นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน อุตส่าห์ออกตัวกับเพื่อนเอาไว้แล้วว่าจะไม่พาเด็กบาร์โฮสต์ออกมาด้วย แต่ว่าตอนนี้เราสองคนยืนอยู่หน้าห้องพักของโรงแรมม่านรูดพร้อมหนุ่มโฮสข้างกายอีกสองคน
มิวเปิดห้องสองห้องแล้วแยกกันไปคนละห้อง เพื่อที่จะใช้เวลาส่วนตัวกับหนุ่มหล่อที่พวกเราพาออกมาด้วย
“เราไปอาบน้ำก่อนไหม” ฉันชวนเขาเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฉัน ‘ซื้อกิน’
“ได้สิครับเดี๋ยวผมจะขัดตัวให้พี่เอง รับรองว่าหอมตั้งแต่หัวยันหอยแน่ๆ” เขาพูดคำหยาบโลนออกมา แต่ทว่าฉันกลับรู้สึกสยิวหูเหลือเกินในเวลานี้
เขาถอดเสื้อผ้าของฉันออกอย่างนุ่มนวลพร้อมกับใช้จมูกคลอเคลียที่ข้างแก้ม เสื้อผ้าถูกทิ้งกองลงกับพื้นจากนั้นเขาก็กอดเอวฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ฝ่ามือหนาลูบสบู่จนเกิดฟองแล้วละเลงไปทั่วร่าง นวดถูทำความสะอาดให้กับฉันสมกับเงินห้าพันที่เพื่อรักฉันพาเขาออกมาเพื่อเปิดโลกให้แก่ฉัน
เขาอาบน้ำให้เราทั้งคู่แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มพรมจูบฉันไปที่หัวไหล่ไล่ไปจนถึงหลังต้นคอ เป็นจูบที่รู้สึกนุ่มนวลและซ่านสยิวที่สุด คงเป็นเพราะความตื่นเต้นจึงทำให้ฉันรู้สึกอย่าง
มือของเขาลูบไล้ไปทั่วเนินสวาทและเต้าทั้งสองข้าง พร้อมๆ กับการจูบเล้าโลมที่วาบหวามชวนให้ฉันขนลุกซู่ไปทั่วร่างและเสียวท้องน้อยเป็นระยะ รู้สึกได้ว่าความฉ่ำแฉะที่สองแคมนั้น มีมากจนอยากจะให้มีอะไรสอดใส่เข้าไปเพื่อทำลายความใคร่ที่กำลังก่อตัวขึ้น
“พี่ไม่ไหวแล้วเราไปต่อกันที่เตียงเถอะ” ฉันเป็นฝ่ายเอ่ยชวนเขาก่อนด้วยน้ำเสียงที่กระเส่าและสั่นเครือ หนุ่มบาร์โฮสสุดหล่อที่แม้แต่ชื่อฉันก็ยังไม่ทันได้ถามพาฉันกลับไปที่เตียง แล้วดันร่างฉันให้นอนหงายลงไปพร้อมกับแยกขาออกกว้าง
“ผมขออนุญาตมอบความสุขให้กับพี่ด้วยปลายลิ้นของผมนะครับ” เขาพูดเสียงนุ่มและสั่นพร่าเล็กน้อย ก่อนที่จะแลบลิ้นยาวออกมาแล้วตวัดเลียลงไปที่เม็ดสวาท
ปลายลิ้นเรียวนั้นตวัดเลียรัวๆ ที่เม็ดติ่งใสจนฉันรับรู้ได้ถึงความชำนาญในการใช้ลิ้นนั้น จากนั้นเขาก็เลื่อนลิ้นลงไปที่คับแคบ แหวกกลีบสวาทลงไปแล้วแยงลิ้นเข้าออกรัวๆ พร้อมกับกดปลายจมูกลงไปบดบี้ที่เม็ดกระสันแทน มันเป็นอะไรที่มีความสุขมาก
แผล็บ แผล็บ! จ๊วบ จ๊วบ! เขาเลียอย่างเอร็ดอร่อยจนฉันต้องร้องครางออกมาเสียงดังลั่น
“ซี๊ด ไม่ไหวจะแตกแล้ว เอาพี่เถอะ พี่อยากโดนเอาแล้ว” ฉันพูดเสียงกระเส่าบอกความต้องการของตนเองอย่างชัดเจน ยกคอขึ้นมองเขาด้วยแววตาที่ปรือฉ่ำด้วยความกำหนัด
เขาผละจากร่องที่ชุ่มฉ่ำ เอานิ้วปาดคราบน้ำที่ติดรอบริมฝีปากมาดูด ก่อนจะลุกขึ้นไปสวมเครื่องป้องกันแล้วขยับสะโพกมาที่ระหว่างขา จับท่อนลำมาถูไถที่ร่องสวาทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่บ่งบอกถึงความตื่นเต้นแล้วดันสะโพกเข้ามาจะมิดด้าม
“อ๊าส์ คับแน่นดีพี่หอมสวยมากเลยครับ ซี๊ด” เขาชื่นชมด้วยน้ำเสียงที่พร่าสั่น
“พี่เสียว ซอยถี่ๆ เลยนะ อ๊าส์ กระแทกเข้ามาเน้นๆ เลย ซี๊ด” ฉันเรียกร้องเขาเสียงกระเส่า
หนุ่มโฮสเร่งสะโพกซอยรัวแรงในจังหวะที่ดุดันต่างจากรอยยิ้มและคำพูดที่เอาใจของเขา
“กระแทกหนักๆ แบบนี้ พอใจไหมครับ ซี๊ด อ๊าส์”
“พอใจมากเลย อื้อ เสียวดี อ๊าส์ แรงๆ นะ ซี๊ด หนุ่มโฮสเอาเก่งทุกคนหรือเปล่า” ฉันถามเขาเสียงเครือ
ตับ ตับ ตับ! เสียงเนื้อตีกันยามที่เขาซอยเข้ามาถี่ๆ มันเพิ่มความตื่นเต้นให้เป็นอย่างมาก
“ทุกคนต่างก็เด็ดกันไปคนละแบบครับ อ๊าส์ สำหรับผมแล้วผมเลียเก่งและซอยถี่ครับ ซี๊ด” เขาบอกคุณสมบัติของตนเองอย่างไม่เขินอาย แล้วซอยกระแทกลงมาอย่างดุดัน
“เสียว อ๊าส์ เสียวจริงๆ เลย ซี๊ด” ฉันบอกเขาเสียงกระเส่า
เขาจับฉันอยู่ในท่าคลานคุกเข่าแล้วกระแทกเข้ามาหนักๆ จนฉันตัวโยกคลอนตามแรงกระทำของเขาอย่างเร่าร้อน
ตับ! ตับ! ตับ! เสียงเนื้อตีกันอย่างต่อเนื่อง ท่อนลำแหวกกลีบสวาทจนปลิ้นเข้าออกเสียดสีกับเม็ดเสียวจนฉันใกล้จะถึงจุดหมาย
“ไม่ไหว จะแตกแล้ว ซี๊ด” ฉันร้องบอกเขาเสียงหลง ถูกเขาตอกอัดเข้ามาหนักๆ จนเกิดเสียง ปั่ก ปั่ก! สยิวหู
“แตกเลยครับพี่ คืนนี้ผมจะทำให้พี่แตกแล้วแตกอีก..” เขาบอกเสียงพร่าแล้วเร่งกระแทกเข้ามาถี่รัว ตอกอัดเน้นๆ เข้ามาอย่างไม่ออมแรง
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก! เสียงการตอกอัดและปลายหัวหยักที่เสียดสีเม็ดเสียว
“อ๊าส์ แตกแล้ว” ฉันร้องออกมาเสียงดังแล้วฟุบหน้าลงกับที่นอนพร้อมกับเสียงหายใจหอบกระเส่า
เขาจึงจับฉันนอนหงายแล้วแยกเข่าออกกว้างกดท่อนลำเข้าไปแล้วโน้มตัวลงมาจูบที่ซอกคอและเนินอก ดูดเลียอย่างเอาใจจนฉันเริ่มมีอารมณ์ร่วมอีกรอบ
หนุ่มโฮสนิรนามดูดยอดอกฉันอย่างดูดดื่ม จากนั้นก็เริ่มขยับสะโพกเข้าออกอย่างถี่รัว กระตุ้นให้ฉันเกิดความปรารถนาในตัวเขาอย่างรวดเร็ว
แผล็บ แผล็บ! เขาเลียไปรอบๆ จุกสีหวานอย่างมูมมาม กระแทกสะโพกเข้ามาอย่างดุเดือดและเต็มไปด้วยความวาบหวามทุกท่วงท่า
สวบ สวบ สวบ! เสียงท่อนเนื้อเสียดสีกับกลีบลับ
“ซี๊ด อึดดีจัง อ๊าส์”
“ถ้าชอบก็มาหาผมอีกนะครับ” เขากัดฟันพูดเสียงกระเส่าแล้วตอกอัดเข้ามาอย่างไม่ยั้ง
รอบนี้ฉันที่เสียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ปิ่มจะถึงจุดหมายอีกรอบเพราะลีลากระแทกที่แสนดุดันของเขา
ปั่ก ปั่ก ปั่ก! เขากระแทกลงมาอย่างเน้นหนัก บดควงท่อนลำเข้ามาจนในที่สุดฉันก็ทนไม่ไหว
“อ๊าส์ แตกแล้ว” ฉันร้องเสียงหลงขึ้นมาอีกครั้ง
เขาซอยต่ออีกไม่กี่รอบก็ปล่อยน้ำรักออกมาเต็มเครื่องป้องกันแล้วเราก็ยิ้มให้แก่กันขณะพ่นเสียงหายใจหอบเหนื่อยออกมา
คืนนี้มันคุ้มค่ากับการเปิดใจของฉันจริงๆ
---------------------
หลังจากวันนั้นฉันก็ถวิลหาแต่รสสวาทของหนุ่มโฮสไม่หยุด ก่อนที่เราจะจากกันฉันถามชื่อเขาเอาไว้แล้ว และนัดแนะว่าคืนวันเสาร์นี้ฉันจะไปที่ร้านและไปเจอเขาฉันโทรชวนมิวให้ไปด้วย แต่เพราะว่าเธอติดธุระด่วนของที่บ้านจึงไม่ได้ไปด้วย ค่ำคืนนี้จึงมีแต่ฉันคนเดียวที่ไปเที่ยวตามลำพังฐานะการเงินของฉันอยู่ในระดับที่ดี ทั้งฉันและมิวผลัดกันเลี้ยงมื้อค่ำและเลี้ยงเครื่องดื่มกันอยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้ยังไม่ได้เลี้ยงเด็กโฮสเธอกลับก็คิดว่าจะเอาไว้วันหน้า คราวนี้ฉันขอไปเองตามนัดก่อนไม่อยากให้ ‘น้องปอน’ รอนานพอไปถึงฉันก็นั่งโต๊ะหน้าสุด แล้วมองดูปอนเดินไปมารอบเวที เขาเห็นฉันแล้วส่งยิ้มให้ พอเดินเสร็จฉันก็รีบเลือกเขาทันทีก่อนคนอื่นจะคว้าไป“สวัสดีครับพี่ดิว” เขาทักทายฉันเสียงนุ่ม แล้วเดินมานั่งข้างๆ มือวางไว้ที่ต้นขาฉันแล้วสบตาอย่างมีความหมาย“มาคนเดียวเหรอครับวันนี้”“มาคนเดียว แต่ว่าอยากเสียวกันสองคนได้ไหมล่ะ” ฉันพูดเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน แล้วมองเขาด้วยสายตาที่ปรารถนา หนุ่มๆ คนอื่นก็อยากลองควงออกไปบ้างแต่ว่าฉันเป็นประเภทที่ว่าถ้าได้ลองติดใจอะไรแล้วก็ไม่อยากเปลี่ยนเพราะเกรงว่าจะเจอสิ่งที่แย่กว่าเดิม ดังนั้นกา
