Share

บทที่ 1101

Author: หว่านชิงอิ๋น
ฟู่จิ่งหานมิได้ใส่ใจเรื่องนี้ แต่กลับรู้สึกผิดเล็กน้อยที่พระราชโองการนั้นทำให้ลั่วชิงยวนได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ จึงพูดว่า “มิเป็นอะไร การประลองครั้งนี้ก็มิได้ห้ามมิให้แคว้นเพื่อนเรือนเคียงเข้าร่วม”

“พระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการสามารถเอาชนะองค์ชายเผ่านอกด่าน แล้วยกให้เป็นน้องชายได้ นับว่าความสามารถเป็นที่ประจักษ์แก่ข้าแล้ว!”

“พระชายามีบาดแผล อนุญาตให้พระชายาและองค์ชายหล่างมู่ออกไปก่อนได้”

ลั่วชิงยวนก้มหน้าลงเล็กน้อย “ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ”

แล้วหล่างมู่ก็พยุงลั่วชิงยวนออกไป

เนื่องจากหอฝูเสวี่ยอยู่มิไกลและสามารถมองเห็นการประลองจากชั้นสามได้ ลั่วชิงยวนจึงพาหล่างมู่ไปพักผ่อนที่หอฝูเสวี่ยก่อน

ซิ่งอวี่ต้มยามาให้นางกิน

ลั่วชิงยวนนั่งข้างหน้าต่าง มองดูการประลองที่ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อเห็นฟู่อวิ๋นโจวเอาชนะทุกคนได้ นางก็รู้ว่าเขากำลังจะเข้าสู่ราชสำนักแล้ว

“พี่หญิง ยังเจ็บบาดแผลอยู่หรือไม่ขอรับ?” หล่างมู่ยกชามาให้หนึ่งถ้วย

ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “มิเป็นอะไรแล้ว บาดแผลมิสาหัส พักสักสองสามวันก็หาย”

“หล่างมู่ เจ้ามาเมืองหลวงได้อย่างไร? ในเผ่านอกด่านเกิดเรื่องใหญ่อันใดหรือไม่? รีบร้อนมาเช่นนี้เลยหรือ?
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1102

    หล่างมู่ชกเข้าที่ใบหน้าของฟู่เฉินหวนจนฟู่เฉินหวนถอยหลังไปหลายก้าวหล่างมู่แสดงสีหน้าโกรธแค้น “ข้าขอเตือนท่านเลยว่าถ้าท่านทำเช่นนี้กับพี่หญิงของข้าอีก ข้าจะฆ่าท่านเสีย!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด ข้าจะพบกับนาง”“นางอยู่ที่ใด แล้วท่านเกี่ยวอะไรด้วย!” หล่างมู่แสดงสีหน้ามิพอใจ เขายังคงจำได้ว่าในวันคล้ายวันพระราชสมภพของจักรพรรดิ อ๋องผู้สำเร็จราชการยินดีที่จะมอบลั่วชิงยวนให้เขาชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจ!เขามิเข้าใจว่าเหตุใดพี่หญิงจึงยังคงอยู่กับชายผู้นี้วันนี้กลับนิ่งเฉยมองดูคนอื่นทำร้ายพี่หญิงอย่างมิแยแสอีก!หล่างมู่มิพอใจอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองสบตากัน ความเป็นปรปักษ์ก็ปะทุขึ้นบรรยากาศตึงเครียด ในวินาทีต่อมาดูเหมือนว่าจะต้องต่อสู้กันแน่แล้วลั่วชิงยวนเพิ่งเข้ามาในลานก็เห็นเหตุการณ์นี้ จึงรีบเข้าไปขวางไว้“พวกท่านกำลังทำอะไรกัน!”“แค่ก แค่ก แค่ก...” เมื่อนางร้อนใจก็กุมอกด้วยความเจ็บปวดสีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมากแล้วเข้าไปพยุงนางพร้อมกัน ลั่วชิงยวนปัดมือของทั้งสองออก แล้วหันไปมองหล่างมู่ “พี่บอกเจ้าว่าอย่างไร!”ความโกรธของหล่างมู่หา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1103

