เย็นวันเดียวกันนั้น.. วันเดียวกับที่พวกเขาไปวัดกันมา"คุณรัตน์ครับ""คะ//คะ" เสียง'คะ'นี้ดังขึ้นพร้อมกัน แต่ทุกคนไม่ได้สังเกต เพราะอัญญารัตน์หันไปขานรับพร้อมกับที่ต้นสนเรียกรัตนา ที่จริงคนที่บ้านของเธอไม่ได้เรียกอัญ..แต่เรียกรัตน์.. เพราะมันคือประโยคหนึ่งที่อยู่ในชื่อของเธออัญญารัตน์ต้องรีบหันไปมองทิศทางอื่น เมื่อเข้าใจแล้วว่าคนที่ต้นสนเรียกไม่ใช่เธอ แต่เป็นรัตนาเพื่อนของคนึงหา"ผมอยากจะไปตลาด แต่ไม่รู้ว่าต้องไปทางไหน" ต้นสนเป็นอีกคนที่ไม่ได้ยินตอนที่เธอตอบรับมา แต่ก็เห็นนะว่าหันมามอง เขาคิดว่าที่หันมาคงเพราะอยู่ดีๆ เขาพูดขึ้น"ได้สิคะ เดี๋ยวรัตน์จะพาไปค่ะ" ตอนที่ต้นสนไปส่งรัตนาที่บ้าน ทั้งสองพอที่จะได้พูดคุยกันอยู่บ้าง และรัตนาก็บอกให้ต้นสนเรียกชื่อเล่นเธอ"แล้วคนอื่นไม่ไปด้วยเหรอคะ" รัตนาหันไปถามกลุ่มเพื่อน "คุณอัญไปด้วยไหมคะ" หันไปพอดีสบตากับอัญญารัตน์ รัตนาก็ลองถามดู"ไม่ค่ะ" จังหวะนั้นต้นสนเดินไปรอที่รถก่อนแล้ว"คนึงแกจะเอาอะไรไหม แล้วคุณล่ะคะจะเอาอะไรไหมคะ" รัตนาก็เลยหันไปถามทุกคน พอเสร็จเรื่องก็รีบเดินตามต้นสนมาที่รถอัญญารัตน์รู้สึกอึดอัดมาก ที่ต้องอยู่แบบนี้ แต่จะทิ้งเพื่อนไ
สายตาคมมองไปรอบๆ เพราะเรื่องที่เขาจะพูด มันไม่น่าให้คนอื่นฟังด้วยเลย"เดี๋ยวผมจะพาสาวๆ ไปช้อปปิ้งก่อนแล้วกันครับ ตอนนี้ตลาดเย็นคงมีแล้วมั้งใช่ไหมครับคุณรัตน์""ใช่ค่ะ""ถ้างั้นเราไปกันเลยดีกว่า" ว่าแล้วต้นสนก็เดินนำหน้าออกไปอัญญารัตน์จำเป็นต้องได้เดินตามหลังพวกเขามา ส่วนลูกหว้าไม่ได้มาด้วย เพราะเรื่องที่ทั้งสองจะคุยกันลูกหว้าต้องอยู่เป็นพยานด้วยที่จริงอัญญารัตน์ก็ไม่อยากจะไปกับพวกเขาหรอก แต่จะอยู่ก็ไม่ได้ ก็เลยจำใจต้องได้เดินตามมาที่รถ ..พอมาถึง ด้านหน้ารัตนาก็จับจองเป็นเจ้าของไปแล้ว ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ก็เป็นได้แค่ส่วนเกินใช่ไหม หญิงสาวหลับตาลงช้าๆ เพื่อเตือนสติตัวเอง แล้วก็เอื้อมมือไปเปิดประตูด้านหลัง พร้อมกับขยับเข้าไปนั่งเสียงประตูปิดลงรถก็เริ่มออกตัวไปแบบช้าๆ"คุณอัญเป็นคนกรุงเทพฯ เหมือนคุณต้นเหรอคะ" รัตนาหันกลับมาคุยกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านหลัง เพื่อไม่ให้ในรถเงียบเกินไป"คุณต้น?" อัญญารัตน์ไม่เข้าใจว่ารัตนาหมายถึงใคร"ก็คุณต้นสนไงคะ""อ้ออออ.."จังหวะนั้นต้นสนมองคนที่นั่งอยู่ด้านหลังผ่านกระจก เพราะได้ยินเธอลากเสียงยาวแต่อัญญารัตน์ก็ไม่ตอบอะไร เพราะเธอไม่ได้สนิทมากขนาดต้อ