คืนนี้ฉันไปที่แท่งทอง69 ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเจอคนรู้จักซึ่งเธอเป็นคนที่เคยเป็นคู่แข่งงานประมูลโครงการก่อสร้างกับฉันเมื่อเดือนที่แล้วเจ๊หญิงวัยสามสิบแปดเท่ากับฉันเธอนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ แล้วยิ้มมองฉันด้วยรอยยิ้มที่เหยียดยิ้มนิดๆ คงคิดจะบอกเป็นนัยๆ ว่าจะแข่งกับฉันในการประมูลหนุ่มๆ ป้ายทองแน่ๆการเดินแบบโชว์ตัวของบาร์โฮสหนุ่มๆ ผ่านไป ฉันเลือกปอนมานั่งเอาใจฉันเช่นเดียวกับเธอที่เลือกหนุ่มโฮสคนหนึ่งมานั่งข้างกาย“ลูกค้าคนนั้นมาบ่อยไหม” ฉันถามปอนแล้วพยักพเยิดไปทางเจ๊หญิง“มาบ่อยครับ แต่ส่วนใหญ่จะมาวันธรรมดา มีครั้งนี้ที่มาวันเสาร์” ปอนตอบฉันแล้วรินเครื่องดื่มพร้อมกับช่วยป้อนฉันอย่างเอาใจสายตาของเราสองคนมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แล้วเธอก็เหมือนจะท้าทายฉันโดยการชี้ไปยังตัวท็อปที่เต้นอยู่บนเวที“คืนนี้พี่จะประมูลหนุ่มโฮสบนเวทีแข่งกับเธอ” ฉันบอกปอนทำให้เขาลดยิ้มลงเล็กน้อย แต่ก็คงขัดฉันไม่ได้“อย่ากังวลไปหน่อยเลย คนที่จะขึ้นเตียงกับพี่ในคืนนี้ยังไงก็เป็นปอน” ฉันกระซิบบอกเขา เอาใจเด็กหนุ่มให้รู้ว่าฉันติดใจเขามากแค่ไหนหนุ่มโฮสหลักพันกับหลักหมื่นจะแตกต่างกันมากแค่ไหนเชียว ต่างก็แค่หน้าตาและราคาเท่าน
ปอนแต่งตัวในชุดธรรมดาแล้วไม่ได้เซ็ทผมอย่างตอนที่อยู่ในบาร์โฮส เขาดูหล่อและหน้าเด็กลงมากจนฉันรู้สึกเขินตัวเองในวัยสามสิบแปดปีเขาไม่อายเลยที่จะเดินจับมือฉันเดินในห้างสรรพสินค้าแบบนี้“ทำไมถึงมาทำงานนี้ล่ะ” ฉันตัดสินใจถามเขา อยากรู้ว่าเขาจะเล่าเรื่องได้น่าสงสารและรันทดมากแค่ไหน เพราะส่วนใหญ่มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว“ผมอยากได้เงินมาใช้จ่ายอย่างสะดวกสบายครับ งานประจำที่ทำอยู่เงินเดือนหมื่นต้นๆ อยากได้อะไรก็ลำบาก”“อืม แล้วครอบครัวปอนล่ะ เขาไม่ช่วยเหลือเหรอ”“พ่อแม่ผมพวกท่านก็หย่าร้างแยกย้ายกันไปมีครอบครัวใหม่ครับ พ่อก็อยากได้ผมไปอยู่ด้วย แม่ก็อยากได้ผมไปอยู่ด้วย ผมไม่อยากเลือกให้อีกฝ่ายต้องน้อยใจเลยตัดสินใจไม่เลือกอยู่กับใคร พ่อกับแม่ส่งเงินมาให้ทุกเดือนผมก็เอาเงินพวกนั้นจ่ายค่าผ่อนคอนโดไป” เขาบอกเรื่องราวที่ผิดคาดไปมากฉันได้แต่อมยิ้ม ไม่คิดเลยว่าเขาจะเล่าเรื่องจริงออกมาแบบนี้ คิดว่าจะแต่งเรื่องให้ฉันต้องสงสารเขาเสียอีก“แล้วทำงานที่นั่นเป็นยังไงบ้าง” ฉันถามเขาต่อเพื่อหาเรื่องชวนคุย“ก็เรื่อยๆ ครับ ส่วนใหญ่จะนั่งชงเครื่องดื่มรับทิป จะมีแขกพาขึ้นห้องหรือออกไปข้างนอกบ้างก็นานๆ ทีครับ พี่
วิไลพิลาศลักษณ์นั่งต่อหน้าฉันพร้อมกับแฟ้มเอกสารสมัครงานตำแหน่งวิศวกรที่มีคนเคยมาสมัครเอาไว้“คนมาสมัครก็เยอะนี่ ทำไมตำแหน่งนี้ยังว่าง” ฉันถามลูกน้องสาววัยไล่ๆ กับฉันด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ“คนที่มาสมัครแต่ละคนไม่มีประสบการณ์ทำงานเลยค่ะ บางคนก็พึ่งจบใหม่แต่ระบุเงินเดือนเหมือนตัวเองทำงานมาสิบปี แบบนี้ก็ไม่ไหว” เธออธิบายให้ฉันฟัง เหตุผลมันก็พอได้แต่ว่าฉันรู้สึกไม่เข้าหู“จบใหม่แล้วไง เราก็มีฝ่ายบุคคลไว้ทำไม การฝึกอบรมพนักงาน จัดอบรมความรู้และทักษะงานมันหน้าที่ฝ่ายเธอไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าไม่ให้เขาลองทำงานดูจะมีประสบการณ์ได้ยังไง” ฉันพูดเสียงเรียบแล้วค้นใบสมัครงานจนเจอใบสมัครของปอนฉันเลือกใบสมัครมาห้าคนแล้วยื่นให้เธอ “โทรนัดสัมภาษณ์ ฉันจะสัมภาษณ์พวกเขามาทำงานเอง”“ค่ะบอส” เธอรับปากแล้วรีบเดินออกไปด้วยสีหน้าที่ดูไม่พอใจเหมือนตัวเองถูกฉันก้าวก่ายการคัดเลือกใบสมัครฉันนั่งยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นก็รับสายจากนักสืบเอกชนที่ฉันจ้างให้ไปสืบประวัติเขา คนที่ฉันสนใจทุ่มแค่ไหนก็ไม่หวั่นจะว่าไปแล้วตอนแรกฉันไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ แต่หลังๆ มานี่หลงจนโงหัวไม่ขึ้นทั้งๆ ที่ตัวเองก็พยายามยับยั้งใจเอาไว้แล้ว“ว่าไง” ฉ
