Share

21 สอนลูกนับเลข

last update Last Updated: 2025-02-07 10:12:47

หลังจากที่ครอบครัวของป้าสะใภ้จากไป ลู่หยางและไป๋ถัง

ก็เดินกลับบ้าน โดยผ่านหอพักเยาวชนที่มีการศึกษาโดยไม่แวะเลยสักนิด

สวีจ้าวยืนอยู่ที่มุมประตู มองดูด้านหลังของ ไป๋ถังที่เดินจากไปโดยไม่หันมามอง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน

ทำไมหญิงสาวถึงไม่มา

เธอไม่อยากแต่งงานกับเขาแล้วงั้นหรอ!

หลังจากกลับบ้าน ลู่หยางไปทำปลาต้มมันฝรั่ง และแป้งข้าวโพดจี่ เป็นอาหารมื้อเช้า ส่วนไป๋ถังเล่นกับเด็กสองคนอยู่ที่ลานหน้าบ้าน

เมื่อเห็นกลุ่มมดเดินกันเป็นแถว เสี่ยวเป่าก็นั่งยอง ๆ และนับจำนวนพวกมันด้วยใบหน้ามีความสุข

“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หนึ่ง สอง สาม...ห้า หนึ่ง...” เด็กน้อยนับหนึ่งได้ถึงห้าเท่านั้น เมื่อเขาถึงเลขห้าก็จะย้อนกลับไปนับเลขหนึ่งใหม่

ไป๋ถังไม่ได้สนใจในตอนแรก แต่หลังจากฟังเขาพูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง เธอก็นึกสงสัย “เสี่ยวเป่า นับเลขได้ถึงห้าเท่านั้นหรือ”

เสี่ยวเป่านั่งลงบนพื้นแล้วหันกลับมา เขาพยักหน้า “แม่ เสี่ยวเป่าฉลาดไหม”

ไป๋ถังหัวเราะแล้วสัมผัสศีรษะเล็กๆ ของเขา “ใช่ ฉลาดมาก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ต้าเป่าก็ยกคางขึ้นแล้วพูดขึ้นมาเพื่อให้แม่ชมเชย “แม่...ผมเป็นคนสอนน้องชายเอง”

“จริงเหรอ ต้าเป่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   22 ครอบครัวลุงที่เห็นแก่ตัว

    อีกด้านหนึ่งครอบครัวของ ลู่เฉิงกำลังกินอาหารเช้ากันด้วยความไม่สบอารมณ์ในขณะที่กินข้าวหลี่กุ้ยหลันก็ยังคงด่าทอไป๋ถังไปด้วย ทุกคำพูดล้วนสบถออกมาจนหมดไม่ว่าจะเป็นไร้ยางอายหรือโสเภณีลี่จูกินโดยที่เอาแต่ก้มหน้า เธอไม่กล้าส่งเสียงออกมาเพราะกลัวว่า แม่สามีและสามีของเธอจะลุกขึ้นได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้มีต้นเหตุมาจากที่เธอไปหาเรื่องไป๋ถังก่อนโชคดีที่ความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดของแม่สามีล้วนไปลงที่ไป๋ถัง “แม่ เลิกโมโหเถอะกินข้าวให้อิ่มก่อน...เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้เอง!” ลู่เฉิงคีบผักดองลงในชามให้กับแม่หน้าอกของหลี่กุ้ยหลันกระเพื่อมขึ้นลงด้วยความหงุดหงิด “จะไม่ให้ฉันโมโหได้อย่างไร วันนี้ครอบครัวของพวกเราเสียหน้ามากจริงๆ!”หญิงวัยกลางคนหันไปถามลูกชายของเธอว่า “เมื่อสักครู่นี้แกบอกว่าจะจัดการเอง แล้วแกมีวิธีการอะไรที่จะจัดการพวกมันหรอ”ลู่เฉิงกัดฟันและพูดว่า “แม้ว่าผมจะสู้มันด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ แต่ผมเรียกต้าเว่ยมาจัดการพวกมัน ผมไม่เชื่อหรอกว่าคนสองคนจะจัดการไอ้ตัวไร้ค่าคนนั้นไม่ได้”ต้าเว่ยเป็นเพื่อนจากหมู่บ้านเดียวกันที่ออกมาช่วยลู่เฉิงในวันนี้ เขาเป็นชายร่างใหญ่ที่ออกมาตำหนิลู่

    Last Updated : 2025-02-07
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   23 แม่หอมแก้มพ่อด้วยสิ

