วันต่อมา..
"เธอใส่อะไรก็สวยจริงๆ นะ" ขนาดอัญญารัตน์เป็นผู้หญิงยังอดที่จะชมไม่ได้
"สวยแล้วใช่ไหม" คนึงหาหันกลับไปมองตัวเองในกระจก เธอไม่ค่อยชอบแต่งเนื้อแต่งตัวเท่าไรก็เลยดูแปลกตา
"สวยสิ ฉันว่าแบบเธอเป็นดาราได้สบายเลยนะ เอาไหมเดี๋ยวฉันจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้"
"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เรารีบไปทำงานกันเถอะ" มือเรียวยื่นไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมอีกชั้น เพราะชุดที่เธอใส่ไม่ต้องการให้ใครทั่วไปเห็น
[บริษัทเสรีวิวัฒน์]
ตั้งแต่เดินเข้ามา พนักงานไม่ว่าจะชายหรือหญิงต่างก็มอง เพราะใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยสีสันมันทำให้สะดุดตาใครหลายคน
วันนี้คือวันที่สองที่เธอมาทำงานที่นี่ และหวังว่าคงไม่ใช่วันสุดท้ายเหมือนที่คุณเลขาพูด
เป็นเจ้าของบริษัททำไมต้องมาแต่เช้าขนาดนี้ด้วย ..พอมาถึงก็เห็นต้นสนผู้ช่วยคนสนิทเดินอยู่แถวนั้น แสดงว่าผู้เป็นนายก็ต้องมาแล้วเช่นกัน
"นี่เธอวันนี้ไม่ต้องออกมาเพ่นพ่านนะ" ในขณะที่สั่งดอกอ้อก็มองดูใบหน้าของคนึงหา เพราะวันนี้เธอแต่งหน้าทำผมแถมชุดที่สวมใส่ก็ดูเซ็กซี่มาก ถึงแม้ว่าจะมีเสื้อคลุมแต่ก็พอจะมองเห็น
"แล้วจะให้ฉันทำอะไรคะ"
"อยู่แค่ในห้องเครื่องดื่มแล้วกัน มีอะไรให้ช่วยเดี๋ยวจะเรียก"
"ค่ะ" คนึงหาก็เลยเดินเข้าไปในห้องที่จัดเตรียมเครื่องดื่มเพื่อผู้บริหาร
เราจะทำยังไงดีถึงจะเข้าใกล้ตัวไอ้บอสขี้เก๊กนั้นได้
"ทำไมห้องนี้มันอบอ้าวจัง" หญิงสาวรีบถอดเสื้อคลุมออก พร้อมกับสะบัดผมไปมาเพื่อจัดทรง และส่องดูเรือนร่างของตัวเองผ่านกระจกของตู้โชว์
"ไปไหนกันหมด" ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา เปิดประตูห้องทำงานออกมาหวังจะขอกาแฟ แต่ไม่เจอใครอยู่ที่หน้าห้อง "......" เขาคิดว่าคงจะอยู่ในห้องกาแฟก็เลยเดินมาดู แต่สิ่งที่เห็นคือด้านหลังของผู้หญิงที่ทำให้เขาถึงกับละสายตาไปไหนไม่ได้เลย
จังหวะนั้นเงาของผู้ชายที่กำลังจ้องมองมาก็ได้ปรากฏขึ้นในกระจกที่เธอกำลังส่องอยู่ หญิงสาวค่อยๆ หันกลับมาแบบช้าๆ
"ท่านประธานต้องการอะไรคะ"
"เธอนั่นแหละต้องการอะไร"
"ฉันเหรอคะ" โอกาสมาถึงแกแล้วคนึง..จะรออะไรอยู่อีก ขาเรียวก้าวเดินมาหาคนร่างสูงที่เอาแต่ยืนจ้องเรือนร่างระหงของเธออยู่
"คุณก็ลองเดาดูสิคะว่าฉันต้องการอะไร" ริมฝีปากบางค่อยๆ เปล่งเสียงหวานออกมา
"บอสครับ"
คนที่ต้นสนเรียกว่าบอสถึงกับรีบเรียกสติตัวเองให้กลับมา
"บอสมาทำอะไรตรงนี้ครับ"
"ผมควรถามมากกว่าไหมว่าพวกคุณไปไหนกันหมด"
"กำลังจัดห้องประชุมกันอยู่ครับ" ต้นสนตอบออกไปพร้อมกับมองเข้ามาในห้องเครื่องดื่มว่าบอสกำลังคุยกับใครอยู่ และสายตานั้นก็หยุดมองไม่ได้เช่นกัน เพราะแปลกใจว่าทำไมวันนี้เธอถึงแต่งตัวสวยนัก
"เอากาแฟเข้าไปให้ด้วย" สิ้นคำสั่งนั้นชายหนุ่มก็รีบเดินกลับห้องทำงานของตัวเอง
กาแฟเหรอ ..คนึงหารีบหันกลับไปหาแก้วกาแฟ เธอไม่รู้ว่าเขาชอบทานแบบไหน แต่ก็คงไม่แตกต่างจากคนอื่นเท่าไร หญิงสาวเริ่มจัดการกับกาแฟแก้วนั้น
ก๊อก ก๊อก
"เข้ามา" ชายหนุ่มที่ยืนมองทอดสายตาออกไปด้านนอก ก็ได้เดินกลับมานั่งลงที่เก้าอี้เมื่อมีคนยกกาแฟเข้ามาให้
มือเรียววางกาแฟลงที่โต๊ะด้านหน้าแบบช้าๆ
คนที่นั่งอยู่ทำเป็นไม่สนใจยังหยิบงานขึ้นมาเปิดดู พอกาแฟแก้วนั้นวางลงเขาก็หยิบมันขึ้นมาดื่ม
อึก! คำแรกที่กลืนลงไปเกือบทำให้สำลักออกมา
เขาดื่มได้แค่คำเดียวก็วางลง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร
"แม่คนนั้นไปไหนแล้ว" พอจัดเตรียมห้องประชุมเสร็จดอกอ้อก็เข้าไปดูคนึงหาว่ายังอยู่ในห้องเครื่องดื่มไหม แต่พอไม่เจอดอกอ้อก็รีบออกมาหาเกตุแก้ว
"รออะไรอยู่ไปตามคุณต้นสนมาสิ" ทั้งสองแค่สงสัยว่าตอนนี้เธอคงจะอยู่ในห้องของท่านประธาน แต่ไม่มีใครกล้าเปิดประตูเข้าไปดู
เพียงไม่นานต้นสนก็ได้มาถึงหน้าห้อง
ก๊อก ก๊อก ต้นสนเปิดประตูเข้าไปทันทีที่ส่งสัญญาณให้คนด้านในได้รู้
"เออ..ห้องประชุมเตรียมเสร็จแล้วครับ" ต้นสนไม่ได้สนใจคนที่เขาพูดด้วยเลย เพราะสายตามัวแต่จ้องมองผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ท่าน
"ฉันออกไปนะคะ"
"เธอยังไม่ตอบฉันเลย" ชายหนุ่มค่อยๆ วางเอกสารลงแล้วสายตาคมนั้นก็มองไปที่เธอเช่นกัน
"ตอบ?" จะให้ตอบอะไรก็ในเมื่อเขายังไม่ได้ถามอะไรเลย
"ก็ตอบเรื่องที่ฉันถามตอนอยู่ในห้องเครื่องดื่มไง"
อ้อ.. "คุณจะให้ฉันตอบตรงนี้เลยเหรอคะ" สายตางามตวัดมองไปที่ผู้ช่วยของเขา ตอนนี้ก็ยังอยู่ในห้องนั้น
"ให้ผมออกไปก่อนไหมครับ" ต้นสนรู้ตัวดีว่าตอนนี้คงกลายเป็นส่วนเกินไปแล้ว
"ไม่ต้อง"
ในเมื่อเขาไม่ให้ผู้ช่วยออกไป เธอก็เลยหันกลับมามองสบตาคมคู่นั้นด้วยแววตาที่ยั่วยวน
"มีไม่กี่อย่างหรอกค่ะที่ผู้หญิงต้องการจาก..ผู้ชายที่มีฐานะแบบคุณ" ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน เธอต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเกี่ยวข้องอะไรกับแม่ของเธอ
ผู้ชายทั้งสองที่อยู่ในห้องถึงกับหันมองหน้ากันแบบไม่ได้นัดหมาย เพราะไม่คิดว่าเธอจะใจกล้าเสนอตัวแบบนี้"ฉันพูดตรงไปหรือเปล่าคะ" ทำไมเธอจะไม่อาย..แต่ถ้ามัวอาย ก็คงเสียเวลาในการตามหาแม่ ตอนนี้เงินยิ่งเหลือน้อยเข้าไปทุกที เพราะต้องได้ถอนออกมาซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัว"ให้ผมออกไปได้หรือยังครับ" ต้นสนยังคิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินอยู่"ออกไปก่อน"ได้ยินแค่นั้นผู้ช่วยก็รีบออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูไว้แกเอาความกล้ามาจากไหนวะคนึง เพราะถ้าผู้ชายขี้เก๊กแบบเขาปฏิเสธ เธอคงจะหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บแน่เลย แต่ถ้าเขาตกลง แล้วเธอจะทำยังไงล่ะทีเนี่ย"อุ๊ย" ในขณะที่กำลังคิดอะไรอยู่นั้น มือหนาของผู้ชายที่นั่งอยู่เก้าอี้ก็ได้คว้าร่างระหงให้ลงไปนั่งที่ตักของเขา"ขะ..คุณจะทำอะไร" หญิงสาวรีบเบือนหน้าออกห่างเมื่อเขายื่นใบหน้าเข้ามาใกล้"ฉันไม่ได้เข้าใจผิดกับสิ่งที่เธอพูดมาเมื่อสักครู่ใช่ไหม" เห็นท่าทางของเธอกับคำพูดแล้วมันดูสวนทางกัน"เออ.. เรายังไม่ได้ตกลงอะไรกันเลยนะคะ" อะไรของผู้ชายคนนี้ ตกลงเขาเป็นคนแบบไหนกันแน่"ก็กำลังจะตกลงอยู่นี่ไง" ว่าแล้วริมฝีปากหนาก็ค่อยๆ ยื่นเข้ามา"ดะ..เดี๋ยวก่อนสิคะ" หัวใจเต้นแรง
ห้องประชุม.."เธอรออยู่ตรงนี้ ห้ามเข้ามาในห้องประชุมเด็ดขาด" ดอกอ้อให้คนึงหามาช่วยยกน้ำ แต่ก็ไม่ให้เอาเข้าไปในห้องประชุม ถ้าไม่งั้นเรื่องวุ่นวายคงได้เกิดขึ้นอีกแน่หญิงสาวก็ทำตามอย่างว่าง่าย ในขณะที่ยืนถือถาดน้ำรออยู่หน้าห้อง เธอก็คิดถึงเรื่องที่คุยกับเขาค้างไว้ เพราะเขาต้องรีบเข้าห้องประชุมก่อนเขาจะกล้าซื้อบ้านซื้อคอนโดให้เราจริงเหรอ ไม่จริงมั้ง มันไม่ใช่ถูกๆ เลยนะ ยิ่งบ้านอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แล้วด้วยแต่พอคิดถึงคำถามที่เขาถามมาก็เริ่มโมโห ..