“พี่ไม่คิดว่าน้องพี่จะรอบคอบขนาดนี้ ได้” เหมือนพี่จะไม่ได้ชมเธอ เธอทำหน้างอนใส่พี่ตงหยาง“นี่พี่ว่าฉันใช่ไหม ฉันก็ฉลาดนะคะ ถึงจะเคยพลาดมาบ้างก็ตาม ไม่มีใครเก่งตั้งแต่แรกหรอกค่ะ” “พี่หยอกเล่นเฉยๆ ” พอเธอบอกว่ามีที่ให้คนได้อยู่ พี่ของเธอรู้สึกว่าจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ“ว่าแต่พี่ จะให้ใครมาอยู่ในเมืองของเราเหรอ พี่สะใภ้หนูหรือเปล่า” “ใช่ที่ไหนละ พี่ของเธอยังโสดอยู่” ตงหยางพูดออกไปด้วยแก้มที่แดงขึ้น และเขาก็ยังหลบตาน้องสาวของตัวเองด้วย“ไม่มี ก็ไม่มีค่ะ ว่าแต่พี่ทำไมต้องหน้าแดงด้วยน้า” ยิ่งเธอพูดพี่ของเธอก็หน้าแดงขึ้นไปอีก เธอคงจะมีพี่สะใภ้เร็วๆ นี้แล้วล่ะ////หลังจากที่เธอคุยเล่นกับพี่อีกสักพัก ก็มีเสียงระบบดังขึ้นมา “ระบบได้จัดโปรโมชั่นเพื่อผู้ทำความดี จะเปิดให้ซื้อสินค้าภายในชั้นสาม ได้หนึ่งชั่วโมง และสินค้าชั้นนี้ ก็จะลดราคาห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทุกอย่าง ท่านต้องการดูสินค้าชั้นสามหรือไม่” เธอเพิ่งเปิดชั้นสองไป นี่ระบบให้สิทธิ์พิเศษ เปิดชั้นสามให้เธอได้ซื้อของเลย สิ่งดีๆ แบบนี้ใครจะไม่ชอบกัน“ฉันต้องการใช้สิทธิ์พิเศษนี้” “ท่านมีเวลาเลือกซื้อสินค้าที่ชั้นสาม ภายในเวลาหนึ่งชั่วโ
“แม่หนูว่าจะสร้างบ้านเราไว้ตรงนั้นค่ะ แม่ว่าดีไหม” เธอชี้ไปที่ ที่เธออยากสร้างบ้าน“สวยมากเลยลูก แต่มันจะไม่เด่นไปเหรอ” “ไม่หรอกค่ะแม่ หนูจะให้บ้านของผู้นำไปอยู่ไกลๆ จากเรา และเอาเป็นบ้านชั้นเดียวสี่ห้อง มาตั้งตรงนี้ สิบหลัง พ่อกับแม่จะได้ไม่เหงาไงคะ” “นี่ลูกกลัวว่าแม่จะเหงาเหรอ ทำไมน่ารักแบบนี้นะเรา” “แม่ไม่เหงาหรอกครับ เพราะมีผมอยู่ไง” ซีซวนตอบแม่ของเขาออกไป เขาอยากเอาข่าวที่จะให้คน ที่ออกจากมิติและให้มาอยู่ในเมืองที่พวกเขาสร้างนี้ ไปบอกเพื่อน ๆ ที่เขาสนิทให้รู้ก่อนคนอื่นทั้งสามคนคุยเล่นกันไปมา และขับรถไปที่จุดนัดพบ เพื่อรอพ่อกับพี่ชาย“เป็นยังไงบ้างค่ะพ่อ ทางนั้นเรียบร้อยดีใช่ไหม” “ทางฝั่งพ่อดีมากเลย พ่อว่าที่มันยังเหลืออีกเยอะ เราควรที่จะต้องไปคัดลอกแบบบ้านมาเพิ่มอีก” “ใช่ค่ะ หนูก็จะไปคัดลอกมาเพิ่มเหมือนกัน เราเข้าไปในมิติกันเลยไหม” ทั้งครอบครัวของเธอรีบกลับเข้ามาในมิติ เพื่อกินข้าว แม่ของเธอทำข้าวผัดง่ายๆ ทุกคนรีบกินและเริ่มทำงานกันต่อ เพราะตอนนี้เวลาได้ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วครอบครัวเธอจัดการเรื่องบ้านกันอีกหลายวัน ทุกอย่างก็เสร็จ พร้อมอยู่ทั้งหมดแล้ว สิ่งที่เธอได