"ฉันไม่มีวันให้เธอกลับไปคนเดียวแน่!" มันคือคำพูดของคนึงหา เธอไม่มีวันปล่อยเพื่อนกลับไปคนเดียวแบบนี้อยู่แล้ว"มีอะไรกัน" พร้อมรบได้ยินเสียงก็เลยออกมาดู ส่วนลูกหว้าก็ตามออกมาเช่นกัน"ก็ยัยอัญน่ะสิคะ ขอกลับบ้าน""บ้านคุณอัญอยู่ที่ไหนคะ" ลูกหว้าเป็นคนถามอัญญารัตน์ก็เลยบอกออกไป และเธอก็ยืนกระต่ายขาเดียวว่าจะกลับบ้านก่อนและทันใดนั้น โทรศัพท์ของพร้อมรบก็ดังขึ้นเขายกมันขึ้นมาดู..แล้วก็แปลกใจ "คุณพ่อ?" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับมองหน้าน้องสาว แล้วมองไปดูหน้าคนึงหา>>{"ครับพ่อ"} {"เสร็จธุระทางนั้นหรือยัง ถ้าเสร็จแล้วก็กลับมา"}>>{"อะไรนะครับ"} ชายหนุ่มงงกับคำพูดของผู้เป็นพ่อ เพราะคำพูดของท่านเหมือนกับรู้ว่าเขากำลังทำอะไร และอยู่ที่ไหน {"พาน้องๆ กลับมาได้แล้ว"}>>{"น้องๆ ? ? "} มันยิ่งสร้างความสงสัยให้กับพร้อมรบ"เดี๋ยวลูกหว้าจะเล่าให้ฟังเองค่ะ" ลูกหว้าพูดพร้อมกับยิ้มแห้งให้กับพี่ชายและพี่สาว เพราะเธอรู้เรื่องทั้งหมดแต่ก็ถูกผู้เป็นพ่อห้ามไว้ยังไม่ให้พูดอะไรจากที่กำลังคุยเรื่องของอัญญารัตน์อยู่ ตอนนี้กลับมาเรื่องของพวกเขาอีกแล้ว อัญญารัตน์ก็เลยถอยออกมาก่อนหญิงสาวเดินออกมาจากบ้านของคนึงหาโดย
คนึงหาเดินเข้าไปจนลับสายตา แต่อัญญารัตน์ยังยืนทำใจอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง ถึงได้กลับมาที่รถซึ่งมีต้นสนนั่งรออยู่ก่อนหน้านั้นแล้วในเมื่ออัญญารัตน์ไม่กลับกรุงเทพฯ ด้วยกัน และคนึงหาก็ไม่สามารถที่จะทิ้งเพื่อนให้กลับบ้านไปคนเดียวได้ เธอก็เลยขอยืมตัวต้นสนจากพร้อมรบให้ไปส่งเพื่อนก่อนมือเรียวเอื้อมไปเปิดประตูด้านหลัง แล้วก็เข้าไปนั่งต้นสนมองผ่านกระจกเพื่อดูคนที่เพิ่งขึ้นมานั่งแบบไม่ค่อยสบอารมณ์ และไม่พอใจที่เห็นเธอทำเหมือนเขาเป็นคนขับรถอีกคน แต่ชายหนุ่มก็ไม่พูดอะไร ยังขับรถมุ่งหน้าไปทางจังหวัดที่เธอบอกไว้สองชั่วโมงผ่านไป..และตอนนี้ก็ได้ข้ามมาอีกหนึ่งจังหวัดแล้วต้นสนเห็นว่าด้านหน้ามีรีสอร์ทเขาก็เลยเลี้ยวรถเข้าไปด้านใน"คุณมาที่นี่ทำไม" อัญญารัตน์มีความตกใจอยู่มาก เพราะเรื่องในคืนนั้นมันยังทำให้เธอเป็นกังวล"คุณจะไม่ให้ผมพักเลยหรือไง นี่ก็ดึกมากแล้ว" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลงจากรถ "ลงมาสิครับคุณผู้หญิง" เขาเอื้อมมือไปเปิดประตูด้านหลัง เพราะเห็นว่าเธอยังนิ่งอยู่"ฉันจะนอนในรถ""คุณคงเห็นผมเป็นตัวเชื้อโรคมากเลยสินะ หรือเห็นผมเป็นแค่คนขับรถ""คุณหมายความว่ายังไง""ถ้างั้นก็ไม่ต้องพัก" ชายหนุ่มกลับขึ้น
เห็นว่าเธอไม่พูดอะไรก็เริ่มได้ใจ จากที่ลูบคลำช่วงบนตอนนี้เลื่อนลงมาที่ช่วงล่างหญิงสาวสะดุ้งเพราะมือของเขาเย็นมาก พอล้วงมันเข้ามาได้นิ้วแกร่งก็เริ่มขยี้เม็ดเสียวโดยไม่ให้เธอได้ตั้งตัวในขณะที่นิ้วแกร่งขยับวนอยู่นั้น สายตาทั้งสองได้สบกันเข้า จนหญิงสาวต้องได้หลบตาคมคู่นั้นเพราะความเอียงอาย แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้เธออายนาน ..