    ชีวิตประจำวันของพ่อแม่มือใหม่ทั้งสองคือทำงานและเลี้ยงดูลูก ไป๋ถังมีหน้าที่อยู่เป็นเพื่อนๆ คอยดูแลเด็กๆ อยู่ที่บ้านส่วนชายหนุ่มช่วงเช้าไปทำงานรับแต้มค่าแรงในไร่ ส่วนตอนบ่ายขึ้นเขาออกไปล่าสัตว์ บางวันได้ปลา บางวันได้ไก่ป่าผ่านไปหลายวันชีวิตของพวกเขาก็สงบสุขดี มีเนื้อสัตว์ให้กินทุกวัน ใบหน้าของเด็กน้อยทั้งสองก็เริ่มผ่องใสมีเลือดฝาดขึ้นมาส่วนฆาตกร เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับตัวเขาได้ ในหมู่บ้านก็ไม่มีข่าวคราวอะไรเพิ่มเติมเช้านี้ก็เป็นอีกวันที่ธรรมดา ไป๋ถังยกจานแป้งข้าวโพดจี่ออกมา ส่วนลู่หยางก็ถือถ้วยซุปปลาออกมาพร้อมกับชามเปล่าอีกสี่ใบเด็กน้อยทั้งสองอยากจะไปช่วยพ่อยกชามด้วยความกระตือรือร้น “ไม่เป็นไรหรอกลูก พ่อยกเองได้ พวกลูกไปนั่งรอเถอะ”ไป๋ถังกวักมือให้เด็กๆ มานั่งที่เก้าอี้ตัวเล็ก “ต้าเป่า เสี่ยวเป่า รีบมานั่งเร็ว”เด็กทั้งสองวิ่งกลับไปและนั่งอย่างเชื่อฟังบนม้านั่งตัวเล็ก สายตาคอยจ้องมองที่จานแป้งจี่และซุปปลาที่อยู่ตรงหน้าเด็กน้อยดีใจมากที่ทุกวันได้กินอาหารอย่างเต็มอิ่มลู่หยางวางชามไปตรงหน้าเด็กสองคน และคีบแป้งข้าวโพดจี่ใส่ชามให้พวกเขา “พวกลูกรีบกินเถอะ…รสชาติของน้ำซุปจะอร่อ

    Last Updated : 2025-02-07
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   24 เงินหนึ่งร้อยหยวนได้หายไปแล้ว

    เสี่ยวเป่ามองพ่อทีวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยหันกลับมา “แม่ ทำไมพ่อถึงไม่หอมแก้มแม่เหมือนพวกเราล่ะ” ต้าเป่า ก็มองตามด้วยความสงสัยเช่นกัน ไป๋ถังลูบศีรษะของพวกเขาเบาๆ แล้วหัวเราะออกมา ดูเหมือนว่าสหายลู่หยางของเธอจะรุกกลับเป็นเสียด้วย เรื่องนี้ทำให้หญิงสาวยิ้มจนแก้มแทบปริ “มันเป็นการแสดงความรักของพ่อกับแม่ เอาละ…พวกลูกมากินกันต่อเถอะ” หญิงสาวกลัวว่าเด็กน้อยทั้งสองจะพูดถึงเรื่องเมื่อสักครู่อีก จึงเบี่ยงเบนความสนใจของพวกเขา “พวกเรามาแข่งกันดีกว่า ใครกินหมดคนสุดท้ายจะต้องเป็นคนล้างจาน! มาเริ่มเลย…สาม สอง หนึ่ง!” เธอนับถอยหลังแล้วกัดแป้งจี่เข้าปากอย่างรวดเร็ว ต้าเป่าและเสี่ยวเป่าตกใจเพราะเห็นผู้เป็นแม่กินแป้งข้าวโพดจี่อย่างรวดเร็วในคำเดียว พวกเขาจึงรีบกินแป้งจี่ในมือบ้าง แต่ว่าขณะที่กำลังกินต้าเป่าก็เจตนาลดความเร็วลง เพื่อจะให้ตนเองกินหมดเป็นคนสุดท้าย ท้ายที่สุดต้าเป่าก็ได้เป็นคนล้างจาน ไป๋ถังรู้สึกไม่ดีที่ปล่อยให้เด็กล้างจานอีกครั้ง เธอนั่งยองๆ ข้างอ่างและมองไปที่เด็กน้อยสองคนทางด้านซ้ายและขวา ความจริงต้าเป

    Last Updated : 2025-02-07
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   25 แรงมาด่ากลับ