หมู่บ้านบัวงามเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล คนที่จะผ่านหมู่บ้านนี้ส่วนมากจึงเป็นนักเดินทางหรือนักท่องเที่ยว ที่มาแวะชมสระบัวก่อนจะเดินทางไปเที่ยวชมป่าที่มีลานกางเต็นท์ชมวิวที่อยู่ลึกเข้าไปใกล้กับเขตป่าสงวนนักท่องเที่ยวแวะมาถ่ายรูปสระบัวแล้วก็ผ่านหมู่บ้านไปเป็นเรื่องปกติที่เห็นได้อยู่บ่อยครั้ง แต่นักท่องเที่ยวที่จะมาพักที่หมู่บ้านนั้นไม่ค่อยมีให้เห็น“ผมอยากพักทำสารคดีที่หมู่บ้านนี้พอจะมีห้องเช่าหรือโฮมสเตย์หรือเปล่าครับ”ประโยคนั้นทำให้หลายคนมองเขาด้วยความสนใจ เป็นเวลานานหลายเดือนแล้วที่หมู่บ้านไม่มีนักท่องเที่ยวมาขอพักจึงทำให้ชาวบ้านตื่นเต้นมาก“มีจ้า เรามีโฮมสเตย์ให้พักอยู่กับชาวบ้าน” หญิงวัยกลางคนพูดแล้วเดินพาหนุ่มหล่อจากเมืองกรุงไปที่ทำการผู้ใหญ่บ้านเมื่อไปถึง ‘คเชนทร์’ ก็ยกมือไหว้ทักทายผู้ใหญ่บ้านและภรรยา คนที่พามาก็แนะนำเขาให้ทั้งคู่รู้จัก“นี่นักท่องเที่ยว เขาจะมาพักที่หมู่บ้านเพื่อทำสารคดี” หญิงวัยกลางคนที่ชอบใส่ใจเรื่องของคนอื่นบอกแล้วนั่งรอฟังไม่ยอมไปไหนผู้ใหญ่บ้านมองหน้าภรรยาแล้วพยักหน้าให้อย่างรู้กัน จากนั้นเธอก็เดินไปหยิบสมุดที่พักมาให้แก่ผู้ใหญ่บ้านเพื่อดูว่าตอนนี้ถึงครา
“เริ่มเลยสิจ๊ะ ฉันอยากได้แล้ว” เธอบอกเสียงกระเส่า นั่งพิงประตูรถแล้วแยกขาออกกว้างอย่างยั่วยวนเขาลุกขึ้นมองกลีบบัวสีหวานที่ฉ่ำน้ำนั้นอย่างชอบใจ ยื่นปลายนิ้วไปคลึงเม็ดเต่งตึงที่ถูกกลีบสวาทห่อหุ้มเอาไว้แล้วสบตาเธอไปด้วยอย่างคนที่หื่นกระหาย“กดนิ้วหนักๆ เลยจ้ะ อ๊าส์ เสียวจัง ซี๊ด” เธอครางเสียงเบา หลับตาพริ้มด้วยความสุขจากปลายนิ้วหนาที่บดคลึงอย่างหนักเน้น“บงกชสวยมาก สวยจนผมอดใจไม่ไหว” ริมฝีปากของเขาเลื่อนไปจูบไซ้ที่ซอกคอระหงของเธอ แล้วเลื่อนริมฝีปากผ่าวร้อนไปจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม“มันเสียวและร้อนไปทั้งตัวเลย อ๊าส์” เธอครางบอกเขาขณะที่อีกฝ่ายเลื่อนจูบไปที่เนินอกแล้วดูดเม้มปลายจุกอย่างบ้าคลั่งคเชนทร์ดูดจุกสีหวานนั้นอย่างมูมมาม ปลายนิ้วยังคงทำหน้าที่บดขยี้ความเสียวให้แก่หญิงสาวจนบงกชครางลั่นรถ“อยากเสียวหรือเปล่า พร้อมจะโดนเอารึยัง” เขาถามเสียงพร่าแล้วดูดเนินอกขาวเนียนนั้นจนเกิดรอยจ้ำสีกุหลาบช้ำ“อยากโดนเอาแล้ว ซี๊ด อยากโดนอะไรที่ใหญ่กว่านิ้ว และแข็งกว่าลิ้น” หญิงสาวกัดฟันพูดอย่างกลัดมัน แอ่นสะโพกรับปลายนิ้วที่ละเลงรัวเข้ามาไม่หยุด“ขึ้นมาขย่มเองสิครับ” เขากระซิบข้างหูเสียงเบาขอให้เธอเ
