คิตตี้บอกเรื่องราวของยอดรักให้พิชฎาฟังและใส่ร้ายยอดรักต่างๆ นานา พยายามพูดยกยอให้พิชฎาดูเก่งกาจกว่ายอดรักเพื่อสร้างแรงผลักดันกับแผนการครั้งนี้ และมันก็ได้ผลเมื่อพิชฎาเชิดหน้าขึ้นด้วยท่าทางมาดมั่น... คิตตี้แอบเบะปากอย่างสมใจก่อนจะยิ้มหวานให้เจ้าหล่อนที่ทำทีเหมือนนางพญาทั้งที่แทบจะไม่มีอะไรในชีวิต...
“ก็แหงล่ะ นังยอดรักน่ะหากมันไม่ได้เป็นนางแบบไม่มีคนสนับสนุนมัน มันก็ไม่มีอะไรดีกว่าใครๆ หรอก มันก็แค่เด็กกำพร้าคนหนึ่งเท่านั้นล่ะ”
“ก็จริงนะเธอ รู้มั้ยพอมันได้คุณเด่นเป็นผัวนะ โอ๊ยยย... อย่างกับวัวลืมตีน มันนั่งเชิดเป็นนายหญิงชี้นิ้วสั่งใช้อำนาจบาตรใหญ่ พูดแล้วฉันมีเรื่องจะเล่าให้เธอฟังเยอะแยะเลย...”
แล้วคิตตี้ก็ใส่เรื่องราวเพิ่มเติมลงไปในหัวพิชฎาซึ่งรับรองได้ว่าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็จะต้องมีแต่ข่าวคาวๆ ของนางแบบฉาวที่หวังรวยทางลัดอย่างยอดรัก...
อัครามองหน้าลูกน้องคนสนิทอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทั้งที่เขาเคยจัดการมันไปแล้ว หรือว่
บทที่ 32.“ต่อไปนี้รักอย่าตัดผมนะครับ” เขาแย่งหวีในมือเธอมาหวีผมให้เธออย่างอ่อนโยน“ทำไมคะ รักว่ามันก็สะดวกดีสระง่าย แห้งไวด้วย”“ก็สวยดีครับ แต่พี่ก็อยากให้รักไว้ผมยาวอีกครั้ง รู้มั้ยครั้งที่พี่เด่นเห็นน่ะคิดว่าคุณแม่ส่งใครมาให้นะ หลงเสียใจเกือบแย่...”“อ้อ... ทั้งหมดนี่วางแผนไว้ตลอดเลยสินะคะ แต่เท่าที่จำได้วันแรกที่เจอกันที่นี่ พี่เด่นทำตัวไม่น่ารักซ้ำยังปากเสียกับรักด้วยนะคะ”หญิงสาวเลิกคิ้วมองสามีอย่างหมั่นไส้ที่ได้รู้ว่าเขาวางแผนจะจับเธอมาเป็นเจ้าสาวมาตลอดตั้งแต่เจอหน้าและขโมยจูบเธอครั้งแรก... ซึ่งจนวันนี้เธอเองก็ยังไม่อยากเชื่อว่าเขาจะทำเช่นนั้นแต่มันก็เป็นไปแล้วซึ่งมันยิ่งทำให้เธอรักเขามากขึ้นๆ ทุกวัน...“ก็ตอนนั้นแค่ตกใจนิดหน่อยไม่คิดว่ารักจะตัดผมสั้นขนาดนั้น อีกอย่างก็แค่แสดงละครเพื่อให้รักตายใจ ให้รักโกรธและอยากจะเอาชนะพี่ด้วยการอยู่ที่นี่ต่อต่างหากล่ะ...”อัคราพูดพลางรั้งร่างบางขึ้นมานั่งบนเคาน์เตอร์หน้ากระจกแต่งตัวหันร่างงามให้เผชิญหน
บทที่ 33.“พูดเองหมดเลยนะคะพี่เด่น...”“แหม... เมียจ๋า ก็มันจริงนี่นา...”อัครารีบเข้ามากอดเอวของภรรยาแน่นแล้วซุกหน้ากับอกนุ่มๆ สูดดมกลิ่นเนื้อนางเข้าไปเต็มปอด ยิ่งสูดดมกลิ่นกายของเธอเขาก็ยิ่งรู้สึกสดชื่นมีเรี่ยวแรงขึ้นมาเหมือนไม่มีอาการคลื่นเหียนอาเจียนก่อนหน้านี้เลย ป้าแก้วมองเจ้านายหนุ่มสาวที่โอบกอดกันอย่างรักใคร่ด้วยรอยยิ้มเห็นเจ้านายมีความสุขนางก็มีความสุขไปด้วยกุ้งเต้นซึ่งได้รับข่าวจากพลแล้วว่าพิชฎากับคิตตี้กำลังเดินทางกลับมาที่ไร่ กุ้งเต้นก็เข้าไปหาเพื่อนรักที่นั่งป้อนข้าวสามีที่ออดอ้อนให้เมียรักป้อนข้าวด้วยท่าทางที่น่าหมั่นไส้ที่สุดในสายตาของกุ้งเต้นที่ยังอดแขวะไม่ได้...