กล้าถามมาได้ยังไงผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คน"เมื่อไรคุณผู้ช่วยเลขาจะมาเอาน้ำเนี่ย รู้ไหมว่ามันหนัก" ยืนรอได้พักใหญ่เธอก็เริ่มปวดขา รวมทั้งต้องได้ถือน้ำที่เหลืออยู่อีก จะวางก็ไม่มีที่ให้วาง ถ้าจะเดินเอากลับไปไว้ในห้องเหมือนเดิม ก็กลัวจะโดนต่อว่าให้อีกที่ดอกอ้อยังไม่มาเอา เพราะมัวแจกจ่ายเอกสารในที่ประชุมช่วยเกตุแก้วเพล้ง!"เสียงอะไร" ในห้องประชุมหันมามองที่ประตูพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย"ผมไปดูเองครับ" ต้นสนอาสาจะออกไปดูว่ามันคือเสียงอะไร"ไม่ต้องหรอกค่ะเดี๋ยวฉันไปเอง" ดอกอ้อเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าให้คนึงหายืนรออยู่หน้าห้องประชุม"ทำอะไรของเธอ สร้างความวุ่น
ถึงแม้เธอจะชะงักกับภาพที่เห็นตรงหน้า แต่หญิงสาวก็จำเป็นต้องได้ถือกระเป๋าใบนั้นไปส่งให้ ..เมื่อก้าวเดินเข้ามาใกล้ หมื่นล้านความรู้สึกที่มีต่อแม่มันก็ได้ผุดขึ้นมาแม่ไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ..หญิงสาวคิดในใจพร้อมกับสายตาที่จ้องมองดูหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ในรถ มือของนางยื่นขึ้นมาลูบผมผู้ชายคนที่เพิ่งจะยื่นข้อเสนอเพื่อต้องการตัวเธอมาบำเรอความใคร่ นี่มันอะไรกัน เขาเกี่ยวข้องอะไรกับแม่ของเธอคนึงหาเคยเห็นภาพของแม่ตอนสาวๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่เพียงภาพขาวดำใบเล็กๆ แต่เธอจำเค้าโครงหน้าของผู้เป็นแม่ได้ดีหญิงสาวส่งกระเป๋าใบนั้นให้กับคนขับรถ ซึ่งคนที่อยู่ในรถไม่มีใครสนใจเธอเลยสักคน แตกต่างจากเธอในตอนนี้ที่สนใจพวกเขามาก"ถ้าลูกไม่ว่าง ไม่ต้องไปกับแม่ก็ได้นะ""ไปได้สิครับ" ทั้งสองคุยกันในขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกไป ซึ่งเธอก็ได้ยิน เพราะกระจกรถยังปิดไม่สนิท ..อะไรกัน เขาเป็นลูกของผู้หญิงคนนี้เหรอ เขาเป็นน้องของเราเหรอ? แต่ทำไมหน้าตาของเขาดูเหมือนจะอายุเยอะกว่า.. นี่มันคืออะไรกันคะยาย คนึงกำลังเจอกับอะไรอยู่อีกใจนึงเธอคิดว่า แม่มีผู้ชายคนนี้ก่อนที่จะมีเธอเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นยายต้องเล่าให้ฟังบ้างสิ หญิงสาวสั
บ่ายวันเดียวกัน..ก่อนที่เขาจะออกไป คนึงหาจำได้แม่นเขาบอกว่าจะกลับมาตอนบ่าย ..แต่นี่เกือบจะบ่ายสามแล้วยังไม่กลับมา เธอรอจะคุยเรื่องสัญญาที่เธอปฏิเสธไปอย่างใจจดใจจ่อ"คุณผู้ช่วยคะ" หญิงสาวตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่เมื่อเห็นใครบางคนเดินผ่านไป"ครับ" ต้นสนหยุดพร้อมกับค่อยๆ หันกลับมาแต่นาทีนี้ไม่ใช่แค่ต้นสนที่หัน ทุกคนที่ได้ยินเสียงเธอเรียกต่างก็หันมองมาพร้อมกัน ไม่เว้นแม้แต่เลขาและผู้ช่วยเลขา"ท่านประธานบอกว่าจะกลับมาตอนบ่ายยังไม่เห็นกลับมาเลยค่ะ"เกตุแก้วและดอกอ้อต่างก็มองสบตากันเมื่อได้ยินคำถาม และทั้งสองเริ่มจะไม่พอใจกับสิ่งที่คนึงหาทำ เพราะใครก็ดูออกว่าเธอกำลังจะทำอะไรต้นสนมองไปรอบๆ ชั้นนี้ไม่ได้มีแค่ห้องของท่านประธาน เพราะยังมีห้องผู้บริหารท่านอื่นที่อยู่ชั้นนี้ด้วย และเลขาของผู้บริหารท่านอื่นต่างก็มองมาเช่นกัน"บอสไปธุระต่อครับคงไม่ได้เข้ามาแล้ว คุณมีอะไรหรือเปล่าครับ" หนึ่งในข้อตกลงที่ถูกร่างขึ้นมาก็คือ..ห้ามให้เธอทำตัวให้คนในบริษัทรู้ว่าเธอเป็นใคร แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าเธอปฏิเสธไปแล้วไม่ใช่เหรอ ต้นสนก็เลยสงสัยข้อนี้พอรู้ว่าวันนี้เขาไม่เข้ามา เธอก็ไม่จำเป็นต้องรอแล้ว หญิ