    ในขณะนี้บริเวณลานนวดข้าว มีชาวบ้านในหมู่บ้านมารวมตัวกันมากกว่าครึ่ง ทุกคนอยู่ในอาการตื่นตระหนก บางคนรีบเข้าไปสอบถามหลี่กุ้ยหลันถึงเหตุการณ์ที่เธอได้เผชิญหน้ากับฆาตกร“ฆาตกรมาที่หมู่บ้านของเราจริงหรือ”“หลี่กุ้ยหลัน วิ่งมาจากทุ่งข้าวโพด ฆาตกรก็น่าจะซ่อนตัวอยู่ในทุ่งข้าวโพดใช่ไหม”“แย่แล้ว ลูกชายของฉันยังทำงานอยู่ที่ทุ่งข้าวโพด!”ชาวบ้านพูดคุยกันเสียงดังหึ่งๆ ราวกับผึ้งแตกรัง แต่ในเวลานี้หัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้สนใจที่จะห้ามปรามพวกเขา หัวหน้าหมู่บ้านรีบบอกให้หลี่กุ้ยหลันพูดถึงเหตุการณ์ที่ได้พบกับฆาตกรให้กับตำรวจฟัง“คุณพบเจอกับฆาตกรที่ไหนหรือครับ”หลี่กุ้ยหลันยังคงตกใจ แต่เมื่อคิดถึงเงินก้อนโตหนึ่งร้อยหยวนที่เธอกำลังจะได้รับ หญิงวัยกลางคนก็พยายามสงบสติอารมณ์และพูดว่า “ในสวนข้าวโพดฝั่งตรงข้าม ฉันเห็นเสื้อผ้าเปียกๆ ที่มีคราบเลือดถูกถอดอยู่ในป่าข้าวโพด ฉันคิดว่ามันต้องเป็นเสื้อของฆาตกรแน่ๆ”หลี่กุ้ยหลันชี้นิ้วไปที่ฝั่งตรงข้ามของทุ่งข้าวโพดที่มีลำต้นสูงกว่าหัวคน ข้าวโพดในแปลงนั้นยังเป็นต้นสีเขียวชอุ่ม เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ส่วนมากชาวบ้านไม่ได้ค่อยไปที่นั่นแล้วทำไมหลี่กุ้ยหลันถึงได้

    Last Updated : 2025-02-07
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   26 ร้อยหยวนต้องเป็นของฉัน

    หลังจากหลี่กุ้ยหลันเอ่ยขอโทษไป๋ถัง เธอก็อุ้มหลานชายไว้บนตัก และหยอกล้อเขาเล่นอย่างอารมณ์ดี เพราะคิดถึงเงินรางวัลที่จะได้รับ หยอกไปหยอกมาหลานชายของเธอก็บอกว่าปวดฉี่ เด็กผู้ชายมักจะถอดกางเกงและปล่อยเบาที่ข้างถนนเป็นปกติอยู่แล้ว หลี่กุ้ยหลันชี้ไปที่ป่าไผ่ฝั่งตรงข้ามที่อยู่ไม่ไกล “ไปตรงโน้น”ป่าไผ่อยู่ไม่ไกลจากลานนวดข้าว ด้านล่างเป็นทางลาดเอียง และมีบ่อขยะอยู่ ปกติชาวบ้านจะทิ้งพวกเศษอาหารไว้ที่นี่ พอเน่าก็จะกลายเป็นปุ๋ย ทำให้ต้นไผ่สูงและหนาทึบ แต่ข้อเสียคือทำให้ลำต้นของกอไผ่มีเชื้อราสีขาว บางต้นก็กลายเป็นสีดำ เมื่อเดินผ่านบางครั้งก็ได้กลิ่นที่ไม่ดีเสี่ยวต้านหลานชายของหลี่กุ้ยหลันไม่กล้าไปคนเดียว ดังนั้นเขาจึงจับมือผู้เป็นย่าและขอให้เธอไปกับเขา หลี่กุ้ยหลันตามใจหลานชายและพาเขาเดินไปที่นั่น เธอถอดกางเกงของเด็กน้อยและปล่อยให้เขาทำธุระส่วนตัวเรื่องเช่นนี้พบเห็นได้ทั่วไปในชนบทและไม่มีใครให้ความสนใจมากนักในเวลานี้ชาวบ้านที่รวมตัวกันอยู่ในความตื่นกลัว พยายามมองไปรอบๆ กลัวว่าฆาตกรจะโผล่มาไป๋ถังมองไปที่ทางเดินฝั่งตรงข้ามเช่นกัน เธอเห็นลู่หยางกำลังเดินมาที่ลานนวดข้าวแห่งนี้ ในมือของเขาถือไก่ป่า

    Last Updated : 2025-02-07
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   27 โต้เถียง

    หลังจากที่หลี่กุ้ยหลันพูดออกมา บรรยากาศโดยรอบก็เงียบลงทันทีอะไรกัน!หลี่กุ้ยหลันไม่ต้องการแบ่งเงินรางวัลกับไป๋ถัง และยังโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วยนี่หล่อนเสียสติไปแล้วอย่างนั้นหรือ!ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ไป๋ถังเป็นจับฆาตกรได้ด้วยตนเอง แค่เรื่องที่เธอช่วยชีวิตของหญิงวัยกลางคนผู้นี้และหลานชายเอาไว้ ขอเพียงแค่มีจิตสำนึกเพียงเล็กน้อยก็ต้องรู้จักวิธีตอบแทนน้ำใจอย่างเช่นเป็นฝ่ายผู้ที่จะให้เงินแทนไม่ใช่หรือสุดท้ายนอกจากที่หลี่กุ้ยหลันจะไม่รู้จักบุญคุณ ยังมีความคิดที่จะไม่แบ่งเงินรางวัลในการจับฆาตกรให้อีกด้วยสหายตำรวจคิดว่าเขาได้ยินผิดและถามอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจ “คุณป้าหมายถึงว่าจะไม่ยอมแบ่งเงินรางวัลกับสหายไป๋ถังอย่างนั้นหรือครับ”หลี่กุ้ยหลันรีบพูดขึ้นมา “แน่นอน ฉันไม่ต้องการแบ่งรางวัลกับมัน สำนักงานตำรวจบอกว่าจะมอบเงินหนึ่งร้อยหยวนให้กับคนที่พบเบาะแสฆาตกรไม่ใช่หรือ นางเด็กคนนี้เจอฆาตกรทีหลัง...ดังนั้นฉันไม่ต้องการแบ่งเงินรางวัลของฉันให้มัน!”นั่นคือเงินหนึ่งร้อยหยวน เงินเดือนมากกว่าลูกชายเธอได้เกือบครึ่งปีเชียวนะ!สำหรับชาวนาเช่นพวกเขา เป็นเรื่องยากที่จะหาเงินได้หนึ่งร้อยหยวนได้ใ

