ตอนที่[30]ต่างคนต่างรีบ เช้าวันรุ่งขึ้นนางก็ได้สัมผัสกับกับอากาศที่เริ่มเย็นลงกว่าเดิม คงใกล้เข้ามาแล้วสินะ แต่ไม่ว่าอย่างไรทุกอย่างต้องไปต่อ เช้านี้ทุกคนในบ้านตระกูลฉินช่วยกันลำเลียงขวดผักดองจำนวนห้าพันขวด แบ่งใส่เกวียนลากที่เชื่อมเข้ากันรถแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่เสริมความแข็งแกร่งสามารถรับน้ำหนักได้ยิ่งกว่าเดิมคันละสองพันหาร้อยขวด ที่นางเลือกใช้รถถึงสองคนเพราะนางและพี่ใหญ่จะขับคนละคัน เพราะคันเดียวคงไม่สามารถเอาไปได้ทั้งหมด เมื่อขนผักเสร็จจนเสร็จ ตลอดจนคลุมผ้าเรียบร้อยแล้ว จึงได้เวลากินอาหารกัน วันนี้พวกนางกินกันที่ด้านนอกมิติเพราะไม่รู้ว่าท่านลุงกังจะมาก่อนเวลานัดหมายหรือไม่ จะได้ไม่เป็นที่สงสัย แต่อย่างไรแล้วกินในมิติก็ไม่เป็นอันใด แต่เพราะมันต่อเนื่องจากการลำเลียงผักขึ้นเกวียนอยู่แล้ว เลยกินด้านนอกก็สะดวกดี ไปอำเภอครานี้ ท่านตาท่านยาย ท่านแม่ไม่ได้ไปด้วย รวมถึงท่านน้าเจิงซื่อ มีเพียงเสี่ยวจวนที่วันนี้นางจะพาอีกฝ่ายไปเปิดหูเปิดตาในอำเภอด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกของอีกฝ่ายเช่นกัน “แม่นึกเป็นห่วงเจ้านัก” ฉินกุ้ยหยวนเอ่ยกับบุตรสาว “ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้ามีพี่ใหญ่ ไหนจะท่านลุงกัง
ตอนที่[30]ต่างคนต่างรีบ หลังจากยื่นป้ายให้เจ้าหน้าที่ตรวจพร้อมให้เขาตรวจบนเกวียนอีกเล็กน้อยก็สามารถผ่านประตูใหญ่มาได้เรียบร้อย ซึ่งที่ที่จะไปที่แรกนั้นก็คือโรงเตี๊ยมไท่เฉิง นางไม่อยากขนของมากมายไปที่อำเภอ จัดการธุระทางนี้ให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่า เมื่อมาถึงหน้าโรงเตี๊ยมไท่เฉิง สิ่งที่ทำให้นางตาเบิกกว้างขึ้นก็คือเมื่อวานพื้นที่ข้างโรงเตี๊ยมยังเป็นที่ว่างเปล่า มายามนี้กลับมาร้านที่ดูสบายตาทั้งยังน่าเข้าไปใช้บริการร้านหนึ่งถือกำเนิดขึ้น ป้ายใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน เขียนไว้อย่างชัดเจน ‘ผักดองตระกูลฉิน โดย โรงเตี๊ยมไท่เฉิง’ นี่มันช่าง... เมื่อนางลงจากเกวียนก็พบกับท่านลุงหลิวที่ออกมาจากร้านพอดีคล้ายเขากำลังตรวจความเรียบร้อย เมื่อเขาและนางพบกันต่างคนก็กล่าวออกมา “ร้านเสร็จแล้ว/ผักดองเสร็จแล้วเจ้าค่ะ” เมื่อคนรีบมาเจอกันก็มักจะเป็นเช่นนี้ กล่าวแล้วก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน “เจ้ารีบหรือ” เขาเอ่ยเย้านาง “แล้วท่านรีบมากเลยหรือเจ้าคะ ไหนว่าไม่เกินสามวัน” “รีบสิ การค้าดี ๆ เช่นนี้ไม่รีบได้อย่างไร” ด้านกังฉางเมื่อเห็นว่าคู่ค้าของเด็กสาวเป็นผู้ใดก็รู้สึกตกใจ กับโรงเตี๊ยมไท่เฉิงเลยหรือ นี