ผู้นำก็ได้รับข่าวออนไลน์เช่นกัน ถึงแม้ว่าตัวเขาจะไม่ได้อยู่ในหินมิติก็ตาม แต่คอนโดที่เขาได้มา มีไฟฟ้าและหน้าจอออนไลน์ทุกห้อง เขาได้คุยกับเจ้าของร้านค้าวิเศษแล้ว เรื่องเมืองแห่งการเริ่มต้น และร้านค้าวิเศษยังใจดี สร้างประตูที่เชื่อมต่อกับคอนโดแห่งนี้ หรือก็คือตึกวิจัยที่เขาจะเอาที่นี่ไว้ใช้ในการทดลอง และหาสาเหตุของสารพิษและอีกหลายๆ อย่าง เขาอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าของร้านค้าวิเศษนี้เป็นใครกัน“ซูเมิ่งทำอะไรอยู่ พี่คุยด้วยได้ไหม” เสียงของพี่ตงหยางที่เดินเข้ามาถามเธอ“มีอะไรหรือเปล่าพี่ วันนี้ถึงอยากคุยกับฉันได้” “พี่แค่สงสัย ว่าคนที่ไม่ได้เข้ามาอยู่ในเมืองที่เราสร้าง เขาจะซื้อของในร้านค้าวิเศษกันยังไง” “อ่อ เรื่องนี้เอง ฉันก็ยังต้องหาวิธีอยู่ มันยากที่จะช่วยทุกคนได้ แต่ฉันว่าจะลองหาดูว่าร้านค้าชั้นสองมีอะไรที่ใช้แทนกันได้บ้าง ฉันจะวางขายและให้ทุกคนมาเลือกซื้อก่อนที่จะถูกดีดออกไป” “พี่คิดว่าแบบนี้ก็ดีนะ” ตงหยางมองน้องตัวเอง เขาอยากจะพูดอะไรอีกอย่างก็ไม่กล้าพูดซูเมิ่งที่มองอยู่ คิดว่าเรื่องที่พี่ถามเธอ น่าจะเป็นข้ออ้างมากกว่า “พี่อยากถามอะไรฉันกันแน่ มีอะไรก็ถามมาเลยฉันไม่ว่าพี่หรอก”
สำหรับคนที่มีค่าความดีที่อยู่ในขั้นสีเขียวและสีเหลืองนั้น ตอนนี้ก็กำลังเดินเข้าไปในเมืองแห่งการเริ่มต้น ซูเมิ่งได้นำรถเมล์ที่อยู่ในเมืองที่ยังใช้ได้อยู่ และรถยนต์อีกหลายคัน เธอได้นำมาไว้ในเมืองของเธอแล้ว ก่อนที่จะนำเข้ามาเธอได้ฆ่าเชื้อแล้วทั้งหมด ทุกคนต่อแถวกันอย่างดีไม่มีทะเลาะกันเสียงดัง แต่ละคนคอยช่วยเหลือกันดีมาก นี่คือการแบ่งแยกคนดี และคนไม่ดีออกจากกัน ตอนนี้ในเมืองแห่งการเริ่มต้น ห้องทุกห้อง บ้านทุกหลัง เต็มหมดแล้ว รอเธอหาทองได้มากกว่านี้ เธอก็จะสามารถรับคนมาเพิ่มได้เธอไม่รู้ว่าวิกฤติที่เกิดต่อจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้นอีก เพราะเธอตายก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์หลังจากนี้ ถ้าเธอคิดไม่ผิด น่าจะเกิดอากาศที่หนาวมากแน่นอน เพราะอากาศหนาวยังไม่เกิดขึ้นเลย“ปู่บ้านหลังนี้ดีมากเลยนะครับ ปู่อยู่ได้ใช่ไหม อาการของปู่ดีขึ้นหรือยัง” “ไม่ต้องเป็นห่วงปู่หรอก หลานยังไม่รู้ใช่ไหมว่า ตอนนี้ปู่ได้หินเวทมาชำระล้างพิษ ภายในร่างกายของปู่แล้ว” “ปู่ไปเอาหินเวทมาจากไหนครับ” เฟยหรงถามปู่ของเขาออกไป เพราะปู่ของเขาโดนคนทำร้ายทำให้ร่างกายอ่อนแอลงทุกวัน ถึงปู่ของเขาอายุจะเก้าสิบแล้ว แต่หน้าตาหรือรูปร่างยังเหมือ
ท่านเทพหัวเราะ แล้วก็เดินจากเธอออกไป“แล้วเจอกันนะ เจ้าของมิติคนใหม่” ท่านก็เป็นแบบนี้เสมอ ชอบทำให้เธอสงสัย และก็ทำให้เธอหาคำตอบเองตลอด แต่ท่านคงจะมีเหตุผลของท่านนั่นแหละ เธอเลิกสนใจเรื่องของเทพ และก็หันมาหาวิธีเอาตัวรอดจากอากาศหนาวที่กำลังจะเกิดขึ้นดีกว่า ถึงในเมืองของเธอจะไม่ได้หนาวเหมือนด้านนอก แถมในห้องก็ยังมีที่นอนอุ่น ให้นอนพักผ่อนอย่างสบาย