พอถามออกไปแล้ว แต่เขาดูเหมือนจะไม่สนใจ คนึงหาก็เลยถือแก้วกาแฟนั้นออกจากห้องประชุมมาสายตาของเธอแอบชำเลืองมองบรรดาเลขาที่กำลังช่วยในที่ประชุมอยู่ ต่างก็ยิ้มใส่หน้ากันแบบเยาะเย้ยตัวเธอแต่ไม่เป็นไร เพราะเธอคิดไว้อยู่แล้วว่าจะไม่สนใจใคร11 : 30 น. หลังประชุมเสร็จพร้อมรบเดินออกมาจากห้องประชุม พร้อมกับผู้ช่วยที่ถือของตามหลังมาพอมาถึงห้องทำงาน ต้นสนก็รีบเดินไปเปิดประตูให้ ทั้งสองเข้าไปในห้องแบบไม่สนใจคนที่ยืนมองอยู่"นี่เธอไม่เห็นหรือไงว่าประชุมเสร็จแล้ว ไปเก็บของช่วยกันสิจะมัวยืนทำไมอยู่ตรงนี้" ดอกอ้อซึ่งกำลังถือของออกมาได้ตำหนิคนึงหา ที่มัวแต่ยืนมองตามท่านประธาน"ค่ะ" ที่เธอมองเพราะคิดว่าจะเริ่มต้นพูดกับเขายังไงดีกับเรื่องข้อเสนอที่เขายื่นมาให้กว่าจะเคลียร์ห้องประชุมเสร็จก็ถึงเวลาเที่ยง ทุกคนลงไปทานข้าวหมดแล้วคนึงหาก็เลยเปิดประตูเข้าไปในห้องของเขาดูว่าเขาไปหรือยัง"เที่ยงกว่าแล้วใครจะยังอยู่อีกล่ะ" พอเขามาก็ไม่เห็นมีใครอยู่ในห้องนี้แล้ว หญิงสาวกำลังจะเปิดประตูออกไป แต่ทว่า.. "อุ๊ย" เธอยังไม่ทันได้เปิดประตูเลยด้วยซ้ำ ก็มีคนเปิดมันเข้ามาก่อนจนทำให้เธอตกใจไม่ใช่แค่คนึงหาที่ตกใจคนที่เข้าม
คนึงหารอมาร่วมชั่วโมง ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของห้องจะกลับมา"หรือว่าเขาจะเอาคืนเรา" เพราะเธอเพิ่งจะปฏิเสธเขาไป..แต่กลับคำ "เขาคงไม่เอาคืนเราใช่ไหม" หญิงสาวได้แต่ถามตัวเองเวลาผ่านไป.. ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสามทุ่มกว่าแล้ว"คิดว่าฉันจะถอยหรือไง ไม่มีวันซะหรอก" สาวสวยที่อยู่ในชุดเซ็กซี่เดินไปที่เตียงกว้าง พร้อมกับทิ้งกายลงนอน เพราะทำงานมาทั้งวันเธอก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ22 : 50 น. แกร็ก~ เสียงประตูห้องของคอนโดสุดหรู ค่อยๆ ถูกเปิดเข้ามาสายตาคมจ้องมองหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงแบบพินิจพิจารณา เพราะหน้าตาของเธอเหมือนใครบางคนมาก มากจนสะกดให้เขาหยุดมองไม่ได้เลย03 : 45 น. "ยาย..ยายคะ" มือเรียวไขว่คว้าร่างของยายไว้ ในขณะที่กำลังจางหายไปในความฝัน แต่มือของเธอดันไปคว้าถูกใครบางคนที่นอนอยู่ข้างกาย "ยาย?!" หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมามือเรียวควานหาที่เปิดไฟหัวเตียง แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน จนทำให้คนที่นอนอยู่ข้างกายตื่นขึ้นมาด้วย"นอนต่ออีกสักนิดสิ""คุณ!" ได้ยินเสียงยิ่งทำให้เธอตกใจจนถอยหลังไปแทบจะตกเตียง โชคดีที่เขาคว้าร่างของเธอไว้ได้ทัน "กรี๊ด! ปล่อยนะ!!""จะกรี๊ดทำไมแสบแก้วหู""คุณกอดฉันทำไมล่ะ
“บอสคะ.. เออ ท่านประธานคะ.. ปล่อยฉันก่อนค่ะ” ถ้าเธอดิ้นรนเขาก็คงยิ่งจู่โจมหญิงสาวก็เลยต้องใช้วิธีอื่นจริงๆ เขาแค่อยากจะลองดูว่า พอเห็นทุกอย่างที่เขาให้ไปเธอจะถ่างขาให้เลยไหม และเขาก็เห็นแล้วว่าเธอไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะเธอพยายามหาวิธีเอาตัวรอดจากเขาตลอด“อะไรของเธออีก รู้ไหมว่าการถูกขัดอารมณ์บ่อยๆ มันหงุดหงิด”“ไม่รู้ค่ะ ฉันยังไม่พร้อมนี่คะ”“ไม่พร้อมแล้วเซ็นลงไปทำไม”“ฉันหมายถึงตอนนี้ฉันยังไม่พร้อม ฉันเป็นวันนั้นของเดือน” เอาวะ..ยังไงก็ต้องเอาตัวรอดให้ได้ก่อน เขาคงไม่กล้าเช็คไปถึงประจำเดือนหรอกมั้ง“วันนั้นของเดือน?” สายตาคมมองต่ำลงไปที่..“ใช่คะ” หญิงสาวรีบดึงชายกระโปรงลงเพราะว่ามันเปิดขึ้นมาแทบจะเห็นกางเกงชั้นในอยู่แล้ว“ไม่เป็นไร ฉันให้เวลาเธอไปล้าง แล้วค่อยมาต่อกัน”“ไปล้าง?” ..ไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่าวะ “คุณจะบ้าเหรอ ฉันเป็นรอบเดือนที่มีเลือดออกมานะ..คุณเข้าใจไหม” ฉันกำลังเจอกับอะไรอยู่เนี่ย“ทำไมผมจะไม่รู้ ก็แค่ล้างออกแล้วก็ต่อกันได้” ว่าแล้วมือหนาก็ยื่นไปเปิดลิ้นชักหยิบอะไรบางอย่างออกมา “คุณไม่ต้องกลัวหรอก..เพราะผมมีไอ้นี่”“ถุงยางอนามัย?!” รู้สึกว่าเขาจะพร้อมทุกอย่างเลยนะ “คุณเ