“อะแฮ่มมม... แหม.. คุณเด่นขา จะอ้อนเมียเกินไปแล้วนะคะ อีโรคแพ้ท้องแทนเมียเนี่ย ต้องให้ป้อนข้าวกันขนาดนี้เลยเหรอค้า...”“หึ พูดไปคนไม่เคยมีสามีก็คงไม่เข้าใจ...” อัคราพูดแล้วบุ้ยใบ้กับภรรยาเพื่อหาแนวร่วม“มันจริงอย่างที่ยายกุ้งพูดทุกค
บทที่ 34.“ที่ฉันหมายถึงก็คือ... ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไง จะตายอนาถ หรือรันทดแค่ไหน ฉันก็ไม่มีวันเห็นใจหรือสนใจเธอต่างหาก... ที่สำคัญฉันไม่มีอะไรติดค้างเธอ ดังนั้นฉันไม่รู้จะยกโทษหรืออภัยให้เธอได้ยังไง มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเถอะ อ้อ... ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลน่ะเดี๋ยวฉันจะออกให้เองนะ ถือว่าทำบุญให้คนจรจัดยากไร้ คนหนึ่งก็แล้ว... ลาก่อน...”ยอดรักยืดตัวตรงแล้วกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยดังเดิมแล้วเดินออกไปจากห้องพักฟื้นที่พิชฎารักษาตัวอยู่เงียบๆ“แหม... ละครบทนี้ใครนะช่างเขียนบทให้ บอกเลยว่าห่วยแตกมาก แม้นักแสดงจะแสดงได้สมบทบาทก็เถอะ...”“นังกุ้งเต้น อีกะเทยควาย แก...” พิชฏามองกุ้งเต้นตาเขียวปัดทั้งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเดือดดาล...“ก็จริงนี่ยะ กลับมาทางไหนก็ไปทางนั้นเลยนะคะ นังงูพิษ...”กุ้งเต้นสะบัดหน้าเดินจากไปพร้อมด้วยรอยยิ้มเยาะหยัน พิชฎากรีดร้องจนลั่นห้องด้วยความเจ็บใจและเจ็บปวด หากว่ายอดรักไม่สนใจเธอจริงๆ การลงทุนเจ็บตัวเกือบสาหัสของเธอก็ไร้ความหมายน่ะ
บทที่ 35.“ก็ฉันน่าสงสารน่าเห็นใจนี่นา” พิชฎายิ้มอย่างพอใจมองใบหน้าสวยงามของตนอย่างภาคภูมิใจ...“แล้วเธอจะทำไงต่อ”“พรุ่งนี้ฉันจะเข้าหาคุณเด่น ค่อยๆ รุก เธอต้องช่วยฉันนะคิตตี้”“ช่วยยังไง”“ก็ช่วยกันนังสองตัวนั่นไง ให้มันมีโอกาสอยู่กับคุณเด่นให้น้อยที่สุด และถ้าจะให้ดี ฉันต้องการให้นางยอดรักมันแท้ง...”พิชฎาพูดด้วยแววตาเรืองโรจน์ขุ่นแค้นเมื่อเห็นว่าอัคราดูห่วงใยยอดรักมาก หากว่ายอดรักไม่มีลูกในท้องคนทั้งสองก็ต้องมีจุดที่ร้าวฉานแล้วทีนี้เธอก็จะเข้าแทรกแซงได้ง่าย หญิงสาวคิดเช่นนั้น“จะดีเหรอเธอ”“ดีสิ... คิดดูนะ หากมันแท้ง แน่นอนคุณเด่นจะต้องเสียใจและจะต้องเมินมันที่มันไม่มีลูก ตอนนั้นฉันก็จะเข้าไปปลอบใจคุณเด่นได้ง่ายๆ แล้วหากเอาลูกฉันมาอ้าง แถมยังเป็นลูกชายด้วยเธอคิดว่าเขาจะสนใจฉันมั้ย...” พิชฎาคิดกระหยิ่มใจเมื่อคิดว่าแผนของตนนั้นล้ำเลิศ“จริงด้วยเธอมีลูกชายนี่นา... แล้วเขาจะยอมรับลูกเธอได้ยังไงล่ะ”“ก็แหม เธอ... ฉันมันน่าสงสารจะตายเธอก็บอกเองว่าคุณเด่นเขาชอบเด็กรักเด็ก การมีเด็กน่ารักๆ มาทดแทนเมียที่แท้งไปมันก็ช่วยได้ไม่ใช่เหรอ ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง อีกอย่างหากนังรักมันสูญเสียสิ่งที่มัน
บทที่ 36. กุ้งเต้นรู้สึกแปลกๆ เมื่อพลเอาแต่มองเธอเหมือนมีอะไรในใจและยังมีท่าทางแปลกไป สายตาของเขาที่มองเธอก็ดูหวานๆ วาวๆ จนใจสาวเทียมหวิวไหวใจสั่นสะท้านแปลกๆ จนสุดท้ายกุ้งเต้นก็ต้องเอ่ยปากออกมาด้วยความอัดอั้นเต็มที...“คุณพลคะ หน้าดิฉันเนี่ย มีเขาหรือนอ งอกขึ้นมาเหรอคะมองอยู่ได้... อึดอัด ขัดเขินเป็นเหมือนกันนะคะถึงจะรูปร่างสูงใหญ่หนังหน้าดูถึกทน แต่ดิฉันก็มียางอายนะคะ...”“เอ่อ.. คะ.. คือผม ขอโทษครับ แฮะๆ”“มีอะไรรึเปล่าคุณ เอาแต่จ้องหน้าฉันมาตลอดเนี่ยฟังที่ฉันพูดมั่งรึเปล่า...”กุ้งเต้นถามตรงๆ เมื่อเธอเล่าให้เขาฟังเรื่องที่ยอดรักนั้นดูเปลี่ยนไป ใจเย็นขึ้นและมีเหตุผลขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้วยังยอมให้พิชฎามาวุ่นวายวายในบ้าน จนตอนนี้เธอแทบอยากจะกลับกรุงเทพฯ เพราะรำคาญความจุ้นจ้านของพิชฎากับคิตตี้ที่เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ซ้ำยังทำตัวเหมือนเจ้าของบ้านเข้าไปทุกที ทั้งที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในไร่เพียงสัปดาห์กว่าๆ แม่คุณก็เริ่มแผลงฤทธิ์และเริ่มเผยความกระสันอยากจะเป็นเมียของ
บทที่ 37.“พี่ว่ารักไม่ต้องคุยกับไอ้โดมมันมากก็ได้นะ ไอ้นี่มันกะล่อน”“ทำไมคะ รักก็เห็นว่าโดมเขาคุยสนุกจะตาย นิสัยน่ารักด้วย”“แต่พี่ไม่ชอบนี่นา พี่หวงเมียพี่ไม่อยากให้คุยกับผู้ชายคนไหนไม่ว่าใครทั้งนั้น...” อัครากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังจนยอดรักต้องลืมตามามองหน้าสามีจอมขี้หึงและขี้หวงยิ้มๆ“แบบนี้จะทวงรางวัลหรืออะไรคะ”“ถ้าได้ก็ดีครับ... พี่เด่นว่าพี่เด่นขอรางวัลเลยดีกว่า...” พูดจบก็ลุกพรวดเดียวมาคร่อมร่างบางที่เริ่มอิ่มเอิบขึ้นไว้กึ่งนอนกึ่งนั่งบนโซฟานอนเล่นริมระเบียงกว้างที่มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของบ้านหลังงามซึ่งมีฉากเป็นสวนดอกไม้บานสะพรั่งท่ามกลางขุนเขาเขียวขจีและลำธารน้ำใสสะอาด...“อุ๊ย.. พี่เด่นนี่มันกลางวันนะคะ แล้วเราก็อยู่ที่ระเบียงด้วย อย่าทำอะไรน่าเกลียดเชียวนะ..” ยอดรักหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ อย่างกังวลว่าจะมีใครผ่านมาเห็น“น่าเกลียดตรงไหนจ๊ะยอดรัก ผัวเมียจะจู๋จี๋กันใครมันบังอาจว่าน่าเกลียดพี่เด่นจะไล่มันออก ใครมันมาแ