    Last Updated : 2025-02-07
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   28 ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ

    หัวหน้าหมู่บ้านไม่อยากฟังสองครอบครัวนี้ทะเลาะกันอีกเขาจึงตัดสินใจสรุปออกมา “เมื่อสักครู่สหายตำรวจก็บอกแล้วว่าเงินจะถูกตัดสินโดยผู้บังคับบัญชาของเขา หลี่กุ้ยหลันต่อให้คุณมาโวยวายอยู่ที่นี่ ก็เปลี่ยนแปลงจำนวนเงินไม่ได้ รีบแยกย้ายกันได้แล้ว”ไป๋ถังพยักหน้าอยากเห็นด้วย “ถ้าอย่างนั้นก็รอให้สหายตำรวจแบ่งเงินมา ทางการให้มาเท่าไหร่ฉันก็รับเท่านั้น ““ฉัน... “หลี่กุ้ยหลันโกรธจนพูดไม่ออก เดิมทีเธอต้องการโต้เถียงกับไป๋ถัง และขอให้หัวหน้าหมู่บ้านมอบเงินให้กับครอบครัวของพวกเธอมากขึ้นแต่หัวหน้าหมู่บ้านกลับไม่ฟังคำพูดโต้แย้งของตน ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!เงินหนึ่งร้อยหยวนมันควรจะเป็นของเธอทั้งหมด!หลี่กุ้ยหลันด้วยความโกรธและรู้สึกเสียดายเงิน จึงพูดเรื่องในอดีตออกมา “เอาล่ะ ในเมื่อพวกแกไม่ได้เห็นครอบครัวของฉันเป็นญาติ ถ้าอย่างนั้นก็คืนอาหารที่ยืมไปกลับมาให้หมด!”ลู่เฉิงเมื่อได้ยินคำพูดของพ่อคุณแม่เขาก็รีบสนับสนุน “ใช่…คืนอาหารมา!”ในขณะนี้ทั้งสองคนพูดเช่นนี้บรรดาชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ชี้ไปที่พวกเขา“พวกแกช่างไร้จิตสำนึกเสียจริง! ไป๋ถังเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือพวกแกนะ!”“ในเมื่อต้องการแยกแยะให้ชัดเจน ถ้าอ

    Last Updated : 2025-02-07
  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   29 ต่อสู้(เพาะ)รัก Nc เล็กน้อย

    หลี่กุ้ยหลันเฝ้าดูลู่หยางและไป๋ถัง นำอาหารของเธอไป หัวใจของหญิงวัยกลางคนราวกับว่ากำลังถูกควักออกมา แน่นอนว่าไป๋ถังและลู่หยางเป็นคนโหดเหี้ยมมาก ไม่ต้องพูดถึงมันฝรั่งที่พวกเขาหยิบไปมากกว่าครึ่งถุง ซึ่งสิ่งนี้หลี่กุ้ยหลันยังพอจะรับได้เพราะมันไม่ได้มีค่ามากนัก แต่ว่าผักใบเขียวจำพวกกวางตุ้ง พริกสด มะเขือม่วง ผักกาด แตงกวา และหัวไชเท้าขาวที่นางเก็บสะสมไว้ล้วนถูกสองสามีภรรยาคู่นี้นำออกไปมากกว่าครึ่งเช่นกัน ในตอนท้ายก่อนที่จะออกจากห้องครัวไป ไป๋ถังก็บอกกับลูกฝาแฝดทั้งสองด้วยรอยยิ้มสดใสแต่ในสายตาของหลี่กุ้ยหลิน ก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังเยาะเย้ยตัวเอง “ต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าพวกลูกขอบคุณปู่ใหญ่ด้วยสิ วันนี้ครอบครัวของเรามีผักให้กินเพราะว่าความใจดีของคุณปู่ใหญ่เชียวนะ” ต้าเป่าและเสี่ยวเป่าถือมะเขือม่วงและผักกาดไว้ในอ้อมแขน เด็กน้อยทั้งสองพูดขอบคุณอย่างเชื่อฟัง “ขอบคุณครับ คุณปู่ใหญ่” หลี่กุ้ยหลัน ในเวลานี้เธอสงบสติอารมณ์แล้วและไม่เสียใจอยู่ไม่น้อย เพียงแค่ต้องการแย่งเงินรางวัลมาเป็นของตนแต่เธอกลับเป็นฝ่ายเสียหน้าและสูญเสียทั้งอาหารไป! ความโกรธพุ่งถึงขีดสุดมาถึงลำคอ แต่หญิงวัยกลางคนก็ไม่สามาร