คเชนทร์ขับรถไปส่งบงกชที่บ้าน ระหว่างทางเธอปฏิเสธการรับผิดชอบจากเขาเพราะไม่อยากอับอายชาวบ้านที่ตนเองชิงสุกก่อนห่ามก่อนที่จะเดินทางไปยังบ้านยายแก้วที่บงกชชี้ให้ดู ชายหนุ่มกลับไปที่สระบัวงามอีกครั้ง แล้วใช้ถุงพลาสติกสวมมืออย่างระมัดระวังตักน้ำใสสระบรรจุใส่ขวดแก้วเตรียมจะไปส่งตรวจที่ศูนย์วิจัยที่เพื่อนของตนทำงานอยู่ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อคำพูดของบงกช หรือลบหลู่ทั้งๆ ที่เจอมากับตัวแล้ว แต่เพราะอยากได้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการอ้างอิงสิ่งที่เขาจะใส่ในสารคดีรถของชายหนุ่มมาจอดที่บ้านของยายแก้ว หญิงวัยหกสิบสองที่ยังดูแข็งแรงอยู่ จากนั้นหญิงสาววัยใกล้เคียงกับบงกชก็ออกมาต้อนรับเขาด้วยอาหารมื้อเย็นพร้อมกับผลไม้ที่แกะไว้ให้พร้อมรับประทาน“ฉันชื่อเกล้านะจ๊ะคุณ นี่เป็นรายละเอียดของโฮมสเตย์แห่งนี้ค่ะ” เธอแนะนำตัวด้วยท่าทางที่สดใส จากนั้นก็นำใบรายการราคาและกฎระเบียบการพักให้แก่เขาอ่าน“ครับ ผมคเชนทร์นะครับ เรียกว่าช้างก็ได้” เขาพูดอย่างเป็นกันเอง แม้รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยกับท่าทางอ่อยนิดๆ ของอีกฝ่ายแต่ก็ต้องเป็นผู้พักอาศัยตามมารยาท“ห้องนอนคุณช้างอยู่ชั้นสองด้านซ้ายมือนะคะ ห้องน้ำถ้าชอบแบบบรรยากาศชนบท
ในตอนสายบงกชเดินออกมาหน้าบ้านก็พบว่าคเชนทร์นั่งคุยกับบิดาของเธออยู่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม“บงกชมาพอดี เมื่อคืนบ้านยายแก้วเกิดเรื่องเลยให้คุณเขามานอนที่บ้านเรา เอ็งไปเตรียมห้องรับแขกให้ที” ผู้ใหญ่บ้านบอกลูกสาวแล้วยิ้มอย่างพอใจบงกชมองดูเหล้ายี่ห้อต่างประเทศในมือของบิดาก็พอรู้แล้วว่าถูกคเชนทร์ซื้อตัวไปเสียแล้ว“จ้ะพ่อ” เธอตอบรับแล้วขึ้นไปทำความสะอาดและจัดห้องนอนให้เขาผู้ใหญ่มองตามสายตาของคเชนทร์ก็พอรู้ว่าชื่นชอบลูกสาวของตน แต่ชายหนุ่มจากเมืองกรุงแบบนี้ไม่รู้จะไว้ใจได้ขนาดไหน“ลูกสาวข้าไม่ใช่ของเล่นให้ใครมาเล่นทิ้งๆ ขว้างๆ หรอกนะพ่อหนุ่ม” เขาพูดลอยๆ ขึ้นมา“ผมก็ไม่ได้คิดจะเล่นครับ” พูดจบเขาก็เปิดกระเป๋าล้วงนามบัตรให้แก่ผู้ใหญ่“พ่อแม่ผมเปิดร้านขายอาหารครับ ส่วนผมทำงานกับสำนักพิมพ์รับผิดชอบคอลัมน์สารคดีท่องเที่ยวแนวประวัติท้องถิ่น ฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้าแต่ก็ไม่มีหนี้สินใดๆ หากบงกชยอมเปิดใจให้ผม ผมจะให้พ่อแม่มาสู่ขอและพาไปอยู่ที่บ้านด้วย” เขาพูดออกมาตามตรงก่อนหน้านี้ไม่ได้รักแต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกดีด้วยมาก และความเป็นสุภาพบุรุษก็ทำให้เขาทอดทิ้งเธอไม่ได้“บ๊ะ! ไอ้นี่มันเข้าท่าเว้ย เอ
วิไลพิลาศลักษณ์นั่งต่อหน้าฉันพร้อมกับแฟ้มเอกสารสมัครงานตำแหน่งวิศวกรที่มีคนเคยมาสมัครเอาไว้“คนมาสมัครก็เยอะนี่ ทำไมตำแหน่งนี้ยังว่าง” ฉันถามลูกน้องสาววัยไล่ๆ กับฉันด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ“คนที่มาสมัครแต่ละคนไม่มีประสบการณ์ทำงานเลยค่ะ บางคนก็พึ่งจบใหม่แต่ระบุเงินเดือนเหมือนตัวเองทำงานมาสิบปี แบบนี้ก็ไม่ไหว” เธออธิบายให้ฉันฟัง เหตุผลมันก็พอได้แต่ว่าฉันรู้สึกไม่เข้าหู“จบใหม่แล้วไง เราก็มีฝ่ายบุคคลไว้ทำไม การฝึกอบรมพนักงาน จัดอบรมความรู้และทักษะงานมันหน้าที่ฝ่ายเธอไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าไม่ให้เขาลองทำงานดูจะมีประสบการณ์ได้ยังไง” ฉันพูดเสียงเรียบแล้วค้นใบสมัครงานจนเจอใบสมัครของปอนฉันเลือกใบสมัครมาห้าคนแล้วยื่นให้เธอ “โทรนัดสัมภาษณ์ ฉันจะสัมภาษณ์พวกเขามาทำงานเอง”“ค่ะบอส” เธอรับปากแล้วรีบเดินออกไปด้วยสีหน้าที่ดูไม่พอใจเหมือนตัวเองถูกฉันก้าวก่ายการคัดเลือกใบสมัครฉันนั่งยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นก็รับสายจากนักสืบเอกชนที่ฉันจ้างให้ไปสืบประวัติเขา คนที่ฉันสนใจทุ่มแค่ไหนก็ไม่หวั่นจะว่าไปแล้วตอนแรกฉันไม่สนใจเขาด้วยซ้ำ แต่หลังๆ มานี่หลงจนโงหัวไม่ขึ้นทั้งๆ ที่ตัวเองก็พยายามยับยั้งใจเอาไว้แล้ว“ว่าไง” ฉ
