Share

บทที่ 62

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนกำลังยันตัวลุกขึ้น ก็ได้ยินซูโหยวพูดว่า “เติ้งหมิงซูมีส่วนช่วยชุนเยวี่ย ปี้อวิ๋นและไป๋ถังอย่างมากในเรื่องนี้”

“ตั้งแต่วันนี้ไป ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านในเรือนชั้นในของตำหนักอ๋อง อีกเดี๋ยวแม่บ้านเติ้งไปที่ฝ่ายบัญชีเพื่อรับกุญแจแม่บ้านได้เลย”

พูดจบ ซูโหยวก็หันหลังกลับและจากไป

ลั่วชิงยวนชะงักทันที

แม่นมเติ้งก็ดูตกใจเช่นกัน ทุกคนตกใจและทำอะไรไม่ถูก นางได้เป็นแม่บ้าน?

แม่บ้านเรือนชั้นใน?

เป็นไปมิได้หรอก!

ลั่วชิงยวนกำผ้าห่มไว้แน่น รู้สึกขมขื่นในใจอย่างอธิบายมิได้ ซูโหยวมาโดยเฉพาะ ที่จริงแล้วมันไม่เกี่ยวอะไรกับนางเลย

ฟู่เฉินหวนจงใจทำอย่างนั้นหรือ!

แม่นมเติ้งกลับมามีสติ พูดอย่างลำบากใจว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นกับชุนเยวี่ยและพวกนาง ทั้งหมดเป็นคุณงามความดีของพระชายา จะให้ความดีความชอบกับหญิงชราอย่างหม่อมฉันได้อย่างไร? หม่อมฉันจะไปอธิบายเรื่องนี้กับท่านอ๋องเองเพคะ”

ลั่วชิงยวนหยุดนางและพูดว่า “มิจำเป็นหรอก เขาจงใจทำ”

แม่นมเติ้งลังเลและถามว่า “เป็นเพราะองค์ชายห้ามาที่นี่หรือไม่เพคะ?”

ลั่วชิงยวนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “นี่น่าจะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง แต่ก็มิใช่ทั้งหมด”

“ในเมื่อเจ้าเป็
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 63

    สุดท้ายก็เป็นแม่นมเติ้ง นำป้ายสัญลักษณ์แม่บ้านไปรับยาจากห้องโอสถ แต่ก็ทำได้เพียงเอาสมุนไพรทั่วไปบางชนิดมาเท่านั้น เครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าที่ใช้รักษาอาการบาดเจ็บภายในนั้นมิสามารถได้มาจือเฉารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงท่าทีของท่านอ๋องอย่างชัดเจนหลังจากพักผ่อนมาทั้งวัน ลั่วชิงยวนแทบจะขยับตัวไม่ได้ แม้จะรู้สึกว่าร่างกายยังอ่อนแอ แต่ความเจ็บปวดก็ทุเลาลงมากแล้วช่วงเช้า นางยุ่งอยู่กับแม่บ้านเติ้ง จือเฉาและบ่าวรับใช้อีกสองสามคนอยู่ในเรือน“ย้ายปี่เซียะออกจากในน้ำนี้!” ลั่วชิงยวนมาที่ริมลำธารเล็ก ๆบ่าวรับใช้สองคนเข้าไปลองขยับดูและพูดว่า “มันหนักมากจนไม่ขยับเลยพะย่ะค่ะ”แม่นมเติ้งพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าย้ายไม่ไหว ก็ไปเรียกคนมาช่วยเพิ่มสิ!"ทั้งสองพยักหน้า และไปเรียกคนมาช่วยการย้ายปี่เซียะออกจากในลำธารนี้ ยังได้แก้ไขรูปปั้นหินที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย พวกเขาก็ยุ่งทั้งวันโดยไม่ได้หยุดพัก ทั้งยังนำสิ่งของในเรือนส่วนใหญ่ที่ไม่ดีต่อฮวงจุ้ยทิ้งไปจนหมด หลายคนในตำหนักไม่รู้ว่านางกำลังทำอะไรอยู่ จึงพาลคิดไปว่านางมีแม่นมเติ้งที่มีตำแหน่งแม่บ้านอยู่ข้างกาย จึงจงใจแสดงอำนาจในตำหนักเช่นนี้จิกหัว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 64

    ลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงดื้อรั้นว่า “ในเมื่อเป็นข้อตกลง หม่อมฉันได้แสดงความจริงใจของหม่อมฉันแล้ว ท่านอ๋องควรแสดงความจริงใจของพระองค์ด้วยหรือไม่? ไม่เช่นนั้นก็ทรงรีบเอาสมบัติของแม่หม่อมฉันให้หม่อมฉันเสียที อย่างน้อยพระองค์ก็ไปเอามันมาจากเยวี่ยอิงก่อนได้หรือไม่เพคะ?”“ท่านอ๋องเก็บไว้กับตัวเองก่อน หลังจากหม่อมฉันกำจัดอาคมชุมนุมปีศาจได้แล้ว ท่านอ๋องค่อยมอบของให้หม่อมฉันก็ย่อมได้เพคะ”ฟู่เฉินหวนมิได้ตอบ แต่สายตายังคงเย็นชาเช่นเคยลั่วชิงยวนสีหน้าจริงจังมากและพูดว่า “เมื่อข้อตกลงของเราจบลง ท่านอ๋องส่งหนังสือหย่าให้หม่อมฉันก็ได้! หม่อมฉันจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับพระองค์อีก!”เมื่อได้ยินสิ่งนี้ มีแสงแวบขึ้นมาในแววตาของฟู่เฉินหวน มีความประหลาดใจเล็กน้อยซ่อนอยู่ในสายตานางเต็มใจให้เขาหย่ากับนางจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? น่าขันนัก เหตุใดสมบัติของแม่นางจึงสำคัญมากเพียงนี้?หากเป็นเช่นนั้นแล เหตุใดถึงต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะแต่งงานแทนตั้งแต่แรก? นั่นทำลายแผนการทั้งหมดของเขา!สตรีผู้นี้เคยพูดอะไรจริงบ้างหรือไม่?ฟู่เฉินหวนมองด้วยความสงสัย ลั่วชิงยวนจึงระงับความโกรธ พยายามพูดกับเขาอย่างใจเย็น “ถ้าพระอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 65

    นี่เป็นผลให้น้ำหนักตัวเพียงเพิ่มขึ้นแต่ไม่ลดลงจือเฉาช่วยนางแต่งตัว สีหน้าเคร่งขรึมและพูดว่า “เสื้อผ้าดูแน่นขึ้นอีกแล้ว จะทำเยี่ยงไรดี บางทีพระชายาอาจต้องกินให้น้อยลงหรือไม่เจ้าคะ?”ลั่วชิงยวนพูดอย่างจริงจังว่า “สาวน้อยโง่เขลา ถ้ากินน้อยร่างกายก็จะไม่มีกำลัง บาดเจ็บแค่ไหนก็เข้มแข็งให้เหมือนวัว ดีกว่าอ่อนแอแล้วล้มลงด้วยหมัดของใคร เข้าใจหรือไม่?”“ดังนั้นเจ้าเองก็ควรกินให้มากขึ้นด้วย!”จือเฉาพยักหน้า กลับพูดอย่างเขินอายว่า “แต่พระชายาตัวอ้วนท้วน ก็มิได้แข็งแรงเหมือนวัวนี่เจ้าคะ”ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พูดอย่างชอบธรรมว่า “อย่างน้อยข้าก็ดูแข็งแกร่งเหมือนวัว เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้แล้ว!”“เจ้าค่ะ”ใส่เสื้อผ้าเสร็จ ลั่วชิงยวนยืดเข็มขัดที่แน่นเล็กน้อยออก ก้าวออกไป วางแผนจะฝึกชี่กงที่ลานจวนแม่นมเติ้งรีบเดินเข้าไปในลานจวนแล้วพูดว่า “พระชายาเจ้าคะ องค์ชายห้าเสด็จมาเจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว รีบโบกมืออย่างเร็ว “ไม่พบ ๆ บอกเขาไปว่าข้ากำลังนอนอยู่!”นางหันหลังกลับและเข้าไปในเรือนใครจะรู้ว่าฟู่อวิ๋นโจวจะมาปรากฏตัวที่ทางเข้าเรือน บังเอิญเห็นสิ่งนี้เข้า จึงมิได้ก้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 66