“ฉันขอให้รอบเดือนหยุดก่อนได้ไหมคะ” เขาอยากได้ตัวเธอมันก็ไม่แปลก เพราะเขายอมทุ่มขนาดนั้นแล้ว แต่เธอจะทำยังไงดี ถ้าเขาเป็นลูกชายของผู้หญิงคนนั้นจริง นั่นแสดงว่าเขาสายเลือดเดียวกันกับเธอเลยนะ ถึงแม้ว่าอยากจะแก้แค้นพวกเขามากเพียงใด แต่เธอก็อดคิดเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ดี“ฉันให้เวลาเธออีกสองวันแล้วกัน” ว่าแล้วชายหนุ่มก็คว้าเอาเสื้อสูทที่เขาเพิ่งถอดออกกลับมาสวมใส่ แล้วเดินไปที่ประตูห้อง “กลับเองได้ใช่ไหม”“ค่ะ” หญิงสาวได้แต่มองตามหลังคนร่างหนา เธอไม่เคยรู้สึกโล่งใจอะไรขนาดนี้มาก่อน ..นี่เรารอดแล้วใช่ไหม เราทำบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการสักหน่อย ..ตอนนี้ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะผิดแผนของเธอไปหมดเอาวะเหลืออีกตั้งสองวันค่อยคิดหาทางออกแล้วกันคอนโดอัญญารัตน์..ออกจากคอนโดหรูของเขา เธอก็กลับมาที่คอนโดเก่าๆ โทรมๆ แม้แต่ลิฟต์ก็ใช้การไม่ได้แล้วเย็นวันเดียวกัน.. “เธอไม่ได้ไปทำงานเหรอ” อัญญารัตน์กลับมาก็เห็นว่าคะนึงหาอยู่ในห้องแล้ว“ไป..แต่กลับมาก่อน”“ทำไมกลับมาก่อนได้ คุณเลขาไม่ว่าอะไรเหรอ”“ไม่รู้สิ”“เธออย่าทำให้พี่ลินดาถูกต่อว่านะ” อัญญารัตน์กลัวว่าคนที่ฝากงานเข้าให้จะถูกต่อว่า เพ
น้ำตาค่อยๆ คลอออกจากเบ้า เมื่อเห็นหน้าหลานชายคนแรก นางเป็นได้ทั้งย่าและยายของเด็กคนนี้ พ่อของเด็กก็คือลูกชายที่นางเลี้ยงมา และแม่ของเด็กก็คือลูกสาวแท้ๆ ของนางเอก"ยังเจ็บอยู่ไหมลูก""ไม่เจ็บแล้วค่ะ" คนึงหารู้ซึ้งก็วันนี้ ตอนที่อยู่ในห้องคลอด ถึงแม้ว่าจะกุมมือสามีไว้ แต่ขณะที่เจ็บมากๆ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงแม่ ถึงแม้แม่จะคลอดแล้วทิ้งเธอไป แต่แม่ก็คงทรมานไม่ต่างกัน ในระหว่างที่อุ้มท้องและเบ่งคลอด"คุณได้ชื่อหลานหรือยังล่ะ" วิวัฒน์ถามภรรยาเก่าที่เอาแต่เช็ดน้ำตา ทั้งสองยังพูดคุยกันตลอดมา แต่จะคุยแค่เรื่องลูกและหลาน เพราะความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาได้ขาดสะบั้นไปแล้ว"จะให้ฉันตั้งชื่อเหรอคะ""ใช่ครับคุณแม่" คนที่ตอบก็คือพร้อมรบ "คนึงบอกว่าจะรอให้แม่เป็นคนตั้งชื่อหลานให้" ในขณะที่พูดมือหนาของสามีก็กุมมือภรรยาไว้ตลอดเวลาคณิตมองดูลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงแล้วส่งยิ้มให้ทั้งน้ำตา"ยายบอกว่า ชื่อคนึงหา เป็นชื่อที่แม่ตั้งไว้ให้ค่ะ" คนึงหาเอ่ยพูดกับแม่เบาๆ ..ถึงแม้ชื่อนี้มันจะดูเศร้า แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่เธอรู้สึกผูกพันกับแม่มาก หญิงสาวคิดว่าแม่อาจจะตั้งคล้องจองกับชื่อของท่านที่ชื่อคณิตแต่จริงๆ แล้ว
สองวันผ่านไป.. ก่อนที่จะกลับคนึงหาพาแม่มาไหว้ยายกับพ่อ ที่จริงคณิตก็มาไหว้ตั้งแต่วันถัดมาที่มาถึงแล้ว และนางก็มาทุกวัน ถึงแม้จะคิดได้ก็สายไปแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ คณิตได้แต่สาบานกับตัวเองไว้ว่าจะไม่ทำตัวเหมือนแต่ก่อน โชคดีเท่าไรแล้วที่นางยังมีโอกาสได้กลับตัว ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายมากไปกว่านี้"คุณพ่อกับคุณยายต้องเข้าใจแน่ค่ะ คุณแม่อย่าคิดมากนะคะ"หึ..