอน เพราะเห็นรถคันสีดำคุ้นตาจอดอยู่ เมื่อมองผ่านผนังกระจกเข้าไปในห้องหนึ่งซึ่งมีสภาพโล่งว่าง ไม่มีผ้าม่านกำบัง และทั่วทั้งห้องก็แทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์ หล่อนก็เห็นลูกชายกำลังนั่งอยู่กลางพื้นห้อง ใกล้กันนั้นก็เห็นคนตัวใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางจดจ่ออยู่กับอะไรสักอย่าง...พวกเขายังไม่รู้ถึงการมาของหล่อนไปรยาตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้าน ผ่านห้องโถงใหญ่แล้วตรงไปยังห้องนั้น เมื่อหล่อนปรากฏตัวอยู่ตรงประตู พวกเขาจึงเงยหน้าขึ้นมามอง“แม่มารับอชิแล้ว”อชิระร้องบอก รอยยิ้มกว้างประดับบนดวงหน้าเล็กกลมที่เปรอะเปื้อนเศษอาหาร เนื้อตัวก็มอ
เป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์แล้วที่อาณัติรับหน้าที่ไปรับอชิระกลับจากโรงเรียน โดยไปรยาได้แจ้งกับทางโรงเรียนไว้ล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากช่วงนี้สถานการณ์ของโรงแรมดีขึ้น ลูกค้าเข้ามาพักมากกว่าเดิม หัวหน้าแผนกจึงขอให้หล่อนยืดเวลาเลิกงานเป็นห้าโมงเย็นเหมือนกับพนักงานคนอื่นหลังจากเลิกเรียน อชิระจึงต้องอยู่กับพ่อ เพื่อรอแม่เลิกงานแล้วกลับบ้านไปพร้อมกัน ระหว่างนั้นเด็กชายจะอยู่ในห้องพักของพ่อในโรงแรม แต่บางวันพ่อก็จะพามาที่บ้านหลังใหม่ที่เพิ่งซื้อได้ไม่นาน ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ในโครงการหรูที่อชิระเคยมาดูพร้อมพ่อและแม่นั่นเอง และตอนนี้บ้านหลังนี้ก็อยู่ในระหว่างการตกแต่ง“พ่อครับ อชิเอาปลาหางปายูนมาอยู่กับปลาคาร์ปได้ไหมครับ”อชิระถามขึ้นเมื่อเกาะผนังกระจกในห้องพักผ่อนแล้วมองออกไปข้างนอก เห็นคนงานกำลังสร้างบ่อปลาคาร์ปภายในพื้นที่สวน เด็กชายเห็นว่าบ่อมีขนาดใหญ่ ถ้าหากจะให้ปลาหางนกยูงของตนมาอยู่ด้วยก็คงน่าสนใจไม่น้อย“ปล่อยให้ปลาหางนกยูงอยู่ในอ่างบัวนั่นแหละดีแล้ว มันอยู่ตรงนั้นสบายแล้วนะ”อาณัติเกรงว่าถ้าปล่อยให้ปลาทั้งสองชนิดมาอยู่ร่วมกัน ปลาหางนกยูงอาจ
ไปรยาออกมาจากห้องนอนหลังจากอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนแล้ว เสียงโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นยังคงดังมาให้ได้ยิน หญิงสาวจึงเดินไปดูลูกชายที่นอนปิกนิกที่หล่อนปูไว้ให้นั้นว่างเปล่า แต่มีรอยยับย่นของผ้าปูนอนซึ่งบอกให้ว่าเจ้าตัวคงเพิ่งลุกไปไหนสักที่ และไม่ต้องมองหานาน หญิงสาวก็เห็นร่างเล็กยืนขยุกขยิกข้างโต๊ะไม้ตรงมุมห้อง ซึ่งบนโต๊ะนั้นมีช่อดอกไม้วางอยู่“อชิทำอะไรคะ” ไปรยาถาม หลังจากมองลูกอยู่หลายวินาที แล้วเด็กชายก็หันมาตอบ“อชิดูดอกไม้ครับ”“อชิชอบหรือคะ แม่ยกให้เอาไหม”“ไม่เอาครับ ดอกไม้ของแม่กุ๊บกิ๊บ พ่ออู๋ให้ดอกไม้สวยๆ แม่กุ๊บกิ๊บต้องเก็บไว้ดีๆ นะครับ”“หือ...