    ช่วงเวลาเดียวกันห้องตำราซูโหยวลังเลอยู่นาน ถึงจะเดินเข้าไปในห้องตำราและพูดว่า “ท่านอ๋อง บัดนี้องค์ชายห้าเสด็จไปพบพระชายาอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนหยุดพลิกหนังสือชั่วคราว แล้วก็กลับมาเป็นปกติทันที สีหน้านิ่งเฉยและพูดว่า “นี่มันไม่ปกติ”พวกเขาเป็นพวกเดียวกันซูโหยวสีหน้าเคร่งขรึมและพูดว่า “องค์ชายห้าทรงมอบอาภรณ์เมฆสีทองหนึ่งชุดให้พระชายา ทรงตรัสว่าเป็นอาภรณ์งานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวงให้พระชายาพ่ะย่ะค่ะ”ได้ยินเช่นนี้ ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วแต่ยังคงไม่พูดอะไร เพียงสีหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย“ท่านอ๋อง งานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวง ตามเหตุผลพระชายาก็จะต้องเข้าร่วมด้วย เมื่อถึงเวลารูปลักษณ์ของนางจะถูกผู้คนนินทาอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ หากนางยังสวมอาภรณ์ที่องค์ชายห้าทรงมอบให้อีก มิรู้ว่าผู้คนจะหัวเราะเยาะท่านอ๋องลับหลังเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”“ในความเห็นของกระหม่อม ท่านอ๋องเป็นผู้ตระเตรียมอาภรณ์สำหรับงานฉลองไหว้พระจันทร์ในวังหลวง จะเป็นการเหมาะสมกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ซูโหยววิเคราะห์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมถึงอย่างไรก็ยังเป็นพระชายาอ๋องด้วย มันไม่เหมาะที่องค์ชายห้าจะส่งเสื้อผ้าอาภรณ์มาให้ในกรณีนี้คิ้วขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 67

    ลั่วชิงยวนตัวดี วันดี ๆ ของนางจบลงแล้ว!แววตาของนางเย็นเยียบและดุร้าย……เมื่อซูโหยวส่งอาภรณ์มาให้ ลั่วชิงยวนตกใจมาก นางไม่ได้คิดเลยสักนิดว่า ฟู่เฉินหวนจะให้ซูโหยวมอบอาภรณ์ให้นางจริง ๆมองดูชุดอันประณีตงดงามที่เป็นสีแดงเพลิงที่อยู่บนโต๊ะ จือเฉาประหลาดใจมากและพูดว่า “พระชายามาลองกันเถิดเจ้าค่ะ”จือเฉาช่วยนางผลัดผ้า แต่ขนาดของชุดนั้นเกือบจะเท่าเมื่อก่อน แน่นนิดหน่อย ใส่ไม่สบายนัก“ดูเหมือนว่าท่านอ๋องจะไม่รู้ว่าพระชายาน้ำหนักขึ้นเล็กน้อยนะเพคะ อาภรณ์นี้ดูสำรวยนัก ท่านสวมแล้วก็ต้องระวังการเคลื่อนไหวนะเจ้าคะ มิเช่นนั้นมันจะขาดได้ง่าย” จือเฉาจัดไปด้วย พูดไปด้วย“พอแล้ว พอแล้ว ถอดออกเถอะ ทรมานจะตายอยู่แล้ว” ลั่วชิงยวนถอดออกทันทีจือเฉาพับอาภรณ์อย่างเรียบร้อยและใส่กลับเข้าไปในกล่องผ้า “แล้วพระชายาอยากใส่ชุดใดไปงานเลี้ยงวังหลวงเล่าเจ้าคะ?”“ดูดีทั้งสองชุดเลย แต่ชุดหนึ่งใส่สบายหน่อย อีกชุดหนึ่งดูแน่นกว่าเล็กน้อย แต่ชุดนี้ท่านอ๋องทรงมอบให้เจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนมองดู ทำหน้าบึ้งและพูดว่า “ชุดนี้สิ เราจะได้เลี่ยงปัญหาจากเขา”ไม่ให้ยังดีกว่า ให้แล้วนางก็ต้องใส่การเปรียบเทียบเช่นนี้ ฟู่อวิ๋น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 68

    ลั่วชิงยวนก้มลงและกำลังจะขึ้นรถม้า ได้ยินเสียงนี้ ก็พลันตัวแข็งทื่อเมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นสายตาของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยความรังเกียจ สายตาที่เย็นชาของเขาคมราวกับกริช เต็มไปด้วยความดูถูกและความโกรธลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดมาก แอบกำมือแน่น มองฟู่เฉินหวนและไม่เอ่ยวาจาใด หันหลังกลับและลงจากรถม้าทันทีที่ลงจากรถม้า ฟู่เฉินหวนก็สั่งคนขับรถม้าว่า “ออกเดินทาง”รถม้าบังคับออกไปอย่างเร็วจนเกือบจะชนลั่วชิงยวนล้ม ทำให้นางถอยหลังไปหลายก้าวก่อนจะทรงตัวให้มั่นคง“พระชายาเจ้าคะ!” จือเฉาตื่นตระหนกลั่วชิงยวนยืนนิ่ง มองดูรถม้าลับตาไปจากสุดถนน พลันบริเวณรอบ ๆ ก็ว่างเปล่านางถูกทิ้งไว้ข้างหลังชั่วครู่หนึ่งในใจก็ไม่รู้ว่ารู้สึกเช่นไรซูโหยวไปจัดรถม้าคันอื่นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เพียงแต่สั่งให้สารถีเข้าไปในวังหลวงเท่านั้น มิได้เอ่ยวาจาใดอีก จากนั้นก็เดินจากไปมิได้พูดอันใดกับลั่วชิงยวนสักคำ ไม่แม้แต่จะมองนางอีกจือเฉารู้สึกทั้งเสียใจและเป็นทุกข์ ช่วยประคองลั่วชิงยวนขึ้นรถม้า “แม้แต่ซูโหยวก็เปลี่ยนท่าที ทำไมพระชายาต้องผลัดผ้าเป็นอาภรณ์นี้เล่าเจ้าคะ ท่านอ๋องต้องมิพอพระทัยเป็นแน่เจ้าค่ะ”ลั่วชิงยวนพู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 69