    Last Updated : 2025-02-07

Latest chapter

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   50 อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า

    ลู่ซีซีโทรกลับไปหาที่บ้านและบอกว่าตอนนี้เธอได้อยู่กับพี่ชายคนรองเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นพ่อคือคนที่มารับสาย“ลูกดูแลตัวเองดีๆ นะ รีบพักผ่อนเถอะ”ลู่หยางวางสายแล้วถอนหายใจออกมาไป๋ถังที่นั่งอยู่ด้านข้างยิ้มอย่างเข้าใจ “เริ่มคิดถึงลูกสาวแล้วใช่ไหมคะ” เธอจับมือของสามีเอาไว้และพูดปลอบใจ “ลูกๆ ของเราทุกคนโตขึ้นทุกวัน พวกเขาย่อมต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง”ลู่หยางเข้าใจในข้อนี้ดี แต่เขาก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้ “ซีซีเป็นเด็กผู้หญิง เธอไม่เคยออกจากบ้านไปอยู่ในที่ไกลๆ นานแบบนี้”“ตอนนี้คุณต้องทำใจไว้ให้ชินเถอะค่ะ ในอนาคตลูกสาวของเราก็จะต้องแต่งงาน” ไป๋ถังพูดแกล้งอีกฝ่าย“ลูกเขยในอนาคตของผมต้องสามารถดูแลซีซีของเราได้ ถ้าหาลูกเขยไม่ได้จริงๆ พวกเราก็แค่เลี้ยงดูเธอไปตลอดเท่านั้น”“ช่างเถอะค่ะ ฉันไม่คุยกับคุณเรื่องนี้แล้ว ยิ่งแก่คุณก็ยิ่งเรื่องมากนะคะ” ไป๋ถังบ่นแล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องลู่หยางได้ยินเธอบ่นว่าตนเองแก่ เขาก็รีบตามเข้าไปในห้องเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองไม่ได้แก่อย่างที่เธอคิด“ผมแก่อย่างที่คุณว่าอยู่หรือเปล่าครับ” ลู่หยางถามขณะทาบทับอยู่บนหลังของเธอไป๋ถังส่งเสียงครางในลำคอ มือทั้งสองกุมผ้าห่มใต้ร่

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   49 คิดถึงคนที่บ้าน

    ในปี 1999 ไป๋ถังได้นำเข้าคอมพิวเตอร์มาจากต่างประเทศ เธอเปิดร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่หลายสาขาแม้จำนวนเกมส์ในเครื่องจะมีไม่มากแต่พวกเด็กวัยรุ่นก็นิยมเข้ามาเล่นเป็นจำนวนมากเพราะว่ารู้สึกว่ามันแปลกใหม่ กิจการนี้เฟื่องฟูจนทำให้ครอบครัวของเธอยิ่งร่ำรวยมากขึ้นกว่าเดิม เรียกได้ว่าเหลือกินเหลือใช้จนถึงรุ่นเหลนฝาแฝดทั้งสองในปีนี้มีอายุได้ยี่สิบสองปี ลู่เจี้ยนลูกชายคนโตชอบเรียนหนังสือ ตอนนี้เขากำลังจะเรียนต่อปริญญาโทและในอนาคตอาจจะเรียนต่อปริญญาเอกต่อไป ซึ่งลู่หยางและไป๋ถังสนับสนุนลูกทุกคนให้ทำตามสิ่งที่ชอบอย่างเต็มที่โดยไม่บังคับใดๆส่วนลู่จวิ้นลูกชายคนรองชอบทำธุรกิจ เขาชื่นชอบธุรกิจสื่อบันเทิง จึงตั้งบริษัทเพื่อซื้อภาพยนตร์ในวงการฮอลลีวูดมาฉายภายในประเทศ ซึ่งธุรกิจนี้สร้างเม็ดเงินให้กับเขาเป็นจำนวนมาก ชายหนุ่มจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างประเทศ เพื่อสรรหาภาพยนตร์ที่น่าสนใจเข้ามาฉายและปีนี้ลู่ซีซีลูกสาวคนเล็กอายุสิบเจ็ด เพราะเข้าเรียนเร็ว เธอจึงจบระดับมัธยมปลายตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ โดยมีลู่จวิ้นที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศนั้นคอยดูแลวันนี้ลู่หยาง ไป๋ถังและลู่