ปอนแต่งตัวในชุดธรรมดาแล้วไม่ได้เซ็ทผมอย่างตอนที่อยู่ในบาร์โฮส เขาดูหล่อและหน้าเด็กลงมากจนฉันรู้สึกเขินตัวเองในวัยสามสิบแปดปีเขาไม่อายเลยที่จะเดินจับมือฉันเดินในห้างสรรพสินค้าแบบนี้“ทำไมถึงมาทำงานนี้ล่ะ” ฉันตัดสินใจถามเขา อยากรู้ว่าเขาจะเล่าเรื่องได้น่าสงสารและรันทดมากแค่ไหน เพราะส่วนใหญ่มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว“ผมอยากได้เงินมาใช้จ่ายอย่างสะดวกสบายครับ งานประจำที่ทำอยู่เงินเดือนหมื่นต้นๆ อยากได้อะไรก็ลำบาก”“อืม แล้วครอบครัวปอนล่ะ เขาไม่ช่วยเหลือเหรอ”“พ่อแม่ผมพวกท่านก็หย่าร้างแยกย้ายกันไปมีครอบครัวใหม่ครับ พ่อก็อยากได้ผมไปอยู่ด้วย แม่ก็อยากได้ผมไปอยู่ด้วย ผมไม่อยากเลือกให้อีกฝ่ายต้องน้อยใจเลยตัดสินใจไม่เลือกอยู่กับใคร พ่อกับแม่ส่งเงินมาให้ทุกเดือนผมก็เอาเงินพวกนั้นจ่ายค่าผ่อนคอนโดไป” เขาบอกเรื่องราวที่ผิดคาดไปมากฉันได้แต่อมยิ้ม ไม่คิดเลยว่าเขาจะเล่าเรื่องจริงออกมาแบบนี้ คิดว่าจะแต่งเรื่องให้ฉันต้องสงสารเขาเสียอีก“แล้วทำงานที่นั่นเป็นยังไงบ้าง” ฉันถามเขาต่อเพื่อหาเรื่องชวนคุย“ก็เรื่อยๆ ครับ ส่วนใหญ่จะนั่งชงเครื่องดื่มรับทิป จะมีแขกพาขึ้นห้องหรือออกไปข้างนอกบ้างก็นานๆ ทีครับ พี่
คืนนี้ฉันไปที่แท่งทอง69 ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเจอคนรู้จักซึ่งเธอเป็นคนที่เคยเป็นคู่แข่งงานประมูลโครงการก่อสร้างกับฉันเมื่อเดือนที่แล้วเจ๊หญิงวัยสามสิบแปดเท่ากับฉันเธอนั่งอยู่โต๊ะข้างๆ แล้วยิ้มมองฉันด้วยรอยยิ้มที่เหยียดยิ้มนิดๆ คงคิดจะบอกเป็นนัยๆ ว่าจะแข่งกับฉันในการประมูลหนุ่มๆ ป้ายทองแน่ๆการเดินแบบโชว์ตัวของบาร์โฮสหนุ่มๆ ผ่านไป ฉันเลือกปอนมานั่งเอาใจฉันเช่นเดียวกับเธอที่เลือกหนุ่มโฮสคนหนึ่งมานั่งข้างกาย“ลูกค้าคนนั้นมาบ่อยไหม” ฉันถามปอนแล้วพยักพเยิดไปทางเจ๊หญิง“มาบ่อยครับ แต่ส่วนใหญ่จะมาวันธรรมดา มีครั้งนี้ที่มาวันเสาร์” ปอนตอบฉันแล้วรินเครื่องดื่มพร้อมกับช่วยป้อนฉันอย่างเอาใจสายตาของเราสองคนมองกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แล้วเธอก็เหมือนจะท้าทายฉันโดยการชี้ไปยังตัวท็อปที่เต้นอยู่บนเวที“คืนนี้พี่จะประมูลหนุ่มโฮสบนเวทีแข่งกับเธอ” ฉันบอกปอนทำให้เขาลดยิ้มลงเล็กน้อย แต่ก็คงขัดฉันไม่ได้“อย่ากังวลไปหน่อยเลย คนที่จะขึ้นเตียงกับพี่ในคืนนี้ยังไงก็เป็นปอน” ฉันกระซิบบอกเขา เอาใจเด็กหนุ่มให้รู้ว่าฉันติดใจเขามากแค่ไหนหนุ่มโฮสหลักพันกับหลักหมื่นจะแตกต่างกันมากแค่ไหนเชียว ต่างก็แค่หน้าตาและราคาเท่าน
หลังจากวันนั้นฉันก็ถวิลหาแต่รสสวาทของหนุ่มโฮสไม่หยุด ก่อนที่เราจะจากกันฉันถามชื่อเขาเอาไว้แล้ว และนัดแนะว่าคืนวันเสาร์นี้ฉันจะไปที่ร้านและไปเจอเขาฉันโทรชวนมิวให้ไปด้วย แต่เพราะว่าเธอติดธุระด่วนของที่บ้านจึงไม่ได้ไปด้วย ค่ำคืนนี้จึงมีแต่ฉันคนเดียวที่ไปเที่ยวตามลำพังฐานะการเงินของฉันอยู่ในระดับที่ดี ทั้งฉันและมิวผลัดกันเลี้ยงมื้อค่ำและเลี้ยงเครื่องดื่มกันอยู่บ่อยครั้ง ครั้งนี้ยังไม่ได้เลี้ยงเด็กโฮสเธอกลับก็คิดว่าจะเอาไว้วันหน้า คราวนี้ฉันขอไปเองตามนัดก่อนไม่อยากให้ ‘น้องปอน’ รอนานพอไปถึงฉันก็นั่งโต๊ะหน้าสุด แล้วมองดูปอนเดินไปมารอบเวที เขาเห็นฉันแล้วส่งยิ้มให้ พอเดินเสร็จฉันก็รีบเลือกเขาทันทีก่อนคนอื่นจะคว้าไป“สวัสดีครับพี่ดิว” เขาทักทายฉันเสียงนุ่ม แล้วเดินมานั่งข้างๆ มือวางไว้ที่ต้นขาฉันแล้วสบตาอย่างมีความหมาย“มาคนเดียวเหรอครับวันนี้”“มาคนเดียว แต่ว่าอยากเสียวกันสองคนได้ไหมล่ะ” ฉันพูดเสียงเบาให้ได้ยินกันสองคน แล้วมองเขาด้วยสายตาที่ปรารถนา หนุ่มๆ คนอื่นก็อยากลองควงออกไปบ้างแต่ว่าฉันเป็นประเภทที่ว่าถ้าได้ลองติดใจอะไรแล้วก็ไม่อยากเปลี่ยนเพราะเกรงว่าจะเจอสิ่งที่แย่กว่าเดิม ดังนั้นกา