ตอนที่[30]ต่างคนต่างรีบจากนั้นนางจึงอธิบายให้เขาฟังว่าทำมาจำนวนเท่าไรบ้าง รวมถึงขนาดและราคา ซึ่งระหว่างที่พูดนี้ท่านลุงกังและเสี่ยวจวนเดินออกไปจากร้านอย่างรู้มารยาท ทั้งที่จริง ๆ แล้วนางก็ไม่คิดจะปิดปังอันใดพวกเขา “ขนาดหนึ่งจินห้าร้อยอีแปะ ขนาดสองจินหนึ่งตำลึง ขนาดสี่จินสองตำลึง ช่างราคาถูกนัก เจ้าแน่ใจหรือ” เพราะคราก่อนที่นางเอามาขาย ขนาดไม่ถึงหนึ่งจินเขาขายไปหนึ่งตำลึงกับอีกห้าร้อยอีแปะแล้ว ตัวเขาไม่เท่าไร แต่แม่นางน้อยตรงหน้านี่จะคุ้มหรือไม่ “ราคานี้แหละเจ้าค่ะ ด้วยต้นทุนวัตถุดิบข้าได้มาไม่สูงนัก” ผักกาดขาวหนึ่งหมู่นางทำผักดองได้ตั้งเท่าไร ส่วนของอย่างอื่นนอกจากวัตถุดิบที่เอาออกมาจากในมิติไม่ได้ นั่นไม่เรียกว่าลงทุนอันใดมากนัก “อืมหากเจ้าคิดดีแล้วก็ตามนั้น แต่หากจะขึ้นราคาก็ย่อมได้” หลิวหลี่จิ้งพยักหน้ากับการตัดสินใจของอีกฝ่าย “ลุงคิดว่าจะเอาไว้ที่ร้านที่นี่สักหนึ่งพันขวด ส่วนที่เหลือจะส่งไปสาขาอื่น ๆ ที่อยู่ในรัศมีไม่เกินสองร้อยลี้ก่อน เจ้าว่าอย่างไร” “แล้วแต่ท่านลุงจะเห็นควรเลยเจ้าค่ะ อ้อ ท่านลุงเจ้าคะพอดีว่าข้าต้องไปทำธุระที่อำเภอก่อน อย่างไรทางนี้ต้องฝากท่านลุงจัดก
ตอนที่[31]เด็กสาวผู้งดงาม นางเดินตามพวกเขาไม่นานก็ได้รับรู้ว่าพวกนางกำลังประสบกับสิ่งใด ยามที่มองไปที่ด้านหลังของเด็กสาวผู้งดงาม สายตาจึงสอดส่ายหาโรงเตี๊ยมที่อยู่ไม่ไกล เจอแล้ว เมื่อเจอเป้าหมายจึงเดินเข้าไปหาคนทั้งสองที่นางกำลังตามพวกเขาอยู่ก่อนที่จะ... หมับ! “พวกท่านตามข้ามาทางนี้” นางจับเข้าไปที่แขนของเด็กสาวผู้นั้น พร้อมพยักพเยิดให้อีกฝ่ายเดินตาม แล้วคิดว่านางจะเดินตามง่าย ๆ หรือไม่ แน่นอนว่า.... “นี่เจ้าปล่อยมือจากแขนคุณหนูนะ” แม้ว่าสตรีตรงหน้านั้นจะงดงามแต่ทว่าคนดี ๆ ที่ใดจะมาจับเนื้อผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นนี้ ลี่เฉียวที่เป็นบ่าวรับใช้จึงต้องดูแลคุณหนูของตนให้ดี “หากพวกท่านไม่อยากให้รอยนั้นขยายกว้างขึ้นและเป็นเป้าสายตาให้ผู้คนจ้องมามากขึ้นก็รีบตามข้ามาเถิด” เมื่อทั้งสองได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวก็ชะงักไปทันที ใช่แล้ว เนื่องจากยามนี้พวกนางตามหาคนขับรถม้าไม่เจอจึงต้องเดินหาที่จัดการตนเองเช่นนี้ “คุณหนูตามข้ามาเถิดข้าหวังดีจริง ๆ” หานจื่ออี้ได้ยินดังนั้นจึงหันไปสบตากับผู้พูด เมื่อเห็นว่าภายในดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความจริงใจ ไม่มีความมุ่งร้าย ไหนจะใบหน้างดงาม
ตอนที่[32]เศรษฐินีผู้หนึ่งนางกลับมาที่โรงงิ้วก็พบว่าทั้งสามคนตั้งใจจดจ่ออยู่กับผู้แสดงบนเวทีมาก จวบจนกระทั่งการแสดงผ่านไปราวสามชุดซึ่งเป็นเวลาปลายยามเว่ยท่านลุงกังก็เสนอว่าเป็นเวลาที่สมควรจะกลับได้แล้ว นางจึงได้แต่พยักหน้าตกลง ดูงิ้ววันนี้สนุกไม่น้อย “หยวนเออร์ เจ้ายังมีธุระกับท่านลุงหลิวอีกหรือ” ฉินกุ้ยหยางเอ่ยถามผู้เป็นน้องสาวเมื่อเห็นว่าจะต้องย้อนกลับไปทางโรงเตี๊ยมไท่เฉิงทั้งที่จริง