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   48 สือหยง

    แม้ว่าลู่หยางและลูกชายทั้งสองจะพยายามขัดขวาง ไม่ให้ลู่ซีซีได้เข้าใกล้กับผู้ชายมากเกินไป แต่ไป๋ถังค่อนข้างเปิดกว้างในเรื่องนี้และต้องการให้ลูกสาวมีเพื่อนเพิ่มหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ในปี 1985 ลู่ซีซีมีอายุได้สามขวบ ขณะที่เธอกำลังขี่จักรยานอยู่ในสนามเด็กเล่น ก็มีเด็กชายตัวเล็ก ๆ วิ่งเข้ามาหาและชวนเธอพูดคุยด้วย “น้องสาว หยุดจักรยานก่อน ฉันขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ซีซีหยุดและหันหน้าไปหาเขา ดวงตากลมโตฉายแววสงสัย “พี่ชาย มีอะไรจะคุยกับซีซีเหรอคะ” เด็กน้อยมีท่าทีเขินอาย “ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอ” “ได้สิค่ะ” ซีซีตอบด้วยรอยยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มของเธอ เด็กชายเมื่อเห็นลักยิ้มของซีซี เขาก็คิดว่าเธอน่ารักมาก เขารีบแนะนำตัวเองให้เด็กหญิงรู้จักทันที “ฉันชื่อสือหยง ปีนี้อายุ 6 ขวบ กำลังจะเข้าเรียนชั้นประถมศึกษา แล้วเธอล่ะ?” ลู่ซีซีตอบกลับด้วยเสียงเล็กๆ “หนูชื่อลู่ซีซี ปีนี้อายุสามขวบ ปีหน้าจะเข้าเรียนชั้นอนุบาลหนึ่ง” เธอยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อจับมือกับอีกฝ่าย เพราะผู้เป็นแม่บอกว่าเวลามีเพื่อนใหม่ต้องจับมือกันเพื่อแสดงความเป็นมิตรที่ดี แต่มือของเด็กน้อยทั้งสองยังไม่ทันจะได้สัมผัสกัน

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   47 ลู่ซีซี

    ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ภายใต้การดูแลของลู่หยาง ทำให้ไป๋ถังมีความสุขมาก และตอนนี้เธออยู่ในช่วงใกล้คลอด วันนี้เธอจึงไปเดินเที่ยวที่สวนสาธารณะเพื่อที่จะได้คลอดง่ายๆลู่หยางซื้อกล้องถ่ายรูปมาถ่ายภรรยาและลูกๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำ ลู่เจี้ยนและลู่จวิ้นวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาวิ่งกันไปรอบๆ และขอให้ผู้เป็นพ่อถ่ายรูปของพวกเขา“พ่อ ถ่ายรูปผมหน่อย”“พ่อ ผมอยู่นี่”“พ่อ ทำไมพ่อไม่ถ่ายรูปผมเลย”“พ่อ!”เด็กน้อยวิ่งกันวุ่นวาย ลู่หยางที่กำลังจดจ่ออยู่กับการถ่ายภาพของไป๋ถัง บางครั้งก็หันไปถ่ายลูกชายทั้งสองที่วิ่งไปวิ่งมา เด็กน้อยทั้งคู่ดูสดใสร่าเริงมากขึ้นตามวัยของพวกเขาไป๋ถังหัวเราะกับท่าทางถ่ายรูปของเด็กน้อยทั้งสองที่กำลังทำท่าตลกๆ แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกปวดท้อง หญิงสาวรีบตะโกนเรียกสามี “เสี่ยวหยาง”เมื่อลู่หยางได้ยิน เขาก็วิ่งไปหาเธอแทบจะทันที “เสี่ยวไป๋!”“ฉันปวดท้อง ตอนนี้รู้สึกเหมือนกับว่าจะคลอดเลยค่ะ” ไป๋ถังพูดพร้อมกุมท้องของเธอ ที่ส่วนล่างก็รู้สึกเหมือนกับมีน้ำไหลออกมาลู่หยางอุ้มเธอขึ้นมาในทันที แล้วหันไปบอกลูกๆ ทั้งสอง “อาเจี้ยนจูงมือน้องตามพ่อมา”ลู่เจี้ยนและลู่จวิ้นตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จ

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   45 ย้ายไปเมืองหลวง

    เมื่อลู่หยางและไป๋ถังกลับมาถึงบ้าน เด็กน้อยทั้งสองก็รีบวิ่งมาหาพ่อกับแม่ของตนด้วยความดีใจ“พ่อ!” ต้าเป่ากอดต้นขาของลู่หยาง ส่วนเสี่ยวเป่ากอดต้นขาของไป๋ถัง เด็กน้อยทั้งคู่เงยหน้ามองด้วยดวงตาใสแจ๋วทั้งสองสามีภรรยาจึงอุ้มเด็กน้อยเข้าเอว และเช็ดหน้าที่เปื้อนเหงื่อให้กับพวกเขาก่อนจะหัวเราะเสียงดัง“แม่ครับ ซื้อขนมมาให้พวกผมด้วยหรือครับ” เสี่ยวเป่าถามด้วยน้ำเสียงเล็กๆไป๋ถังหัวเราะออกมาและพูดว่า “เจ้าหนูน้อยชอบกิน!”จากนั้นเธอก็ให้ลู่หยางส่งกระเป๋าที่อยู่ด้านข้างมาให้ แล้วหยิบขนมขึ้นชื่อจากเมืองหลวงมาแกะแบ่งให้กับเด็กน้อยทั้งสองได้ชิม“ขอบคุณครับพ่อ!” เด็กแฝดทั้งคู่พูดอย่างมีความสุขและเริ่มกินขนม ลู่หยางและไป๋ถังยิ้มอย่างมีความสุขการมีลูกๆ ตัวน้อยคอยอยู่ที่บ้านมันช่างทำให้พวกเขาอบอุ่นในหัวใจราวกับมีเสื้อบุนวมตัวเล็กๆ ห่อหุ้มอยู่ฝ่ายลี่จูเห็นไป๋ถังกลับมาจากเมืองหลวงพร้อมกับลู่หยาง ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะมีอนาคตที่ดีขึ้นอีกแล้ว เธอนึกเศร้าใจว่าทำไมตนเองถึงไม่โชคดีแบบนี้บ้าง ตอนนี้คนในครอบครัวของสามีต่างเกลียดเธอ เป็นเพราะว่าเธอแอบนำเงินเก็บในบ้านไปลงทุนและสินค้าก็ขายไม่ออกจนสูญเสียเงินไปเปล่