อะไรเนี่ย ลูกชายของแม่”ไปรยานึกขันคนเจ้ากี้เจ้าการ ตั้งแต่เป็นธุระจัดการนำดอกไม้มาให้หล่อน กระทั่งบอกให้หล่อนเก็บดอกไม้ช่อนี้ไว้ดีๆ“งั้นแม่จะเอาดอกไม้ใส่แจกันไว้ก็แล้วกันนะคะ”ไปรยาตอบสนองคำพูดของลูกชาย เพราะเห็นว่าดอกไม้ช่อนี้คงมีราคาไม่น้อย หากปล่อยให้เหี่ยวเฉาเร็วเกินไปก็น่าเสียดาย
กว่าครอบครัวเล็กซึ่งประกอบด้วยพ่อแม่และลูกชายตามสายตาของพนักงานขายบ้านโครงการหรูจะเสร็จสิ้นจากการดูบ้านและขับรถออกจากโครงการก็เป็นเวลาใกล้หกโมงเย็น หากพวกเธอยินดีให้บริการ เพราะสัมผัสได้ว่าลูกค้ามีกำลังซื้อ อีกทั้งเขาสนใจที่จะซื้อบ้านอย่างจริงจังอาณัติพาไปรยาและอชิระไปรับประทานอาหาร เขาเลือกร้านอาหารที่อยู่ใกล้โครงการบ้านจัดสรรแห่งนั้น เพราะเห็นว่าเลยเวลาอาหารเย็นของเด็กชายไปพอสมควร แต่เจ้าตัวเล็กก็ไม่บ่นว่าหิวสักคำ เพราะได้กินทั้งนมและขนมไปจนอิ่มแปล้แล้วดังนั้นกว่ารถคันสีดำจะแล่นไปจอดหน้าบ้านชั้นเดียวหลังสีฟ้าได้ก็เป็นเวลาหัวค่ำ อาณัติลงจากรถแล้วไปเปิดประตูให้ลูกชายลงมา ขณะที่ไปรยากำลังไขกุญแจประตูรั้วบ้าน“อชิหยิบดอกไม้ของพ่อมาด้วย”ดอกไม้ช่อใหญ่ที่วางบนเบาะหลังข้างเก้าอี้ที่นั่งของอชิระยังคงงดงามดี แม้มันจะไม่สดเหมือนกับตอนที่ร้านมาส่ง เด็กชายหอบดอกไม้ช่อนั้นแทบไม่ไหว จนพ่อต้องยื่นมือไปช่วยอีกแรงไปรยาหันไปมองสองพ่อลูกที่ช่วยกันหอบดอกไม้ทั้งช่ออย่างแปลกใจ พวกเขาเดินผ่านประตูรั้วที่หล่อนเปิดกว้างไว้ให้เข้ามาในเขตบ้าน หล่อนนึกสงสัยว่าทั้งสองคน
“แม่ว่ายังไงครับ หลังนี้เป็นบ้านตัวอย่างนะ แต่จะมีอีกหลังที่คล้ายกัน อยู่ด้านหลังของโครงการ หลังนั้นไม่มีสระว่ายน้ำ อชิน่าจะชอบครับ เพราะรอบบ้านเป็นสนามหญ้าทั้งหมด”อาณัติกำลังวิดีโอคอลกับคุณนายอรอร ไปรยาเห็นเข้าก็ดึงลูกชายออกมาห่างๆ เพราะหล่อนไม่รู้ว่าแม่ของเขาคิดกับอชิระอย่างไร อีกทั้งหล่อนเองก็ยังไม่รู้จักแม่ของเขา รู้แต่ว่าท่านเป็นเศรษฐินีที่มีชื่อในระดับจังหวัด และหล่อนก็รู้เรื่องนี้หลังจากเลิกรากับอาณัติไปแล้ว‘ไอ้อู๋มันทิ้งกุ๊บกิ๊บไปเมืองนอก เพราะเงินไม่กี่แสนเนี่ยนะ ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ไม่เข้าใจจริงๆ เป็นลูกเศรษฐีประสาอะไร...