    น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนนั้นบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังหึงหวงอยู่ลั่วชิงยวนปอกส้มแล้วป้อนให้ฟู่เฉินหวนพลางพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “หล่างมู่มองหม่อมฉันเป็นเพียงพี่หญิงจริง ๆ เพคะ”“เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่หญิงมาตั้งแต่เด็ก แต่พี่หญิงของเขาเสียชีวิตเพราะเขา จึงเป็นบ่วงกรรมและความเสียใจตลอดชีวิตของเขา”“ต่อมาหล่างชิ่นกลายเป็นพี่หญิงของเขา เขาเชื่อฟังหล่างชิ่นทุกอย่าง แต่สุดท้ายหล่างชิ่นกลับต้องการให้เขาตาย”“หลังจากนั้นเมื่อหม่อมฉันไปยังเผ่านอกด่าน ราชาเผ่านอกด่านบอกว่าหม่อมฉันเป็นพี่หญิงของเขา ดังนั้นเขาจึงมองหม่อมฉันเป็นพี่หญิงแท้ ๆ มาโดยตลอด”เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนั้นก็สงสัยยิ่งนัก “พูดตามตรงคือข้ายังคงมิเข้าใจเลยว่าเหตุใดราชาเผ่านอกด่านจึงมั่นใจว่าเจ้าเป็นลูกสาวของเขา”ลั่วชิงยวนพูดเสียงเบาว่า “ราชาเผ่านอกด่านกับลั่วไห่ผิงมีใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะ! พวกเขาเป็นพี่น้องกันเพคะ!”“ก่อนที่ท่านแม่ของหม่อมฉันจะมาเมืองหลวงแล้วแต่งงานกับลั่วไห่ผิง นางเคยมีความสัมพันธ์กับราชาเผ่านอกด่าน แต่สุดท้ายก็มิได้ลงเอยกันจึงมาเมืองหลวงและแต่งงานกับลั่วไห่ผิงเพคะ”ฟู่เฉินหวนตกตะลึงยิ่งนักเมื่อได้ฟัง“

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1104

    ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองหล่างมู่อย่างช่วยมิได้“หล่างมู่ เจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้าจะไปทำธุระก่อน” ลั่วชิงยวนหันหลังวิ่งไปหล่างมู่ถือลูกถังหูลู่สองไม้วิ่งตามไปสองสามก้าว “พี่หญิง ท่านจะไปที่ใด? ไฉนมิพาข้าไปด้วยเล่า?”ลั่วชิงยวนมิได้ใส่ใจ รีบวิ่งออกจากถนนไปแล้วเมื่อไปเปลี่ยนอาภรณ์ที่หอฝูเสวี่ยแล้ว นางจึงไปที่ร้านอย่างเงียบเชียบเมื่อไปถึงลานด้านหลังก็พบกับซ่งเชียนฉู่ที่กำลังแบกตะกร้ากลับมาจากประตูหน้า ท่าทางดูรีบร้อนนัก“ท่านมาพอดี ท่านเห็นประกาศบนถนนหรือไม่? องค์จักรพรรดิจะเชิญท่านเข้าวังเพื่อแต่งตั้งท่านเป็นมหาปราชญ์!” ซ่งเชียนฉู่ส่งประกาศให้“นี่เป็นประกาศที่ติดอยู่ที่ประตูร้านเรา”“มิกี่วันที่ผ่านมา ข้าออกไปเก็บสมุนไพร พวกเขาคงจะมาหาท่าน แต่ไม่มีใครอยู่จึงติดประกาศไว้”“จะทำอย่างไรดี?”ซ่งเชียนฉู่ก็ตกตะลึงเช่นกันลั่วชิงยวนรับประกาศมาดูอีกครั้ง ในนั้นยังเขียนด้วยว่าให้นางเข้าวังหลวงเพื่อทำนายชะตาของแคว้นเทียนเชวียแล้วแต่งตั้งเป็นมหาปราชญ์ซ่งเชียนฉู่ถอนหายใจ “ข้าคิดว่าครั้งนี้ ตัวตนของท่านคงจะปกปิดมิได้แล้ว”“คอยดูกันต่อไปเถิด” ลั่วชิงยวนยังมิรู้ว่าจะบอกฟู่เฉินหวนอย่างไร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1105