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน อุตส่าห์ออกตัวกับเพื่อนเอาไว้แล้วว่าจะไม่พาเด็กบาร์โฮสต์ออกมาด้วย แต่ว่าตอนนี้เราสองคนยืนอยู่หน้าห้องพักของโรงแรมม่านรูดพร้อมหนุ่มโฮสข้างกายอีกสองคนมิวเปิดห้องสองห้องแล้วแยกกันไปคนละห้อง เพื่อที่จะใช้เวลาส่วนตัวกับหนุ่มหล่อที่พวกเราพาออกมาด้วย“เราไปอาบน้ำก่อนไหม” ฉันชวนเขาเสียงสั่นด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ฉัน ‘ซื้อกิน’“ได้สิครับเดี๋ยวผมจะขัดตัวให้พี่เอง รับรองว่าหอมตั้งแต่หัวยันหอยแน่ๆ” เขาพูดคำหยาบโลนออกมา แต่ทว่าฉันกลับรู้สึกสยิวหูเหลือเกินในเวลานี้เขาถอดเสื้อผ้าของฉันออกอย่างนุ่มนวลพร้อมกับใช้จมูกคลอเคลียที่ข้างแก้ม เสื้อผ้าถูกทิ้งกองลงกับพื้นจากนั้นเขาก็กอดเอวฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำฝ่ามือหนาลูบสบู่จนเกิดฟองแล้วละเลงไปทั่วร่าง นวดถูทำความสะอาดให้กับฉันสมกับเงินห้าพันที่เพื่อรักฉันพาเขาออกมาเพื่อเปิดโลกให้แก่ฉันเขาอาบน้ำให้เราทั้งคู่แล้วหลังจากนั้นเขาก็เริ่มพรมจูบฉันไปที่หัวไหล่ไล่ไปจนถึงหลังต้นคอ เป็นจูบที่รู้สึกนุ่มนวลและซ่านสยิวที่สุด คงเป็นเพราะความตื่นเต้นจึงทำให้ฉันรู้สึกอย่างมือของเขาลูบไล้ไปทั่วเนินสวาทและเต้าทั้งสองข้าง พร้อมๆ ก
แววตาของเพื่อนสาวที่มองด้วยความอ้อนวอนทำให้ฉันเริ่มใจอ่อนแต่ก็ยังลังเลกับคำชวนที่แสนห่ามนั้น“นะ นะ ดิว ไปเที่ยวบาร์โฮสเป็นเพื่อนฉันหน่อย ฉันจะออกเงินให้เธอเลย นะ นะ ได้โปรด” มิวยังคงอ้อนวอนไม่หยุด“ไม่เอาล่ะ ไม่เคยไป เราไปนั่งดื่มที่บาร์หาผู้ชายมาวันไนท์สแตนด์ด้วยจะไม่ดีกว่าเหรอ” ฉันลองออกความเห็นเสนออีกทางเลือกให้กับเพื่อนรัก“มันจะไปสนุกอะไรล่ะ อีกอย่างผู้ชายพวกนั้นน่ะก็หน้าเดิมๆ ไม่รู้ว่าจะวนเวียนมาเจอกันอีกตอนไหน หรือว่าจะเป็นคนใกล้ตัวของเราหรือเปล่า สู้ไปหาเด็กบาร์โฮสหล่อๆ เอาใจเก่งมาปรนนิบัติเราจะไม่ดีกว่าเหรอ” มิวยังคงพูดโน้มน้าวให้ฉันไปด้วยให้ได้ ท่าทางจะปฏิเสธยากเสียแล้วงานนี้“ไปก็ไป แต่ว่าฉันแค่ไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนนะ ไม่เอาผู้ชายพวกนั้นมานั่งคลอเคลีย ไม่ชินกับการถูกเอาใจ”“อย่าพึ่งพูดออกตัวไป ถ้าแกติดใจแล้วจะอายปากตัวเองนะจ๊ะ” มิวยิ้มแฉ่งแล้วส่งโลเคชั่นมาให้ฉัน“ร้านแท่งทอง69” ฉันอ่านชื่อร้านแล้วสยิวท้องน้อยตั้งแต่ยังไม่ไป แค่ชื่อร้านก็เสียวไส้แล้ว“แกจะไปเที่ยวเฉยๆ หรือว่าคิดจะพาออกมาด้วย” ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่สงสัยทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้วแต่ก็อยากฟังจากปากเธอชัดๆ“ไปขนา