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   44 ใบขออนุญาตประกอบธุรกิจการค้า

    สองสามีภรรยาวัยชรายิ้มออกมาอย่างมีความสุข เมื่อได้ยินว่าลู่หยางตกลงที่จะซื้อบ้าน“นี่เป็นเงินสองพันหยวนค่ะ คุณลุงลองนับดูอีกครั้งสิคะว่าครบหรือไม่”ไป๋ถังนับเงินสองพันหยวน จากกระเป๋าให้ลุงมู่ เมื่อชายชรารับไปก็นับเงินอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ห่อด้วยผ้าอย่างอย่างระมัดระวัง ส่งให้ภรรยาของตนเป็นคนเก็บไว้เมื่อตกลงซื้อขายบ้านกันได้ลุงมู่ก็เข็นจักรยานออกไปกับกลุ่มของลู่หยาง เพื่อทำการโอนบ้าน ในอนาคตการซื้อทรัพย์สินค่อนข้างยุ่งยาก แต่ว่าในยุคนี้พวกเขาเพียงแค่ไปลงทะเบียนโดยตรงกับสำนักงานการจัดการที่อยู่อาศัยหลังจากจ่ายค่าธรรมเนียม เมื่อเจ้าหน้าที่ประทับตราลงบนหนังสือความเป็นเจ้าของบ้าน มันก็มีผลตามกฎหมายทันที บ้านหลังนี้จึงกลายเป็นของไป๋ถัง พวกเขาใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง การดำเนินการทุกอย่างก็เสร็จสิ้น และลุงมู่จะย้ายออกจากบ้านไปเซี่ยงไฮ้ในสิ้นเดือนนี้ในเวลานี้พวกเขาได้มีบ้านเป็นของตัวเองอยู่ที่เมืองหลวงแล้ว ต่อไปคือการซื้อโกดังเพื่อก่อตั้งโรงงาน “ผมมีโกดังเก่าอยู่แห่งหนึ่ง คุณลู่อยากลองไปดูไหมครับ” “ไปเลยครับ” เมื่อได้ยินดังนั้นผู้จัดการฟ่านจึงพาเขาและไป๋ถังไปดูโกดังที่อยู่ไม่ไกล เมื่อเห็

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   43 ซื้อบ้าน

    ตอนนี้พวกเขามีเงินทุนมากพอที่จะเปิดโรงงานของตัวเองแล้ว แต่ว่าก่อนที่จะเปิดโรงงานพวกเขาต้องหาซื้อที่ดินเพื่อก่อตั้งโรงงานเสียก่อนพวกเขาทั้งคู่เดินทางเข้าเมืองหลวงโดยให้พ่อกับแม่มาคอยดูแลลูกฝาแฝดทั้งสอง เพราะการเดินทางโดยรถไฟในสมัยนี้ค่อนข้างลำบาก“ต้าเป่า เสี่ยวเป่า เดี๋ยวพอกับแม่จะรีบกลับมาหานะ ตอนนี้อยู่กับคุณตาคุณยายไปก่อนนะครับ “ ลู่หยางลูบหัวลูกน้อยทั้งสองที่ทำตาละห้อย ยืนส่งพวกเขาที่หน้าบ้าน“พ่อกับแม่รีบกลับมานะครับ” เสี่ยวเป่าพูดกำชับด้วยน้ำเสียงเล็กๆ ของเขา“แน่นอนจ้ะ แม่กับพ่อจะรีบกลับมา” ไป๋ถังให้สัญญากับลูกๆความเร็วของรถไฟในช่วงทศวรรษที่ 1980 อยู่ระหว่าง 60 ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจากอำเภอที่พวกเขาอาศัยไปยังเมืองหลวง ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง รถไฟจะออกในเวลาเที่ยงคืนของทุกวันและจะไปถึงเมืองหลวงในตอนเที่ยงของอีกวันถัดมาสถานีรถไฟ เต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการจะเดินทางไปยังเมืองหลวง ดังนั้นที่นี้จึงมักแออัดและมีเสียงพูดคุยของชาวบ้านดังอื้ออึงแม้ว่าอุณหภูมิในตอนกลางคืนจะไม่ค่อยร้อน แต่เป็นเพราะมีคนเป็นจำนวนมากเกินไป อากาศในสถานีรถไฟจึงถ่ายเทได้ไม่เต็มที่ มันเต็มไปด้วยกลิ่นที่ไ