มือหนาเชยคางเรียวให้หันกลับมา พร้อมกับแนบริมฝีปากลงไปแบบนิ่มนวล"อืออ" หญิงสาวเริ่มจะทนนิ้วของเขาไม่ไหว เพราะนอกจากมันจะวนอยู่ที่เม็ดรัญจวนแล้ว บางจังหวะเขายังส่งมันเข้าไปในร่องคับแคบ เพื่อเช็คดูว่าด้านในพร้อมหรือยังพอเขารู้แล้วว่าเธอพร้อม ชายหนุ่มก็รีบจัดการกับสิ่งกีดขวางช่วงล่างของเธอออก เพื่อที่จะแยกขาเรียวออกให้กว้างหน่อย เพราะพื้นที่ในเต้นท์มันแคบมาก แต่สำหรับความเป็นชายของเขาแล้ว ต้นสนแค่รูดซิปลงแล้วก็ควักมันออก"อ้าา" จังหวะที่กำลังส่งมันเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย ชายหนุ่มก็กลั้นเสียงไม่อยู่เพราะความฟิตแน่นมือเรียวถูกยกขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ เพราะกลัวว่าจะเผลอส่งเสียงออกไป เนื้อที่กางเต็นท์ถูกจัดเรียงไว้เป็นระเบียบไม่ห่างกันนัก ถ้ามีเสียงเล็ดลอดออกมาแน่นอนว่าเต็นท
คนแถวนั้นต่างก็ออกมามองดูว่าเป็นรถของใครที่มาใครจอดอยู่แถวนี้"คุณกลับไปเถอะ" ว่าแล้วหญิงสาวก็ลงจากรถ เพราะรู้จักนิสัยชาวบ้านพวกนี้ดี เดี๋ยวก็เอาไปนินทา"อ้าวว..ไอ้รัตน์เองหรอกหรือป้านึกว่าใคร"คนที่ตามลงมาถึงกับหันมองไปดูชาวบ้านที่เรียกอัญญารัตน์เมื่อสักครู่ แล้วใบหน้าคมก็ค่อยๆ หันกลับมามองที่เธอ"ใช่จ๊ะ" อัญญารัตน์ตอบออกไปแบบไม่มองหน้าใครเลยด้วยซ้ำ"ผัวมึงเหรอรัตน์" ป้าคนนั้นยังคงถามต่อเมื่อเห็นผู้ชายคนที่ขับรถเดินตามมาและตอนนี้ต้นสนก็แน่ใจแล้วว่าเธอไม่ได้ชื่ออัญ แต่เธอชื่อรัตน์ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับรัตนา ถ้างั้นสิ่งที่เขาได้ยิน..? ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่ต้นสนเรียกรัตนาด้วยชื่อเล่น และเขาก็ได้ยินเสียงคนตอบรับเกินหนึ่งคนเสมอ"ฉันบอกให้คุณกลับไปไง ฉันถึงบ้านแล้วไม่เห็นเหรอ" หญิงสาวรีบเดินเข้าไปเขตรั้วบ้านของป้าคนนั้น เพื่อที่จะใช้มันเดินผ่านเข้าไปในบ้านตัวเอง โดยที่ไม่ตอบคำถามเมื่อสักครู่แต่ต้นสนก็ยังคงเดินตามหลังมา"นี่คุณ!" จังหวะนั้นเธอหันกลับมา กำลังจะตำหนิ แต่เห็นในมือเขาถือกระเป๋าของเธออยู่ อัญญารัตน์ก็เลยรีบเดินกลับมาคว้าเอากระเป๋าใบนั้น เพราะคิดว่าที่เขาเดินตามมาคงเอากระเป๋าม
"คุณแม่?!" พร้อมรบออกจากห้องน้ำ คิดว่าเธอกลับเข้ามาในบ้านแล้ว พอไม่เห็นเขาก็รีบตามออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบท่อนล่างอยู่"คุณแม่มาที่นี่ทำไม..ไม่สิ..คุณแม่รู้จักที่นี่ได้ยังไง" เขาเดินตรงเข้ามาแล้วเอาร่างกายของตัวเองบดบังร่างเธอไว้"กลับบ้าน""ผมไม่ไป""ลูกจำได้ไหม ก่อนที่แม่จะรับลูกมาเลี้ยงลูกสัญญากับแม่ว่ายังไง""แต่ผมก็ช่วยบริหารบริษัท และช่วยคุณพ่อทุกอย่าง" เขาคิดว่าแค่นี้มันคงจะพอแล้ว ส่วนอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตเขาขอเป็นคนกำหนดมันเอง"ลูกคิดว่าทำแค่นั้นจะทดแทนบุญคุณที่แม่ชุบเลี้ยงมาได้อย่างนั้นเหรอ"คนึงหาทำได้แค่ยืนมอง..ความรู้สึกหนึ่งเดียวที่ผุดขึ้นมา คือสงสารผู้หญิงตรงหน้า นางถูกอำนาจของวัตถุภายนอก ควบคุมจิตใจจนไม่เหลือความเป็นมนุษย์อีกต่อไปแล้ว"แม่ให้เวลาถึงพรุ่งนี้ หวังว่าลูก คงจะตัดสินใจถูกนะ" พอจบประโยคนางก็หันหลัง กำลังจะเดินกลับไปที่รถ"ผมไม่ต้องการเวลา ผมตอบคุณแม่ได้ตอนนี้เลยว่า ผมจะไม่มีวันทิ้งลูกกับเมียของผม เหมือนที่คุณแม่เคยทำมา"ประโยคนี้ที่เขาได้เอ่ยพูดออกมา มันทำให้เธอที่ยืนฟังอยู่ถึงกับน้ำตาเอ่อล้นออกมาแบบไม่รู้ตัว"แกพูดอะไร!!""คุณแม่กลับไปเถอะครับ ถ้
"สว่างเกินไปหมายความว่ายังไง!" หญิงสาวถามกลับไปทันควันเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากปากของเขาแต่ต้นสนไม่ตอบยังขับรถตรงมาอีกสักพักก็เลี้ยวเข้าไปในซอย ดูแล้วซอยนี้คงจะเป็นซอยตัน ชายหนุ่มจอดรถพร้อมกับปิดไฟหน้า"คุณต้นสน!" เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนนิสัยยังไง ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง เขาชอบจะทำแบบนั้นกับเธอ"บอสเรียกตัวให้กลับ" สายตาคมค่อยๆ หันมองมาที่เธอแบบช้าๆ"คะ?..เออ คุณก็กลับไปสิ" อัญญารัตน์ยอมรับว่าตกใจมาก แต่เธอต้องรีบปรับอารมณ์ เพราะจะให้เขาเห็นไม่ได้ที่พร้อมรบเรียกตัวต้นสนให้กลับไปก่อน เพราะมีอะไรให้ช่วยอีกหลายอย่าง จะใช้คนอื่นก็ไม่ไว้ใจ"กลับไปพร้อมกันไหม"อัญญารัตน์ไม่ตอบ ได้แต่ก้มหน้าก้มตา เพราะเธอคิดว่าคงจะไม่ได้กลับไปกรุงเทพฯ อีกนาน งานเดิมที่เคยทำเขาคงจะไม่รับเธอแล้วหญิงสาวส่ายหน้าเล็กน้อย ถ้าเธอกลับไป ก็คงจะไม่พ้นอีหรอบเดิม เหมือนคนที่ไร้ตัวตน"มองหน้าผมสิ"ใบหน้าเรียวค่อยๆ เงยขึ้นมามองคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างกาย "อืมมม"เขาแค่อยากจะชวนเธอออกมาคุยเรื่องนี้ ไม่ได้คิดจะมาพักรีสอร์ทจริง แต่ถ้าจะชวนเธอเข้าไปคุยในห้อง คนแบบเธอน่ะเหรอที่จะยอมเดินเข้าไปด้วยง่ายๆ ต้นสนก็เลยเลือกคุยท
น้ำตาค่อยๆ คลอออกจากเบ้า เมื่อเห็นหน้าหลานชายคนแรก นางเป็นได้ทั้งย่าและยายของเด็กคนนี้ พ่อของเด็กก็คือลูกชายที่นางเลี้ยงมา และแม่ของเด็กก็คือลูกสาวแท้ๆ ของนางเอก"ยังเจ็บอยู่ไหมลูก""ไม่เจ็บแล้วค่ะ" คนึงหารู้ซึ้งก็วันนี้ ตอนที่อยู่ในห้องคลอด ถึงแม้ว่าจะกุมมือสามีไว้ แต่ขณะที่เจ็บมากๆ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงแม่ ถึงแม้แม่จะคลอดแล้วทิ้งเธอไป แต่แม่ก็คงทรมานไม่ต่างกัน ในระหว่างที่อุ้มท้องและเบ่งคลอด"คุณได้ชื่อหลานหรือยังล่ะ" วิวัฒน์ถามภรรยาเก่าที่เอาแต่เช็ดน้ำตา ทั้งสองยังพูดคุยกันตลอดมา แต่จะคุยแค่เรื่องลูกและหลาน เพราะความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาได้ขาดสะบั้นไปแล้ว"จะให้ฉันตั้งชื่อเหรอคะ""ใช่ครับคุณแม่" คนที่ตอบก็คือพร้อมรบ "คนึงบอกว่าจะรอให้แม่เป็นคนตั้งชื่อหลานให้" ในขณะที่พูดมือหนาของสามีก็กุมมือภรรยาไว้ตลอดเวลาคณิตมองดูลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงแล้วส่งยิ้มให้ทั้งน้ำตา"ยายบอกว่า ชื่อคนึงหา เป็นชื่อที่แม่ตั้งไว้ให้ค่ะ" คนึงหาเอ่ยพูดกับแม่เบาๆ ..ถึงแม้ชื่อนี้มันจะดูเศร้า แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่เธอรู้สึกผูกพันกับแม่มาก หญิงสาวคิดว่าแม่อาจจะตั้งคล้องจองกับชื่อของท่านที่ชื่อคณิตแต่จริงๆ แล้ว