แต่ไม่ใช่กับคนด้านนอก ถึงคนพวกนั้นจะเป็นคนไม่ดี คนเลวหรืออะไรก็ตาม แต่พวกเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนเธอ มีจิตใจเหมือนกัน บางทีวันเวลาที่ลำบากด้านนอก อาจทำให้หลายๆ คนคิดได้ และอาจมีบางคนที่คิดได้บ้างแล้วก็ตาม ตอนนี้ร้านค้าวิเศษ เริ่มมีคนมาซื้อของมากขึ้น และทำให้ทองของเธอเพิ่มมากขึ้นด้วย เธอหวังว่าระบบจะให้ภารกิจกับเธอในช่วงนี้ผ่านไปไม่กี่วัน ระบบก็ออกภารกิจใหม่ให้กับเธอ เป็นภารกิจที่สี่ “ท่านยินดีรับภารกิจที่สี่หรือไม่” “ฉันรับ” ตอนนี้เธออยากทำภารกิจมาก“ภารกิจที่สี่คือ ช่วยเหลือคนที่กลับใจ ให้ได้หนึ่งร้อยคน ภารกิจระดับกลาง” “ภารกิจระดับกลางยากกว่าภารกิจระดับยากอีก สร้างเมืองยังง่ายกว่าเลย” “เจ้านายจะฟังคำสั่งซ้ำหรือไม่” “แล้วฉันจะรู้ไ
เฟยถิงเป็นคนเห็นกลุ่มโจรเดินเข้ามา “พวกมันจะมองเห็นพวกเราไหมคะ” เธอหลบอยู่ในเต็นท์มาตั้งหลายวันแล้ว“ทำไมพวกมันถึงไม่ไปที่อื่นบ้าง มันจะสนใจทำไมที่บ้านของเราหนักหนา ที่นี่ไม่มีอะไรให้พวกมัน” เฟยฮวาพูดออกมาด้วยความโมโห“ผมเห็นหนึ่งคนในนั้นเคยทำงานให้เรามาก่อน น่าจะเป็นคนออกความเห็นให้พวกโจรเข้ามาปล้นที่บ้านของเราก็ได้ ผมว่าพวกมันน่าจะไม่ได้หวังเงินทองหรอก มันน่าจะสนใจผู้หญิงในบ้านเรามากกว่า” “ถ้ามันหาเราเจอ จะทำยังไงกันดี” ลูกสาวคนโตของเขาถามออกมา“เราไปหาของที่เอาไว้ต่อสู้ได้ดีไหม พ่อจะไปดูปืนที่พ่อเคยเก็บไว้ในบ้าน” “พ่ออย่าทิ้งพวกเราไป พาพวกเราไปด้วย ถ้ามันหาพวกเราเจอก่อนที่พ่อจะมาละคะ” “ได้ๆ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปกันหมดนี่ละ” เฟยเทียนพาครอบครัวเขา ค่อยๆ เดินไปทางหลังบ้าน ดีที่พวกเขากางเต็นท์ อยู่ด้านหลังบ้าน เพราะในบ้านโดนหินอุกกาบาตตกใส่จนบ้านพังเสียหาย ทำให้พวกเขาไม่กล้าอยู่ภายในบ้านกันเขาพาลูกๆ และภรรยาของตัวเอง ค่อยๆ เดินขึ้นบันไดมาเรื่อยๆ ตอนแรกพวกเขาไม่คิดว่ามันจะเดินเข้ามา พวกเขาเลยไม่กล้าที่จะเดินออกไปจากเต็นท์ที่เขาอยู่ เพราะไม่คิดว่าพวกมันจะรอดูพวกเขานานขนาดนี้ เขา
“เดียวพ่อพักให้หายดีอีกหน่อย เราก็ค่อยย้ายที่อยู่ ที่นี่คงอยู่ไม่ได้แล้ว” เขากลัวว่าพวกโจรจะกลับมาอีก ตอนนี้เขาก็ไม่มีแรงที่จะปกป้องครอบครัวได้ผ่านไปไม่กี่วันร้านค้าวิเศษ ก็วางสินค้าแบบใหม่ลงขายเป็นของที่ใช้ในฤดูหนาวทั้งหมด ตอนนี้เธอจะเริ่มทำภารกิจที่ได้มา แค่หนึ่งร้อยคนไม่น่ายากสำหรับเธอเท่าไหร่ เธอเปิดเครื่องกระตุ้นความรู้สึกผิด ชอบ ชั่วดีขึ้นมา เป็นเครื่องเล็ก คล้ายแผ่นชิปเลย เพราะมันเล็กมาก เครื่องนี้เธออ่านวิธีการใช้แล้ว เธอสามารถนำไปติดตั้งที่ร้านค้าวิเศษได้เลย และกดเปิดใช้งานเท่านั้น ถ้าใครยังมีความดีที่พอกลับตัวได้ ทุกครั้งที่ซื้อของในร้านค้าวิเศษ เจ้าชิปตัวนี้ก็จะแทรกซึมเข้าไปที่ผู้ซื้อหรือคนที่ใช้ของในร้านค้าวิเศษ มันจะทำหน้าที่เข้าไปในสมองเพื่อกระตุ้น ความรู้สึกผิดชอบ ชั่วดีออกมา แต่ถ้าใครเกินที่จะเยียวยา เธอก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้วจริงๆถ้ามีประชากรมากขึ้น เธอต้องซื้อพื้นที่ทับซ้อนเพิ่มขึ้นมาอีก ตอนนี้ที่เธอช่วยคนในประเทศนี้ ยังไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์เลยด้วยซ้ำ เป็นจำนวนที่น้อยมาก ส่วนคนอื่นๆ อีกหลายร้อยล้านคน ก็ต้องช่วยตัวเองด้วย ยังมีคนดีอีกหลายคนที่ยังไม่มีที่อยู่ แต่
“บ้านข้างหน้าเป็นบ้านของน้องซูเมิ่งใช่ไหมครับ” เธอมองไปข้างหน้า เห็นว่าใกล้ถึงบ้านของเธอแล้ว“ใช่ค่ะ บ้านของน้องเอง” เธอแทนตัวเองว่าน้องมันจะแปลกไหมนะ เธอหันมองไปทางพี่เฟยหรง ก็เห็นว่าพี่เขาทำตัวปกติ เธอก็รู้สึกน้อยใจนิดหน่อย ‘บ้าจริงนี่เราอยากให้พี่เขาสนใจเราเหรอเนี่ย’ เธอตำหนิตัวเองภายในใจ“ให้พี่จอดรถตรงไหนดีครับ” เสียงของพี่เฟยหรงดึงสติของเธอกลับมา“จอดส่งน้องตรงทางเข้าบ้านก็ได้ค่ะ พี่เฟยหรงจะเข้าไปกินน้ำในบ้านก่อนไหมคะ” “วันนี้พี่ว่ายังดีกว่า เพราะพี่ต้องไปทำธุระต่อ ไว้วันหลังพี่จะต้องรบกวนน้องซูเมิ่งแน่นอน” ที่จริงตัวเขาก็อยากเข้าไปเหมือนกัน แต่วันนี้เขาติดธุระพอดี และเขาอยากพิสุทธิ์ อะไรบางอย่าง“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ เอาไว้เจอกันโอกาสหน้า น้องขอเลี้ยงข้าวพี่เฟยหรงได้หรือเปล่า” “โอกาสหน้าพี่จะไม่พลาดแน่นอน” เฟยหรงพูดพร้อมยิ้มให้ซูเมิ่ง เขารู้สึกว่าตัวเองยิ้มบ่อยมากซูเมิ่งลงจากรถแล้ว ก็ยืนรอจนพี่เฟยหรงขับรถออกไป เธอคิดว่า จะต้องไปเรียนทำอาหารกับแม่ดีไหม นี่เธอจะทำอาหารให้พี่เฟยหรงกินเหรอเนี่ย พี่เขาจะไม่ท้องเสียใช่ไหมเฟยหรงขับรถมาเรื่อยๆ เขามีเรื่องที่ยังสงสัย และเข
“นายท่าน พวกเราได้ไปตรวจดูบริเวณโดยรอบแล้ว ไม่มีร่องรอยของคนอื่นเลยขอรับ” “เฝ้าระวังต่อไป อย่าเพิ่งวางใจพวกเราเดินทางกันสะดวกเกินไป” เขาสั่งงานกับลูกน้องที่เขาไว้ใจพาเดินทางมาด้วยสามสิบคน เป็นคนที่เขาคิดว่าไว้ใจได้ที่สุดแล้ว“โอ้ย! ปวดท้อง ข้าปวดท้องเหลือเกิน!” ซีห่าวได้ยินเสียงร้องของภรรยา ก็รีบเข้ามาดู“น้องจะคลอดแล้วหรือ เราหยุดพักรถม้ากันตรงนี้ก่อน พวกเจ้าไปเตรียมก่อไฟและต้มน้ำ แม่นมภรรยาข้าเป็นอย่างไรบ้าง” “เด็กกลับหัวพอดีเลยคะนายท่าน ดูท่าจะคลอดง่าย” เขาได้ฟังที่แม่นมรายงานก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น และเตรียมสิ่งของที่หมอตำแยได้บอกให้เตรียมไว้ เขาได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาจากในรถม้า“เป็นเด็กผู้ชายเจ้าคะ ร่างกายแข็งแรง นายหญิงปลอดภัยดีเจ้าคะ” หลีซีห่าวได้ฟังรายงานจากแม่นม เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขามองขึ้นไปบนฟ้า เป็นคืนที่พระจันทร์ทรงกลดพอดีกระสุนปืนยิงเข้ามาที่รถม้าของพวกเขา ในช่วงที่พวกเขาลดการระวังตัว“มีคนร้ายทุกคนกันนายหญิงให้ดี” เขารีบสั่งลูกน้องให้เข้าปกป้องลูกและภรรยาที่อยู่ในรถม้าก่อน หน้าของลูกเขาก็ยังไม่ทันได้เห็นเลย“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นด้านนอก ท่านปลอดภ
เวลาผ่านไปหลายปี จิ้งจอกน้อยตามหาเจ้านายของเขาไปทั่วทุกหนแห่งแต่ก็ไม่พบ อยู่มาวันหนึ่งพวกเขาบังเอิญได้มาที่สระบัวแห่งหนึ่ง และพบกับดอกบัวที่มีพลังงานหนาแน่นเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงเก็บดอกบัวสีขาวที่มีสีแดงตรงปลาย ดอกบัวดอกนี้ให้ความคุ้นเคยกับพวกเขาเป็นอย่างมาก เหมือนว่าเจ้าดอกบัวนี้ จะเป็นสิ่งที่พวกเขาตามหาอยู่ พวกเขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ตอนที่พวกเขากำลังเข้าไปจับที่ดอกบัวดอกนั้น จิ้งจอกน้อยรู้สึกว่าดอกบัวกำลังดีใจที่ได้พบกับพวกเขา และพวกเขาก็สามารถเก็บดอกบัวไปปลูกได้อย่างง่ายดาย จิ้งจอกสองหัวรู้สึกแปลกใจกับความง่ายดายนี้ ถ้าเป็นพืชที่วิเศษ จะต้องใช้แรงกายในการเอาสิ่งนั้นมาได้ยากมาก แต่ดอกบัวดอกนี้ยินยอมที่จะไปอยู่กับพวกเขาเอง พวกเขานำดอกบัวไปปลูกไว้ที่สระน้ำแห่งชีวิต ตั้งแต่ที่ได้นำดอกบัวเข้ามาปลูก พลังงานบริสุทธิ์ภายในมิติยิ่งเพิ่มมากขึ้น และสระน้ำแห่งชีวิตก็บริสุทธิ์มากขึ้นเช่นกันเวลาผ่านไปหลายปี จนถึงปีหนึ่งที่พวกเขากำลังนั่งจำศีลกันอยู่พวกเขาได้ปล่อยจิตรับรู้เอาไว้ อีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเขาจะต้องไปทำงานที่เจ้านายได้สั่งไว้ก่อนที่จะหายตัวไป“เสี่ยวปิง แล้วพวกเราจะต้องไปช่วยเด
มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เธออาศัยอยู่ในป่าลึกพร้อมกับเพื่อนคู่ใจ เป็นจิ้งจอกตัวน้อยสองหัว ที่เธอได้ช่วยเหลือไว้ตอนที่แม่ของพวกมันถูกฆ่าตาย เธอตั้งชื่อให้ทั้งสองหัวว่า เสี่ยวเฟิง และเสี่ยวปิง จิ้งจอกน้อยทั้งสองตัว ติดตามเธอคอยช่วยเหลือและเฝ้าดูแลพื้นที่ในมิติแทนเธอ ผู้เป็นเจ้าของในที่แห่งนี้จิ้งจอกน้อยอยู่กับนายของมัน เธอเป็นหญิงสาวที่เงียบขรึม ไม่ชอบพูดคุยกับใคร ชีวิตในแต่ละวันของเธอ ก็จะอยู่ภายในมิติมากกว่าอยู่ด้านนอกมิติ เธอชอบคิดค้นยาหรือหาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาปลูกภายในมิติอยู่เสมอ พวกเขาก็ได้เรียนรู้สิ่งที่เจ้านายได้นำเข้ามาปลูกด้วยเช่นกัน“เจ้าจิ้งจอกน้อย อย่าไปเล่นซนกับต้นสมุนไพรของข้าละ สมุนไพรชนิดนี้สำคัญมาก และก็มีราคาที่แพงด้วย” “พวกข้าจะไม่ไปเล่นซนตรงนั้นอย่างแน่นอน ข้าแค่สงสัยกลิ่นของสมุนไพรแปลกๆ พวกนี้” “ดีแล้วเด็กดีตัวน้อย” หญิงสาวอุ้มจิ้งจอกสองหัวขึ้นมากอด และก็เกาไปที่พุงของพวกมันเบาๆจิ้งจอกน้อยทั้งสองตัวมีความสุขกับเจ้านายของพวกมันมาก และพวกมันก็รักเจ้านายคนนี้มากด้วยเช่นกัน ตอนที่พวกเขาได้พบเจอกับเจ้านายคนนี้ พวกเขาก็เกือบจะตายกันไปแล้ว อยู่มาวัน