ๆ แล้วสามารถไปอีกทางจะใกล้ประตูทางเข้ากว่า “มีเจ้าค่ะ เรื่องใหญ่ด้วย” เมื่อได้ยินน้องสาวกล่าวเช่นนั้นจึงไม่ถามอันใดอีก น้องสาวบอกว่าเรื่องใหญ่นั้นต้องสำคัญมากแน่ จากนั้นเกวียนลากสองคันก็กลับไปทางโรงเตี๊ยมที่พวกเขาเพิ่งไปมาเมื่อช่วงเช้า แต่ทว่ายิ่งใกล้โรงเตี๊ยมไปมากเท่าใดก็เห็นผู้คนมากมายทยอยเดินออกมาจากที่แห่งนั้น วันนี้โรงเตี๊ยมไท่เฉิงคงมีลูกค้าเยอะ ผู้คนในเกวียนต่างก็คิดเช่นนั้นแต่ไม่ใช่ฉินกุ้ยหยวน จวบจนกระทั่งเกวียนหยุดลง นางก็กระโดดจากเกวียนลงไปอย่างสง่างาม เคยเห็นในซีรีส์พอมาได้ทำเองก็รู้สึกเท่ไม่น้อย “แม่หนูฉิน!!” แต่ทว่าไม่ทันได้ทำอันใดก็ได้ยินเสียงท่านลุงจงเข่อเรียกนางเสียงดัง ทำให้
ตอนที่[32]เศรษฐินีผู้หนึ่งเมื่อนางและพี่ใหญ่เข้ามาในห้องทำงานของท่านลุงหลิว เขาก็กล่าวขึ้นทันที “เดิมทีลุงกำลังจะให้รถม้ามาขนผักดองอีกสี่พันกระปุกไปส่งตามสาขาต่าง ๆ แต่ไม่นึกว่าเพียงแค่เจ้าจากไปไม่นาน คนจำนวนมากก็พุ่งตรงมาที่นี่ พวกเขา...พวกเขามาซื้อกันมากมาย ไม่ต่อราคาเลยสักอีแปะ จนไม่เหลือสักขวด ทั้งยังกล่าวว่าหากมีจะมาซื้ออีก” สุดท้ายไม่ทันได้เปิดร้านด้วยซ้ำสินค้าหมดเสียแล้ว“ยินดีด้วยนะเจ้าคะท่านลุง” นางลุกขึ้นแสดงความยินดีกับอีกฝ่าย “ยินดีอันใดกับลุงล่ะ ยินดีกับเจ้าแล้วเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน” “นั่นต้องขอบคุณท่านลุงที่เปิดโอกาสให้ข้าเช่นนี้”“แล้วท่านลุงกล่าวว่าผักดองหมดตั้งแต่ยามอู่ แล้วเหตุใดที่หน้าร้านยังมีคนเหลืออยู่เจ้าคะ” “นั่นเป็นเพราะเขาคิดว่าพวกเราโกหกน่ะสิ เลยตามตื๊อขอซื้อ เอาเถอะ ๆ ตอนนี้ขอคิดเงินให้เจ้าเลยดีกว่า ยอดขายรวมทั้งหมด....”เขาว่าแล้วหยิบกระดาษที่จงเข่อส่งให้มาคำนวณทันที“ยอดขายทั้งหมด หนึ่งร้อยห้าตำลึงทอง แบ่งยอดขายเจ็บสิบสามสิบนั่นหมายความว่าเจ้าจะได้....”“เจ็ดสิบสามตำลึงทองกับอีกห้าสิบตำลึงเงิน/เจ็ดสิบสามตำลึงทองกับอีกห้าสิบตำลึงเงิน” ทั้งคู่กล่าว
ตอนที่[32]เศรษฐินีผู้หนึ่ง ฉือโจวมองแบบที่แม่นางน้อยส่งให้เขาประเมินราคาด้วยความแปลกใจและสงสัย ไม่เคยมีผู้ใดมาจ้างให้เขาก่อสร้างเช่นนี้มาก่อน ล้อมรั้วอิฐบนพื้นที่ยี่สิบหมู่ สร้างร้านอาหารที่แบบแปลกตา แต่ก็น่าสนใจ สร้างบ้านหลังขนาดกลางไม่เล็กไม่ใหญ่เน้นมีหลายห้องนอน ไหนจะที่นางเรียกว่าบ้านพักชั่วคราวที่แม้จะสร้างคล้าย ๆ ให้สร้างเป็นโครงแต่ก็ต้องแข็งแรง ทั้งยังให้สร้างเป็นร้อยหลัง ขนาดเล็กใหญ่ ตามรูปแบบและพื้นที่ที่นางวางเอาไว้ ทั้งยังมีโรงเรือน ไม่สินางเรียกว่าโรงงานเอาไว้ผลิตสินค้าอีก นอกจากนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เขาไม่เข้าใจ นางจะสร้างมากมายเพียงนี้ไปเพราะเหตุใดแต่นั่นไม่สำคัญที่สุดเพราะที่สำคัญที่สุดคือเหตุใดต้องมาสร้างในช่วงเหมันต์! แล้วจะมีผู้ใดฝ่าความหนาวเยือกเย็นไปอุดหนุนนางเล่า เพราะหากเป็นเขา เขาก็คงไม่ไป เพราะหมู่บ้านหวงหลิงไกลถึงเพียงนั้น เป็นหมู่บ้านสุดท้ายสุดเขตพื้นที่ตะวันออกของอำเภอเลยนะ แต่เมื่อเขากล่าวแนะนำออกไป เด็กสาวหน้าตางดงามก็ตอบเพียงว่า “ข้าคิดมาดีแล้วเจ้าค่ะ” ทั้งยังถามอีกว่าจะสร้างแล้วเสร็จเมื่อใด “หนึ่งเดือน ข้าคิดว่าหนึ่งเดือน” “ไม่ได้
ตอนที่[33]คาราวานเข้าเมืองเกิดเรื่องที่ว่า คือเกิดเรื่องดี ๆ หลังจากที่พูดคุยกับเสี่ยวหลงหลังจากส่งกระแสจิตหากัน ก็ได้ความว่าตอนนี้พลังของเสี่ยวหลงเพิ่มขึ้นมาก เรียกได้มากสุด ๆ อย่าบอกนะว่านั่นเป็นเพราะว่านางหาเงินได้เยอะแล้ว ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นจริงต่อไปนางจะหาเงินมาเยอะ ๆ มากกว่าเดิม เพราะดูเหมือนว่ายามที่พลังของเขาเพิ่มขึ้นเขาดูจะมีความสุขมาก และหากว่าเขาแข็งแกร่ง นางก็ไม่ต้องกลัวอันตรายอันใดอีก ทั้งทำสิ่งใดก็สะดวก คิดแล้วเสี่ยวหลงแข็งแกร่งแบบนี้ก็จะเป็นการดีสำหรับการเรียนต่อสู้ของนางเช่นกัน แต่คิดแล้วยามนี้ยังไม่มีเวลา คงต้องรอให้ทำผักดองรอบนี้เสร็จเสียก่อนและนางยังมีธุระสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ต้องพูดคุยกับท่านลุงหลิว ขากลับใช้เวลาเร็วกว่าขาไป เพราะไม่มีขวดผักดองให้ต้องระวัง ไม่นานรถทั้งสองคันก็เคลื่อนตัวเข้าไปจอดที่บ้านหลังน้อยของตระกูลฉิน ซึ่งยามนี้ทุกคนก็ยืนรอกันอยู่ แม้กระทั่งท่านป้าฟางซื่อและกังมู่ทั้งสองก็ดูจะตื่นตาตื่นใจกับรถของนางไม่น้อย เมื่อกลับมาถึงบ้านเช่นนี้คล้ายกับว่านางพูดคุยลืมพูดคุยบางอย่างกับท่านลุงกัง “ท่านลุงเจ้าคะ ข้าลืมบอกเลย ว่าภายในสองวันนับจากวันพร
ตอนพิเศษ[2]เสี่ยวหลงขอร้องเทพชะตา “หมั้นหมาย ๆ เสด็จพ่อกล่าวคำอื่นไม่เป็นแล้วหรือ!” เสี่ยวหลงได้แต่ฟึดฟัดไปมาในใจหงุดหงิดอยู่เพียงผู้เดียว เขายังเป็นเด็กน้อยของนายหญิงจะรีบให้หมั้นหมายไปอันใด ได้ข่าวว่าสตรีผู้นั้นอายุมากกว่าเขาเป็นหมื่นปี นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังถูกล่อลวงหรือ ไม่ได้! จะให้ร่างกายบริสุทธิ์ของเขาถูกฉกชิงไปไม่ได้! ยามนี้เขานอนอยู่ในสวนท้อบนแดนสวรรค์ เห็นว่าปีนี้มันมีรสชาติที่อร่อยขึ้น จึงอยากมาลองชิมดูว่าจะอร่อยกว่าในมิติหรือไม่ ปรากฏว่าสู้ในมิติไม่ได้สักนิด จึงเตรียมที่จะกลับไปในมิติ ซึ่งก่อนจะไปหางตาของเขาก็เห็นหลังไว ๆ ของใครบางคน นั่นมันตาเฒ่านี่ ใช่แล้ว! เรื่องที่เขากลุ้มใจตาเฒ่าอาจจะช่วยได้ “นี่ ท่านเทพชะตา” “เว้ยยยยย” เทพชะตาตกใจทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็มีคนโผล่มาด้านหน้าของตนเอง “องค์ชายห้า ข้าตกใจหมด” “ข้าต้องขอโทษท่านด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”เมื่อเทพชราได้ยินอีกฝ่ายกล่าวขอโทษก็เกิดความระแวดระวังโดยทันที เหตุใดองค์ชายห้าดูเป็นมิตรขึ้น “ไม่ต้องระวังข้าถึงเพียงนั้น วันนี้ข้าเพียงอารมณ์ดีเท่านั้น” “อะ…อ้อ แล้วองค์ชายมีอันใดให้ข้ารับใช้หรือ” “รับใช้อันใด