สองวันผ่านไป.. ก่อนที่จะกลับคนึงหาพาแม่มาไหว้ยายกับพ่อ ที่จริงคณิตก็มาไหว้ตั้งแต่วันถัดมาที่มาถึงแล้ว และนางก็มาทุกวัน ถึงแม้จะคิดได้ก็สายไปแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ คณิตได้แต่สาบานกับตัวเองไว้ว่าจะไม่ทำตัวเหมือนแต่ก่อน โชคดีเท่าไรแล้วที่นางยังมีโอกาสได้กลับตัว ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายมากไปกว่านี้"คุณพ่อกับคุณยายต้องเข้าใจแน่ค่ะ คุณแม่อย่าคิดมากนะคะ"หึ..คณิตได้แต่ขำในใจ นางอายุขนาดนี้แล้ว ยังต้องให้ลูกเป็นคนคอยสอน เกิดมานางเคยมีดีอะไรบ้าง และนางก็ไม่คิดว่าลูกสาวที่นางทิ้งไป จะเป็นคนดีและกตัญญูได้ถึงเพียงนี้ ..ขอบคุณนะคะแม่ที่เลี้ยงคนึงหามาได้ดีขนาดนี้"ไปกันค่ะแม่" ก่อนที่จะเดินออกมาคนึงหาก็ได้หันไปคุยกับยายและพ่อว่าถ้ามีโอกาสจะพาแม่มาหาพวกท่านอีกพอทุกคนเสร็จธุระก็ออกมาที่รถตู้คันหรู ซึ่งมีต้นสนทำหน้าที่เป็นคนขับ[กรุงเทพฯ] ขับรถอยู่หลายชั่วโมงก็ได้มาถึงที่วิลล่าพอมาถึงก็เห็นลูกหว้าเตรียมของรอรับแม่กับพี่สาวและพี่ชายไว้แล้ว เพราะเธอติดต่อกับคนึงหาตลอดเวลา"คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ" หญิงสาวเดินเข้าไปโอบกอดแม่ไว้ คนึงหาแอบมองที่น้องกับแม่กอดกัน เพราะลูกหว้าได้รับความอบอุ่นจากแม่แบบนี้เสมอ
ดวงตางามหลบสายตาคมที่มองแบบมีเลศนัย "คุณจะสอนยังไง" ลูกหว้าไม่ใช่คนที่ใฝ่หาเรื่องพวกนี้ ก็เลยไม่รู้ว่าถ้าจะช่วยผู้ชายต้องทำยังไง"ใช้ปาก"ยิ่งได้ยินคำพูดแบบนี้เธอก็ยิ่งอายไปกันใหญ่ ก็รู้แหละว่าการใช้ปากคือเอาไอ้นั่นเข้ามาในปากของตัวเอง เหมือนกับที่เขาใช้ลิ้นให้เธอ "เออ""ถ้าไม่ ก็ไม่เป็นไรนะครับ" โลกันตร์ไม่คิดจะบังคับเธออยู่แล้ว เพราะมันเป็นอะไรที่บางคนอาจจะรับไม่ได้หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบว่าจะช่วยเขา ..เห็นเท่านั้นแหละ โลกันตร์รีบคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำความสะอาด เพราะทำงานมาทั้งวันชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นานก็ออกมา ส่วนหญิงสาวที่นั่งอยู่ปลายเตียงถึงกับหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นเจ้ามังกรลำใหญ่มือแกร่งเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอให้ขึ้นมาสัมผัสกับท่อนเอ็นอุ่น เขาใช้อุ้งมือของเธอเพื่อรูดมันขึ้นลง เพื่อให้เธอชินมือก่อน"ไม่ต้องอายผมนะ เราแต่งงานกันแล้ว" เห็นเธอหน้าแดงก็อดเอ็นดูไม่ได้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาแบบนั้น เพราะเขาเริ่มเสียวซ่านเมื่อถูกมือเรียวกำแน่นขึ้นลูกหว้าเผยอปากขึ้นเมื่อเจ้าของท่อนเอ็นขยับมันเข้ามาใกล้แบบไม่ต้องให้บอก"อ๊าา เสียวจัง" เข้าไปได้แ