    ดีงูที่ทำให้ฝีมือของนางเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากนั้น นางยังคงจำได้มิลืมเลือนน่าเสียดายที่ข้างกายซ่งเชียนฉู่มีคนผู้ทรงอานุภาพคอยคุ้มครอง นางจึงพยายามด้วยวิธีการต่างๆ แต่ก็ยังล้มเหลวการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างฉู่ลั่วกับซ่งเชียนฉู่อาจจะประสบความสำเร็จ แต่ฉู่ลั่วกลับดื้อดึงมิยอมร่วมมือกับนาง!เมื่อมิสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็จำต้องทำลายเขาเสีย!ลั่วชิงยวนกลับไปยังลานหลังร้านซ่งเชียนฉู่ถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านมิได้ไปแล้วหรอกหรือ? เหตุใดจึงกลับมาอีก?”ลั่วชิงยวนทำท่าให้เงียบแล้วพาส่งเฉียนฉู่กลับไปยังห้อง จากนั้นบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังเมื่อซ่งเชียนฉู่ฟังจบก็รีบกล่าวว่า “ดูเหมือนว่านางผู้นี้จะมิปล่อยท่านไป หรือว่าท่านจะเข้าวังไปดำรงตำแหน่งมหาปราชญ์ เมื่อมีตำแหน่งนี้แล้ว นางก็จะต้องเกรงใจบ้าง”ลั่วชิงยวนไตร่ตรอง แล้วพูดว่า “มหาปราชญ์ อืม... ค่อยว่ากันอีกที”จนกระทั่งล่วงเข้ายามดึก เมื่อแน่ใจแล้วว่าลั่วฉิงจากไปแล้ว ลั่วชิงยวนจึงกลับตำหนักอ๋องอย่างเงียบเชียบเมื่อกลับแล้วก็ถูกหล่างมู่ขวางทาง “พี่หญิง ท่านไปที่ใดมาขอรับ? ฟู่เฉินหวนมาหาท่านตอนค่ำ”“แล้วเจ้าบอกเขาว่าอย่างไร?”“ข้าบอกว่าพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1106

    ทุกคนต่างพากันเหลียวมองไปตามเสียงแล้วเห็นนักพรตผู้สง่างามก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าๆรัศมีอันบริสุทธิ์ปราศจากมลทินของโลกมนุษย์แผ่พลังอำนาจอันน่าเกรงขามลั่วชิงยวนตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อเห็นเครื่องหมายบนคอเสื้อของนักพรตแล้วพูดขึ้นว่า “อาจารย์นักพรตเสวียนซาน”เครื่องหมายบนเสื้อผ้าของศิษย์แต่ละระดับของสำนักเสวียนซานจะมีสีแตกต่างกันเครื่องหมายบนคอเสื้อของคนผู้นี้เป็นสีทอง มีเพียงอาจารย์นักพรตเสวียนซานเท่านั้นที่มีสิทธิ์สวมใส่สำนักเสวียนซานที่มีระดับสูงกว่าสีม่วง ล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มิค่อยลงจากเขาใครกันที่สามารถเชิญอาจารย์นักพรตเสวียนซานมาที่นี่ได้อาจารย์นักพรตเสวียนซานฮึดฮัด “เจ้ารู้จักข้าบ้างก็ถือว่ายังดี!”“เจ้าดูมิเหมือนคนร้ายกาจ เหตุใดจึงแอบอ้างเป็นศิษย์ของสำนักข้า มาหลอกลวงในวังหลวงแคว้นเทียนเชวีย!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็เข้าใจทันทีนี่เป็นฝีมือของลั่วฉิงเหล่าขุนนางและข้าราชบริพารต่างตกตะลึง“หลอกลวงหรือ? คงมิใช่กระมัง?”“ความสามารถในการทำนายของท่านเซียนฉู่คงมิใช่ของปลอมกระมัง?”ผู้คนต่างเกิดความสงสัยจักรพรรดิกล่าวว่า “ท่านนักพรต ท่านพูดเช่นนั้นได้อย่างไร!”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1107

    “คิดว่าคงเป็นเพราะท่านอาจารย์นักพรตเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ยังมิได้มีโอกาสสืบเสาะหาชื่อเสียงของข้าในเมืองหลวง หากข้าเป็นเพียงผู้หลอกลวงต้มตุ๋น คงมีผู้คนตำหนิติเตียนข้าไปนานแล้ว”เมื่ออาจารย์นักพรตเสวียนซานได้ฟังดังนั้นก็ขมวดคิ้วดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจผิดเสียแล้วเมื่อมองดูฉู่ลั่วที่วางตัวอย่างสง่าผ่าเผยและแสดงท่าทีมั่นใจเช่นนี้ ก็รู้ว่าย่อมมีฝีมือที่แท้จริง มิใช่เพียงคนหลอกลวงพูดจาโอ้อวดครู่หนึ่งก็รู้สึกเสียใจที่มิได้สืบเสาะหาชื่อเสียงของฉู่ลั่วเสียก่อน“ที่แท้ข้าเข้าใจผิดไป ขออภัยต่อท่านเซียนฉู่ด้วย”“แต่ข้าเห็นว่าท่านเซียนฉู่มีฝีมือที่แท้จริง มิทราบว่าเรียนวิชาจากสำนักใด? เหตุใดจึงต้องใช้ชื่อของศิษย์เสวียนซานด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง แล้วกล่าวว่า “ไร้สำนักไร้พรรค”อาจารย์นักพรตเสวียนซานขมวดคิ้วแน่นด้วยความตกตะลึง แล้วกล่าวอย่างเสียดายว่า “ไร้สำนักไร้พรรค นั่นหมายความว่าเรียนวิชาลับใช่หรือไม่? ท่านเซียนฉู่ควรเข้ามาเป็นศิษย์ในสำนักเสวียนซาน วันนี้ได้พบกันโดยบังเอิญ ข้าปรารถนาจะรับท่านเป็นศิษย์เอก!”ผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึง เมื่อครู่ยังหาเรื่อง บัดนี้กลับจะรับฉู่ลั่วเป็นศิษย์แล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1108