บทที่ 38.“อื้ม อ๊า... พี่เด่นขา...” ยอดรักครางกระเส่าเมื่อความแข็งแกร่งของเขาสอดลึกอยู่ในกายสาวจนรู้สึกถึงความคับแน่นตึงไปทั้งกลีบกายอ่อนไหว ในขณะเดียวกันอัคราก็ครางหนักๆ ในลำคอเมื่อความคับแน่นของกายสาวโอบรัดเขาไว้จนแทบขยับไม่ได้ ความเสียวซ่านร้อนรุ่มก็อัดแน่นจนปวดร้าวไปทั้งกาย...“โอ... รักจ๋า แน่นเหลือเกินคนดี... อื้ม อา...” อัคราค่อยๆ ขยับกายช้าๆ เมื่อสาวเจ้าเริ่มโยกไหวสะโพกมนเพื่อคลายความอึดอัด และเธอเพียงขยับกายความเสียวซ่านรัญจวนก็เข้ามาแทนที่จนกลายเป็นความเร่าร้อนที่ทั้งเขาและเธอร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อกันและกัน...ยอดรักเริ่มขยับกายเร็วระรัวในขณะที่คนตัวโตใต้ร่างบางก็แอ่นกายสวนกลับด้วยความเร่าร้อนไม่แพ้กัน แต่ทุกท่วงท่าแห่งเพลิงรักเต็มไปด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยนและไม่ทิ้งความเร่าร้อนอ่อนหวาน... ยอดรักหมุนวนสะโพกเพื่อสร้างความเสียวซ่านหยอกเย้าให้เขาคลั่งทั้งยังกำหนดจังหวะรักเองอย่างอาจหาญ จนอัคราต้องลุกขึ้นมาโอบกอดร่างบางจากด้านหลังแล้วเอื้อมมือมาบีบเฟ้นอกอวบอย่างเมามัน นิ้วแกร่งสะกิดยอดอกสาวเบาๆ อีกมือก็
บทที่ 39.ยอดรักปรายตามองคนที่แทบจะป้อนอาหารใส่ปากให้สามีของตนด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่อัคราขยับตัวอย่างอึดอัดที่พิชฎาทำตัวใกล้ชิดเขาเกินงามทั้งที่พยายามจะบอกให้พิชฎารู้ตัวว่าที่เขาให้เธอมาพักที่นี่เพียงชั่วคราวเท่านั้น และเมื่อเธอหายดีแล้วเขาจะให้คนไปส่งเธอที่บ้านแต่ดูเหมือนเจ้าหล่อนจะพยายามอยู่ที่นี่ต่อไปอย่างหน้าทน...“เธอหายดีแล้วไม่ใช่เหรอพิชฎา พร้อมจะกลับหลุมเดิมรึยัง...” ยอดรักพูดกล่าวเรียบๆ“แหม... รักล่ะก็พูดแบบนี้กับเพื่อนเก่าไม่น่ารักเลย คุณเด่นคะทานแกงเขียวหวานหน่อยนะคะ พิชชี่ทำเองกับมือเลยนะคะ”พิชฎาหันมาทำทีค้อนยอดรักด้วยท่าทางน่ารักน่าชังที่เคยทำให้ผู้ชายหลงใหลมาแล้วหลายราย แล้วทำทีพูดเรื่องอื่นกลบเกลื่อนไปเสียดื้อๆ“หึ... หากเป็นฉันคงไม่กล้ากินหรอกเพราะกลัวโดนวางยา...” กุ้งเต้นพูดขึ้นลอยๆ ทำให้พิชฎาหันมามองตาเขียวแล้วรีบยิ้มหวานกลบเกลื่อน“อุ๊ย.. เพื่อนกุ้งไม่ต้องกลัวจ้ะ แกงเขียวหวานเนี่ยพิชชี่ทำให้คุณเด่นทานคนเดียวจ้ะ อีกอย่างพิชชี่ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น