"แต่ลูกหว้า.." เธอเป็นลูกผู้หญิงที่คิดจะฆ่าท่าน แถมไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านอีก แล้วเธอจะกล้ากลับไปได้ยังไง"ลูกจะทิ้งตาแก่ไว้ที่บ้านแบบนั้นคนเดียวได้ลงคอเหรอ""คะ?" ลูกหว้าไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้ ทำไมท่านช่างดีกับเธอนัก ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ท่านก็ยังไม่เคยทำร้ายจิตใจของเธอเลยแม้แต่นิด"กลับบ้านเรานะลูก""ค่ะ คุณพ่อ" หญิงสาวโผล่เข้าไปกอดชายสูงวัยที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่คลอด ลูกหว้าไม่อยากรู้เลยด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ ขอแค่มีท่านคนเดียวก็พอแล้วเย็นวันเดียวกัน.. ที่คฤหาสน์เสรีวิวัฒน์ชายหนุ่มได้แต่ยืนมองคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่ครั้งหนึ่งแม่ของเขาเคยอยู่ที่นี่ แต่ต้องหอบลูกในท้องออกจากบ้านของสามีไป เพราะความไม่รู้จักพอ ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ"เข้าบ้านกันค่ะ" มือเรียวเอื้อมไปกุมมือของสามีแล้วพูดกับเขาเบาๆ และมันก็ทำให้โลกันตร์ตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่คนร่างหนาเดินตามหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่จูงแขนของเขาให้เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่"ยินดีต้อนรับกลับบ้านทั้งสองคนเลยนะลูก" คนหนึ่งลูกชายในไส้ อีกคนลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือ ไม่รู้ว่าจะเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายกับสิ่งที่พบ
คนึงหาโทรกลับไปหารัตนาเพื่อวานให้ทำความสะอาดบ้านไว้รอ เพราะเธอจะพาแม่กลับไปส่วนพร้อมรบไม่ทิ้งให้พวกเธอกลับไปเพียงลำพังแน่ เขาก็เลยให้โลกันตร์อยู่ดูงานช่วยพ่อไปก่อนส่วนลูกหว้าอยากจะไปกับแม่และพี่สาว แต่ถ้าเธอไป สามีก็จะตามไปด้วย ลูกหว้าก็เลยจำเป็นต้องได้อยู่ที่นี่ไปก่อน แล้วค่อยตามไปอีกทีเมื่องานบริษัทเบาลงแล้วต้นสนทำหน้าที่ขับรถตู้คันที่เคยเป็นของคณิตมาก่อน เพราะถ้าเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็จะสะดวกหน่อยขับรถอยู่หลายชั่วโมง ก็กลับมาถึงที่หมู่บ้านในช่วงเย็นหลายคนในหมู่บ้านที่ได้ยินข่าวว่าคณิตจะกลับมาต่างก็มารอรับ และทุกคนก็พูดแบบยินดีที่เห็นคณิตกลับมาบ้านเกิด"แม่นอนห้องนี้ได้ไหมคะ"คณิตมองดูบรรยากาศเก่าๆ บ้านหลังเก่า ห้องเก่าที่นางเคยนอนกับสามีพ่อของคนึงหา นางถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่"ไม่เป็นไรนะคะแม่ คนเราไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป แต่ขอให้คิดได้ก็พอแล้ว" คนึงหาไม่รู้จะปลอบใจแม่ยังไง กลัวว่าอาการเดิมของแม่จะกลับมา"นอนได้สิจ๊ะ แต่ก่อนแม่ก็เคยนอนที่นี่แหละ"ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่ในห้อง ด้านนอกก็กำลังคุยเช่นกัน..."ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะพี่ต้น" จะไม่ให้ทักก็คงไม่ได้ แต่รัตนาก็รู้แล