คณิตได้แต่ขำในใจ นางอายุขนาดนี้แล้ว ยังต้องให้ลูกเป็นคนคอยสอน เกิดมานางเคยมีดีอะไรบ้าง และนางก็ไม่คิดว่าลูกสาวที่นางทิ้งไป จะเป็นคนดีและกตัญญูได้ถึงเพียงนี้ ..ขอบคุณนะคะแม่ที่เลี้ยงคนึงหามาได้ดีขนาดนี้"ไปกันค่ะแม่" ก่อนที่จะเดินออกมาคนึงหาก็ได้หันไปคุยกับยายและพ่อว่าถ้ามีโอกาสจะพาแม่มาหาพวกท่านอีกพอทุกคนเสร็จธุระก็ออกมาที่รถตู้คันหรู ซึ่งมีต้นสนทำหน้าที่เป็นคนขับ[กรุงเทพฯ] ขับรถอยู่หลายชั่วโมงก็ได้มาถึงที่วิลล่าพอมาถึงก็เห็นลูกหว้าเตรียมของรอรับแม่กับพี่สาวและพี่ชายไว้แล้ว เพราะเธอติดต่อกับคนึงหาตลอดเวลา"คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ" หญิงสาวเดินเข้าไปโอบกอดแม่ไว้ คนึงหาแอบมองที่น้องกับแม่กอดกัน เพราะลูกหว้าได้รับความอบอุ่นจากแม่แบบนี้เสมอ
ดวงตางามหลบสายตาคมที่มองแบบมีเลศนัย "คุณจะสอนยังไง" ลูกหว้าไม่ใช่คนที่ใฝ่หาเรื่องพวกนี้ ก็เลยไม่รู้ว่าถ้าจะช่วยผู้ชายต้องทำยังไง"ใช้ปาก"ยิ่งได้ยินคำพูดแบบนี้เธอก็ยิ่งอายไปกันใหญ่ ก็รู้แหละว่าการใช้ปากคือเอาไอ้นั่นเข้ามาในปากของตัวเอง เหมือนกับที่เขาใช้ลิ้นให้เธอ "เออ""ถ้าไม่ ก็ไม่เป็นไรนะครับ" โลกันตร์ไม่คิดจะบังคับเธออยู่แล้ว เพราะมันเป็นอะไรที่บางคนอาจจะรับไม่ได้หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบว่าจะช่วยเขา ..เห็นเท่านั้นแหละ โลกันตร์รีบคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำความสะอาด เพราะทำงานมาทั้งวันชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นานก็ออกมา ส่วนหญิงสาวที่นั่งอยู่ปลายเตียงถึงกับหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นเจ้ามังกรลำใหญ่มือแกร่งเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอให้ขึ้นมาสัมผัสกับท่อนเอ็นอุ่น เขาใช้อุ้งมือของเธอเพื่อรูดมันขึ้นลง เพื่อให้เธอชินมือก่อน"ไม่ต้องอายผมนะ เราแต่งงานกันแล้ว" เห็นเธอหน้าแดงก็อดเอ็นดูไม่ได้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาแบบนั้น เพราะเขาเริ่มเสียวซ่านเมื่อถูกมือเรียวกำแน่นขึ้นลูกหว้าเผยอปากขึ้นเมื่อเจ้าของท่อนเอ็นขยับมันเข้ามาใกล้แบบไม่ต้องให้บอก"อ๊าา เสียวจัง" เข้าไปได้แ
"แต่ลูกหว้า.." เธอเป็นลูกผู้หญิงที่คิดจะฆ่าท่าน แถมไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านอีก แล้วเธอจะกล้ากลับไปได้ยังไง"ลูกจะทิ้งตาแก่ไว้ที่บ้านแบบนั้นคนเดียวได้ลงคอเหรอ""คะ?" ลูกหว้าไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้ ทำไมท่านช่างดีกับเธอนัก ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ท่านก็ยังไม่เคยทำร้ายจิตใจของเธอเลยแม้แต่นิด"กลับบ้านเรานะลูก""ค่ะ คุณพ่อ" หญิงสาวโผล่เข้าไปกอดชายสูงวัยที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่คลอด ลูกหว้าไม่อยากรู้เลยด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ ขอแค่มีท่านคนเดียวก็พอแล้วเย็นวันเดียวกัน.. ที่คฤหาสน์เสรีวิวัฒน์ชายหนุ่มได้แต่ยืนมองคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่ครั้งหนึ่งแม่ของเขาเคยอยู่ที่นี่ แต่ต้องหอบลูกในท้องออกจากบ้านของสามีไป เพราะความไม่รู้จักพอ ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ"เข้าบ้านกันค่ะ" มือเรียวเอื้อมไปกุมมือของสามีแล้วพูดกับเขาเบาๆ และมันก็ทำให้โลกันตร์ตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่คนร่างหนาเดินตามหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่จูงแขนของเขาให้เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่"ยินดีต้อนรับกลับบ้านทั้งสองคนเลยนะลูก" คนหนึ่งลูกชายในไส้ อีกคนลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือ ไม่รู้ว่าจะเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายกับสิ่งที่พบ