“เด็กน้อยของแม่ ลูกหน้าเหมือนพี่เฟยหรงเลยนะคะ” เธอเอานิ้วถูไปที่แก้มลูกเบาๆ“ตอนนี้ยังดูไม่ค่อยออกหรอกว่าหน้าเหมือนใคร ต้องรอไปสักสองถึงสามเดือนถึงจะดูออก” ซูซ่านพูดบอกลูกสาวของเธอไป" อ่อ แบบนี้นี่เอง " เธอเล่นกับลูกอีกสักพัก ลูกเธอก็ร้องขึ้นมา เธอต้องส่งลูกให้คุณพยาบาลพาไปป้อนนม เพราะน้ำนมเธอยังไม่มากพอให้เด็กทั้งสองคนได้กินทั้งครอบครัวของเธอและคุณปู่เห็นว่าเธอและลูกปลอดภัยหายห่วงแล้ว ก็พากันกลับบ้าน เหลือแค่เธอกับพี่เฟยหรงแค่สองคนเท่านั้น“เหนื่อยไหมครับคนเก่ง” เฟยหรงเอาผ้าชุบน้ำนำมาเช็ดหน้าและเช็ดตามตัวของภรรยา เพื่อให้เธอได้นอนพักผ่อนอย่างสบายตัว“มีคนดูแลดีแบบนี้น้องหายเหนื่อยไปตั้งนานแล้วค่ะ” เธอนอนให้สามีคอยเช็ดตัวให้ เพราะเธอยังรู้สึกเจ็บแผลที่คลอดอยู่มาก“พี่เช็ดตัวให้น้องจะได้นอนหลับอย่างสบายนะครับ คืนนี้พยาบาลบอกว่าให้น้องนอนพักได้เลย พรุ่งนี้ถึงจะพาลูกมาให้เราฝึกดูแล” “ดีเหมือนกัน น้องคงดูแลไม่ไหวแน่วันนี้น้องขอนอนพักก่อนนะคะ” เธอไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วก็นอนหลับไปเพราะยาที่ได้กิน และความเหนื่อยล้าจากร่างกาย เฟยหรงนั่งเฝ้าภรรยาและตัวเขาก็หลับไปพร้อมกันเวลาผ่านไปหล
หลังจากที่เธอได้ไปฝากครรภ์ ตอนนี้ก็ผ่านมาห้าเดือนแล้ว ท้องของเธอใหญ่มาก ใหญ่เกินไปด้วยซ้ำทั้งๆ ที่เธอเพิ่งจะท้องลูกคนแรก หรือเธอจะท้องลูกแฝดหรือเปล่า เพราะเธอท้องใหญ่เกินกว่าจะท้องลูกคนเดียว ช่วงนี้เธอว่างเกินไปจริงๆ ตั้งแต่ที่เธอท้องพี่เฟยหรงก็แทบจะไม่ให้เธอทำอะไรเลยวันๆ เธอมีหน้าที่แค่กินและนอนเท่านั้น เธอบันทึกประจำวันในแต่ละวันว่าทำอะไรบ้างลงในสมุดการตั้งครรภ์ ทุกเดือนเธอต้องแบกท้องกลมโตไปให้หมอตรวจ หมอก็บอกเธอว่าอาจจะได้ลูกแฝด เสียดายที่ไม่มีเครื่องตรวจ เธอก็เลยไม่รู้ว่าลูกเธอเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายกันแน่ แต่ไม่ว่าเป็นหญิงหรือชาย เธอก็รักเด็กคนนี้เสมอ“พ่อกลับมาแล้วครับ วันนี้เด็กน้อยดื้อกับแม่หรือเปล่าครับ” พี่เฟยหรงกลับบ้านเร็วทุกวัน เพราะกลัวว่าเธอจะอยู่คนเดียวที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ทุกครั้งตอนกลับถึงบ้านพี่เฟยหรงก็จะเข้ามาจูบที่ท้องของเธอ และเล่นกับลูกในท้อง เด็กน้อยทั้งสองเหมือนว่าจะรู้ว่าพ่อเขามาเล่นด้วย ก็จะดิ้นทักทายตอบกลับพี่เฟยหรงทุกครั้ง ทำให้เธอเจ็บท้องไปหมด แต่เป็นความเจ็บปวดที่เธอมีความสุขตอนนี้เข้าเดือนที่แปดแล้ว เธอมานอนอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่เพราะกลัวว่าเธอจะปวดท้