"คุณแม่คะ" ลูกหว้าหันมองตามสายตาของโลกันตร์ไป ก็เห็นว่าเขากำลังมองแม่ของเธออยู่"ผมไปนะ" คำพูดนี้โลกันตร์พูดกับภรรยาก่อนที่จะหันหลังให้ ทำไมเขาถึงทำไม่ได้ เขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนพูดว่ามันคงเป็นเวรกรรมที่พวกท่านทำร่วมกันมา พอคิดได้แค่นั้น ชายหนุ่มร่างสูงก็ค่อยๆ หันกลับมาอีกครั้ง และสายตานั้นก็หันมองเห็นเธอกำลังเช็ดน้ำตาอยู่พอดี"คุณร้องไห้ทำไม"ลูกหว้าไม่ได้ขอร้องให้เขาหยุด เพราะคงไม่กล้าไปขอร้องเขาอภัยให้แม่ของเธอได้ ท่านทำกับครอบครัวของเขาไว้มากมายเหลือเกินชายหนุ่มรีบเดินกลับมาหาภรรยา มือหนาเอื้อมไปโอบเธอเข้ามาแนบอกตัวเองไว้"ไม่ร้องนะครับ"ที่ลูกหว้าร้องไห้เพราะไม่คิดว่าเขาจะหันกลับมา แต่พอเห็นเขาเดินกลับมาปลอบ มันยิ่งทำให้เธอเชื่อว่าผู้ชายคนนี้แคร์เธอมาก"แม่ขอคุยกับคุณโลกันตร์หน่อยได้ไหม""เอาไว้คุยวันหลังแล้วกันครับ" โลกันตร์พูดโดยที่ไม่หันไปมองนางเลยด้วยซ้ำ"แม่จะรอนะ""ไปพักดีกว่า" โลกันตร์มองต่ำลงมาพูดกับคนที่เขากำลังกอดอยู่ โดยที่ไม่สนใจประโยคนั้นของแม่เธอเลย"ไหนคุณบอกว่าจะกลับไปบริษัทไงคะ""ไม่กลับไปแล้ว" เรื่องงานเขาไม่ได้เป็นห่วงเลย สิ่งที่เป็นห่วงก็คือเธอกับลูกลูกหว้
คนึงหาลุกขึ้นแล้วรีบเดินเข้าไปดูแม่ เพราะเธอได้ยินเสียงที่ท่านหัวเราะ"แม่คะ" แต่พอเดินอ้อมไปก็เห็นว่าท่านหลับตาอยู่ หรือว่าท่านจะฝัน ..ถ้าไม่ฝัน ท่านขำที่เธอหยอกเย้ากับสามีงั้นเหรอ..แต่ก็ไม่น่าจะใช่ คนึงหาก็เลยจับผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวให้ แล้วมองหน้าท่านอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง ถึงเดินกลับไปหาสามีที่กำลังนั่งมองมาเช่นกัน"ฉันยังไม่ได้ถามคุณเลย ว่าคุณแม่ชอบทานอะไร" ที่คนึงหาถามสามีก็เพราะว่าเธอจะได้หาอาหารได้ถูกปากของท่าน"ท่านชอบกินอาหารที่รสไม่จัด" ในขณะที่พูดมือหนาได้ลูบไล้ผมสลวยของภรรยาเบาๆ ไปด้วย แล้วพร้อมรบก็บรรยายให้ฟังไปเรื่อยๆ ในใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสารเธอ แต่ถือว่าเป็นความโชคดีของเขาอย่างหนึ่ง ถ้าเธอไม่พบชะตากรรมแบบนี้ เขาและเธอคงจะไม่ได้เจอกัน"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวก็ดีใจไม่ต่างกันที่มาเจอเขา ถึงแม้การเจอกันจะไม่เหมือนคนทั่วไป เพราะเธอใช้ความสวยยั่วยวนจนได้ทั้งตัวและหัวใจของเขามาครอง"คุณไม่ต้องขอบคุณผมหรอก มีอะไรก็ถามผมมาได้เลย" ถึงแม้เขาจะเป็นลูกเลี้ยง แต่พร้อมรบก็รู้จักดีว่านางชอบหรือไม่ชอบอะไร เพราะเขากลัวว่านางจะไม่รัก ก็เลยต้องได้สังเกตเอาน้ำตาค่อยๆ ไหลลงเป็นสายจนเปรอะเปื้