งานแต่งงานของเอมอรและซันได้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น งานฉลองแต่งงานก็เต็มไปด้วยความสนุกสนานของหนุ่มสาวในขณะที่ญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวแยกย้ายไปพักตามห้องพักที่จัดไว้ให้เพื่อนเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าวต่างก็ฉลองกันต่ออย่างสนุกสนานทิ้งท้ายงานฉลองแต่งงานอย่างสุดเหวี่ยงสุพิตที่พกสามีและลูกมาด้วยนั้นขอกลับไปก่อน ส่วนฤดีที่เป็นทั้งออแกไนเซอร์และเพื่อนเจ้าสาวไม่ได้ดื่มเหล้าและจะอยู่ดูแลงานจนถึงนาทีสุดท้าย“ฉันต้องกลับแล้วนะ เมามากแล้ว” รตีบอกเอมอรแล้วเข้าไปสวมกอดพร้อมกับอวยพรอีกรอบ“กลับไหวไหม ไม่ไหวนอนพักที่นี่สิ ฉันว่าต้องมีสักห้องแหละที่ว่างต้อนรับแก” เอมอรพูดแล้วปรายตาไปยังเพื่อนเจ้าบ่าวในชุดสูทสีฟ้าสามคนที่จ้องมองมาทางรตีด้วยสายตาที่มีความหวังพวกเขาเห็นรตีหันมามองก็รีบลุกขึ้นต่างอาสาจะพาเธอไปส่งกันทั้งนั้น“งั้นฉันขอตัวล่ะ มีความสุขมากๆ นะเอม คุณซัน” รตีอวยพรอีกครั้งแล้วเดินออกไปหาสามหนุ่มก่อนจะเดินเข้ามาพูดกับเธอต่อหน้าเจ้าบ่าวและแขกคนอื่นที่ยังนั่งดื่มต่อทั้งสี่คนเดินออกไปนอกห้องจัดงาน แล้วสามหนุ่มก็เริ่มแย่งเพื่อนเจ้าสาวกันทันที“คืนนี้น่านไปนอนกับธาร ฉันจะนอนอีกห้องกับคุณรตี” ภูผาบอ
วันต่อมาภูผาและน่านฟ้าก็ตามมาถึง น่านฟ้าถึงกับอดหมั่นไส้น้องชายไม่ได้ที่อีกฝ่ายโทรไปอวดว่าได้สนุกกับรตีก่อนตนซึ่งเป็นพี่“เด็ดอยู่บ้อธาร” ภูผาถามน้องชาย“เด็ดหลายครับอ้าย ขึ้นขี่ผมเด้งหน้าเด้งหลัง มีแฮงหลาย เอากันจนขาหล่อยเบิ่ด” ธารบอกแล้วยิ้มร่าอย่างพอใจ“อ้ายภูกับบักธารได้ไปแล้ว ต่อไปตาข้อยเด้อ” เขาบอกพี่ชายน้องชายด้วยภาษาบ้านเกิด จากนั้นก็เดินไปหารตีที่กำลังวุ่นกับการต้อนรับญาติๆ เข้าห้องพักตามหน้าที่ที่เธอรับอาสา“เหลืออีกเยอะไหมครับ ให้ผมช่วยไหม”“เหลือพ่อแม่เจ้าบ่าวน่าจะมาถึงช่วงเย็นค่ะ เห็นว่าแวะรับญาติคนอื่นมาด้วย”“ลุงกับป้าผมแก่แล้วครับ เมารถง่ายคนขับเลยต้องมาช้าๆ หน่อย” เขาบอกเธอแล้วมองด้วยสายตาที่มีความหวัง“เอ่อ...รอเสร็จงานพรุ่งนี้ก่อนไหมคะ” เธอบอกเขาอย่างรู้เท่าทันความคิด“ไม่ไหวหรอกครับ คนอื่นได้ไปหมดแล้วแต่ผมยังไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้วันนี้พรุ่งนี้ผมคงไม่สดชื่นแน่” เขาพูดแล้วทำตาปริบๆ อย่างอ้อนวอน“ก็ได้ค่ะ” เธอรับปากแล้วยิ้มอย่างชอบใจ หนุ่มๆ พวกนี้ท่าทางจะขาดของหนัก แต่ละคนมาถึงก็อยากมีแฮงกับเธอเหลือเกิน สงสัยว่าถ้าไม่ได้ก็คงจะรบเร้าไม่หยุดเขาพาเธอไปยังห้องพักของตนแล้วย
อีกสองวันก็จะถึงงานแต่งงานของเอมอรและซันแล้ว เพื่อนเจ้าสาวล่ารักอย่างรตีจึงต้องช่วยเพื่อนเตรียมงานเช่นเดียวกับเพื่อนเจ้าสาวอีกสองคนสุพิตช่วยดูแลเรื่องช่างแต่งหน้าที่จะมาแต่งหน้าให้ในงาน ส่วนฤดีที่เป็นออแกไนเซอร์อยู่แล้วก็ทำงานตามหน้าที่ของตนโดยมีทีมงานคุณภาพคอยช่วยเหลือรตีช่วยตรวจสอบความเรียบร้อยของสถานที่จัดงานซึ่งใช้โรงแรมเป็นที่จัดงานและประสานงานห้องพักของญาติเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ใช้พักในช่วงจัดงาน รวมไปถึงห้องที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวใช้แต่งตัวซึ่งเหมาเช่าชั้นห้าทั้งชั้นเอาไว้ในงานนี้“สวัสดีครับคุณรตี” ธารที่มาถึงโรงแรมก่อนคนแรกทักทายเธอด้วยน้ำเสียงที่สดใส“มาไวจังเลยค่ะ โรงแรมจะเปิดให้พักในวันพรุ่งนี้ก่อนวันงานหนึ่งวันนะคะ” เธอบอกเขาเมื่อเห็นอีกฝ่ายที่ล็อบบี้“ผมเปิดห้องที่ชั้นเจ็ดไว้แล้วครับ พรุ่งนี้ค่อยย้ายมาชั้นห้า” เขาพูดแล้วยิ้มให้เธอพร้อมกับรอยยิ้มที่มีความหมาย“แล้วนี่เราเจอกันโดยบังเอิญหรือว่ารู้อยู่แล้วคะว่ารตีอยู่ที่นี่” เธอกอดอกถามเขา เข้าใจความหมายในแววตานั้นดี“ผมมาล่วงหน้าก่อนหนึ่งวันเพื่อมาหาคุณรตีโดยเฉพาะครับ โทรถามคุณเอมแล้วเธอบอกว่าคุณมาที่นี่ผมเลยมาพักที่นี่” เขาพูดแล