คิดเล็กคิดน้อยไม่เข้าท่า’ปกป้องต่อว่าอาณัติลับหลัง ไปรยาได้ฟังก็น้ำตาตกใน เวลานั้นหล่อนสับสน ทุกข์ใจ และหดหู่ ได้แต่รับรู้การตัดสินใจของพี่ชายว่าเขาจะออกไปจากบ้านด้วย แล้วสุดท้ายก็เหลือเพียงหล่อนคนเดียว กระทั่งพ่อเข้ามาจัดการจนทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง ซึ่งทำให้ไปรยาลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าได้อีกครั้ง“กำลังคิดอะไร หน้าเศร้าอีกแล้ว”เสียงนุ่มทุ้มดังอยู่ใกล้ๆ ไปรยารู้สึกตัวก็ต
จุดหมายปลายทางของอาณัติเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่มีจำนวนบ้านไม่กี่หลัง หากแต่ละหลังนั้นเรียกว่าราคาไม่น้อย จากป้ายหน้าโครงการบอกว่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่ยี่สิบล้านแล้วไปรยามุ่นคิ้ว แล้วหันไปถามเขา“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”“พี่มีนัดกับอชิว่าจะมาเที่ยวที่นี่ ใช่ไหมครับอชิ”อาณัติตอบหญิงสาว ก่อนจะหาแรงสนับสนุนจากลูกชายซึ่งกำลังมองออกไปนอกรถอย่างสนใจ หากเจ้าตัวเล็กก็ไม่ลืมหันกลับมาพยักพเยิดกับพ่อ“ใช่ครับ พ่อพาอชิมาเที่ยว”ชะรอยว่าคำตอบของสองพ่อลูกจะไม่เป็นที่ถูกใจของคนเป็นแม่ หล่อนปั้นหน้าตูมพลางยกสองมือขึ้นมากอดอก เพราะรู้สึกว่าถูกลูกชายเอาใจออกห่างเรื่อยๆ แล้ว...แถมผู้ชายอีกคนก็เจ้าเล่ห์เหลือเกิน“พี่มาดูบ้าน ตัดสินใจปุบปับไปหน่อย เลยไม่ได้บอกกุ๊บกิ๊บไว้ก่อน เพื่อนพี่แนะนำโครงการนี้ให้ พี่โทร.มานัดกับเซลล์ไว้แล้ว เลยตั้งใจแวะมาดู”“ถ้าคุณจะซื้อบ้าน คุณไม่ต้องบอกฉันก็ได้ค่ะ” ไปรยารีบออกตัว อาการน้อยใจหายไปทันที เหลือแต่สีหน้าเก้อเขิน“พี่ไม่ได้ซื้อเองหรอก แม่เพิ่งบอกให้หาบ้านสักหลั
เมื่อรถคันสีดำแล่นไปถึงโรงเรียนอนุบาลที่อยู่ไม่ห่างจากโรงแรมนัก ผู้ปกครองของเด็กชายอชิระก็พบว่าพวกเขามาถึงก่อนเวลาและมาถึงก่อนใคร เพราะในบริเวณลานจอดรถสำหรับผู้ปกครองนั้นยังไม่มีรถคันอื่นเลยสักคันอาณัติไม่เดือดร้อน เขากลับชอบเสียอีก เพราะอยากมีเวลาส่วนตัวกับไปรยาอยู่แล้ว หากหญิงสาวกลับรู้สึกตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิงเพียงแค่รถจอดสนิท ไปรยาก็คิดอยากจะออกไปสูดอากาศข้างนอก ช่วงนี้อากาศหนาวเย็น การออกไปสัมผัสสายลมอ่อนๆ ที่พัดรินก็คงดีกว่าอยู่ภายในรถกับเขาหากแค่ยื่นมือไปแตะประตูรถเพื่อจะเปิดออก มืออีกข้างกลับถูกเขายึดไว้ สัมผัสจากมือหนาและร้อนผ่าวนั้นทำให้ไปรยาสะดุ้ง ซึ่งอาณัติก็ปล่อยทันที เพราะไม่อยากให้หล่อนตกใจหรืออึดอัดใจ“พี่อยากเริ่มต้นใหม่กับกุ๊บกิ๊บ”เมื่อได้เริ่มแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่อยากถอย อีกทั้งความห่วงใยในตัวหญิงสาวก็ทำให้เขาตัดสินใจเดินหน้า...หากเหมือนว่าเขารุกหล่อนเร็วเกินไป“ไม่ได้ค่ะ ฉันไม่สะดวก”ไปรยาตอบกลับทันควัน ปากคอสั่นทีเดียว เพราะไม่นึกว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมา หล่อนตั้งตัวไม่ทัน และคำตอบ