คนึงหาโทรกลับไปหารัตนาเพื่อวานให้ทำความสะอาดบ้านไว้รอ เพราะเธอจะพาแม่กลับไปส่วนพร้อมรบไม่ทิ้งให้พวกเธอกลับไปเพียงลำพังแน่ เขาก็เลยให้โลกันตร์อยู่ดูงานช่วยพ่อไปก่อนส่วนลูกหว้าอยากจะไปกับแม่และพี่สาว แต่ถ้าเธอไป สามีก็จะตามไปด้วย ลูกหว้าก็เลยจำเป็นต้องได้อยู่ที่นี่ไปก่อน แล้วค่อยตามไปอีกทีเมื่องานบริษัทเบาลงแล้วต้นสนทำหน้าที่ขับรถตู้คันที่เคยเป็นของคณิตมาก่อน เพราะถ้าเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็จะสะดวกหน่อยขับรถอยู่หลายชั่วโมง ก็กลับมาถึงที่หมู่บ้านในช่วงเย็นหลายคนในหมู่บ้านที่ได้ยินข่าวว่าคณิตจะกลับมาต่างก็มารอรับ และทุกคนก็พูดแบบยินดีที่เห็นคณิตกลับมาบ้านเกิด"แม่นอนห้องนี้ได้ไหมคะ"คณิตมองดูบรรยากาศเก่าๆ บ้านหลังเก่า ห้องเก่าที่นางเคยนอนกับสามีพ่อของคนึงหา นางถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่"ไม่เป็นไรนะคะแม่ คนเราไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป แต่ขอให้คิดได้ก็พอแล้ว" คนึงหาไม่รู้จะปลอบใจแม่ยังไง กลัวว่าอาการเดิมของแม่จะกลับมา"นอนได้สิจ๊ะ แต่ก่อนแม่ก็เคยนอนที่นี่แหละ"ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่ในห้อง ด้านนอกก็กำลังคุยเช่นกัน..."ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะพี่ต้น" จะไม่ให้ทักก็คงไม่ได้ แต่รัตนาก็รู้แล
"คุณแม่คะ" ลูกหว้าหันมองตามสายตาของโลกันตร์ไป ก็เห็นว่าเขากำลังมองแม่ของเธออยู่"ผมไปนะ" คำพูดนี้โลกันตร์พูดกับภรรยาก่อนที่จะหันหลังให้ ทำไมเขาถึงทำไม่ได้ เขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนพูดว่ามันคงเป็นเวรกรรมที่พวกท่านทำร่วมกันมา พอคิดได้แค่นั้น ชายหนุ่มร่างสูงก็ค่อยๆ หันกลับมาอีกครั้ง และสายตานั้นก็หันมองเห็นเธอกำลังเช็ดน้ำตาอยู่พอดี"คุณร้องไห้ทำไม"ลูกหว้าไม่ได้ขอร้องให้เขาหยุด เพราะคงไม่กล้าไปขอร้องเขาอภัยให้แม่ของเธอได้ ท่านทำกับครอบครัวของเขาไว้มากมายเหลือเกินชายหนุ่มรีบเดินกลับมาหาภรรยา มือหนาเอื้อมไปโอบเธอเข้ามาแนบอกตัวเองไว้"ไม่ร้องนะครับ"ที่ลูกหว้าร้องไห้เพราะไม่คิดว่าเขาจะหันกลับมา แต่พอเห็นเขาเดินกลับมาปลอบ มันยิ่งทำให้เธอเชื่อว่าผู้ชายคนนี้แคร์เธอมาก"แม่ขอคุยกับคุณโลกันตร์หน่อยได้ไหม""เอาไว้คุยวันหลังแล้วกันครับ" โลกันตร์พูดโดยที่ไม่หันไปมองนางเลยด้วยซ้ำ"แม่จะรอนะ""ไปพักดีกว่า" โลกันตร์มองต่ำลงมาพูดกับคนที่เขากำลังกอดอยู่ โดยที่ไม่สนใจประโยคนั้นของแม่เธอเลย"ไหนคุณบอกว่าจะกลับไปบริษัทไงคะ""ไม่กลับไปแล้ว" เรื่องงานเขาไม่ได้เป็นห่วงเลย สิ่งที่เป็นห่วงก็คือเธอกับลูกลูกหว้
คนึงหาลุกขึ้นแล้วรีบเดินเข้าไปดูแม่ เพราะเธอได้ยินเสียงที่ท่านหัวเราะ"แม่คะ" แต่พอเดินอ้อมไปก็เห็นว่าท่านหลับตาอยู่ หรือว่าท่านจะฝัน ..ถ้าไม่ฝัน ท่านขำที่เธอหยอกเย้ากับสามีงั้นเหรอ..