    แต่อาภรณ์เพลิงไสวถูกฟู่เฉินหวนซื้อไป เขาจะเอาของปลอมให้ลั่วเยวี่ยอิงใส่ได้เยี่ยงไร? มีเพียงนางเท่านั้นที่ใส่ได้!เห็นได้ชัดว่า ฟู่เฉินหวนกำลังตรวจสอบสินค้าปลอมบนถนนเชียนเมี่ยน แต่กลับเอาสินค้าปลอมให้นางใส่รึ? นี่เขาคิดอะไรอยู่!นี่คือชายที่ลั่วชิงยวนตกหลุมรักอย่างสุดซึ้ง ชายที่วางแผนทำร้ายนางทุกครั้งไป!ลั่วเยวี่ยอิงได้ยินก็ประหลาดใจมากและพูดว่า “ต้องถูกลงโทษอย่างหนักจริง ๆ หรือ?”จู่ ๆ นางก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าต้องรีบไปหาพี่สาวของข้า พวกท่านมีใครเห็นพี่สาวของข้าหรือไม่?”ทุกคนสับสน “ตามหาพี่สาวของท่านรึ? ตามหาพี่สาวของท่านทำไม? หรือว่านางไปซื้อของปลอมที่ถนนเชียนเมี่ยน?”สีหน้าของลั่วเยวี่ยอิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิได้ตอบอันใด แต่สีหน้าท่าทางนั้นกลับบอกทุกอย่างแล้วหลายคนที่อยู่รอบ ๆ ประหลาดใจอย่างมาก มองลั่วเยวี่ยอิงและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “วันนี้นางมิได้ใส่ชุดปลอมใช่หรือไม่?”ลั่วเยวี่ยอิงส่ายหัวอย่างตื่นตระหนกและพูดว่า “ไม่ใช่ ๆ พวกท่านอย่าเดามั่วสิ”แต่ทุกคนกลับไม่ได้ฟังนาง หารือกับตนเองว่า “ในโอกาสเช่นวันนี้ ต้องถูกลงโทษอย่างหนัก! และเรื่องการสืบสว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 70

    หากเป็นลั่วชิงยวนในอดีต เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางคงจะรู้สึกอับอายและหนีไปจากที่นี่ทันที จากนั้นก็ซ่อนตัวและไม่เจอใครอีกเลยแต่ลั่วชิงยวนในยามนี้ มองทุกคนที่พูดถึงนางต่อหน้าด้วยสายตาเย็นชาและสีหน้าไม่เปลี่ยน“พูดพอแล้วหรือยัง? น่าเสียดายนักที่พวกเจ้าเป็นสตรีจากตระกูลสูงศักดิ์ ของแท้ของปลอมยังไม่แม้แต่จะแยกได้ แต่กลับนินทาและชี้นิ้วไปที่ผู้อื่น นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าถูกสั่งสอนมาย่างนั้นรึ?”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนในที่นี้ต่างก็พลันหน้าซีดทุกคนต่างตกตะลึง ลั่วชิงยวนมิเคยกล้าพูดเช่นนี้ นับประสาอะไรกับการกล้ามองทุกคนเยี่ยงนี้ โดยเฉพาะการจ้องมองที่ดูถูกเหยียดหยามนั้น มันเหมือนกับการพยายามฉีกใครสักคนทั้งเป็นคนผิวหน้าบางสองสามคนก็หน้าแดงกับคำพูดของลั่วชิงยวนทันทีบางคนถึงกับหน้าแดงด้วยความโกรธและพูดอย่างไม่พอใจว่า “เห็นได้ชัดว่าเจ้ากำลังใส่ของปลอม และน้องสาวของเจ้าก็เป็นพยานได้ เราจะพูดมิได้งั้นรึ?”ลั่วชิงยวนเยาะเย้ยเบา ๆ สายตาเย็นชาของเธอกวาดไปรอบ “แขกผู้มีเกียรติที่นี่ยังพูดไม่พออีกรึ? สนุกกับการเยาะเย้ยผู้อื่น เป็นเหมือนพวกขี้นินทา พวกเจ้าได้เรียนรู้อะไรจากสี่ตำราห้าคัมภีร์ วิธีหั