บทที่ 55.“โห... คุณพ่อ เล่นว่าผมแบบนี้เลยเหรอ งั้นพาน้องดรีมไปดูปลาโลมาดูโลกใต้ทะเลอีกวันสองวันเป็นไง รับรองคราวนี้กลับมาน้อง ดรีมมีน้องแน่ๆ” อัครายังไม่ยอมแพ้บิดา หน้าตาขึงขังจนยอดรักส่ายหน้ายิ้มๆ อย่างระอาในความอยากเอาชนะบิดาของสามี...“โธ่... ไอ้ขี้คุย” คุณอีริคยังคงต่อล้อต่อเถียงกับลูกชายซึ่งก็ทำให้คุณดาราสบตากับลูกสะใภ้อย่างระอาไม่แพ้กัน...“ไม่ต้องรบกวนให้คุณพ่อคุณแม่พาน้องดรีมไปเที่ยวไหนหรอกค่ะ เพราะน้องดรีมน่ะมีน้องแล้ว...”หญิงสาวพูดจบก็คว้าน้องดรีมมาอุ้มแล้วเดินเข้าบ้านไปก่อน อัครามองตามภรรยาที่เดินอุ้มลูกเดินเข้าบ้านไปก่อนด้วยความกังขาในคำพูดของเธอทำให้คุณดาราหมั่นไส้ลูกชายที่ยืนเซ่ออยู่...“แหม... เราไปรับขวัญหลานคนใหม่ของเรากันดีกว่าค่ะคุณพี่” ว่าแล้วบิดามารดาก็เดินเกี่ยวก้อยกันตามยอดรักไปด้วยความยินดี“รับขวัญหลานคนใหม่ น้องดรีมมีน้อง... นั่นก็แสดงว่า...” อัครายิ้มกว้างตาโตด้วยความตื่นเต้นดีใจสุดชีวิต...“ไชโย้ๆๆ ไชโย เมียฉันท้องอีกแล้ว ฉันจะมีลูกอีกคนแล้ว ฮ่
บทที่ 56.อวสาน“ได้ผลแน่นะพี่เด่น ผมนี่จะลงแดงตายแล้ว จะหมดวันพักร้อนแล้วยังไม่ได้แอ้มเมียเลย” อัครวัฒน์ทำท่าเหมือนจะลงแดงไปจริงๆ“หึ.. ไอ้กะล่อน เห็นนะเว้ยตอนพาน้องมนไปหลบหลังโขดหินน่ะ” อัคนีแค่นยิ้มหมั่นไส้น้องชาย อัครวัฒน์ยิ้มแห้งๆ“แหม พี่เดียว เห็นด้วยเหรอ”“ไอ้กะล่อน” ทั้งอัครากับอัคนีพูดขึ้นพร้อมกัน...“เอาเป็นว่านายโทร. ไปบอกแม่บ้านจัดห้องหับไว้ได้เลย.. เรื่องนี้ฉันจัดการเอง” พี่ใหญ่พูดอย่างมั่นใจ ซึ่งน้องๆ ต่างก็หน้าชื่นตาบาน..แล้วทั้งสามหนุ่มก็พาภรรยามาพักที่เกาะส่วนตัวได้สำเร็จซึ่งบนเกาะมีบ้านพักหลังใหญ่ที่สวยงามมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันแม้ว่าจะมีการปั่นกระแสไฟใช้เป็นเวลาก็ตามแต่ที่นี่ก็มีแผงโซล่าเซลล์ไว้ใช้งานด้วย...“พวกนายว่าวันนี้พวกเราจะได้แอ้มเมียมั้ยวะ..”อัคนีเท้าคางมองภรรยาที่กำลังเล่นน้ำกันอย่างสนุกนานเหมือนกั
บทที่ 54.“พี่เด่นต้องขยันทำลูกให้ทันไอ้เดียวมัน ตอนนี้มันมีแล้วสองคนนะ เราเป็นพี่ใหญ่ก็ต้องตามมันให้ทันสิ ไอ้โดมก็ทำท่าว่าจะมีเมียมีลูกตามมาติดๆ”ปากก็พูดไปทั้งมือไม้ก็ไม่ว่างเว้นจากเนื้อนวล ทั้งยังขบเม้มจูบซับไปตามเนินอกอวบอิ่มของเธออย่างยั่วเย้าจนสาวเจ้าสั่นสะท้าน ยอดรักแอ่นกายเหนือที่นอนยับย่นจากมรสุมสวาทเร่าร้อนระหว่างเธอกับเขาด้วยความซ่านกระสันเมื่อลิ้นร้อนตวัดไล้เลียยอดอกสาวแผ่วพลิ้วก่อนจะละเลงดูดดื่มฟอนเฟ้นดอกบัวคู่งามเต็มไม้เต็มมืออย่างเมามัน“อื้มมม... พี่เด่น...” ยอดรักครางกระเส่ากับความเร่าร้อนที่สามีปรนเปรอให้ไม่วายเว้น ยิ่งนับวันเขายิ่งให้ความรักความเสน่หาเธอมากขึ้นๆ จนเธออ่อนอกอ่อนใจพลอยคล้อยตามเขาทุกท่วงท่าไม่ว่าเขาจะพาเธอดินแดนแสนสุขแห่งไหนเธอก็พร้อมจะไปกับเขาทุกๆ ที่...