    “ทว่าหากฝ่าบาทมีสิ่งใดที่กระหม่อมสามารถช่วยได้ ฉู่ลั่วจะมิปฏิเสธพ่ะย่ะค่ะ!”“ส่วนรายละเอียดเราค่อยพูดคุยกันภายหลัง”ฟู่จิ่งหานพยักหน้า แต่ก็พูดว่า “ท่านมิต้องการเป็นมหาปราชญ์ แต่ตำแหน่งนี้ ข้ายังคงสงวนไว้ให้เป็นของท่านเสมอ! นอกจากท่านก็ไม่มีใครเหมาะสมอีกแล้ว!”ลั่วชิงยวนมิได้เอ่ยคำใดอีกผู้คนต่างก็แยกย้ายกันไปลั่วชิงยวนถูกจักรพรรดิเรียกไปยังห้องตำราจักรพรรดิถามด้วยความร้อนรน “ท่านเซียนฉู่ ภัยพิบัติที่ท่านกล่าวว่าจะเริ่มเกิดขึ้นทางทิศใต้คือ... เมืองฉินใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “น่าจะเป็นเมืองฉินพ่ะย่ะค่ะ”เรื่องนี้นางได้บอกฟู่เฉินหวนแล้วเมื่อฟู่เฉินหวนที่เพิ่งเข้ามาในห้องตำราได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงเล็กน้อยลั่วชิงยวนก็บอกเขาเรื่องเมืองฉินเช่นกันทั้งสองทำนายว่าทางทิศใต้จะเกิดภัยพิบัติเหมือนกัน...นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?“ดูเหมือนว่าตระกูลเหยียนจะยังมิยอมแพ้! ท่านเซียนฉู่ ภัยพิบัติครั้งนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้หรือไม่?”ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ดูเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงมิได้พ่ะย่ะค่ะ”นี่เป็นครั้งที่สองที่นางทำนายเห็นได้ชัดว่ามีการส่งมือสังหารไปสังหารมหาราชาจารย์เหยีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1109

    เมื่อฟู่เฉินหวนได้ฟังดังนั้นก็พยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”“แต่เหตุใดท่านเซียนฉู่จึงมิยอมรับตำแหน่งมหาปราชญ์?”ลั่วชิงยวนครุ่นคิด แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “กระหม่อมรับงานมิไหวแล้ว มิอยากให้ตำแหน่งมหาปราชญ์มาขัดขวางการทำเงินของกระหม่อม”ฟู่เฉินหวนอดหัวเราะมิได้ “ท่านขัดสนเรื่องเงินหรือ?”“ข้ามิเคยได้ยินท่านพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน”ลั่วชิงยวนตอบว่า “มิขัดสน แต่กระหม่อมชอบหาเงินพ่ะย่ะค่ะ” “อืม ข้าเข้าใจแล้ว แต่จักรพรรดิก็ตรัสแล้วว่าตำแหน่งนี้จะถูกสงวนไว้ให้ท่าน เมื่อใดที่ท่านเปลี่ยนใจหรือเมื่อใดที่ท่านหาเงินได้มากพอแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นมหาปราชญ์ได้ทุกเมื่อ”แล้วฟู่เฉินหวนก็ส่งลั่วชิงยวนออกจากวังระหว่างทาง ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเตือนอีกครั้ง “เมื่อครู่กระหม่อมเห็นว่าพระพักตร์ขององค์จักรพรรดิมีความมัวหมอง ท่านอ๋องควรเตือนองค์จักรพรรดิให้ระวังพระวรกายจากคนรอบข้างไว้พ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนสงสัย “หมายความว่าอย่างไร? มีผู้ใดจะลอบทำร้ายเขาหรือ?”ลั่วชิงยวนตอบว่า “ภัยพิบัติขององค์จักรพรรดิจะมาพร้อมกับภัยพิบัติของแคว้นเทียนเชวีย”เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่เฉินหวนก็เข้าใจ “ขอบคุณที่เตือน!”ที่จริงแ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status