“ไม่โกรธคะ แต่เป็นห่วงมากกว่ากลัวว่าพี่จะเกิดอันตรายอะไรขึ้นมา พี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วคราวหน้าถ้าพี่เฟยหรงจะกลับบ้านช้า หรือทำอะไรที่เป็นอันตรายจะต้องบอกน้องไว้ก่อนนะคะ อย่าหายไปแบบนี้อีก ถ้าไม่อย่างนั้นน้องจะโกรธพี่เฟยหรงจริงๆ ด้วย” “ได้ครับ ครั้งหน้าพี่จะรายงานภรรยาตัวน้อยของพี่ทุกอย่าง จะไม่ลืมเลย” เธอหยอกล้อเล่นกับสามีอยู่ พี่เฟยหรงก็ทำหน้าพะอืดพะอมเหมือนอยากจะอ้วกขึ้นมา“พี่เฟยหรงเป็นอะไร ไม่สบายตรงไหน” “พี่ไม่ได้เป็นอะไร แค่ช่วงนี้พี่รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวและอยากจะอ้วกอยู่บ่อยๆ ” หรือพี่เฟยหรงจะแพ้ท้องแทนเธอกัน เขาว่าถ้าคนไหนรักเมียมากก็จะแพ้ท้องแทนเมีย เธอไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่พี่เฟยหรงก็รักเธอจริง“พี่อยากกินอะไรเปรี้ยวๆ หรือเปล่า” “ใช่แล้วพี่รู้สึกอยากกินของเปรี้ยวมากเลย” “ถ้าแบบนั้น เดี๋ยวน้องต้มน้ำแกงใส่ผักกาดดองให้พี่ดีไหม ที่บ้านเรายังมีลูกท้ออยู่ เดี๋ยวน้องจะไปเตรียมไว้ให้ พี่นอนพักก่อนก็ได้นะคะ ถ้าน้องทำเสร็จแล้วจะเอามาให้ที่เตียง” เธอลุกเดินไปล้างหน้า และเข้าไปที่ห้องครัวเพื่อไปเตรียมอาหารให้คนแพ้ท้องแทนเมียกิน ดีที่แม่ได้เตรียมผักกาดดองมาให้เธอเมื่อวานนี้
“ช่วงนี้หนูไม่ได้ไปหาหมอเลยคะ แต่อาการแบบนี้จะเป็นทุกครั้งหลังจากที่หนูฝึกพลังเวทเสร็จนะคะ” “ท้องหรือเปล่าลูก ตอนแม่ท้องแม่ก็อยากกินอะไรเปรี้ยวๆ เหมือนกัน” หรือเธอจะท้องกัน เพราะประจำเดือนของเธอเลยกำหนดมาหลายวันแล้ว“หนูก็ไม่รู้ค่ะ เอาไว้หนูจะลองตรวจดู” “พ่อว่าท้องก็ดี เฟยหรงจะได้สมใจอยากสักที สามีลูกมาบ่นให้พ่อฟังตลอดเลย มาถามหาเคล็ดลับอะไรก็ไม่รู้กับพี่ชายของลูกด้วย” “พี่เฟยหรงทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ สงสัยจะอยากมีลูกมากจริงๆ ไม่แน่หนูอาจจะท้องก็ได้นะคะ” “ระบบก็อยู่กับลูก ก็ลองซื้อมาตรวจสะตอนนี้เลย แม่จะได้ช่วยดูด้วย” “ก็ได้ค่ะ” เธอเปิดระบบร้านค้าขึ้นมาดู แล้วเลือกไปที่ตรวจการตั้งครรภ์ เธอเลือกเอาที่ตรวจง่ายๆ มาสองอัน เพื่อป้องกันความผิดพลาด เธอกดจ่ายแต้มในมิติไป สองร้อยแต้ม ตอนนี้แต้มในมิติที่เคยมีอยู่ก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม แต่ถ้าอยากมีแต้มที่มากขึ้น เธอจะได้แต้มนี้มาจากการขายของในระบบ ก็คือหาของมาขายให้ระบบอีกที เธอถึงจะได้แต้มมาซื้อของในร้านค้า เพราะเธอไม่ได้เปิดร้านค้าออนไลน์อีกต่อไปแล้ว ระบบเลยปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ที่เธอเป็นอยู่“ได้มาแล้วค่ะแม่ หนูจะเอาไปตรว