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1277

    เกาเหมียวเหมี่ยวกำหมัดแน่น รู้สึกโมโหมากจนแทบจะปรี๊ดแตกออกมาความรู้สึกอับอายถาโถมเข้ามาหานางเหมือนกับคลื่นยักษ์“เฉินชี คอยดูเถอะ!” เกาเหมียวเหมี่ยวจ้องมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยวนางสวมอาภรณ์แล้วหนีไปทันที……คืนก่อนวันประลองที่หอรักษ์ดาราทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความเงียบสงบหลังจากลั่วชิงยวนพักผ่อนได้หนึ่งวัน นางก็เปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดท่องราตรีนางแอบเปิดประตูห้องแล้วอาศัยจังหวะที่บริเวณรอบ ๆ ไม่มีคน มุ่งหน้าไปยังหอปรุงโอสถทั้งยังปล่อยเตี่ยฉุยออกมาเพื่อช่วยนางดูคนที่ผ่านไปมาให้อีกแรงหอปรุงโอสถเป็นสถานที่สำคัญของสำนักนักบวช บุคคลทั่วไปมิได้รับอนุญาตให้เข้าไปตามใจชอบ หากนางถูกจับได้ จะต้องตายสถานเดียวทว่าหากมิขโมยโอสถ วันพรุ่งก็ต้องตายในการประลองที่หอรักษ์ดาราอยู่ดีดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมเสี่ยงดูสักครั้งลั่วชิงยวนอาศัยความที่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ได้อย่างรวดเร็ว ทำการหลบเลี่ยงจุดที่อาจจะมีคนและมาถึงด้านนอกของหอปรุงโอสถขณะนี้ หอปรุงโอสถเงียบสงบและไม่มีใครเฝ้ายามลั่วชิงยวนเดินเข้ามาในลานจนถึงประตูที่ลงกลอนเอาไว้นางดึงปิ่นปักผมออกมาปลดกลอนประตูอย่างชำนาญจากนั้นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1276

    “ใครให้เจ้าใช้กลิ่นกล้วยไม้? คิดว่าตัวเองคู่ควรกับมันรึ?”แววตาอันชั่วร้ายและกลิ่นอายสังหารทั่วร่างที่แผ่ออกมาทำให้หลานจีหวาดกลัวจนต้องดิ้นรนอย่างสุดชีวิต“ท่าน… ท่านแม่ทัพ ท่านเป็นให้ข้าใช้มันเองนะเจ้าคะ”ดวงตาของเฉินชีเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาโยนหลานจีออกจากห้องอย่างโหดร้าย“นับตั้งแต่วันนี้ห้ามใช้น้ำหอมกลิ่นกล้วยไม้อีก ไสหัวไป!”หลานจีล้มออกมานอกห้องอย่างแรงจนกลิ้งตกขั้นบันไดและกระอักเลือดออกมา ทำให้ตกอยู่ในสภาพที่ดูมิได้อย่างยิ่งนางเงยหน้าขึ้นด้วยความมิอยากเชื่อ มิเข้าใจว่าเหตุใดอารมณ์ของท่านแม่ทัพถึงเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อก่อนเขาชอบดูนางร่ายรำเป็นที่สุด และชอบกลิ่นหอมของกล้วยไม้บนตัวของนางด้วยเช่นกันเหตุใดจู่ ๆ ถึง…หลานจีพยายามลุกขึ้นจากพื้นพลางมองไปที่เฉินชีที่ยังคงดื่มอยู่ในห้อง “ท่านแม่ทัพมีเรื่องอันใดมิสบายใจใช่หรือไม่เจ้าคะ หลานจียินดีช่วยแบ่งเบาความกังวลให้ท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ!”ทันใดนั้นก็มีบุคคลหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลัง ร่างนั้นเดินผ่านหน้านาง และได้ตบนางอย่างแรงทำให้หลานจีล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“ไล่ให้เจ้าไสหัวไปแต่กลับมิทำ จะรอข้ามาถลกหนังรึไร?” ดวงตาของเก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status