อาณัติตัดสินใจบอกแม่ว่าตนยังไม่กลับบ้านในเร็วๆ นี้ โชคดีที่ผู้จัดการแผนกที่เขาทำงานอยู่นั้นส่งงานให้เขาทำทางไกลได้ ชายหนุ่มคิดจะใช้ห้องพักในโรงแรมทำงานไปยาวๆ...เพราะที่แห่งนี้เขาจะได้อยู่ใกล้ไปรยา อีกทั้งยังไปรับไปส่งลูกชายที่โรงเรียนได้ แล้วคำพูดของแม่ที่พ่วงตำแหน่งนายจ้างก็ทำให้หัวใจของชายหนุ่มเบิกบาน...หลังจากหงุดหงิดมาครึ่งค่อนวัน“เงินเดือนของแกทั้งเดือนยังไม่พอจ่ายค่าที่พัก ยังหวังจะดูแลลูกเมียอีกนะ”“งั้นผมพาลูกเมียไปเกาะแม่กินก็แล้วกัน แม่จะว่ายังไงครับ”“อย่าดีแต่ปากพูด พามาให้ได้เถอะ ถึงแกจะมีลูกเป็นโหล ฉันก็มีเงินพอให้แกเลี้ยงลูก...ว่าแต่แน่ใจนะว่าเมียของแกยังไม่มีคนอื่น”“กุ๊บกิ๊บไม่มีใครหรอก นอกจากผม แค่มองตาเขา ผมก็รู้แล้วแม่ แล้วเมื่อเช้าผมก็ไปนั่งกินข้าวในบ้านของเขามาแล้วด้วย ลูกชายของผมจัดการให้ผมเอง”“ดูท่าลูกแกจะฉลาดนะ”จู่ๆ ก็มีก้อนแข็งๆ ตีตื้นถึงลำคอ ไม่คิดว่าชีวิตนี้เขาจะรักใครได้มากขนาดนี้ในระยะเวลาไม่กี่วัน“ผมอยากให้แม่เจออชิ”“พามาบ้าน
เมื่อรถคันสีดำมาจอดหน้าโรงเรียนอนุบาลซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้าน อชิระปีนลงจากเก้าอี้เมื่อแม่เปิดประตูรถให้ แล้วเด็กชายก็จูงมือแม่เดินไปหาคุณครูที่รอรับอยู่หน้าประตูรั้วโรงเรียน“สวัสดีครับคุณครู อชิมาแล้วครับ”“สวัสดีค่ะอชิ สวัสดีค่ะคุณแม่”คุณครูที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีทักทายอชิระและแม่ของเจ้าตัว และดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันพิเศษของเด็กชายอีกด้วย“พ่ออู๋มาส่งอชิด้วยนะครับ”อชิระบอกอย่างมีความสุข ซึ่งไปรยาก็นึกไม่ถึงว่าลูกจะพูดออกมา แถมยังชี้ให้คุณครูดูพ่อของตัวเองที่ยืนอยู่ข้างรถอีกด้วยไปรยายืนส่งลูกอยู่ที่หน้าประตูรั้ว จนเห็นว่าลูกเข้าไปในห้องเรียน หล่อนจึงวางใจแล้วเดินออกมา พลันนึกได้ว่าตัวเองไม่มีรถมาด้วยนี่นะดวงหน้าสวยเงยขึ้นมา แล้วสบตากับคนที่ยืนเอียงคอมองอยู่ก่อนแล้ว“เชิญครับคุณแม่ของอชิ”อาณัติคงได้ยินคำพูดของลูกเมื่อสักครู่ รอยยิ้มกริ่มจึงเกลื่อนทั่วใบหน้า“หมดธุระของคุณแล้ว คุณก็กลับไปได้แล้วค่ะ ฉันจะไปรถรับจ้าง”“พูดเป็นเล่นน่า พี่จะกล