“นี่เฟยหรงใช่ไหม” หงเปาร้องเรียกชายหนุ่มที่อยู่ตรงทางออกประตูด้านหน้าเขา“ผมเฟยหรงเองครับท่านผู้ช่วย ตอนนี้ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับท่านผู้นำ ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านทำอะไรอยู่” “ตอนนี้ท่านผู้นำท่านได้พาทุกคนออกไปด้านนอกแล้ว” “แสดงว่า ที่ใต้ดินแห่งนี้มีทางออกหลายทางเหรอครับ” “ใช่แล้ว นายไม่เคยอยู่ในเมืองใต้ดินแห่งนี้ นายคงไม่รู้ว่ายังมีทางออกเชื่อมไปตามเมืองต่าง ๆ อีก” “ที่ผมจะคุยกับท่านก็เรื่องที่พื้นดินด้านบน สามารถอยู่ได้แล้ว ถ้าตอนนี้ท่านรู้แล้ว ผมขอกลับไปหาครอบครัวของผมก่อนนะครับ พวกเราต้องสร้างบ้านหลังใหม่” “ถ้านายทำเรื่องทางฝั่งของครอบครัวนายเสร็จแล้ว ก็มาพบกับท่านผู้นำอีกครั้งก็แล้วกัน ฉันจะบอกท่านไว้ให้” “ขอบคุณมากครับ” เฟยหรงพูดพร้อมกับความสบายใจ และได้เร่งเดินทางกลับมาหาครอบครัวของเขา“พี่เฟยหรงไปไหนมาคะ” ซูเมิ่งถามสามีของเธอออกไป เธอไม่เห็นเฟยหรงตั้งแต่เช้าแล้ว“พี่ไปแจ้งเรื่องท่านผู้นำมา แต่ไม่เจอท่าน” “อ่อ เรื่องนี้นี่เอง พี่น่าจะถามฉันก่อนนะคะ” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา ที่สามีของเธอใจร้อน ไปหาท่านผู้นำครั้งนี้ พี่เฟยหรงคงจะไปไม่พบกับท่านผู้นำแน่เฟยหรงเขาก็
“ เจ้ามีเรื่องอะไรจะคุยกับข้ากัน” เฟยฉีดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อสิ่งที่เขาเฝ้ารอมาตลอด เขาได้พบเจอเสียที “ผมน่าจะเคยรู้จักท่านเทพมาก่อนครับ ผมได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานมากแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ผมได้เป็นเด็ก ท่านเทพใช่คนเดียวกันกับ คนที่เอาเด็กน้อยและบันทึกตระกูลมาวางไว้ที่หน้าบ้านผม เมื่อครั้งนั้นใช่ไหมครับ ““เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเป็นพวกข้า” “ผมแค่รู้สึกได้ เป็นกลิ่นที่คุ้นเคยที่ออกมาจากตัวเด็กที่ท่านได้วางไว้เมื่อครั้งนั้น” ใช่แล้ว วันนั้นเป็นเศษเสี้ยวดวงจิตของพวกเขาเอง ที่ได้ทิ้งไว้ส่วนหนึ่งก่อนที่จะจำศีล เพื่อที่จะทำตามคำขอของเจ้านายคนเก่า ให้เอาเด็กน้อยไปวางไว้ที่หน้าบ้านของเขาคนนี้ ตามคำสั่งของเจ้าของมิติคนก่อน“ใช่แล้ว เป็นพวกข้าเองที่นำเด็กไปวางไว้ เจ้าของมิติคนเก่าของข้าได้ช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งไว้ พวกข้าก็แค่ส่งคืนญาติของเด็กที่น่าสงสารเท่านั้นเอง” “เจ้าของมิติคนเก่าของท่านก็ฝันเห็นนิมิตเหมือนกันใช่ไหมครับ ผมเคยได้ยินว่าถ้าฝึกเวทผ่านไปจนถึงขั้นสูงสุดจะฝันเห็นนิมิตได้” “สิ่งนั้นก็เป็นเรื่องจริง เจ้าของมิติคนเก่าของข้า แค่บอกว่า โชคชะตาจะนำพาให้พานพบกันอีกครั้ง ทุกสิ่งที่เกิด