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   42 เสาอากาศก้างปลา

    แบบเสื้อผ้าที่ลู่หยางได้ขายให้กับโรงงานของเจียงชิง ได้ราคามาสี่พันหยวน ส่วนรายได้จากส่วนแบ่งสี่เปอร์เซ็นจะถูกคำนวณอีกครั้งในตอนสิ้นเดือน ไป๋ถังลองไปเดินสำรวจร้านค้าก็เห็นว่ารูปแบบเสื้อผ้าของลู่หยางได้รับความนิยมมาก รายได้ตอนสิ้นเดือนที่คำนวณออกมาพวกเขาจะต้องได้ไม่น้อยแน่“ไม่น่าเชื่อนะคะว่า เสื้อผ้าในยุคนี้จะขายดีมากขนาดนี้” ไป๋ถังพูดขึ้นมา“ยุคนี้เป็นช่วงเฟื่องฟูของกิจการเสื้อผ้าครับ เราจะกอบโกยได้ในเฉพาะช่วงเวลาไม่กี่ปีนี้เท่านั้น ในอนาคตก็จะมีหลายโรงงานผุดขึ้นมายิ่งกว่าดอกเห็ด คู่แข่งทางการค้าก็จะมีมาก ส่วนแบ่งทางการตลาดก็จะมากขึ้นไปด้วย”“แต่คงอีกนานเลยเราถึงจะก็มีเงินทุนมากพอที่จะเปิดโรงงานของเราเอง”การเปิดโรงงานต้องใช้เงินทุนขั้นต่ำอย่างน้อยหมื่นหยวน ทั้งซื้อที่ดินตั้งโรงงาน ซื้อจักรเย็บผ้าและจ้างคน ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายรออยู่มหาศาล ตอนนี้พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่ขายแบบเสื้อผ้าและรอเก็บเงินแบ่งเปอร์เซ็นต์จากทางโรงงาน ช่วงเวลาว่าง ๆ จากการขายเสื้อผ้าที่แผงลอย ไป๋ถังจะไปรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้าน วันนี้ป้าซูในซอยข้างบ้านมาขอให้เธอซ่อมวิทยุให้เวลานี้เป็นเวลาตอนเย็นที่หลายบ้านกำลั

  • ย้อนเวลามาเป็นพ่อแม่มือใหม่ในยุค 80   41 ชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ

    เมื่อไป๋ถังตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เธอนวดเอวที่ปวดเมื่อยไปหมด ส่วนกลางกายยังคงมีอาการเจ็บอยู่เล็กน้อย บ่งบอกว่าเมื่อคืนพวกเขาทั้งคู่ร้อนแรงกันขนาดไหนข้างกายของเธอว่างเปล่า เพราะลู่หยางตื่นขึ้นนานแล้ว วันนี้เขาวางแผนที่จะเข้าอำเภอ เพื่อไปคืนจักรยานและสอบถามผู้อำนวยการจาง ถึงเรื่องที่จะหาบ้านเช่าในอำเภอให้ได้หรือไม่ไป๋ถังเดินออกจากห้อง เธอเห็นชายหนุ่มกำลังต้มโจ๊กอยู่หน้าเตา หญิงสาวจึงชะโงกหน้าไปหอมแก้ม และกอดเขาจากด้านหลัง“รู้สึกเพลียไหมครับ” ลู่หยางเอี้ยวตัวมาหอมแก้มเธอเช่นกัน“นิดหน่อยค่ะ”เมื่อพวกเขามีความสัมพันธ์ทางกาย การแตะเนื้อต้องตัวก็เป็นไปอย่างธรรมชาติ ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ได้รู้สึกเคอะเขินซึ่งกันและกันเช้าวันนี้ลู่หยางปั่นจักรยานเข้าอำเภอ ไปหาผู้จัดการจางที่โรงงาน เมื่อไปถึงเขาก็บอกว่าได้หาบ้านเช่าให้กับลู่หยางได้แล้ว จากนั้นก็ให้ต้าจวงพาลู่หยางไปดูบ้านชายหนุ่มมองบ้านหลังสีขาวที่ดูเรียบง่ายก็รู้สึกพึงพอใจ ประกอบกับราคาค่าเช่าต่อเดือนก็ไม่แพงมาก เจ้าของบ้านคิดเพียง 4 หยวนต่อเดือนเท่านั้น แต่ชายหนุ่มต้องพาภรรยามาดูตัวบ้านเสียก่อนถึงจะตัดสินใจได้ ซึ่งผู้จัดการจางก็ให้เขายืมรถไ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status