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหมู่บ้านหวงหลิงนั้นยามนี้เปลี่ยนไปมากจากหมู่บ้านห่างไกลกลายเป็นศูนย์กลางการค้าที่ยิ่งใหญ่ พื้นที่ของหมู่บ้านขยายของไปอย่างมากแต่หากเป็นการขยายไปทางอำเภอจางเย่ หมู่บ้านเฮยจูโหยว มิใช่ทางหมู่บ้านเถียนเกา คิดแล้วก็ขำขันยิ่ง บริเวณแถบนี้ล้วนแต่ร่ำรวยและเจริญขึ้น มีเพียงหมู่บ้านเถียนเกาที่ดิ่งลง เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านมาหลายคน สุดท้ายก็ไม่รอด จนนางได้ข่าวว่าพวกเขาเริ่มขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น แน่นอนผู้ที่รอจังหวะนั้นอยู่คือท่านน้าเจิงซื่อและเสี่ยวจวน ทั้งคู่เริ่มกว้านซื้อที่ดินได้มากมาย อดีตเคยถูกขับไล่ ปัจจุบันกว้านซื้อมาให้หมด!หากได้มาแล้วค่อยขยายพื้นที่มาทางนี้ก็ยังไม่สาย เมื่อถึงยามนั้นจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านด้วยผ่านไปสองวันเหล่าขบวนผู้สูงศักดิ์ก็เคลื่อนมาถึงอาณาจักรตระกูลฉินกันครบทุกคน “หลินเออร์” เมื่อมาถึงก็พากันวิ่งเข้าหาหลานสาวตัวกลมทันที จากนั้นจึงพากันงัดของขวัญออกมามากมาย มีทั้งอาภรณ์และเครื่องประดับที่งดงามออกมามากมาย เท่านั้นยังไม่พอยังพากันสวมใส่ให้หานหยวนหลินทันที ยามนี้เด็กน้อยราวกับตุ๊กตาล้มลุกก็ไม่ปาน แต่ดูท่าเจ้าตัวจะไม่ปลื้มเท่าใดน
ตอนพิเศษ[1]หานฉิน (เซี่ย?) ร่วมใจหานหยวนเหมินในวัยแปดหนาวกำลังนั่งกอดอกมองน้องสาววัยห้าหนาวอย่างหานหยวนหลินด้วยความไม่สบอารมณ์ “หลินเออร์ พี่บอกให้เจ้าไปขัดขวางท่านพ่อ เหตุใดพอแค่ได้ขนมที่ท่านพ่อไปเอาจากท่านแม่มามอบให้ก็ล้มเลิกแผนการเดิมของเราแล้วเล่า”“พี่ใหญ่ หลินเออร์ว่าท่านปล่อยท่านพ่อท่านแม่ไปเถิด ของอร่อยจะเยียวยาทุกสิ่งนะเจ้าคะ” “ปล่อยอันใดกัน นี่เจ้าลืมแล้วหรือว่าเราไม่เห็นหน้าท่านแม่มากี่วันแล้ว เพราะท่านพ่อมัวแต่กักขังท่านแม่เอาไว้คนเดียวในมิติ เจ้าไม่คิดถึงท่านแม่หรือ” “คิดถึง…...” ใบหน้ากลมของหานหยวนหลินเศร้าลงเมื่อนึกได้ว่าตนคิดถึงท่านแม่ไม่น้อย ท่านแม่มักถูกท่านพ่อนำตัวไปใช้เวลากันสองคนในมิติ ยามออกมาท่านพ่อก็จะใบหน้าสดใส ในขณะที่ท่านแม่ราวกับคนป่วยอ่อนแรง หรือว่าท่านแม่จะโดนบังคับนะ หานหยวนเหมินเมื่อรู้ตัวว่าสามารถกล่อมน้องสาวได้สำเร็จแล้ว จึงได้กล่าวต่อ“หลินเออร์ พวกเราต้องทวงท่านแม่คืนมานะ”ด้านในมิติ“ท่านพี่ พอได้แล้ว ข้าช้ำหมดแล้ว”“หยวนหยวนเจ้าไม่คิดถึงพี่หรือ พี่ทำงานติดกันเป็นเดือนกว่าจะเวลาว่างได้ หรือเจ้าไม่รักพี่แล้ว….” “ท่านไม่ต้องมากล่าวเช่นนี้ หากข