อัคราจูบไล้เรื่อยไปตามลำตัวเนียนละมุนที่ยังคงเนียนนุ่มไม่ต่างจากวันแรกที่เขาได้ครอบครองเป็นเจ้าของความหวานล้ำจากร่างงามนี้ วันนี้ก็ยังคงมีไม่แตกต่างจากวันแรกที่ได้สัมผัส แต่มันกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นๆ จนเขาไม่อาจ
บทที่ 53.“อา... เมียจ๋า ยอดรัก พะ พอก่อน... โอว....” อัคราเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ปิดใบหน้างามแดงก่ำออกเพื่อจะได้มองหน้าเธอชัดๆ ก่อนจะรั้งร่างงามขึ้นมาแล้วบดจุมพิตเร่าร้อนกับปากนุ่มที่ละจากแก่นกายกำยำของเขาอย่างแสนเสียดาย มือร้อนกร้านงานลูบไล้เนื้อนวลเปล่งปลั่งของภรรยาอย่างรักใคร่หลงใหลฟอนเฟ้นทั้งอกอวบและสะโพกหนั่นแน่นพร้อมกับที่เคลื่อนกายเข้าหาความอ่อนนุ่มของอิสตรีที่พรั่งพร้อมของเธอ...“อืม... โอว... พี่เด่นขา...” ยอดรักครางกระเส่าสูดปากเร่าร้อนเมื่อเขาเข้ามาเติมเต็มในร่างคับแคบของเธอ ดวงตาของหนุ่มสาวประสานกันหวานเชื่อมทว่าร้อนแรงด้วยความปรารถนาที่ส่งผ่านถึงกันได้อย่างง่ายดาย ยอดรักโยกกายช้าๆ เมื่อความซ่านเสียวเสียดแทงไปทั้งร่าง เลือดสาวในกายร้อนฉ่าจนไม่อาจจะหยุดอยู่เฉยบนร่างแกร่งแข็งขึงของเขาได้ ในขณะเดียวกันอัคราก็สอดเสยร่างใหญ่โตของตนเข้าโรมรันภรรยาสาวด้วยความร้อนแรงปากก็ทั้งครางและดูดดื่มทรวงสาวที่สั่นไหวอยู่ตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยไม่รู้หน่าย...“โอว รักจ๋า ยอดรัก โอ้ววว...” อัคราครางหนักๆ ในลำคอ
บทที่ 52.ยอดรักรู้สึกเศร้าอยู่ไม่น้อยเมื่อได้ยินข่าวอันน่าเศร้าสลดของคนเคยรู้จักแต่สิ่งที่พวกเขาทำและคิดจะทำกับเธอนั้นก็ทำให้เธอปลงตก เมื่อเห็นได้ชัดว่ากรรมมันติดจรวดแค่ไหน เมื่อเราคิดจะทำร้ายคนอื่นหรือให้โทษภัยคนอื่นสักวันมันก็ต้องย้อนกลับมาหาตัวเราเองดังคำกล่าวที่ว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว...หลังจากเรื่องร้ายๆ ผ่านไปก็มีการทำบุญไร่ครั้งยิ่งใหญ่ประจำปีซึ่งคนงานทุกคนต่างก็มาทำบุญกันหน้าตาเบิกบานสดใสถ้วนหน้า และไม่มีใครใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะมีไม่กี่คนที่รู้ข่าวซึ่งคนที่รู้ต่างก็ไม่มีใครอยากจะพูดถึงเพราะนั่นเท่ากับการหาเรื่องใส่ตัวหากว่าเรื่องในไร่ถูกเล่าขานไปในทางเสื่อมเสีย เพราะนอกจากจะถูกไล่ออกแล้วชีวิตก็อาจจะไม่ได้อยู่เป็นสุขก็ได้หากเอาเรื่องไม่ดีไปพูดเพราะใครๆ ก็รู้ว่าคุณเด่นนายใหญ่แห่งไร่อัครานั้นไม่ชอบเรื่องซุบซิบนินทาและไม่ชอบให้ใครพูดถึงภาพลักษณ์ของไร่ในทางไม่ดีซึ่งคนงานต่างรู้ดีว่า งานที่ไร่แห่งนี้นั้นแม้จะหนักแต่ค่าตอบแทนงามและสวัสดิการทุกอย่
บทที่ 51.ฉึก... เสียงมีดกรีดลึกลงกลางอกของพิชฎานั้นดังก้องอยู่ในหูของคิตตี้ซึ่งยิ้มเยื้อนอย่างพอใจในชัยชนะของตน...“ฮ่าๆ เป็นไงล่ะนังสาวชาวกรุง อย่างแกน่ะหรือจะชนะฉันได้...”คิตตี้ผลักร่างที่ทรุดฮวบของพิชฎาออกให้ไกลตัวพร้อมทั้งชักมีดออกมาจนพิชฎาล้มกองกับพื้น พิชฎาหายใจรวยรินมองคิตตี้อย่างเคียดแค้น“แก...” พิชฎาพูดเสียงติดขัดเลือดสดๆ ทะลักออกมาจากปากแผลที่เปิดกว้างทั้งกระอักออกมาทางปากด้วย ลมหายใจของเธอเริ่มขาดห้วงความหนาวเหน็บเริ่มรายล้อมรอบกายจนเย็นเฉียบไปทั้งตัวเสมือนว่าเธอกำลังอยู่ท่ามกลางหิมะขั้วโลก...“ตายซะเถอะพวกแกสองคนมันก็เหมาะสมกันอยู่แล้ว ต่อไปฉันก็จะไปจัดการนังยอดรัก แกน่าจะดีใจที่ฉันก็จะกำจัดมารหัวใจของแกด้วยเหมือนกัน...”พูดจบคิตตี้ก็สะบัดหน้าเดินฉับๆ หมายจะไปยังเรือนเด่นเพื่อจัดการกับคนที่เธอคิดว่าเป็นมารหัวใจ... แต่แล้วก็มีมือของใครคนหนึ่งมาคว้าไหล่เธอไว้อย่างแรงจนเธอต้องเซถลาหันกลับมาและทันใดนั้นเองเธอก็รู้สึกร้อนวูบบนใบหน้า และแสงเจิดจ้าจากเ
บทที่ 50.“คืนนี้ป้าเอากุญแจนี่ไปปล่อยคิตตี้ แล้วบอกเขาให้หนีไปให้ไกลที่สุด และอย่ากลับมาที่นี่อีก...”“เพียงเท่านี้หรือคะ...”“ครับ... ผมช่วยป้าได้แค่นี้...” อัครากล่าวจบก็เดินจากไป ป้าแก้วมองกุญแจในมือด้วยความรู้สึกหนักใจอย่างที่สุดทั้งที่นางควรจะดีใจ...แล้วในคืนนั้นเองป้าแก้วก็เข้าไปที่คุกริมผาเพื่อไปปล่อยคิตตี้ตามที่อัคราบอกด้วยความหวังว่าคิตตี้จะสำนึกในบุญคุณของนางและเลิกคิดชั่ว แต่ในใจของหญิงวัยไม้ใกล้ฝั่งนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันจะเป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย... แต่นางก็ต้องลองเสี่ยง...ในคุกริมผานั้นห้องขังมีหลายสิบห้องทั้งอับทั้งชื้นเหม็นขี้ค้างคาวและหนาวเหน็บจับขั้วหัวใจ ป้าแก้วแทบน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงสภาพหลานสาวที่ต้องถูกขังอยู่ที่นี่ นางค่อยๆ เดินถือตะเกียงเจ้าพายุส่องหาห้องขังของคิตตี้ด้วยใจที่หวาดหวั่นไม่น้อย ที่นี่ไม่สามารถใช้ไฟฉายได้และไม่มีไฟฟ้าดังนั้นสิ่งที่จะให้แสงสว่างได้มีเพียงแสงไฟจากคบไฟหรือจากตะเกียงเจ้าพายุที่นางนำมาเท่านั้น...“คิตตี้ นังคิตตี้แกอยู่ห้องไหนวะ...” ป้าแก้วกระซิบถามแต่เสียงก็ก้