"ไม่ได้!" พร้อมรบยืนกรานปฏิเสธสิ่งที่คนึงหาขอมาโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดแม้แต่นิด"ฉันขอพาแม่ไปนะ""ถ้าคุณไป ผมก็จะไปด้วย""แล้วบริษัท รวมทั้งคนที่นี่ล่ะ พวกเขายังต้องการคุณอยู่""คุณไม่ต้องการผมแล้วงั้นเหรอ""ฉันอยากใช้เวลา อยู่กับท่าน" คนึงหาหมายถึงอยากใช้เวลาอยู่กับแม่ให้มากกว่านี้ ไม่ว่าแม่จะเคยทำยังไงกับเธอมาก่อน ยังไงเธอก็ยังเห็นนางเป็นแม่แต่ยังไงพร้อมรบก็ไม่ยอมปล่อยให้เธอกลับไปอยู่ที่บ้านกับแม่ ถึงแม้ว่าเธอจะให้เหตุผลอะไรมาก็ตามโลกันตร์&ลูกหว้าชายหนุ่มนั่งกุมมือของคนรักที่นอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่บนเตียงผู้ป่วย ดวงตาคมมองสายน้ำเกลือที่ถูกส่งผ่านเข้าไปในร่างกายของเธอ"ผมขอโทษ ทำไมผมถึงเป็นคนที่เห็นแก่ตัวแบบนี้" โลกันตร์หวนคิดถึงคำที่แม่เคยสอน "แม่ครับ ผมเกือบเผลอทำร้ายลูกกับเมียของผมแล้ว" ทันใดนั้นด้านหลังของเขาก็เกิดลมพัดวูบหนึ่ง จนชายหนุ่มต้องหันกลับไปมอง ..จะว่าลมจากเครื่องปรับอากาศก็คงไม่ใช่"แม่ใช่ไหมครับ แม่ใช่ไหม แม่กลับมาอยู่กับผมได้ไหม" ชายหนุ่มเอ่ยพูดขึ้น เพราะตอนนี้เมียของเขากำลังท้องอยู่ เผื่อว่าจะเป็นการเปิดทางให้แม่ได้กลับมาอยู่กับเขาอีกครั้ง ที่จริงโลกันตร์ไม่เชื่อเรื
"อื้ออ พอก่อนค่ะ เดี๋ยวพี่พร้อมก็เข้ามาแล้ว""จะพอได้ยังไง คุณก็พูดเป็นเล่นไป" เซ็งเป็ดเซ็งไก่มันเป็นแบบนี้นี่เอง โลกันตร์เพิ่งรู้ซึ้งในคำนี้ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะหยุดหรอกถ้าไม่ถึงฝั่งฝันก่อน"อ๊อยย.. คุณโลกันตร์คะ""ขอเสร็จก่อนไม่ได้หรือครับ""เร็วๆ นะ" เมื่อเห็นแววตานั้นเธอก็รู้สึกเห็นใจขึ้นมา ก็เลยปล่อยให้เขาทำต่อแล้วโลกันตร์จะไปรออะไร "ซี๊ดด อ่าา" เพราะตอนนี้เขาต้องรีบทำเวลา"อือ อ่ะ อ่ะ" ลูกหว้าเริ่มหายใจรวยรินร่างกายสั่นสะท้านไปด้วยแรงกระแทก เมื่อท่อนเอ็นลำยาวขยับเร็วขึ้น"ใกล้แล้วคุณทนอีกนิดนะครับ" ในขณะที่พูดมือหนาก็ได้บีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม เพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเธอไปด้วยปล่อยมือจากหน้าอกโลกันตร์ก็จับขาเรียวขึ้นมาพาดไหล่ แล้วโน้มลำตัวลงไปเพื่อที่จะให้ท่อนเอ็นเข้าไปได้ลึกกว่านี้ "ซี๊ดดด..เสียวจัง""โอ๊ย"ชายหนุ่มร่างหนาทนความเสียวของตัวเองไม่ไหวก็เลยเผลอกระแทกแรง แต่เขาคิดว่าเธอคงจะใกล้ ยิ่งเธอร้องโอดโอยเขาก็ยิ่งเร่งความเร็ว"เจ็บ" หญิงสาวพยายามกัดฟันไว้แล้วแต่ก็ทนความเจ็บไม่ไหว ตอนนี้มันตึงหน่วงไปถึงมดลูก"เจ็บเหรอ" ท่อนเอ็นอุ่นที่ฝังอยู่ในร่างกายของอีกฝ่ายค่อยๆ ถอดออกมา"โอ๊ยย