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “ท่านตา ท่านยาย พี่ใหญ่ หยวนหยวนตอนนี้นางตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วขอรับ พวกเรากำลังจะมีสมาชิกใหม่แล้วขอรับ” !!!ทุกคนที่ได้ยินต่างก็ตกตะลึง แต่ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นความยินดี “ข้ากำลังจะมีเหลนแล้วหรือ หยวนเออร์ดีนัก” นางเฉาซื่อเอ่ยขึ้นก่อนใคร ก่อนจะตามด้วยผู้เฒ่าฉิน ผู้เฒ่าเจียวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดีกับสหาย “ข้าดีใจกับเจ้าด้วยนะตาเฒ่า เจ้าจะได้มีเหลนแล้ว ปีใหม่ปีนี้ช่างดีนัก มีข่าวดีให้ชื่นใจด้วย” จากนั้นผู้คนจึงสลับกันมาอวยพรสองสามีภรรยาอย่างคับคั่ง ฉินกุ้ยหยวนเลิกร้องไห้แล้ว นางขำขันตนเองไม่น้อย ร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ เจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในท้องคงแสบไม่น้อยสินะ ถึงทำให้มารดาเปลี่ยนไปได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ “พี่สะใภ้ข้าอยากเห็นหน้าหลานแล้ว ต้องน่ารักมากแน่ ข้าจะเลี้ยงลูกของพวกท่านจนเติบใหญ่เลย” หานจื่ออี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น “แล้วเจ้าไม่เลี้ยงบุตรของเจ้าหรืออย่างไร” “จะยากอันใดก็เอามาเลี้ยงด้วยกันอย่างไรเล่า” หานจื่ออี้กล่าวอย่างไหลลื่น แต่เมื่อคิดว่าตนเพิ่งกล่าวอันใดไปก็มีใบหน้าขึ้นสีพลางมองไปที่คู่หมายแวบหนึ่งนางกล่าวว่าจะมีลูกกับเขาหรือฉินกุ้ยหย
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ “พี่ไม่ อุ๊บ” หานจื่อหลันยังกล่าวไม่จบ เขาก็มีอาการพะอืดพะอมเอามือปิดปากแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที ฉินกุ้ยหยวนเห็นเช่นนั้นจึงตื่นตระหนกยิ่ง รีบหันมาบอกทุกคน ที่ยามนี้ล้วนแต่หยุดปฏิกิริยาของตนแล้วส่งสายตากังวลไปที่หานจื่อหลัน “เดี๋ยวจะจะจัดการเอง พวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ” ฉินกุ้ยหยวนหันมากล่าวกับทุกคนก่อนที่รีบวิ่งเข้าบ้านไป นางเดินไปด้วยความเร่งร้อน เมื่อไปถึงก็พบว่าหานจื่อหลันอาเจียนออกมาและนั่งล้มพักอยู่ข้างอ่างน้ำในห้องครัวอย่างหมดสภาพ “พี่จื่อหลัน พี่เป็นอันใดกัน ท่านป่วยหรือเจ้าคะ เป็นข้าที่ดูแลท่านไม่ดี” “หยวนหยวน พี่รู้สึก…พะอืดพะอม อยากจะอาเจียนตลอดเวลา พี่…อุ๊บ” เขาลุกขึ้นไปเกาะที่อ่างน้ำนั่นอีกครั้งก่อนจะอาเจียนออกมา “รีบไปที่เครื่องรักษาตนเถิดเจ้าค่ะ” นางไม่อยากรั้งรออันใด รีบคว้าแขนเขาแล้วพาเข้ามิติทันที เมื่อถึงเครื่องรักษาก็รีบประคองเข้าไปนั่งแล้วเริ่มทำการรักษาอย่างด่วนที่สุด หานจื่อหลันที่ได้เข้าเครื่องรักษาไม่นานอาการพะอืดพะอมก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง แต่ฉินกุ้ยหยวนนั้นสงสัยนัก ที่หน้าจอแสดงผลของเครื่องรักษาตนที่อัปเกรดใหม่นั้น บ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันนางมองอาณาจักรตระกูลฉินของนางยามนี้ที่คึกคักไม่น้อย ทั้งร้านหมูกระทะและเรือนรับรอง ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมาที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และที่นี่เหมือนว่าเป็นที่ที่หลายคนตั้งเป้าว่าจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกัน ‘สถานที่ที่แสนอบอุ่น’ ทำให้หลายคนกล้าฉีกกรอบวัฒนธรรมเดิม ๆ ที่ปีใหม่ต้องฉลองกันที่บ้านของตนเอง ท่านลุงโหว ท่านลุงหลิว แม้กระทั่งนายช่างฉือยังพาครอบครัวมาฉลองปีใหม่ที่นี่ ก่อนวันขึ้นปีใหม่หนึ่งวันในที่สุดมิติของนางก็มีสัญญาณบางอย่างเกิดขึ้น นางจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านท่ามกลางการห้ามปรามของสามีที่กลับว่านางจะล้มเอาได้ “ท่านพี่เดี๋ยวข้ามาเจ้าค่ะ” เมื่อเข้าไปในห้องของตนเองนางก็รีบเข้าไปในมิติ “เสี่ยวหลง” “นายหญิง” “เสี่ยวหลงเจ้า….” “นายหญิงเสี่ยวหลงกลับมาแล้ว” หนึ่งคนหนึ่งหมีต่างก็สบตากันกก่อนจะโผกอดกันด้วยความคิดถึง “ข้ารอเจ้าอยู่กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมา” “เสี่ยวหลงจะไม่มาได้อย่างไร ในเมื่อนายหญิงอยู่ที่นี่ ท่านตาผู้เฒ่า ท่านยายผู้เฒ่า ฮูหยินท่านแม่ ไหนจะคนอื่น ๆ อีก เสี่ยวหลงต้องกลับมาอยู่แล้ว” ที่จริงแล้วหน้าที่บนโลกมนุษย์ของ
ตอนที่[61]วันขึ้นปีใหม่เสี่ยวหลงกลับไปแดนสวรรค์นานแล้ว เขาส่งข่าวคราวมาแค่ช่วงแรกแล้วหลังจากนั้นบอกว่าต้องเข้าถ้ำเพื่อไปบำเพ็ญตบะคงไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกจนกว่าการบำเพ็ญตบะจะเสร็จสิ้น เวลาผันไปกว่าแปดเดือนแล้ว อีกไม่กี่วันก็เข้าถึงการเฉลิมฉลองปีใหม่ ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาทันได้ฉลองร่วมกันหรือไม่ “คิดถึงเสี่ยวหลงอยู่หรือ” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมอ้อมกอดที่อบอุ่นที่กอดกระชับมาจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นสามีสุดที่รักของนางรอยยิ้มก็เปิดกว้างขึ้น“เจ้าค่ะ เขาหายไปนานแล้ว คิดถึงเขาไม่รู้ว่าจะกลับมาทันปีใหม่หรือไม่” ยามนี้นางอยู่ที่อาณาจักรตระกูลฉิน อย่างไรนางก็อยากกลับมาเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่ที่นี่ พี่ใหญ่ก็กลับมาด้วยเนื่องจากข้าราชการก็มีวันหยุดเพื่อจะได้กลับบ้านมาฉลองปีใหม่เช่นกัน แต่ทว่าเขาเกือบจะไม่ได้กลับมาพร้อมนางแล้ว เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาพาครอบครัวมาที่จวนตระกูลหานพร้อมกล่าวบางอย่างที่ชวนหยุดหายใจ “องค์หญิง ท่านเสนา ท่านชาย ข้าฉินกุ้ยหยางอยากจะมาสู่ขอท่านหญิงหานจื่ออี้มาเป็นฮูหยินของข้าขอรับ” “……”อย่าว่าแต่ครอบครัวหานตกใจเลย ครอบครัวของนางก็เช่นกัน เพราะพี่ใหญ่ไม่มีสัญญาณว่า