บทที่ 49.“กรี๊ดดด อีกะเทยควายมึงทำร้ายกู...”“เออซิวะ กูจะกระทืบมึงด้วยหากมึงคิดทำร้ายยอดรักเพื่อนกู มานี่เลยนังงูพิษมึงนี่ฤทธิ์เยอะจริงๆ ต้องโดนตบรัวๆ จะได้สิ้นฤทธิ์ นี่แน่ะๆๆ” ว่าแล้วกุ้งเต้นก็กระชากพิชฎามาตบรัวๆ อย่างเมามันท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดของพิชฎาในขณะเดียวกันคิตตี้กับอาทิตย์ก็ดิ้นรนพยายามจะหนีออกจากกันแต่กุญแจมือที่ถูกล็อกติดกันทำให้ทั้งสองไม่สามารถดิ้นหลุดจากกันได้อาทิตย์จึงใช้ศีรษะโขกเข้ากับใบหน้าของคิตตี้เต็มแรงจนคิตตี้หน้าหงายทั้งพยายามถีบคิตตี้ให้ไปไกลๆ ตนเอง แต่การที่เขาทำอย่างนั้นก็ทำให้ตัวเขาเองเซถลาไปตามแรง เมื่อคิตตี้ล้มลงซึ่งผลก็คือทั้งคิตตี้และอาทิตย์ต่างก็ล้มกองกันอยู่กับพื้นและตบตีกันพัลวันเพื่อให้ตนเองหลุดจากพันธนาการที่ถูกจองจำ ทั้งที่รู้ว่าไม่มีวันหลุดไปได้ แต่ทั้งสองก็พยายามจะทำร้ายอีกฝ่ายเพื่อให้ตนเองหลุดรอดไปสุดท้ายคนทั้งสองก็ต้องบอบช้ำเพราะทำร้ายกันเองและก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากกุญแจมือที่ถูกสวมติดกันไปได้ ส่วนพิชฎาที่ถูกกุ้งเต้นตบจนหน้าเยินก็ได้แต่นอนระทวยอ
บทที่ 48.อัคราเปิดประตูห้องของพิชฎาแล้วผายมือให้เธอเดินเข้าไปก่อนซึ่งแน่นอนว่าหญิงสาวยินดียิ่งนัก แต่แล้วเมื่อพิชฎาเดินเข้าห้องมาก็ต้องตกตะลึงเมื่อในห้องไม่ได้มีเพียงแค่เธอกับอัคราเท่านั้น....“นะ นี่ พวกเธอ... คิตตี้ อาทิตย์ นังยอดรัก...”พิชฎาชี้หน้ายอดรักซึ่งเดินกอดอกมาหาเธอด้วยมาดของผู้ที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสีหน้าแววตาของยอดรักนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่แววตากร้าวกล้าด้วยเปลวเพลิงร้อนๆ และมีท่าทางสงบนิ่งไม่เอะอะโวยวายอย่างที่เธอเคยเห็นและมันก็ควรจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือ... พิชฎาหน้าซีดรู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาทันที“แปลกใจล่ะสิที่เห็นฉันกับพรรคพวกหมาลอบกัดของเธอ...”“กะ แก พูดอะไร...” พิชฎาหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นว่าทั้งคิตตี้และอาทิตย์นั้นถูกจับใส่กุญแจมือไว้ด้วยกันและถูกโยงไว้กับหัวเตียงอย่างแน่นหนาซึ่งมองก็รู้ได้ว่าไม่มีทางจะหลบหนีไปได้เลย...“มันนั่นล่ะค่ะคุณเด่นที่เป็นคนวางแผนแล้วใส่ร้ายเรา มันเป็นคนต้นคิดเรื่องวางยาคุณยอดรักแล้วให้ผู้ชายคนนี