แต่ก็ไม่น่าจะใช่ คนึงหาก็เลยจับผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้ แล้วมองหน้าท่านอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง ถึงเดินกลับไปหาสามีที่กำลังนั่งมองมาเช่นกัน"ฉันยังไม่ได้ถามคุณเลย ว่าคุณแม่ชอบทานอะไร" ที่คนึงหาถามสามีก็เพราะว่าเธอจะได้หาอาหารได้ถูกปากของท่าน"ท่านชอบกินอาหารที่รสไม่จัด" ในขณะที่พูดมือหนาได้ลูบไล้ผมสลวยของภรรยาเบาๆ ไปด้วย แล้วพร้อมรบก็บรรยายให้ฟังไปเรื่อยๆ ในใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสารเธอ แต่ถือว่าเป็นความโชคดีของเขาอย่างหนึ่ง ถ้าเธอไม่พบชะตากรรมแบบนี้ เขาและเธอคงจะไม่ได้เจอกัน"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวก็ดีใจไม่ต่างกันที่มาเจอเขา ถึงแม้การเจอกันจะไม่เหมือนคนทั่วไป เพราะเธอใช้ความสวยยั่วยวนจนได้ทั้งตัวและหัวใจของเขามาครอง"คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก มีอะไรก็ถามผมมาได้เลย" ถึงแม้เขาจะเป็นลูกเลี้ยง แต่พร้อมรบก็รู้จักดีว่านางชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะเขากลัวว่านางจะไม่รัก ก็เลยต้องได้สังเกตเอาน้ำตาค่อยๆ ไหลลงเป็นสายจนเปรอะเปื้
"ไม่ได้!" พร้อมรบยืนกรานปฏิเสธสิ่งที่คนึงหาขอมาโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดแม้แต่นิด"ฉันขอพาแม่ไปนะ""ถ้าคุณไป ผมก็จะไปด้วย""แล้วบริษัท รวมทั้งคนที่นี่ล่ะ พวกเขายังต้องการคุณอยู่""คุณไม่ต้องการผมแล้วงั้นเหรอ""ฉันอยากใช้เวลา อยู่กับท่าน" คนึงหาหมายถึงอยากใช้เวลาอยู่กับแม่ให้มากกว่านี้ ไม่ว่าแม่จะเคยทำยังไงกับเธอมาก่อน ยังไงเธอก็ยังเห็นนางเป็นแม่แต่ยังไงพร้อมรบก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอกลับไปอยู่ที่บ้านกับแม่ ถึงแม้ว่าเธอจะให้เหตุผลอะไรมาก็ตามโลกันตร์&ลูกหว้าชายหนุ่มนั่งกุมมือของคนรักที่นอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่บนเตียงผู้ป่วย ดวงตาคมมองสายน้ำเกลือที่ถูกส่งผ่านเข้าไปในร่างกายของเธอ"ผมขอโทษ ทำไมผมถึงเป็นคนที่เห็นแก่ตัวแบบนี้" โลกันตร์หวนคิดถึงคำที่แม่เคยสอน "แม่ครับ ผมเกือบเผลอทำร้ายลูกกับเมียของผมแล้ว" ทันใดนั้นด้านหลังของเขาก็เกิดลมพัดวูบหนึ่ง จนชายหนุ่มต้องหันกลับไปมอง ..จะว่าลมจากเครื่องปรับอากาศก็คงไม่ใช่"แม่ใช่ไหมครับ แม่ใช่ไหม แม่กลับมาอยู่กับผมได้ไหม" ชายหนุ่มเอ่ยพูดขึ้น เพราะตอนนี้เมียของเขากำลังท้องอยู่ เผื่อว่าจะเป็นการเปิดทางให้แม่ได้กลับมาอยู่กับเขาอีกครั้ง ที่จริงโลกันตร์ไม่เชื่อเรื
"อื้ออ พอก่อนค่ะ เดี๋ยวพี่พร้อมก็เข้ามาแล้ว""จะพอได้ยังไง คุณก็พูดเป็นเล่นไป" เซ็งเป็ดเซ็งไก่มันเป็นแบบนี้นี่เอง โลกันตร์เพิ่งรู้ซึ้งในคำนี้ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหยุดหรอกถ้าไม่ถึงฝั่งฝันก่อน"อ๊อยย.. คุณโลกันตร์คะ""ขอเสร็จก่อนไม่ได้หรือครับ""เร็วๆ นะ" เมื่อเห็นแววตานั้นเธอก็รู้สึกเห็นใจขึ้นมา ก็เลยปล่อยให้เขาทำต่อแล้วโลกันตร์จะไปรออะไร "ซี๊ดด อ่าา" เพราะตอนนี้เขาต้องรีบทำเวลา"อือ อ่ะ อ่ะ" ลูกหว้าเริ่มหายใจรวยรินร่างกายสั่นสะท้านไปด้วยแรงกระแทก เมื่อท่อนเอ็นลำยาวขยับเร็วขึ้น"ใกล้แล้วคุณทนอีกนิดนะครับ" ในขณะที่พูดมือหนาก็ได้บีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเธอไปด้วยปล่อยมือจากหน้าอกโลกันตร์ก็จับขาเรียวขึ้นมาพาดไหล่ แล้วโน้มลำตัวลงไปเพื่อที่จะให้ท่อนเอ็นเข้าไปได้ลึกกว่านี้ "ซี๊ดดด..เสียวจัง""โอ๊ย"ชายหนุ่มร่างหนาทนความเสียวของตัวเองไม่ไหวก็เลยเผลอกระแทกแรง แต่เขาคิดว่าเธอคงจะใกล้ ยิ่งเธอร้องโอดโอยเขาก็ยิ่งเร่งความเร็ว"เจ็บ" หญิงสาวพยายามกัดฟันไว้แล้วแต่ก็ทนความเจ็บไม่ไหว ตอนนี้มันตึงหน่วงไปถึงมดลูก"เจ็บเหรอ" ท่อนเอ็นอุ่นที่ฝังอยู่ในร่างกายของอีกฝ่ายค่อยๆ ถอดออกมา"โอ๊ยย