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลงในช่วงก่อนที่เขาจะจัดการกับคนที่สวีหุ่ยส่งมา นั่นคือเป็นช่วงที่พลังของเขากลับมาเรื่อย ๆ จนสามารถกลายเป็นร่างมังกรดำได้ และในที่สุดสามปีผ่านไปในตอนที่นายหญิงมั่งคั่งและมีความสุขมากที่สุดเขาก็ได้ร่างเดิมกลับ ไม่สิ ร่างใหม่เพราะยามนี้เขาได้ผ่านเคราะห์และเลื่อนระดับพลังเป็นที่เรียบร้อยฉินกุ้ยหยวนเป็นห่วงเสี่ยวหลงมากเพราะยามนี้เขาหายไปเหลือแต่เจ้ามังกรยักษ์ที่น่าเกรงขามแทน แต่ทว่าเมื่อมองสบตาของเจ้ามังกรตัวนั้นมันช่างคุ้นเคยเหลือ จนกระทั่งที่เขาได้ยินเสียงของมัน “นายหญิง” “เสี่ยวหลง!!”เหตุใดเสี่ยวหลงของนางจึงกลายเป็นมังกรทองไปได้ หรือว่าเป็นดังเช่นคราวก่อนที่เขาแกล้งแปลงร่างเป็นมังกรดำเพื่อไปจัดการกับคนของสวีหุ่ยหานจื่อหลันนั่นพบว่าแม้ว่าจะผ่านไปสามปีแต่ก็มีเรื่องมาให้เขาแปลกใจอยู่ตลอด ในมิติแห่งนี้เขาได้เข้ามาบ่อยครั้ง จนรู้สึกสนิทใจกับเจ้าหมีขาวตัวยักษ์นี่แล้ว แต่วันนี้กลับพบเขาในรูปลักษณ์ที่แปลกตาออกไป ยิ่งยามนี้ที่เขากล่าวเพื่อยืนยันบางอย่างกับพวกเขา“นายหญิง นายท่านสามี เสี่ยวหลงเดิมที่มิใช่หมีขาวแต่เป็นมังกรทองขอรับ” “…..”จากนั้นเจ้ามังกรทอง ก
ตอนที่[60]ความจริงของเสี่ยวหลง ร่างของมังกรทองตัวเขื่องนอนหายใจรวยรินหลังจากผ่านการระเบิดเลื่อนขั้นพลังขั้นใหญ่มาย้อนไปก่อนที่หยกจะมาเป็นฉินกุ้ยหยวน ดินแดนสวรรค์ เกิดเรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับเทพชราผู้หนึ่ง ‘เทพชะตา’ เขาเดินงุ่นง่าน สีหน้าไม่สู้ดีนัก คิดอย่างปลงไม่ตกว่าจะทำอย่างไรดี เขาทำพลาดครั้งยิ่งใหญ่ “ท่านเทพชะตาหาอันใดอยู่หรือ” จ้าวหนิงหลงหรือเสี่ยวหลง มังกรทองตัวน้อยบุตรชายคนเล็กของราชามังกรเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเทพชราของดินแดนสวรรค์เอาแต่เดินก้มหน้าก้มตาวนรอบบริเวณเดิมคล้ายกับหาของบางอย่าง ในขณะนั้นเองที่ดวงตาของเทพชะตาก็เปล่งประกาย เขารอดแล้ว! ที่จริงแล้วเทพชะตานั้นทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงคือการไปดึงดวงวิญญาณที่อนาคตต่อไปจะรุ่งเรืองและเติบโตอย่างมากในภายภาคหน้า แต่เขากลับไปทำให้นางต้องจบชีวิตลงจากการทำงานผิดพลาด หากเป็นคนทั่วไปก็ว่าไปเถิด แต่นี่เป็นคนที่แต้มบุญกำลังจะทำงาน แต่เขาดันไปขัดขวางทำให้นางหมดโอกาสที่จะใช้ชีวิตในชาตินั้น จะแก้ไขอันใดก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่มีพลังมากพอ สิ่งที่พอจะทำได้คือการดึงวิญญาณของนางส่งไปใช้ชีวิตที่โลกอื่นแต่อย่างที่บอกหลังจากใช้พลังในการ